Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
User Info
Welcome, Guest. Please login or register.
15 December 2025, 21:42:36

Login with username, password and session length
Search:     Advanced search
News
ท่านสมาชิกสามารถเปลี่ยนรูปแบบ (Theme) ได้อีกหลายแบบ
เชิญทดลองโดยคลิกที่ลิงค์ข้างล่าง ได้เลยครับ

http://www.smilesiam.net/index.php/topic,3170.msg4713.html
Forum Stats
28,533 Posts in 14,021 Topics by 70 Members
Latest Member: KAN
Home Help Search Calendar Login Register
Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...  |  เหนือเกล้าชาวสยาม  |  พระบรมโพธิสัตว์เจ้าแห่งแผ่นดินสยาม (Moderator: Smile Siam)  |  เหตุผลที่ในหลวง ร.9 ไม่เสด็จต่างประเทศอีกเลย กว่า 49 ปี ที่ผ่านมา
0 Members and 1 Guest are viewing this topic. « previous next »
Pages: [1] Go Down Print
Author Topic: เหตุผลที่ในหลวง ร.9 ไม่เสด็จต่างประเทศอีกเลย กว่า 49 ปี ที่ผ่านมา  (Read 99 times)
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 11,355


View Profile
« on: 20 November 2025, 19:45:47 »

เหตุผลที่ในหลวง ร.9 ไม่เสด็จต่างประเทศอีกเลย กว่า 49 ปี ที่ผ่านมา


https://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/52209-his-
Home > Knowledge > สังคมและวัฒนธรรม





เหตุผลที่ในหลวง ร.9 ไม่เสด็จต่างประเทศอีกเลย กว่า 49 ปี ที่ผ่านมา
Posted By SataBhisha | 26 ต.ค. 59


คุณเคยรู้มั้ย ทำไมในหลวงทรงไม่ได้เสด็จพระราชดำเนินประทับค้างแรมนอกประเทศไทยมานานกว่า 49 ปี แล้ว ?

ทั้งๆ ที่กษัตริย์พระองค์อื่นๆ ทั่วโลก ก็มักจะทรงเสด็จเยือนต่างประเทศอยู่เป็นประจำ

หลังจากที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเสด็จพระราชดำเนินเยือนยุโรป สหรัฐอเมริกาและอีกหลายประเทศ ตามพระราชหน้าที่ของพระมหากษัตริย์ หลังจากขึ้นครองราชย์ ในการเสด็จพระราชดำเนินไปเจริญสัมพันธไมตรีกับนานาอารยะประเทศ



ภาพ : รวมภาพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
 

ซึ่งผลจากการเสด็จพระราชดำเนินเยือนนานาประเทศนั้น ก็ทำให้ชาวต่างชาติยอมรับพระปรีชาสามารถของในหลวง ซึ่งเป็นผลให้ชาวต่างชาติยอมรับคนไทยไปด้วย ทำให้เวลาคนไทยเดินทางไปในต่างประเทศก็ได้รับการยอมรับและให้เกียรติคนไทยมากขึ้น

แต่หลังจากพระองค์ทรงเสด็จพระราชดำเนินเยือนแคนาดาเมื่อปีพ.ศ.2510 ในหลวงก็ทรงไม่เสด็จออกจากประเทศไทยอีก
(ยกเว้นครั้งเดียวเมื่อปีพ.ศ.2537 ที่ในหลวงเสด็จพระราชดำเนินเยือนลาวเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก็เสด็จฯ กลับฝั่งไทย)



ภาพ ; พันทิพดอทคอม
 

ภาพการเสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งเมื่อกาลเวลาล่วงไป ๒๗ ปี

นั่นก็คือ การเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงเป็นประเทศล่าสุด เมื่อวันที่ ๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๓๗ เพื่อทรงร่วมในพิธีเปิดสะพานมิตรภาพไทย - ลาว ที่จังหวัดหนองคาย และเพื่อทอดพระเนตรการดำเนินงานตามโครงการศูนย์พัฒนาและบริการด้านการเกษตรห้วยซอน - ห้วยซั้ว อันเป็นโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อจัดตั้งต้นแบบของการบูรณาการและเป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้แก่ประเทศลาว

ซึ่งไม่เพียงแต่ประเทศลาวเท่านั้นแนวพระราชดำริที่เป็นองค์ความรู้และวิทยาการต่างๆ ในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและการพัฒนาชนบทยังเผยแพร่ไปยังประเทศเพื่อนบ้านอื่น ๆ เช่น สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม สหภาพพม่า รวมทั้งแนวพระราชดำริ ในการปลูกหญ้าแฝกก็ได้รับการเผยแพร่ไปสู่หลายประเทศทั้งราชอาณาจักรภูฏาน และอีกหลายประเทศในทวีปแอฟริกา เช่น ราชอาณาจักรเลโซโท ก็นำแนวพระราชดำริดังกล่าวไปปรับใช้ในประเทศของตน

ย้อนสาเหตุที่ทรงไม่เสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศอีก

ซึ่งการที่ในหลวงไม่เสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศอีก สืบเนื่องย้อนไปถึงวันที่ในหลวงต้องทรงเสด็จกลับไปศึกษาต่อที่สวิสเซอร์แลนด์

ตามพระราชนิพนธ์บันทึกประจำวันบางส่วนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ระหว่างวันเสด็จฯจากสยามสู่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

"วันที่ 19 สิงหาคม 2489 วันนี้ถึงวันที่เราจะต้องจากไปแล้ว พอถึงเวลาก็ลงจากพระที่นั่งพร้อมกับแม่ ลาเจ้านายฝ่ายใน ณ พระที่นั่งชั้นล่างนั้นแล้ว ก็ไปยังวัดพระแก้วเพื่อนมัสการลาพระแก้วมรกตและพระภิกษุสงฆ์ ลาเจ้านายฝ่ายหน้า ลาข้าราชการทั้งไทยและฝรั่ง แล้วก็ไปขึ้นรถยนต์

พอรถแล่นออกไปได้ไม่ถึง 200 เมตร มีหญิงคนหนึ่งเข้ามาหยุดรถแล้วส่งกระป๋องให้เราคนละใบ ราชองครักษ์ไม่แน่ใจว่าจะมีอะไรอยู่ในนั้น บางทีจะเป็นลูกระเบิด! เมื่อมาเปิดดูภายหลังปรากฏว่าเป็นท๊อฟฟี่ที่อร่อยมาก ตามถนนผู้คนช่างมากมายเสียจริงๆ ที่ถนนราชดำเนินกลาง ราษฎรเข้ามาใกล้จนชิดรถที่เรานั่ง

กลัวเหลือเกินว่าล้อรถของเราจะไปทับแข้งทับขาใครเข้าบ้าง รถแล่นฝ่าฝูงคนไปได้อย่างช้าที่สุด


ถึงวัดเบญจมบพิตร รถแล่นเร็วขึ้นได้บ้าง ตามทางที่ผ่านมา
ได้ยินเสียงใครคนหนึ่งร้องขึ้นมาดังๆว่า

“ในหลวง อย่าละทิ้งประชาชน”

อยากจะร้องบอกเขาลงไปว่า

"ถ้าประชาชนไม่ “ทิ้ง” ข้าพเจ้า
แล้วข้าพเจ้าจะ “ละทิ้ง” อย่างไรได้
 
แต่รถวิ่งเร็วและเลยไปไกลเสียแล้ว…"


ด้วยเหตุนี้ หลังจากในหลวงทรงเสร็จสิ้นตามภารกิจตามหน้าที่ของพระมหากษัตริย์ในการเสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศเพื่อเจริญสัมพันธไมตรีแล้ว

พระองค์จึงทรงตั้งปณิธานว่าจะไม่เสด็จฯ จากประชาชนของพระองค์ไปที่ใดอีก..

 
คุณผู้อ่านลองนึกว่า ถ้าตัวเองเคยใช้ชีวิตและเรียนหนังสือในต่างประเทศมาตั้งแต่เด็ก ๆ จนกระทั่งเป็นหนุ่ม แต่จู่ ๆ ต้องตัดสินใจว่า หลังจากนี้ทั้งชีวิตไปจนวันตาย คุณจะไม่ออกไปต่างประเทศอีก หรือไปค้างอ้างแรมนอกแผ่นดินไทยอีกเลย คุณผู้อ่านคิดว่า คุณจะทำได้หรือไม่ ?

แต่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงตัดสินพระราชหฤทัยอย่างแน่วแน่ และทรงทำได้เพื่อพวกเราคนไทยครับ
 

.
แหล่งข้อมูล
บล็อกเกอร์ มุมมอง-ใหม่เมืองเอก
.
Posted By SataBhisha
.

.
ขอขอบคุณที่มาของเรื่อง
https://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/52209-his-
.




Logged
Pages: [1] Go Up Print 
« previous next »
 

SMF 2.0.4 | SMF © 2013, Simple Machines | Theme by nesianstyles | Buttons by Andrea
Page created in 0.034 seconds with 20 queries.