ppsan
|
 |
« on: 29 May 2025, 10:37:36 » |
|
นกกระเต็นปักหลัก : ครัวมะนาว

นกที่มีสีสันตระกูลหนึ่งของคนดูนกคือ กลุ่มนกกระเต็น โดดเด่นด้วยสีสันที่ฉูดฉาด และลีลาการพุ่งจับปลาที่น่าตื่นเต้น กระเต็นบางชนิดก็เป็นนกประจำถิ่น บางชนิดก็เป็นนกอพยพ กระเต็นปักหลักเป็นนกประจำถิ่น หากินตามแหล่งน้ำธรรมชาติ แน่นอนว่า แหล่งน้ำที่พบนกกระเต็นปักหลักนั้นคงมีอยู่หลายแห่ง แต่คนที่ไม่ใช่ชาวบ้านตรงนั้น ก็คงไม่มีโอกาสเข้าไปถ่ายภาพ ดังนั้นหมายที่เป็นสถานที่สาธารณะ จึงไม่ใช่สิ่งที่หาได้ง่ายนัก แต่มีหมายหนึ่งซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี นั่นก็คือร้านอาหารครัวมะนาว สายวันหนึ่งในต้นเดือนกรกฎาคม 2566 เราออกจากบ้าน เดินทางไปยัง อ. บางบาล พระนครศรีอยุธยา เพื่อไปตามหาพวกมัน เริ่มต้นจากการสั่งอาหารมาทาน ถือเป็นการอุดหนุนสถานที่ ที่ช่วยให้พวกเราได้มีหมายถ่ายนกกระเต็นปักหลักกันต่อไป ในร้านมีรูปถ่ายนกกระเต็นปักหลักที่เป็นพระเอกของที่นี่ติดไว้ มีโต๊ะหนึ่งที่นั่งทานอาหารอยู่ก่อนหน้า กำลังเอารูปในกล้องมาอวดกัน ฟังเสียงแล้วน่าจะเป็นคนจีน แต่ว่าจะเป็นประเทศไหน เราไม่ทราบได้ เห็นไหมว่า นี่เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวได้ ด้วยนกเพียงตัวเดียว

หลังจากอิ่มหนำสำราญ ก็ได้เวลาในการออกไปหานก มีคนทำรีวิวเส้นทางเดินไว้ใน youtube ด้วยล่ะ ก็ขอบคุณพระเจ้าที่ให้ผมมีชีวิตอยู่จนถึง ในวันที่โลกนี้นั้นมีความสะดวกสบายขนาดนี้ ระหว่างทางเดินไปก็เห็นนกกระจาบทองกำลังทำรัง เป็นนกที่หาไม่ยากและมีสีสันงดงาม แต่ทำรังไม่สวยเลย 11.30 น. ก็มาถึงริมน้ำเจ้าพระยาที่จะไหลไปสู่เกาะเมือง มีนักถ่ายภาพท่านหนึ่งยืนอยู่ เราสอบถามข่าวสารตามประสา พี่เค้าบอกว่า มารอเกือบชั่วโมงแล้ว นกยังไม่มาเลย ผมกำลังจะไปแล้ว แฟนรออยู่ที่ร้านอาหาร อ้าวๆๆๆ อือ.. เข้าใจหัวอกพ่อบ้านด้วยกัน
แต่ว่าเราจะเอายังไง แน่นอน ต้องรอสิ ลุ้นหน่อย เพิ่งมา แล้วพี่เค้าก็เดินจากไป เราก็หามุมว่า นกน่าจะมาจากทางไหน ร้านเค้าช่วยอำนวยความสะดวก ด้วยการเอาตาข่ายสีเขียวมาพราง เพราะเป็นที่รู้กันว่า นกกระเต็นนั้นสายตาดีมาก
และอย่างไรก็ตามการเป็นสถานที่สาธารณะในการถ่ายนก ก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะสามารถเข้าไป รบกวนชีวิตที่อยู่ตามธรรมชาติของพวกเค้ามากได้

บางคนสงสัยว่า เช่นนั้นจะเปิดให้เป็นที่ถ่ายนกทำไม ไม่ปล่อยให้เค้าอยู่ ก็เป็นสิ่งที่คิดได้ แต่หากมองด้วยใจเป็นกลาง ใช่ว่าทุกคนจะสนใจชีวิตนก บางคนอาจจะยิงมัน บางคนอาจจะทำลายรังมัน
แต่ที่ผู้ใหญ่บ้านท่านนี้ คอยดูแลให้พวกมันปลอดภัย ให้โอกาสนักดูนกเข้ามาถ่าย และใช้เป็นจุดขายของร้านอาหาร ผมมองว่า นี่คือ win-win–win suituation นก เจ้าของกิจการ และนักถ่ายภาพ
หยิบเก้าอี้สนามมานั่งรอ ผ่านไปราว 20 นาที นกก็บินมาจากริมน้ำ เกาะอยู่บนกิ่งไม้ที่มีคนปักไว้ให้นกเกาะ เรายกกล้องขึ้นถ่ายภาพ แน่นอนว่า ไม่มีอุปกรณ์ขั้นเทพๆ ใด และตัวเองก็ไร้ซึ่งผีมือ แต่เราก็ได้รูปภาพมัวๆ เก็บไว้เป็นประสบการณ์ชีวิต และอย่างน้อยก็โชคดีกว่าพี่ท่านเมื่อกี้ ซึ่งมาที่นี่จากกรุงเทพเพื่อมาถ่ายนกตัวเดียว นี่ล่ะชีวิตของคนกลุ่มนี้ ไกลแค่ไหน ขอแค่ให้รู้ข่าว แต่สุดท้ายก็ได้แต่ใช้โชคตัวเองว่าวันนั้นจะมีมากหรือน้อย
นกกระเต็นจัดอยู่ใน order Alcedines โดยมี 3 suborder Alcedininae เป็นกลุ่มนกกระเต็นน้อยทั้งหลาย Halcyonidae เป็นกลุ่มใหญ่สุด เช่น กระเต็นอกขาว นกกินเปรี้ยว Cerylidae ที่พบในไทยสองสายพันธุ์
1 กระเต็นปักหลัก(pied kingfisher) 2 กระเต็นขาวดำใหญ่ (crested kingfisher)

การตั้งชื่อในภาษาอังกฤษ pied หมายถึงแถบสีขนขาวและดำสลับกันบนลำตัว ถูกใช้กับกระเต็นปักหลัก เพราะมันน่าจะถูกค้นพบก่อน
เมื่อเจอกระเต็นขาวดำใหญ่ที่มีสีลำตัวคล้ายกัน จึงใช้คำว่า crested ตามการตั้งขึ้นของขนบนหัวราวกับหงอน แม้กระเต็นปักหลักจะมีหงอนบนหัวเหมือนกัน แต่ก็ตัวเล็กกว่าหงอนบนหัวจึงไม่โดดเด่นเท่า
ในขณะที่การตั้งชื่อภาษาไทย pie kingfisher ว่ากระเต็นปักหลัก นำมาจากพฤติกรรมการหากิน ที่สามารถการกระพือปีกจนหยุดนิ่งกลางอากาศ ก่อนที่จะพุ่งเป็นเส้นตรงเพื่อลงไปจับปลาในน้ำ เป็นความสามารถพิเศษที่โดดเด่น แตกต่างจากนกกระเต็นชนิดอื่น และนำสีขนและขนาดตัวของ crested kingfisher มาตั้งชื่อว่า กระเต็นขาวดำใหญ่ เพราะกระเต็นปักหลักมีขนาดเพียง 25 ซม. เมื่อเปรียบเทียบกับกระเต็นขาวดำใหญ่ที่มีขนาด 41-43 ซม.
กระเต็นปักหลักนั้นเห็นได้ง่ายกว่า พบตามแหล่งน้ำพื้นที่ราบ ในขณะที่กระเต็นขาวดำใหญ่ อาศัยอยู่ตามลำธารในป่า ที่โดดเด่นและมีชื่อเสียงว่าถ่ายง่ายก็คือที่เมืองคอง เชียงใหม่

แม้ Wikipedia จะกล่าวว่ากระเต็นปักหลักเป็นกระเต็นที่มีจำนวนมาก ร่วมกับอีกสองสายพันธุ์ ได้แก่ นกกระเต็นน้อยธรรมดา และนกกินเปี้ยว แต่ในประเทศไทยกลับไม่ใช่นกที่พบได้ง่ายนัก เมื่อเทียบกับพวกอกขาว กระเต็นปักหลักแบ่งย่อยออกเป็น 5 subspecies แยกตามพื้นที่ ตั้งแต่อียิปต์ ตุรกี อัฟกานิสถาน อินเดีย อินโดไชนา จนถึงจีนตอนใต้ หากเป็นคนที่มีเวลา เค้ามักจะรอถ่ายจังหวะการหาอาหารแบบ hop เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ เมื่อเทียบกับพฤติกรรมการของนกฮัมมิ่งเบิร์ด ที่ขนาดตัวที่เล็กกว่า และดื่มน้ำหวานที่แปลงเป็นพลังงานได้อย่างรวดเร็ว
กระเต็นปักหลักจึงต้องกินอาหารราวครึ่งหนึ่งของน้ำหนักตัวทุกวัน เพื่อให้เพียงพอต่อการกระพือปีกราว 10 ครั้งต่อวินาทีในการลอยตัว วิวัฒนาการที่น่าทึ่งนี้ มีเพื่อแย่งชิงพื้นที่หากินของนกกระเต็นชนิดอื่น ที่ต้องเกาะรออยู่บนกิ่งไม้ ที่ไม่รู้ว่าจะขึ้นอยู่ตรงไหนของแหล่งน้ำ ให้เหยื่อว่ายเข้ามาใกล้ ดังนั้นกระเต็นปักหลักจึงไม่มีขีดจำกัดนี้ กระเต็นปักหลักที่ผมถ่ายมาแบบไม่ค่อยชัดนี้เป็นตัวเมีย สังเกตได้จากแผงขนสีดำใต้คอที่ขาดออกไม่ได้เชื่อมติดกัน ในขณะที่ตัวผู้นั้นเชื่อมกันมองเห็นเป็นแผงสีดำสองแถบ
เรายังมีหมายกระเต็นปักหลักอยู่ใน list อีกหนึ่งรายการ ภาวนาในใจ คราวหน้าหากมีโอกาสขอให้ภาพตัวผู้ละกัน
. ที่มา : ขอขอบคุณเรื่องและภาพจาก ผู้ชายในสายลมหนาว https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=nontree&month=10-2023&date=19&group=22&gblog=119 .
|