Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
User Info
Welcome, Guest. Please login or register.
18 May 2024, 10:58:06

Login with username, password and session length
Search:     Advanced search
News
ท่านสมาชิกสามารถเปลี่ยนรูปแบบ (Theme) ได้อีกหลายแบบ
เชิญทดลองโดยคลิกที่ลิงค์ข้างล่าง ได้เลยครับ

http://www.smilesiam.net/index.php/topic,3170.msg4713.html
Forum Stats
25,701 Posts in 12,500 Topics by 70 Members
Latest Member: KAN
Home Help Search Calendar Login Register
Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...  |  หมวดหมู่ทั่วไป  |  สาระน่ารู้  |  เรื่องที่ควรรู้เท่าทันระดับโลก  |  ไขปริศนา ''รหัสลับดาวินชี'' : จากเค้าโครงความจริงหรือแค่คำลวง
0 Members and 1 Guest are viewing this topic. « previous next »
Pages: [1] Go Down Print
Author Topic: ไขปริศนา ''รหัสลับดาวินชี'' : จากเค้าโครงความจริงหรือแค่คำลวง  (Read 974 times)
LAMBERG
มายิ้มในใจกันไว้เรื่อยๆ สนุกดีๆ
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 1,475


View Profile
« on: 13 January 2013, 11:33:48 »

ไขปริศนา ''รหัสลับดาวินชี'' : จากเค้าโครงความจริงหรือแค่คำลวง


ใน ''รหัสลับดาวินชี'' หัวหน้าสมาคมลับล้วนเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ทั้งสิ้นเช่น ไอแซค นิวตัน วิกเตอร์ ฮิวโก และลิโอนาโด ดาวินชี  ทุกคนสาบานที่จะเก็บรักษาความลับและปกป้องผู้สืบสายเลือดจากพระเยซู เรารู้ดีว่า ทุกคนเชื่อว่าพระเยซูมีอยู่จริง แต่พวกเขาเชื่อหรือไม่ว่ามีสมาคมลับที่ชื่อ ''ไพรออรี่ ออฟ ไซออน''


ในช่วงราวๆ ปี 1980 เริ่มมีการพูดถึงสมาคมลับดังกล่าวเมื่อมีการตีพิมพ์หนังสือสองเล่มคือ ''โลหิตศักดิ์สิทธิ์และจอกศักดิ์สิทธิ์'' และ ''The Messianic Legacy'' แต่งโดย ไมเคิล เบเก้น ริชาร์ด ลีห์ และเฮนรี่ ลินคอล์น ซึ่งเป็นนักเขียนบทโทรทัศน์

ความลับเกี่ยวกับผู้สืบสายเลือดจากพระเยซูถูกเก็บไว้เป็นเวลานับพันปีโดยไม่มีใครทราบเรื่อง สมาคมลับดูจะทำหน้าที่ปกปิดความลับได้ดีมาก ถ้าเช่นนั้น ลินคอล์นได้เบาะแสของเรื่องนี้มาได้อย่างไร



สาเหตุของเรื่องเริ่มขึ้นในปี 1969 ขณะที่ลินคอล์นไปพักผ่อนที่ประเทศฝรั่งเศส เขาได้ซื้อหนังสือชื่อ The Accured Treasure of Renne le Chateau แต่งโดย เจราร์ด เดอ ซาด ซึ่งเป็นเรื่องจริงเกี่ยวกับชีวิตของพระในสังฆมณฑลในศตวรรษที่ 19 ชื่อ เบรองเจ โซนิแอร์ ซึ่งอาศัยอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศสและเป็นผู้ค้นพบบันทึกจำนวนหนึ่งที่ถูกซ่อนไว้ภายในเสาโบสถ์

ข้อความในบันทึกถูกนำมาตีพิมพ์ในหนังสือ ตามความเห็นของ เดอ ซาด ข้อความในบันทึกระบุถึงข้อมูลที่เป็นความลับ ซึ่งเขาได้ทิ้งข้อความดังกล่าวไว้เป็นปริศนาโดยไม่มีการแปล ในเวลานั้น ลินคอล์นได้ติดต่อไปยังเดอ ซาดซึ่งแนะนำให้เขาศึกษาข้อมูลจากเอกสารจำนวนหนึ่งที่ถูกเก็บรักษาไว้ที่หอสมุดแห่งชาติของฝรั่งเศส เอกสารดังกล่าวมีชื่อว่า Dossier Secrets หรือ เอกสารลับ


นี่คือจุดเริ่มต้นของตำนานเกี่ยวกับ สมาคมลับไพรออรี่ โดยเอกสารระบุว่า สมาคมลับก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1099 และยังได้ก่อตั้งขุมกำลังของตนเป็นกองทหารที่ชื่อ อัศวินแห่งเทมพลาร์ (The Knights of Templar)

ผู้ปกครองคนแรกในราชวงศ์เมอโรวิงเจียน ชื่อ เมอโรเว็ค ซึ่งเป็นผู้ครองอาณาจักรฟรังก์ในช่วงต้นศตวรรษที่ 5 เรื่องราวของ เมอโรเว็ค มีอยู่ในรูปของตำนานมากกว่าข้อเท็จจริง เช่น ตำนานที่ระบุว่า เมอโรเว็คมีพ่อเป็นปลา ข้อมูลพวกนี้ทำให้เฮนรี่ ลินคอล์นสนใจ



ลินคอล์นและผู้ร่วมเขียนหนังสือเล่มนี้เชื่อว่า พวกเขาได้ค้นพบโยงใยระหว่างพระเยซูกับราชวงศ์เมอโรวิงเจียน และกล่าวว่า สมาชิกคนหนึ่งในราชวงศ์เมอโรวิงเจียนชื่อ เธโอโดริก ได้สวมมงกุฎขึ้นเป็นผู้นำชนชาติยิวที่อาศัยอยู่ในเขตที่ในอดีตเรียกว่า เซพติมาเนีย ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ผู้เขียนกล่าวว่า เธโอดอริกเป็นที่รู้จักกันในฐานะราชาของชาวยิวและเป็นผู้สืบเชื้อสายโดยตรงจากเดวิด ซึ่งทำให้เขาเป็นสมาชิกคนหนึ่งของตระกูลที่สามารถสืบสาวไปถึงพระเยซู


เรื่องนี้ก่อให้เกิดสมมติฐานที่เป็นที่ถกเถียงกันและเป็นต้นตอของหนังสือ ''โลหิตศักดิ์สิทธิ์และจอกศักดิ์สิทธิ์'' รวมทั้ง ''รหัสลับดาวินชี'' ซึ่งระบุว่าราชวงศ์เมอโรวิงเจียนสืบเชื้อสายมาจากพระเยซูและแมรี่ แมกดาเลน และไพรออรี่ ออฟ ไซออน ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อปกป้องผู้สืบสายโลหิตจากพระเยซู แต่เรื่องทั้งหมดนี้เกี่ยวอะไรกับเบรองเจ โซนิแอร์และแรนน์ เลอ ชาโต เพื่อเข้าใจเรื่องนี้ เราต้องย้อนกลับไปในปี 679 เมื่อผู้ปกครองคนหนึ่งในราชวงศ์เมอโรวิงเจียนที่ชื่อ ดาโกแบต์ที่สอง ถูกลอบสังหาร



เรื่องนี้นำเรากลับไปยังข้อความลับที่เฮนรี่ ลินคอล์น พบอยู่ในหนังสือของเจราร์ด เดอ ซาด ความลับเรื่องผู้สืบสายเลือดจากพระเยซูก็คือ สมบัติแห่งแรนน์ เลอ ชาโต ใช่หรือไม่ การค้นพบความจริงเรื่องนี้ได้ทำให้พระที่ไม่มีเงินสักแดงเดียวอย่าง เบรองเจ โซนิแอร์ กลายเป็นเศรษฐี เอกสารลับไม่ได้ให้คำตอบของเรื่องนี้ แต่กลับมีความจริงเรื่องอื่น

นั่นก็คือ รายชื่อของบุคคลที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์ (ในฐานะหัวหน้าของสมาคมไพรออรี่ ออฟ ไซออน) ซึ่งนอกจากจะทำให้เกิดความเคลือบแคลงในชีวิตและการงานของผู้มีชื่อเสียงเหล่านี้แล้ว ยังเป็นการท้าทายประวัติศาสตร์โลก ฉบับที่เป็นที่ยอมรับกันอยู่ในขณะนี้อีกด้วย ถ้าเป็นไปตามที่อ้างว่า สมาคมลับไพรออรี่ ออฟ ไซออน ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อปกป้องผู้สืบสายเลือดของพระเยซู



ในรายชื่อยาวเหยียดที่สืบย้อนไปได้ถึงปี 1188 บันทึกลับยังได้ให้รายชื่อที่ประกอบด้วยบุคคลที่มีชื่อเสียงอีกด้วยเช่น บอททิเซลลี่ จิตรกรเลื่องชื่อในยุคเรอเนสซองส์ วิกเตอร์ ฮิวโก ผู้ประพันธ์เรื่อง Hunchback of Notre Dame และ Les Miserables นักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงเช่น ไอแซค นิวตัน และ ลิโอนาโด ดาร์วินชี

หลายคนเชื่อว่า การเป็นคนที่มีทั้งสองขั้ว (เป็นคนเงียบขรึม ขณะเดียวกันก็เป็นวิศวกรของกองทัพ) ทำให้ลิโอนาโดเป็นคนที่สามารถเก็บความลับได้และเป็นผู้นำที่สมบูรณ์แบบสำหรับสมาคมลับไพรออรี่ ออฟ ไซออน ในรหัสลับดาวินชี่ ได้ยกย่องสิ่งประดิษฐ์ลึกลับชิ้นหนึ่งว่ามาจากฝีมือของลิโอนาโด สิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้เป็นอุปกรณ์ที่เหมาะสมสำหรับเก็บข้อมูลที่เป็นความลับสุดยอดของไพรออรี่ ออฟ ไซออน มีชื่อเรียกว่า Crypt text



ข้อความที่เป็นความลับถูกเขียนบนกระดาษปาปิรัส จากนั้นนำไปพันรอบแก้วที่บรรจุน้ำส้มสายชู ของทั้งสองชิ้นถูกใส่ไว้ในช่องว่างในกระบอกทรงยาวซึ่งต้องแก้โค้ดตัวอักษรให้ถูกต้องเพื่อเปิดออก สิ่งที่กล่าวไว้ในรหัสลับดาวินชี่ คือ หากน้ำส้มสายชูซึมออกมาจะย่อยกระดาษปาปิรัสให้สลายในทันที ศัตรูก็ไม่สามารถล่วงรู้ข้อความที่เป็นความลับได้

ทีนี้ถ้าคุณเกิดลืมรหัสขึ้นมาจะทำอย่างไร กลไกของอุปกรณ์จะทำให้แก้วแตกหรือไม่ น้ำส้มสายชูจะย่อยสลายกระดาษปาปิรัสไหมและลิโอนาโดประดิษฐ์อุปกรณ์ดังกล่าวนี้จริงหรือ

ทั้งหมดนี้คือนิยายสืบสวนสอบสอนที่โยงใยซับซ้อนและอื้อฉาวที่สุด



http://artsmen.net/content/show.php?Category=mythboard&No=4160

Logged
มาคืน "สยามเมืองเคยยิ้ม" กลับสู่ "สยามเมืองยิ้มยุคก้าวหน้า" ด้วย ยิ้มสยาม กันนะครับ ... Welcome To Smile Siam by Siamese Smile

Pages: [1] Go Up Print 
« previous next »
 

SMF 2.0.4 | SMF © 2013, Simple Machines | Theme by nesianstyles | Buttons by Andrea
Page created in 0.081 seconds with 17 queries.