| ppsan | 
								|  | « Reply #1 on: 28  September  2025, 13:21:55  » |  | 
 
 เจ้าจอมก๊กออผู้ทรงอิทธิพลในสมัยรัชกาลที่ 5 (ต่อ)
 
 ภาพถ่ายที่ผ่านการบูรณะและสร้างสรรค์ด้วยเทคโนโลยี AI คอลเลกชันนี้คือภาพของเจ้าจอมก๊กออในสมัยรัชกาลที่ 5 และบทความประกอบเรียบเรียงใหม่จากบทความของ varietyart จากบอร์ด postjung.com
 
 “เจ้าจอม” คือบาทบริจาริกาผู้ถวายงานรับใช้พระมหากษัตริย์ มีตำแหน่งเทียบเท่าพระสนม หากเจ้าจอมท่านใดมีพระราชโอรสหรือพระราชธิดาก็จะเรียกว่า “เจ้าจอมมารดา” บรรดาเจ้าจอมมารดาและเจ้าจอมในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่เป็นที่รู้จักในหน้าประวัติศาสตร์มากกลุ่มหนึ่งคือ “เจ้าจอมก๊กออ”
 เจ้าจอมก๊กออ หรือเจ้าจอมพงศ์ออ เป็นชื่อที่ใช้เรียกพระสนมเอกทั้งห้าในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่มีนามขึ้นต้นด้วยอักษร อ. อ่าง ได้แก่ เจ้าจอมมารดาอ่อน เจ้าจอมเอี่ยม เจ้าจอมเอิบ เจ้าจอมอาบ และเจ้าจอมเอื้อน ทั้งหมดเป็นสตรีจากราชินิกุลบุนนาค เป็นบุตรีของเจ้าพระยาสุรพันธ์พิสุทธิ์ (เทศ บุนนาค) กับท่านผู้หญิงอู่ ภริยาเอก
 
 พื้นเพ
 
 เจ้าจอมก๊กออ หรือ เจ้าจอมพงศ์ออ ทั้งห้าเป็นธิดาของเจ้าพระยาสุรพันธ์พิสุทธิ์ (เทศ บุนนาค) เจ้าเมืองเพชรบุรี กับท่านผู้หญิงอู่ สุรพันธ์พิสุทธิ์ (สกุลเดิม วงศาโรจน์) มีพี่น้องร่วมบิดามารดาทั้งหมด 14 คน และพี่น้องร่วมบิดารวม 62 คน โดยมีสตรีเข้าถวายตัวเป็นเจ้าจอมในรัชกาลที่ 5 จำนวน 7 คน ซึ่งเป็นเจ้าจอมก๊กออ 5 คน ได้แก่
 
 1. เจ้าจอมมารดาอ่อน (19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2410 – 29 มกราคม พ.ศ. 2512)
 2. เจ้าจอมเอี่ยม (12 พฤษภาคม พ.ศ. 2416 – 22 มีนาคม พ.ศ. 2495)
 3. เจ้าจอมเอิบ (22 เมษายน พ.ศ. 2422 – 11 สิงหาคม พ.ศ. 2487)
 4. เจ้าจอมอาบ (20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2424 – 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2504)
 5. เจ้าจอมเอื้อน (พ.ศ. 2430 – 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2470)
 
 ฝ่ายบิดาเป็นบุตรของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ กับหม่อมหรุ่น สืบเชื้อสายเฉกอะหมัด พ่อค้าชาวเปอร์เซียในสมัยกรุงศรีอยุธยา ฝ่ายมารดาเป็นธิดาพระยาภักดีนฤบดินทร์ (กุ้ง วงศาโรจน์) เจ้าเมืองราชบุรีคนที่ 5
 
 ถวายตัวเป็นฝ่ายใน
 
 การเข้าวังเริ่มจากเจ้าจอมมารดาอ่อนและเจ้าจอมเอี่ยมในราว พ.ศ. 2428–2429 ต่อด้วยเจ้าจอมเอิบ (พ.ศ. 2429) เจ้าจอมอาบ (พ.ศ. 2434) และเจ้าจอมเอื้อน (พ.ศ. 2447) สำหรับเจ้าจอมเอื้อนนั้น รัชกาลที่ 5 ทรงมีพระราชดำรัสขอจากบิดามารดาเพื่อให้ครบห้าท่าน นอกเหนือจากนี้ยังมีน้องสาวต่างมารดาที่เข้ารับราชการฝ่ายในคือ เจ้าจอมแก้ว (เกิดแต่หม่อมพวง) และเจ้าจอมแส (เกิดแต่หม่อมทรัพย์) ถวายตัวใน พ.ศ. 2451
 
 แม้มีเพียงบางท่านที่มีพระเจ้าลูกเธอ แต่เจ้าจอมก๊กออทั้งห้าล้วนทรงโปรดอย่างยิ่ง (ยกเว้นเจ้าจอมอาบที่มิได้เป็นพระสนมเอก) ความผูกพระราชหฤทัยยืนยาวกว่าสามทศวรรษ มิได้ตั้งอยู่เพียงสายสกุล หากเกิดจากคุณสมบัติเฉพาะตัวของแต่ละท่าน เช่น เจ้าจอมเอี่ยมเชี่ยวชาญการนวด ศึกษาโครงสร้างกายและกล้ามเนื้อ รู้จังหวะหนักเบา ช่วยบำบัดความเมื่อยล้าได้จริง ส่วนเจ้าจอมเอิบมีไหวพริบ ปฏิภาณเป็นเลิศ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าเก่ง รับหน้าที่แต่งฉลองพระองค์ ถ่ายภาพได้ และทำครัวได้พิถีพิถัน โดยเฉพาะ “ปลาทูทอด” ที่ถูกพระราชหฤทัย
 
 1. เจ้าจอมมารดาอ่อน
 เริ่มจากข้ารับใช้ในตำหนักเจ้าคุณจอมมารดาแพ (เจ้าคุณพระประยูรวงศ์) ก่อนถวายตัว และเป็นท่านเดียวในก๊กออที่ประสูติพระราชธิดา 2 พระองค์ คือ พระองค์เจ้าอรประพันธ์รำไพ และพระองค์เจ้าอดิสัยสุริยาภา
 
 2. เจ้าจอมเอี่ยม
 เลื่องชื่อเรื่อง “หมอนวด” รัชกาลที่ 5 ทรงปรารภว่าแรงเทียบผู้ชาย 8 คน แรงรวม 16 คน คราวเสด็จยุโรปครั้งหนึ่งทรงเมื่อยพระวรกายจนนอนไม่หลับ ถึงกับจะให้โทรเลขตามเจ้าจอมเอี่ยมไปนวดถึงยุโรป หรือจะเสด็จกลับกรุงเทพฯ ให้รู้แล้วรู้รอด จดหมายของสมเด็จพระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระราชเทวี ถึงสมเด็จเจ้าฟ้าบริพัตรฯ ยังว่า “แม่เอี่ยมเขาได้รับพระราชหัตถ์ทรงพรรณาคุณความดีในการนวดอยู่ข้างเหวมาก บอกว่าครั้งนี้ตัวได้ชื่อเสียงที่สุด” คราวทรงประชวรหนัก เจ้าจอมเอี่ยมถวายงานนวดสม่ำเสมอ และเมื่อเสร็จมักเรียกเจ้าจอมเอิบมารับช่วงต่อ
 
 3. เจ้าจอมเอิบ
 โปรดให้ “ติดพระองค์” ใกล้ชิดอยู่เสมอ แม้ครั้งเสด็จยุโรปครั้งที่สองไม่มีฝ่ายในตามเสด็จ ก็ยังมีพระราชหัตถเลขาว่า “ทรงเห็นหน้ามากกว่าผู้ใด และฝันถึงอยู่ร่ำไป” ภารกิจหลักคือแต่งพระองค์ก่อนเสด็จฯ ทุกครั้ง ระหว่างแต่งพระองค์ทรงหยอกล้อโดยเอนพระองค์มาทางเจ้าจอมเอิบให้สำราญ นอกจากนี้ยังมีฝีมือถ่ายภาพ และทำครัวชำนาญ—โดยเฉพาะปลาทูทอดที่ทรงกำชับให้เจ้าจอมเอิบทอดถวายเท่านั้น
 
 4. เจ้าจอมอาบ และ 5. เจ้าจอมเอื้อน
 
 ทั้งสองท่านถวายงานใกล้ชิดไม่แพ้กัน บันทึกของหม่อมเจ้าจงจิตรถนอม ดิศกุล เล่าว่า ยามทรงงานจะมีพระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระราชเทวี ทรงหมอบเขียนตามรับสั่ง ส่วนเอี่ยม เอิบ อาบ เอื้อน จะนั่งคอยที่พระเฉลียงจนเสร็จ บางครั้งยาวถึงรุ่งเช้า เจ้าจอมอาบชอบดนตรีไทย–สากล ไปมาหาสู่พระองค์เจ้าอาทรทิพยนิภาบ่อยครั้ง และบั้นปลายชีวิตย้ายไปพำนักในวังของพระองค์
 
 พระมหากรุณาธิคุณและที่พำนัก
 
 รัชกาลที่ 5 ทรงพระเมตตา พระราชทานสิ่งของ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ เพชรนิลจินดาอยู่เสมอ ครั้นเสด็จนิวัติจากยุโรป ยังทรงพระราชทานสร้อยเพชรและเทียร่า และโปรดให้สร้างตำหนัก/เรือนพระราชทานแก่ก๊กออทุกท่าน ทั้งในสวนดุสิต สวนสุนันทา และบางปะอิน
 
 เจ้าจอมก๊กออ กับสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรีฯ
 
 รัชกาลที่ 6 ทรงบันทึกไว้ว่า รัชกาลที่ 5 “ทรงพระเมตตาและทรงเกรงพระหฤทัยเสด็จแม่อยู่มากตลอดกาล” และมีพระราชดำรัสชวนให้เสด็จไปเมืองเพชรบุรี แต่ “เสด็จแม่” หรือสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ เสด็จไปเพียงครั้งแรกครั้งเดียว โดยทรงให้เหตุผลที่ไม่ตามเสด็จครั้งหลัง ๆ เนื่องจากสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าพาหุรัตมณีมัย กรมพระเทพนารีรัตน์ พระราชธิดาตามเสด็จไปเพชรบุรีแล้วประชวร กลับกรุงเทพฯ แล้วก็สิ้นพระชนม์
 
 อย่างไรก็ตาม รัชกาลที่ 6 ทรงบันทึกว่า เหตุผลดังกล่าว “ทรงยกเป็นข้ออ้างมากกว่า” เพราะสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรีฯ เคยรับสั่งกับพระองค์ว่า “แท้จริงเหตุที่ไม่อยากเสด็จเพ็ชรบุรีนั้น เพราะทรงขวาง ‘ก๊ก อ’”
 
 รัชกาลที่ 6 จึงกราบทูลว่า หากไม่ตามเสด็จจะทำให้รัชกาลที่ 5 ไม่พอพระราชหฤทัย และอาจเปิดช่องให้ “ผู้เป็นอมิตร์ฉวยโอกาสกราบบังคมทูลอะไรต่อมิอะไรได้” สมเด็จพระนางเจ้าฯ ตรัสตอบว่า
 
 “อย่างไรๆ เขาก็หาเรื่องทูลอยู่เสมอแล้ว, จะเสด็จไปหรือมิเสด็จก็คงเท่ากัน… จะให้แม่ไปประจบเมียน้อยของพระบิตุรงค์นั้น เหลือกำลังละ”
 
 ต่อมาภายหลัง รัชกาลที่ 5 มีพระราชดำรัสว่า
 
 “แม่เล็กเขาเบื่อผัวเสียแล้ว, อยากอยู่ในกรุงเทพฯ เพื่อชมบุญลูกของเขามากกว่า” (แม่เล็กหมายถึงสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรีฯ)
 
 รัชกาลที่ 6 จึงนำความขึ้นกราบทูลให้สมเด็จพระนางเจ้าฯ ทราบ ทำให้ทรงดาลโทษะ และจำเป็นต้องช่วยกราบทูลแก้ไขอยู่นาน จนในที่สุดจึงทรงยอมคล้อยตามและรับสั่งว่า หากรัชกาลที่ 5 ดำรัสชวนไปอีกก็จะตามเสด็จ แต่ “จะให้ฉันกระเสือกกระสนไปทูลขอตามเสด็จนั้น ฉันทำไม่ได้”
 
 แม้จะมีเรื่องก๊กออ “ขวางพระทัย” อยู่บ้าง ยังปรากฏอีกเหตุการณ์หนึ่ง: เจ้าจอมเอิบ กล้าทูลขอ “เข็มขัด” ต่อหน้าพระพุทธเจ้าหลวงและสมเด็จพระพันปีอย่างตรงไปตรงมา จนสมเด็จพระพันปีทรงขัดไม่ได้ ต้องหยิบประทานให้ (กัณฑาทิพย์ สิงหะเนติ, 2558)
 
 ฉัตรดาว ลีเชวงวงศ์ อธิบายในหนังสือ การเมืองในราชสำนักฝ่ายในสมัยรัชกาลที่ 5 ว่า สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรีฯ ทรงมีผู้อยู่ในฐานะ “อมิตร์” ซึ่งกราบบังคมทูลถึงพระองค์ในแง่ลบแก่รัชกาลที่ 5 อยู่เสมอ “โดยหนุนให้ท่านทรงเกิดความอิจฉา แก่ผู้ที่เคยเปนคู่แข่งเดิมของพระองค์ท่าน” (ราม วชิราวุธ, 2545)
 ในหนังสือ ย้อนรอยเจ้าจอมก๊กออในรัชกาลที่ 5 ผู้เขียน (หลานของเจ้าจอมเอี่ยม) เล่าเกร็ด “แกล้ง” ในฝ่ายในของเจ้าจอมเอี่ยม: เวลาเฝ้าถวายงานจะมีผู้นั่งรอคิว หากผู้ที่กำลังถวายงาน “ยังไม่ออกทางประตู” จะถือว่ายังไม่เสร็จ คนต่อไปจึงต้องรอ ครั้นเจ้าจอมเอี่ยมถวายงานนวดเสร็จ บางครั้งท่านแกล้ง “ปีนออกหน้าต่าง” ปล่อยให้คนต่อไปรอ เพราะเข้าใจว่า “ยังนวดไม่เสร็จ”
 
 ด้านความสัมพันธ์โดยรวม ก๊กออยังสนิทสนมกับพระภรรยาเจ้า เจ้าจอมมารดา เจ้าจอม และพระราชธิดาหลายพระองค์—เจ้าจอมอาบชอบดนตรีไปมาหาสู่พระองค์เจ้าอาทรทิพยนิภาเนือง ๆ บั้นปลายก็ย้ายไปพำนักที่วังของพระองค์ ส่วนเจ้าจอมเอิบเชี่ยวชาญถ่ายภาพ มีภาพกำลังตั้งกล้องถ่ายพระราชชายา เจ้าดารารัศมี ขณะที่เจ้าจอมเอี่ยมช่วยพระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมขุนสุทธาสินีนาฏ ทำเครื่องเสวยถวาย
 
 เครื่องราชอิสริยาภรณ์
 
 เจ้าจอมมารดาอ่อน เจ้าจอมเอี่ยม เจ้าจอมเอิบ และเจ้าจอมเอื้อน ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ ส่วนเจ้าจอมอาบได้รับ ตติยจุลจอมเกล้า ความแตกต่างย่อมก่อให้เกิดหวง–หึง–ริษยาอยู่บ้าง แต่โดยเนื้อแท้ทุกท่านยังคงสุภาพอ่อนโยน จงรักภักดีต่อเบื้องพระยุคลบาท ในภายหลัง รัชกาลที่ 9 พระราขทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นปฐมจุลจอมเกล้า แก่เจ้าจอมมารดาอ่อน
 
 หลังสิ้นรัชกาล
 
 หลังสวรรคตของรัชกาลที่ 5 ก๊กออและพระราชธิดา—พระองค์เจ้าอรประพันธ์รำไพ และพระองค์เจ้าอดิสัยสุริยาภา—ยังพำนักอยู่ที่วังสวนสุนันทา ต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 จึงย้ายไปยังเรือนสร้างใหม่ริมคลองสามเสน–ถนนนครราชสีมา บนที่ดินพระราชทาน แบ่งเป็น “สวนนอก” เรียกตามเจ้าของ—วังสวนปาริจฉัตก์ (สวนท่านอ่อน), สวนท่านเอิบ, สวนท่านอาบ, สวนท่านเอี่ยม—และพำนักอยู่จนสิ้นชีพิตักษัย ผู้ถึงแก่อสัญกรรมลำดับท้ายสุดคือ เจ้าจอมมารดาอ่อน ใน พ.ศ. 2512 สิริอายุ 101 ปี
 
 
 อนุสรณ์
 * อรอนุสรณ์ 2476 — สุสานหลวง วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร
 * เอี่ยมอนุสรณ์ 2495 — สุสานหลวง วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร
 * เอิบอนุสรณ์ 2480 — สุสานหลวง วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร
 * อนุสาวรีย์เจ้าจอมอาบ — สุสานหลวง วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร
 * สถานีเอื้อน อนามัย — สถานอนามัยแห่งแรกของจังหวัดเพชรบุรี จากเงินบริจาคของเจ้าจอมมารดาอ่อน (เป็นมรดกของเจ้าจอมเอื้อน)
 
 โพสต์โดย: varietyart
 อ้างอิงจาก: วิกิพีเดีย, อาหารสมอง
 อ่านต่อได้ที่ https://board.postjung.com/1541142
 #aifashionlab #AI #aiartist #aiart #aifashion #aifashiondesign #aifashionstyling #aifashiondesigner #fashion #fashionhistory #historyoffashion #fashionstyling #fashionphotography #digitalfashiondesign #digitalcostumedesign #digitaldesign #digitalaiart #ThaiFashionHistory #ThaiFashionAI #thailand
 
 .
 
 
 ขอขอบคุณ เรื่องและภาพจาก
 https://www.facebook.com/groups/734710249885642/user/100091148315543/
 AI Fashion Lab
 https://www.facebook.com/aifashionlab/posts/pfbid02eE4oKhHe2reRuJMMf9j93eSAj429M4nzZgCdFmJFyZvjm7q22SX7CfqXZsgqNygZl
 
 .
 
 https://www.facebook.com/groups/734710249885642
 ลักษณะไทย
 
 .
 
 
 
 
 
 |