| ppsan | 
								|  | «  on: 13  October  2023, 14:11:35  » |  | 
 
 [35] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ท้าวชนกจัดพิธียกธนูพระมหาโลหะโมลี หาคู่ครองให้นางสีดา โดย กลม บางบาน
 
 ปฐมบทแห่งรามเกียรติ์ ตอนที่ 35 ท้าวชนกจัดพิธียกธนูพระมหาโลหะโมลี หาคู่ครองให้นางสีดา
 
 .
 
 
 ด้วยว่านางสีดาผู้เป็นพระธิดาเจริญชันษามา 16 ปี เป็นวัยอันควรที่จะมีคู่ครอง ท้าวชนกจึงมีดำริที่จะทำพิธียกศรศิลป์ เพื่อหาผู้มีบุญญาธิการที่คู่ควรกับนางสีดา เมื่อได้กำหนดศุภวารฤกษ์อมฤตโชคจึงมีรับสั่งให้ป่าวประกาศแจ้งข่าวไปยังเจ้าพระยามหากษัตริย์ทุกเมืองทุกแว่นแคว้น แม้นหากผู้ใดสามารถยกพระมหาโลหะโมลีขึ้นจากเหนือแท่น จะได้อภิเษกสมรสกับนางสีดา
 
 (ธนูพระมหาโลหะโมลี - ย้อนไปในอดีต ที่มีการปราบยักษ์ตรีบุรัม พระอิศวรได้สร้างอาวุธขึ้นมาหลายอย่าง หนึ่งในนั้นก็คือ ธนู พระมหาโลหะโมลี ที่หลังจากปราบตรีบุรัมแล้วพระอิศวรให้นำมาไว้ที่กรุงมิถิลา ดังนั้น ท้าวชนกจึงคิดว่าจะใช้ธนูนี้ เป็นเครื่องประลองในการหาลูกเขย โดยตั้งเงื่อนไขว่า ใครที่สามารถยกธนูนี้ได้ ก็จะยกนางสีดาให้เป็นมเหสี แล้วจึงประกาศออกไป ให้กษัตริย์หรือเจ้าชายทุกเมืองมาร่วมแข่งขันยกธนู)
 
 .
 ลดองค์ลงเหนือบัลลังก์รัตน์        ภายใต้เศวตฉัตรฉายฉัน
 เสนาเกลื่อนกลาดอภิวันท์              ดั่งดาวล้อมจันทร์ในเมฆา
 จึ่งมีพระราชบรรหาร                      แก่โหราจารย์ซ้ายขวา
 กูจะอภิเษกพระธิดา                      ให้กษัตริย์มายกศิลป์ชัย
 วันใดจะเป็นศุภผล                       ซึ่งจะทำมงคลพิธีใหญ่
 จงพินิจพิเคราะห์ดูไป                   อย่าให้อันตรายราคี ฯ
 .
 
 แล้วจึ่งมีรับสั่งให้ตั้งมณฑปโรงราชพิธีที่ลานพระราชวัง อัญเชิญพระมหาธนูโมลีประดิษฐานไว้เหนือแท่น นิมนต์พระสิทธามหาดาบสผู้ทรงสิกขาจากทุกป่าเขามาอ่านพระเวทบูชาพระมหาโลหะโมลี อภิมหาคันธนู อันเป็นเทพศาสตราวุธของพระอิศวร ชึ่งทรงประทานให้นำมาเก็บไว้ในกรุงมิถิลาตั้งแต่ครั้งเก่ากาล
 
 .
 เมื่อนั้น                              ท้าวชนกจักรวรรดิเรืองศรี
 ได้ฟังดั่งทิพวารี                             จึ่งมีพจนารถบัญชา
 เสนาจงตั้งมณฑปมาศ                    ให้โอภาสยอดเยี่ยมเวหา
 แล้วเชิญธนูพระอิศรา                      มาวางไว้หน้าพระลานชัย
 อันเหล่าคณะพระนักสิทธ์                ซึ่งสถิตอยู่ในป่าใหญ่
 นิมนต์มาอ่านเวทสำรวมใจ              ที่ในโรงราชพิธี ฯ
 .
 
 ท้าวชนกป่าวประกาศ เชิญหน่อกษัตริย์ต่างเมืองมายกศร งานนี้มีเหล่ากษัตริย์จากเมืองต่างๆมากันมากมาย รวมทั้งพระราม และพระลักษมณ์ด้วย ที่เสร็จภารกิจจากการปราบนางยักษ์กากนาสูร ยังไม่ได้กลับกรุงอโยธยา พระฤๅษีวสิษฐ์และฤๅษีสวามิตร จึงพาพระรามและพระลักษมณ์ไปยังเมืองมิถิลา
 
 ระหว่างที่พระรามเดินชมเมืองมิถิลาอยู่นั้น ได้เห็นนางสีดาทางช่องประตูแก้วด้านหนึ่งก็ทรงหลงรักนาง ส่วนนางสีดาเองก็มีใจภักดีพระรามด้วยเช่นกัน
 
 เมื่อถึงเวลากำหนดจะทำพิธียกพระมหาธนูโมลี ท้าวชนกก็โปรดลั่นฆ้องชัย ฝ่ายหน่อกษัตริย์ทั้งหลายก็ลุกขึ้นทันทีพร้อมหน้า เบียดเสียดยัดเยียดเข้ามา ฉุดคร่า วัดเหวี่ยงเกี่ยงกัน แต่ในที่สุดก็ไม่มีผู้ใดสามารถยกพระมหาธนูโมลีให้เคลื่อนที่ได้ นอกจากพระราม พระลักษมณ์เท่านั้น ทว่าพระลักษมณ์นั้นรู้ดีว่านางสีดามีใจให้แก่พระรามจึงแสร้งทำเป็นยกธนูโมลีนั้นไม่ได้ เมื่อพระรามออกไปยกพระมหาธนูโมลีด้วยตนเอง ก็สามารถยกขึ้นได้โดยง่าย แล้วทรงกวัดแกว่งสำแดงฤทธิ์ของพระมหาธนูโมลี พระรามจึงได้อภิเษกกับนางสีดา
 
 ท้าวชนกจึงให้อาลักษณ์เขียนสารถึงท้าวทศรถ ท้าวทศรถเมื่อได้รับสารจากท้าวชนกแล้ว ก็แจ้งไปยังพระพรต และพระสัตรุด เพื่อให้เดินทางเข้ามายังเมืองอโยธยาและแล้วจะได้ไปร่วมพิธีอภิเษกสมรสพระรามกับนางสีดาพร้อมกัน
 
 หลังจากเสร็จพิธีอุปภิเษกพระรามกับนางสีดาในเมืองมิถิลา ท้าวทศรถกับคณะพร้อมด้วย พระราม นางสีดา และพระลักษมณ์ ก็ลาท้าวชนกยกทัพกลับอยุธยา
 
 .
 
 
 
 
 |