Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
User Info
Welcome, Guest. Please login or register.
30 April 2024, 10:09:58

Login with username, password and session length
Search:     Advanced search
News
ท่านสมาชิกสามารถเปลี่ยนรูปแบบ (Theme) ได้อีกหลายแบบ
เชิญทดลองโดยคลิกที่ลิงค์ข้างล่าง ได้เลยครับ

http://www.smilesiam.net/index.php/topic,3170.msg4713.html
Forum Stats
25,614 Posts in 12,444 Topics by 70 Members
Latest Member: KAN
Home Help Search Calendar Login Register
Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...  |  หมวดหมู่ทั่วไป  |  สาระน่ารู้ (Moderators: CYBERG, MIDORI)  |  ตำนานเฮอร์คิวลิส และ 12 ภารกิจที่ต้องพิชิต
0 Members and 1 Guest are viewing this topic. « previous next »
Pages: [1] Go Down Print
Author Topic: ตำนานเฮอร์คิวลิส และ 12 ภารกิจที่ต้องพิชิต  (Read 39 times)
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,467


View Profile
« on: 07 March 2024, 20:16:05 »

ตำนานเฮอร์คิวลิส และ 12 ภารกิจที่ต้องพิชิต


ภารกิจ 12 ประการ ของเฮอร์คิวลิสที่ต้องพิชิต

เฮอร์คิวลิส เป็นเทพที่มีพละกำลังมหาศาล แข็งแกร่ง สามารถสู้กับสัตว์ร้ายได้นานาประเภท ทั้งนี้เพราะเฮอร์คิวลิสเป็นลูกครึ่งเทพและมนุษย์นั่นเอง บิดาคือ เทพซุสผู้เจ้าชู้ ส่วนมารดาของเฮอร์คิวลิสเป็นหญิงสาวงามนามว่า อัลค์เมนี

ซุสปลอมตัวเป็นสามีของนางและมีสัมพันธ์กัน ต่อมา อัลค์เมนี ได้คลอดลูกแฝด คนหนึ่งเป็นมนุษย์ธรรมดา(อิฟิคลิส คู่แฝดที่เป็นมนุษย์ธรรมดา) แต่อีกคนนั้นได้รับพรวิเศษเหมือนบิดา อัลค์เมนี ตั้งชื่อว่าเฮอร์คิวลิส อันหมายความว่า เกียรติยศแห่งเฮร่า แต่แทนที่เทพีเฮร่าจะพอใจ กลับจงเกลียดจงชังเฮอร์คิวลิสอย่างมากเพราะรู้อยู่แก่ใจว่าเป็นลูกอีกคนของสวามี

ความอิจฉาริษยาทำให้เฮร่าส่ง งูพิษมากำจัดเด็กน้อย แต่เฮอร์คิวลิสผู้ทรงพลังกลับฆ่างูตายราวกับเป็นของเล่นเด็ก และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทุกคนรู้ว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่เด็กธรรมดา แต่มีพลังวิเศษเหนือมนุษย์ เฮอร์คิวลิสเติบโตมากลายเป็นเด็กหนุ่มที่แข็งแกร่งและได้เรียนวิชาการต่อสู้ต่างๆ จนแตกฉาน ต่อมาเฮอร์คิวลิสได้เข้าร่วมกองทัพและเอาชนะข้าศึกได้ กษัตริย์จึงพระราชทานลูกสาวนามว่า เมการ่า ให้เป็นคู่ครอง ทั้งคู่อยู่ด้วยกันอย่างผาสุกจนมีบุตรด้วยกันสามคน

เทพีเฮร่าก็ตัดสินใจหาทางกลั่นแกล้งสาปแช่งให้เฮอร์คิวลิสคุ้มคลั่งจนขาดสติ เผลอตัวสังหารภรรยาและลูกๆ จนหมด หลังจากได้สติด้วยฝีมือของเทพีอาเธน่าผู้ใจดี เฮอร์คิวลิสตกอยู่ในความทุกข์กับสิ่งที่ทำลงไปและเกือบจะฆ่าตัวตาย เขาทนอยู่ในเมืองไม่ได้ ทั้งที่ทุกคนก็ไม่ได้กล่าวโทษการกระทำของเขา ก็เลยเนรเทศตัวเอง รอนแรมไปตามป่าจนได้พบกับเทพพยากรณ์ ที่แนะนำให้เขาไปหากษัตริย์ผู้หยาบช้า ยูริสธีอุส (Eurystheus) เพื่อชดใช้บาปที่ตัวเองได้กระทำลงไป

และที่นี่เอง เฮอร์คิวลิสถูกมอบหมายให้ทำภารกิจ 10 อย่าง แต่สุดท้ายกลับเพิ่มเป็น 12 อย่าง ซึ่งจะว่าไป ก็เหมือนส่งไปตายมากกว่าให้ไปทำให้สำเร็จ และภารกิจทั้ง 12 ก็กลายเป็นที่มาของวลียอดฮิตอย่าง The Twelve Labours of Hercules (ภารกิจ 12 ประการ ของเฮอร์คิวลิส)

ภารกิจทั้ง 12 ที่เฮอร์คิวลิสได้รับมอบหมายนั้นล้วนแต่อันตรายจนเหมือนไปฆ่าตัวตายมากกว่า แต่ด้วยความที่ไม่มีอะไรจะเสีย ประกอบกับเสียอกเสียใจที่ได้ฆ่าบุตรและภรรยา เฮอร์คิวลิสผู้ไม่กลัวตายจึงออกเดินทางในทันที และภารกิจทั้ง 12 อย่างที่เขาต้องทำให้สำเร็จก็คือ...

.




« Last Edit: 11 March 2024, 09:08:55 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,467


View Profile
« Reply #1 on: 07 March 2024, 20:17:18 »




ภารกิจที่ 1 ปราบสิงห์โตร้ายแห่งเนเมีย (The Nemean Lion)
ยูริสธีอุส ได้ทดลองมอบหมายภารกิจแรกให้เฮอร์คิวลิสไปจัดการปราบปรามสิงโตแห่งเมืองเนเมีย ที่ได้ชื่อว่าดุร้าย กินสัตว์เลี้ยงรวมทั้งชาวบ้านในละแวกนั้น ความยากของภารกิจนี้คือผิวหนังของมันคงกระพัน อาวุธใด ๆ ก็ฟันแทงไม่เข้า เริ่มแรกเฮอร์คิวลิสใช้วิธีการยิงธนู แต่เมื่อพบว่าไม่สำเร็จ เขาจึงเลือกใช้กระบองคู่มือ ทำร้ายสิงโตจนบาดเจ็บ สุดท้ายเมื่อเผชิญหน้ากัน เฮอร์คิวลิสจึงทิ้งอาวุธทั้งหมดและใช้มือเปล่าเข้าสู้กับสิงโต รัดคอมันจนขาดลมหายใจตาย

เมื่อปฏิบัติภารกิจเสร็จ เฮอร์คิวลิสก็แบกศพสิงโตกลับมาให้ยูริสธีอุสดู ทว่ากษัตริย์ผู้นี้เป็นคนขี้ขลาด หวาดกลัวเฮอร์คิวลิสมาก เมื่อเห็นศพสิงโตก็กลัวสุดขีด ไม่ยอมให้เฮอร์คิวลิสเข้าเมืองและสั่งงานจากกำแพงเมือง เมื่อยูริสธีอุสไม่รับซากของเจ้าสิงโต เฮอร์คิวลิสจึงถลกหนังมันมาทำเป็นเสื้อคลุม โดยใช้เล็บของสิงโตถลกหนังอันทนทานของมัน เนื่องจากอาวุธไม่สามารถตัดหนังของสัตว์ชนิดนี้ได้ และหลังจากนั้นหนังของสิงโตเนเมียนก็ถูกใช้เป็นเสื้อคลุมของเขาตลอดมา

ว่ากันว่าสิงโตแห่งเมืองเนเมียนี้ เป็นสิงโตของซุส และท้ายที่สุดวิญญาณของมันก็กลายเป็นกลุ่มดาวสิงโตบนท้องฟ้า

.....



 
ภารกิจที่ 2 สังหารไฮดร้า งูร้ายแห่งอากอส (The Lernean Hydra)
งานที่สองที่ยูริสธีอุสมอบหมายให้เฮอร์คิวลิสทำก็คือ การปราบ ไฮดร้า งูร้ายแห่งบึงเลอร์นา งูตัวนี้มีพิษร้ายแรงและมีหัวถึงเก้าหัว เฮอร์คิวลิสได้ผู้ช่วยคือ ไอโอลอส (Aiolos) หลานชายผู้เป็นบุตรของอิฟิคลิส คู่แฝดที่เป็นมนุษย์ธรรมดาของเขา ในตำนานบอกว่า ไอโอลอสมักจะปรากฏตัวในฐานะคนขับรถม้าของเฮอร์คิวลิสเสมอ สำหรับครั้งนี้ เขาเดินทางไปช่วยผู้เป็นอาปราบไฮดร้า วิธีการของเฮอร์คิวลิสคือ ยิงธนูไฟเข้าไปในที่ซ่อนแล้วล่อไฮดร้าออกมา เมื่อใช้กระบองตีหัวของไฮดร้า มันก็งอกมาใหม่ อีกทั้ง เทพีเฮร่ายังส่งปูยักษ์มาหนีบขาเฮอร์คิวลิสเพื่อช่วยไฮดรา เฮอร์คิวลิสก็เลยกระทืบปูตัวนั้นจนตาย เทพีเฮราที่ดูอยู่เกิดประทับใจปูตัวนี้มากที่มาช่วยรังควานเฮอร์คิวลิส จึงให้ปูกลายเป็น ดาวราศีกรกฎ

หลังจากสังหารปูยักษ์และกลับมาสู้กับไฮดราต่อ หัวสุดท้ายของไฮดร้าที่เป็นอมตะ ตัดยังไงก็งอกออกมาใหม่ตลอด สุดท้ายเฮอร์คิวลิสก็พบวิธีที่จะทำให้ไฮดราไม่สามารถงอกหัวใหม่พบ นั่นคือเมื่อฟันหัวไฮดราแล้ว ให้ไอโอลอสนำคบเพลิงไปจี้คอที่ขาดทันที เฮอร์คิวลิสจึงสามารถปราบไฮดราสำเร็จ เขาได้เก็บเลือดไฮดราที่มีพิษร้ายมาใช้อาบหัวลูกธนูด้วย

ผลจากภารกิจนี้ ทำให้เกิดกลุ่มดาวอีกสองกลุ่มคือ กลุ่มดาวงูไฮดร้า และกลุ่มดาวปูในจักรราศี อย่างไรก็ตาม ยูริสธีอุสได้อ้างว่า งานนี้เฮอร์คิวลิสไม่ได้ทำเองคนเดียว ดังนั้นจึงไม่นับเป็น 1 ใน 10 ภารกิจที่เขามอบหมาย เฮอร์คิวลิสจึงต้องทำภารกิจเพิ่มอีกหนึ่งงาน
 
.....




ภารกิจที่ 3 จับกวางแดงแห่งเซริเนอา (The Hind of Ceryneia)
กษัตริย์ยูริสธีอุส สั่งให้เฮอร์คิวลิสไปจับกวางแดง กวางวิเศษที่มีเขาทองและกีบเท้าบรอนซ์ ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงของ เทพีอาร์ทีมิส (Artemis) ที่ภูเขาเซริเนอา (Ceryneia) มาให้แบบยังมีชีวิต ความยากของภารกิจนี้คือ เฮอร์คิวลิสไม่สามารถฆ่ากวางแดงตัวนี้ได้ ต้องจับเป็นเท่านั้น แล้วนำกลับไปให้ได้ เฮอร์คิวลิสวิ่งไล่ล่ากวางแดงเป็นเวลา 1 ปีเต็ม จนกวางเหนื่อยอ่อน ในที่สุด เมื่อหมดทางเลือก เฮอร์คิวลิสจำเป็นต้องยิงกวาง แต่ไม่ได้ฆ่าให้ตาย ถึงจะจับกวางแดงได้

ระหว่างเดินทางกลับนั้น เทพีอาร์ทีมิสและเทพอะพอลโล (Apollo) มาเจอพอดี เทพีอาร์ทีมิสพิโรธหนัก แต่เฮอร์คิวลิสได้อ้อนวอนขอยืมกวางแดงตัวนี้และอธิบายให้ฟังว่าทำตามคำของเทพพยากรณ์ เทพีอาร์ทีมิสจึงละความโกรธ และช่วยรักษาแผลของกวาง รวมถึงอนุญาตให้เฮอร์คิวลิสนำกวางกลับไปยังเมืองมีเซเนียได้ โดยเฮอร์คิวลิสได้รับปากกับเทพีอาร์ทีมิสว่า เมื่อยูริสธีอุสเห็นกวางแล้วจะรีบนำกลับมาคืน แต่ทันทีที่ปล่อยกวางก็วิ่งกลับไปหาเจ้านายของมันทันที 

.....





ภารกิจที่ 4 จับหมูป่ายักษ์แห่งเขาแอริแมนธัส (The Erymanthian Boar)
ภารกิจนี้จะคล้ายๆ กับภารกิจที่ 3 เพราะยูริสธีอุสมอบหมายให้เฮอร์คิวลิสจับหมูป่ากลับมาตัวเป็นๆ เช่นกัน เจ้าหมูป่าตัวนี้อาศัยอยู่บริเวณเชิงเขาแอริแมนธัส และมักจะออกมาอาละวาดทำร้ายผู้คนทุกวัน เฮอร์คิวลิสใช้วิธีคล้ายๆ ตอนจับกวางแดง นั่นคือไล่ล่าจนมันเหนื่อยอ่อน จนมันเข้าไปติดในหิมะและไปต่อไม่ไหว เฮอร์คิวลิสจึงใช้ตาข่ายดักจับและหิ้วหมูป่าเป็นๆ กลับมีเซเนียได้ในที่สุด
 
ซึ่งในระหว่างทาง เฮอร์คิวลิสได้พบกับเซนทอร์ (ครึ่งคนครึ่งม้า) ชื่อ โฟลัส (Pholus) เขาได้ชวนเฮอร์คิวลิสมาทานอาหาร ระหว่างนั้น เฮอร์คิวลิสก็ขอเหล้าองุ่น แต่โฟลัสไม่อยากให้ เพราะว่าเหล้าองุ่นเป็นของส่วนรวม แต่เฮอร์คิวลิสก็ดื้อจะเอาให้ได้ แล้วก็คว้าเหล้ามาเปิดดื่มเอง บรรดาเซนทอร์ที่ได้กลิ่นเหล้าองุ่น ก็มาแย่งเหล้าคืนจนต้องสู้กัน เฮอร์คิวลิสเลยยิงลูกธนูอาบพิษไฮดราใส่พวกเซนทอร์ บังเอิญว่าหนึ่งในเซนทอร์ที่เป็นเหยื่อนั้นคือ ไครอน (Chiron) ซึ่งเป็นครูที่สอนวิชาต่าง ๆ ให้แก่เหล่าวีรบุรุษในตำนานกรีกหลายคน ซึ่งไครอนนั้นเป็นอมตะ ทำให้ไครอนทรมานจากพิษมากแต่ตายไม่ได้ สุดท้ายไครอนจึงร้องขอให้ตนไม่เป็นอมตะและเขาก็จบชีวิตลงหลังจากนั้น ซูสได้นำไครอนไปประดับบนท้องฟ้าเป็น หมู่ดาวราศีธนู (Sagittarius)

.....



Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,467


View Profile
« Reply #2 on: 07 March 2024, 20:19:08 »




ภารกิจที่ 5 ทำความสะอาดคอกปศุสัตว์เมืองออเจอัส (The Augean Stables clean up)
ภารกิจนี้ เป็นภารกิจที่ฟังดูเหมือนจะง่าย เพราะแค่ทำความสะอาดคอกปศุสัตว์ให้สะอาด คือ คอกวัวของ กษัตริย์ออเจอัส (Augeas) ที่มีวัวถึง 3,000 ตัว ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในกรีกและไม่ได้ล้างทำความสะอาดมา 30 ปีแล้ว ความยาก ก็คือ ต้องทำให้เสร็จภายใน 1 วัน โดยกษัตริย์ออเจอัส สัญญาว่าถ้าทำได้ จะยกวัวให้ 300 ตัว

เฮอร์คิวลิสได้วางแผนเปลี่ยนทางแม่น้ำให้ไหลผ่านคอกวัว ทำให้คอกวัวสะอาดเอี่ยมภายในวันเดียว โดยเปิดช่องกำแพงที่ด้านหนึ่ง จากนั้นเจาะช่องฝั่งตรงข้าม แล้วขุดคลองไปหาแม่น้ำสองสายที่ไหลผ่านเมืองเพื่อเปลี่ยนทางเดินน้ำ พอน้ำไหลผ่าน คอกปศุสัตว์ขนาดใหญ่ก็สะอาดขึ้นได้

ในตอนแรก กษัตริย์ออเจอัส ปฏิเสธจะมอบรางวัลเป็นปศุสัตว์ 1 ใน 10 ของทั้งหมดให้เฮอร์คิวลิส โดยอ้างว่าเขาไม่ได้ทำความสะอาดเอง คนทำคือแม่น้ำต่างหาก แต่เมื่อขึ้นศาล เฮอร์คิวลิสก็ชนะในที่สุด แต่พอยูริสธีอุสทราบว่าภารกิจนี้เฮอร์คิวลิสได้ค่าจ้าง ก็เลยบอกว่าไม่นับรวมเป็นหนึ่งในสิบภารกิจ และให้เฮอร์คิวลิสต้องทำงานเพิ่มอีก
 
(เฮอร์คิวลิสเก็บความแค้นนี้ไว้จนเมื่อปฏิบัติภารกิจทั้ง 12 ครบหมดแล้ว เขาก็เดินทางกลับมาฆ่ากษัตริย์ออเจอัสตาย และแต่งตั้งโอรสของกษัตริย์ขึ้นครองเมืองต่อ พร้อมกับต้อนวัวส่วนของตัวเองกลับไป)

.....




 
ภารกิจที่ 6 ปราบฝูงนกกินคนแห่งสติมฟาเลียน (Stymphalian Bird)
ฟังเผินๆ ก็เหมือนเรื่องง่ายๆ อีกแล้ว แค่จัดการนกเท่านั้น แต่ฝูงนกกินคนแห่งสติมฟาลัส (Stymphalus) นกพวกนี้ปากเป็นทองเหลือง แถมขนก็แข็งเหมือนเหล็ก เป็นนกที่โหดร้าย คอยฆ่ามนุษย์แล้วนำซากศพไปกิน 

โชคดีที่เฮอร์คิวลิสได้รับความช่วยเหลือจากเทพีอเธน่า ซึ่งประทานเครื่องดนตรีที่เรียกว่าโครทาลา ฝีมือของเทพภูเขาไฟ ให้กับเขา เมื่อไปถึง เฮอร์คิวลิสได้เล่นเครื่องดนตรีนี้ล่อนกออกมา และยิงด้วยธนูจนตายเกลี้ยง เชื่อกันว่านกพันธุ์นี้สูญพันธุ์ไปจากโลกก็เพราะภารกิจนี้ของเฮอร์คิวลิสนี่เอง 
 
แต่ภารกิจนี้ เทพีอาเธนา (Athena) มาช่วยเขาโดยมอบเครื่องดนตรีชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่าโครทาลา ฝีมือของเทพภูเขาไฟ ให้กับเขา ดังนั้น เมื่อเจอนกฝูงนี้ เฮอร์คิวลิสจึงเล่นเครื่องดนตรีจนนกตกใจแล้วก็บินขึ้นฟ้า เมื่อบินขึ้น ส่วนที่ไม่มีขนเหล็กปกคลุมก็เปิด เฮอร์คิวลิสจึงสามารถยิงธนูพิษไฮดร้าใส่ได้ จนนกตายทั้งฝูง

.....





ภารกิจที่ 7 ปราบวัวกระทิงแห่งเกาะครีต (The Cretan Bull)
ความยากของงานนี้ก็คือ ต้องไปจับวัว กลับมาตัวเป็น ๆ วัวตัวนี้เป็นวัวที่เทพโพไซดอนได้ประทานให้กับกษัตริย์ไมนอส (Minos) ผู้เป็นบุตรของซุสและยูโรปา เพื่อเซ่นสังเวยเทพ แต่ไมนอสเห็นว่าวัวมีลักษณะสวยงามเลยไม่ทำตามคำสั่ง ซุสเลยสาปให้วัวเป็นบ้า เที่ยวไล่ทำร้ายผู้คน เฮอร์คิวลิสเข้าไปบุกปล้ำกับวัวจนเอาชนะได้ โดยจับเขาทั้งสองไว้และตรึงมันบนพื้นดิน จนวัวหมดแรงและบังคับจับเอาตัวกลับไปหายูริสธีอุส ซึ่งปล่อยวัวให้เป็นอิสระ จนสุดท้ายมันก็พเนจรไปทั่วและไปจบชีวิตที่เมืองมาราธอน เชื่อกันว่า วัวตัวนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มดาววัวในเวลาต่อมา 
 
.....





ภารกิจที่ 8 ปราบม้ากินคนของไดโอมีดีส (The Man-Eating Horses of Diomedes)
เฮอร์คิวลิสต้องไปเอาม้า 4 ตัวของ กษัตริย์ไดโอมีดีส (Diomedes) กลับมาให้ยูริสธีอุสดู ตัวเป็น ๆ ด้วย ความยากของภารกิจนี้คือ ม้าเหล่านี้ดุร้ายกว่าม้าธรรมดามาก ทั้งยังกินเนื้อมนุษย์เป็นอาหารอีกด้วย ไดโอมีดีสใช้ม้าเหล่านี้เทียมรถ เมื่อรบชนะ ก็จะโยนเชลยศึกให้ม้ากิน เฮอร์คิวลิสต่อสู้และปราบไดโอมีดีสได้ โยนศพของกษัตริย์สุดโหดลงไปในคอกม้าให้ม้ากิน ซึ่งพวกมันก็กินเจ้านายตัวเองอย่างเอร็ดอร่อย เมื่ออิ่มแล้ว ความกระหายเลือดของม้าเหล่านี้ก็หายไป กลายมาเป็นม้าธรรมดา ๆ ที่ไม่ดุร้ายเหมือนเดิม เฮอร์คิวลิสจึงใช้ม้ากินคนพวกนี้เทียมรถกลับมายังมีเซเนีย ยูริสธีอุสได้ปล่อยม้าเป็นอิสระ บรรดาม้าพเนจรไปจนถึงเทือกเขาโอลิมปัส และถูกสัตว์ป่ากินเป็นอาหาร

.....



Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,467


View Profile
« Reply #3 on: 07 March 2024, 20:20:20 »



 
ภารกิจที่ 9 แย่งชิงเข็มขัดของฮิปโปลิท (Hippolyte’s Belt)
ภารกิจนี้ ยูริสธีอุสได้มอบหมายให้เฮอร์คิวลิสไปนำเอาเข็มขัดของฮิปโปลิตา (Hippolyta) ราชินีแห่งเผ่าอเมซอน (Amazons) มาเป็นของขวัญให้ลูกสาวของกษัตริย์ยูริสธีอุส ทั้งนี้ เผ่าอเมซอน เป็นเผ่าที่มีแต่ผู้หญิงซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักรบที่สำคัญและพวกเขาก็รังเกียจผู้ชายมาก

ความพิเศษของเข็มขัดนี้คือ ฮิปโปลิตาได้ประทานจากเทพแอรีส เทพแห่งสงคราม เนื่องจากนางเป็นนักรบหญิงที่แกร่งกล้าที่สุด และปกครองชนเผ่าที่มีแต่เด็กผู้หญิง เมื่อสตรีในเผ่าให้กำเนิดทารก ก็จะเก็บไว้แต่เด็กผู้หญิง เนรเทศเด็กผู้ชายไป แล้วนำเด็กผู้หญิงมาฝึกให้เป็นนักรบ ในตอนแรก ฮิปโปลิตาสัญญาว่าจะมอบเข็มขัดให้กับเฮอร์คิวลิส เนื่องจากถูกตาต้องใจและกลายเป็นคนรัก แต่กลับถูกเทพีเฮร่าเป่าหูว่าเฮอร์คิวลิสจะมาทำร้าย เฮอร์คิวลิสจึงจำเป็นต้องสังหารฮิปโปลิตา และนำเข็มขัดกลับไปให้ยูริสธิอุสได้สำเร็จตามภารกิจ
 
.....





ภารกิจที่ 10 จับฝูงปศุสัตว์ของยักษ์เจรีออน ((The Cattle of Geryon)
กษัตริย์ยูริสธีอุส ได้ให้เฮอร์คิวลิสไปนำฝูงวัวแดงของ เจรีออน (Geryon) กลับมา ภารกิจนี้ถือว่ายากมาก เพราะเจ้ายักษ์เจรีออนนี้ มีความดุร้ายไม่ธรรมดา เจรีออนเป็นยักษ์ที่มีท่อนบนเป็นคนสามคนคือ มีสามหัว มีขาสามคู่ อาศัยอยู่ที่เกาะอิริเทีย และมีสุนัขสองหัวที่ดุร้ายคอยเฝ้าฝูงสัตว์ของตนไว้
ความลำบากเริ่มตั้งแต่หนทางที่จะไปเกาะนี้ ซึ่งยาวไกลมาก ระหว่างเดินทางแดดแรงมาก เฮอร์คิวลิสเริ่มหงุดหงิด เลยหยิบธนูขึ้นมาแล้วขู่จะยิงพระอาทิตย์ ปรากฏว่า เทพเฮลิโอส (Helios) ชอบใจ เลยให้ยืมถ้วยทองคำยักษ์เพื่อใช้พาวัวกลับ

การเดินทางของเฮอร์คิวลิสครั้งนี้ ทำให้เฮอร์คิวลิสต้องออกแรงมากมายเช่น ผ่าภูเขาออกเป็นสองส่วน ซึ่งปัจจุบัน ช่องแคบนี้ก็คือ ช่องแคบยิบรอลต้า อยู่ระหว่างประเทศสเปนและโมร็อกโค พาหนะที่เฮอร์คิวลิสเลือกมาใช้คือ ถ้วยที่พระอาทิตย์มอบให้ เฮอร์คิวลิสเอาชนะสุนัขที่เฝ้าฝูงสัตว์ได้อย่างง่ายดาย และได้ต่อสู้กับเจรีออนที่กำลังพาฝูงสัตว์หนี สุดท้าย เจรีออนก็ตายด้วยลูกธนูของเขา ความวุ่นวายยังไม่จบสิ้นเพราะระหว่างทางพาฝูงสัตว์กลับไปหายูริสธีอุส มีวัวตัวหนึ่งหลุด ว่ายน้ำหนีไปยังเกาะซิซิลี เฮอร์คิวลิสก็ต้องตามไปต่อสู้เพื่อแย่งชิงเอาวัวคืนมา พอสำเร็จ เทพีเฮร่าก็กลั่นแกล้งส่งเหลือบมาให้ฝูงวัวแตกตื่นกระจัดกระจายไปทั่ว กว่าจะรวบรวมฝูงวัวกลับมาได้ครบ ก็ต้องตระเวนตามไปทั่วประเทศเลยทีเดียว
 
.....





ภารกิจที่ 11 ชิงผลแอปเปิ้ลทองคำของเฮสพีริดิส (The Apples of the Hesperides)
แน่นอนว่าทุกภารกิจนั้น เมื่อฟังแล้วจะพบว่าเหมือนจะง่าย แต่จริงๆ แล้ว ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดแน่นอน เพราะผลแอปเปิ้ลที่ว่านี้ เทพีเฮร่าประทานให้ซุสเป็นของขวัญแต่งงาน นางย่อมไม่ยอมให้เฮอร์คิวลิสมาชิงเอาไปง่ายๆ แน่ๆ แอปเปิ้ลนี้ อยู่ในสวนที่ขอบโลกทางฝั่งเหนือ มีมังกรร้อยหัวและนางไม้ชื่อเฮสพีริดิส (Hesperides) บุตรสาวของแอตลาส (Atlas) ยักษ์ใหญ่ที่แบกโลกและท้องฟ้าไว้บนไหล่เฝ้าอยู่
เฮอร์คิวลิสต้องใช้เวลายาวนานในการตามหาสวนแอปเปิ้ล กว่าจะรู้ว่าสวนตั้งอยู่ที่ไหนก็ใช้เวลายาวนานมาก และระหว่างนั้น เฮอร์คิวลิสได้ช่วยเหลือโพรมิธิอุส (Prometheus) ผู้ต้องโทษจากสวรรค์ โพรมิธิอุสจึงขอให้แอตลาสไปนำแอปเปิ้ลมาให้เฮอร์คิวลิส โดยให้เฮอร์คิวลิสช่วยแบกโลกแทนระหว่างแอตลาสไม่อยู่ อย่างไรก็ตาม แอปเปิ้ลดังกล่าวเป็นผลไม้ของเทพ ยูริสธีอุสครอบครองได้ไม่นาน ก็ต้องถวายให้เทพีอาธีน่าเพื่อให้นางนำกลับไปไว้ที่เดิม
 
.....





ภารกิจที่ 12 จับเซเบอรัส ในยมโลก (Ceberus)
ภารกิจสุดท้ายนี้ ย่อมเป็นภารกิจที่โหดหินที่สุด ยูริสธีอุสสั่งให้เฮอร์คิวลิสเดินทางไปยังยมโลก (นรก) เพื่อจับ เซเบอรัส (Cerberus) สุนัขสามหัวที่เฝ้าประตูนรก กลับมาแบบเป็น ๆ
สุนัขตัวนี้เป็นสัตว์ประหลาดดุร้าย มีสามหัว หางเป็นมังกรและมีหัวงูปกคลุมตลอดทั้งหลัง กินเนื้อสดๆ เป็นอาหาร ดังนั้นเขาจึงต้องหาวิธีลงนรกโดยที่ยังไม่ตายให้ได้ก่อน จึงไปขอให้เทพแห่งการส่งสาส์นนาม เฮอร์มิส (Hermes) นำทางไปยังนรก และได้พบกับ เฮดิส (Hades) เทพเจ้าแห่งยมโลก พอเฮดิสรู้ว่ากำลังทำภารกิจอยู่ ก็อนุญาตให้ยืมเจ้าสุนัขสามหัวไปได้ แต่เขาต้องทำให้พวกมันยอมสยบต่อเขาด้วยมือเปล่า เฮอร์คิวลิสจึงบีบคอจนมันสลบแล้วก็แบกเจ้าหมาสามหัวกลับไปให้ยูริสธีอุสได้ในที่สุด เมื่อเรียบร้อยแล้ว ก็พาเซเบอรัสกลับไปเฝ้าปากทางยมโลกตามเดิม 

.....


เหล่านี้คือเรื่องราวของการปฏิบัติ 12 ภารกิจสุดโหดของเฮอร์คิวลิส บุรุษผู้ทรงพลังในตำนาน ที่ปัจจุบันเรื่องราวของเขาก็ยังคงหลงเหลืออยู่ในร่องรอยอารยธรรมโลก ดังเช่น เมืองเฮอร์คิวเลเนียม (Herculaneum) ประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งชื่อตามเฮอร์คิวลิส

ภายหลังจากทำภารกิจทั้ง 12 อย่างเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งจะว่าไป ก็ไม่รู้ว่ามันไถ่บาปที่ฆ่าครอบครัวได้ตรงไหน แทนที่จะมีชีวิตอย่างสงบสุข เฮอร์คิวลิสกลับต้องพบกับความยากลำบาก เพราะก็ยังไม่ได้รู้สึกปลดปล่อย และแสวงหาความตายอยู่เสมอ ต่อมาเฮอร์คิวลิสได้นางดีอาไนราเป็นภรรยา แต่เมื่ออยู่กินกันไปไม่นาน เฮอร์คิวลิสเกิดได้เจ้าหญิงไอโอเลมาเป็นภรรยาอีกนาง ทำให้นางดิอาไนราเกิดความอิจฉา และหลงกลเนสซุสที่บอกว่า เลือดของตนใช้เป็นมนต์เสน่ห์ได้ นางดิอาไนรานำเลือดของเนสซุสมาทอเป็นเสื้อคลุม และให้เฮอร์คิวลิสสวมใส่ ผลคือ เฮอร์คิวลิสร้อนเหมือนถูกไฟเผา ทั้งที่ถอดเสื้อแล้ว แต่ก็ร้อนรนทุรนทุราย นางดิอาไนราจึงฆ่าตัวตายเพราะสำนึกผิด เฮอร์คิวลิสไม่ตายและต้องมีชีวิตอยู่ด้วยความทุกข์ทรมาน ท้ายที่สุด เขาขอให้ก่อกองไฟขึ้นที่ภูเขา และขอให้พีโลเตเตสจุดไฟเพื่อทำลายร่างของเขา ต่อมาธนูกับลูกธนูของเฮอร์คิวลิสได้ถูกนำมาใช้ในสงครามกรุงทรอย ส่วนตัวเฮอร์คิวลิส ได้รับความช่วยหลือจากเทพีอาเธน่า ที่ไปไกล่เกลี่ยกับเทพีเฮร่าให้ สุดท้ายเฮอร์คิวลิสจึงได้กลายเป็นเทพอยู่บนสรวงสรรค์และได้ภรรยาเป็นนางฮีบี บุตรสาวของเทพีเฮร่า
 
.



Logged
Pages: [1] Go Up Print 
« previous next »
 

SMF 2.0.4 | SMF © 2013, Simple Machines | Theme by nesianstyles | Buttons by Andrea
Page created in 0.04 seconds with 19 queries.