Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
User Info
Welcome, Guest. Please login or register.
28 April 2024, 17:52:57

Login with username, password and session length
Search:     Advanced search
News
ท่านสมาชิกสามารถเปลี่ยนรูปแบบ (Theme) ได้อีกหลายแบบ
เชิญทดลองโดยคลิกที่ลิงค์ข้างล่าง ได้เลยครับ

http://www.smilesiam.net/index.php/topic,3170.msg4713.html
Forum Stats
25,608 Posts in 12,441 Topics by 70 Members
Latest Member: KAN
Home Help Search Calendar Login Register
Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...  |  หมวดหมู่ทั่วไป  |  สาระน่ารู้  |  ข้อคิด คติเตือนใจ  |  เด็กเอ๋ย...เด็กน้อย (เก็บตก มาเล่าให้ฟัง)
0 Members and 1 Guest are viewing this topic. « previous next »
Pages: [1] Go Down Print
Author Topic: เด็กเอ๋ย...เด็กน้อย (เก็บตก มาเล่าให้ฟัง)  (Read 820 times)
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,461


View Profile
« on: 26 May 2013, 13:29:25 »

เด็กเอ๋ย...เด็กน้อย (เก็บตก มาเล่าให้ฟัง)


แรงนิดหน่อย แต่พี่ก็อยากให้น้องๆ อ่านนะ

"จะใส่เสื้อสีอะไร เดินห้างไหน มือถือรุ่นไหนอินเทรนด์
แฟนเราชอบกินอะไร ร้านไหนกำลังเซลล์ ฟิล์มสะสมอะไร
น้าเขยเบคแฮมชื่ออะไร แถวสยามร้านไหนกางเกงสวย..."
วัยรุ่นตอบคำถามเหล่านี้ได้ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที...


งั้นเอาใหม่

"จังหวัดอะไรไม่มีกระเทียมกิน"
โห... เด็กๆ เลยเพ่ จังหวัดกระบี่ไง
"กระบี่ไร้เทียมทาน" เหอๆๆ...

หมดกัน...


ถามแบบนี้มีแต่จะโดนเด็กด่า
งั้นถามง่ายๆ ก็แล้วกันว่า
"โตขึ้นอยากเป็นอะไร"

เงียบ.. เงียบครับทั่น
80% ของวัยรุ่นมักอึ้งกิมกี่กับคำถามนี้
บางคนแม้ตอบได้ก็จะมีคำว่า
"มั้ง" ตามท้ายในเชิงไม่แน่ใจ

ปวดกบาลเลยครับ
ถ้าคำถามนี้ตอบไม่ได้
ไอ้ด้านบนก็ไม่จำเป็นต้องรู้หรอก


"โตขึ้นอยากเป็นอะไร"
คำถามง่ายๆ แต่ตอบยากโคตรๆ
ไม่ว่าจะโดนคนอื่นถาม หรือถามตัวเอง
เป็นเรื่องที่น่ากลัวกว่าไข้หวัดมรณะซะอีก
หากเรามีชีวิตโดยที่ไม่รู้ว่าเป้าหมายของการหายใจไปวันๆ คืออะไร

น่าแปลกที่วัยรุ่นเกือบทุกคนมักจะมีอาการรำคาญ
หากชวนคุยประเด็นนี้
เด็กเปรตจำนวนไม่น้อยให้เหตุผลว่า
ยังเด็กไปเกินกว่าที่จะคิด...


เอาล่ะ

เรามาเฝ้าดูวิวัฒนาการของเด็กเปรตกลุ่มนี้กัน
คล้ายๆ ดิสคัฟเวอร์รี่แชนแนล
ที่มีการฝังชิบลงบนตัวปลาวาฬ
เพื่อติดตามวงจรชีวิตมัน
และต่อไปนี้จะเป็นรายงานชิ้นสำคัญ
เราได้ทำการฝังชิปชนิดหนึ่งหลังต่อม
"อันจ๊ะอันตรุย" ในตัวเด็กเปรตกลุ่มตัวอย่าง

บอกไว้ก่อนว่า ชิปชนิดนี้ค่อนข้างหายากมาก
ในวงการวิทยาศาสตร์ จึงนิยมเรียกมันว่า
"ชิปหาย"

เด็กเปรตกลุ่มนี้จบ ม.3 แล้ว
ยังไม่ร้ว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร
จึงตัดสินใจที่จะ...

ก.เรียนต่อ ม.ปลาย เพราะแม่บังคับ

ข.เรียนอาชีวะ เพราะ หญิงเยอะ/หนุ่มตรึม
ได้แต่งตัวเป็นผู้ใหญ่เร็วกว่าความจำเป็น
ไม่รู้จะรีบแก่ไปทำไม


ในกรณีที่เลือกข้อ ข. เด็กเปรต ก็จะได้เพลิดเพลิน
กับการนอนซิ่งมอเตอร์ไซค์ ย้ำเลยว่า นอน
เพราะต้องแนบตัวบนเบาะแบนๆ แล้วขี่แบบนอนๆ
ออกแนวสองจิตสองใจ อยากนอนเล่นผสมอยากซิ่งรถ
ถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก หาชมได้ตามท้องถนน
ที่สำคัญ ส่วนใหญ่มักจะหูตึง ท่อไอเสียจึงต้องเสียงดังมาก
เดี๋ยวจะไม่รู้ว่ารถตัวเองติดเครื่องอยู่

ว่างจากการซิ่งรถ ก็จะรวมตัวกันออกกำลังกาย
พร้อมแสดงพลังสามัคคี ด้วยการยกพวกตีกัน
ดูเผินๆ เหมือนรักการต่อสู้
แต่น่าแปลกที่ มักทำท่าจะเป็นจะตาย
เมื่อจับได้ใบแดงตอนเกณฑ์ทหาร

ส่วนฝ่ายหญิงออกแนวแก่ก่อนวัย
แต่งหน้าจัด แต่งตัวเปรี้ยวไม่มีเหตุผล
พยายามดีไซน์ลุคให้ดูเกินอายุ 25
ในขณะที่คนในวัยเกิน 25 จริงๆ
ก็จะพยายามทำทุกอย่างให้ตัวเองดูไม่เกิน 20


เฮ้อ.. ก่อนจะจี๊ดสมองมากไปกว่านี้
ตัดสลับมาทางข้อ ก. บ้าง


เด็กเปรตกลุ่มเดิมก็จะจบ ม.6 มาแบบงงๆ
พร้อมที่จะสร้างภาระในระดับมหภาค
แต่การตัดสินใจจะอยู่บนพื้นฐานที่ว่า...

ก.พยายามดูหนังสือ เตรียมเอนท์หมอ/วิศวะ
เพราะเดี๋ยวแม่จะอายเพื่อนข้างบ้าน

ข.พยายามเตรียมเอนท์อย่างบ้าคลั่งเช่นกัน
พ่ออยากให้เป็นผู้พิพากษา
สงสัยเตรียมก่อคดีตอนแก่แล้วกะให้ลูกเคลียร์

และที่ชัวร์ๆ ไม่ว่าจะเลือก ก. หรือ ข.
เด็กคนนี้ต้องเข้าลัทธิกวดวิชาซะก่อน
เพราะ 6 ปี ในระดับมัธยม
หมดไปกับการ เดินห้าง มีแฟน โดดเรียน เล่นเกม
เลยต้องยกให้ใครสักคน สมมติว่าชื่อ "ติวเตอร์"
มาช่วยบอกอีกครั้งว่า 6 ปีที่เอ็งเรียนมาน่ะ
มันเป็นอย่างนี้นะเฟ้ย
เรียนลัดได้ภายในเวลา 3 เดือน
อันนี้เป็นความร่วมมือกับครูที่ รร.
โดยการสอนแบบเบื่อๆ ไปวันๆ
แล้วค่อยไปนั่งเบียดๆ กัน ตาม รร.กวดวิชา
อู๊วว.. ขยัน แถมมีเทรนด์

หรือ ค.เอนท์ไม่ติดซะงั้น
ไม่เป็นไร หากบ้านรวย
เราให้สิทธิ์ในการฉลาดน้อย
เลือกเรียนในมหาวิทยาลัยเอกชนที่ชอบๆ
แล้วแต่รสนิยม หลักเกณฑ์ในการเลือกคณะง่ายๆ
โดยการดูว่าเพื่อนหรือแฟนเลือกคณะไหนก็ตามนั้น
หรือดูว่าแม่อยากให้เรียนอะไร

อันนี้เป็นการศึกษาแนวบุพการีเควสต์ คุณแม่ขอร้อง...
เอาละ สมมติว่าเรียนจบแล้วกัน
ส่วนที่เรียนไม่จบ ละไว้ในฐานที่เข้าใจ
แล้วเราก็จะได้บัณฑิตที่ยังไม่รู้อยู่ดีว่า
"โตขึ้นอยากเป็นอะไร"
แต่ตัดคำว่า
"โตขึ้น" ออกไป
เพราะคราวนี้น่ะโตแล้ว
ถึงเวลาของการหางานทำแบบฟรีสไตล์
แล้วแต่เส้นสายของพ่อแม่
พอได้งานแล้วก็ทำงานไปวันๆ
มาสาย งีบหลับ โทรศัพท์ กลับก่อน
แหงล่ะ ก็ไม่ได้อยากทำสักเท่าไร
ตอกบัตรแล้วก็นั่งเอาหัวตากแอร์รอเวลาเลิกงาน
ชีวิตทื่อๆ ไม่มีสีสัน ไร้ฝัน ไร้เป้าหมาย

จากเด็กเปรต กลายเป็นผู้ใหญ่สมองกลวงในเวลาต่อมา
แล้วผู้ใหญ่สมองกลวงกลุ่มนี้แหละ...
กำลังจะผลิต เด็กเปรต รุ่นใหม่ๆ
โอ๊วว... น่าภูมิใจสุดๆ

วงจรอุบาทว์ทั้งหมด เกิดขึ้นเพียงเพราะเราตอบไม่ได้ว่า
"โตขึ้นอยากเป็นอะไร"


ในทางกลับกัน
เด็กหลายคนไม่มี "ชิปหาย"
ฝังไว้หลังต่อมอะไรทั้งสิ้น
เพราะวัยรุ่นที่มีฝันชัดเจนจะค่อนข้างดื้อ
ยากต่อการฝังชิปที่ว่านี้

ดื้อที่จะเลือกเรียนในสิ่งที่เขารัก
ดื้อที่จะขวนขวายหาความรู้ในสิ่งที่เขาชอบ
ดื้อแถมบ้าบิ่น หากเจออุปสรรคขวางฝัน

เราจะเห็นความผิดปกติจากเด็กดื้อเหล่านี้
เขาจะขยันผิดปกติ
ฝึกซ้อมผิดปกติ
ตั้งใจผิดปกติ
มุ่งมั่นผิดปกติ
เมื่อโตขึ้นเขาทำงานอย่างที่เขาตั้งใจ
ก็เลยเจริญเร็วกว่าปกติ
เงินเดือนเยอะกว่าปกติ
ประสบความสำเร็จกว่าปกติ
มีความสุขกว่าปกติ

ภราดร ศรีชาพันธุ์
ไทเกอร์ วู้ดส์
ทักษิน ชินวัตร
ธงชัย แมคอินไตย์
บิล เกตส์
เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์
หมอพรทิพย์ โรจนสุนันท์
เดวิด เบคแฮม
อัลเบร์ต ไอน์สไตน์
และ
อีกมากมาย..

นี่เป็นรายชื่อบุคคลธรรมดาๆ กลุ่มหนึ่ง
แตกต่างจากคนอื่นๆ นิดหน่อย
เพราะตอนที่พวกเขาเป็นวัยรุ่น
ทุกคนตอบได้อย่างฉะฉานว่า
"โตขึ้นอยากเป็นอะไร"


ถึงผู้ใหญ่สมองกลวงบางคนที่นับถือ

ดูแลบุตรหลานของคุณด้วยสายตาและหัวใจของเขา
อย่าบังคับเด็กให้เป็นในสิ่งที่เขาไม่อยากเป็น
เกิดเด็กย้อนว่าทำไมไม่ไปเรียนซะเอง
เดี๋ยวจะอึ้งกันเปล่าๆ

อย่าเอาลูกตัวเองไปเปรียบกับชาวบ้าน
เพราะนั่นเป็นการอบรมที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์

อย่าเอาฝันของตัวเอง โดยเฉพาะฝันที่ตัวเองทำไม่สำเร็จ
ไปโยนโครมลงกับลูก


คน..ไม่ใช่กระสือ ไม่จำเป็นต้องสืบเชื้อสายทายาทอสูร

ถึงเด็กเปรตบางคน

สำรวจตามเนื้อตัวดูซิว่ามี
"ชิปหาย" ฝังอยู่รึเปล่า
ถ้าเจอ ให้ใจเย็นๆ
แก้เคล็ดโดยการท่องคาถา
"โตขึ้นอยากเป็นอะไร" 3 จบ
แล้วรีบตอบให้ได้

เมื่อแน่ใจแล้วว่าฝันนั้นถูกครรลองครองธรรม
อย่าสิ.. อย่าเพิ่งเล่าให้แฟนฟัง
เพราะคนออกตังค์ค่าเล่าเรียนคือพ่อแม่
อธิบายความตั้งใจของเราด้วยสายตาที่มุ่งมั่น
พนันกันได้ ผู้ใหญ่ (ที่สมองไม่กลวง) จะรับฟัง
แล้วพร้อมสนับสนุนเมื่อมีฝันเป็นของตนเอง
และก็อย่าเรื่อยเปื่อย
กรุณาตั้งใจ แล้วไปตามทางที่เธอย่อม..รู้ดี
"ชิปหาย" ที่เกาะติดตามเนื้อตัวจะหลุดหายไปเองแหละ

เมื่อได้อ่านแล้วหลายคน คงจะพอตาสว่างขึ้นมาได้บ้าง
จบและ จากนี้ไปก็ขอให้ทุกคนโชคดี แล้วกันนะ
ระวังชิปหายด้วยล่ะ

------------------------

Logged
Pages: [1] Go Up Print 
« previous next »
 

SMF 2.0.4 | SMF © 2013, Simple Machines | Theme by nesianstyles | Buttons by Andrea
Page created in 0.048 seconds with 18 queries.