Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
User Info
Welcome, Guest. Please login or register.
15 December 2025, 17:58:02

Login with username, password and session length
Search:     Advanced search
News
ท่านสมาชิกสามารถเปลี่ยนรูปแบบ (Theme) ได้อีกหลายแบบ
เชิญทดลองโดยคลิกที่ลิงค์ข้างล่าง ได้เลยครับ

http://www.smilesiam.net/index.php/topic,3170.msg4713.html
Forum Stats
28,529 Posts in 14,020 Topics by 70 Members
Latest Member: KAN
Home Help Search Calendar Login Register
Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...  |  หมวดหมู่ทั่วไป  |  สาระน่ารู้ (Moderators: CYBERG, MIDORI)  |  ใครกำหนดให้ 1 วันมี 24ชั่วโมง และกำหนดให้เข็มนาฬิกาเดินตามเข็ม
0 Members and 1 Guest are viewing this topic. « previous next »
Pages: [1] Go Down Print
Author Topic: ใครกำหนดให้ 1 วันมี 24ชั่วโมง และกำหนดให้เข็มนาฬิกาเดินตามเข็ม  (Read 354 times)
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 11,351


View Profile
« on: 06 November 2025, 21:05:39 »

ใครกำหนดให้ 1 วันมี 24ชั่วโมง และกำหนดให้เข็มนาฬิกาเดินตามเข็ม


https://www.blockdit.com/posts/5bda7eacf5e67f3ee81e0976

อาจวรงค์ จันทมาศ
1 พ.ย. 2018 เวลา 11:18


ใครกำหนดให้ 1 วันมี 24ชั่วโมง และกำหนดให้เข็มนาฬิกาเดินตามเข็ม

พีระมิดแห่งกีซา (Giza pyramid complex) เป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ทั้งเจ็ดแห่งโลกยุคโบราณที่ยังตั้งตระหง่านมาจนถึงทุกวันนี้  โดยพีระมิดแห่งกีซามีทั้งหมด 3 หลัง หลังที่ใหญ่ที่สุดคือ พีระมิดคูฟู ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 4,500 ปีก่อน ประกอบด้วยอิฐที่ทำจากหินปูนราว 2.3 ล้านก้อน





Johnny Ball นักเขียนหนังสือคณิตศาสตร์ชื่อดังคำนวณไว้ว่าหากนำอิฐจากพีระมิดคูฟูมาตัดทำกำแพงสูงสองเมตร กว้าง 19 เซนติเมตร (เหมือนกับกำแพงบ้านทั่วๆไป)  จะสามารถสร้างกำแพงเรียงจากอียิปต์ไปจนถึงขั้วโลกเหนือได้เลยทีเดียว!





แต่ความมหัศจรรย์ของพีระมิดนั้นมิใช่เพียง ความใหญ่โตมโหฬารอันชวนให้ตื่นตะลึง พีระมิดยังมีโครงสร้างภายในที่สลับซับซ้อนจนต้องใช้เทคโนโลยีล้ำยุคมาช่วยในการค้นหา





เมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2017 นักวิทยาศาสตร์ได้ตีพิมพ์งานวิจัยเรื่องการใช้เครื่องตรวจจับรังสีคอสมิกมาค้นหาห้องลับภายในพีระมิดคูฟู ! หลักการนั้นเข้าใจได้ง่ายๆ กล่าวคือ รังสีคอสมิกนั้นพุ่งจากอวกาศเข้าสู่โลกเราอยู่ตลอดเวลา

เมื่อนักวิทยาศาสตร์นำเครื่องตรวจจับรังสีคอสมิกไปวางไว้ภายในพีระมิดแล้วตรวจจับรังสีคอสมิกที่ทิศทางต่างๆ  หากทิศทางใดสามารถตรวจจับรังสีคอสมิกได้มากกว่าที่ทิศอื่นๆก็แปลว่าทิศทางนั้นมีช่องว่างอยู่ภายในพีระมิด ทำให้มันทะลุมายังเครื่องตรวจจับได้มากกว่าทิศทางอื่นๆที่ถูกอิฐจากพีระมิดดูดกลืนไปบางส่วนนั่นเอง

วิธีการดังกล่าวทำให้นักวิทยาศาสตร์หาห้องลับพบโดยไม่ต้องขุดเจาะหรือทำลายโบราณสถาน





อันที่จริงแล้ว โครงสร้างภายนอกอันเรียบง่ายของพีระมิดก็แฝงไปด้วยภูมิปัญญาบางอย่างน่าสนใจ ความสูงและความยาวฐานฐานแต่ละด้านนั้นแสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในคณิตศาสตร์อย่างลึกซึ้งของชาวอียิปต์โบราณ





ชาวอียิปต์โบราณเป็นชนชาติแรกที่ประดิษฐ์นาฬิกาแดดขึ้นใช้งาน (การสังเกตดวงอาทิตย์ว่าอยู่ตรงไหนบนท้องฟ้าด้วยตาเปล่านั้น นอกจากไม่ดีต่อสายตาแล้ว ยังสังเกตยากกว่าการสังเกตเงาจากนาฬิกาแดดด้วย) โดยชาวอียิปต์โบราณแบ่งวันออกเป็น 12 ช่วง เท่าๆกัน ซึ่งสาเหตุของการแบ่งเป็น 12 ช่วงนั้นมีการสันนิษฐานไปหลายทาง

บ้างก็ว่ามาจากการนับข้อนิ้วทั้งสิบสองข้อ(ใช้นิ้วโป้งไล่ไปตามนิ้วต่างๆ)
บ้างก็ว่าสอดคล้องกับจำนวนเดือนในหนึ่งปี

แต่จะอย่างไรก็ตาม ในช่วงที่มีการประดิษฐ์นาฬิกาแดดนั้น นักดาราศาสตร์อียิปต์ยังได้พยายามระบุเวลาตอนกลางคืนซึ่งไม่มีแดดด้วยการแบ่งดาวออกเป็นกลุ่มๆ โดยให้บนท้องฟ้าในหนึ่งคืนถูกออกเป็น 12 ส่วนเท่าๆกัน เท่านี้ก็สามารถระบุเวลาได้อย่างต่อเนื่องทั้งกลางวันและกลางคืน

แนวคิด เรื่องชั่วโมง (Hour) ถือกำเนิดจากจุดนี้ และ รูปแบบการเดินของเข็มนาฬิกาทุกวันนี้มาจากทิศการเคลื่อนที่ของเงานาฬิกาแดด ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ชาวอียิปต์โบราณอาศัยอยู่ในซีกโลกเหนือ

(คิดเล่นๆว่า ถ้าอารยธรรมในซีกโลกใต้สร้างนาฬิกาแดดได้ก่อนชาวอียิปต์ ทุกวันนี้นาฬิกาที่เราใช้กันอาจจะหมุนทวนเข็มก็เป็นได้)

การเปลี่ยนตำแหน่งของเงานั้นไม่เพียงแค่ช่วยในการบอกเวลา แต่ยังช่วยในการกำหนดทิศได้ด้วย  แต่ละฐานของพีระมิดคูฟูแต่ละด้านถูกสร้างให้หันไปทางทิศทั้ง 4  ได้อย่างพอดี

ที่น่าสนใจจริงๆคือ พีระมิดคูฟูนั้นมีความสูงจากฐานถึงยอดเป็น 146.6 เมตร และด้านทั้งสี่ยาว 230.37 เมตร

คำถามคือ ทำไมความสูงและความยาวฐาน ต้องเป็นเลขตัวนี้ ?

เสน่ห์อย่างหนึ่งของการศึกษาโบราณคดีคือ ข้อเท็จจริงบางอย่างนั้นถูกกาลเวลากลบฝังไปจนยากจะขุดขึ้นมาให้เห็นได้อย่างชัดเจน เรื่องบางเรื่องก็เป็นเพียงการสันนิษฐาน แต่หลายๆการสันนิษฐานนั้นน่าทึ่ง

หากเราวาดวงกลมที่มีรัศมีเท่ากับความสูงของพีระมิด จะได้วงกลมที่ใหญ่เกินฐานแต่ละฐานออกไปเล็กน้อยและตัดมุมพีระมิดเข้ามาเล็กน้อย พูดง่ายๆว่าวงกลมจะมีพื้นที่เกือบเท่าสี่เหลี่ยมที่เป็นฐานพีระมิด





ถ้าเราหาเส้นรอบฐานพีระมิดจะได้ระยะ 230.37×4 = 921.48 เมตร
 ส่วนเส้นรอบวงกลมดังกล่าว คือ 2 ×π×146.6 = 921.48 เมตร ซึ่งมีความยาวเท่ากันกับความยาวรอบฐาน!
 นักวิชาการจำนวนหนึ่งเชื่อว่าความลงตัวนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

ในสมัยโบราณ การหาพื้นที่วงกลมนั้นยากมาก แต่การหาพื้นที่สี่เหลี่ยมจตุรัสนั้นง่ายมาก
การวาดวงกลมให้ซ้อนทับกับสี่เหลี่ยมจนเกือบพอดีในลักษณะนี้ ช่วยให้ชาวอียิปต์โบราณสามารถทำการประมาณพื้นที่ของวงกลมได้ใกล้เคียงค่าจริงมาก

กล่าวได้ว่าศิลปะแห่งการประมาณค่าอันชาญฉลาดแสงตัวอยู่ในความสูงและฐานของพีระมิด!

หลักฐานจากกระดาษปาปิรุสของอียิปต์ยังแสดงให้เห็นว่าชาวอียิปต์โบราณรู้จักค่า พาย(Pi) และสามารถทำการประมาณค่าพายได้ด้วย

ไม่น่าเชื่อว่ามนุษย์เมื่อ 4,500 ปีก่อน นอกจากจะสามารถสร้างพีระมิดได้ ยังเข้าใจคณิตศาสตร์ได้เป็นอย่างดี ซึ่งค่าพายนี้เองเป็นตัวเลขที่น่าสนใจ ทั้งในเชิงคณิตศาสตร์และประวัติศาสตร์ซึ่งจะเล่าให้ฟังในครั้งต่อไปครับ

.

อ้างอิง
https://www.scientificamerican.com/article/experts-time-division-days-hours-minutes/
https://www.nature.com/news/cosmic-ray-particles-reveal-secret-chamber-in-egypt-s-great-pyramid-1.22939

**วิธีหนึ่งที่ใช้ในการหาทิศอย่างง่ายๆคือ 
- ปักไม้ไว้กลางแดดตอนเช้า แล้ววางหินไว้ที่ปลายเงาไม้
- จากนั้นรอจนถึงช่วงบ่ายจะพบว่าปลายเงาไม้เปลี่ยนตำแหน่งไป แล้วก็วางหินไว้ที่ปลายเงาไม้ตอนบ่าย
- เส้นตรงที่ลากจากหินก้อนที่วางตอนเช้าสู่หินที่วางตอนบ่ายคือ ทิศตะวันตกและทิศตะวันออก

.




Logged
Pages: [1] Go Up Print 
« previous next »
 

SMF 2.0.4 | SMF © 2013, Simple Machines | Theme by nesianstyles | Buttons by Andrea
Page created in 0.04 seconds with 20 queries.