Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
User Info
Welcome, Guest. Please login or register.
05 May 2024, 01:43:37

Login with username, password and session length
Search:     Advanced search
News
ท่านสมาชิกสามารถเปลี่ยนรูปแบบ (Theme) ได้อีกหลายแบบ
เชิญทดลองโดยคลิกที่ลิงค์ข้างล่าง ได้เลยครับ

http://www.smilesiam.net/index.php/topic,3170.msg4713.html
Forum Stats
25,633 Posts in 12,451 Topics by 70 Members
Latest Member: KAN
Home Help Search Calendar Login Register
Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...  |  หมวดหมู่ทั่วไป  |  สาระน่ารู้  |  เรื่องที่ควรรู้เท่าทันระดับโลก  |  New World Order การจัดระเบียบโลกใหม่ ที่้ผู้นำควรรู้
0 Members and 1 Guest are viewing this topic. « previous next »
Pages: [1] Go Down Print
Author Topic: New World Order การจัดระเบียบโลกใหม่ ที่้ผู้นำควรรู้  (Read 991 times)
LAMBERG
มายิ้มในใจกันไว้เรื่อยๆ สนุกดีๆ
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 1,475


View Profile
« on: 17 January 2013, 12:12:44 »

New World Order การจัดระเบียบโลกใหม่ ที่้ผู้นำควรรู้

posted on 20 Apr 2009 11:56 by leadership  in Development
เขียนโดย อิศราวดี  ชำนาญกิจ

สรุปจาก สถานการณ์ความมั่นคงหลังยุคสงครามเย็น

(อนุญาตให้เผยแพร่ต่อได้ แต่ต้องอ้างชื่อผู้เขียนหรือแหล่งที่มา ตามกฎหมาย copyright ค่ะ)

World Government

แนวคิดนี้เริ่มจากการที่ชาวยุโรปจำนวนมาก ต้องการให้เกิดรัฐบาลโลก (World Government) เพื่อทำหน้าที่แก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองและผลประโยชน์ระหว่างชาติต่างๆ ในช่วงปี ค.ศ. 1900 เป็นต้นมา ด้วยการ "ทำโลกให้เป็นโลกเดียว (One World)" หรือ "การจัดระเบียบใหม่ให้แก่โลก (One World Order)"

โดยมี เอช.จี. เวลส์ เขียนถึงเรื่องนี้ไว้ในหนังสือชื่อ "One World State (1939)" หลังจากนั้นก็มีนักคิดอีกหลายท่านที่สนับสนุนแนวคิดนี้ เช่น 1946 รัซเซล (รัฐบาลโลก, สันติภาพถาวร), อาโนลด์ ทอยบี (รัฐบาลโลกเพื่อหลักประกันความอยู่รอดของมนุษยชาติ, จอห์น โรเดส (สหพันธ์รัฐบาลโลก, ผิวขาวปกครอง, ใช้อังกฤษเป็นภาษาหลัก), ไลโอเนล เคอร์ติส (หนังสือ Commonwealth of God, ให้อเมริกาและอังกฤษรวมตัวจัดตั้งรัฐบาลโลก, ใช้ภาษาอังกฤษ)

จากนั้นแนวคิดนี้ ขยายตัวออกไปจากกลุ่มนักธุรกิจและชนชั้นขุนนางที่ต้องการผลประโยชน์ เช่น เกิดการรวมตัวขององค์กรความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ธนาคารโลก(1944) กองทุนการเงินระหว่างประเทศ และองค์การสหประชาชาติ (1945) ขึ้นมา เกิดตลาดร่วมยุโรป (ที่ในปัจจุบันพัฒนามาเป็น EU สหภาพยุโรป) และในที่สุดเกิด องค์กรการค้าโลก (World Trade Organization - WTO)(1995)

แนวคิดนี้ เรียกได้ว่าเป็น "การสมคบคิดอย่างเปิดเผย" (Open Conspiracy) เผยแพร่ชัดเจนจากข้อเขียนของ ฟิลลิป เคอร์ ในนิตยสาร Foriegn Affair (1922) ว่า ”ตราบใดที่ประเทศต่างๆ ในโลกนี้ยังถูกแยกให้เป็นอิสระจากกันและกัน…สันติภาพ และความรุ่งโรจน์ที่จะมีต่อมวลมนุษยชาติย่อมไม่อาจปรากฏเป็นจริงขึ้นได้และ กว่าที่จะมีการคิดค้นสร้างสรรค์ระบบความร่วมมือระหว่างชาติขึ้นมาได้จริงๆ…ปัญหาที่แท้จริงในขณะนี้น่าจะอยู่ที่ว่า… ทำอย่างไรที่จะทำให้มีรัฐบาลโลกเกิดขึ้น…”

และผู้สนับสนุนก็มีได้แก่ เซอร์ ฮาโรลด์ บัตเลอร์, เนลสัน ร็อคกี้เฟลเลอร์ (หนังสือ Future Federalism, ขณะเป็นผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ค, 1968), จอร์จ บอลล์, เลสลี เกลบ์ (ประธานองค์กร CFR)

 

New World Order

การจัดระเบียบโลกใหม่ เริ่มจริงๆ เมื่อมีการประกาศเรื่องนี้จากสหรัฐอเมริกา โดยประธานาธิบดีจอร์จ บุช (คนพ่อ)(พรรครีพับลิกัน) เมื่อวันที่ 11 กันยายน 1990 มีเนื้อหาคล้ายยุทธศาสตร์ชาติ โดยที่ในสมัยรัฐบาลของประธานาธิบดีบิล คลินตัน (พรรคเดโมแครต) นั้น รู้จักกันในนามของ "แผนยุทธบริเวณใหม่ของยุทธการสหรัฐ ทางการเมือง-การทหาร" (1998) ซึ่งหลังเหตุการณ์ 11 กันยายน 2001 ในสมัยประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช (คนลูก) เริ่มแสดงให้เห็นชัดว่า สหรัฐอเมริกาต้องการเป็น "รัฐบาลโลก" จากการประกาศแนวทางว่า "ใครก็ตามที่ไม่ได้ยืนอยู่เคียงข้างอเมริกา ... ผู้นั้นก็คือฝ่ายผู้ก่อการร้าย"

คำประกาศ "การจัดระเบียบโลกใหม่" ประกอบด้วยสาระสำคัญ 5 ประการ คือ

ความเป็นประชาธิปไตย (Democracy)
สิทธิมนุษยชน (Human Right)
สภาพแวดล้อม (Environment)
การค้าเสรี (Free Trade)
ลิขสิทธิ์และสิทธิบัตร (Copyright)
 
ซึ่งสาระสำคัญนี้ กลายเป็นเครื่องมือของสหรัฐอเมริกาและประเทศที่เป็นพันธมิตรใช้ในการแสวงหาประโยชน์จากประเทศอื่นๆ ในประชาคมโลก เช่น การบีบบังคับให้ประเทศต่างๆ อยู่ภายใต้อิทธิพลของตนในทุกๆด้าน เช่น การกีดกันการค้าประเทศที่ไม่ทำตามสาระสำคัญทั้ง 4 ประการ (ไม่เป็นประชาธิปไตย  ไม่รักษาสิทธิมนุษยชน ไม่ดูแลสภาพแวดล้อม  และไม่เปิดการค้าเสรี)

หลายๆ ประเทศ นำเรื่องนี้มาเป็นนโยบายประเทศ เช่น ประเทศอังกฤษ (ดูคลิปนายกรัฐมนตรี กอร์ดอน บราวน์ ที่พูดถึงเรื่องนี้)

 
ซึ่ง New World Order ของอังกฤษ ประกอบด้วยสาระสำคัญคือ

1. Flexibility

2. Free Trade

3. Open Market

4. Proper Stewardship of Environment

5. An Investment

6. Education

7. Infrastructure

8. Innovation

ใครมีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร มาแชร์กันได้เลยค่ะ ^^

 

อ่านเพิ่มเติมที่

- การจัดระเบียบโลกใหม่และการสร้างรัฐบาลโลก

Logged
มาคืน "สยามเมืองเคยยิ้ม" กลับสู่ "สยามเมืองยิ้มยุคก้าวหน้า" ด้วย ยิ้มสยาม กันนะครับ ... Welcome To Smile Siam by Siamese Smile

Pages: [1] Go Up Print 
« previous next »
 

SMF 2.0.4 | SMF © 2013, Simple Machines | Theme by nesianstyles | Buttons by Andrea
Page created in 0.116 seconds with 21 queries.