| ppsan | 
								|  | «  on: 07  October  2023, 20:33:54  » |  | 
 
 [32] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน นางค่อมกุจจี โดย กลม บางบาน
 
 ปฐมบทแห่งรามเกียรติ์ ตอนที่ 32 นางค่อมกุจจี
 
 .
 
 
 ในขณะที่พระกุมารทั้ง 4 คือพระราม พระพรต พระลักษณ์ และพระสัตรุด มีพระชนมายุได้ 12 ปี ท้าวทศรถได้ประทานกระสุนให้ทุกองค์ เพื่อให้ฝึกหัดยิงเล่นต่างศรที่หน้าพระลาน อยู่มาวันหนึ่ง สาวใช้ของนางไกยเกษี ชื่อ นางค่อมกุจจี มีหน้าที่เก็บดอกไม้ที่ในสวนหลวง เดินผ่านมาจึงแวะนั่งลงดูพระราชโอรสทั้งสี่ที่กำลังเล่นกันอย่างสนุกสนาน ขณะที่นางกำลังเพลิดเพลินอยู่นั้น พระรามนึกสนุก จึงตรัสกระซิบกับพระอนุชาทั้งสามว่า
 
 ...น้องๆๆ เห็นบ่าวนางค่อมนั่งอยู่นั่นไหม เดี๋ยวพี่จะทำอะไรให้ดู...
 
 ว่าแล้วพระรามก็ยิงลูกกระสุนไปที่นางค่อมกุจจี โดนหลังค่อมจนโก่งไปข้างหน้าชั่วพริบตา แล้วยิงซ้ำไปหลังค่อมนั้นก็กลับคืนค่อมดังเดิมในเวลาดุจสายฟ้าแลบ โดยนางไม่ทันรู้ตัวจึงเป็นที่เฮฮากัน
 
 .
 พี่จะยิงอีค่อมหลังกุ้ง         ให้โก่งนั้นคุ้งไปข้างหน้า
 น้องรักจงทอดทัศนา         ว่าแล้วก็ยิงไปทันที
 
 ด้วยเดชานุภาพพระนารายณ์      ต้องแม่นเหมือนหมายไม่คลาดที่
 โก่งนั้นคุ้งไปข้างนาภี         พระจักรีก็ยิงซ้ำไปฯ
 
 โก่งนั้นก็กลับคืนมา         นางค่อมหารู้ตัวไม่
 แม่นยำรวดเร็วว่องไว         ยิงได้ดังใจทุกสิ่งอัน
 
 พระพี่น้องชื่นชมโสมนัส         ตบพระหัตถ์สำรวลสรวลสันต์
 มหาดเล็กเด็กชาทั้งนั้น         ต่างเย้ยเหยาะหยันเฮฮา
 .
 
 นางกุจจีเมื่อรู้ตัวว่าถูกหยอกก็โกรธและผูกใจเจ็บพระรามตั้งแต่บัดนั้นมา และการเจ็บแค้นของนางค่อมในครั้งนี้ จะส่งผลต่อพระรามอย่างยิ่งยวดในอนาคต (ซึ่งภายหลังนางค่อมกุจจีผู้นี้แหละที่ไปทูลนางไกยเกษี ให้ทวงสัญญาจากท้าวทศรถ ขอให้พระพรตขึ้นครองเมืองอยุธยาแทนพระราม และให้พระรามเดินดงเป็นเวลา 14 ปี)
 
 ต่อมาเมื่อพระราชโอรสทั้งสี่พระองค์ ทรงเจริญเติบโตพระชันษาได้ 14 ปี ท้าวทศรถจึงให้โอรสทั้ง 4 ไปศึกษาพระเวทกับฤๅษีสององค์ชื่อ ฤๅษีวสิษฐ์และฤๅษีสวามิตร จนเรียนศิลปศาสตร์ได้อย่างชำนาญ และพระฤๅษีทั้งสององค์เห็นว่า จากนี้เหล่ายักษ์จะต้องตายด้วยศรพระราม แต่พระรามไม่มีศรประจำตัว จึงตั้งพิธีขอศร พระอิศวรได้ประทานธนูชื่อว่าพระพิชัยโมลี และศรให้องค์ละสามเล่ม แต่ละเล่มมีฤทธิ์ต่างกัน ศรของพระรามมีชื่อว่า ศรพรหมมาสตร์ ศรอัคนิวาต และศรพลายวาต  เมื่อกลับเข้ากรุงศรีอยุธยา จึงลองศรให้ท้าวทศรถชมเป็นที่ชื่นชมโสมนัส...
 
 ฝ่ายท้าวไกยเกษ (พ่อของนางไกยเกษี) กษัตริย์แห่งเมืองไกยเกษ ที่ทรงพระชรามากแล้ว และมีลูกสาวพระองค์เดียวคือนางไกยเกษี ซึ่งแต่งงานกับท้าวทศรถแห่งเมืองอโยธยา พระองค์จึงแจ้งข่าวถึงท้าวทศรถว่าพระองค์มีพระราชโอรสถึง 4 พระองค์ จึงขอพระพรตที่เป็นหลาน(ลูกนางไกยเกษี) มาปกครองดูแลบ้านเมืองไกยเกษต่อจากพระองค์ ซึ่งท้าวทศรถก็ไม่ขัดข้อง และส่งพระพรตไปอยู่ที่เมืองไกยเกษ โดยพระพรตได้พาพระสัตรุด น้องชายต่างมารดาไปด้วย
 
 .
 
 
 
 
 |