Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
User Info
Welcome, Guest. Please login or register.
09 May 2024, 18:02:30

Login with username, password and session length
Search:     Advanced search
News
ท่านสมาชิกสามารถเปลี่ยนรูปแบบ (Theme) ได้อีกหลายแบบ
เชิญทดลองโดยคลิกที่ลิงค์ข้างล่าง ได้เลยครับ

http://www.smilesiam.net/index.php/topic,3170.msg4713.html
Forum Stats
25,650 Posts in 12,467 Topics by 70 Members
Latest Member: KAN
Home Help Search Calendar Login Register
Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...  |  ภาพประทับใจ  |  สถานที่สวยงาม (Moderator: ppsan)  |  3. ภาพศิลาจำหลักเรื่องรามเกียรติ์ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)
0 Members and 1 Guest are viewing this topic. « previous next »
Pages: [1] Go Down Print
Author Topic: 3. ภาพศิลาจำหลักเรื่องรามเกียรติ์ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)  (Read 57 times)
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,503


View Profile
« on: 19 June 2023, 20:27:22 »

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์  ด้านทิศตะวันตก ช่องที่ 1 - 6


ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม(วัดโพธิ์)
จารึกที่พนักรอบพระอุโบสถ ทั้ง 4 ทิศ จำนวน 34 ชุด รวม 152 แผ่น
.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ - ด้านทิศตะวันตกมี 6 ช่อง

ช่องที่ 1  แผ่นที่ 77-79
ช่องที่ 2  แผ่นที่ 80-85
ช่องที่ 3  แผ่นที่ 86-92
ช่องที่ 4  แผ่นที่ 93-99
ช่องที่ 5  แผ่นที่ 100-105
ช่องที่ 6  แผ่นที่ 106-108


.....
ขอขอบคุณ...
1. ภาพศิลาจำหลักเรื่องรามเกียรติ์ วัดโพธิ์ และภาพวาด จาก...
http://www.kitmaiwatpho.com/index.html
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

2. ภาพศิลาจำหลักเรื่องรามเกียรติ์ วัดโพธิ์ (ภาพลอกลาย) จาก...
Harvard Art Museums 
https://harvardartmuseums.org/search-results?q=bangkok#gsc.tab=0&gsc.q=bangkok&gsc.page=1

.



.

...


[18] ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ วัดโพธิ์ ชุดที่ 18 (ด้านทิศตะวันตก)


ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ ชุดที่ 18 (แผ่นที่ 77-79 เรียงจากขวามาซ้าย)

ด้านทิศตะวันตกมี 6 ช่อง - ช่องที่ 1 แผ่นที่ 77-79




.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 77 ตอน พระรามออกว่าราชการ

      จักรกฤษณ์พิศณุเอื้อน     โองการ
อันอีเบญกายมาร         โทษม้วย
ยกโทษทดบำนาญ         พิเภก พ่อนา
วานบุตรมารุตด้วย         ส่งให้ไปเมือง ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันตก ช่องที่ 1 แผ่นที่ 1 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 77 ตอน พระรามออกว่าราชการ : ในภาพ พระราม พระลักษมณ์ออกว่าราชการ ตัดสินเรื่องที่นางเบญกายแปลงกายเป็นพระแม่สีดาตายลอยน้ำมาว่า โทษถึงประหารชีวิต แต่เพราะนางเป็นบุตรีของพิเภกผู้ซื่อสัตย์จงรักภักดี จึงยกโทษประหาร แล้วให้หนุมานนำไปส่งถึงเมืองลงกา

.




-ภาพลอกลาย-
เมื่อสุครีพนำคำสารภาพถวาย พระรามจึงหันไปถามพิเภกว่า...นางยักษ์ผู้นี้คือบุตรีของท่านจริงหรือ เหตุใดท่านไม่ร้องขออภัยโทษ... 

พิเภกกราบแทบบาท ทั้งน้ำตา แม้นว่าเป็นลูกสาวของตัวเองก็ไม่เข้าข้าง แล้วกล่าวว่า...เบญกายคือลูกสาวผู้เดียวของหม่อนฉัน แต่โทษของนางผิดมหันต์ โทษถึงประหารชีวิต ให้ตัดหัว ผ่าอก เสียบประจานไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง อย่าทรงหย่อนโทษเพราะมีเชื้อสายของกระหม่อม... 

ความซื่อตรงและเที่ยงธรรมของพญาพิเภก ทำให้พระรามซึ้งใจยิ่งนัก จึงยกโทษให้

...ท่านพิเภก เราขอบใจท่านอย่างมิตร เราชื่นชมท่านอย่างนาย เราจะไม่เอาโทษนางเบญกายบุตรีท่าน จะให้หนุมานพานางไปส่งกลับลงกา...

พิเภกถวายบังคมสูงที่สุดเท่าที่เคยทำในชีวิต หันมามองลูกสาวที่ถูกมัดอยู่กับหลัก รีบคลานเข้าแก้เชือก ซับแผลถูกโบยที่หลัง นำผ้าที่หาได้มาปิดจุดเปลือยเพื่อรักษาเกียรติลูกสาว หอมซ้ายขวา ก่อนส่งนางให้หนุมานอารักขาส่งถึงลงกา...

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 78 ตอน รับสนองพระราชโองการ

      ท้าวพระยาพานเรศน้อม     นบหัตถ์
คอยราชโองการตรัส         สั่งซ้อง
สุครีพกับนิลพัท            วายุบุตร
รับสั่งไปถมท้อง            ท่าน้ำทำถนน ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันตก ช่องที่ 1 แผ่นที่ 2 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 78 ตอน รับสนองพระราชโองการ : ในภาพ สุครีพ หนุมาน และนิลพัท ยกมือวันทารับสนองพระราชโองการจากพระราม ให้...จองถนน สู่ลงกา........

.




-ภาพลอกลาย-
พระรามเรียกเหล่าเสนาวานร ทหารลิงน้อยใหญ่มาประชุม เพื่อยกทัพไปลงกา แต่ลงกาทวีปนั้นเป็นเกาะ เราจะนำกองทัพไปลงกาได้อย่างไร... 

เหล่าเสนาวานร ต่างออกความเห็นกันมากมาย สุดท้ายพระรามขอความเห็นจากชมพูวราชผู้อาวุโส ซึ่งเสนอความเห็นว่าควรให้ทหารขนหินมาถมเป็นทาง เพื่อเป็นถนนสู่เกาะลงกา ซึ่งพระรามก็เห็นดีด้วย

ทั้งหนุมานและนิลพัทที่ไม่ถูกชะตากันอยู่ก่อนแล้ว ต่างเสนอตัวเป็นหัวหน้าในการสร้างถนนครั้งนี้ พระรามจึงมอบหมายให้สุครีพเป็นหัวหน้า ดำเนินการสร้างถนน สู่ลงกา

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 79 ตอน จัดแบ่งตำแหน่งหน้าที่

      สุครีพนิลพัททั้ง        หณุมาน
พาพวกพลถึงสถาน         ท่าน้ำ
ร่วมคิดแบ่งบริวาร         สองพวก
ผลัดรับผลัดขนปล้ำ         เปลี่ยนครั้งคราวแรง ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันตก ช่องที่ 1 แผ่นที่ 3 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 79 ตอน จัดแบ่งตำแหน่งหน้าที่ : ในภาพ สุครีพแบ่งงานให้ทั้ง หนุมาน และนิลพัท แยกกันไปทำ ทั้งคู่น้อมรับคำสั่ง พร้อมแยกย้ายกันไปทำงาน...

.




-ภาพลอกลาย-
สุครีพแบ่งงานให้ทั้งคู่แยกกันไปทำ โดยให้นิลพัทคุมพลจากเมืองชมพู ส่วนหนุมานคุมไพร่พลจากขีดขิน โดยให้นิลพัทไปหาหิน แล้วหนุมานคอยรับเพื่อเรียงหินถมทะเลเป็นถนนให้มีความมั่นคงและแข็งแรง ทั้งสองกองทัพจะต้องสลับหน้าที่กันทุกวัน

นิลพัทเรียกรวมพลวานรจากเมืองชมพูไปสกัดหินจากภูเขาในป่าหิมพานต์ ใช้แรงหอบศิลาแต่ละก้อนเหาะมาส่งให้ทหารขีดขินวางเรียงจนเป็นทาง โดยวันต่อมาหนุมานต้องเป็นผู้หาหินและนิลพัทเป็นผู้ทำทางแทน สลับกันไปทุกวัน

.
 



-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.



Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,503


View Profile
« Reply #1 on: 19 June 2023, 20:29:10 »

[19] ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ วัดโพธิ์ ชุดที่ 19


ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ ชุดที่ 19 (แผ่นที่ 80-85 เรียงจากขวามาซ้าย)
ด้านทิศตะวันตกมี 6 ช่อง - ช่องที่ 2 แผ่นที่ 80-85




.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 80 ตอน พลลิงเตรียมปฏิบัติหน้าที่

      นิลพัทบัดชักพ้อง     ชมพู พลเอย
ขนคัดศิขรดู            ดื่นหน้า
แต่ตนแบกผาชู            สองหัตถ์ มาแฮ
ร้องเรียกหณุมานถ้า         รับทิ้งถมถนน ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันตก ช่องที่ 2 แผ่นที่ 1 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 80 ตอน พลลิงเตรียมปฏิบัติหน้าที่ : ในภาพ นิลพัทและพลวานรเมืองชมพู แบกขนภูเขาหินมา เรียกให้หนุมานคอยรับเพื่อไปถมทะเลทำเป็นถนน

.




-ภาพลอกลาย-
นิลพัทพาไพร่พลไปสกัดเอาก้อนหิน ก้อนใหญ่ที่เขาหิมพานต์ที่อยู่ใกล้ๆทัพพระราม และอุดมสมบูรณ์ไปด้วยหินก้อนยักษ์ โดยนิลพัทเป็นผู้นำพลวานรที่สามารถเหาะได้เป็นผู้แบกหินไปส่งให้พวกหนุมานทำการถมทะเล นิลพัทแบกหินก้อนใหญ่โตมหึมาทั้งสองมือสองเท้าเหาะนำหน้าขบวน

พอไปถึงยังที่หนุมานกำลังรอก้อนหินจะถมทะเล นิลพัทก็คิดแผนกวนโอ๊ยหนุมานขึ้นได้อย่างนึง เลยตะโกนไปว่า...

...เฮ้ย ไอ้ลิงเผือก รับก้อนหินทั้งหมดนี่ไปเร็วๆ กรูหนักจะแย่อยู่แล้ว...

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 81 ตอน แม่กองทำงานแข่งเวลา

      วายุบุตรโบกหัตถ์ห้าม     เอาที
นิลพัทไป่ใยดี            ว่าช้า
ทิ้งทุ่มโขดคีรี            ทั้งคู่ ลงแฮ
วายุบุตรโลดลอยคว้า         รับได้โดยใจ ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันตก ช่องที่ 2 แผ่นที่ 2 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 81 ตอน แม่กองทำงานแข่งเวลา : ในภาพ หนุมานโบกมือห้าม แต่นิลพัทกลับทุ่มทิ้งก้อนหินใหญ่จากทั้งสองมือสองเท้าลงมา แต่หนุมานก็รับได้ทั้งหมด

.




-ภาพลอกลาย-
หนุมานพอแหงนหน้าขึ้นไปเห็นก็สะดุ้งโหยง พร้อมตะโกนว่า...

...เฮ้ย ไอ้ลิงมืด อย่าเพิ่งโยนลงมานะเฟร้ย มรึงจะขนหินมาทำไมเยอะแยะขนาดนั้น ถ้าจะโยนก็ค่อยๆโยนลงมาทีละก้อนนะ ไอ้มืด! ...

นิลพัทได้ยินหนุมานตะโกน...คำก็มืด สองคำก็มืด พาลให้รมณ์ยิ่ง บ่ จอยส์...เลยทุ่มหินทั้งหมดใส่ลงไปหาหนุมาน ลิงเผือกเลยต้องกางตำรารับกันแทบไม่ทัน และแม้จะรับได้ แต่ก็เล่นเอาฟกช้ำดำเขียวไปทั้งตัว เท่านั้นยังไม่พอ นิลพัทก็สั่งให้บรรดาลูกหาบพากันทุ่มหินที่แบกอยู่ลงไปหาหนุมานและพรรคพวกอย่างเมามัน ทำเอาวานรลูกหาบของหนุมานหัวร้างข้างแตกกันไปตามๆกันๆ

นิลพัทเห็นดังนั้นก็ชอบใจ ที่ได้ระบายความแค้นเสียที

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 82 ตอน หนุมานไปขนหิน

      โยธาพานเรศอื้อ     แออัด
หอบหักศิขรคัด            เกลื่อนกลิ้ง
พานรขีดขินขนัด         นาเนก
ขนส่งชมพูทิ้ง            ทุ่มท้องสาคร ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันตก ช่องที่ 2 แผ่นที่ 3 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 82 ตอน หนุมานไปขนหิน : ในภาพ หนุมานพาพลวานรไปหอบหักหินก้อนโต ลงมาเกลื่อนกลาดมากมาย

.




-ภาพลอกลาย-
หนุมานที่สะบักสะบอมจากพายุหิน ก็รีบเดินปรี่ไปหาสุครีพ พร้อมกับบอกสุครีพให้รีบสลับหน้าที่กันเลย(ไม่ต้องรอสลับวันแล้ว) โดยตัวเองจะขอไปขนก้อนหินเอง และให้นิลพัทไปถมทะเลแทน

นิลพัทแม้รู้ทั้งรู้ว่า หนุมาน คงต้องวางแผนแก้แค้นแน่ๆ แต่ด้วยความทรนง ไม่เกรงกลัวหนุมาน และคิดว่าหนุมานคงไม่มีน้ำยาอะไร จึงรับปากง่ายๆ

ว่าแล้วหนุมานก็รีบพาพรรคพวกไปที่เขาหิมพานต์ ให้ช่วยกันสกัดหินก้อนโตๆ ออกมาเร็วๆ

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 83 ตอน หนุมานแบกหิน

      วายุบุตรคุมเคียดแค้น     นิลพัท
หักโขดศิขรคัด            คว่างคว้าง
เส้นขนทุกขนมัด         เขาขอด เสมอฤๅ
เย้ยเยาะนิลพัทอ้าง         อวดแล้วสลัดลง ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันตก ช่องที่ 2 แผ่นที่ 4 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 83 ตอน หนุมานแบกหิน : ในภาพ หนุมานเหาะแบกหินก้อนมหึมาทั้งสองมือ สองเท้า และใช้ขนทุกเส้นมัดรวมกับก้อนหินอีกเป็นพันๆก้อน แล้วค่อยๆ เหาะมาหานิลพัท

.




-ภาพลอกลาย-
หลังจากนั้นหนุมานก็นำทีมแบกหินแบบเดียวกับนิลพัท...ต่างกันตรงที่หนุมานจัดเต็มกว่า โดยหนุมานเนรมิตกายให้ใหญ่โต แบกหินก้อนมหึมาทั้งสองมือ สองเท้า เท่านั้นไม่พอยังใช้ขนทุกเส้นมัดรวมกับก้อนหินอีกเป็นพันๆก้อน แล้วค่อยๆ เหาะมาหานิลพัท

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 84 ตอน หนุมานทะเลาะกับนิลพัท

      บัดบัดนิลพัทห้าว     หาญสมร
มานะรับศิขร            คว่างคว้าง
สุดแรงรับสองกร         บาทแบ่ง เบาเอย
วายุบุตรสุดแค้นอ้าง         ออกร้ารณรงค์ ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันตก ช่องที่ 2 แผ่นที่ 5 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 84 ตอน หนุมานทะเลาะกับนิลพัท : ในภาพ หนุมานหอบหินมาเป็นพันๆก้อน แล้วทุ่มใส่ราวกับพายุหิน นิลพัทรับได้ไม่หมด จึงใช้เท้าช่วย หนุมานสุดแค้นถกเถียงกัน จนเกิดการต่อสู้กันขึ้นมา

.




-ภาพลอกลาย-
นิลพัทพอแหงนหน้าเจอะกับหนุมาน ก็พลันให้ตกใจ ร้องเจี๊ยกกก..ดังลั่น.

...เฮ้ย! ตอนกรูทำ กรูทุ่มหินใส่แค่ 4 ก้อน แต่นี่ มรึงเล่นแบกหลังแอ่นมาเป็นพันๆก้อน แล้วใครมันจะไปรับไหวฟร่ะ ไอ้ลิงเผือก...

หนุมานได้ฟังลิงดำพูดยังงั้นก็ฉุนขาด ไม่สนใจอะไรแล้ว...แหม แหม..ทีเอ็งข้ายังไม่ว่า ทีข้าเอ็งจะมาโวย...ว่าแล้วก็ทุ่มหินทั้งหมดใส่นิลพัท ราวกับเป็นพายุหิน

ฝ่ายนิลพัทรับได้ไม่หมด ตกเกลื่อนตามถนนเต็มไปหมด พร้อมกับโดนพายุหินอัดเข้าไปจนหน้าตาปูดโปน...เมื่อนิลพัทรับไม่ทัน ไม่รู้จะรับยังไงได้หมด เลยใช้ทั้งมือทั้งเท้าช่วยรับก้อนหินที่ประดังกันลงมาจากฟ้า

หนุมานเห็นว่านิลพัทใช้เท้ารับก้อนหิน จึงโกรธมาก

...นี่ไอ้ลิงดำ ตอนเอ็งโยนภูเขาหนักมาให้ กรูก็รับด้วยมือทุกก้อน แต่พอถึงเวลากรูโยนหินให้มรึงกลับใช้ตีนรับ มรึงไม่มีใครอบรมหรือต้องการจะลองเดชกับกรู... 

นิลพัทที่หมั่นไส้หนุมานเป็นทุนอยู่แล้วก็โกรธจัด

...มรึงหนะสิลิงไร้การอบรม ทำเป็นแกล้งขนก้อนหินมามากมาย ขว้างลงมาจากฟ้าแกล้งให้กรูรับไม่ทัน กรูก็แค่เอาเท้าช่วยรับ ผิดตรงไหน มรึงลูกพระพาย กรูก็ลูกพระกาฬ มา..มาวัดกันดูว่าใครจะเก่งกว่ากัน...

หนุมานไม่รอช้ากระโดดถีบนิลพัททันที แต่นิลพัทก็ไม่สะทกสะท้าน กลับโถมตัวเตะต่อยทั่วร่างหนุมาน หนุมานจึงจับนิลพัททุ่มจนพื้นดินสั่นสะท้านไปทั่ว นิลพัทอาศัยพลิกตัวหน่อยเดียวก็หลุดออกมาได้ แล้วก็จับหนุมานทุ่มใส่พื้นดินแบบเดียวกัน

การต่อสู้ของทั้งคู่ทำเอาแผ่นดินไหวไป 7 ริคเตอร์ เสียงดังอื้ออึง จนทัพพระรามแตกตื่นโกลาหลกันไปทั่ว...

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 85 ตอน สุครีพเข้าห้าม

      สุครีพรีบเร่งเข้า       กีดกาง
ยึดหัตถ์สองนายทาง         ขู่คั้น
สองนายนั่งลงพลาง         ยกผิด กันนา
สุครีพรีบพาซั้น            สู่ท้าวทูลถวาย ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันตก ช่องที่ 2 แผ่นที่ 6 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 85 ตอน สุครีพเข้าห้าม : ในภาพ สุครีพออกมาห้าม โดยยืนกลางขวางหน้าไม่ให้ต่อสู้กัน

.




-ภาพลอกลาย-
เมื่อสุครีพเห็นสองพญาวานรต่อสู้กัน ต้องรีบออกมาห้ามทัพ แต่ร้องห้ามเท่าไรก็ไม่ฟังจึงยืนกลางขวางหน้าไม่ให้รบกัน แต่เนื่องจากทั้งลิงเผือกลิงมืด ไม่สนใจอะไรแล้ว จ้องจะอัดกันให้ตายกันไปข้าง สุครีพจึงโดนลูกหลงเข้าไปไม่น้อย

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.



Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,503


View Profile
« Reply #2 on: 19 June 2023, 20:32:28 »

[20] ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ วัดโพธิ์ ชุดที่ 20

[20] ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ วัดโพธิ์ ชุดที่ 20



ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ ชุดที่ 20 (แผ่นที่ 86-92 เรียงจากขวามาซ้าย)
ด้านทิศตะวันตกมี 6 ช่อง - ช่องที่ 3 แผ่นที่ 86-92




.




.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 86 ตอน พิจารณาคดี

      จักรีพิโรธแล้ว       บรรหาร
นิลพัทหณุมานพาล         พวกนี้
ทำการบ่เปนการ         เกิดก่อ กวนนา
สุครีพจงปรึกษาชี้         ชอบใช้เยียไฉน ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันตก ช่องที่ 3 แผ่นที่ 1 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 86 ตอน พิจารณาคดี : ในภาพ พระรามทรงกริ้วหนุมานกับนิลพัทมากที่ทะเลาะวิวาทกันในกองทัพ จึงหันไปถามสุครีพว่าจะจัดการอย่างไร

.




-ภาพลอกลาย-
พระรามได้ยินเสียงอึกทึก จึงใช้ให้พระลักษมณ์ออกมาดู พระลักษมณ์เห็นลิงดำขาวสู้กันอยู่ จึงออกมาห้ามทัพเอง แล้วพาทั้งหมดไปให้พระรามตัดสินความ พระรามก็ทรงกริ้วทั้งคู่มาก เพราะนี่ยังไม่ทันจะออกศึก ดันมากัดกันซะก่อน แบบนี้ถ้าออกรบ มีหวังเจอไอ้พวกยักษ์ถล่มเอาเละเทะแน่ๆ...

...หากไม่ติดการศึก เจ้าสองตัวหัวหลุดจากบ่าไปแล้ว กูอุตส่าห์ไว้ใจให้สร้างผลงาน เบิกถนนไปเมืองศัตรู แต่พวกมึงมาต่อตีกันเอง รู้ไปถึงไหน เราเสื่อมเกียรติ์ถึงนั่น...

พระรามด่าว่าทั้งคู่ไปฉาดใหญ่ พร้อมกับเอามือกุมกบาล แล้วถามสุครีพว่า...

...ท่านสุครีพ ข้าว่าลิงสองตัวนี้อยู่ร่วมทัพกันไม่ได้แล้ว ท่านว่าเราควรทำอย่างไรดี...
 
.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.




.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 87 ตอน สุครีพตัดสินความ

      สุครีพทูลท่านไท้      โดยชบัด
ขีดขินชอบนิลพัท         อยู่รั้ง
เกณฑ์ผลพฤกษาจัด         มาส่ง
หณุมานมอบพลทั้ง         หมดให้ทำถนน ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันตก ช่องที่ 3 แผ่นที่ 2 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 87 ตอน สุครีพตัดสินความ : ในภาพ สุครีพ หนุมาน พิเภก และนิลพัท พนมมือรับฟังการพิจารณาคดีจากพระราม ซึ่งพระองค์มอบให้สุครีพตัดสิน สุครีพจึงกราบทูลว่า เห็นควรให้นิลพัทกลับไปช่วยท้าวมหาชมพูดูแลทั้งเมืองชมพูและขีดขิน พร้อมจัดส่งสนับสนุนเสบียงให้ทัพหลวงอย่าได้ขาด ส่วนหนุมานขอให้อยู่รับใช้เคียงฝ่าพระบาทต่อไป เสร็จศึกลงกาแล้วจึ่งค่อยชำระคดีหนุมาน...

.




-ภาพลอกลาย-
สุครีพ พนมมือกราบทูลว่า...เห็นทีงานนี้ต้องแยกทั้งคู่ไปห่างๆกัน เพราะนี่ขนาดให้งานแยกกันทำ มันยังหาเรื่องฟัดกันจนได้...

สุครีพเสนอให้พระรามมอบหมายให้นิลพัทไปคุมกองหลังที่เมืองขีดขิน ทำหน้าที่ขนส่งเสบียงมาอย่าให้ขาด ส่วนหนุมานต้องได้รับการคาดโทษ โดยจะต้องเร่งถมหินลงทะเลให้เสร็จภายใน 7 วัน คราวนี้ต้องไปสกัดหินเอง แบกมาเอง และถมทะเลเองด้วย ถ้าหนุมานทำไม่สำเร็จ ประหารสถานเดียว!

หนุมานก็ต้องก้มหน้ารับความผิดไป ส่วนนิลพัทก็ต้องคอตก กลับเมืองขีดขินไป...

หลังจากที่นิลพัทออกไปจากค่ายแล้ว พระรามเสียงเข้ม เรียกชื่อหนุมาน...

...นี่ไอ้หนุมาน เพราะเจ้าก่อเรื่องจนเราต้องเสียขุนกระบี่มีฝีมืออย่างนิลพัท เจ้าต้องสร้างถนนให้ถึงลงกาแต่เพียงผู้เดียว แล้วต้องให้เสร็จภายใน 7 วัน หากงานไม่สำเร็จเจ้าถูกประหารแน่...

หนุมานรีบเร่งดำเนินการถมทะเล แต่ปัญหาก็คือ คลื่นในทะเลมันเชี่ยวกราก ถมทะเลเท่าไหร่ คลื่นก็พัดหินไปหมด ในแต่ละวันกว่าจะถมถนนให้ได้คืบหน้าไปสักกิโลสองกิโล มันเลยช้ามาก ดูไปดูมา สงสัยงานจะไม่เสร็จภายใน 7 วัน ซวยแล้วหนุมานเอ๋ย…
 
.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.




.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 88 ตอน หนุมานคุมพลลิงขนหิน

      กระบี่วายุบุตรพร้อม      พานร
แสดงเดชหักศิขร         เกลื่อนกลิ้ง
เหล่าลิงวิ่งขนคอน         หามหาบ มานา
ถึงท่าวารีทิ้ง            ทุ่มท้องสาคร ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันตก ช่องที่ 3 แผ่นที่ 3 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 88 ตอน หนุมานคุมพลลิงขนหิน : ในภาพ หนุมานและพลวานรทั้งสองเมือง ช่วยกันหักหินจากภูเขา ลงมามากมาย แล้วหาบคอนไปถมทิ้งทะเลทำถนนไปลงกา

.




-ภาพลอกลาย-
หนุมานกุลีกุจอพาพรรคพวกลิงถมถนนด้วยการวางหินลงก้นทะเล ทีละก้อนๆ เพื่อให้เกิดเป็นถนนลอยน้ำข้ามไปยังกรุงลงกา แต่ยิ่งทำก็ยิ่งเละ เพราะยิ่งถนนยาวไปกลางทะเลมากเท่าไหร่ คลื่นลมก็ยิ่งแรง พัดพาหินไปทีละก้อนๆ พอพัดไปมากเข้า ถนนก็ทรุด พังทลาย ต้องเริ่มต้นกันใหม่

หนุมานแทบจะร้องไห้ เพราะโดนพระรามขีดเส้นตาย ทำให้เสร็จภายใน 7 วัน

หนุมานไม่รู้จะไปพึ่งใคร เลยไปปรับทุกข์กับชามพูวราชลิงจอมพลัง(ชมพูหมี) คุยกันไปคุยกันมา ชามพูวราชก็นึกขึ้นมาได้ว่า...นิลราช หนึ่งในลิง 18 มงกุฏ ในอดีตเคยต้องคำสาปจากคามินฤๅษี เพราะนึกซน เอาไม้เท้าพระมุนีไปซ่อนในน้ำ พระฤๅษีจึงสาปว่า...หากนิลราชโยนสิ่งของอะไรลงไปในน้ำ แม้กระทั่งใบไม้ สิ่งนั้นๆจะจมลงสู่ใต้น้ำ ไม่ลอยไปไหน (โดนสาปแปลกๆ แฮะ...) ต่อเมื่อพระรามจะจองถนนไปลงกา นิลราชจะต้องเป็นผู้รับหินจากวานรตัวอื่นมาถมทะเลแต่เพียงผู้เดียว หากงานเสร็จจึงจะพ้นคำสาป...

พระรามจึงรับสั่งให้วานรทั้งหลาย ขนหินมากองไว้ที่ริมฝั่ง แล้วให้หนุมานกับนิลราชเป็นผู้ถมทะเลให้เป็นถนนไปลงกา และต้องเสร็จภายในเจ็ดวัน

งานของหนุมานจึงก้าวหน้าพรวดๆ อนาคตสดใส อย่าว่าแต่ 7 วันเลย... 3 วันก็ทำเสร็จแล้ว เอิ๊ก เอิ๊ก เอิ๊ก !!!

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.




.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 89 ตอน ถมเท่าไรไม่รู้จักเต็ม

      นานาพานเรศซ้อง      สับสน
หักหอบโขดเขาขน         แซ่ซ้อง
นับสมุทดุจภูวดล         ดาลเพิก พังแฮ
ถั่นถั่นถึงทุ่มท้อง         ท่าน้ำรำไร ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันตก ช่องที่ 3 แผ่นที่ 4 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 89 ตอน ถมเท่าไรไม่รู้จักเต็ม : ในภาพ หนุมานและเหล่าวานรเร่งขนหินไปถมทะเล แต่ทำอย่างไรก็ถมไม่เต็ม งานไม่คืบหน้าดังหวัง

.




-ภาพลอกลาย-
หนุมานและพลวานรรีบเร่งดำเนินการถมทะเล แต่ยิ่งทำถนนยาวไปกลางทะเลมากเท่าไหร่ คลื่นลมก็ยิ่งแรง พัดพาหินไปทีละก้อนๆ พอพัดไปมากเข้า ถนนก็ทรุด พังทลาย ต้องเริ่มต้นกันใหม่ ทั้งนี้เพราะทศกัณฐ์ได้ให้นางสุพรรณมัจฉา ลูกสาวของตนที่เกิดกับนางปลา พาฝูงปลาน้อยใหญ่และสรรพสัตว์น้ำในมหาสมุทรมาช่วยกันลักหินออกไปทิ้งที่อื่น จนทำให้ถนนสร้างไม่สำเร็จ โดยดำไปใต้น้ำ ไปทำลายฐานรากของถนนให้พังในเวลาค่ำคืนที่บรรดาลิงพักผ่อน 

พอฐานรากพัง ผิวถนนด้านบนก็พังตามไปด้วย และถูกคลื่นซัดซาพาไปหมดเกลี้ยง

ตื่นเช้าขึ้นมา หนุมานเห็นสภาพถนนพังวอดวาย ก็หงายเงิบ...รีบสั่งให้พลวานรและนิลราชรีบมาซ่อมแซมโดยพลัน...วันนี้ทั้งวันเลยหมดเวลาไปกับการซ่อมถนน หนุมานเลยคิดในใจ...ความซวยเริ่มมาเยือนแล้ว เพราะนี่ก็ผ่านไป 4 วันแล้ว เหลืออีก 3 วันตรูจะทำเสร็จมั๊ยเนี่ย??

พอตกกลางคืน พลพรรควานรกลับไปพักผ่อนเช่นเคย นางสุพรรณมัจฉาและฝูงปลาก็ออกปฏิบัติการอีกครั้ง พอเช้าขึ้นมา หนุมาน ก็ได้หงายเงิบติดต่อกันเป็นวันที่สอง...

หนุมานคิดในใจ...ลงอีแบบนี้ มันต้องมีใครมาลองดีกับเราแน่ๆ ว่าแล้วก็ให้พลวานรรีบซ่อมแซมถนน พอตกกลางคืน หนุมาน ก็แอบซุ่มอยู่ คืนนี้ได้เจอกันแน่...

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.




.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 90 ตอน ดำน้ำลงไปดู

      มัจฉานาเรศใช้         ฝูงปลา
คอยคาบศิลาพา            ส่ายหร้าย
ไรไรเรี่ยคงคา            คืนค่ำ หายแฮ
วายุบุตรเหนเหตุร้าย         เร่งร้อนใจถวิล ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันตก ช่องที่ 3 แผ่นที่ 5 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 90 ตอน ดำน้ำลงไปดู : ในภาพ หนุมาน สุครีพ และชมพูพาน ดำลงไปใต้น้ำ เห็นฝูงปลาแอบคาบหินเอาไปทิ้ง จึงตรงเข้าไปสกัดกั้น

.




-ภาพลอกลาย-
พอตกกลางคืน หนุมาน ก็แอบซุ่มดูอยู่ พอเห็นผิวน้ำไหวๆจึงรีบดำลงไปดูให้แน่ชัด

เห็นฝูงปลากำลังช่วยกันคาบหินออกไปทีละก้อนๆ เล่นอีแบบนี้ กลางวันลิงถมหิน กลางคืนปลาไปคาบหินออก แล้วอีกกี่ปีจะทำถนนเสร็จหล่ะเนี่ย??!??

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.




.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 91 ตอน พบนางหางเป็นปลา

     หณุมานลงไล่ค้น        คงคา
พิฆาฏพรรณฝูงปลา         นับร้อย
พบพักตร์มิ่งมัจฉา         เยาวเรศ
จู่จับนางปลาน้อย         แนบไว้กับทรวง ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันตก ช่องที่ 3 แผ่นที่ 6 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 91 ตอน พบนางหางเป็นปลา : ในภาพ หนุมานพบนางสุพรรณมัจฉา ที่มีหางเป็นปลา เป็นหัวหน้าสั่งการอยู่ จึงตรงเข้าจับตัวนาง

.




-ภาพลอกลาย-
หมุมานฆ่าปลาเล็กปลาใหญ่ตายไปเป็นเบือ แต่มันมีกันเป็นหมื่นเป็นแสนตัว ฆ่าไปทั้งคืนก็ไม่หมด หนุมานจึงมองหาไอ้คนสั่งการ จะได้จัดการทีเดียว พลันก็เหลือบไปเห็นนางสุพรรณมัจฉา เงือกน้อย กำลังชี้มือชี้ไม้สั่งการฝูงปลากันมือเป็นระวิง หนุมานเห็นดังนั้นก็มั่นใจว่า นี่แหละ ตัวแม่…แหงมๆ

ว่าแล้วลิงเผือกก็รีบกระโจนเข้าไปหานางสุพรรณมัจฉา จับตัวเข้าแนบไว้กับอก หนุมานจึงซักไซ้ไล่เรียงนางสุพรรณมัจฉาว่า

...นางเงือกสาวน้อย เจ้ามีชื่อว่าอะไร เหตุใดจึงบังอาจมาลักหินจากถนนของข้า... 

ถึงนางสุพรรณมัจฉาจะกลัวตาย แต่ก็คิดตอบคำถามเพื่อเอาตัวรอดได้

...ตัวข้าและฝูงปลาอาศัยอยู่ในอ่าวนี้ พอมีกองหินมาขวางทางกระแสน้ำ ทำให้เกิดวังน้ำวน ปวงข้าเป็นห่วงว่าอันตรายจะมาถึงสำเภาของพ่อค้าพาณิชย์ที่ล่องเรือจากลงกา จึงพาสมัครพรรคพวกมาขนย้ายหินไม่ให้ขวางกระแสน้ำ... 

หนุมานยส่ายหัวไม่เชื่อ เพราะสังเกตเห็นว่านางเป็นแค่เงือกสาวน้อย หน้าตาดี เป็นเพียงเด็กสาว แต่เหตุไฉนจึงได้เป็นถึงหัวหน้าครอบครัวใหญ่ของพรรคเพื่อใคร เอ๊ย.พรรคปลามหาสมุทร จึงขู่สำทับว่า...

...นี่ แม่ปลาตัวหอม เจ้าอย่ามาเล่นลิ้นกับข้าเลย บอกความจริงมาเถอะ แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า...

นางสุพรรณมัจฉาเห็นทีจะกระล่อนต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ด้วยความกลัวจึงยอมสารภาพความจริง และร้องขอชีวิต...

...ตัวข้าคือลูกราชาทศกัณฐ์หน้าเหลี่ยมและนางปลา ข้าชื่อว่า อุ้งอิ้งอุ๋งอิ๋ง เฮ้ย!ผิดอีกแล้ว...ข้าชื่อ สุพรรณมัจฉา พ่อใช้ให้มาลักเอาก้อนหินไปทิ้งเพื่อขัดขวางการสร้างทางด่วนโทลเวย์ ไม่ให้เสร็จ นี่คือความจริงทั้งหมด ขอเถิดพญาลิง โปรดไว้ชีวิตข้าด้วยเถิด...

ว่าแล้วนางก็แปลงร่างเป็นคุณนายโฮ เอาแต่ร้องห่มร้องไห้...ที่แผนแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน พังทลาย ถูกจับได้ จึงไม่รู้ว่าจะช่วยพ่อให้สำเร็จสมปรารถนา กลับกะลาแลนด์แดนขี้หมากองเดียว อย่างเท่ๆได้อย่างไร...

.
 



-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.




.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 92 ตอน เกี้ยวพาราสี

      เสร็จสองสังวาสแล้ว     โลมลา
วอนว่าวานนางปลา            ป่าวพ้อง
คืนคาบศิลามา                  ดุจดั่ง เดิมแฮ
ครั้นเสร็จโลมลาน้อง         สู่ท้าวทูลแถลง ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันตก ช่องที่ 3 แผ่นที่ 7 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 92 ตอน เกี้ยวพาราสี : ในภาพ หนุมานประคองกอด เกี้ยวพาราสีนางสุพรรณมัจฉา หลังจากเสร็จสมภิรมย์หมายแล้ว จึงวอนขอนาง ให้สั่งพลปลา คาบก้อนศิลาไปคืนที่ดังเดิม จากนั้น หนุมานได้ไปรายงานให้สุครีพและพระรามทราบ

.




-ภาพลอกลาย-
หนุมานเห็นน้ำตาหญิงสาวแล้วทนไม่ได้ ด้วยนางมีใบหน้าอ่อนหวานงดงาม อีกทั้งน้ำเสียงก็ไพเราะเสนาะโสต จึงเข้าไปสวมกอด ปลอบประโลม พร้อมส่งสายตาเป็นประกายให้นาง...โอ้โอ๋ หนุมานตกหลุมรัก ปิ๊งปั๊ง..นางสุพรรณมัจฉาเข้าให้ซะแล้ว จากนั้นหนุมานก็เล่นบทพระเอก แล้วฉุดนางมาอยู่ในอ้อมกอดอีกครั้ง...(เซ็นเซอร์...)

เมื่อเสร็จสรรพเรียบร้อย ได้เสียเป็นเมียผัวกันแล้ว...หนุมานก็ขอให้นางสุพรรณมัจฉาเห็นใจว่าตัวเองเนี่ย..รับโองการมาจองถนนให้แล้วเสร็จในเจ็ดวัน ม่ายงั้นจะโดนลงอาญา และขอให้ฝูงปลานำหินไปไว้ที่เดิมด้วยนะ

ฝ่ายหนุมาน เมื่อเสร็จสมอารมณ์หมายแล้ว ก็ร่ำลานางเงือก...หนุมานประคองหน้านาง ปาดน้ำตา พยักหน้าแล้วเหาะจากน้ำ ขึ้นฝั่ง ไปในบัดดล...
 
จากนั้น หนุมานได้ไปรายงานให้สุครีพฟังว่า...ลงไปไล่ฆ่าปลาน้อยใหญ่ที่มาขโมยหิน จนสามารถบังคับให้เอาก้อนหินมาคืนได้... 

ต่อจากนั้น ถนน Tollway expressway เริ่มเป็นรูปร่าง พาดกลางมหาสมุทรจนจบที่ชายฝั่งลงกา สุครีพสั่งให้ทหารวานรนำทรายละเอียดมาโรย ปรับให้พื้นถนนเรียบ เพื่อเชิญพระรามเสด็จสู่ลงกา ต่อไป

.
 



-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.




.



Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,503


View Profile
« Reply #3 on: 19 June 2023, 20:34:19 »

[21] ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ วัดโพธิ์ ชุดที่ 21


ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ ชุดที่ 21 (แผ่นที่ 93-99 เรียงจากขวามาซ้าย)
ด้านทิศตะวันตกมี 6 ช่อง - ช่องที่ 4 แผ่นที่ 93-99




.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 93 ตอน ยกพลขึ้นฝั่งกรุงลงกา

      แถลงความราเมศให้     เตรียมพา นรแฮ
มาตลินำรถมา            กราบเกล้า
เสด็จทรงรถอินทรา         เปนฤกษ์
ยกพยุหยาตราเข้า         เขตร์แคว้นแดนมาร ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันตก ช่องที่ 4 แผ่นที่ 1 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 93 ตอน ยกพลขึ้นฝั่งกรุงลงกา : ในภาพ พระรามทรงราชรถแก้วที่พระอินทร์มอบให้ โดยมีหนุมานตามเสด็จไปกรุงลงกาเพื่อทวงนางสีดาคืน 

.




-ภาพลอกลาย-
ผ่านไปครบ 7 วัน หนุมานภายใต้การกำกับการของสุครีพก็จองถนนไปกรุงลงกาสำเร็จ

จากนี้ไป พระราม จะได้เคลื่อนพลวานรจำนวนมหาศาลข้ามมหานทีไปกรุงลงกา เพื่อทวงนางสีดาคืนเสียที

พระอินทร์จึงโปรดให้ พระมาตุลีเทพบุตร เทวดาผู้ซึ่งเป็นสารถีคนสนิทของพระอินทร์ จัดราชรถแก้วมาถวายพระราม พร้อมกำชับให้พระมาตุลีไปทำหน้าที่สารถีให้กับพระรามและพระลักษมณ์จนกว่าจะเสร็จศึกกรุงลงกา

พระรามดีใจยิ่งนักเมื่อเห็นรถทรงของพระอินทร์ที่เทียมด้วยม้าสวรรค์ จึงมิรอช้าแต่งองค์ทรงชุดกษัตริย์นักรบ องค์รามกระชับธนู องค์ลักษมณ์กระชับพระขรรค์ขึ้นรถ นำขบวนกองทัพเคลื่อนตัวบนถนนข้ามมหาสมุทรอย่างฮึกเหิม วิ่งกันฝุ่นตลบกลบถนนไปทั่ว จนถึงฝั่งลงกาโดยสวัสดี พระรามสั่งให้หยุดทัพและให้ทหารพักผ่อนเอาแรงก่อนการศึก

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.




.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 94 ตอน เคลื่อนพลไปตามถนน

      สิบแปดมงกุฎเฝ้า     อาวตาล
ยั้งอยู่ริมสถาน            ถิ่นน้ำ
พระตรัสปฤกษาการ         กิจราพ ณรงค์ฤๅ
หาที่ตั้งทับปล้ำ            ต่อด้วยอสุรีย์ ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันตก ช่องที่ 4 แผ่นที่ 2 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 94 ตอน เคลื่อนพลไปตามถนน : ในภาพ สุครีพ ชามพูวราช ชมพูพาน องคต และหนุมาน เข้าเฝ้ารับบัญชาจากพระราม เพื่อเคลื่อนพลกองทัพวานรสู่กรุงลงกา และพระรามสั่งการให้วานร 18 มงกุฎ โดยมี ไชยามพวาน ถือธงชัยนำทัพ

.




-ภาพลอกลาย-
เมื่อถึงวันฤกษ์งามยามดี พระรามก็โปรดให้เคลื่อนขบวนทัพ ข้ามมหานที ประชิดติดกรุงลงกา โดยมีไชยามพวาน หนึ่งใน 18 มงกุฏ เป็นผู้ถือธงชัยนำกองทัพให้กับพระรามในยามเคลื่อนพลบุกกรุงลงกา เพราะมีนามเป็นมงคลสามารถข่มศัตรูได้   

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.




.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 95 ตอน พาหลง

     ปโคนธรรพเจนป่ารู้     สามิภักดิ์
นำเสด็จพระหริรักษ์         ผ่านเผ้า
พาหลงล่วงแดนยักษ์         ภาณุราช
พระพิโรธเร่งเร้า         สั่งให้สังหาร ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันตก ช่องที่ 4 แผ่นที่ 3 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 95 ตอน พาหลง : ในภาพ ประคนธรรพ์ พาหนุมาน ไปสำรวจชัยภูมิ อีกครั้งในป่าจำแลงของยักษ์ภาณุราช เมื่อพระองค์ทราบว่าเป็นป่าลวงที่ประคนธรพ์พาหลงเข้าไป จึงสั่งประหารชีวิตประคนธรรพ์ 

.




-ภาพลอกลาย-
กองทัพพระรามเดินทางข้ามมหานที ไปบนถนนที่สุครีพและหนุมานช่วยกันสรรสร้าง จนข้ามมายังกรุงลงกาได้อย่างปลอดภัย

หลังจากตั้งทัพที่ชายฝั่งเรียบร้อย พระองค์ก็รับสั่งให้ ประคนธรรพ์ ออกไปสำรวจตรวจตราพื้นที่การเดินทัพว่า ปลอดภัยสะดวกโยธินหรือไม่ อย่างไร

ฝ่ายทศกัณฐ์เมื่อทราบข่าวการยกทัพมาของพระราม จึงวางแผนให้ ภานุราชเสนาใหญ่ ออกไปลวงทัพพระราม ที่ชายป่านอกกรุงลงกา อันเป็นเส้นทางที่กองทัพพระรามจะเดินทางมาถึงในไม่ช้า โดยเนรมิตบริเวณชายป่าให้กลายเป็นพื้นที่ราบอันอุดมสมบูรณ์ มีลำธารน้ำสะอาดไหลผ่าน ต้นหมากหลากผลไม้มากมาย น่าอาศัยอยู่ยิ่งนัก ล่อให้ทัพวานรตั้งค่ายอย่างวางใจ จากนั้นภานุราชก็อำพรางตัวอยู่ในแผ่นดินใต้ผืนป่าลวง แล้วให้พลิกแผ่นดินให้กองทัพวานรล้มตายจมธรณี จนหนีเตลิดตกทะเลไป...

ประคนธรรพ์เดินทางออกสำรวจพื้นที่นอกที่ตั้งทัพเข้าไปในป่าจำแลง ก็พบว่า หนทางสะดวกโยธิน แถมในป่าจำแลง ผลหมากรากไม้อุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การตั้งทัพจริงๆ จึงกลับมารายงานพระรามด้วยความดีใจ ที่เจอชัยภูมิที่เหมาะสม พระรามก็เรียกประชุมแม่ทัพนายกองว่าจะเอายังไงกันต่อดี

พิเภกที่นั่งฟังเงียบๆอยู่พักนึง และหลังจากพิเคราะห์อย่างละเอียด พิเภกก็ตบเข่าตัวเอง ฉาดใหญ่ พร้อมกับร้องออกมาว่า

...ไม่ได้ๆๆๆๆ พื้นที่ป่าแห่งนั้นเป็นพื้นที่อันตราย เพราะแถบนั้นมันไม่ได้เป็นพื้นที่ป่าอุดมสมบูรณ์ มันเป็นพื้นที่โล่งๆ ไม่มีพรรณไม้อะไรมากมาย แล้วอยู่ดีๆ วันดีคืนดี มันจะกลายเป็นป่าไปได้ยังไง คงเป็นเล่ห์กลของทศกัณฐ์แน่ๆ...
 
พระรามจึงรับสั่งให้ประคนธรรพ์ พาหนุมาน ออกไปสำรวจอีกที...แม้ว่าประคนธรรพ์จะไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ก็ตาม...

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.




.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 96 ตอน หนุมานไปดูลาดเลา

     อสุราภาณุราชร้าย     นฤมิต
พรรณพืชผลไม้พิษ         ฬ่อไว้
แปลงตนเติบโตคิด         คอยฆ่า พระแฮ
แซกซ่อนซอนตนใต้         ต่ำเบื้องบังกาย ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันตก ช่องที่ 4 แผ่นที่ 4 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 96 ตอน หนุมานไปดูลาดเลา : ในภาพ หนุมานไปดูลาดเลาสำรวจชัยภูมิ จนพบอสูรร้ายภาณุราช ซ่อนตนแทรกอยู่ใต้พื้นดินป่าลวงนั้น

.




-ภาพลอกลาย-
เมื่อมาถึงป่า หนุมานเดินสำรวจไปทั่วป่า ก็สังเกตได้ถึงความผิดปรกติ เพราะแม้ป่านี้มันจะดูเผินๆแล้ว น่าเข้าไปตั้งทัพมาก แต่...เหตุไฉนไม่มีเสียงนกการ้อง หรือสัตว์ป่าใดๆอาศัยอยู่เลย...หลังจากแทบจะจนใจ...หนุมานก็นึกขึ้นมาได้ว่า ยังมีอีกที่นึงที่ยังไม่ได้ไปสำรวจ นั่นคือใต้ดิน!

ว่าแล้ว หนุมานก็แทรกตัวเองลงไปใต้ดิน...หลังจากมุดลงไปสักพัก หนุมานก็พบ ยักษ์ภานุราช กำลังแบกแผ่นดินอยู่ เห็นดังนั้นแล้ว ภานุราช ก็ไม่สนใจเรื่องแบกแผ่นดินแล้ว รีบปรี่เข้าซัดกับหนุมานโดยพลัน...

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.




.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 97 ตอน หนุมานจับภาณุราชได้

      วายุบุตรฤทธิรู้        กลยักษ์
บ่าแบกพสุธาผลัก         พลิกพลิ้ว
จิกเกศรากษสชัก         ตรีตัด เศียรแฮ
เอาบาทคีบหัวหิ้ว         เหาะแล้วพามา ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันตก ช่องที่ 4 แผ่นที่ 5 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 97 ตอน หนุมานจับภาณุราชได้ : ในภาพ หนุมานจับภาณุราชได้ ใช้ตรีเพชรตัดศีรษะ เอาเท้าคีบหัว หิ้วมารายงานต่อพระราม

.




-ภาพลอกลาย-
ยักษ์ภานุราช ต่อสู้กับหนุมาน ก็โดนหนุมานใช้ตรีเพชรตัดหัว คอขาดเลือดกระฉูด ตายคาที่ แล้วนำหัวภานุราชเสนายักษ์ไปถวายพระราม

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.




.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 98 ตอน ถวายรายงาน

      ชูเศียรภาณุราชน้อม     นำถวาย
พร้อมหมู่พานรนาย         แน่นน้อม
สมเด็จพระนารายณ์         เลอโลกย์
ยกชอบหณุมานย้อม         ยศเยื้อนสรรเสริญ ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันตก ช่องที่ 4 แผ่นที่ 6 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 98 ตอน ถวายรายงาน : ในภาพ หนุมาน พิเภก และประคนธรรพ์ ถวายรายงานต่อพระราม

.




-ภาพลอกลาย-
หลังจากเสร็จภารกิจ หนุมาน กับ ประคนธรรพ์ ก็กลับไปรายงานให้พระรามทราบ และแน่นอน งานนี้ ประคนธรรพ์ โดนเฉ่งปี๋เต็มๆ เพราะเกือบทำให้ทัพทั้งหมดของพระรามฉิบหายตั้งแต่ยังไม่ทันจะได้ออกรบ ว่าแล้วพระรามก็รับสั่งขับประคนธรรพ์ออกจากกองทัพ ไม่ให้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆต่อไป...

จากนั้นพระรามก็สามารถเดินทัพได้อย่างสะดวกโยธิน และก็ไปตั้งทัพที่เขามรกต ประชิดติดกรุงลงกา

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.




.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 99 ตอน พระรามออกว่าราชการ

      แสดงองค์ราเมศเรื้อง     เรืองยศ
ออกอาศน์เขามรกต         ที่ใกล้
บัญชาสั่งองคต            ไปสื่อ สารแฮ
โดยเยี่ยงสงครามได้         เหยียบชั้นชานเมือง ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันตก ช่องที่ 4 แผ่นที่ 7 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 99 ตอน พระรามออกว่าราชการ : ในภาพ พระราม และพระลักษมณ์ออกว่าราชการ โดยมีบัญชาให้องคต นำพระราชสาส์นไปยังกรุงลงกา

.




-ภาพลอกลาย-
เมื่อพระรามได้ตั้งทัพที่เขามรกตซึ่งเป็นผืนป่า อันเป็นชัยภูมิที่เหมาะสม อุดมสมบูรณ์ไปด้วยน้ำท่า ผลไม้อาหาร พระรามยินดียิ่งนักจึงสั่งให้สร้างค่าย ขึ้นพลับพลาบริเวณป่าเนินเขามรกตทันที

พระรามเรียกประชุมแม่ทัพนายกอง และเห็นสมควรส่งทูตไปเจรจากับฝั่งลงกา เพื่อหาทางออกครั้งสุดท้าย โดยหวังว่าทศกัณฐ์จะคืนนางสีดาให้ทัพพระราม เพื่อที่จะได้หลีกเหตุนองเลือด

งานนี้แม้จะมีเหล่าแม่ทัพวานรเสนอตัวกันมากมาย แต่พระรามได้ตรึกตรองดูแล้ว เห็นว่า องคต นี่แหละน่าจะเหมาะสมที่สุด (นี่ถือเป็นทักษะการใช้คนของพระรามที่สุดยอดนะครับ เลือกใช้คนให้ถูกกับงาน)

สาเหตุที่พระรามเลือกองคต แทนที่จะเป็นแม่ทัพวานรตนอื่น เพราะ องคตอุปราชแห่งขีดขิน ดูสุขุม ไม่บ้าบิ่นแบบหนุมาน ตัดสินใจแก้ปัญหาได้รวดเร็ว มีวาทะศิลป์ในการเจรจา และที่สำคัญความสามารถในการรบ ไม่แพ้แม่ทัพวานรตนอื่นๆเลย (และเพราะองคตคือหนามยอกอกทศกัณฐ์ ที่เกิดจากพาลีและนางมณโฑ ถ้าองคตจะทำการรุนแรง หมิ่นเกียรติอย่างไร ทศกัณฐ์จะไม่ฆ่าองคตแน่ๆ เพราะเกรงใจนางมณโฑผู้ภริยาอย่างมาก)

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,503


View Profile
« Reply #4 on: 19 June 2023, 20:36:30 »

[22] ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ วัดโพธิ์ ชุดที่ 22


ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ ชุดที่ 22 (แผ่นที่ 100-105 เรียงจากขวามาซ้าย)
ด้านทิศตะวันตกมี 6 ช่อง - ช่องที่ 5 แผ่นที่ 100-105




.




.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ วัดโพธิ์ ชุดที่ 22 (แผ่นที่ 101)
(หมายเหตุ-เรียงแผ่นใหม่ ตามเนื้อเรื่อง-)
.
ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 100 ตอน องคตสื่อสาร

      ขดหางเทียมแท่นท้าว     ทศกัณฐ์
อวดอ่านสารสารพัน         กล่าวกล้า
พระยามารพิโรธบัญ         ชาสั่ง พลเอย
ยักษ์สี่มนตรีร้า            รีบร้อนจับตัว ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันตก ช่องที่ 5 แผ่นที่ 1 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 100 ตอน องคตสื่อสาร : ในภาพ องคต ขนดม้วนหางเป็นวงให้สูงเท่าเทียมเสมอกันกับพระแท่นของทศกัณฐ์ แล้วอ่านพระราชสาส์นจากพระราม ทศกัณฐ์โกรธมาก จึงสั่งให้ 4 เสนามนตรีทหารยักษ์รุมจับตัวองคต

.




-ภาพลอกลาย-
หลังจากองคตถีบประตูเมืองพังกระจัดกระจาย ก็เดินอาดๆเข้าไปยังท้องพระโรง เห็นทศกัณฐ์นั่งอยู่บนบัลลังก์สูง

องคตเห็นดังนั้น จึงมิรอช้า เดินข้ามหัวเหล่าเชื้อพระวงศ์เสนาอำมาตย์ที่หมอบเฝ้าแล้วหยุดลงตรงหน้าทศกัณฐ์ แล้วจึงทดขนดม้วนหางทำเป็นที่นั่งส่วนตัว ให้ตัวเองสูงเสมออยู่ในระดับเดียวกับทศกัณฐ์ ทศกัณฐ์เห็นแบบนั้น ก็หนวดกระดิก ร้อนรุ่มดุจไฟรน...

...อุเหม่...มันเป็นทูตภาษาอะไรฟร่ะ มาทำตัวสูงเสมอเจ้าลงกาอย่างข้า...แต่ก็ทำอะไรมากไม่ได้ เพราะที่นั่งขององคตมันเป็นที่นั่งส่วนตัว แบบสะดวกพกพาติดตัวมาเอง

องคตเจรจาว่าความ โดยขอร้องให้ทศกัณฐ์คืนนางสีดามาเต๊อะ...สงครามจะได้ไม่เกิด ทศกัณฐ์จะได้ไม่ต้องอับอาย พ่ายแพ้พระราม และยังพาลให้ลูกเต้า ญาติสนิท มิตรสหายต้องล้มตายเป็นเบือในสงคราม เพราะพระรามหน่ะ เป็นพระนารายณ์อวตาร ทศกัณฐ์จะไปเอาอะไรมาสู้ สู้ไปก็มีแต่ตายตกไปตามกัน ซะมากกว่า...

ทศกัณฐ์ทนนั่งฟังอยู่นาน เดือดดาลเป็นอันมาก จนอดรนทนไม่ไหว เพราะเหมือนนั่งให้องคตมันด่าเอาๆๆๆ

...เหม่ เหม่..ไอ้ลิงน้อยปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ข้านี้ก็ถือเป็นผู้ใหญ่ที่เจ้าควรให้ความเคารพ อย่างน้อยก็เป็นภัสดาแห่งมารดาเจ้า หากเราไม่เห็นแก่นางมณโฑ ป่านนี้เจ้าคงไม่มีหน้ามาต่อคำให้เราเสื่อมเสียอย่างนี้หรอก...คิดซะว่าข้าทำบุญไว้ชีวิตเจ้าละกัน...ไปๆ กลับไปเมืองขีดขินซะเถิด... 

องคตก็ยังไม่ไหวติง กลับยิ้มที่มุมปากอย่างได้ที...ข้าอาจจะเป็นเด็กอ่อนแก่โลก แต่พอจำได้ว่า ครั้งตอนข้ายังเยาว์นัก มีปูยักษ์แปลงหมายลอบทำร้ายข้า แต่ด้วยความเก่งกล้าของบิดาพญาพาลี จับปูแปลงมัดซะอยู่หมัด ยังโยงสายจูงให้ข้าลากเล่น ข้ายังจำได้ว่าเคยทำบุญเอาข้าวเหลือเดนจากนางสนมกำนัล หยอดเลี้ยงชีวิตปูตัวนั้นตลอดเจ็ดวัน...ข้าว่าข้าได้ทำบุญมากกว่าท่านตั้งแต่กาลก่อนแล้วนะ ลุงปูจ๋าของหลาน...

(หากมีคนสังเกต จะได้ยินเสียงถอนใจเป็นพักๆจากหลังม่าน เสียงสะอื้นอย่างท้อใจ ใช่ของใครอื่น ผู้นั้นคือ นางมณโฑ นั่นเอง)

ทศกัณฐ์เสียหน้าต่อธารกำนัล แต่ก็เถียงไม่ออกเพราะทุกเรื่องที่องคตกล่าวถึง เป็นความจริง จึงหงุดหงิด รีบตัดบท ตบมือเรียก สี่เสนาซ้ายขวา แล้วสั่งการว่า...

...หวังเฉา หม่าฮั่น...(ว้ายย ผิดเรื่อง)... องครักษ์ทั้งสี่...เจ้าจงนำลิงสามหาวตัวนี้ไปสังหารซะ ข้าปล่อยให้มันโอหังมานานแล้ว...จัดการมัน...

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.




.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ วัดโพธิ์ ชุดที่ 22 (แผ่นที่ 102) -เรียงแผ่นใหม่ ตามเนื้อเรื่อง-
.
ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 101 ตอน องคตโมโหจัด

      อสุรีทั้งสี่เข้า       โจมจับ
องคตตนเดียวรับ       รบด้วย
ฟาดสี่อสุรีกับ         ปราสาท
ยักษ์สี่มนตรีม้วย        มอดกลิ้งกลางดิน ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันตก ช่องที่ 5 แผ่นที่ 2 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 101 ตอน องคตโมโหจัด : ในภาพ เสนายักษ์ทั้งสี่ เข้ารุมจับองคต แต่กลับถูกองคตจับฟาดกับปราสาทราชวัง จนเสียชีวิต

.




-ภาพลอกลาย-
ทศกัณฐ์สั่งให้เสนายักษ์ 4 นาย จับตัวองคตไปเจี๋ยนเสีย...แต่ลูกสมุนของทศกัณฐ์ก็โหล่ยโท่ยเกินกว่าจะไปสะกิดผิวขององคตได้ เจอองคตลากเอาทั้ง 4 ไปเหวี่ยงเล่นสนุกสนาน คอหักตายกันเรียบทั้ง 4 นาย...

องคตเห็นแล้วว่า เจรจาไปก็ไลฟ์บอย (ก็แหงหล่ะ พี่เล่นหลอกด่าเค้าอย่างเดียวนิ) องคตจึงชี้หน้าจอมอสูร พร้อมแอบเยาะเย้ยทศกัณฐ์ก่อนลาว่า...

...ทศกัณฐ์ การทูตแบบผู้มีอารยะ คงไม่สามารถปลุกความผิดชอบชั่วดีในตัวเจ้าได้ ถ้าไม่ติดว่าทำเกินหน้าที่ ที่พระรามมอบหมายมาให้เป็นทูต ข้าจะฆ่าเจ้าเสียให้รู้แล้วรู้รอดไปเบยย...

ทศกัณฐ์นั้นยืนตัวแข็ง...ไม่รู้ว่าเพราะกลัวองคต หรือว่าเพราะกำลังเซ็งเป็ดเซ็งห่านที่ทำไมลูกน้องตรูมันถึงได้โหล่ยโท่ย โดนองคตหักคอตายภายในพริบตา

องคตเดินอาดๆกลับทัพพระรามแบบสะดวกโยธิน...พระรามตรัสชมองคตว่า...ยอดเยี่ยมจุงเบยยย... (ตกลงส่งองคตมันไปทำหน้าที่อะไรเนี่ย!!???)

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.




.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ วัดโพธิ์ ชุดที่ 22 (แผ่นที่ 100) -เรียงแผ่นใหม่ ตามเนื้อเรื่อง-
.
ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 102 ตอน ปิดประตูเมือง

      องคตยศยิ่งเชื้อ        ชายทหาร
เปนทูตถือราชสาร         สื่อใช้
นายประตูบ่เปิดบาน         ทวาเรศ รับนา
ถึงถีบทวารวังให้         ......................

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันตก ช่องที่ 5 แผ่นที่ 3 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 102 ตอน ปิดประตูเมือง : ในภาพ องคตเป็นทูตถือพระราชสาส์นจากพระรามมายังกรุงลงกา แต่นายทวารยักษ์ปิดประตูเมืองไม่ให้เข้า องคตจึงถีบประตูวังพังเข้ามา

.




-ภาพลอกลาย-
รุ่งเช้า องคต ถือพระราชสาส์นทูนเหนือหัว เหาะมุ่งตรงสู่เมืองลงกา เมื่อถึงประตูเมือง พวกยักษ์เฝ้าประตูเมืองรีบปิดประตูลงกลอน เตรียมซัดหอก ธนู ใส่เต็มที่ แล้วรีบส่งข่าวเข้าไปยังพระราชวังว่า...องคต ลิงเขียว นำสาส์น ของพระรามมาถวาย...

เมื่อทศกัณฐ์ทราบเรื่อง ก็หนวดกระดิก รู้สึกกระอักกระอ่วน กลืนไม่เข้าคายไม่ออก หายใจติดขัด สมองมึนชาไปหมด หน้าร้อน หูแดง ไม่รู้จะทำอย่างไรดี

เพราะรู้ว่า องคตคือลูกของพาลี(ผัวเก่า)นางมณโฑ ที่ตอนเป็นเด็ก พาลีเคยจับปูยักษ์(ปู-ทศกัณฐ์แปลง ไม่ใช่ปู-ถนน คอ-นก-รีต)ให้องคตลากเล่น หนุกหนานๆ มาแล้ว...

...องคต ลูกของพาลีกะนาง..... เออ...ไอ้องคตนำสาส์นมาทวงแม่สีดาแน่ๆ ทหารอย่าให้มันเข้ามา ให้รออยู่ที่หน้าประตูเมืองนั่นแหละ...แล้วจึงส่ง เปาวนาสูร เสนาธิการยักษ์คู่ใจ ไปเจรจา เพื่อถ่วงเวลาไว้

ทศกัณฐ์นั้นอยากจะฆ่าไอ้ลิงตัวนี้เสียจริง แต่ที่ประชุมทหารยักษ์ ห้ามไว้ก่อน เพราะเป็นธรรมเนียมการศึก จะไม่เข่นฆ่าคณะทูต เดี๋ยวจะเสื่อมเสียพระเกียรติอภิมหายักษ์เปล่าๆ

ที่ประชุมทหารเสนอว่า...ในเมื่อทูตที่มาเจรจาคือ องคต เหตุใดเราไม่ส่งนางมณโฑที่เป็นแม่แท้ๆขององคตออกไปเกลี้ยกล่อมให้องคตมาอยู่กับฝั่งลงกาเสียเลย...

ทศกัณฐ์จึงสั่งให้นางสนมกำนัลไปตามตัวนางมณโฑ มาเข้าเฝ้า...นางสนมรับบัญชา พากันวิ่งจนผ้าซิ่นปลิว เข้าตำหนักฝ่ายใน เพื่อทูลเชิญให้พระแม่มณโฑให้รีบไปชะลอ มิให้องคตเข้าเมืองลงกา และโน้มน้าวให้เลิกทัพกลับไปซะเถิด...

ในระหว่างนี้ องคต ยืนรอหน้าประตูมาจะสามชั่วโมงแล้ว จุดเดือดกำลังใกล้จะแตก...มันจะให้กรูยืนรอไปอีกนานขนาดไหนฟร่ะ ร้อนนะเฟร้ยยยย...

นางมณโฑเมื่อได้รับฟังแผนของทศกัณฐ์ ก็ตกใจ เพราะแม้ตัวเองจะเป็นแม่ขององคต แต่ก็แค่อุ้มครรภ์ไม่กี่เดือน แถมไม่ได้คลอด (ผ่าออกก่อนกำหนด แล้วนำร่างทารกน้อยไปฝากเลี้ยงไว้ในท้องแพะ) ไม่ได้เลี้ยงองคตเลย ความผูกพันแม้จะมี แต่ก็ไม่มากเท่าไหร่ เกรงว่า องคต จะไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นแม่ จะออกไปเจอพบหน้ากันตรงๆ ก็กลัวว่า องคต อาจจะทำร้ายได้ นางจึงสั่งให้ นางกำนัล จัดแต่งเครื่องกับข้าว คาวหวานไปต้อนรับองคตที่หน้าประตูเมืองก่อน คอยสังเกตอารมณ์ ถ้าองคตอารมณ์ดี ยิ้มแย้มเมื่อไหร่ ค่อยส่งซิกให้นางออกไปเจรจา

นางกำนัลก็รีบจัดการแต่งองค์ทรงเครื่อง แต่งหน้าแต่งตา จัดเครื่องคาวหวาน ใช้เวลาในการนี้อีกเป็นชั่วโมงๆๆ ...องคตที่ยืนตากแดดมาแล้วครึ่งวัน เริ่มออกอาการหงุดหงิด จึงเนรมิตกายให้ใหญ่โตกว่าประตูเมือง กระทืบบาทจนพื้นสะเทือนไปทั่วลงกา แล้วตะโกนออกมาว่า...

...โธ่ว้อย กรูทนไม่ไหวแล้วนาว้อย ถ้ายังไม่เปิดประตูเมือง เดี๋ยวพ่อจะพังเข้าไป ณ บัดนาว...ว่าแล้วองคตก็เอาส้นเท้าถีบเข้าที่ประตูเมือง ถีบอยู่ไม่กี่ที กำแพงเมืองก็พังเป็นแถบ พวกยักษ์เวรยามและนางกำนัลต่างวิ่งหนีกันไปคนละทิศคนละทาง

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.




.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 103 ตอน ทศกัณฐ์ใช้หลานนำสาร

      นนยวิกวายุเวกเนื้อ     นัดดา
รับสั่งจอมลงกา            ใส่เกล้า
ขี่ขับอัศวรา            เร็วรีบ มาฤๅ
ชำแรกบาดาลเข้า         สู่ท้องโรงคัล ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันตก ช่องที่ 5 แผ่นที่ 4 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 103 ตอน ทศกัณฐ์ใช้หลานนำสาร : ในภาพ นนยวิก วายุเวก (ลูกของมารีศ ผู้แปลงกายเป็นกวางทองไปล่อให้พระรามตาม) รับคำสั่งจากทศกัณฐ์ให้ไปเชิญตัวไมยราพ มาพบที่กรุงลงกาโดยด่วน...จึงรีบเร่งขี่ม้าแทรกมหาสมุทรไปยังเมืองบาดาลของไมยราพ

.




-ภาพลอกลาย-
(ความเดิม) จากที่หนุมานข้ามทะเลมาเผาเมืองลงกา กองทัพพระรามจองถนนจนถึงถิ่น  องคตหนามยอกอกยังบุกถึงท้องพระโรงแห่งลงกา กล่าววาจาสามหาวต่อหน้าพระที่นั่ง จนถึงสุครีพบุกมาหักฉัตรประจำตะกูลพรหมวงศ์ แถมเอาเท้าคีบมงกุฎของทศกัณฐ์ไปจากหัวอีกด้วย ซึ่งทศกัณฐ์รู้สึกเสียหน้าและแน่ใจว่าตนได้ประมาณการศึกครั้งนี้น้อยเกินไปซะแล้ว

ทศกัณฐ์ตอนนี้อ๊าย อาย..อายจนแทบจะเอาหน้าซุกกรุงลงกา เพราะแค่ผ่านไปไม่นานเท่าไหร่ เจอลิงสามสี...สีเผือก สีเขียว สีแดง มาลองดีถึงถิ่นกรุงลงกา โดยที่ฝั่งลงกาไม่ได้เอาคืนอะไรจากทัพพระรามเลย...แล้วเราจะถอนแค้นนี้คืนจากพระรามได้ยังไงกันบ้าง...

(ต่อ) ทศกัณฐ์จึงคิดแผนใหม่ขึ้นมา โดยไม่ต้องไปรบกับพระราม แต่พระรามต้องตาย เราจะต้องหายักษ์สักตนหนึ่ง ที่เก่งกล้าสามารถ ให้แปลงกายเข้าไปในกองทัพพระราม แล้วไปลักพาตัวพระรามออกมาฆ่าทิ้งจะดีกว่า

คิดดังนั้นแล้ว ทศกัณฐ์จึงเรียกบรรดาเสนาธิการมาปรึกษาหารือกันว่า...เราจะเลือกใครดีที่เก่งกล้าสามารถพอที่จะปลอมตัวเข้าไปในกองทัพของพระรามได้ โดยที่ไม่โดนจับได้

เสนาธิการยักษ์ตนนึงเสนอว่า...งานนี้ท่านไม่ต้องออกรบเองให้เปลืองตัวหรอกครับนาย นายเรียกใช้บริการจากท้าวไมยราพ ผู้ครองเมืองบาดาลดูสิครับนาย...ท้าวไมยราพนั้นเชี่ยวชาญสารพัดกลเม็ดเวทมนต์ ล่องหนได้ เสกสะกดกองทัพให้หลับทั้งกองทัพยังได้เลย เรียกได้ว่า ครบเครื่องเรื่องมนต์ดำ...

ทศกัณฐ์ได้ฟังดังนั้นก็กระหยิ่มยิ้มย่อง ได้แม่ทัพฝีมือดีมาช่วยฟรีๆ...ทศกัณฐ์จึงเรียก นนยวิก และ วายุเวก เข้าเฝ้า (ลูกของมารีศ ผู้แปลงกายเป็นกวางทองไปล่อให้พระรามตาม) เพื่อไปเชิญตัวไมยราพ มาพบที่กรุงลงกาโดยด่วน...

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.




.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 104 ตอน เฝ้าเจ้าเมืองบาดาล

      ไมยราพออกอาศน์เอื้อน     โอษฐ์ถาม
นนยวิกทูลสงคราม         ติดด้าว
ลงกาบ่มีความ            สุขสัก หยาดเลย
พระยายักษ์ใช้เชิญท้าว      ช่วยร้อนรณรงค์ ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันตก ช่องที่ 5 แผ่นที่ 5 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 104 ตอน เฝ้าเจ้าเมืองบาดาล : ในภาพ นนยวิก และ วายุเวก เข้าเฝ้าไมยราพที่เมืองบาดาล กราบทูลว่ากรุงลงกากำลังมีสงคราม ท้าวทศกัณฐ์จึงใช้ให้มาเชิญท่านไปช่วยทำสงคราม

.




-ภาพลอกลาย-
นนยวิก และ วายุเวก เข้าเฝ้าไมยราพที่เมืองบาดาล กราบทูลว่า...

...ท่านไมยราพ...ตอนนี้กรุงลงกามีศึกใหญ่ ต้องการความช่วยเหลือจากท่าน ท้าวทศกัณฐ์จึงใช้ให้ข้ามาเชิญท่านไปช่วยทำสงคราม...

ไมยราพ...แย่แล้ว...กรุงลงกามีศึก เราเป็นญาติกัน เราต้องไปช่วย... (ไมยราพลืมคำสั่งเสียของพ่อที่สั่งไว้ข้อเดียวก่อนตายว่า "อย่ายุ่งกับทศกัณฐ์" -สั่งต่อกันมาตั้งแต่สมัยปู่ เพราะทศกัณฐ์เป็นยักษ์อันธพาลเกเร)

ไมยราพก็ตอบตกลงไปว่า...O.K. เดี๋ยวข้าจะไปช่วยกรุงลงกาเอง ท่านกลับไปบอกทศกัณฐ์เลย เดี๋ยวข้ายกทัพตามไป...

ไมยราพพอได้รับเทียบเชิญจาก ทศกัณฐ์ มาเฟียใหญ่แห่งลงกา ก็รู้สึกยินดีปรีดา รีบจัดทัพเตรียมไปพบกับทศกัณฐ์โดยพลัน
 
.
 



-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.




.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 105 ตอน ไมยราพณ์ประชดแม่

      ไมยราพทราบเหตุแล้ว     ไปลา แม่นา
พระแม่เหนอัปรา         ตรัสห้าม
ไมยราพประทุษฐทา         รุณโทษ
แกว่งรถประชดฤคร้าม      เยาะเย้ยชนนี ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันตก ช่องที่ 5 แผ่นที่ 6 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 105 ตอน ไมยราพณ์ประชดแม่ : ในภาพ นางจันทรประภา ผู้เป็นแม่ร้องห้าม ไมยราพโกรธพระมารดาถึงกับฟาดรถทรงลงพื้น สุดท้ายนางก็จำยอมอนุญาตให้ลูกชายเดินทางไปพบทศกัณฐ์ พร้อมกับอวยพรให้โชคดี...

.




-ภาพลอกลาย-
ก่อนจะจากเมืองบาดาลไป ไมยราพไม่ลืมที่จะไปกราบลามารดา นางจันทรประภา ผู้เป็นแม่ ครั้นเมื่อนางจันทรประภาทราบว่าไมยราพกำลังจะรีบไปพบทศกัณฐ์เพื่อช่วยรบกับพระราม นางถึงกับรีบเตือนสติไมยราพ นางเตือนไมยราพให้นึกถึงคำสั่งเสียของพ่อ ที่เคยกำชับไว้ว่า..."อย่ายุ่งกับทศกัณฐ์" เพราะวันๆเอาแต่ระรานชาวบ้านไปทั่วโลกา อะไรที่เป็นเรื่องชั่วๆ ทศกัณฐ์ชำนาญทุกอย่าง ดังนั้น จึงไม่ควรจะไปสุงสิงกับทศกัณฐ์ ตามภาษิตโบราณ..คบคนพาลพาลพาไปหาผิด...

นางจันทรประภาขอร้องลูกว่า...อย่าไปพบทศกัณฐ์เลย เพราะนอกจากจะเป็นคำสั่งเสียของพ่อแล้ว คราวนี้ทศกัณฐ์ยังฮึกเหิมออกรบกับพระรามที่เป็นพระนารายณ์อวตารอีก ช่างไม่ดูเงาหัวตัวเองเลย แล้วลูกของแม่จะเอาตัวเข้าไปเสี่ยงทำไม...

ไมยราพที่ต้องการจะประกาศศักดาของเมืองบาดาลให้ก้องเกียรติเกริกไกรไปทั่ว นมนานกาเลเอาแต่อยู่ใต้พิภพ จนยุทธภพแทบจะลืมเลือนไปแล้วว่าเมืองบาดาลอยู่ตรงไหน...และนี่เป็นโอกาสอันดีที่ ไมยราพ จะได้โชว์ฝีมือให้โลกได้เห็นแล้ว

นอกจากนั้นการไปรบครั้งนี้ ทศกัณฐ์ขอให้ไมยราพไปช่วยร่ายมนต์สะกดทัพพระราม แล้วจับตัวพระรามและพระลักษมณ์เท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงการนองเลือดครั้งใหญ่ระหว่างสองกองทัพ ฉะนั้น การไปพบทศกัณฐ์คราวนี้ มีแต่ได้กับได้...ฉะนั้นแม่ปล่อยให้ข้าไปเต๊อะ...

นางจันทรประภาห้ามแล้วห้ามอีก แต่ก็จนใจ เพราะลูกชายรั้นที่จะไปให้ได้...ไมยราพโกรธพระมารดาถึงกับฟาดรถทรงลงพื้น...สุดท้ายนางก็จำยอมอนุญาตให้ลูกชายเดินทางไปพบทศกัณฐ์ พร้อมกับอวยพรให้โชคดี...

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.




.
 


Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,503


View Profile
« Reply #5 on: 19 June 2023, 20:38:03 »

[23] ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ วัดโพธิ์ ชุดที่ 23


ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ ชุดที่ 23 (แผ่นที่ 106-108 เรียงจากขวามาซ้าย)
ภาพด้านทิศตะวันตกมี 6 ช่อง - ช่องที่ 6 แผ่นที่ 106-108




.




.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 106 ตอน ไมยราพณ์หุงยา

      ไมยราพแปรภาพเพี้ยง     ดาบส
ร่ายเวทหุงโอสถ            ใส่กล้อง
เพลาอัษฎงคต            คอยฤกษ์
มาที่พลับพลาหย้อง         ย่างเข้าเป่ายา ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันตก ช่องที่ 5 แผ่นที่ 6 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 106 ตอน ไมยราพณ์หุงยา : ในภาพ ไมยราพแต่งองค์ด้วยเครื่องทรงฤๅษี สีดำสนิท กำลังปรุงยาสมุนไพรพิษ(ยาสะกดนิทรา) แล้วร่ายคาถาร้อยแปดจบ จากนั้นเป่าคาถาลงในกระทะปรุงยา...ไมยลาภต้องอ่านมนต์ถึงสามครั้งสามจบ แล้วเสกเป่าลงกลางกระทะ จนเกิดเป็นสิงโตสองตัวกัดกันตามตำรา...   





-ภาพลอกลาย-
ไมยราพหลังจากร่ำลามารดา ก็รีบจัดทัพมุ่งหน้าลงกา เพื่อหารือการศึกร่วมกับทศกัณฐ์ โดยทศกัณฐ์มอบหมายให้ไมยราพไปเป่ามนต์สะกดทัพพระรามให้หลับใหล แล้วลักพาตัวพระรามออกมา

ไมยราพจึงทูลลาทศกัณฐ์ เพื่อไปทำพิธีหุงยา...พอถึงเมืองบาดาล ไมยราพก็สั่งทหารให้ปลูกโรงพิธีไว้ที่เชิงเขาแก้วสุรกานต์...

เอาหัวกระโหลกผีมาวางเป็นก้อนเส้าเพื่อก่อไฟ เอากระทะใบใหญ่ขึ้นตั้ง ให้เสนาหาเห็ดเมา รวบรวมสมุนไพรที่มีพิษไว้เพื่อทำยาสลบ เมื่อส่วนผสมครบแล้วไมยราพก็อาบน้ำขัดตัวชำระร่างกาย แต่งองค์ด้วยเครื่องทรงฤๅษี สีดำสนิท จากนั้นก็ถึงขั้นตอนการปรุงยา...

ก่อนอื่นนำส่วนผสมทั้งเห็ดเมา สมุนไพรมีพิษ มาผสมกันให้เข้าตามอัตราส่วน เร่งไฟให้กระทะร้อน ใส่ส่วนผสมแล้วร่ายคาถาร้อยแปดจบ จากนั้นเป่าคาถาลงในกระทะปรุงยา

ทันใดนั้น เกิดเป็นนางฟ้าปรากฎขึ้นที่กลางกระทะ ไมยราพก็อยากจะเก็บเอาไว้เชยชมแต่ก็ต้องตัดใจเชือดคอนางงามตนนั้น ฆ่าทิ้งเสีย เพราะไม่เป็นไปตามตำรา

จากนั้นก็อ่านพระเวทภาษายักษ์ต่อ เป่าคาถาลงในกระทะอีกรอบ ตอนนี้เกิดเป็นเสือสองตัวสู้กันอยู่กลางกระทะ ก็ยังไม่ตรงตามตาราอีก ก็ต้องฆ่าเสือให้ตายทั้งคู่

จากนั้นอ่านมนต์ต่อ ตามที่ครูเคยสอนไว้อย่างระมัดระวัง ถึงสามจบ แล้วเสกเป่าลงกลางกระทะอีกรอบ ตอนนี้เกิดเป็นสิงโตสองตัวกัดกันตามตำรา...

ไมยราพดีใจยิ่งนัก คว้าพระขรรค์เข้าฟันคอราชสีห์ แล้วผ่าอก ควักหัวใจออกมา จากนั้นนำหัวใจสิงโตมาบดผสมกับส่วนผสมอื่นๆ ที่เตรียมไว้ ทั้งสารพัดสมุนไพรและตัวยาลับเฉพาะ บดอีกเป็นพันๆๆๆครั้ง จนกว่าจะได้ยาสะกดนิทรา ที่ไม่ว่าใครโดนยานี้เข้าไป จะต้องหลับผล็อยไปเลย...

จากนั้นลองเอายามาทาตัวก็พบว่า ยาตำรับนี้ ทำให้ตนกำบังกายไม่ให้ใครเห็นได้...

พอได้ยาสะกดนิทราสูตรพิสดารแล้ว ไมยราพที่เหนื่อยอ่อนจากการทำพิธีกรรม ก็ขอตัวไปพักผ่อนนอนหลับเอาแรง เพื่อออกศึกในวันรุ่งขึ้น...

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.




.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 107 ตอน หนุมานอมพลับพลา

      วายุบุตรองอาจอ้าง     อาสา
อ้าโอษฐ์อมพลับพลา         ปิดไว้
ต้องพิษวิทยายา            ไมยราพ
ยักษ์ย่องเข้าปากได้         ห่อนรู้สึกสกนธ์ ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันตก ช่องที่ 6 แผ่นที่ 2 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 107 ตอน หนุมานอมพลับพลา : ในภาพ หนุมานอาสาป้องกันภัย โดยเนรมิตร่างกายใหญ่โต แล้วอมพลับพลาและพระรามไว้ในปาก แต่ไมยราพเป่ามนต์สะกดทัพให้พลวานรทั้งกองทัพของพระรามหลับใหลกันหมด แล้วย่องเข้าไปลักพาตัวพระรามจากในปากหนุมานยักษ์ออกไปได้ 

.




-ภาพลอกลาย-
ไมยราพรู้สึกอ่อนล้าจากการประกอบพิธีหุงยา จึงอาบน้ำอาบท่า เข้านอนทันที...ในคืนนั้น ไมยราพฝันร้าย จึงให้โหรประจำเมืองบาดาล มาทำนายทายฝัน... โหรหลวงหลังจากจับยามสามตาแล้ว ก็ทูลไมยราพว่า...อันฝันที่ท่านฝันนั้น เป็นฝันบอกลางไม่ดี หมายถึง ตัวท่านจะสิ้นบุญ และจะมียักษ์หนุ่มมาครอบครองนครบาดาลแทน...ไมยราพจึงถามว่า เป็นใคร โหรจึงตอบว่า...ก็ ไวยวิก ลูกชายนางพิรากวน พี่สาวของท่านไง...

ไมยราพ เกิดโทสะเดือดปุดๆ จึงสั่งให้ทหารไปจับตัวสองแม่ลูกไปคุมขังไว้ก่อน รอให้จับพระรามได้แล้ว จะฆ่าทิ้งทั้งพระรามและแม่ลูกด้วย...

ฝ่ายพระราม ก็ทรงฝันแปลกๆเช่นกัน จึงให้พิเภกทำนายฝัน พิเภกจับยามสามตา แล้วทูลว่า...นี่เป็นลางไม่ดี สงสัยว่าจะต้องมีกลอุบายอะไรสักอย่างมาจากทางฝั่งทศกัณฐ์แน่ๆ พระองค์จะถูกลักพาตัวไป หนุมานจึงเสนอตัวเนรมิตตัวเองให้ใหญ่โต แล้วอมพลับพลาพระรามเอาไว้เสียเลย... พร้อมกันนั้น สุครีพก็สั่งบรรดาแม่ทัพฝีมือฉกาจทั้งหลาย รวมทั้งพระลักษมณ์และสุครีพ มาเฝ้ายามอยู่ใกล้ๆพระรามเสียด้วยในคราวเดียวกันเลย...ดูสิว่า จะมีใครกล้ามาแหยม ลักพาตัวพระรามมั๊ย?...

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.




.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 108 ตอน ไมยราพณ์สะกดทัพ

      ริภาพไมยราพเข้า     ถึงองค์
บ่าแบกพระหริวงศ์         รีบเต้า
ชำแรกแผ่นดินลง         ยังภพ ตนนา
กรงใส่ไว้ยักษ์เฝ้า         ห่อนให้ใครปลอม ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศตะวันตก ช่องที่ 6 แผ่นที่ 3 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 108 ตอน ไมยราพณ์สะกดทัพ : ในภาพ ไมยราพ ลักพาตัวพระราม แบกใส่บ่า แล้วแทรกแผ่นดิน มุดกลับลงไปยังเมืองบาดาล

.




-ภาพลอกลาย-
ในคืนนั้นก่อนรุ่งแจ้ง ไมยราพได้เป่ายาสะกดนิทราให้พลวานรทั้งกองทัพหลับผล็อยไป พอเข้าใกล้พลับพลา ไมยราพก็จัดการพ่นยาสะกดนิทราออกไปอีก เหล่าแม่ทัพนายกองที่เฝ้าพระรามอยู่ รวมทั้งพระราม พระลักษมณ์ และสุครีพ...ก็หลับใหลไปตามๆกัน...รวมทั้งหนุมาน ที่อมพลับพลาอยู่ ก็หลับผล็อยไปเช่นกัน...

ไมยราพจึงเดินอาดๆๆๆ เข้าไปถึงตัวพระรามได้โดยง่าย จัดการอุ้มพระรามที่บรรทมหลับอยู่บนแท่นขึ้นบ่าแบกออกมา แล้วรีบแทรกแผ่นดินมุดกลับลงไปยังเมืองบาดาล แล้วเอาพระรามไปขังไว้ทั้งที่ยังหลับอยู่...

เมื่อไมยราพ ลักพาตัวพระรามลงไปสู่เมืองบาดาลแล้ว ก็รีบจัดแจงนำพระรามไปขังกรงเหล็ก กลางดงตาล พร้อมกับสั่งลงโทษนางพิรากวน ที่นั่งอยู่ในคุก ให้ไปตักน้ำจากสระ ใส่กะทะใบใหญ่ให้เต็ม แล้วต้มน้ำให้เดือด...

หลังจากไมยราพอาบน้ำอาบท่าชำระร่างกายเสร็จ ก็จะเริ่มพิธีต้มพระราม และ ไวยวิก เสียคราวเดียวกันเลย...

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.




.



Logged
Pages: [1] Go Up Print 
« previous next »
 

SMF 2.0.4 | SMF © 2013, Simple Machines | Theme by nesianstyles | Buttons by Andrea
Page created in 0.098 seconds with 21 queries.