Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
User Info
Welcome, Guest. Please login or register.
18 May 2024, 23:08:06

Login with username, password and session length
Search:     Advanced search
News
ท่านสมาชิกสามารถเปลี่ยนรูปแบบ (Theme) ได้อีกหลายแบบ
เชิญทดลองโดยคลิกที่ลิงค์ข้างล่าง ได้เลยครับ

http://www.smilesiam.net/index.php/topic,3170.msg4713.html
Forum Stats
25,701 Posts in 12,500 Topics by 70 Members
Latest Member: KAN
Home Help Search Calendar Login Register
Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...  |  ภาพประทับใจ  |  ผนังเก่าเล่าเรื่อง (Moderator: ผนังเก่าเล่าเรื่อง)  |  "พระแก้วมรกต" เคยเป็นของรัสเซีย ? โดย กลม บางบาน
0 Members and 1 Guest are viewing this topic. « previous next »
Pages: [1] Go Down Print
Author Topic: "พระแก้วมรกต" เคยเป็นของรัสเซีย ? โดย กลม บางบาน  (Read 52 times)
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,554


View Profile
« on: 26 January 2024, 10:23:46 »

"พระแก้วมรกต" เคยเป็นของรัสเซีย ? โดย กลม บางบาน


จิงๆ...ไม่ได้โม้...ม..ม.......นะครับ.

ท่านเคยได้ยินเรื่องนี้ไหมครับ ว่าครั้งหนึ่งพระแก้วมรกตเคยเป็นของรัสเซีย มันเป็นไปได้อย่างไร ?

แต่ก่อนอื่น ขอย้อนกลับไปที่การถกเถียงกันเรื่อง "มวยไทย" หรือ "กุน ขแมร์" ว่าจะเรียกอะไรกันแน่ ? อันเป็นวิวาทะระหว่างไทย กับเพื่อนบ้าน กัมพูชา
ในศึก ซีเกมส์ครั้งที่ 32 ที่ประเทศกัมพูชา ในวันที่ 5-17 พฤษภาคม 2566 จึงทำให้คิดเลยเถิดไปถึง ข้อถกเถียงกันเรื่อง "พระแก้วมรกต" ที่ว่า...

ประเทศไทย ไปขโมยมาจากประเทศลาว นั้น ทั้งๆ ที่ดั้งเดิม ตามตำนานพระแก้วมรกต กล่าวว่า... พระแก้วมรกต สร้างที่ประเทศอินเดีย
ต่อมาได้ตกไปอยู่ที่เมืองลังกา เมืองกัมโพชา เมืองศรีอยุธยา เมืองละโว้ เมืองกำแพงเพชร และเมืองเชียงราย ตามลำดับ
พระแก้วมรกต จึงประดิษฐานอยู่ในดินแดนไทยในแถบภาคเหนือมาก่อนที่ วัดพระแก้ว จ.เชียงราย จากนั้นได้อัญเชิญไปที่ วัดพระแก้วดอนเต้า จ.ลำปาง
และต่อมาย้ายไปประดิษฐานที่เชียงใหม่

ต่อมา พระเจ้าไชยเชษฐาแห่งล้านช้าง ได้อัญเชิญพระแก้วมรกต ไปอยู่ที่หลวงพระบาง และเมื่อล้านช้างย้ายเมืองหลวงจาก หลวงพระบางมาเวียงจันทน์ ก็เชิญพระแก้วมรกตลงมาด้วย

ต่อมาสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงสถาปนากรุงธนบุรีขึ้นเป็นเมืองหลวง พระองค์ได้ทรงอัญเชิญพระแก้วมรกต มาจากอาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์ (ลาว)
ในครั้งนั้นประดิษฐานไว้ที่วัดอรุณราชวราราม ต่อมาเมื่อสิ้นรัชสมัยของพระองค์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงอัญเชิญพระแก้วมรกต
เสด็จข้ามฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา มาประดิษฐานยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม จนถึงปัจจุบัน  แล้วมันมาเกี่ยวข้องพระแก้วมรกต ตกไปเป็นของรัสเซียได้อย่างไร และเมื่อไร ???
ก็จะเล่าให้ฟัง ดังต่อไปนี้แล้วละครับ.

.

พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เครื่องทรงฤดูหนาว


.

พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เครื่องทรงฤดูฝน


.

พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เครื่องทรงฤดูร้อน


.

.....

พระแก้วมรกต เป็นของรัสเซีย แป๊บเดียว แค่คำพูดยกให้ แล้วก็ได้กลับคืนมา ด้วยคำพูดเช่นกัน555

.



Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,554


View Profile
« Reply #1 on: 26 January 2024, 10:24:28 »


"พระแก้วมรกต" เคยเป็นของรัสเซีย ? (ต่อ)

...เมื่อประมาณ 100 กว่าปีที่ผ่านมา ในสมัยรัชกาลที่ 5 ประเทศไทยอยู่ในช่วงที่ เราต้องเผชิญหน้ากับประเทศมหาอำนาจตะวันตก ที่เข้ามาเพื่อแสวงหาดินแดนตามลัทธิจักรวรรดินิยม หรือเรียกง่าย ๆ ว่า "ล่าเมืองขึ้น" นั่นเอง 

ในเวลานั้น ประเทศเพื่อนบ้านรอบเรา ต่างล้วนตกเป็นอาณานิคมของชาติตะวันตกทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น พม่า ก็ตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ ลาว กัมพูชาก็ล้วนเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส

สำหรับประเทศไทยเรา ก็ใช่ว่าจะรอดพ้นจากปัญหานี้นะครับ ชาติตะวันตกโดยเฉพาะอังกฤษและฝรั่งเศส นี่ตัวดีเลยหล่ะ พยายามใช้ทุกวิถีทางที่จะเอาสยามประเทศไปเป็นอาณานิคมให้ได้ เราเองต้องใช้ทุกวิถีทางเช่นกันที่จะเอาตัวให้รอดจากการตกเป็นอาณานิคมตะวันตกให้ได้เช่นกัน 

โดยเฉพาะในสมัยรัชกาลที่ 5 ถือว่าเป็นช่วงที่สยามประเทศต้องเผชิญกับปัญหานี้ รุนแรงที่สุด พระมหากษัตริย์และผู้นำประเทศเวลานั้น ต้องใช้ทุกวิธีการและทุกวิถีทางในอันที่จะพาประเทศให้รอดพ้น

ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ว่า ครั้งหนึ่ง..พระแก้วมรกต..เคยตกเป็นของรัสเซีย ?!?

เรื่องมันเป็นอย่างนี้ครับ.

ช่วงเวลานั้น รัสเซียยังปกครองในระบอบพระมหากษัตริย์ นิโคลัส (คนไทยสมัยนั้นเรียกท่านว่า ซาเรวิช) มกุฎราชกุมารแห่งรัสเซีย ซึ่งต่อมาพระองค์ได้ขึ้นเป็น พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 กษัตริย์องค์สุดท้ายของราชวงศ์โรมานอฟและของรัสเซีย

พระองค์ทรงเป็นพระสหายกับรัชกาลที่ 5 ที่ได้ทรงทูลเชิญเสด็จมาสยามประเทศ และได้ต้อนรับพระองค์อย่างยิ่งใหญ่และสมพระเกียรติ

ในการสนทนากันคราวหนึ่ง รัชกาลที่ 5 ได้มีพระราชดำรัสกับมงกุฏราชกุมารนิโคลัสว่า หากรัสเซียต้องการสิ่งใดในราชอาณาจักรสยาม ทางสยามประเทศก็ยินดีที่จะถวายให้
มกุฎราชกุมารนิโคลัสได้ยินดังนั้น จึงทูลขอพระแก้วมรกตจากรัชกาลที่ 5 !!! 

ซึ่งรัชกาลที่ 5 ได้ฟังแล้วก็นิ่งไปพักหนึ่ง หลังจากนั้นจึงกล่าวพระราชทานยกพระแก้วมรกตให้ ทำให้มกุฎราชกุมารนิโคลัสทรงยินดีและประทับใจเป็นอย่างยิ่ง จึงได้กล่าวตอบว่า
หากสยามประเทศต้องการสิ่งใด ทางรัสเซียก็ยินดีจะช่วยเหลือ

รัชกาลที่ 5 จึงทรงกล่าวทันทีว่า ถ้าอย่างนั้น ขอพระแก้วมรกตคืนสู่สยาม

ทำให้มกุฎราชกุมารนิโคลัสทรงเลื่อมใสในพระปรีชาของรัชกาลที่ 5 เป็นอย่างยิ่ง และยิ่งทำให้ทั้งสองพระองค์มีความสนิทสนมแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น

ในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 นั้น สยามประเทศยังปกครองในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ซึ่งถือว่า คำพูดหรือพระราชดำรัสของกษัตริย์นั้น เป็นกฎหมาย และคำว่ากษัตริย์ตรัสแล้วไม่คืนคำ จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ถือได้ว่า พระแก้วมรกต เคยเป็นตกเป็นของรัสเซียนั่นเอง !!!
(แม้จะเพียง ชั่วกระพริบตา หรือ เพียงชั่วฝ่ามือเดียว ไม่กี่ วินาที เองครับ 555 ..)

.



เมื่อครั้งที่รัชกาลที่ 5 ทรงเสด็จประพาสยุโรป ก็ได้เสด็จไปเยือนรัสเซีย
พระเจ้าซาร์นิโคลัส โปรดให้ฉายพระรูปของพระองค์กับรัชกาลที่ 5 ที่นั่งเคียงคู่กัน เฉกเช่นประเทศที่มีเกียรติเสมอกัน
พร้อมด้วยพระราชดำรัสที่ว่า "สยามเป็นมิตรแห่งเรา ใครคิดเป็นศัตรูก็เท่ากับเป็นศัตรูกับเราเช่นกัน"

.



ภาพนี้จึงมีเบื้องหลังที่น่าศึกษา และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งในหลายๆ สาเหตุ ที่ทำให้ประเทศไทยของเรา สามารถรักษาและดำรงเอกราชของประเทศ เป็นหนึ่ง ในไม่กี่ประเทศในโลกที่ไม่เคยตกเป็นอาณานิคมของมหาอำนาจตะวันตก มาได้ จวบจนทุกวันนี้ ..
เหตุการณ์นี้ ไม่ได้มาเพราะ ความบังเอิญ หรือ โชคช่วย แต่เป็นความพยายามของบรรพบุรุษทุกๆ ท่าน และเพราะ พระปรีชาสามารถของพระมหากษัตริย์ไทย

.



Logged
Pages: [1] Go Up Print 
« previous next »
 

SMF 2.0.4 | SMF © 2013, Simple Machines | Theme by nesianstyles | Buttons by Andrea
Page created in 0.071 seconds with 16 queries.