Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
User Info
Welcome, Guest. Please login or register.
19 May 2024, 17:23:36

Login with username, password and session length
Search:     Advanced search
News
ท่านสมาชิกสามารถเปลี่ยนรูปแบบ (Theme) ได้อีกหลายแบบ
เชิญทดลองโดยคลิกที่ลิงค์ข้างล่าง ได้เลยครับ

http://www.smilesiam.net/index.php/topic,3170.msg4713.html
Forum Stats
25,703 Posts in 12,501 Topics by 70 Members
Latest Member: KAN
Home Help Search Calendar Login Register
Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...  |  ภาพประทับใจ  |  ผนังเก่าเล่าเรื่อง (Moderator: ผนังเก่าเล่าเรื่อง)  |  [3] ปฐมบทแห่งรามเกียรติ์ ตอนที่ 3 กำเนิดกรุงลงกา - ท้าวสหบดีพรหม สร้างกรุงพิชัยล
0 Members and 1 Guest are viewing this topic. « previous next »
Pages: [1] Go Down Print
Author Topic: [3] ปฐมบทแห่งรามเกียรติ์ ตอนที่ 3 กำเนิดกรุงลงกา - ท้าวสหบดีพรหม สร้างกรุงพิชัยล  (Read 45 times)
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,556


View Profile
« on: 03 September 2023, 21:14:40 »

[3] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน กำเนิดกรุงลงกา โดย กลม บางบาน


ปฐมบทแห่งรามเกียรติ์

ตอนที่ 3 กำเนิดกรุงลงกา - ท้าวสหบดีพรหม สร้างกรุงพิชัยลงกา

.

จากตอนที่แล้ว ได้เล่าเรื่อง การสร้างเมืองอยุธยา ซึ่งเป็นต้นตระกูลของฝ่ายพระราม ไปแล้ว (วงศ์เทวัญ หรือ วงศ์พระนารายณ์)

วันนี้ จะมาเล่าเรื่อง ทางฟากฝั่งกรุงลงกา ซึ่งเป็นต้นตระกูลของทศกัณฐ์ กันบ้าง (วงศ์พรหม หรือ อสูรพรหม)

.

เริ่มต้น ในวงศ์พรหมทั้งหลาย (คติความเชื่อเรื่อง พระพรหม ของศาสนาพุทธกับพราหมณ์ แตกต่างกัน) มี พรหม อยู่องค์หนึ่งชื่อ ท้าวสหมลิวัน ผู้ครองรังกาทวีป หรือเกาะรังกา (เกาะที่มีรังของอีกา) แต่เกิดบาดหมางรบกับพระนารายณ์พ่ายแพ้ จึงจำต้องหนีไปอยู่ที่เมืองบาดาล ทำให้รังกาทวีปขาดคนปกครองกลายเป็นเมืองร้าง

ต่อมา มีพรหมอีกองค์หนึ่งชื่อ สหบดีพรหม เป็นญาติกัน เกรงว่า การทิ้งเกาะรังกาให้ร้างไปแบบนี้ มันไม่เวิร์กแน่ๆเลย จะต้องหาใครลงไปปกครองที่นี่ เพราะเสียดายว่าพื้นที่บริเวณเกาะนี้ เป็นชัยภูมิที่ดี ยอดเยี่ยม เหมาะแก่การสร้างเมืองมาก แล้วเดี๋ยวพวกอสูรเหล่ามารจะไม่มีใครปกครองบนโลกมนุษย์ 
   
ดังนั้น ท้าวสหพรหมก็เลยเดินทางลงมาที่โลกมนุษย์ ลงมาที่เกาะรังกา หรือทวีปรังกา เพราะเป็นเกาะที่ใหญ่มาก จนเรียกว่าทวีปได้เลย ซึ่งเกาะรังกา จะเป็นเกาะที่มีภูเขาอยู่ตรงกลางทวีปชื่อว่า นิลกาลาสิงขร เป็นภูเขาสูงเยี่ยมเทียมเมฆ สีดำสนิท สูงกว่าบรรดาภูเขาทั้งปวง บนยอดเขานั้นมีรังกามหากายสิทธิ์ จึงเห็นว่าเป็นชัยภูมิที่ดีในการตั้งพระนคร จึงมีบัญชาสั่งให้พระวิษณุพรหม ไปเนรมิตมหานครขึ้นไว้ตรงนั้น 

เมื่อวิษณุพรหมได้รับคำสั่ง ก็มาเนรมิตมหานครอย่างใหญ่โตอลังการ ไฮโซโก้เก๋  มีมหาปราสาทสามองค์ แต่ละองค์มียอดพรหมพักตร์ห้ายอดสูงใหญ่ งดงามดั่งวิมานบนสวรรค์ แล้วตั้งชื่อเมืองนี้ว่า “พิชัยลงกา” ตามชื่อของรังกา นั่นเอง

แล้วก็ให้มหาสุทรใหญ่นั้นเป็นปราการป้องกันเมือง ให้ปลาประหลาดที่ดุร้ายและเหรา (จระเข้) และสัตว์น้ำคอยดูแลใต้น้ำ แล้วให้ยักษีผีเสื้อ (ไม่รู้ว่าใช่ตัวเดียวกับผีเสื้อสมุทรในพระอภัยมณีมั้ย แต่คำว่า ยักษีผีเสื้อ น่าจะมาจากยักษ์ที่เป็นเสื้อเมือง ตามความเชื่อเรื่องแต่ละเมืองต้องมีพระเสื้อเมืองพระทรงเมืองคอยปกปักรักษาเมือง ยักษีผีเสื้อก็เหมือนกับพระเสื้อเมืองนั่นเอง) เป็นยักษ์ที่คอยดูแลป้องกันเมืองเหนือผิวน้ำ แล้วสั่งให้ยักษ์ฤทธิกัน คุมทหารยักษ์จำนวนแสนโกฏิ (หนึ่งโกฏิ เท่ากับ สิบล้าน  แสนโกฏิก็เอา แสน คูณกับ สิบล้าน ดู) ทำหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยทางอากาศให้พระนคร คือเหาะข้ามกรุงลงกาและมหาสมุทรไปมา แบบกองทัพโดรนของรัสเซียกับยูเครน นั่นเอง

.
นอกจากสร้างเมืองให้สวยงามใหญ่โตแล้ว ท้าวสหบดีพรหมยังคิดการณ์ไกลถึงการป้องกันเมืองด้วยว่า เมืองนี้จะต้องเป็นเมืองที่แข็งแกร่งที่ไม่มีใครสามารถบุกรุกเข้ามาได้ ด้วยการสร้างกำแพงเมืองและป้อมปราการอย่างแข็งแรง รวมทั้งเมืองลงกาก็เป็นชัยภูมิพิเศษที่เป็นเกาะ มีมหาสมุทรล้อมรอบเป็นคูเมืองตามธรรมชาติอีกชั้นหนึ่งอยู่แล้ว เป็นการป้องกันข้าศึกที่จะเข้ามารุกรานได้ยากขึ้น และยังได้ไปหาพันธุ์ปลาแปลกๆ ที่ดุร้าย เอามาปล่อยในมหาสมุทรรอบเมืองเต็มไปหมด เพื่อให้ดูแลรักษาเมืองทางน้ำ เช่น ปลา จระเข้ และสัตว์น้ำต่างๆ

นอกจากนี้ก็ให้นางยักษ์ผีเสื้อสมุทร (คนละผีเสื้อสมุทรกับพระอภัยมณี) มาคอยป้องกันเมืองไว้ด้วย และยังให้ยักษ์อีกตนหนึ่งชื่อว่า ฤทธิกัน เหาะอยู่ในอากาศ มีไพร่พลจำนวนมาก เหาะตรวจการข้ามเมืองไปมาอยู่ตลอดเวลา เหมือนกองทัพโดรน(ของรัสเซีย) หรือกองทัพอากาศยักษ์ คอยป้องกันเมืองจากทางอากาศ ถ้าข้าศึกจะบุกเข้ามาไม่ว่าทั้งทางน้ำ ทางอากาศ ก็ไม่รอดแน่ สรุปว่า กรุงลงกา เป็นเมืองที่มีการป้องกันอย่างดีเยี่ยม

จากนั้น ท้าวสหบดีพรหม ก็ไปเกณฑ์พวกยักษ์ พวกมาร พวกอสูรต่างๆ เข้ามาอาศัยอยู่ เป็นพลเมือง เป็นทหาร เป็นเสนาอำมาตย์ จนครบถ้วน เรียกได้ว่าเป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์พร้อม ขาดแต่ผู้ปกครอง ท้าวสหบดีพรหมจึงนึกถึงญาติคนหนึ่งชื่อ ท้าวธาดาพรหม ก็ไปบอกว่า

...ธาดาพรหม เจ้านี่ก็เป็นคนที่เก่งและฉลาดในหมู่พวกเรา ขอให้เจ้าลงไปปกครองเมืองลงกาที่ข้าเพิ่งสร้างเสร็จให้หน่อยละกัน และข้าจะตั้งชื่อเจ้าว่า "ท้าวจตุรพักตร์"
...


ท้าวสหบดีพรหมยังจัดโปรโมชั่นพิเศษให้อีกด้วยคือ ยกเมืองให้ปกครอง "เป็นเจ้าเมือง และแถมเมีย" ให้อีกด้วย ชื่อว่า นางมลิกา แล้วยังแถมนางสนมให้อีก 16,000 คนด้วย

แต่..ยัง! ยังไม่พอ ยังมอบอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆมากมาย (มากกว่าที่สหรัฐฯให้ยูเครนแบบยิกๆแย็กๆ) เอาไว้ป้องกันเมืองอีกด้วย มีทั้งคฑา พระขรรค์ สิ่งสำคัญมากมาย และที่พิเศษสุดคือ ฉัตรแก้วโมลี (เก็บไว้ไปเล่าตอนสุครีพหักฉัตรนะครับ) เรียกได้ว่า พรั่งพร้อม สมบูรณ์ Full Option กันเลยทีเดียว

ไม่เอาก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว จัดให้ทั้งเมือง ทั้งเมียและนางสนม ลดแลกแจกแถมกระหน่ำ Summer sale กันไปเล้ยยย คือแถมแล้ว ก็แถม ๆ ๆ ๆ อีก

ดังนั้น ท้าวจตุรพักตร์ จึงครองกรุงลงกา นับตั้งแต่นั้นมาอย่างมีความสุข จนถึงลูกชายคนหนึ่งชื่อว่า ลัสเตียน ขึ้นครองราชย์ต่อจากท้าวจตุรพักตร์   
 
ท้าวลัสเตียน มีเมีย 5 คน คือ นางศรีสุนันทา, จิตรมาลี, สุวรรณมาลัย, วรประภา และนางรัชดา ซึ่งเมียทั้งห้าคน ก็จะมีลูกมีหลาน เป็นตัวละครสำคัญในเรื่องรามเกียรติ์ต่อไป

ความวุ่นวายของเหล่าญาติเมืองยักษ์ยังไม่จบตรงนี้ครับ เพราะว่า ท่านจำ ท้าวสหมลิวัน ได้ไหมครับ สหมลิวันที่หนีจากเมืองรังกา ลงไปอยู่ที่เมืองบาดาล พอได้ทราบข่าวเรื่องนี้ ก็ยินดี

...อ๊ะ! เมืองของฉันที่อยู่บนดิน เหล่าญาติๆ ได้มายึดครองไปเรียบร้อยแล้ว และสร้างเมืองเข้มแข็งใหญ่โต อย่างนี้ก็ไม่ต้องกลัวพระนารายณ์ต่อไปอีกแล้ว...

ท้าวสหมลิวัน จึงกลับขึ้นมาเยี่ยม โดยมีของฝากอย่างหนึ่งมาให้ท้าวจตุรพักตร์ด้วย เป็นของวิเศษคือ บุษบก นั่นเอง ซึ่งเป็นบุษบกวิเศษที่ เมื่อใครขึ้นไปนั่งแล้ว อยากจะลอยไปไหนก็ไปได้เลย ซึ่งเป็นสุดยอดยานพาหนะ เมื่อขึ้นไปนั่งแล้ว แค่คิดว่าอยากจะไปที่ไหน มันก็ลอยไปถึงที่นั่นเลย แบบชิลๆ สบายมาก แต่ขาดแค่อย่างเดียวเท่านั้น ที่ไม่สามารถนั่งบุษบกนี้ แล้วทำแบบนี้ได้ก็คือ ผู้หญิงหม้ายที่ผัวตายแล้ว เมื่อขึ้นไปนั่ง บุษบกจะไม่ยอมลอย ไม่ยอมไปไหนทั้งสิ้น     
     
บุษบกนี้ ก็จะกลายเป็นอีกหนึ่งของวิเศษ ที่อยู่คู่กับกรุงลงกา

การที่ท้าวสหมลิวัน ขึ้นมาเยี่ยมในครั้งนี้ ก็ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างกรุงลงกากับเมืองบาดาลของท้าวสหมลิวันแน่นแฟ้นกันยิ่งขึ้น และสัญญากันว่า ถ้ามีอะไรก็จะไปช่วยกัน

.


ท้าวสหมลิวัน


.


ท้าวสหบดีพรหม


.


ท้าวธาดาพรหม


.


กรุงลงกา


.




.




.




.


ท้าวจตุรพักตร์(หรือธาดาพรหม) เจ้ากรุงลงกา


.

ท้าวลัสเตียน ลูกชายของท้าวจตุรพักตร์ (ธาดาพรหม)


.



.



Logged
Pages: [1] Go Up Print 
« previous next »
 

SMF 2.0.4 | SMF © 2013, Simple Machines | Theme by nesianstyles | Buttons by Andrea
Page created in 0.046 seconds with 16 queries.