| ppsan | 
								|  | «  on: 11  July  2025, 09:58:23  » |  | 
 
 ไปซะแล้ว...อุ๊งอิ๊ง. หลานรักของลุง
 วันนี้(01-07-68) ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์ 9:0 รับคำร้องของ สว. ที่ยื่นถอดถอน "แพทองธาร ชินวัตร" ไว้วินิจฉัย กรณีคลิปเสียงคุยฮุนเซน ขณะที่มติ 7:2 สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีชั่วคราวตั้งแต่ 1 ก.ค.2568 เป็นต้นไป จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยชี้ขาด และให้ส่งเอกสารชี้แจงภายใน 15 วัน
 จากกรณีนี้ ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ โดยส่วนใหญ่ให้ความเห็นใจในความผิดพลาดของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งสรุปที่มาของความหายนะครั้งนี้ว่า "มาจากบุคคล 2 คน" ใน 2 กรณี คือ
 
 1. นายทักษิณ ชินวัตร บิดานายกฯ ที่ใช้อำนาจเงินและฐานอำนาจพรรคการเมือง "พรรคเพื่อไทย" ที่อยู่ใต้ร่มเงาของตนเอง อุ้มชูและผลักดันให้บุตรสาวคนเล็กคือ แพทองธาร ชินวัตร ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี อันเป็นตำแหน่งสำคัญที่สุดของประเทศไทย ทั้งๆที่ขาดวุฒิภาวะ ความเฉลียวฉลาด และไม่มีประสบการณ์การบริหารงานทางการเมือง มาก่อนเลย ต้องรับฟังและปฎิบัติตามปกาศิตของพ่อ ทำให้ต้องติดหล่มทางการเมืองเฉกเช่นเดียวกับนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อาของเธอที่ต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศมาแล้ว
 
 2. สมเสร็จฮุนเซน ที่เร่งร้อนและรุมเร้าบีบบังคับให้นายกฯไทยทำตามความต้องการของตนในกรณีพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา จนเลยเถิดถึงกับปล่อยคลิปเสียงการสนทนาของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร กับฮุนเซน เพื่อตอบโต้และหวังจุดชนวนความโกรธแค้นให้เกิดในหมู่คนไทยทั่วไป โดยพุ่งประเด็นไปที่นางสาวแพทองธารว่า "ขายชาติ" และพูดจาข่มขู่ต่างๆนานา พร้อมที่จะเปิดเผยคลิปเสียงและเรื่องไม่ดีต่างๆ ของตระกูล "ชินวัตร" ที่กระทำต่อประเทศไทย ให้ประชาชนคนไทยได้รับทราบ
 
 สำนักข่าวต่างชาติ ส่วนใหญ่โจมตีสมเสร็จฮุนเซน ในเรื่องไร้มารยาททางการเมือง บิดเบือน และเป็นนักฉกฉวยโอกาส ที่ไม่น่าคบหาด้วย
 .
 
 
 
  
 .
 
 Let it be.
 
 
  
 
  
 
  .
 
 
 
 
 
 |