| ppsan | 
								|  | «  on: 25  May  2025, 16:50:28  » |  | 
 
 สวนรถไฟ :นกกระเต็นแดง
 
  
 อิ่มท้องและอิ่มใจจากร้านก๋วยเตี๋ยว เราเดินกลับมาที่สถานีกรุงธนบุรี
 ขึ้น ฺBTS กลับมาที่สถานีหมอชิตอีกครั้ง จุดหมายคือสวนรถไฟ
 จากสถานีรถไฟฟ้า ก่อนหน้าเคยลองเดินไปสวนสมเด็จฯ ปรากฏว่าหน้ามืด
 วันนี้เลยถามวินมอเตอร์ไซค์ บอกว่าไปสวนรถไฟ ราคา 40 บาท
 
 เอาก็เอา ตอนนี้ตะวันตรงหัวพอดี ท่าจะไม่ดีแน่ ไม่ถึง 10 นาทีก็มาถึง
 ได้หมายที่ชัดเจนเพิ่มเติมมาจากคนที่ไปถ่ายนกแต้วแร้วร้านก๋วยเตี๋ยวมา
 เค้าบอกว่าเดินไปตามทางจักรยานไม่นานก็เจอ บ่อน้ำหน้าสวนรถไฟ
 มีคนกลุ่มหนึ่งยืนถ่ายภาพกันอยู่ ตอนแรกที่ได้ข่าวเค้าว่าต้องใช้ blind
 
 แต่ที่เราเห็นคือนกเกาะอยู่บนกิ่งไม้โล่งๆ เลย ไม่มีความกลัวคนสักนิด
 ตาดว่าคงชินกับนักดูนกไปแล้ว เรายกกล้องเหนือไหล่คนข้างหน้า
 และกดภาพไป 4-5 ชุด ดูภาพขยายใน viewfinder ว่าชัดไหม OK กลับได้
 เราเดินย้อนกลับมาที่ประตูเดิม และทำในสิ่งที่อยากรู้มานาน
 
 นั่นก็คือจากสวนรถไฟเราจะเดินไป MRT ได้ไหม ก็เดินตาม goolge map ไป
 อุปสรรคที่ทำให้แทบถอดใจสำหรับคนวัยชรา นั่นก็คือสะพานลอยข้ามถนนวิภาวดี
 มาถึงนี่แล้ว ก็ต้องข้ามไป ลงจากสะพานด้วยความดีใจที่เห็นสถานีพหลโยธิน
 ซ่อนตัวอยู่ในสวนสาธารณะขนาดเล็กที่เป็นทางยกระดับข้ามไปยังถนนลาดพร้าว
 
 
  
 นกกระเต็นแดง (Ruddy kingfisher) สองเพศเหมือนกัน ดูเผินๆ มีสีแดงทั่วทั้งตัว
 ปากสีแดงหรือสีแสด ม่านตาสีน้ำตาลเข้ม หนังรอบตาสีแดง หน้าผาก หัวตา แก้ม
 และขนคลุมหูสีแดงอมน้ำตาลออกส้ม กระหม่อม ท้ายทอย
 ส่วนที่เหลือของหัว หลัง ไหล่ ปีก และหางสีแดงอมน้ำตาลเหลือบสีม่วงเป็นมัน
 
 นกกระเต็นแดงในเมืองไทยสามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม
 Halcyon coromanda minor เป็นนกประจำถิ่น
 อาศัยป่าชายเลนและป่าที่ราบต่ำทางภาคใต้ของไทย
 คาบสมุทรมาลายา เกาะชวา และเกาะบอร์เนียว
 
 Halcyon coromanda coromanda เป็นนกอพยพ
 มีถิ่นอาศัยอยู่บริเวณตะวันออกของหิมาลัย จีนตอนใต้-เนปาล พม่า
 ซึ่งจะอพยพผ่านประเทศไทยลงไปถึงสุมาตราและชวา
 สามารถพบได้ตามสวนสาธารณะทางภาคกลางภาคตะวันออก
 ในช่วงขาไปตอนเดือนตุลาคม และขากลับในเดือนพฤษภาคม
 
 จุดจำแนกหลักคือ ชนิดย่อยประจำถิ่นมีลำตัวสีเข้มกว่า โดยเฉพาะบริเวณหัว
 ซึ่งเป็นสีส้มอมแดงเฉดเดียวกับแผ่นหลัง ในขณะที่ชนิดย่อยอพยพมีหัวเป็นสีส้มอ่อนกว่า
 และแถบตะโพกสีฟ้าอ่อนของชนิดย่อยประจำถิ่นนั้นกว้างกว่าชนิดย่อยอพยพ
 
 
  
 สรุปความรู้ที่ได้จาก trip นี้ คือ
 
 การถ่ายภาพนกสวยๆ ที่เราเห็นนั้นต้องใช้บังไพรถ่ายจากระยะใกล้มาก
 นกที่เห็นใน blog นี้ใช้เลนส์ระยะ 600 mm ในระยะ 5 เมตร ไม่มีการ crop ภาพ
 
 คนดูนกมักจะชินกับการบอกระยะของกล้องส่องทางไกล
 เช่นกล้องสองตากำลังขยาย 8 เท่า แล้วจะเทียบกับเลนส์ tele ได้อย่างไร
 มีคนบอกว่าจะได้ภาพประมาณจากเลนส์ 400 mm
 ดังนั้นเลนส์ 600 mm ก็จะเทียบได้กับระยะ กล้องสองตา 12 เท่า
 
 ภาพทั้ง 2 ชุดนี้ หากเอาไปเปิดข้อมูลดูจะเห็นว่า ใช้ ISO 12800 เลยทีเดียว
 ทั้งที่เวลาถ่ายนั้นอยู่ในช่วงเที่ยงถึงบ่าย เพียงแต่นกนั้นอยู่ในร่มไม้
 ดูด้วยตาเปล่าก็ไม่ถือว่าแสงน้อย แต่เนื่องจากไม่ได้ใช้ขาตั้ง
 ต้องใช้ speed สูงราว 1/250 เลนส์มีค่ารูรับแสง F 11 คงที่
 จึงต้องปล่อยค่า ISO ไหล หาก zoom ดูจะเห็นว่าภาพแตก
 
 ดังนั้นภาพนกสวยๆ ที่เราเห็นจึงมาจากกล้อง เลนส์ ขาตั้งกล้องที่แพงกว่านี้มาก
 นอกจากนี้ การรอคอยจังหวะและประสบการณ์ของผู้ถ่ายภาพก็เป็นสิ่งสำคัญ
 ไม่น่าแปลกอะไรที่เวลาเค้ามา post ภาพ แล้วจะได้คนมากด like จำนวนมาก
 เพราะการถ่ายภาพนกนี่เป็นอะไรที่ลงทุนสูงมากทุกอย่างเลย
 
 
.
 ที่มา : ขอขอบคุณเรื่องและภาพจาก
 ผู้ชายในสายลมหนาว
 https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=nontree&month=05-2022&date=25&group=22&gblog=129
 .
 
 
 
 
 
 |