| ppsan | 
								|  | «  on: 11  January  2024, 21:47:54  » |  | 
 
 กรุงศรีอยุธยา อาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ของไทย [20] วัดประดู่ทรงธรรม
 วัดประดู่ทรงธรรม
 
 วัดประดู่ทรงธรรม หรือ วัดประดู่โรงธรรม สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ตั้งอยู่ในเขตอำเภอพระนครศรีอยุธยา ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะเมือง บริเวณกลุ่มวัดในเขตอโยธยา เดินทางโดยรถยนต์ตามเส้นทางถนนจากวงเวียนเจดีย์วัดสามปลื้มไปทางทิศเหนือ
 
 วัดประดู่ทรงธรรมในปัจจุบันเกิดจากการรวมพื้นที่วัดโบราณ 2 วัดคือ วัดประดู่ และ วัดโรงทาน (วัดโรงธรรม) สำหรับวัดประดู่ ถูกกล่าวถึงในพระราชพงศาวดาร ในคราวที่พระภิกษุสงฆ์ของวัดประดู่ 8 รูป ได้ช่วยเหลือสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม ให้หลบหนีจากการก่อกบฏของพวกญี่ปุ่นที่หมายปลงพระชนม์ชีพ เมื่อ พ.ศ. 2153
 
 ยี่ปุ่นโกรธว่าเสนาบดีมิได้เป็นธรรม คบคิดเข้าด้วยพระพิมลฆ่าพระมหากษัตริย์เสีย ยี่ปุ่นคุมกันได้ประมาณ ๕๐๐ ยกเข้ามาในท้องสนามหลวง คอยจะกุมเอาพระเจ้าอยู่หัว อันเสด็จออกมาฟังพระสงฆ์บอกหนังสือ ณพระที่นั่งจอมทองสามหลัง ขณะนั้นพอพระสงฆ์วัดประดู่โรงธรรมเข้ามา ๘ รูปพาเอาพระองค์เสด็จออกมาต่อหน้านี้ญี่ปุ่น ครั้นพระสงฆ์พาเสด็จไปแล้ว ยี่ปุ่นร้องอื้ออึงขึ้นว่า จะกุมเอาพระองค์แล้วเป็นไรจึงนิ่งเสียเล่า ยี่ปุ่นทุ่มเถียงเป็นโกลาหล ฝ่ายพระมหาอำมาตย์คุมพลได้ แลไล่รบยี่ปุ่นล้มตายเป็นอันมาก ยี่ปุ่นแตกไปจากพระราชวังลงสำเภาหนี ตั้งแต่นั้นมา สำเภาเมืองยี่ปุ่นก็มิได้เข้ามาค้าขายณกรุงเลย พระมหาอำมาตย์ ให้ไปเชิญเสด็จสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเข้าพระราชวัง เพลาเช้าเสด็จออกท้องพระโรง พร้อมด้วยท้าวพระยาเสนาบดีมนตรีมุขทั้งหลาย ทรงพระกรุณาตรัสว่า ราชการครั้นนี้พระมหาอำมาตย์มีความชอบ มาก ให้เป็นเจ้าพระยากลาโหมสุริยวงศ์ พระราชทานเครื่องอุปโภคบริโภคเป็นอันมาก แล้วสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชโองการ ให้วิเศษแต่งกับปิยะจังหันถวายพระสงฆ์วัดประดู่โรงธรรมเป็นนิจอัตรา
 
 — พระราชพงศาวดาร ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม)
 
 ในบันทึกของเอ็งเงิลแบร์ท เค็มพ์เฟอร์ (Engelbert Kaempfer) ได้กล่าวว่าเจ้าพระยาพระคลัง (เจ้าพระยาโกษาธิบดี (เหล็ก)) ได้ทำการบูรณะวัดแห่งหนึ่ง ซึ่งในบันทึกของหมอแกมป์เฟอร์เรียกว่า วัดพระยาพระคลัง ซึ่งส่วนใหญ่เชื่อว่าคือวัดสมณโกฎฐารามกับวัดกุฎีดาว แต่จากการเทียบแผนที่หมอแกมป์เฟอร์ของอชิรวิชญ์ อันธพันธ์ พบว่าตำแหน่งวัดพระยาพระคลังตรงกับวัดประดู่และวัดโรงทาน (วัดโรงธรรม) จึงสันนิษฐานว่าวัดประดู่อาจเป็นวัดพระยาพระคลังก็เป็นได้
 
 พ.ศ. 2301 สมเด็จพระเจ้าอุทุมพร ได้สละราชสมบัติให้สมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์ ทรงพระผนวชและพำนักที่วัดประดู่
 
 ครั้นแรมเดือน ๗ เสด็จพระราชดำเนินไปถวายราชสมบัติแก่สมเด็จพระเชษฐาธิราชแล้ว ถึงเดือน ๘ ข้างขึ้น ก็เสด็จทรงเรือพระที่นั่งกิ่งเป็นกระบวนพยุหยาตรา ออกไปพระผนวชวัดเดิม แล้วเสด็จไปอยู่ณวัดประดู่
 
 — พระราชพงศาวดาร ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม)
 
 พ.ศ. 2302 พระเจ้าอลองพญายกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระเจ้าอุทุมพรได้ลาพระผนวชมาช่วยทำการศึก เมื่อพม่าเลิกทัพไปจากกรุงศรีอยุธยาแล้ว สมเด็จพระเจ้าอุทุมพรก็ทรงพระผนวชอีกครั้งยังวัดโพธิ์ทองคำหยาด จากนั้นเสด็จฯ กลับมาประทับ ณ วัดประดู่ตามเดิม เมื่อสงครามคราวเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ได้เสด็จฯ จากวัดประดู่มาประทับยังวัดราชประดิษฐานในพระนคร
 
 เมื่อแรกรวมวัดเข้ากันในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวนั้นเรียกชื่อวัดว่า วัดประดู่โรงธรรม ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อเป็น วัดประดู่ทรงธรรม จนถึงปัจจุบัน อนึ่ง พื้นที่ของวัดประดู่ทรงธรรมในปัจจุบันคือพื้นที่ของวัดโรงทาน (วัดโรงธรรม) ส่วนวัดประดู่ที่เป็นที่ผนวชของสมเด็จพระเจ้าอุทุมพรนั้น ตั้งอยู่เหนือวัดโรงทาน(วัดโรงธรรม) โดยมีคลองวัดประดู่กั้นระหว่างทั้ง 2 วัด ปัจจุบันวัดประดู่ยังเหลือซากวัดร้างอยู่ ส่วนคลองวัดประดู่ถูกถมบางส่วน
 
 สถานที่สำคัญภายในวัด คือพระอุโบสถสมัยกรุงศรีอยุธยาที่มีการบูรณะใหม่ในราวสมัยรัชกาลที่ 4 มีจิตรกรรมฝาผนังเล่าเรื่องราว ทศชาติชาดกพุทธประวัติภาพขบวนเสด็จทางสถลมารควิถีชีวิต และการละเล่นของคนไทยในสมัยก่อน ปัจจุบัน วัดประดู่ทรงธรรมเป็นแหล่งศิลปศาสตร์พุทธศาสตร์หลายแขนง โดยเฉพาะมนต์คาถาการตีเหล็กของหลวงพ่อเลื่อง และหลวงพ่อรอดเสือพระเถระเจ้าอาวาส ในสมัยก่อน นอกจากนี้ภายในวัดประดู่ฯ ยังมีพันธุ์ไม้โบราณขนาดใหญ่นานาชนิดขึ้นอยู่รอบวัด พาให้ร่มรื่นแก่ผู้มาเยือน
 
 .....
 
 
 
  
 
  
 
  
 
  
 
  
 
  
 
  
 
  
 
  
 
  
 
  
 
  
 
  
 
  
 
  
 
  
 
  
 
  
 
  
 
  
 .....
 
 
 
  
 
  
 
  
 
  
 
  
 
  
 
  
 
  
 
  
 
  10
 
  
 
  
 
  
 
  
 
  
 
  
 
  
 
  
 
  
 
  20
 
  
 
  
 
  
 
  
 
  
 
  
 
  
 
  
 .
 
 
 .....
 ขอขอบคุณ ข้อมูลและภาพจาก...
 https://th.wikipedia.org/wiki/วัดประดู่ทรงธรรม
 https://www.orientalarchitecture.com/sid/1255/thailand/ayutthaya/wat-pradu-songtham
 
 .
 
 
 
 
 |