Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
User Info
Welcome, Guest. Please login or register.
17 May 2024, 19:16:23

Login with username, password and session length
Search:     Advanced search
News
ท่านสมาชิกสามารถเปลี่ยนรูปแบบ (Theme) ได้อีกหลายแบบ
เชิญทดลองโดยคลิกที่ลิงค์ข้างล่าง ได้เลยครับ

http://www.smilesiam.net/index.php/topic,3170.msg4713.html
Forum Stats
25,700 Posts in 12,500 Topics by 70 Members
Latest Member: KAN
Home Help Search Calendar Login Register
Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...  |  ภาพประทับใจ  |  ผนังเก่าเล่าเรื่อง (Moderator: ผนังเก่าเล่าเรื่อง)  |  ตะเกียบ
0 Members and 1 Guest are viewing this topic. « previous next »
Pages: [1] Go Down Print
Author Topic: ตะเกียบ  (Read 55 times)
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,553


View Profile
« on: 30 November 2023, 10:44:37 »

ตะเกียบ


ตะเกียบ [1]

การรับประทานอาหาร เป็นส่วนหนึ่งในวัฒนธรรมของแต่ละชาติพันธุ์ โดยชาวจีนใช้ตะเกียบ ชาวตะวันตกใช้ช้อนส้อมและมีด ส่วนชาวอุษาคเนย์และอินเดียใช้มือ(เปิบ)

ทำไมคนจีนถึงใช้..."ตะเกียบ" ที่เป็นไม้เรียวๆ ยาวๆ เล็กๆ สองอันจับคู่กันทานอาหาร คนจีนนำเอาความคิดนี้มาจากที่ไหน ถ้าย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 3,000 ปีมาแล้ว คนจีนสมัยก่อน ทานอาหารปิ้งย่างเป็นหลัก (อาหารปิ้งย่าง ตี๋หมวยเรียกว่า "ซาวข่าว") และอาหารที่ปิ้งย่างที่เสร็จใหม่ๆ ส่วนใหญ่มันจะร้อนจี๋ จนมือจับไม่ได้ นี่แหละ คือจุดเริ่มต้นของการคิดค้นอุปกรณ์การกินที่คนเกินครึ่งโลกใช้กันอยู่ในปัจจุบันอย่าง "ตะเกียบ"

เหตุผลคืออาหารร้อน คนโบราณเลยคิดหาสิ่งของมาคีบสัมผัสอาหารแทนมือ เริ่มต้นใช้แท่งไม้เล็กๆ มาจับคู่กัน แรกเริ่มเดิมทีก็ใช้ไม้ไผ่นี่แหละ จนถึงสมัยราชวงศ์ซาง ก็เริ่มมีการสร้างสรรค์ เดิมจากไม้ เป็นวัสดุต่างๆ ทั้งทอง เหล็ก รวมไปถึงงาช้าง ซึ่งแน่นอนว่า วัสดุเหล่านี้คนธรรมดาที่ไหนใครจะมีใช้ในครอบครองได้ ก็ต้องเป็นกษัตริย์ และชนชั้นสูงเท่านั้น ถึงจะมีโอกาสได้เป็นเจ้าของ

ประเทศจีน ถือว่าเป็นประเทศต้นกำเนิดของตะเกียบ อาจกล่าวได้ว่าชาวจีนต่างรู้จักและคุ้นเคยกับการใช้ตะเกียบมาตั้งแต่เด็ก ตะเกียบหนึ่งคู่ที่ดูว่าเป็นอุปกรณ์ในการรับประทานอาหารที่ดูง่ายๆ แต่มีความสามารถในการคีบ หนีบ พลิก คลุกเคล้า และอีกหลายอย่าง จึงไม่น่าแปลกใจที่จะมีเรื่องราวที่แฝงไว้ในประเพณีและวัฒนธรรม โดยเฉพาะปรัชญาต่างๆ ที่เป็นประโยชน์อย่างมากต่อการดำเนินชีวิต ทั้งในประเพณีประจำชาติประจำท้องถิ่น ทั้งวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้

ตะเกียบไม่ได้ทำมาเพื่อใช้รับประทานอาหารเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีความหมายในความเป็นตะเกียบที่น่าสนใจมากๆด้วย คือ ตะเกียบที่มาเป็นคู่ คือที่มาของความสมดุลของหยินและหยาง

5 นิ้วในการจับตะเกียบ หมายถึงโหงวเฮ้ง นั่นก็คือ ไฟ ไม้ ทอง ดิน และน้ำ

ตะเกียบของแท้ๆ ข้างหนึ่งต้องกลม อีกข้างต้องเป็นเหลี่ยม ที่เป็นตัวแทนของจักรวาลที่กลม และพสุธาที่เป็นเหลี่ยม

การจับตะเกียบที่ถูกต้องคือ การจับที่บริเวณกึ่งกลาง ที่ความหมายว่า ฟ้า ดิน มนุษย์ รวมกันเป็นหนึ่งเดียวกัน

หากเราใช้ตะเกียบที่ใช้แรง มากเกินไปจะทำให้ขยับไม่ออก แต่หากเบาเกินไปก็ไม่สามารถคีบอาหารได้ นี่เป็นการสอนให้รู้ว่า การใช้ชีวิตในสังคมจะต้องรู้จักผ่อนสั้น ผ่อนยาว และนี่ก็คือความหมายที่แฝงอยู่ในตะเกียบของคนจีน

ด้วยเหตุที่มีการใช้ตะเกียบมายาวนาน ทำให้คนจีน มีข้อห้ามเกี่ยวกับการใช้ตะเกียบด้วย คือ

จับตะเกียบโดยการใช้นิ้วโป้ง ประกบกับนิ้วกลาง นาง ก้อย และเหลือนิ้วชี้ พุ่งไปด้านหน้า เหมือนกับเรากำลังชี้นิ้วไปที่คนอื่นอยู่เสมอ ซึ่งคนจีนเขามองว่า การกระทำแบบนี้ แฝงความหมายว่าเรากำลังตำหนิ หรือประณามใครอยู่นั่นเอง

และการใช้ตะเกียบชี้ไปที่คนอื่น ตอนที่กำลังพูดคุยกันอยู่ นี่ก็ไม่ควรทำเหมือนกัน เพราะเหมือนเรากำลังด่าเขาอยู่

สุดท้าย ห้ามปักตะเกียบไว้ในชามข้าว เพราะดูเหมือนปักธูปในกระถางไหว้คนตาย ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่เป็นมงคลอย่างยิ่ง รวมทั้งห้าม อม ดูด หรือ เลียตะเกียบ กิริยานี้เป็นเรื่องที่เสียมารยาทอย่างยิ่ง ถ้ายิ่งดูดจนเกิดเสียงดังด้วยแล้ว ถือเป็นกิริยาที่ขาดการอบรมที่ดี
.....

วิธีจับตะเกียบที่ถูกต้อง

1. นิ้วโป้ง นิ้วชี้ และนิ้วกลาง จับตะเกียบเบาๆ
2. นิ้วโป้งวางอยู่ข้างๆนิ้วชี้
3. ให้ส่วนบนของตะเกียบยื่นออกมาจากกำปั้น 1 ซม.
4. ขยับขึ้นด้านบนเท่านั้น
5. ปลายตะเกียบเสมอกัน
6. วางตะเกียบไว้ด้านข้างเล็บนิ้วนาง
7. หนีบตะเกียบไว้ระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้

.





.



.



.



.



.



Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,553


View Profile
« Reply #1 on: 30 November 2023, 10:45:18 »


Yin and Yang

.



.



Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,553


View Profile
« Reply #2 on: 30 November 2023, 10:45:57 »


ตะเกียบ [2]

ตะเกียบของประเทศจีน เกาหลี ญี่ปุ่น ต่างกันอย่างไร ?
ทำไมจึงยาวไม่เท่ากัน ทั้งๆที่ก็เป็นตะเกียบเหมือนกัน ?
.

ตะเกียบประเทศจีน
ชาวจีนมีความเชื่อว่า ตะเกียบเป็นส่วนขยายของนิ้วมือ ดังนั้นตะเกียบของจีน จึงมีความยาวและหนากว่าตะเกียบของญี่ปุ่นและเกาหลี อีกทั้งตามธรรมเนียมการรับประทานอาหารของชาวจีน มักจะทานร่วมกันในครอบครัว ซึ่งอาหารก็มักจะวางไว้บนโต๊ะที่สามารถหมุนได้ ดังนั้นตะเกียบของชาวจีนที่มีลักษณะยาว จะช่วยทำให้การคีบอาหารในขณะที่รับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่นได้สะดวกและง่ายขึ้นนั่นเอง
.

ตะเกียบเกาหลี (มีความเฉพาะตัว คนต่างชาติใช้ยาก)
ตะเกียบเกาหลีนั้นมีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์มากที่สุด แค่มองก็สามารถทราบได้ทันทีว่านี่คือตะเกียบของเกาหลี เพราะตะเกียบของเกาหลีนั้นทำมาจากเงินและโลหะ มีน้ำหนัก และมีลักษณะแบน

เหตุผลที่ตะเกียบของเกาหลีนั้นเป็นตะเกียบเงิน ก็เพราะว่าในอดีต มีคนในราชวงศ์ถูกลอบสังหารโดยการวางยาพิษ เพื่อป้องกันการถูกลอบสังหารจึงได้เปลี่ยนวัสดุของตะเกียบให้เป็นโลหะ ตามประวัติศาสตร์ในราชสำนักของเกาหลีจะมีเจ้าหน้าที่ชิมอาหาร นำตะเกียบเงินมาทดสอบอาหารก่อนว่ามียาพิษหรือเปล่า (ถ้ามีจะเปลี่ยนสี) ตะเกียบก็เลยทำเป็นเงินตั้งแต่นั้น แล้วก็ทำเป็นโลหะ และพัฒนาเป็น “สแตนแลส” แบบในปัจจุบันนั่นเอง โดยตะเกียบเกาหลี จะมีความแบนกว่าตะเกียบญี่ปุ่นและจีน เพราะทำจากวัสดุโลหะ หรือเงินแท้
.

ตะเกียบญี่ปุ่น
ความยาวของตะเกียบได้มาจากการใช้งาน ตะเกียบของคนญี่ปุ่นใช้เป็นไม้เพื่อให้ง่ายต่อการคีบข้าวและอาหารเข้าปาก ปลายตะเกียบจะแหลมเพราะอาหารญี่ปุ่นส่วนใหญ่มักจะเป็นพวกปลา ปลายตะเกียบแบบนี้จะช่วยในการการคีบเนื้อปลา เลาะก้างและเขี่ยก้างปลาออกได้ง่าย เวลาที่คนญี่ปุ่นกินข้าวเค้าก็จะยกชามข้าวเข้ามาใกล้ปาก ทำให้ตะเกียบของญี่ปุ่นสั้นกว่าตะเกียบของเกาหลีและจีนนั่นเอง

.


ตะเกียบของประเทศจีน เกาหลี ญี่ปุ่น ยาวไม่เท่ากัน


.


ความอุดมสมบูรณ์


.




.




.




.



Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,553


View Profile
« Reply #3 on: 30 November 2023, 10:46:47 »


ตะเกียบ [3]

วัฒนธรรมของแต่ละชาติพันธุ์ ถ่ายทอดออกมาได้จากการรับประทานอาหาร

ชาวจีนใช้ตะเกียบ ชาวตะวันตกใช้ช้อนส้อมและมีด ชาวอุษาคเนย์และอินเดียใช้มือ

ตะเกียบ ประดิษฐกรรมที่ชาวจีนใช้หยิบคีบอาหารมีประวัติมานานกว่า ๓,๐๐๐ ปี มีมาตั้งแต่ครั้งสมัยราชวงศ์ซาง เดิมมีบันทึกเรียกตะเกียบว่า 箸 จู้ แต่ด้วยจู้ได้พ้องเสียงกับ 住 จู้ หมายถึงหยุด คนโบราณเห็นว่าไม่เป็นสิริมงคล

จึงใช้คำตรงกันข้ามคือ 快ไคว่ หมายถึงรวดเร็ว และด้วยตะเกียบทำจากไม้ไผ่ จึงเติมไม้ไผ่ไว้ด้านบน เป็นตัวอักษร 筷 มาจนถึงปัจจุบัน

ตะเกียบ ไม่ว่าจะทำด้วยอะไร นับจากไม้ไผ่ ไม้เนื้อดี โลหะ ไปจนถึงเครื่องเขินประดับมุก งาช้าง เครื่องเงินเครื่องทองที่ใช้ในราชสำนักโบราณ ไปจนถึงตะเกียบเมลามีน ตะเกียบกระเบื้องที่เราใช้กันทั่วไป หรือตะเกียบเงินตะเกียบทองของใช้บนโต๊ะอาหารของอัครมหาเศรษฐีในยุคดิจิตอล 4.0

ตะเกียบ นอกจากจะเป็นเครื่องบอกได้ถึงฐานะและรสนิยมของผู้ใช้แล้ว ยังมีเรื่องราวทางวัฒนธรรมแฝงไว้อีกมากมาย

วันนี้ จะมาเล่าสู่กันฟังถึงความหมายที่ซ่อนอยู่ตะเกียบกันพอสังเขปนะครับ

๑. ในแต่ละมื้ออาหารที่เราใช้ตะเกียบ เคยสังเกตกันไหมครับว่า ด้านบนตะเกียบจะมีรูปทรงสี่เหลี่ยม ด้านล่างจะมีรูปทรงวงกลม เรื่องนี้บอกอะไรเรา...สี่เหลี่ยมเปรียบเหมือนพื้นดิน วงกลมเปรียบประดุจท้องฟ้า ตามคติจีน 天圆地方 เทียนหยวนตี้ฟาง

เวลาใช้ตะเกียบจะสลับด้านกัน เพราะรูปทรงสี่เหลี่ยมย่อมไม่สามารถหยิบคีบอาหารได้แน่ เราจะใช้ด้านกลม ที่แทนความหมายท้องฟ้า คีบอาหารเข้าปาก ให้ความหมายที่บอกเป็นนัยว่า...สำหรับประชาชนแล้ว เรื่องปากท้องเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ประหนึ่งเป็นเรื่องของฟ้าเลยทีเดียว 民以食为天

๒. เวลาเราจับตะเกียบคีบอาหาร เราจะใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้อยู่ด้านบน นิ้วกลางอยู่กลาง นิ้วนางนิ้วก้อยอยู่ล่าง นิ้วทั้งหมดต้องทำงานร่วมกัน จึงจะสามารถใช้ตะเกียบคีบอาหารเข้าปากได้ แทนความหมาย ฟ้าดินคน 天地人 เป็นลักษณะความสมดุลของทุกสรรพสิ่งที่ต้องอยู่ร่วมกันตามคติเต๋า

๓. เมื่อเราจับตะเกียบ ข้างหนึ่งจะอยู่นิ่ง อีกข้างหนึ่งจะขยับไปมาเพื่อคีบอาหาร ด้านที่อยู่นิ่งก็คือยิน 阴 (สงบ เย็น มืด พระจันทร์ ผู้หญิง) ด้านที่ขยับก็คือ หยาง 阳 (เคลื่อนไหว ร้อน สว่าง พระอาทิตย์ ผู้ชาย) ยินและหยางต้องทำงานคู่กัน ทุกสิ่งจึงสำเร็จ ยินหรือหยางทำงานฝ่ายเดียว ย่อมไม่สำเร็จ ธรรมชาติและสรรพสิ่งรวมถึงมนุษย์ก็เป็นเช่นนั้น

๔. ความยาวของตะเกียบ ยังมาตรฐานความยาวของตะเกียบจีนตามประเพณีโบราณ จะต้องมีความยาว ๗.๖ นิ้วจีน (七寸六分) หรือเทียบเท่าประมาณ ๒๒-๒๔ เซ็นติเมตร (1寸 เทียบเท่า 3.3 ซม.) ซึ่งก็ยังคงใช้ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน (ตามขนาดความยาวมาตรฐาน)

ด้วยความยาวของตะเกียบนี้เอง บรรพบุรุษยังใช้เป็นเครื่องบอกความแตกต่างระหว่างมนุษย์กับสัตว์ทั้งหลายได้อีก

ความยาว ๗.๖ นิ้วจีน แทนอารมณ์ ๗ อย่าง 七情 และความอยาก ๖ 六欲 ประการของมนุษย์

อารมณ์ทั้ง ๗ คือ ความยินดี 喜 ความโกรธ 怒 ความเศร้า 哀 ความกลัว 惧 ความรัก 爱 ความเกียจ 误 และความอยาก 欲

ความอยากทั้ง ๖ เปรียบเหมือนอายตนะทั้ง ๖ ตามหลักพระพุทธศาสนาคือ

รูป 见欲 เสียง 听欲 กลิ่น 香欲 รส  味欲  สัมผัส 触欲  และอารมณ์ 意欲

ดังนั้น การจับตะเกียบ เหมือนให้เราควบคุมอารมณ์ทั้ง ๗ และความอยาก ๖

ขอให้เรารู้จักเดินสายกลาง ไม่มาก ไม่น้อย ให้พอดี มนุษย์ สัตว์ และธรรมชาติ จึงจะอยู่ได้อย่างสมดุลตลอดไป

คราวนี้เวลาที่เราใช้ตะเกียบคีบอาหารในแต่ละมื้อ คงมีความหมายกันมากขึ้นไม่น้อยเลยนะครับ


.....
ขอขอบคุณข้อมูลจาก...https://www.blockdit.com/pariwatchanthorn

.




.




.



Logged
Pages: [1] Go Up Print 
« previous next »
 

SMF 2.0.4 | SMF © 2013, Simple Machines | Theme by nesianstyles | Buttons by Andrea
Page created in 0.079 seconds with 16 queries.