Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
User Info
Welcome, Guest. Please login or register.
01 May 2024, 06:35:12

Login with username, password and session length
Search:     Advanced search
News
ท่านสมาชิกสามารถเปลี่ยนรูปแบบ (Theme) ได้อีกหลายแบบ
เชิญทดลองโดยคลิกที่ลิงค์ข้างล่าง ได้เลยครับ

http://www.smilesiam.net/index.php/topic,3170.msg4713.html
Forum Stats
25,614 Posts in 12,444 Topics by 70 Members
Latest Member: KAN
Home Help Search Calendar Login Register
Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...  |  เหนือเกล้าชาวสยาม  |  พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและเหล่าอริยสาวก (Moderator: SATORI)  |  พระพุทธศาสนากับฟิสิกส์ควอนตัม
0 Members and 1 Guest are viewing this topic. « previous next »
Pages: [1] Go Down Print
Author Topic: พระพุทธศาสนากับฟิสิกส์ควอนตัม  (Read 1287 times)
SATORI
Moderator
น้องใหม่ฝึกยิ้ม
*****
Offline Offline

Posts: 37


View Profile
« on: 27 December 2012, 00:50:09 »

พระพุทธศาสนากับฟิสิกส์ควอนตัม

คนดีเป็นอย่างไร
โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก


         
เคยได้รับเชิญไปเป็นกรรมการที่ปรึกษาคณะกรรมการแต่งหนังสืออ่านเพิ่มเติม เพื่อใช้ประกอบการเรียนการสอน
                     กลุ่มสร้างเสริมลักษณะนิสัย สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่ 4 หลายสิบปีมาแล้ว ผู้เขียนตำรามีหลายท่าน
                     จำได้ว่าหนึ่งในนั้นคือ “เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์” คุณเนาวรัตน์ได้เขียนกลอนชื่อ คนดีเป็นอย่างไร
              เพื่อพิมพ์ “ประหน้า” หนังสือเล่มนั้น เห็นว่ามีข้อคิดที่ดี
          จึงขอคัดลอกมาลงให้อ่านกันดังต่อไปนี้

กาลครั้งหนึ่งเนิ่นนานมาแล้ว มีสระแก้วกลางป่าอยู่สระหนึ่ง
น้ำใสใสไหลเซาะอยู่ลึกซึ้ง ทั้งฝูงผึ้งภุมรินบินตอมบัว
บัวชมพูบัวแดงก็แฝงฝัก ดอกบัวขาวพราวพรักอยู่พร้อมทั่ว
ผีเสื้อสวยมากมายมีหลายตัว เข้าพันพัวบัวสายในสระนั้น

ลมเย็นเย็นเป็นระยะระรินรื่น อากาศชื่นฉ่ำใจในป่านั่น
ในสระนี้มียักษ์ตัวสำคัญ ซึ่งเทวัญท่านปราบแล้วสาปไว้
แม้ผู้ใดหลงป่ามากินน้ำ ลงผุดดำว่ายเล่นในสระใหญ่
จงจับตัวกลืนกินเสียทันใด เว้นแต่ใครมีปัญญาอย่าเพิ่งกิน

เจ้าจงถามปัญหาให้เขาตอบ ใครตอบผิดคิดมิชอบจงกินสิ้น
ใครตอบถูกเจ้าจะพ้นซึ่งมลทิน ออกจากถิ่นนี้ได้ในทันที
ยักษ์ต้องสาปหลับใหลอยู่ในสระ เป็นระยะเวลาช้าเหลือที่
ถ้าจะนับก็ไม่น้อยกว่าร้อยปี ยังไม่มีใครสักคนพ้นมือยักษ์

โจรใจบาปหยาบช้าผ่านมาถึง เข้าเด็ดดึงดอกบัวทั้งใบฝัก
ตะกรามแกะกินเม็ดเอร็ดนัก แล้วเอื้อมวักน้ำลูบชโลมตัว
พลันยักษ์ตื่นโผล่ตนขึ้นพ้นสระ เอื้อมมีปะป่ายปับเข้าจับหัว
เจ้าโจรร้ายตัวสั่นหวั่นระรัว กลัวแล้วกลัวแล้วจ้าอย่าทำเลย

ฝ่ายยักษ์ร้องก้องฟ้าเจ้าหน้าโง่ ข้าหิวโซทรมานนานแล้วเหวย
วันนี้ได้เนื้อหนังคนสังเวย นี่แน่ะเฮ้ยมีปัญญาตอบมาไว
ถ้าแม้ตอบได้สิ้นไม่กินเจ้า แต่ถ้าตอบผิดเค้าไม่เอาไหน
ข้าจะทึ้งคอหักควักหัวใจ แล้วยักษ์ใหญ่แลบลิ้นออกเลียโจร

ปัญหาว่า “คนดีเป็นอย่างไร” ตอบไวไวอย่าช้าว่านี่โน่น
โจรตัวสั่นงันงกถูกยกโยน แหกปากร้องตะโกนตะกุยตะกาย
คนดีคือคนขยันหมั่นหาทรัพย์ ยักษ์สำทับเจ้าตัวโตแต่โง่หลาย
ตอบเข้าท่าแต่ถึงคราจะต้องตาย คนขยันมากมายใช่คนดี

คนคดโกงเกเรคนขายชาติ คนอุบาทว์ทำชั่วมีทุกที่
คนขยันเจ้าเล่ห์เสเพลมี อย่างเจ้านี้ขยันทำกรรมชั่วช้า
ว่าแล้วยักษ์หักคอแล้วเคี้ยวกิน อร่อยลิ้นเลือดคนเจ้าโจรป่า
จนวันหนึ่งพระธุดงค์เดินตรงมา วักน้ำล้างหน้าตาและเนื้อตัว

เจ้ายักษ์ใหญ่โผล่ตนขึ้นพ้นสระ มองเห็นพระนึกว่าคนที่โกนหัว
เอื้อมมือจับจีวรร้อนระรัว พระไม่กลัวยักษ์ขยาดชักหวาดเกรง
ท่านเป็นใครไยจึงมาถึงนี่ ตอบปัญหาข้าทีหากท่านเก่ง
ถ้าตอบพลาดผิดเค้าเข้าตัวเอง ท่านจงเร่งหลับตาเตรียมตัวตาย

ปัญหาว่าคนดีเป็นอย่างไร ท่านจงตอบเร็วไวให้ความหมาย
พระนั่งนิ่งภาวนาสาธยาย เจ้ายักษ์ร้ายแลบลิ้นเลียเงี่ยหูฟัง
“คนไม่เห็นแก่ตนคือคนดี” พลันแสงสีสุนีบาตก็ฟาดฝั่ง
บังเกิดพายุกล้ามาประดัง คำสาปสั่งพ้นสิ้นยักษ์ยินดี

เข้าประณมก้มกราบหมอบราบพื้น ข้าได้ฟื้นคืนตนพ้นจากนี่
เพราะท่านให้คำตอบชอบช่วยชี้ ร้อยพันปีรอเวลาท่านมาถึง
พระกล่าวย้ำคำตอบนี้มีความหมาย ควรภิปรายตรองตรึกให้ลึกซึ้ง
ยักษ์เอ่ยปากฝากชีวิตคิดหวังพึ่ง กราบแล้วจึงหายวับไปกับตา

                                     หมายเหตุ : ตอนท้ายๆ เสียงตะกุกตะกัก ไม่ค่อยไพเราะเท่าไหร่ แต่ได้ความหมายทางธรรมดีมาก
                                            คือสอนว่า คนดีคือคนไม่เห็นแก่ตัว คนแต่งเองก็คงลืมแล้วว่าได้แต่งกลอนบทนี้ตั้งแต่เมื่อใด
                                            นำมาลงไว้เตือนสติกัน ในวันที่กำลังเลือกตั้งว่า มีคนดีตามนิยามของพระไหม ถ้าไม่มีจะทำอย่างไร
                                            ก็ไม่ต้องลงสิ ? ลงครับ กาในช่องไม่เลือกใครนั่นไง
                                            เมื่อมีแต่คนเห็นแก่ประโยชน์โคตรเหง้าของตน จะเลือกไปทำไม ใช่เปล่า ?



เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์

...............................................................

คัดลอกมาจาก ::
หนังสือพิมพ์มติชน รายวัน หน้า 6
คอลัมน์ รื่นร่มรมเยศ โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก
วันที่ 02 เมษายน พ.ศ. 2549 ปีที่ 29 ฉบับที่ 10249


Logged
Pages: [1] Go Up Print 
« previous next »
 

SMF 2.0.4 | SMF © 2013, Simple Machines | Theme by nesianstyles | Buttons by Andrea
Page created in 0.035 seconds with 20 queries.