| ppsan | 
								|  | «  on: 19  October  2025, 14:01:39  » |  | 
 
 ละคร ปริศนา เดอะซีรีส์ : รัตนาวดี ตอนที่ 15
 https://mgronline.com/drama/detail/9580000129280
 
 รัตนาวดี ตอนที่ 15
 เผยแพร่: 21 พ.ย. 2558 16:39   โดย: MGR Online
 
 
 
  
 
 รัตนาวดี ตอนที่ 15
 
 เช้าวันใหม่ ท่านดนัยยืนอยู่ที่เคาน์เตอร์โรงแรม กำลังพูดกับพนักงานโรงแรม ป้าสร้อยเดินเข้ามามองหา ท่านดนัยพอเห็นก็เดินมาหา
 
 "นายเล็ก"
 ท่านดนัยรีบหันมา พอป้าสร้อยเห็นก็สงสัย
 "ทำไมหน้าเหมือนคนอดนอนอย่างนั้นล่ะ...ท่านหญิงก็ทรงประชวร"
 ท่านดนัยสีหน้าทุกข์ร้อน
 "ท่านหญิงเป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ"
 "ทรงบ่นว่านอนไม่หลับ ก็เลยปวดเศียร ท่านให้ป้ามาบอกนายเล็กว่าวันนี้ท่านไม่เสด็จไปไหน...จะทรงพัก ถ้านายเล็กจะออกไปกับคณะนายเก็จกำง๋งก็ไปเถิด"
 "ถ้าท่านหญิงไม่เสด็จไปไหน..ผมก็จะอยู่ที่นี่ครับ...เผื่อคุณสร้อยจะใช้อะไร"
 "คงไม่มีอะไร...หาทานก็คงที่ห้องอาหารโรงแรมนี่แหล่ะ อาจจะสั่งไปเสวยบนห้อง..แล้วนายเล็กกำลังจะไปไหน"
 "จะไปส่งโทรเลขกลับบ้านครับ"
 "อ้าว...มีเรื่องด่วนอะไรล่ะ"
 "มีเรื่องขอให้ท่าน....เอ้อ...ขอให้คุณแม่จัดการหน่อยครับ"
 
 ป้าสร้อยยิ้มๆ ทำท่ารู้ทัน
 "จะให้ไปขอผู้หญิงละซิ...แหม...หนุ่มๆ สาวๆ สมัยนี้ว่องไวดีจริง"
 ป้าสร้อยทำท่าจะเดินกลับไป แต่ก็หันมาเหมือนจะคิดอะไรขึ้นมาได้
 "อ้อ...มีอีกอย่างหนึ่ง...ท่านหญิงจะเสด็จกลับไปอยู่ที่โลซานน์...นายเล็กบอกกับพวกนายเก็จกำง๋งไว้ก็ดี
 แต่ไม่ต้องกลัวว่านายเล็กจะไม่ได้เจอกับหนูอาดอีกหรอกนะ เพราะพอไปถึงโลซานน์ ...ท่านหญิงจะส่งรถคืนท่านดนัย นายเล็กจะได้มีอิสระไปไหนกับใครที่อยากไปก็ได้"
 ท่านดนัยตกใจ
 "แต่ท่านหญิงยังเที่ยวไม่ทั่วยุโรปเลยนะครับ"
 "ท่านประสงค์อย่างนั้น"
 ป้าสร้อยเดินกลับไป ท่านดนัยยืนงงสีหน้าผิดหวัง...
 
 สะอาดศรีแต่งตัวสวยเลียนแบบรัตนาวดี ยืนคอยท่านดนัยกับเก็จกำง๋ง และ วีระสิงห์
 "วันนี้หนูอาดแต่งตัวคล้ายๆ ท่านหญิงเลย"
 สะอาดศรียิ้มพอใจ
 "นายว่าหนูแต่งอย่างนี้สวยไหม"
 เก็จกำง๋งหยุดยืนมองอย่างพิจารณา
 "สวยสู้ท่านหญิงไม่ได้หรอก"
 สะอาดศรีเถียง
 "ทำไมจะสู้ไม่ได้...ชุดนี้คุณเล็กเลือกให้หนูอาดนะ.. ถ้าเค้าเห็นหนูอาดใส่ชุดที่เค้าเลือกให้เค้าต้องดีใจ"
 "อย่าพยายามเลียนแบบคนอื่นเลย...ถ้าใครจะชอบก็ให้เค้าชอบที่เราเป็นตัวเรา.." วีระสิงห์บอก
 เก็จกำง๋งเห็นด้วย
 "เชิดพูดถูก...ถ้าเราต้องพยายามทำให้เค้าชอบ..เราก็ต้องพยายามทำเป็นคนอื่นตลอดนะ"
 "เหนื่อยตายเลย" วีระสิงห์บอก
 สะอาดศรีมั่นใจ
 "ไม่เหนื่อยเลย...ถ้าทำแล้วเค้าชอบ...ยากแค่ไหนก็ทำได้"
 "แล้วถ้าเค้าไม่ชอบล่ะ"
 "หนูจะทำให้เค้าชอบให้ได้"
 เก็จกำง๋งหัวเราะ
 "พ่อเอาใจช่วย"
 วีระสิงห์เหนื่อยหน่าย... ท่านดนัยเดินออกมา สะอาดศรีดีใจเป็นพิเศษ
 
 เวลาต่อมา ท่านดนัยนั่งหน้ากับทวี สะอาดศรีนั่งเบาะหลังระหว่างเก็จกำง๋งกับวีระสิงห์ ทั้งสองดูวิวข้างทาง สะอาดศรีชะโงกหน้ามากระซิบกระซาบกับท่านดนัย
 "ท่านหญิงว่าอะไรหรือเปล่าคะ"
 ท่านดนัยมองหน้าสะอาดศรีหน่อยหนึ่งอย่างไม่ค่อยพอใจ
 "ท่านไม่ได้พูดอะไร"
 
 สะอาดศรียิ้มพอใจ
 "แสดงว่าท่านหญิงไม่ว่าอะไรที่หนู"
 ท่านดนัยเห็นท่าสะอาดศรีรีบพูดขึ้นมาก่อน
 "ท่านทรงทราบดีว่าไม่มีอะไร...ในเมื่อไม่มีอะไร...ท่านก็ไม่จำเป็นจะต้องรับสั่งว่าอะไร"
 
 ท่านดนัยพาคณะเก็จกำง๋งมาเที่ยวยังสถานที่ต่างๆหลายแห่ง ทุกคนสนุกสนาน สะอาดศรีเอาอกเอาใจท่านดนัย เก็จกำง๋งสนับสนุนสะอาดศรี...ท่านดนัยสีหน้าไม่มีความสุข
 
 
 
  
 
 ฝ่ายรัตนาวดีกับป้าสร้อยดื่มน้ำชาอยู่ในห้อง
 
 "ตอนป้าบอกนายเล็กว่าท่านหญิงจะส่งกลับลอนดอน หน้าแกยังไงพิกล...ป้าเลยไม่รู้ว่าดีใจหรือเสียใจที่ต้องจากแม่หนูอาด"
 "หญิงไม่อยากฟังเรื่องนายเล็กอีกค่ะป้า"
 "ทรงกริ้วนายเล็กเหรอเพคะ"
 รัตนาวดีทำเป็นไม่อยากสนใจ
 "หญิงจะไปโกรธเค้าเรื่องอะไรคะ...หญิงดีใจต่างหากที่นายเล็กมีคนรักเป็นลูกสาวเศรษฐี...มิหนำซ้ำว่าที่พ่อตาในอนาคตก็เต็มใจรับมาเป็นลูกเขย...ขนาดไปมาหาสู่กันถึงห้องก็ยังได้"
 "อะไรกันเพคะ...ใครไปมาหาสู่กันถึงห้อง"
 รัตนาวดีพูดอย่างอัดอั้น
 "ก็นายเล็ก กับ หนูอาดนะสิคะ...เมื่อคืนก่อนหญิงเห็นเค้ามาหากันถึงห้อง"
 ป้าสร้อยตกใจเอามือตบอก
 "อกอีแป้นแตก...นี่จะไวไฟกันขนาดนี้เชียวหรือเพคะ... มิน่า..เมื่อเช้ารีบส่งโทรเลขไปให้รีบจัดการ สงสัยจะให้เตรียมไปขอลูกสะใภ้"
 รัตนาวดีเม้มปากแน่นอย่างขุ่นใจ
 "อย่าพูดถึงสองคนนี่อีกเลยค่ะป้า...หญิงจะไปส่งจดหมายถึงวิมลก่อนนะคะ...เมื่อคืนว่าจะไปส่งจดหมาย พอดีเจอบทโรแมนซ์ซะก่อนเลยลืมไป"
 รัตนาวดีหยิบจดหมายใส่กระเป๋าถือจะเดินออกไป ป้าสร้อยมองตามรัตนาวดีอย่างเป็นห่วง...
 
 รัตนาวดีเดินมาที่เคาน์เตอร์ ส่งจดหมายเพื่อให้พนักงานช่วยส่งไปให้ รัตนาวดีส่งจดหมายเสร็จแล้วจะเดินกลับห้อง แต่เปลี่ยนใจเดินไปนั่งเล่นที่ชุดรับแขก หยิบหนังสือขึ้นมาดู ท่านดนัยเดินเข้ามาที่ล็อบบี้เห็นเข้าพอดี จึงเดินเข้าไปหา....รัตนาวดีมองเห็นท่านดนัย ลุกขึ้นเดินกลับไปที่ทางขึ้นห้องพัก
 "ท่านหญิงกระหม่อม"
 รัตนาวดีเฉยไม่หันมา ยังเดินไปเรื่อยๆ ท่านดนัยสีหน้าน้อยใจ แต่ก็ยังเดินตาม ท่านดนัยยังเดินตามมาเรียกอีก
 "ท่านหญิงกระหม่อม"
 
 รัตนาวดียังเฉยอีกไม่หยุดเดิน ไม่หันมาพูดด้วย ท่านดนัยหยุดเดินมองรัตนาวดีที่เดินไม่สนใจด้วยสีหน้าเป็นทุกข์ สะอาดศรีเดินตามเข้ามา
 "ท่านหญิง....คุณเล็ก"
 รัตนาวดีมองอย่างเย็นชาแล้วเดินขึ้นไปบนห้อง..สะอาดศรีรีบเดินมาดึงท่านดนัยไว้ สีหน้ากังวล
 "คุณเล็กคะ...ท่านหญิงไม่พูดกับหนู....สงสัยท่านไม่พอใจเราสองคนแน่ๆ เลย"
 ท่านดนัยพยายามพูดด้วยสีหน้าปกติ แต่ก็เฉย
 "ไม่มีอะไรหรอก"
 "หนูว่าต้องมีแน่ๆ...หนูอาดทำให้คุณเล็กเดือดร้อน"
 "ผมไม่ได้เดือดร้อนอะไรเลย...ผมว่าเราอย่าพูดเรื่องนี้อีกดีกว่า"
 "แต่....หนูอยากพูด"
 ท่านดนัยนิ่งอึ้งมองหน้า สะอาดศรีก็พยายามยิ้มหวาน
 "หนู...หนูอยากให้ทุกคนรู้....ว่าหนู..ชอบคุณ"
 ท่านดนัยเอามือกุมขมับพูดไม่ออก
 "คุณเล็กจะว่าอะไรไหมคะ...ถ้าหนูจะชอบคุณ"
 ท่านดนัยพยายามไม่หัวเราะ
 "ผมอยากให้คุณคิดให้ดี...เรื่องอย่างนี้คุณไม่ควรรีบตัดสินใจ"
 หนูอาดมองท่านดนัยอย่างน้อยใจนิดๆ
 "เพราะคุณเล็กมีคนรักแล้วใช่ไหมคะ...นายบอกว่าคุณมีคนที่ชอบอยู่แล้ว"
 ท่านดนัยยิ้มๆ พยักหน้าช้าๆ
 "ถูกแล้ว"
 "หนูอิจฉาผู้หญิงคนนั้นจัง...แต่ถ้าคุณเล็กยังไม่ได้แต่งงานกับเขา คุณเล็กก็ควรให้โอกาสหนูบ้าง"
 
 สะอาดศรีเอื้อมมือมาจับแขนท่านดนัยไว้ ทำตาออดอ้อนจนท่านดนัยหนักใจ...
 
 
 
  
 
 มีเสียงเคาะประตูเรียก
 
 ท่านหญิงรัตนาวดีนั่งอยูที่โต๊ะกำลังจะเริ่มเขียนจดหมาย ป้าสร้อยนั่งอ่านหนังสือไกลบ้านอยู่เงียบๆ ทั้งสองได้ยินเสียงเคาะประตู หันมองหน้ากัน สงสัยว่าเป็นใคร ป้าสร้อยทำท่าจะลุกขึ้นไปดู
 รัตนาวดีรีบห้าม
 "เดี๋ยวหญิงเปิดเองค่ะ"
 รัตนาวดีรีบเดินไปเปิดประตู วีระสิงห์ยืนอมยิ้มด้วยท่าทางเกรงใจอยู่หน้าห้อง
 "นายให้ผมมาบอกว่า จองห้องอาหารไว้ครับ"
 "ช่วยบอกคุณเก็จกำง๋งด้วยว่าฉันคงไม่ลงไปทานข้าวด้วยคืนนี้"
 รัตนาวดีหันไปถามป้าสร้อย
 "ป้าอยากลงไปทานข้าวกับคุณเก็จก็ได้นะคะ"
 "หม่อมฉันก็คิดอยากจะอยู่บนห้องอยู่เชียวเพคะ...ถ้างั้นก็ตามนี้นะจ้ะ...เอาไว้เจอกันพรุ่งนี้เช้าเลยนะ"
 "ครับคุณสร้อย"
 วีระสิงห์เดินไป รัตนาวดีปิดประตูแล้วเดินมานั่งที่เดิม
 "เราคงไม่ต้องไปนึกเป็นห่วงนายเล็กหรอกนะเพคะ เพราะยังไงๆ เค้าก็คงไปทานอาหารเย็นกับหนูอาดอยู่แล้ว"
 รัตนาวดีทำเป็นไม่ได้ยิน...แต่ใจคิดถึงนายเล็ก
 
 สะอาดศรีแต่งตัวสวยมาก เดินวางท่าลงบันไดมาด้วยท่าทางราวเจ้าหญิง มีฝรั่งบางคนหันไปทักทาย สะอาดศรีก็ทำท่าทักทายอย่างเก๋เลียนแบบรัตนาวดี ท่าทางเธอภูมิใจที่แต่งตัวสวยเดินเข้าไปในห้องอาหาร
 
 สะอาดศรีเดินมาที่โต๊ะอาหาร พ่อกับพี่ชายนั่งอยู่แล้ว วีระสิงห์มองสะอาดศรีอย่างคิดไม่ถึง ส่วน เก็จกำง๋ง มองอย่างงงๆ สะอาดศรียิ้มแย้มกับทุกคนด้วยท่าทางที่เลียนแบบรัตนาวดี ลงนั่งข้างๆ เก็จกำง๋ง
 "แต่งตัวจะไปไหนน่ะ."
 สะอาดศรียิ้มอย่างอารมณ์ดี
 "ก็มาทานข้าวไงพี่เชิด"
 "แต่งขนาดนี้ไม่มากไปหน่อยเหรอ"
 "ไม่มากหรอก...คุณเล็กบอกว่าดินเน่อร์น่ะสำคัญ...ฝรั่งเค้าต้องแต่งตัวดีๆ มาทานอาหาร...นี่ท่านหญิง กับคุณเล็กยังไม่มาเหรอแหม...นายคะ..หนูกะจะให้คุณเล็dตื่นเต้นที่เห็นหนูเดินเข้ามาเชียว"
 "ท่านหญิง กับ ป้าสร้อยไม่ลงมากินกับเรา มื้อนี้พวกเค้าจะกินบนห้อง"
 สะอาดศรียังยิ้มไม่สนใจ
 "อ้อ...คงจะเบื่อ..ไม่เป็นไรหรอก...แล้ว..คุณเล็กล่ะนาย"
 "คุณเล็กก็หายไปไหนก็ไม่รู้...คงรู้ว่าท่านหญิงไม่ลงมา ก็เลยไม่มากินด้วย"
 สะอาดศรีทำหน้าผิดหวังร้อนใจ
 "คงไม่หรอก...คุณเล็กต้องมาทานกับเราสิ...จริงไหมคะนาย"
 "พ่อให้ทวีไปตามที่ห้องแล้วก็ไม่เจอ...ไม่รู้ไปไหน"
 "ถ้าเค้าจะมาเดี๋ยวก็มาเองละ"
 บริกรเดินมาเอาเมนูมาส่งให้และพูดถามเป็นภาษาฝรั่งเศส ทุกคนงง วีระสิงห์ที่พอพูดได้บ้างพยายามจะสั่งอาหาร สะอาดศรีหงุดหงิดลุกขึ้นยืน
 "จะไปไหนหนูอาด" พ่อถาม
 "จะไปตามคุณเล็ก...หนูจะไปตามเอง"
 วีระสิงห์ทำหน้าดุหน่อยๆ
 "อย่าจุ้นจ้านเลยหนูอาด...คุณเล็กรู้อยู่แล้วว่าเราจะทานกันที่นี่ ถ้าเค้าจะมาเค้าก็มาเอง....ถ้าเค้าไม่มาก็แสดงว่าเค้าไม่มา"
 "พี่เชิดไม่ต้องยุ่ง...คุณเล็กเค้าอาจจะนอนเพลินไปก็ได้ ถ้าไม่มีใครไปเรียก..เค้าก็ไม่รู้"
 สะอาดศรีรีบเดินไป วีระสิงห์เรียกไว้จะห้ามแต่สะอาดศรีก็ไม่ฟัง เก็จกำง๋งมองตามเริ่มเป็นทุกข์...
 
 สะอาดศรีเดินมาที่หน้าห้องท่านดนัย สีหน้ายิ้มมีความหวัง สะอาดศรียืนทำท่าสวยแล้วเคาะประตูเบาๆ แต่ก็ไม่มีคนมาเปิด ลองบิดประตูจะเปิด แต่ก็เปิดไม่ได้ สะอาดศรียืนรีรอ แต่สีหน้ายังมีความหวังเคาะประตูเรียกอีก แต่ก็เงียบ สะอาดศรีจึงเคาะดังขึ้น รอฟังอย่างอดทนมีความหวัง แต่ก็เงียบ สะอาดศรีเริ่มรู้สึกเอะใจ เคาะประตูเสียงดังขึ้น ดังขึ้น สีหน้าเริ่มร้อนรน กระวนกระวายจนแทบจะทุบประตูเสียงดัง แขกที่พักห้องข้างๆ เป็นผู้หญิงฝรั่งเปิดประตูออกมา ด่าเป็นภาษาฝรั่งเศส
 " หยุดทำเสียงดังรบกวนคนอื่นได้แล้ว"
 สะอาดศรีฟังไม่รู้เรื่อง เถียงเป็นภาษาไทย
 "อะไร...ฉันจะมาหาแฟนฉัน...รู้เรื่องไหม พูดอะไรไม่รู้เรื่อง"
 สะอาดศรียืนเถียงกับผู้หญิงฝรั่งคนนั้นอย่างไม่ลดรา ท่านดนัยจะเดินมาที่ห้อง เห็นเธอกำลังเถียงกับแขกฝรั่งก็รีบหลบแล้วรีบวิ่งกลับไปเพราะกลัวสะอาดศรีจะเห็น ฝรั่งผู้หญิงพูดต่อว่าจนพอใจแล้วก็เข้าห้องไปปิดประตูใส่หน้าเสียงดัง
 
 สะอาดศรียืนงงน้ำตาไหลออกมา
 
 
 
  
 
 ในห้องอาหารของ Beau Rivage Hotel เก็จกำง๋ง วีระสิงห์กำลังนั่งทานอาหาร
 
 "พ่อบอกว่าให้สั่งล็อบเตอร์ทำไมมันกลายเป็นยังงี้ล่ะ"
 วีระสิงห์ทำหน้างงๆ
 "ผมก็สั่งแล้วมันไม่รู้เรื่องเองนาย"
 "มันไม่รู้เรื่อง หรือเชิดพูดมันไม่รู้เรื่องกันแน่"
 "นายทานได้ไหม...ของผมเป็นเนื้อ..แลกกันไหมนาย"
 "ไม่เป็นไร...พ่อกินได้...ดูสิ..มีแต่ผักอะไรก็ไม่รู้...แต่ก็กินได้"
 เก็จกำง๋งหัวเราะเสียงดัง ทำให้วีระสิงห์หัวเราะไปด้วย สะอาดศรีเดินกลับมานั่งหน้าคว่ำเช็ดน้ำตา
 วีระสิงห์มองอย่างปลง
 "เจอคุณเล็กไหม"
 
 สะอาดศรีส่ายหน้า
 "หายไปไหนก็ไม่รู้...ไม่อยู่ที่ห้อง"
 เก็จกำง๋งก็หน้าเสีย แต่พยายามยิ้มตลก
 "ผู้ชายก็อย่างนี้ละ...ต้องให้เค้ามีอิสระบ้าง...เดี๋ยวเค้าก็มาเอง หนูอาดจะกินอะไรล่ะ"
 สะอาดศรีทำหน้าเซ็ง
 "หนูกินไม่ลงหรอกนาย"
 วีระสิงห์ มองหน้ากับเก็จกำง๋ง
 "หนูอาด...ไม่ว่าจะมีอะไร..เราต้องรักตัวเองไว้ก่อน...ทำตัวเองให้ดี...อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นมาทำให้เราแย่...รู้มั้ย"
 "จริงของนาย...ถ้าเราไม่รักตัวเอง...ใครเขาจะมารัก"
 สะอาดศรีฝืนยิ้ม...วีระสิงห์มองอย่างกังวล
 
 ท่านดนัยยืนมองระเบียงห้องพักรัตนาวดีด้วยสีหน้ากังวล สักครู่ท่านหญิงแต่งชุดนอนเดินออกมาที่ระเบียง มองไปรอบๆ อย่างสีหน้าสงบ ท่านดนัยดีใจที่เห็น รีบยืนแอบไม่ให้รัตนาวดีเห็น เธอยืนมองรอบๆ สักครู่ก็เดินกลับเข้าไป ท่านดนัยผิดหวังที่รัตนาวดีเดินกลับเข้าไปในห้อง จึงเดินออกมายืนมองจากที่หลบอยู่ ทันใดนั้น ท่านหญิงรัตนาวดีก็เดินออกมาที่ระเบียงอีก จึงมองมาเห็นท่านดนัยพอดี ท่านดนัยตกใจ แต่ก็หลบไม่ทันจึงก้มหัวโค้งให้นิดหนึ่ง รัตนาวดีจ้องมองนิ่ง สักครู่ รีบหันหลังกลับเดินเข้าไปในห้อง ท่านดนัยยืนยิ้มเก้อ...
 
 เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่รัตนาวดียืนมองวิวด้วยท่าทางสบายๆ ไม่ได้สนใจใคร สะอาดศรีเดินเข้ามาหา
 "เมื่อคืนท่านหญิงทรงนอนไม่หลับเหรอคะ"
 รัตนาวดีหันมามองหน้า
 "หนู ..เอ้อ..เห็นขอบตาคล้ำๆ...เลยเดาว่าท่านนอนไม่หลับ...เหมือนหนูเลย"
 รัตนาวดีตอบอย่างสบายใจ
 "ฉันนอนไม่หลับ...ก็เลยเอาหนังสือมาอ่าน...หนังสือสนุกเลยอ่านเพลินไปหน่อย...แล้วเธอนอนไม่หลับเพราะอะไร"
 สะอาดศรีทำท่ายักไหล่
 "ก็...มีเรื่องให้คิดนะเพคะ"
 "แล้วคิดออกไหม"
 "ก็...คิดออกบ้างไม่ออกบ้าง...ความจริงหนูมีเรื่องอยากปรึกษาเอ้อ...อยากถามท่านหญิงหน่อย"
 รัตนาวดีนิ่งฟัง
 "คือ...เมื่อคืน...ท่านหญิงใช้คุณเล็กไปไหนหรือเปล่า"
 "ทำไมหรือ"
 "ก็...หนูเห็นคุณเล็กไม่ได้ไปทานข้าวเย็นด้วยกัน...ก็เลยคิดว่าท่านหญิงคงใช้คุณเล็กไปไหนหรือเปล่า"
 "ทำไมเธอไม่ไปถามนายเล็กล่ะ...หรือนายเล็กเค้าบอกกับเธอว่าฉันใช้ให้เขาไปธุระ"
 
 สะอาดศรีรีบปฏิเสธ
 "เปล่านะคะ...หนูยังไม่ได้ถามคุณเล็กเลย...เกรงใจเขา นายบอกว่าผู้หญิงที่ดีไม่ควรไปถามจุกจิกกวนใจแฟน"
 รัตนาวดีเม้มปาก ท่านดนัยยืนมองดูสะอาดศรีที่เข้าไปพูดกับรัตนาวดี
 "อ้อ...เธอเกรงใจนายเล็ก...แต่ไม่เกรงใจฉัน"
 สะอาดศรีทำเป็นยิ้มเป็นกันเอง
 "ก็..แหม..เราเป็นผู้หญิงด้วยกัน"
 รัตนาวดีหันข้างให้สะอาดศรี พูดโดยไม่มองหน้า
 
 "ถ้าเธอใช้คำว่านายเล็กเป็นแฟนเธอ...ก็อย่าเอาฉันไปยุ่งกับเรื่องของเธอสองคนเลยนะ...เธอควรจะคุยกับนายเล็กเองดีกว่า"
 
 
 
  
 
 ณ สถานที่ท่องเที่ยว Interlaken ในมมุมหนึ่ง รัตนาวดีเดินนำสะอาดศรีมาหาป้าสร้อยที่กำลังคุยกับเก็จกำง๋งอย่างสนุก
 
 "ท่านหญิงกระหม่อม...คุณสร้อยบอกกระหม่อมว่ารัชกาลที่ 5 ทรงเคยเสด็จประพาสที่นี่"
 "ใช่จ้ะ...ท่านทรงเล่าไว้ในหนังสือที่ป้าสร้อยชอบอ่าน" รัตนาวดีบอก
 "ผมเคยได้ยินครับ...ท่านทรงเสด็จหลายประเทศ" วีระสิงห์ว่า
 "ใช่จ้ะ...ป้าก็เลยต้องตามรอยเสด็จ...ถ้าเราไปเมืองไหนที่พระองค์ไม่ได้ทรงเคยเสด็จ...ป้าก็แทบจะไม่สนใจ"
 วีระสิงห์บอก "แหม...อย่างนี้ก็เท่ากับได้ตามรอยเสด็จของพระพุทธเจ้าหลวงนะครับ"
 "แล้วจากนี้ท่านหญิงจะเสด็จที่ไหนกระหม่อม"เก็จกำง๋งถาม
 วีระสิงห์ยิ้มมีความสุข สะอาดศรีเดินมานั่งฟังด้วย
 "ไปที่ๆ ได้ตามรอยเสด็จอีกดีไหมครับ"
 "ฉันกับป้าจะกลับโลซานน์...คงแยกกับพวกคุณที่นี่"
 สะอาดศรีหน้าเสีย เก็จกำง๋ง กับ วีระสิงห์ก็งง
 "อ้าว...แล้วคุณเล็กล่ะคะ"
 "คุณเล็กของเธอก็จะกลับไปลอนดอนเพื่อเอารถไปคืนท่านดนัยนะสิจ้ะ"
 
 สะอาดศรีนึกได้ดีใจ แต่ท่านดนัยหน้าเสียมาก
 "ถ้าอย่างนั้นคุณเล็กก็ไม่ต้องตามท่านหญิงแล้วใช่ไหมคะ"
 "ใช่...ฉันจะอยู่ที่โลซานน์กับป้าสองคน...ส่วนนายเล็กถ้าเขาอยากจะไปกับพวกคุณก็แล้วแต่เขา"
 ท่านดนัยพูดอย่างเสียงเย็นชาเพราะน้อยใจ
 "กระหม่อมคงตัดสินใจเองไม่ได้...ต้องทูลถามท่านดนัยก่อน"
 "ท่านดนัยก็คงไม่ว่าหรอกมั้ง...ท่านยังฮอลิเดย์อยู่นี่น่า... นายเล็กจะไปไหนท่านคงไม่ว่าหรอก"
 สะอาดศรีรีบเข้ามาจับแขนรัตนาวดีอย่างคาดคั้น
 "แต่ถ้าคุณเล็กไม่สบายใจท่านหญิงช่วยขอท่านดนัยให้ได้ไหมคะ...ก็ท่านเป็นญาติกัน ถ้าท่านหญิงขอท่านก็ต้องให้"
 รัตนาวดีอึ้งไป ท่านดนัยมองหสะอาดศรีอย่างตำหนิ
 "คุณไม่ควรไปรบกวนท่านหญิงอย่างนั้น"
 "ทำไมล่ะคะ...ก็ท่านหญิงเป็นญาติกับท่านดนัย...ถ้าท่านหญิงทรงพูดขอ ท่านดนัยก็คงไม่ปฏิเสธ"
 "ถึงท่านดนัยจะทรงอนุญาต...ผมก็ไปกับพวกคุณไม่ได้"
 สะอาดศรีตกใจ
 "ทำไมล่ะคะ...คุณเล็ก...ไปเถอะค่ะ...เราจะได้ไปเที่ยวกัน"
 ท่านดนัยทำท่าจะปฏิเสธอีก รัตนาวดีรีบพูดขึ้นมา
 "ฉันว่านายเล็กน่าจะไปนะ...ไหนๆ ท่านดนัยก็ไม่อยู่ กลับไปลอนดอนก็คงว่าง...สู้ไปเที่ยวดีกว่า"
 ท่านดนัยน้อยใจ
 "ท่านหญิงทรงอยากให้กระหม่อมไปหรือ"
 รัตนาวดีพยายามข่มใจอย่างมาก หันไปพูดยิ้มๆ
 "ใช่...ฉันอยากให้นายเล็กไป"
 ท่านดนัยมองหน้ารัตนาวดีที่หันหน้าหนี สะอาดศรีรีบเข้ามาเกาะแขนท่านดนัย
 "เห็นไหมคุณเล็ก...ท่านหญิงยังทรงอยากให้คุณเล็กไปกับหนูอาดเลย...นะคะ...นาย...ดีไหมคะคุณเล็กจะได้ไปเที่ยวกับเรา"
 ท่านดนัยไม่ตอบ รัตนาวดีเดินไป ป้าสร้อยที่คอยเฝ้ามองรัตนาวดี เก็จกำง๋งก็มองตามรัตนาวดีอย่างใช้ความคิด แต่วีระสิงห์ทำหน้าว่าเข้าใจอะไรบางอย่าง...
 
 มุมหนึ่ง รัตนาวดีเดินแยกมาจากคณะด้วยสีหน้าเศร้าๆ แม้จะได้ยินเสียงข้างหู ไม่หันไปมอง
 "ท่านหญิง..ทำไมจะทรงหยุดเที่ยวเสียกระหม่อม... หม่อมคิดว่าฝ่าบาทน่าจะเสด็จริเวียร่าเสียก่อน ไหนๆ เราก็มาถึงแถวนี้แล้ว"
 รัตนาวดีพูดด้วยเสียงเรียบเฉย แต่ยังไม่หันหน้ามามอง
 "ไม่ไปแล้ว...เปลี่ยนใจ...เปลี่ยนโปรแกรม"
 "ถ้าอย่างนั้นเสด็จไปอังกฤษอีกไหมกระหม่อม...รู้สึกว่า ทรงรู้จักอังกฤษน้อยเหลือเกิน"
 รัตนาวดีมองหน้าท่านดนัย แล้วก็พยายามยิ้มๆ เป็นปกติ
 "ทำอย่างไรได้...ฉันมีความจำเป็นจะต้องเลิกเที่ยวแล้วละ"
 ท่านดนัยนิ่งไป สีหน้าหม่นหมอง
 "จะเป็นการละลาบละล้วงไหม...ถ้ากระหม่อมจะขอทราบเหตุผล"
 รัตนาวดีตอบอย่างไม่ค่อยพอใจ
 "เป็นการละลาบละล้วงมาก"
 "ถ้าเช่นนั้นกระหม่อมขอประทานโทษ...เอ้อ..ฝ่าบาทไม่ได้"
 "เปล่า...ไม่ได้เจ็บไข้ และเงินก็ยังไม่หมด..แต่ฉันมีความจำเป็นที่จะต้องส่งรถท่านดนัยคืนเสียที"
 "หม่อมไม่เข้าใจเลย...ฝ่าบาทก็ทรงทราบว่าท่านชายประทานรถใช้ถึงสองเดือน...นี่เพิ่งใช้ไปไม่เท่าไหร่"
 รัตนาวดีพูดอย่างตัดใจ
 "ช่างเถอะ...ฉันจะคืนเสียที ฉันไม่เข้าใจเลยว่าเหตุใดท่านดนัย ถึงเกิดเอารถมาให้คนไม่รู้จักใช้"
 "อาจจะทรงเห็นว่าฝ่าบาทเป็นเจ้าน้องของท่านพจน์ ซึ่งท่านสนิทสนมรักใคร่กันมาก...ท่านชายจึงอยากจะดูแลฝ่าบาทอย่างดี"
 รัตนาวดีทำหน้ายิ้มเยาะ ออกเดินดูตามทางอีก
 "อยากดูแล...อย่าเลย...แค่นี่ก็เป็นพระคุณหนักหนาแล้ว"
 "เวลานี้ท่านดนัยกำลังจะย้ายไปจากลอนดอน กำลังรอคำสั่งว่าจะต้องกลับกรุงเทพเสียที หรือจะไปประจำสถานทูตที่ไหนอีก ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในแปดปีที่ท่านฮอลิเดย์...ก็เลยขอเสียนานหน่อย"
 "ก็เลยทรงเพลินกับฮอลิเดย์จนลืมที่จะมารับฉัน"
 ท่านดนัยร้อนใจ
 "กระหม่อมคิดว่าต้องเกิดการผิดพลาดขึ้นอย่างใดเป็นแน่... ท่านชายถึงไม่ได้ไปรับฝ่าบาท...กระหม่อมรายงานไปให้ทรงทราบ...เห็นว่าท่านชายจะเสด็จมาหาฝ่าบาทเพื่อทำความรู้จักเร็วๆ นี้แหล่ะกระหม่อม"
 ท่านดนัยพูดอย่างมีความหวัง รัตนาวดีหยุดเดินหันมาดุ จนทำผ้าพันคอหล่นจากมือ ท่านดนัยรีบเก็บให้
 "เอ๊ะ...เรื่องอะไรท่านจะตามมารู้จักกับฉันถึงที่นี่เล่า...เมื่อฉันอยู่ใกล้ๆ ท่านที่อังกฤษ ไม่เห็นท่านมาเกี่ยวข้องอยากรู้จักฉันสักนิด เมื่อฉันมาถึงใหม่ๆ ท่านควรจะมาช่วยฉันบ้าง ท่านก็ยังไม่ช่วยเลย...นายเล็กคงเข้าใจผิดไปแล้ว"
 "หามิได้กระหม่อม...ไม่ได้เข้าใจผิด"
 รัตนาวดีคิดแล้วก็ยังน้อยใจ
 "ที่ฉันกล้ามากับป้าสร้อยสองคนก็เพราะแน่ใจว่าจะมีท่านดนัยเพื่อนเจ้าพี่อยู่ทางนี้...เจ้าพี่ของฉันก็กำชับนักหนาว่าจะมีท่านดนัยคอยรับรองช่วยเหลือ ไม่งั้นจ้างให้ฉันก็ไม่กล้ามา ฉันเคยกับเรื่องอย่างนี้ซะที่ไหน...กลัวออกจะแย่...ฉันกับป้าน่ะนั่งร้องไห้เพราะถูกท่านดนัยทิ้งไว้ที่สนามบิน มันเปิ่น มันเหงา มันช่างกลัวไปหมด...คิดถึงจิตใจของฉันดูซิว่าจะแย่แค่ไหน"
 ท่านดนัยสีหน้าสำนึกผิดมาก พยายามปลอบโยน
 "โธ่....ท่านชายไม่ได้มีเจตนาจะทอดทิ้งฝ่าบาทเลย...ทรงเป็นทุกข์เป็นร้อนอย่างมากที่รู้ว่าทำให้ฝ่าบาทต้องลำบากอย่างนี้"
 รัตนาวดีตัดสินใจตัดใจ
 "ช่างเถอะ...เรื่องมันผ่านไปแล้ว..ไม่อยากนึกถึงให้เปลืองสมอง....อย่างไรก็ตาม ท่านดนัยก็พยายามแก้องค์โดยช่วยเหลือฉันให้ยืมทั้งรถ ทั้งนายเล็ก....ถ้าไม่ใช่เพราะความทัยดีของท่านฉันก็คงไม่ได้เที่ยวสนุกอย่างนี้เป็นแน่ ฉันจะไม่ลืมบุญคุณท่านเลย"
 
 สีหน้าท่านดนัย...อยากจะบอกความจริง
 
 
 
  
 
 ตอนค่ำ รัตนาวดีใส่ชุดนอนนั่งเขียนจดหมายอยู่ที่โต๊ะหนังสือ ป้าสร้อยหลับอยู่ที่เตียง
 
 "คุณปริศนาที่รักยิ่ง หญิงตัดสินใจแล้วว่าพรุ่งนี้จะกลับโลซานน์ นึกๆ ดูก็เศร้าเหมือนกันที่จะต้องส่งรถท่านดนัยกลับลอนดอนเหมือนส่วนหนึ่งของร่างกายถูกตัดไป หญิงรู้สึกว่าการได้ท่องเที่ยวไปที่ต่างๆ ในยุโรปเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับชีวิตของหญิงมีที่อื่นๆ อีกหลายแห่งเหลือเกินที่หญิงยังไม่ได้ไป และ ต้องการจะไป...แม้แต่สวิสซึ่งแสนจะเล็กนี่เอง หญิงก็ยังเที่ยวไม่ทั่วแต่จะทำอย่างไรได้...หญิงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องส่ง
 รถท่านดนัยคืน...หญิงรู้ตัวว่าหญิงท่องเที่ยวต่อไปไม่ได้อีกเป็นอันขาด"
 ท่านหญิงรัตนาวดีเขียนมาถึงตรงนี้ก็เงยหน้ามองออกไปแสนไกล น้ำตาไหลออกมานิดหนึ่ง รัตนาวดีเช็ดน้ำตานั้น
 
 ผ่านเวลาใน Interlaken ในห้องพักที่ Beau Rivage Hotel รัตนาวดี กับ ป้าสร้อย แต่งตัวเสร็จแล้วเตรียมเดินทาง ป้าสร้อยดันกระเป๋าเดินทางที่เก็บเสร็จแล้วออกมาวางกองกันเอาไว้ด้วยท่าทางเหน็ดเหนื่อย
 "เสร็จเสียที...นี้ขนาดยังไม่ค่อยมีของเลยนะเพคะ"
 รัตนาวดีพยายามทำหน้าสดใส
 "เรายังมีเวลาไปเดินซื้อของอีกค่ะ... ป้าสร้อยยิ้มสดชื่น"
 ป้าสร้อยจ้องมองหน้ารัตนาวดีและถามให้แน่ใจ
 "ว่าแต่ไม่ทรงเปลี่ยนทัยแน่นะเพคะ"
 รัตนาวดีทำเป็นตอบหนักแน่น
 "แน่ค่ะ"
 มีเสียงเคาะประตู ป้าสร้อยเดินไปเปิด วิมลยืนยิ้มแป้นหน้าประตู ป้าสร้อย กับ รัตนาวดีตกใจ และ ดีใจมาก
 "สวัสดีเพคะ"
 วิมลยกมือไหว้ป้าสร้อย รัตนาวดีรีบวิ่งไปกอดวิมล
 "วิมล"
 "แหม...แม่วิมล..มาได้ยังไงนี่"
 "ท่านหญิงทรงเขียนจดหมายบอกไปค่ะ"
 "มาถึงเมื่อไหร่"
 "เดี๋ยวนี้เพคะ...มาจากสนามบิน...หม่อมฉันอยากให้ทรงแปลกทัย"
 "แปลกใจอย่างนี้ ป้าหัวใจวายนะซิ"
 "เพิ่งจะเขียนจดหมายไปหาสองสามวันเอง.."
 "ก็พอหม่อมฉันได้รับจดหมายของฝ่าบาทก็จัดกระเป๋ามาเลย...หม่อมฉันอยากมาเที่ยวสวิสจะแย่แล้วเพคะ..นี่ก็เตรียมตัวมาเที่ยวกับท่านหญิงเต็มที่...ชีวิตนี้คงมีโอกาสแค่ครั้งนี้ละ...ดีใจที่สุดที่จะได้มาเที่ยวกับฝ่าบาท"
 รัตนาวดีมองหน้ากับป้าสร้อยอย่างคิดไม่ถึง วิมลยิ้มแป้นดีใจ....
 
 คณะของเก็จกำง๋งนั่งรออยู่ที่ล็อบบี้โรงแรม มีกระเป๋าเดินทางที่เก็บเรียบร้อยวางอยู่ สะอาดศรีนั่งหน้างอ
 "นี่เราจะแยกไปเองเหรอนาย"
 "ก็ใช่นะสิ...ท่านหญิงจะกลับโลซานน์ เราก็ไปเที่ยวอิตาลีกันต่อดีมั้ยนาย" วีระสิงห์บอก
 เก็จกำง๋งใช้ความคิด
 "แล้วคุณเล็กล่ะ...คุณเล็กก็น่าจะไปกับเราซิ"
 "คุณเล็กจะไปกับเราหรือเปล่าก็ไม่รู้...เค้าอาจจะกลับไปอังกฤษก็ได้"
 "แต่ท่านหญิงสั่งให้คุณเล็กไปกับหนู...คุณเล็กต้องเชื่อท่านหญิง ต้องไปเที่ยวกับหนู"
 "ถ้าเค้าไม่อยากไป...เราก็บังคับเค้าไม่ได้หรอกหนูอาด"
 สะอาดศรีผิดหวังมาก
 "นาย....นายต้องช่วยหนูนะ.."
 
 รัตนาวดีเดินคุยกับวิมลอย่างมีความสุขมาที่ล็อบบี้ มาหาคณะเก็จกำง๋งที่นั่งรอกันอยู่ ป้าสร้อยเดินมาด้วย รัตนาวดีสีหน้ายิ้มแย้ม
 "ขอโทษค่ะทุกคน...ขอแนะนำเพื่อนรักของฉัน วิมล"
 วิมลยกมือไหว้ทุกคนอย่างยิ้มแย้ม
 "สวัสดีค่ะ"
 "คณะที่ไปเที่ยวกับหญิงจ้ะ...นี่คุณเก็จกำง๋ง คุณวีระสิงห์ แล้วก็คุณสะอาดศรี....วิมลเรียนพยาบาลอยู่ที่ลอนดอน เค้าจะมาเที่ยวกับเราค่ะ"
 สะอาดศรีสีหน้ามีความหวัง
 "แปลว่าท่านหญิงจะทรงเที่ยวต่อใช่ไหมคะ"
 รัตนาวดีหันไปยิ้มกับวิมล
 "ใช่จ้ะ...ฉันก็เลยรีบมาบอกทุกคนว่าฉันเปลี่ยนใจไม่กลับโลซานน์ แต่จะไปเที่ยวต่อ....ถ้าพวกคุณอยากแยกไปเที่ยวกันที่อื่นก็ไม่เป็นไรนะ"
 เก็จกำง๋งจะอ้าปากพูด แต่สะอาดศรีรีบชิงพูดก่อน
 "ไม่ค่ะ...เราขอตามไปเที่ยวกับท่านหญิงด้วย"
 "นี่ฉันทำให้ทุกคนต้องเปลี่ยนแผนหรือเปล่าคะ"
 รัตนาวดีจะตอบ สะอาดศรีรีบพูดก่อนอย่างดีใจ
 "ไม่ค่ะ...เอ้อ..ใช่ค่ะ...แต่เป็นการเปลี่ยนแผนที่ดีต่างหาก"
 ท่านดนัยเดินเข้ามา สะอาดศรีรีบวิ่งไปหา วิมลมองท่านดนัยอย่างพิจารณา
 "คุณเล็ก...ข่าวดีค่ะ ท่านหญิงมีเพื่อนมาหา เราจะไปเที่ยวกันต่อ"
 ท่านดนัยดีใจ หันมามองรัตนาวดี พอเห็นหน้าสะอาดศรีที่จ้องมาก็หน้าเสีย
 "นายเล็ก...นี่เพื่อนของฉันวิมล...เค้าจะมาเที่ยวกับเรา ฉันเลยเปลี่ยนใจไม่กลับไปโลซานน์ แต่จะพาวิมลเค้าไปเที่ยว...วิมลจ้ะนี่นายเล็ก ...เอ้อ...คนของท่านดนัย"
 วิมลจ้องหน้าท่านดนัยนิ่ง จนลืมมารยาท ท่านดนัยหายใจไม่ทั่วท้อง
 "เอ้อ....สวัสดีครับ"
 วิมลมองอย่างเอาเรื่อง
 "คุณน่ะเหรอ...นายเล็ก"
 ท่านดนัยหลบตาวิมล
 "เอ้อ...ครับ"
 
 วิมลมองท่านดนัย สะอาดศรีเห็นวิมลจ้องท่านดนัยก็หึง...
 
 
 
  
 
 รถของท่านดนัย และ รถของเก็จกำง๋งขับตามกันมา ท่ามกลางทิวทัศน์สวยงามสองข้างทาง
 
 วิมลนั่งด้านหน้าคู่กับท่านดนัยแทนสะอาดศรีที่ต้องกลับไปนั่งรถของเก็จกำง๋ง วิมลมองทิวทัศน์อย่างตื่นตาตื่นใจ รัตนาวดีก็มีความสุข
 "เป็นไงวิมล....อยากเที่ยวภูเขาสวยๆ...สมใจไหมจ้ะ" ป้าสร้อยถาม
 
 วิมลหันมาตอบด้วยสีหน้าสนุกยิ้มแย้ม
 "ค่ะ...คุณป้าสร้อย หนูเคยเห็นแต่ในรูป พอมาเห็นของจริงสวยกว่าในรูปมากค่ะ...ท่านหญิงเพคะ...ภูเขานี้ชื่ออะไรเพคะ"
 รัตนาวดีจ้องท่านดนัย
 "ต้องถามนายเล็ก...เค้าตามเสด็จท่านดนัยบ่อย...เลยรู้จักทุกแห่ง" ป้าสร้อยบอก
 วิมลหันไปมองท่านดนัยอย่างจับผิด
 "ว่าไงคะคุณเล็ก...รู้จักไหมว่าภูเขานี้ชื่ออะไร"
 ท่านดนัยมองวิมลอย่างกลัวๆ
 "ชื่อภูเขาจุงเฟรา ครับ"
 "เก่งนะ"
 "นายเล็กเค้ารอบรู้ทุกอย่าง" ป้าสร้อยบอก
 วิมลหรี่ตามองท่านดนัย
 "ท่านดนัยคงสอนคุณมาดีแน่ๆ....ไม่น่าเชื่อนะว่ามหาดเล็กของท่านจะเก่งรอบรู้ไปหมดอย่างนี้"
 "ก็เพราะความเก่งรอบรู้ของนายเล็กนี่ละทำให้พวกเก็จกำง๋งถึงได้ติดใจขอตามเที่ยวด้วย...พูดแล้วชักจะคิดถึงหนูอาดนะเพคะ...มานั่งรถกับเราก็พูดไม่หยุดปาก"
 "ป้าอยากให้หญิงชวนเค้ามานั่งรถเราไหมล่ะคะ"
 "อย่าเลยเพคะ...เบียดกันเปล่าๆ"
 วิมลหรี่ตามองท่านดนัย ท่านดนัยขับรถไม่สนใจ วิมลจึงหันไปมองทิวทัศน์สวยงามรอบๆ...
 
 ฝ่ายสะอาดศรีนั่งหน้างอ เก็จกำง๋งหันมาเห็นก็คอยมองอย่างเป็นห่วง
 "หนูอาด...ดูวิวซิ...สวยมากเลยนะ"
 "หนูไม่มีอารมณ์จะดูหรอกนาย"
 วีระสิงห์หันมายิ้มๆ
 "แน่ละซิ...มีคนอื่นไปนั่งกับคุณเล็กแทนแล้วนี่"
 "ยุ่งชมัด...ไม่น่ามาเลย"
 "ถ้าคุณวิมลไม่มา ป่านนี้พวกเราก็ต้องแยกทางไปกันเองแล้วนะ"
 "หนูอาดไม่เห็นจะชอบยายวิมลนี่เลย...เอาแต่จ้องคุณเล็ก"
 "หนูอาด...หนูต้องระวังกิริยาหน่อยนะ...เค้าเป็นเพื่อนรักท่านหญิง"เก็จกำง๋งเตือน
 "ถือว่าเป็นเพื่อนท่านหญิงจะมาตัดหน้าหนู...หนูไม่ยอม"
 "ตัดหน้าเรื่องอะไร" วีระสิงห์ถาม
 สะอาดศรีไม่พอใจ
 "พี่เชิดอยู่เฉยๆ ดีกว่า"
 "อย่าบอกนะว่าหึงคุณเล็กน่ะ"
 สะอาดศรีค้อน
 "เปล่าซักหน่อย...แค่ไม่อยากให้เค้ามาสนใจคุณเล็ก..นี่อะไร พอมาเจอหน้าคุณเล็กก็เอาแต่จ้องเอาจ้องเอา... ไม่มีมารยาท"
 
 สะอาดศรีโกธรวิมล
 
 
 
  
 
 รัตนาวดีนั่งเล่นกับวิมลและป้าสร้อยท่ามกลางทุ่งหญ้า ขุนเขา และธารน้ำ ดนัยกับทวีกำลังจัดที่สำหรับปิคนิค สะอาดศรีป่วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆท่านดนัย เก็จกำง๋งกับวีรสิงห์ยืนชมวิวอยู่อีกด้าน
 
 วิมลบอก "เหมือนฝันเลยนะเพคะ...ได้มานั่งปิคนิคท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามอย่างนี้"
 "ก็วิมลอยากมาเที่ยวภูเขาไม่ใช่เหรอ"
 "เพคะ...แต่ไม่คิดเลยว่าจะได้มาปิคนิคอย่างนี้ด้วย"
 "เรามาปิคนิคแบบนี้กันบ่อยๆ...ทำกับข้าวทานกันด้วยนะ นายเล็กเค้าเป็นต้นเครื่องท่านดนัย...ทำอาหารเก่งอย่าบอกใคร"
 วิมลหันไปหัวเราะกับท่านหญิง ป้าสร้อยหันไปเรียกท่านดนัย
 "นายเล็ก...ต้มน้ำเดือดหรือยัง"
 ท่านดนัยหันมายิ้ม
 "น้ำเดือดพอดีเลยครับ"
 ป้าสร้อยเดินกลับไปที่ท่านดนัย รับชาแล้วเดินไปคุยกับเก็จกำง๋ง คงเหลือรัตนาวดีกับวิมล "หม่อมฉันมีเรื่องอยากจะทูล"
 "เรื่องอะไร"
 วิมลหันไปมองท่านดนัย ที่มีสะอาดศรีคอยยืนกระแซะข้างๆ
 "ก็เรื่องนายเล็กนั่น"
 รัตนาวดีคิดว่าวิมลจะพูดเรื่องท่านดนัยกับสะอาดศรี จึงพูดเสียงเย็นชาเบาๆ
 "ฉันไม่อยากพูดถึง"
 "แต่ท่านหญิง..."
 รัตนาวดีหันมาดุ พูดอย่างหงุดหงิด
 "อย่าพูดเรื่องนี้อีกนะวิมล...ช่วยไปเอากาแฟให้ฉันที...คนชงมัวแต่จีบกันอยู่นั่นแหล่ะ...ทานเสร็จแล้วจะได้ไปต่อ"
 วิมลจำใจเดินไปหาท่านดนัย มองท่านดนัยอย่างเอาเรื่อง สะอาดศรีทำหน่าไม่พอใจ
 "เอ้อ...ฉันมาขอกาแฟให้ท่านหญิง"
 "ผมกำลังจะเอาไปถวาย...เห็นว่ายังร้อนมากเลยรอสักหน่อยครับ"
 วิมลพูดยิ้มๆ
 "ไม่เป็นไร...ฉันเอาไปถวายท่านเองค่ะ"
 ท่านดนัยส่งถ้วยกาแฟที่ชงแล้วให้วิมลสองถ้วย
 "กาแฟของคุณด้วยครับ"
 วิมลยิ้ม
 "ขอบคุณค่ะ"
 วิมลรับแล้วเดินกลับไป ท่านดนัยมองตามวิมลด้วยสีหน้ากังวล สะอาดศรีหึง
 "คุณเล็กอย่าไปสนใจเค้าเลยค่ะ...เค้าคงไม่เข้าใจความหวังดีของคุณเล็ก....เพิ่งมาก็ทำท่าอยากจะหาเรื่อง"
 
 ท่านดนัยหันมามองสะอาดศรีอย่างรำคาญ
 "คุณไม่ควรกิริยาไม่ดีกับแขกของท่านหญิง คุณเอากาแฟไปให้คุณพ่อคุณดีกว่าW
 ท่านดนัยพูดแล้วก็เดินไปอีกทาง สะอาดศรีไม่พอใจ...
 
 วิมลเดินเอากาแฟมาให้รัตนาวดี
 "ขอบใจจ๊ะ"
 "แหม...นายเล็กคนนี้นี่ท่าจะตกถังข้าวสารแน่เพคะ... หนูอาดติดแจไม่ยอมห่าง"
 รัตนาวดีสีหน้าหม่นลงนิดหนึ่ง แต่ก็พยายามยิ้มแย้ม
 "ถ้าหากเค้าตกลงปลงใจกันก็ดี"
 "ดียังไงเพคะ"
 รัตนาวดีถอนใจเบาๆ
 "ก็...นายเล็กเค้าจะได้มีแฟนเป็นลูกเศรษฐี จะได้ก้าวหน้า"
 วิมลทำหน้าไม่เห็นด้วย
 "ผู้ชายที่เกาะกระโปรงเมียกินไม่เห็นจะสง่าตรงไหน"
 "นายเล็กเป็นคนเก่ง...มีความรู้ความสามารถ ถ้าได้...เอ้อ ภรรยาที่มีฐานะมาช่วยก็เป็นเรื่องดีไม่ใช่เหรอ"
 วิมลทำหน้าไม่เห็นด้วย
 "หม่อมฉันก็ยังรับไม่ได้กับผู้ชายที่หวังรวยทางลัดอย่างนี้เพคะ...แต่เท่าที่หม่อมฉันดูๆ ท่าทางนายเล็กไม่เห็นจะสนใจหนูอาดสักเท่าไหร่...แต่แม่หนูอาดนะท่าทางจะคลั่งไคล้เอามาก"
 รัตนาวดีเม้มปาก
 "อย่าพูดเรื่องนายเล็กอีกเลยนะ...ฉันบอกแล้วว่าไม่อยากฟัง เธอก็ชวนให้ฉันพูดจนได้....ฉันขอเถอะ...อย่าพูดถึงอีกเลย"
 
 รัตนาวดีเดินไปเล่นน้ำในลำธารแบบเศร้าสร้อย....วิมลมองแบบผิดสังเกตุ ...วิมลวิ่งลงไปแกล้งท่านหญิง ...หลอกล่อให้รัตนาวดียิ้ม
 
 .
 
 .
 
 
 
 
 
 |