ppsan
|
|
« on: 04 November 2023, 09:37:54 » |
|
เปิดใจ หญิงสาวตามรับเสด็จ ในหลวง พระราชินี มาตลอด 10 ปี เผยน้ำพระราชหฤทัย
ภาพผู้หญิงคนหนึ่งถือภาพท่ามกลางฝนตก และเอามือบังพระบรมฉายาลักษณ์ไว้ด้วยความรัก เป็นภาพที่สร้างความซึ้งและเศร้าในคราวเดียวกัน เธอ คือ พี่แหมว ดลนภา กลัดบุบผา อายุ 42 ปี เป็นติวเตอร์สอนพิเศษอิสระ โดยเปิดเผยว่า “ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา พี่จะคอยมารอรับเสด็จในหลวงและสมเด็จพระนางเจ้าฯ ทุกวัน ตั้งแต่ในหลวงเสด็จมาประทับที่โรงพยาบาลศิริราช ไม่มีวันไหนเลยที่เธอจะไม่มานั่งรอหรือบางทีค้างคืนรอที่ใต้ถุนโรงพยาบาลเพื่อที่จะได้เห็นพระพักตร์ของท่าน
“เริ่มตั้งแต่เด็กๆ คุณยายจะพาไปรับเสด็จในหลวงที่วัดพระแก้วทุกครั้งที่ท่านเสด็จออกมาทำให้เรารู้สึกผูกพันและเห็นถึงพระบารมีและความเมตตาที่มีต่อประชาชนของพระองค์ท่าน พอโตขึ้นมา เราก็ตามไปรับเสด็จพระองค์ท่านทุกที่ ตอนที่สมเด็จย่าทรงประชวรก็ตามไปเฝ้า สมเด็จพระพี่นางก่อนสวรรคต ก็ตามไปรอรับเสด็จ กลายเป็นส่วนใหญ่ส่วนหนึ่งของชีวิตที่จะต้องทำหน้าที่นี้ กลับไปนอนบ้านแบบนับครั้งได้เลย”
พี่แหมวบอกว่าไม่ใช่แค่เธอคนเดียวที่ตามในหลวงไปทุกๆ ที่ จะมีลุงๆ ป้าๆ ประมาณ 10 กว่าคนที่มารวมตัวกัน เราถามเธอว่าทุกคนรู้จักกันอยู่แล้วรึเปล่า เธอบอกว่ารู้จักตอนมารอเฝ้าในหลวงนี่แหละ “พวกเราไปไหนไปกัน นอนกันแบบไม่มีมุ้ง ไม่มีหมอน เอากระเป๋าหนุนหัว ทั้งร้อน ทั้งหนาว มียุง ก็ไม่มีอะไรที่จะทำให้เราท้อได้ เคยมีครั้งหนึ่งฝนตกหนักมาก เราก็ไปยืนรอตากฝน ถึงท่านจะไม่ได้เสด็จออกมาก็ตาม หรือตอนที่ในหลวงเสด็จกลับวังไกลกังวล ตอนวันที่ 5 พฤษภาคม ปี 2556 เราก็ขับรถกันไปรอรับเสด็จที่นั่น”
...
ถามถึงเรื่องความประทับใจที่มีต่อพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ พี่แหมวเล่าให้ฟังว่าทุกพระองค์ทรงพระเมตตามากๆ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระราชทานน้ำและอาหารให้กับผู้ที่มานอนค้างรอรับเสด็จฯ ที่ศิริราชอยู่บ่อยๆ “บางครั้งเสด็จลงมาด้วยพระองค์เองช่วงตีหนึ่งตีสอง พระราชทานอาหารให้ ตรัสถามความเป็นอยู่ของพวกเราอยู่เรื่อยๆ ซึ่งเราสัมผัสได้ของน้ำพระราชหฤทัยของพระองค์ บางครั้งในหลวงก็เสด็จลงมาเองตอนกลางคืน ตีสองตีสาม พวกเราที่กำลังนั่งหลับนอนหลับก็รีบลุกขึ้นมานั่ง พูด “ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ” กัน แต่พระบรมฉายาลักษณ์ที่ถืออยู่กลับหัวไปหมด พระองค์ท่านเห็นก็ทรงพระสรวล”
.
ครั้งที่พี่แหมวบอกว่าจำได้ไม่มีวันลืมเลยคือตอนที่รับขบวนเสด็จในหลวงในวันที่สมเด็จพระพี่นางฯ สิ้นพระชนม์ “ในหลวงเสด็จลงมา พวกเราทราบข่าวก็ใส่ชุดดำรออยู่ที่ด้านล่างแล้ว ท่านเสด็จมาถึงตรงที่พวกเรานั่งแล้วทรงรับสั่งว่า “ขอบใจมากๆ” เป็นครั้งแรกที่รู้สึกตื้นตันใจมากๆ ส่วนอีกครั้งคือตอนที่ทุกคนที่ศิริราชพร้อมใจกันใส่เสื้อสีชมพูให้ในหลวง สมเด็จพระนางเจ้าฯ ตรัสถามพวกเราว่า “ทำไมถึงใส่เสื้อสีชมพูกันจ๊ะ” พวกเราก็ตอบไปตามภาษาชาวบ้านว่าใส่เสริมดวงให้กับในหลวง หมอดูบอกว่าสีชมพูจะช่วยให้พระวรกายของพระองค์แข็งแรงขึ้น พอพระองค์ท่านทรงได้ยินก็ทรงยิ้มและตรัสขอบใจพวกเรา”
.
ในวันที่ในหลวงเสด็จสวรรคต เราพี่แหมวถามถึงบรรยากาศรอบๆ ศิริราช เธอเล่าให้ฟังพร้อมกับเสียงเครือๆ ว่า “เราค้างคืนกันมา 3 วันติดต่อกัน เพราะตอนนั้นทุกคนได้ข่าวว่าพระอาการทรงทรุดลง พอวันที่ 13 ข่าวมาถึงว่าเสด็จสวรรคตแล้ว เราอึ้ง มันพูดไม่ออกเลย เหมือนหัวใจสลายตรงนั้นเลย น้ำตาไหลแบบหยุดไม่ได้ตั้งแต่วันแรกเป็นหลายวัน”
.
ถามถึงเรื่องความประทับใจที่มีต่อพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ พี่แหมวเล่าให้ฟังว่าทุกพระองค์ทรงพระเมตตามากๆ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระราชทานน้ำและอาหารให้กับผู้ที่มานอนค้างรอรับเสด็จฯ ที่ศิริราชอยู่บ่อยๆ “บางครั้งเสด็จลงมาด้วยพระองค์เองช่วงตีหนึ่งตีสอง พระราชทานอาหารให้ ตรัสถามความเป็นอยู่ของพวกเราอยู่เรื่อยๆ ซึ่งเราสัมผัสได้ของน้ำพระราชหฤทัยของพระองค์ บางครั้งในหลวงก็เสด็จลงมาเองตอนกลางคืน ตีสองตีสาม พวกเราที่กำลังนั่งหลับนอนหลับก็รีบลุกขึ้นมานั่ง พูด “ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ” กัน แต่พระบรมฉายาลักษณ์ที่ถืออยู่กลับหัวไปหมด พระองค์ท่านเห็นก็ทรงพระสรวล”
.
ขอบคุณที่มา cleothailand
.
|