Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
User Info
Welcome, Guest. Please login or register.
09 May 2024, 23:21:02

Login with username, password and session length
Search:     Advanced search
News
ท่านสมาชิกสามารถเปลี่ยนรูปแบบ (Theme) ได้อีกหลายแบบ
เชิญทดลองโดยคลิกที่ลิงค์ข้างล่าง ได้เลยครับ

http://www.smilesiam.net/index.php/topic,3170.msg4713.html
Forum Stats
25,650 Posts in 12,467 Topics by 70 Members
Latest Member: KAN
Home Help Search Calendar Login Register
Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...  |  ภาพประทับใจ  |  สถานที่สวยงาม (Moderator: ppsan)  |  2. ภาพศิลาจำหลักเรื่องรามเกียรติ์ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)
0 Members and 1 Guest are viewing this topic. « previous next »
Pages: [1] Go Down Print
Author Topic: 2. ภาพศิลาจำหลักเรื่องรามเกียรติ์ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)  (Read 78 times)
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,503


View Profile
« on: 19 June 2023, 20:05:41 »

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์  ด้านทิศใต้ ช่องที่ 1 - 11


ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม(วัดโพธิ์)
จารึกที่พนักรอบพระอุโบสถ ทั้ง 4 ทิศ  จำนวน 34 ชุด  รวม 152 แผ่น

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์  ด้านทิศใต้มี 11 ช่อง(ชุด)

ช่องที่ 1    แผ่นที่ 33-36
.
ช่องที่ 2    แผ่นที่ 37-40
ช่องที่ 3    แผ่นที่ 41-44
ช่องที่ 4    แผ่นที่ 45-48
ช่องที่ 5    แผ่นที่ 49-52
ช่องที่ 6    แผ่นที่ 53-56
ช่องที่ 7    แผ่นที่ 57-60
ช่องที่ 8    แผ่นที่ 61-64
ช่องที่ 9    แผ่นที่ 65-68
ช่องที่ 10  แผ่นที่ 69-72
ช่องที่ 11  แผ่นที่ 73-76

.....


[7] ภาพศิลาจำหลักเรื่องรามเกียรติ์ วัดโพธิ์ ชุดที่ 7


ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ ชุดที่ 7 (แผ่นที่ 33-36 เรียงจากขวามาซ้าย)
ช่องที่ 1 แผ่นที่ 33-36




.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 33 ตอน อินทรชิตแผลงศร

      โอรสทศพักตร์พ้อง   พงศ์พรหม
ยืนรถเหนลูกลม                ไล่ล้าว
ยักษ์มารซ่านซุกซม        แตกพ่าย มาแฮ
จับพระแสงศรน้าว          มุ่งล้างวางสาย ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศใต้ ช่องที่ 1 แผ่นที่ 1 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 33 ตอน อินทรชิตแผลงศร : ในภาพ อินทรชิตกำลังแผลงศรนาคบาศ หลังหนุมานได้ฆ่าเหล่ายักษ์ล้มตายไปมากมาย ที่เหลือก็แตกพ่ายหนีซมซานไม่ขอสู้ อินทรชิตเสด็จยืนอยู่บนรถทรง เห็นหนุมานกำแหงหาญฆ่ายักษ์ไปต่อหน้าต่อตา จึงจับพระแสงศรซึ่งพระพรหมประทานให้ยิงไปที่หนุมาน

.




-ภาพลอกลาย-
เรื่องที่หนุมานทุบสหัสกุมาร ลูกๆทศกัณฐ์ทั้ง 1000 ตนตายเรียบนั้น รู้ไปถึงหูทศกัณฐ์...ทศกัณฐ์ได้ยินแล้วก็ทรงพระเวรี่กริ้ว ลุกขึ้นจากพระแท่นแก้ว กระทืบบาทตวาดก้องว่า...ใครมันกล้ามาแหยมก๊ะกรู ถึงลงกาเลยวะเนี่ย?...ว่าแล้วก็สั่งให้ อินทรชิต บุตรชายคนโต ออกไปจัดการ...หากว่าจับเป็นได้ก็ให้จับมา อยากดูน้ำหน้าไอ้ลิงโอหัง ตัวนี้นัก!

อินทรชิต...นี่ก็ยักษ์ไม่ธรรมดานะครับ จัดได้ว่าเป็นยอดฝีมืออันดับต้นๆของลงกาเลยทีเดียว และชื่อ อินทรชิต ที่แปลว่า ผู้พิชิตพระอินทร์ ก็ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย...แต่ฝีมือล้วนๆ...

อินทรชิตยกทัพออกไปที่สวนอุทยาน เพื่อตามจับหนุมานมาลงโทษ...

อินทรชิตสั่งให้บรรดาไพร่พล ยกขบวนกันเข้าไปจัดการลิงเผือก...แห่กรูกันเข้าไปเท่าไหร่ ก็โดนซัดกลับออกมาเท่านั้น

อินทรชิตเห็นดังนั้นจึงคว้าศรออกมายิงใส่ แต่ศรที่ใช้นั้น ไม่ใช่ศรเทพประทานนะครับ ด้วยความที่อินทรชิตยังดูถูกดูแคลนว่า...หนุมานเป็นแค่ลิง ยังไม่คู่ควรกับอาวุธเทพ...แต่อินทรชิตก็คิดผิดเพราะ ศรที่แผลงออกไปเป็นพันๆเล่ม กลับทำอะไรหนุมานไม่ได้เลย...

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 34 ตอน หนุมานถูกนาคมัดกาย

      ศรเป็นนาคราชร้าย   เร็วรัด
วายุบุตรจับงูฟัด             ฟาดทิ้ง
พลยักษ์ช่วยกันมัด          เปนหมู่
วายุบุตรทำนอนกลิ้ง        ยักษ์ปล้ำนำถวาย ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศใต้ ช่องที่ 1 แผ่นที่ 2 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 34 ตอน หนุมานถูกนาคมัดกาย : ในภาพ ลูกศรของอินทรชิตกลายเป็นงูเข้ารัดกายหนุมานอย่างรวดเร็ว หนุมานพยายามจับงูฟัดฟาดทิ้งก็ไม่หมด เหล่าพลยักษ์จึงช่วยกันจับหนุมาน หนุมานจึงทำเป็นนอนกลิ้งให้เหล่ายักษ์ช่วยกันปล้ำจับ

.




-ภาพลอกลาย-
ขณะที่หนุมานพอตั้งหลักได้แล้ว ก็กระโจนเข้าใส่รถศึก ถีบอินทรชิตจนตกจากรถ เมื่ออินทรชิตเห็นการณ์เป็นเช่นนี้...สู้ไปก็เปลืองไพร่พล จึงตัดสินใจคว้าเอา ศรนาคบาศ ออกมาแผลง ด้วยตระหนักแล้วว่า ไอ้ลิงตัวนี้ มันต้องไม่ใช่ลิงธรรมดาแน่ๆ ครั้นจะใช้ศรพรหมมาสตร์หรือวิษณุปาณัม ก็เดี๋ยวจะฆ่ามันตายไปซะก่อน ใช้ศรนาคบาศแปลงเป็นพญานาคไปรัดตัวมันเนี่ยแหละ จะได้จับเอามาเค้นสอบได้ว่า มันเป็นใครมาจากไหน?

ฝ่ายหนุมานเมื่อศรนาคบาศกลายเป็นพญานาคมาพันกาย จึงลองสะบัดดู นาคบาศนั้นก็คลายออก จึงรู้ว่าหากตนสะบัดแรงๆ นาคก็จะขาดได้โดยง่าย แต่..อยากรู้นักเออ...ว่ายักษ์พวกกะนี้จะทำเช่นไร หากจับตัวเองได้...

อินทรชิตเห็นหนุมานแน่นิ่งไปดังนั้น ก็ดีใจ สั่งให้ทหารไปกุมตัวหนุมาน เอาไปเข้าเฝ้าทศกัณฐ์เพื่อตัดสินคดีความ...

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 35 ตอน หนุมานแผลงฤทธิ์

      หณุมานชาญเดชห้าว   หาญหัก
เข้าหว่างกลางพลยักษ์        ไล่ล้าง
หมู่มารบ่ทานศัก               ดาเดช
ฉุดฉีกขาแขนขว้าง            เกลื่อนกลิ้งกลางดิน ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศใต้ ช่องที่ 1 แผ่นที่ 3 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 35 ตอน หนุมานแผลงฤทธิ์ : ในภาพ หนุมานผู้องอาจกล้าหาญ ได้กระโดดเข้าระหว่างกลางพลยักษ์หมู่มาร ซึ่งไม่อาจทนทานฤทธิเดชได้ ถูกหนุมานฉุดฉีกแขนขาขว้างทิ้ง ตายเกลื่อนดิน

.




-ภาพลอกลาย-
หนุมานผู้องอาจกล้าหาญ ได้กระโดดเข้าระหว่างกลางพลยักษ์หมู่มาร ซึ่งไม่อาจทนทานฤทธิเดชได้ ถูกหนุมานฉุดฉีกแขนขาขว้างทิ้ง ตายเกลื่อนดิน

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 36 ตอน หนุมานต่อสู้กับหมู่ยักษ์

      ลูกลมเรืองฤทธิ์ร้าย      แรงรณ
ขึ้นกลุ่มกุมกาจผจญ         จับพลิ้ว
กลอกกลับรับกลางพล      มารพ่าย หนีนา
บ้างหั่นฟันหัวหิ้ว         คว่างคว้างกลางแปลง ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศใต้ ช่องที่ 1 แผ่นที่ 4 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 36 ตอน หนุมานต่อสู้กับหมู่ยักษ์ : ในภาพ หนุมานสลัดตัวหลุด แล้วเข้าต่อสู้ท่ามกลางหมู่ยักษ์ ห้ำหั่นฟันหัวหิ้วขว้างทิ้งเกลื่อนดิน




-ภาพลอกลาย-
หนุมานสลัดตัวหลุด แล้วเข้าต่อสู้ท่ามกลางหมู่ยักษ์ ห้ำหั่นฟันหัวหิ้วขว้างทิ้งเกลื่อนดิน

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.



Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,503


View Profile
« Reply #1 on: 19 June 2023, 20:08:25 »

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์  ด้านทิศใต้ ช่องที่ 1 - 11



ด้านทิศใต้มี 11 ช่อง(ชุด)

ช่องที่ 1    แผ่นที่ 33-36
.
ช่องที่ 2    แผ่นที่ 37-40
.
ช่องที่ 3    แผ่นที่ 41-44
ช่องที่ 4    แผ่นที่ 45-48
ช่องที่ 5    แผ่นที่ 49-52
ช่องที่ 6    แผ่นที่ 53-56
ช่องที่ 7    แผ่นที่ 57-60
ช่องที่ 8    แผ่นที่ 61-64
ช่องที่ 9    แผ่นที่ 65-68
ช่องที่ 10  แผ่นที่ 69-72
ช่องที่ 11  แผ่นที่ 73-76

.....



--------------------------------------------------------------------------------------------------

[8] ภาพศิลาจำหลักเรื่องรามเกียรติ์ วัดโพธิ์ ชุดที่ 8


ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ ชุดที่ 8 (แผ่นที่ 37-40 เรียงจากขวามาซ้าย)
ช่องที่ 2 แผ่นที่ 37-40

.....




.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 37 ตอน หนุมานถูกยักษ์ลงโทษ

      อสุรพลยักษ์ร้าย        อุดตลุด
รุมจับขุนวายุบุตร         มัดไว้
ต่างเอาสาตราวุธ         ฟันฟาด
ลิงกลับสังหารให้         ยักษ์ร้ายวายชนม์ ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศใต้ ช่องที่ 2 แผ่นที่ 1 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 37 ตอน หนุมานถูกยักษ์ลงโทษ : ในภาพ หนุมานถูกมัดแขน ทหารยักษ์ช่วยกันแทง ช่วยกันเอาขวานฟัน  เหล่าพลยักษ์ที่ตายก็ตายไป ที่ยังเหลือก็เพิ่มขึ้นมาใหม่จำนวนมาก และช่วยกันรุมจับหนุมานมัดไว้ ต่างก็เอาหอก ขวาน มีด ฟาดฟัน แต่พอหนุมานดิ้นหลุดก็กลับสังหารยักษ์ล้มตายไปอีก

.




-ภาพลอกลาย-
ทศกัณฐ์สั่งให้เพชฌฆาตเอาหนุมานไปประหารชีวิต

เพชฌฆาตจึงนำตัวหนุมานไปสำเร็จโทษ...แต่ทว่า..ทำอย่างไรหนุมานก็ไม่ตาย...กลับกระชากนาคบาศขาดกระเด็น

ครั้นถึงจึงช่วยกันผูกมัด   รึงรัดกรกายกระบี่ศรี
แทงด้วยแหลนหลาวทวนตรี   บ้างตีด้วยกระบองเท่าลำตาล
บ้างเอาค้อนเหล็กรุมรัน   บ้างหมู่ก็ฟันด้วยขวาน
บ้างเอาพะเนินค้อนรอนราญ   บ้างประหารด้วยง้าววุ่นไป

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 38 ตอน เอาหนุมานใส่ครกตำ

      กุมภัณฑ์เพ็ชฌฆาฎเข้า      รุมยก
ลิงใส่ลงในครก            โขลกจ้ำ
กำแหงหณุมานชก         ชิงสาก ได้แฮ
ไล่ขยี้ตีซ้ำ               ยักษ์ร้ายตายเตียน ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศใต้ ช่องที่ 2 แผ่นที่ 2 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 38 ตอน เอาหนุมานใส่ครกตำ : ในภาพ หนุมานกำลังแย่งสาก  ยักษ์กุมภัณฑ์ ซึ่งเป็นมือเพชญฆาต ได้ช่วยกันจับหนุมานรุมยกใส่ครกแล้วโขลกตำ  หนุมานกลับลุกออกมาได้ ขึ้นชกชิงสากได้แล้วไล่ตีขยี้ยักษ์ตายไปอีกมาก

.
 



-ภาพลอกลาย-
ทำอย่างไร หนุมานก็ยังไม่ตาย...เสนายักษ์จึงไปยกครกเหล็กสากเหล็กใบมหึมา หมายจะมาตำหนุมานให้ป่นเป็นผง จับหนุมานยัดลงครกเหล็กแล้ว เสนายักษ์ก็ผลัดกันตำร่างหนุมานอย่างสุดแรง แต่ก็หาทำอันตรายแก่วานรเผือกได้แม้ปลายขน

ครั้นแล้วจึ่งนายราชมัล   ว่าแก่กุมภัณฑ์น้อยใหญ่
อันไอ้ลิงป่าจังไร      แทงฟันมันไม่วายปราณ
เอ็งจงชวนกันไปยก      ครกเหล็กสากเหล็กมาสังหาร
ตำให้เป็นภัสม์ธุลีกาล   ไอ้สาธารณ์ก็จะม้วยชีวี

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 39 ตอน เอาช้างมาแทงหนุมาน

      มัดลิงกับหลักกลิ้ง      กลางแปลง
ใสคชซับมันแทง         คว่างคว้าง
วายุบุตรหลุดโลดแรง      เร็วรวด
ผลาญยักษ์หักคอช้าง         ชีพม้วยหมอควาญ ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศใต้ ช่องที่ 2 แผ่นที่ 3 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 39 ตอน เอาช้างมาแทงหนุมาน : ในภาพ หนุมานฆ่าควาญช้าง และหักคอช้าง  เหล่าพลยักษ์ช่วยกันจับหนุมานมัดกับเสาหลักกลางแปลง แล้วเอาช้างตกมีนวิ่งแทง หนุมานกลับดิ้นหลุดอย่างรวดเร็ว เข้าฆ่าหมอควาญยักษ์และหักคอช้างล้มลง

.




-ภาพลอกลาย-
เหล่าเสนายักษ์สุดปัญญาจะสังหารหนุมานได้ จึงไปกราบทูลทศกัณฐ์...
ทศกัณฐ์ได้ฟัง ดังเอาไฟมาจี้ ก็โมโหโกรธา ออกลูกหงุดหงิด ฟึดฟัดๆ สิบปากจึงตวาดกึกก้องทั่วเมือง...

...อะไรกัน แค่ลิงตัวเดียว ทำไมฆ่ามันไม่ตายหรือไงกันวะ??? แหม๊..ไอ้ลิงจังไร...ฆ่ายากฆ่าเย็นแท้ๆ...ว่าแล้วก็สั่งให้ควาญช้างไปลากเอาช้างบรรลัยจักรวาล ช้างยักษ์ที่กำลังตกมันอยู่ ไสเข้าไปขวิดหนุมานให้มันตายคาที่ไปเลย...

ช้างยักษ์กำลังตกมันได้ที่ วิ่งกระโจนเข้าใส่หนุมานอย่างสุดกำลัง ยังดีที่หนุมานหลบทัน ไม่งั้นงาช้างได้ทะลุร่างเป็นรูโบ๋แน่...

การจะกำราบช้างยักษ์ให้ได้ ต้องกำราบไอ้คนบังคับช้างก่อน ว่าแล้วหนุมานก็กระโดดไปบนคอช้าง ทุบหัวควาญช้างซะเละ ก่อนจะควบคุมช้างซะเอง...จากนั้นก็บังคับช้างให้มันวิ่งไปจนเหนื่อย เมื่อหนุมานได้ที ก็ใส่ท่า Neck Breaker หักคอช้าง ขว้างลงกับพื้น สิ้นชีวิตตายทันที...เด๊ด สะมอเร่...ไปซะงั้น!

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 40 ตอน หนุมานให้เผาตนเอง

      มัดลิงเอาหนุ้นคลุก      ปุกปุย
พระยายักษ์เหนหยุกหยุย      เยี่ยมยิ้ม
จับหอกแกว่งควันฉุย         เปลวปลาบ
เพลิงวับจับจุดจิ้ม         นุ่นไหม้ไฟโพลง ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศใต้ ช่องที่ 2 แผ่นที่ 4 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 40 ตอน หนุมานให้เผาตนเอง : ในภาพ ทศกัณฐ์เอาคบเพลิงจุดที่ตัวหนุมาน หนุมานนั้นฆ่าอย่างไรก็ไม่ตาย จึงออกอุบายให้ตนเองถูกจับได้ แล้วบอกแก่ทศกัณฐ์ว่า วิธีตายของตนคือเอานุ่นสำลีมาหุ้มกาย เอาน้ำมันราดแล้วจุดไฟเผาจึงจะตาย ทศกัณฐ์ก็หัวเราะชอบใจ จึงสั่งทหารจัดการทันที แล้วทศกัณฐ์ก็จับหอกออกกวัดแกว่งควันฉุยเป็นเปลวไฟ จิ้มจุดที่ตัวหนุมานจนไฟไหม้ลุกโพลง

.




-ภาพลอกลาย-
หลังจากหนุมานก่อเหตุ อาละวาดไปทั่วลงกาแล้ว ทีแรกก็นึกจะเหาะกลับไปในทันที แต่คิดไปคิดมา เล่นอะไรแผลงๆที่ลงกา แกล้งทศกัณฐ์มันหน่อยคงจะดี...

ว่าแล้วก็เดินอาดๆ เข้าไปในวังของทศกัณฐ์ เหล่าเสนายักษ์เห็นดังนั้นจึงรีบแจ้งทศกัณฐ์ให้เตรียมรับมือ ทศกัณฐ์เลยเรียกทั้งอินทรชิต กุมภกรรณ และพิเภก เข้ามาในวัง...

ทศกัณฐ์กำลังอยู่ในโหมดกริ้วสุดๆ เพราะไอ้ลิงบ้านี่อาละวาดเสียจนกรุงลงกาวุ่นวายไปหมด แถมฆ่าด้วยอาวุธยังไงมันก็ไม่ตาย เลยกะจะตบสั่งสอนไอ้ลิงเผือกนี้ให้รู้แล้วรู้รอด แต่พิเภกก็เตือนสติไว้ก่อนว่า...ลิงตัวนี้สงสัยมันจะไม่ธรรมดา ยังไงก็อย่าไปตอแยกับมันมาก...

ครั้นทศกัณฐ์พญายักษ์ได้เห็นหน้าหนุมาน ก็คิดว่า...ลิงตัวนี้เก่งกล้าสามารถนัก เห็นทีจำต้องเลี้ยงไว้เป็นทหาร จึงแกล้งกล่าววาจาถ้อยทีถ้อยอาศัยว่า...

...ดูก่อนเจ้าลิงไพร ความผิดของเอ็งนี้มีมากมายนัก โทษถึงสิ้นชีวิต แต่ข้าเห็นหน้าเอ็งเข้า ก็สงสาร นึกเอ็นดู คิดจะเลี้ยงเอาไว้และจะช่วยอุปถัมภ์ เอ็งจะเอาหรือไม่?...

หนุมานได้ฟังก็หัวเราะร่า พูดจาหลอกด่าทศกัณฐ์ไปอีกหลายคำ...

...No! โนเวย์สเตชั่น...ดิ อิมพอสสิเบิ้ล...OK?...หนุมานพูดยั่วเย้า พร้อมยักคิ้วหลิ่วตาหลอกทศกัณฐ์

ตอนนั้นทศกัณฐ์เองก็ฟิวส์ขาด ฉุนปรู๊ดขึ้นหน้า ไม่อยู่ในอารมณ์ที่อยากจะปรองดองอะไรอีกต่อไปแล้ว ทั้งโกรธทั้งอาย อยากจะกระโดดเข้าไปขย้ำเจ้าลิงเผือกเสียในบัดดล แต่ไม่รู้จะฆ่ามันอย่างไร จึงขู่หนุมานว่า...

...ข้าจะทรมานเอ็งแบบโหดๆ แต่ไม่ให้ตายหร็อก ทรมานไปทุกวันๆ จนหนำใจ...แต่หนุมานก็พูดเบรกไว้ก่อนว่า...ตัวเองโดนทุบตี ฟันแทงร่างกายยัยย่อยสุดทรมาน เห็นจะอยู่ได้ไม่นาน จงเร่งฆ่าเสียให้พ้นทรมานเถิด...แล้วจึงออกอุบายว่าให้เผาตนเองถึงจะตาย...

...ช้าก่อน เจ้ายักษ์ ลำพังอาวุธทั่วไปมันทำอะไรข้าไม่ได้หร๊อก อย่างเอ็งจะมาทำอะไรข้าได้ ถ้าจะเล่นข้าให้ตายหน่ะ มีแต่ใช้ไฟเผาข้าเท่านั้นแหละเว้ยย...

ทศกัณฐ์ได้ยินดังนั้น ก็ไม่ได้เอะใจ ที่อยู่ดีๆ หนุมานจะบอกจุดอ่อนให้ฟังทำไม ก็ตอนนั้นอารมณ์โกรธมันพุ่งไปแล้ว พอได้ยินว่าสามารถฆ่าไอ้ลิงเผือกให้ตายได้ด้วยไฟ จึงให้อินทรชิต และบรรดาทหารให้ช่วยกันจับหนุมานเอามาพันด้วยผ้าชุบน้ำมัน...หนุมานก็รู้แกวอยู่แล้ว เลยทำเนียน ขัดขืนพอประมาณและก็ยอมให้จับแต่โดยดี...

ทศกัณฐ์เห็นหนุมานโดนจับโดยละม่อม มีผ้าชุบน้ำมันพันรอบกาย ก็คำรามสนั่น หัวเราะออกมาอย่างดัง แล้วพูดจาถากถางเจ้าลิงจ๋อว่า...

...ปัดติโธ่ ไอ้ลิงเผือก ไหนว่ามึงแน่นักแน่หนา แค่นี้ก็โดนจับได้ ถุย!.. ต่อไปก็ถึงคราวข้าบ้าง จะปิ้งลิงจ๋อกินแล้วว้อยย...ไอ้เจี๊ยก...ว่าแล้วก็เสกหอกแก้วสุรกานต์ ให้เกิดประกายไฟ แล้วจุดเข้าที่ตัวหนุมานตลอดจนถึงหาง ไฟก็ลุกคลอกหนุมานจนท่วมตัว (ไฟที่เกิดจากหอกนี้ ดับไม่ได้ หรือได้ยาก ยากมาก จนถึงยากที่สุด)

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.



Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,503


View Profile
« Reply #2 on: 19 June 2023, 20:11:03 »

[9] ภาพศิลาจำหลักเรื่องรามเกียรติ์ วัดโพธิ์ ชุดที่ 9


ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ ชุดที่ 9 (แผ่นที่ 41-44 เรียงจากขวามาซ้าย)
ช่องที่ 3 แผ่นที่ 41-44




.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 41 ตอน หนุมานเผากรุงลงกา

      ลูกลมลนแล่นล้าว      ฉวัดเฉวียน
จุดทุกมุขมณเฑียร         ใหญ่น้อย
เรือนคลังนอกในเตียน      ตลอดตล่ง ตานา
ตึกตำหนักนับร้อย         หมดไหม้ไฟเผา ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศใต้ ช่องที่ 3 แผ่นที่ 1 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 41 ตอน หนุมานเผากรุงลงกา : ในภาพ หนุมานวิ่งโผนโจนทยานเข้าไปในมหาปราสาทราชมณเฑียร หนุมานกระโดดฉวัดเฉวียน จุดไฟทุกมุขมณเฑียรใหญ่น้อยเรือนคลังตำหนักในนอก ติดไฟไหม้เพลิงหมดทุกแห่ง

.




-ภาพลอกลาย-
หนุมานนั้นเป็นลิงดราม่าครับ พอไฟเริ่มคลอกตัวเอง ก็ทำฟอร์มว่าทนทุกข์ทรมานอย่างหนัก สะดีดสะดิ้ง วิ่งหนีออกจากท้องพระโรง ทศกัณฐ์เห็นไฟลุกท่วมตัวขนาดนั้น มันคงวิ่งหนีไปได้ไม่ไกลหร๊อก...

ที่ไหนได้...หนุมาน นั้นทนไฟได้ มันทำฟอร์มร้องโหยหวนทรมานไปอย่างนั้นแหละ แต่ตัวเองวิ่งว่อนไปทั่ววังทศกัณฐ์ สนุกสนานราวกับเป็นนักกีฬาโอลิมปิก ฟรีรันนิ่ง...ไฟจากตัวหนุมานก็ลามไปติดห้องนู้นห้องนี้ จนไฟไหม้ไปทั่วทั้งพระราชวัง เท่านั้นไม่พอ หนุมานยังพาไฟทัวร์ไปทั่วทั้งลงกา...ปราสาทราชฐาน บ้านเรือน สนุกเขาหละ...หนุมานไปไหน ไฟก็ไหม้ถึงนั่น...จนโกลาหลไปทั้งเมือง กรุงลงกาก็แดงฉานไปด้วยเพลิง ไฟลุกโหมจนราบเป็นหน้ากลอง คือทั้งลงกาไม่มีอะไรเหลือหรอ...

ทศกัณฐ์รู้ตัวว่าเสียทีแก่หนุมานเสียแล้ว เดือดแค้นเป็นหนักหนา...หนุมานก็ฆ่าไม่ตาย ส่วนไฟจากหอกแก้วสุรกานต์นั้น ก็เป็นไฟที่ไม่มีวันมอด ทหารยักษ์ทำอย่างไรก็ไม่อาจดับได้...

ทศกัณฐ์มองเห็นกรุงลงกาตกอยู่ในเปลวเพลิง ก็เพิ่งจะคิดได้ในใจว่า...ไอ้ลิงบัดซบ เล่นกรูอีกแล้วสิเนี่ย!!???...

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 42 ตอน ทศกัณฐ์หนีเพลิง

      ทศเศียรเวียนวิ่งร้อง      เปนโก ลาเอย
เรียกหมู่มาตยาโย         ธิศพร้อม
จูงกรมิ่งมณโฑ            ทังอัค คีนา
ทรงรถบทจรอ้อม         ออกข้างทางฉนวน ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศใต้ ช่องที่ 3 แผ่นที่ 2 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 42 ตอน ทศกัณฐ์หนีเพลิง : ในภาพ ทศกัณฐ์โอบนางมณโฑ ตามด้วยนางกาลอัคคี หนีเพลิง เมื่อทศกัณฐ์เห็นไฟไหม้ลุกลามไปทั่วปราสาทราชมณเฑียรก็หมดปัญญาจะดับไฟได้ จึงรีบคว้ามือนางมณโฑอัครมเหสี นางกาลอัคคีมเหสีรองและสาวสนม ทรงรถบทจรหนีไฟโกลาหลออกข้างทางฉนวน

.




-ภาพลอกลาย-
ทศกัณฐ์เห็นดังนั้น ก็รีบป่าวประกาศบอกบรรดาภรรเมียและนางสนม ญาติสนิทมิตรสหาย ให้รีบอพยพออกจากลงกาโดยด่วน

ทศกัณฐ์หันรีหันขวางอยู่ครู่หนึ่ง ก็เข้าไปกระเตงเมียหลวงนางมณโฑ และเมียรองนางกาลอัคคี เข้ามาไว้ในอ้อมแขน พาหนีไฟออกจากวัง...แล้วพาเมียขึ้นบุษบกวิเศษเหาะไป...

ว่าแล้วก็ยกขบวนพาเหรดผู้อพยพทั้งหมดที่เป็นยักษ์เร่ร่อน มุ่งหน้าสู่เขาสัตนาคีรี รอนแรมไปเพื่อหาที่ซุกหัวนอนก่อนคืนนึง แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้า ค่อยตามมาจัดการไอ้ลิงบ้านี่ใหม่...

แต่ทำไปทำมา ต้องพักอาศัยอยู่ที่เขาสัตนาคีรี เป็นเวลานาน...ต้องสร้างเมืองใหม่ เพราะเมืองเดิมถูกเผาวอดไม่มีชิ้นดี

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 43 ตอน พิเภกกับอินทรชิตหนีเพลิง

      อินทรชิตสุดฤทธิร้อน      กายา
พาสุวรรณกรรยุมา         จากห้อง
พิเภกลากตรีชฎา         เดิรด่วน
ปวงหมู่สาวสนมซ้อง         แทรกหน้ามาตาม ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศใต้ ช่องที่ 3 แผ่นที่ 3 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 43 ตอน พิเภกกับอินทรชิตหนีเพลิง : ในภาพ พิเภกประคองนางตรีชฎาเมียรัก อินทรชิตฉุดมือนางสุวรรณกรรณยุมา หนีเพลิง ทั้งสองอาหลานทนความร้อนจากไฟไม่ได้จึงรีบพาภรรยาออกจากวัง ปวงหมู่เหล่าสาวสนมวิ่งตามกันอลหม่าน
 
.




-ภาพลอกลาย-
เมื่อเกิดไฟไหม้ไปทั่วปราสาทราชวังและทั่วกรุงลงกา จนเกิดโกลาหล พิเภกประคองพานางตรีชฎา หอบลูกจูงเมียและข้าทาสบริวาร หนีไฟกันวุ่นวาย ส่วนอินทรชิต ก็จูงมือนางสุวรรณกันยุมา และสนมกำนัลตามไปด้วย

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 44 ตอน กุมภกรรณหนีเพลิง

      กุมภกัณฐ์กุมหอกแก้ว      โมกขศักดิ์
จูงจันทวดีอัค            เรศเต้า
ทุกกรมสนมพนัก         งานเครื่อง
วนวิ่งทิ้งของเข้า            รีบร้อนตามมา ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศใต้ ช่องที่ 3 แผ่นที่ 4 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 44 ตอน กุมภกรรณหนีเพลิง : ในภาพ นางจันทวดีและสนมเอกชื่อคันธมาลี ประคองกุมภกรรณออกจากวังหนีเพลิง กุมภกรรณ มหาอุปราชกรุงลงกาพี่ชายพิเภก เมียรักทั้งสองประคองหนีเพลิงออกจากวัง พนักงานเครื่องต้น วิ่งอลวน ทิ้งเข้าของรีบตามไปด้วย

.




-ภาพลอกลาย-
กุมภกรรณหอบลูกจูงเมียนางจันทวดี พร้อมนางสนมและบริวารหนีไฟออกจากวังอย่างรีบร้อนจนวุ่นวาย และพากันไปรวมญาติรวมพลกันที่ เชิงเขาสัตนาบรรพต

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.



Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,503


View Profile
« Reply #3 on: 19 June 2023, 20:13:50 »

[10] ภาพศิลาจำหลักเรื่องรามเกียรติ์ วัดโพธิ์ ชุดที่ 10


ศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ ชุดที่ 10 (แผ่นที่ 45-48 เรียงจากขวามาซ้าย)
ช่องที่ 4 แผ่นที่ 45-48




.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 45 ตอน สามนางหนีเพลิง

      พระสนมรมอบร้อน      เปลวเพลิง
วิ่งเตลิดเปิดเปิง            ป่าวพ้อง
ไปยังที่ชายเชิง            เขาสัต นานา
ต่างร่ำต่างเรียกร้อง         ร่ำร้องหากัน ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศใต้ ช่องที่ 4 แผ่นที่ 1 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 45 ตอน สามนางหนีเพลิง : ในภาพ นางมณโฑ นางกาลอัคคี และสนมบริวารของทศกัณฐ์ หนีไฟกระเจิดกระเจิง ร่ำร้องเรียกหากันให้จ้าระหวั่น พากันไปยังเชิงเขาสัตนาบรรพต

.




-ภาพลอกลาย-
นางมณโฑ นางกาลอัคคี พระสนมและสาวใช้ เมื่อถูกความร้อนจากเปลวเพลิง ทำให้วิ่งเตลิดเปิดเปิงต่างร่ำต่างร้องเรียกไขว่คว้า แล้วพากันไปยังเชิงเขาสัตนา

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 46 ตอน ทศกัณฐ์และบริวารออกป่า

      ทศเศียรกำสรดเศร้า      แสนศัลย์
ยั้งอยู่สัตนาบรร            พตพื้น
มเหสีพระกำนัล            นาเนก
ญาติวงศ์ทรงสอื้น         ดาษล้อมแลสลอน ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศใต้ ช่องที่ 4 แผ่นที่ 2 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 46 ตอน ทศกัณฐ์และบริวารออกป่า : ในภาพ ทศกัณฐ์และนางมณโฑประทับอย่ที่เขาสัตนา ทศกัณฐ์มีความโศกศัลย์เสียใจมากกว่าใครทั้งหมด ได้พากันมาอยู่ที่เขาสัตนา ญาติวงศ์พงศาต่างร้องร่ำน้ำตานองหน้า

.




-ภาพลอกลาย-
ทศกัณฐ์พานางมณโฑและข้าทาสบริวาร หนีไฟออกไปอยู่ป่าเชิงเขาสัตนาบรรพต ไปรวมญาติรวมพลกันที่นั่น
เมื่อกรุงลงกาถูกเผาหมดแล้ว นางสีดาหายไปไหน ไม่ได้กล่าวถึง

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 47 ตอน เรียกประชุมด่วน

      มารมาตย์กลาดเกลื่อนเฝ้า       บาทบงสุ์
ตำรวจรักษาองค์            พรั่งพร้อม
เกณฑ์กันออกขบวนวง         รวังราช
ทำที่ทับดาพล้อม            รวดริ้วรายเฉวียน ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศใต้ ช่องที่ 4 แผ่นที่ 3 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 47 ตอน เรียกประชุมด่วน : ในภาพ เหล่าเสนาข้าราชการทุกหมู่เหล่าเข้าเฝ้าอยู่พร้อมหน้า ตำรวจอารักขาระมัดระวังอย่างแข็งขัน กองรักษาการณ์จัดเวรยามรายล้อมเป็นชั้นๆ

.




-ภาพลอกลาย-
บรรดาอำมาตย์ยักษ์และตำรวจหลวง เข้าเฝ้าทศกัณฐ์ ประชุมกันแบ่งฝ่ายเพื่ออารักขาเจ้าเหนือหัวและบริวาร

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 48 ตอน มโหทรนำสาส์น

      มโหทรเรืองรอบรู้     ราชกิจ
บัดสู่กรุงโกสิต            ที่อ้าง
อ่านสารอสุรอิศ            ศรภาพ
ให้ท่านเชิญไปสร้าง         นิเวศไหม้ใหม่ถวาย ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศใต้ ช่องที่ 4 แผ่นที่ 4 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 48 ตอน มโหทรนำสาส์น : ในภาพ ทศกัณฐ์สั่งให้ มโหทร เสนายักษ์ขึ้นไปบนสวรรค์ นำสาส์นไปเชิญพระอินทร์ พระวิษณุกรรม และเหล่าเทวดา ลงมาสร้างเมืองให้ตนใหม่

.




-ภาพลอกลาย-
มโหทรและเสนายักษ์รีบรุดไปเฝ้าพระอิศวร ทศกัณฐ์ใช้ให้มโหทร อสูรชั้นอำมาตย์ผู้ใหญ่ในกรุงลงกาผู้รอบรู้ราชกิจ นำพระราชสาส์นไปกราบทูลพระอิศวร และตีฆ้องร้องเป่าให้เทพเทวาทั้งหลาย จงทราบเหตุความเป็นไปด้วย

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.


...................................................


-แทรกความ 1-
จบชุดที่ 10 (หนุมานเผาลงกา)แล้ว...ขอขยายความ เพิ่มเติม 2 เรื่อง ที่อาจมีคนสงสัย คือ

1. ภาพศิลาจำหลักเรื่องรามเกียรติ์ วัดโพธิ์ ชุดที่ 9-10 ให้ความสำคัญกับเรื่อง การหนีไฟ ของเหล่ายักษ์ในกรุงลงกามาก มีหลายภาพด้วยกัน

ซึ่งผมเข้าใจว่า เป็นการเปิดตัว ตัวละครสำคัญของเรื่อง เพื่อให้การลำดับเรื่องเข้าใจได้ง่ายขึ้น เพราะในเหตุการณ์ต่อไป จะมีตัวละครสำคัญๆ อยู่หลายตัว เช่น พิเภก อินทรชิต กุมภกรรณ ซึ่งจะมีบทบาทในตอนต่อไป

2. เมื่อกรุงลงกาถูกเผาหมดแล้ว นางสีดาไปไหน ไม่วิ่งหนีกับเค้าหรือ? (ไม่ได้กล่าวถึงเลย)

ผมเคยเล่าไว้แล้ว ในเล่าเรื่องรามเกียรติ์ ลองย้อนไปหาอ่านดูนะครับ

.....
หมายเหตุ...สงสัยอะไรกันบ้างไหมครับ?

แล้วนางสีดาหล่ะ...ไปไหน? รามเกียรติ์ไม่ได้กล่าวถึงเลยว่า...นางสีดา หนีไฟออกจากกรุงลงกา มาได้อย่างไร?!?...

บ้างก็ว่า...ทศกัณฐ์ คว้าเอานางมณโฑและนางสีดา เข้ามาไว้ในอ้อมแขน(20 แขน) แล้วเหาะไป...

แต่ผู้เล่าคิดว่า...น่าจะเป็นพวกนางสนมกรมวังและบรรดาทหารยักษ์รักษาการณ์ที่เฝ้าดูแลนางสีดาอยู่นั้น เป็นผู้ที่พานางสีดาหนีไฟออกมา ซึ่งอาจจะเป็นคำสั่งจากทศกัณฐ์ ก็เป็นได้...

.........................


-แทรกความ2-
และขอเล่าเพิ่มเติมอีกเรื่องหนึ่ง เพราะในภาพศิลาจำหลักเรื่องรามเกียรติ์ วัดโพธิ์ ตอนต่อไป ไม่ได้กล่าวถึงเลยคือ

เรื่อง น้ำบ่อน้อย เพราะเป็นสำนวนภาษิตพังเพยของไทย ที่เปรียบเปรยกันมาจนถึงปัจจุบัน

.....
หลังจากหนุมานเผาลงกาวอดวายจนราบเป็นหน้ากลองสมใจแล้ว ก็ได้เวลาหนีกลับสักที มิฉะนั้นถ้าพวกยักษ์มันตั้งตัวได้แล้ว อยู่ตัวคนเดียวในลงกา เดี๋ยวจะโดนพวกมันเอาคืนไม่ใช่น้อย...หนุมานก็กระโดดลงน้ำเพื่อดับไฟ ชำระล้างร่างกาย...แต่ไฟที่หางยังไม่ดับ ทำยังไง๊ ยังไง ก็ไม่ดับ...

หนุมานจนปัญญา...จึงนึกขึ้นมาได้ว่า พระฤๅษีนารทเคยบอกไว้ ถ้ามีปัญหาอะไรคิดไม่ออกบอกไม่ถูก ให้รีบกลับมา ท่านฤๅษีจะช่วยแก้ปัญหาให้...ว่าแล้วหนุมานก็รีบเหาะไปหาท่านฤๅษี...เล่าให้ฟังตามเหตุที่ตนไปก่อมา แล้วก็ถามพระฤๅษีว่า..จะทำยังไงดี..กับไฟที่ติดอยู่ปลายหาง..ท่านอาจารย์ช่วยดับให้ทีเถอะ...

พระฤาษีนารทเห็นหนุมานมีไฟไหม้หางอยู่ ก็อดหัวเราะมิได้...5555 ไอ้ลิงน้อย เสียทีเป็นทหารเอกพระนารายณ์ ไฟแค่นี้ก็ดันดับไม่ได้ น้ำบ่อน้อยหน่ะจะมีไว้ทำพรื้อ? เอามาดับไฟเสียสิ...

หนุมานได้ฟังดังนั้น ก็เก็ต เข้าใจ..เกิดปิ๊งไอเดียขึ้นมาทันที จึงเอาปลายหางมาอมไว้ในปาก พร้อมกับพ่นน้ำลาย ถุยๆๆๆๆๆ ใส่จนไฟดับ (แต่หางคงเหม็นไหม้ไปอีกนานเลย)

ครั้นแล้วหนุมานก็กราบลาพระนารถฤๅษี เหาะกลับไปยังเขาเหมติรัน เล่าเรื่องทั้งหมดให้องคตและชมพูพานฟัง

รุ่งเช้า กองทัพลิงทั้งหมดจึงลาพญาสัมพาที เพื่อกลับไปเฝ้าพระราม ณ เขาคันธมาทน์ ต่อไป...

.



.



Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,503


View Profile
« Reply #4 on: 19 June 2023, 20:16:03 »

[11] ภาพศิลาจำหลักเรื่องรามเกียรติ์ วัดโพธิ์ ชุดที่ 11


ศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ ชุดที่ 11 (แผ่นที่ 49-52 เรียงจากขวามาซ้าย)
ช่องที่ 5 แผ่นที่ 49-52




.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 49 ตอน เทพยดามาเนรมิตเมือง

      บัดองค์อมเรศเจ้า      สรวงสวรรค์
พาหมู่เทพเทวัญ            แห่ห้อม
ลงมานิมิตสรรค์            นคเรศ
ทุกสิ่งสารพันพร้อม         เสร็จแล้วคืนสถาน ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศใต้ ช่องที่ 5 แผ่นที่ 1 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 49 ตอน เทพยดามาเนรมิตเมือง : ในภาพ พระอินทร์ และพระวิษณุกรรม เสด็จลงมาเนรมิตเมืองลงกาใหม่ให้ทศกัณฐ์

.




-ภาพลอกลาย-
บรรดาเหล่าเทพ ซึ่งเกรงกลัวทศกัณฐ์ก็ลงมาช่วยกัน เช่น พระพิรุณ โปรยฝนลงมาดับไฟที่หนุมานจุดไว้ พระพายพ่อของหนุมานเอง ก็เอาลมพัดเขม่าขี้เถ้าไปทิ้งน้ำ พัดเอากลิ่นไหม้ออกไปจนหมด พระวุษณุกรรมซึ่งเป็นเทพด้านการสร้าง ก็เนรมิตเมืองให้ใหม่ เมืองลงกาก็กลับมาสวยงามดังเดิม

เมื่อสร้างเสร็จแล้ว ฝ่ายทศกัณฐ์ก็พาบรรดามเหสีและบริวารทั้งหมดกลับสู่กรุงลงกาใหม่...แล้วจัดการสมโภชพระนครเป็นเวลาเจ็ดวันเจ็ดคืน...

.



-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 50 ตอน ทศกัณฐ์ฝันร้าย

      ปางราชนิมิตพ้อง      พิปริต
ตรัสเรียกพิเภกสถิต         ที่ใกล้
ดำเนิรสุบินคิช            ฌราชรบ กันฤๅ
ดำพ่ายฝ่ายขาวได้         ชนะนี้จักไฉน ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศใต้ ช่องที่ 5 แผ่นที่ 2 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 50 ตอน ทศกัณฐ์ฝันร้าย : ในภาพ ทศกัณฐ์ชี้หัตถ์กระทืบบาท กุมภกรณจับเท้าห้ามไว้  - เมื่อเสด็จกลับประทับในพระบรมมหาราชวังแล้ว ตกกลางคืนทศกัณฐ์ทรงฝันไปว่ามีพญาแร้งสองตัวรบกัน ตัวดำแพ้ตัวขาวชนะ ทรงตื่นบรรทมแล้วจึงเรียกให้พิเภกมาทำนายความฝัน

.




-ภาพลอกลาย-
คืนหนึ่ง ทศกัณฐ์นอนหลับและฝันว่า มีพญาแร้งสีขาว และพญาแร้งสีดำ จิกตีกัน ตัวสีดำสู้ไม่ได้ ก็ร่วงผล็อยลงมาตาย กลายร่างเป็นทศกัณฐ์ยืนถือกะลาที่มีน้ำมันพร้อมเชื้อไส้อยู่ในมือ

ทศกัณฐ์ยืนถือกะลาน้ำมันอยู่พักนึง (ในฝัน) ก็มีหญิงนางหนึ่งหน้าตาเป็นคนพาล วิ่งเข้ามาหา พร้อมกับจุดไม้ขีด จุดไฟติดเชื้อไส้ในกะลา ไฟก็ลุกโชติช่วง ลุกติดมือทศกัณฐ์ จนลามไปทั่วร่าง

โอ..นี่มันฝันร้ายชัดๆ... ทศกัณฐ์ถึงกับสะดุ้งตื่น พร้อมให้คนไปตามพิเภกผู้หยั่งรู้ มาทำนายทายทักว่า...ไอ้ฝันแบบนี้ มันหมายถึงอะไร?

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 51 ตอน พิเภกทำนายฝัน

      พิเภกเลขเลิศรู้         ชาตา
ทูลเทียบตามลักขณา         เรื่องร้าย
ทศพักตร์เพื่อเวลา         ทัณฑ์โทษ
เคืองขับพิเภกย้าย         นิราศร้างเมืองมาร ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศใต้ ช่องที่ 5 แผ่นที่ 3 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 51 ตอน พิเภกทำนายฝัน : ในภาพ พิเภกกำลังลงตัวเลขในกระดานชนวน พิเภกทำนายว่าเป็นนิมิตหมายบอกมรณสัญญาณ อันว่าแร้งดำคือทศกัณฐ์ แร้งขาวคือพระราม และเคราะห์ร้ายครั้งนี้จะหมดไป หากส่งคืนนางสีดาให้แก่พระราม ซึ่งเรื่องนี้กุมภกรรณมหาอุปราชทรงเห็นด้วยอย่างยิ่ง ทศกัณฐ์เมื่อได้ฟังกลับทรงกริ้วมากให้ขับพิเภกออกจากกรุงลงกา ส่งตัวนางตรีชฎาเมียพิเภกไปดูแลนางสีดา

.




-ภาพลอกลาย-
พิเภกได้สดับตรับฟังทศกัณฐ์เล่าสิ่งที่เจอในฝัน...ก็จดวัน เวลาลงบนกระดาน วางลัคนาราศี บวกลบคูณหาร แล้วหลับตา เพ่งวิเคราะห์ พอรู้ความหมาย ก็ต๊ก กะ ใจ เหงื่อแตก ตัวสั่น ส่ายหน้าไปมา เห็นทีว่า...ลงกาซิตี้นี้ จะแหลกลาญลงเป็นผงธุลีเป็นแน่แท้...เป็นที่น่าเสียดายจริงๆ..จะทำยังไงดีน๊อ...ก็ครุ่นคิดนิดนึง พร้อมกับ ทำนายทายทัก ออกไปว่า...

พญาแร้งขาวคือพระราม พญาแร้งดำคือทศกัณฐ์ ฝันบอกเป็นนัยแล้วว่าท่านจะต้องรบแพ้พระราม โดยสาเหตุการรบก็ทำนายได้จากฝันตอนหลัง กะลาที่เห็นเปรียบได้กับกรุงลงกา ส่วนเชื้อไฟไส้กะลาคือตัวทศกัณฐ์ น้ำมันยางในกะลาเปรียบได้กับวงศาคณาญาติของเหล่ายักษ์ในลงกา หญิงหน้าตาเป็นคนพาลคือ นางสำมนักขา ส่วนไฟที่หญิงพาลนำมาจุด ก็คือ นางสีดา

สรุปเป็นใจความอย่างย่อก็คือ นางสำมนักขา นำข่าวนางสีดา ซึ่งก็คือไฟ มาแจ้งให้ท่านทราบ เปรียบได้กับการนำไฟมาจุดติดเชื้อไส้ และไฟนั้นก็ลุกเพราะวงศาคณาญาติของท่านแต่ละตน ส่งเสริมให้รบกับพระราม (มีแค่พิเภกตนเดียวที่ไม่อยากให้เกิดสงคราม) ส่งเสริมกันเข้า ไฟก็ลุกแรงขึ้น จนสุดท้ายก็ไหม้ไปทั้งกะลา นั่นคือ กรุงลงกาจะวอดวาย...ฝันนี้มันเป็นฝันร้าย เคราะห์กำลังจะมาเยือนลงกา...

ทศกัณฐ์ได้ฟัง ก็นึกหวาดหวั่น ให้พิเภกหาวิธีสะเดาะเคราะห์ แต่พิเภกบอกว่าสะเดาะไม่ได้ แต่ทำให้ร้ายกลายเป็นดีได้ทางเดียวคือ คืนนางสีดาให้แก่พระราม

เท่านั้นแหละครับ...ทศกัณฐ์ก็โกรธเลือดขึ้นหน้า จนควันออกหู กระทืบบาทตวาดก้อง...

...อยู่ดีๆจะมายอมแพ้มนุษย์และลิง คืนตัวประกันไปง่ายๆ แบบนี้ แล้วจะไปปกครองปฐพีได้ยังไง...ทศกัณฐ์ก็เลยด่าพิเภกไปฉาดใหญ่ คว้าคันศรเข้ากระหน่ำตีพิเภก มือหนึ่งจิกหัว อีกมือหวดไม่ยั้ง พิเภกเจ็บจนแทบจะตายคามือ โชคดีที่กุมภกรรณและอินทรชิตเข้ามาดึงทศกัณฐ์เอาไว้

ทศกัณฐ์จึงประกาศก้อง ไล่พิเภก...ออกไปจากลงกาซะ อยู่ไปก็จะมีแต่ทำให้กองทัพเสียขวัญและกำลังใจ แต่ไปหน่ะให้ไปคนเดียว ลูกเมียให้อยู่ในลงกา...ให้ไปเป็นคนรับใช้นางสีดาในสวนขวัญ...

และแล้ว...พิเภกก็กลายเป็นยักษ์จรจัด ไปในบัดดล...ก็ถึงคราวต้องดูดวงตัวเองบ้างแล้วหละ...555

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 52 ตอน พิเภกออกจากกรุงลงกา

      ราชาพิเภกเศร้า        แสนศัลย์
ไร้ที่แปรพักตร์ผัน         พึ่งพ้อง
ออกจากนครครร         ไลลาศ ไปแฮ
หมายมุ่งคันธกาลท้อง      เถื่อนไม้ไพรพนม ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศใต้ ช่องที่ 5 แผ่นที่ 4 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 52 ตอน พิเภกออกจากกรุงลงกา : ในภาพ พิเภกมุ่งหน้าไปเฝ้าพระราม  พิเภกได้พินิจพิจารณาชะตาของตนเองแล้ว และรู้ว่าพระรามจะเป็นผู้ชูชุบอุปถัมภ์ จึงไม่เสียใจกระไรนัก ไปสั่งลาเมียและลูกให้อาศัยอยู่ในกรุงลงกาต่อไปก่อน หากไม่ตายพ่อคงจะได้ย้อนกลับมาใหม่

.




-ภาพลอกลาย-
พิเภกได้ฟังทศกัณฐ์ว่าให้ถึงเพียงนี้ ก็ตัดพ้อว่า...ตัวเองนั้นรักทศกัณฐ์ โดยมิได้เห็นว่าเป็นแค่พี่ แต่คิดว่าทศกัณฐ์เป็นบิดาบังเกิดเกล้า เรื่องจะทรยศไม่เค๊ยย ไม่เคย คิดซักนิดเดียว แม้เพียงกระผีก ริ้น ก็ไม่เคย...แต่เตือนด้วยความหวังดีจริงๆ

ทศกัณฐ์ยิ่งแค้นใจใหญ่ ถึงขนาดตัดพี่ตัดน้อง ริบเมียคือนางตรีชาดาไปเป็นทาสรับใช้นางสีดา ริบสมบัติทั้งหมด แล้วขับไล่ออกไปจากเมือง...ว่าแล้วก็ชายหางตามาที่พิเภก...จากนี้ไป กูกับมึงขาดพี่ ขาดน้องกัน...

แล้วทศกัณฐ์ก็สั่งให้ เปาวนาสูร จัดการคุมตัวพิเภกไปเนรเทศ ริบสมบัติพัสถานทั้งหมด...ว่าแล้วพญายักษ์ก็สะบัดหน้าเชิด ย่างบาทเข้าสู่พระที่ชั้นใน

ฝ่ายพิเภก ก็ให้โศกเศร้าอาดูร เสียใจปานปริ่มเจียนตาย ว่าไฉนหนอ กรรมใดมา กลั่นแกล้ง...ผิดซักนิดเดียวก็หาไม่..ต้องรับโทษทัณฑ์ ถึงเพียงนี้...แล้วเดินก้มหน้าน้ำตาตก กลับออกไป...

หลังจากโดนเฉดหัวให้เก็บข้าวเก็บของไปให้พ้นๆลงกา พิเภกก็เข้ามาร่ำลาเมีย(นางตรีชฏา) และลูก(นางเบญกาย) เพราะทศกัณฐ์ไล่พิเภกคนเดียว.

พิเภกแสนรันทดเศร้าใจที่ต้องจากเมืองไปในครั้งนี้ เดินทางดั้นด้นพ้นเมืองมา จึงพิเคราะห์ดูดวงตนเอง (หมอดูสมัยนี้น่าจะเอาเป็นเยี่ยงอย่างนะ..ดูแต่ดวงคนอื่น ดูดวงตัวเองซะมั่งเน้อ จะได้ไม่โดนฟ้อง)

เห็นว่าชะตาแค่จากถิ่นฐานไม่ถึงกับชะตาขาด จะมีผู้อุปถัมภ์สำคัญอยู่ทางทิศตะวันออก จึงเหาะข้ามสมุทร มุ่งไปยังเขาเหมติรัน...มาถวายตัวกับพระราม...

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.



Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,503


View Profile
« Reply #5 on: 19 June 2023, 20:17:30 »

[12] ภาพศิลาจำหลักเรื่องรามเกียรติ์ วัดโพธิ์ ชุดที่ 12


ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ ชุดที่ 12 (แผ่นที่ 53-56 เรียงจากขวามาซ้าย)
ช่องที่ 6 แผ่นที่ 53-56



 
.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 53 ตอน นิลขันพบพิเภก

      นิลขันพรรค์พวกพ้อง      ลิงดง
เที่ยวลาดตระเวนวง         เขตร์ค้อม
พบพระยาพิเภกทรง         กำสรด อยู่นา
เรียกเหล่าลิงเลวล้อม         ไล่เลี้ยวจับตัว ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศใต้ ช่องที่ 6 แผ่นที่ 1 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 53 ตอน นิลขันพบพิเภก : ในภาพ พิเภกกำลังร้องไห้เศร้าโศก นิลขันมาพบจึงตรงเข้าจับตัว

.




-ภาพลอกลาย-
พิเภกนั้นเมื่อเหาะจากกรุงลงกามาแต่ลำพังผู้เดียว ถึงกลางป่าเขาคันธกาลาซึ่งพระรามไปตั้งพลับพลาอยู่ที่นั่น เพื่อเตรียมจะข้ามฟากไปยังกรุงลงกา ขณะที่พิเภกกำลังนั่งร้องไห้เศร้าโศกอยู่เดียวดายนั้น  นิลขัน วานรหนึ่งในสิบแปดมงกุฎแห่งกองทัพพระราม ที่นำพลลิงกองลาดตระเวน ออกจากป่ามาสำรวจบริเวณชายหาด ได้ยินเสียงสะอื้นแว่วมาแต่ไกล จึงเดินตามหาจนพบพิเภก นิลขันตรงเข้าจับกุมตัวพิเภก

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 54 ตอน พิเภกถูกจับ

      นิลขันถลันแล่นเข้า     จับยักษ์
เชือกมัดสองมือชัก         ฉุดเต้า
เหล่าลิงไล่หลังผลัก         รุนเร่ง มานา
ถึงที่พลับพลาเข้า         นอบน้อมทูลถวาย ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศใต้ ช่องที่ 6 แผ่นที่ 2 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 54 ตอน พิเภกถูกจับ : ในภาพ นิลขันนำพลลิงกองลาดตระเวนสำรวจบริเวณชายหาด พบพิเภกจึงเข้าจับกุม มัดด้วยเชือก พิเภกขอให้นิลขันพาตนไปเข้าเฝ้าพระราม นิลขันจึงพาพิเภกไปพบกับสุครีพ เพื่อกราบถวายบังคมทูลกับพระราม

.




-ภาพลอกลาย-
พิเภกถูกเชือกคล้องคอแล้วถูกพลลิงเฆี่ยนตี เมื่อนิลขันจับพิเภกได้แล้วให้เอาเชือกมัดสองมือ แล้วช่วยกันชักช่วยกันฉุด เหล่าลิงที่อยู่ข้างหลังก็ช่วยกันผลัก ช่วยกันดัน ผลัดกันเฆี่ยนบ้าง จนถึงพลับพลาที่ประทับ จึงเข้าไปกราบถวายบังคมทูลกับพระราม

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 55 ตอน ทรงพิจารณาเรื่องพิเภก

      จักรกฤษณ์ทฤษฎีน้อง     ทศกัณฐ์
จริตผิดกุมภัณฑ์            เผ่าพ้อง
ลักษณซื่อสัตย์สรรพ์         เสาวภาคย์
ทรงพระเมตตาพร้อง         กล่าวเล้าโลมใจ ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศใต้ ช่องที่ 6 แผ่นที่ 3 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 55 ตอน ทรงพิจารณาเรื่องพิเภก : ในภาพ พระราม-พระลักษมณ์ ทรงปรึกษากัน พระรามทรงพิจารณารูปลักษณ์และกิริยาของพิเภกแล้ว เห็นว่าผิดแผกไปจากยักษ์ตนอื่นๆ ดูมีความซื่อสัตย์สุจริต น่าเชื่อถือ จึงเมตตากล่าวรับไว้ใช้งาน

.




-ภาพลอกลาย-
สุครีพซักไซ้ไล่เรียงจนหมดข้อสงสัย จึงพาพิเภกไปเข้าเฝ้าพระราม และรายงานให้ทรงทราบว่า...พิเภกเป็นน้องของทศกัณฐ์ ถูกขับออกมาจากเมืองลงกา จึงใคร่จะมาขอสมัครอยู่กับพระราม

พระรามเมื่อได้เห็นพิเภกน้องชายทศกัณฐ์ ซึ่งมีจริตผิดจากเผ่าพงษ์ ตนเป็นยักษ์แต่ใจมิใช่ยักษ์ มีลักษณะซื่อสัตย์ สุจริต ยุติธรรม(สงสัยเห็นเป็นเปาบุ้นจิ้น55555) จึงทรงมีพระเมตตา ปลอบประโลมให้กำลังใจหลังทราบเรื่องราวจากพิเภก

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 56 ตอน พิเภกสวามิภักดิ์

      พิเภกภูลภักดิเบื้อง      บทรัช
ฟังพระโองการตรัส         ชุ่มเฝ้า
ทูลถวายนุสนธิ์สัตย์         สามิภักดิ์ พระนา
โดยซื่อสุจริตเท้า         ตราบม้วยเมือมรณ์ ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศใต้ ช่องที่ 6 แผ่นที่ 4 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 56 ตอน พิเภกสวามิภักดิ์ : ในภาพ สุครีพ หนุมานและพิเภกถวายบังคม พิเภกดีใจที่พระองค์ทรงยินดีรับตนเข้ากองทัพ จึงกล่าวถวายสัตย์ว่าจะสวามิภักดิ์ต่อพระรามด้วยความจงรักภักดี จนกว่าชีวิตจะหาไม่

.




-ภาพลอกลาย-
สุครีพ หนุมานและพิเภกถวายบังคม พิเภกเมื่อได้ฟังกระแสพระราชดำรัสจากพระราม ก็ทราบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ จึงได้กราบทูลว่าจะจงรักภักดีและซื่อสัตย์ต่อพระราม ตราบเท่าชีวิตจะหาไม่

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.



Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,503


View Profile
« Reply #6 on: 19 June 2023, 20:18:42 »

[13] ภาพศิลาจำหลักเรื่องรามเกียรติ์ วัดโพธิ์ ชุดที่ 13


ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ ชุดที่ 13 (แผ่นที่ 57-60 เรียงจากขวามาซ้าย)
ช่องที่ 7 แผ่นที่ 57-60




.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 57 ตอน นำพิเภกไปสู่โรงราชพิธี

      พิธีพิพัฒน์ตั้ง         ตามการ
เชิญพระแสงสรงธาร         สวดซ้อม
สุครีพอ่านสาบาน         โดยศาสตร
ท้าวพระยาพานเรศพร้อม      พรั่งหน้ามาประชุม ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศใต้ ช่องที่ 7 แผ่นที่ 1 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 57 ตอน นำพิเภกไปสู่โรงราชพิธี : ในภาพ พิเภกได้รับการแวดล้อมจากเหล่าพญาวานร  เพื่อให้เป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัย จึงให้เตรียมจัดพิธีดื่มน้ำพิพัฒน์สัตยา นำพิเภกไปสู่ประรำพิธี

.




-ภาพลอกลาย-
เมื่อทรงไตร่ตรองแล้ว พระรามจึงสั่งให้สุครีพตั้งพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา โดยให้สุครีพนำน้ำหอมมาสรงศรพรหมมาศ แล้วนำน้ำที่สรงศรใส่ขันใบใหญ่ตั้งบนเตียงกลางลานกว้าง

จึ่งเอาน้ำหอมใสสะอาด   สรงพรหมมาสตร์พระแสงศร
ให้น้องทศพักตร์ฤทธิรอน   ชุลีกรตั้งความสัตยา

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ,   พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 58 ตอน พิเภกสาบานตน-ดื่มน้ำพิพัฒน์สัตยา

      พิเภกประณตเบื้อง      บทมาลย์
บูชิตศรสาบาน            เสร็จแล้ว
จับจอกพิพัฒน์ธาร         เจิมเกศ กินแฮ
กลางหมู่มาตยาแกล้ว      เกลื่อนหน้าเปนพยาน ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศใต้ ช่องที่ 7 แผ่นที่ 2 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 58 ตอน พิเภกสาบานตน-ดื่มน้ำพิพัฒน์สัตยา : ในภาพ พิเภกดื่มน้ำพิพัฒน์สัตยาต่อหน้าสุครีพและหนุมาน เมื่อเชิญพระแสงราชศัตราวุธจุ่มลงในน้ำอันศักดิ์สิทธิ์ สุครีพอ่านคำสาบาน พิเภกพนมมือถวายบังคม รับจอกน้ำพิพัฒน์สัตยา แล้วดื่มท่ามกลางหมู่ท้าวพญาวานรที่ร่วมเป็นสักขีพยาน

.




-ภาพลอกลาย-
พิเภกจึงกล่าวขอตั้งสัตย์สาบานตัว เข้าสวามิภักดิ์ต่อพระราม...

จึ่งตั้งความสัตย์อธิฐาน            ขอเทวัญชั้นวิมานเมืองสวรรค์
ทั้งปู่เจ้าเขาเขินเนินอรัญ          พร้อมกันช่วยเห็นเป็นพยาน

ถ้าข้ามิสุจริตคิดกลับกลาย       ให้ศรศักดิ์จักรนารายณ์สังหาร
ทั้งเทวัญบรรดาเชี่ยวชาญ        จงรอนราญผลาญชีพชีวี

แม้ข้าตรงจงรักพระจักรา        ไม่ชั่วช้าเป็นอุบายหน่ายหนี
ให้ผาสุขทุกทิวาราตรี              แล้วยักษีเคารพอภิวันท์ฯ

พอกล่าวคำอธิษฐานจบ พญาพิเภกก็ดื่มน้ำล้างศรจนหมดจอก...ฟ้าร้อง แผ่นดินสะเทือนไปทั่ว เทวดาต่างชื่นชมยินดีที่กองทัพพระรามจะมีที่ปรึกษาทางการศึกชั้นเยี่ยม เหล่าวานรก็กระโดดโลดเต้นด้วยความยินดี ผู้ที่ดีใจที่สุดคือพญาสุครีพ ซึ่งโผเข้ากอดพิเภกตั้งแต่จอกน้ำยังอยู่ในมือ

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 59 ตอน พลับพลา ณ เขาคันธกาลา

      จำหลักจักรกฤษณ์เกล้า    โลกา กรเอย
เสด็จออกพานรนา         เนกน้อม
ตรัสสั่งสุครีพพา            พิเภก ไปแฮ
ดูเหล่าพานรซ้อม         หัดเหล้นเปนเกษม ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศใต้ ช่องที่ 7 แผ่นที่ 3 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 59 ตอน พลับพลา ณ เขาคันธกาลา : ในภาพ พลับพลา ณ เขาคันธกาลา พระราม พระลักษมณ์ เสด็จออกที่ประทับ โปรดเกล้าให้พิเภกชมการแสดงการแสดงประลองกำลังของเหล่าวานรในกองทัพ 

.




-ภาพลอกลาย-
รุ่งเช้า พระรามถามพิเภกว่า...ทหารยักษ์ในลงกามีมากน้อยเพียงใด ถ้าจะยกทหารลิงไปสู้รบกับยักษ์จะได้ชัยชนะหรือไม่...

พิเภกทูลว่า...ทหารยักษ์ในเมืองลงกา มีมากกว่าทหารลิงของพระราม ทั้งยังเชี่ยวชาญในการยุทธ สามารถแปลงกายหายตัว และดำดินเหาะเหินเดินสมุทรก็ทำได้ ขอให้ตนได้เห็นฝีมือทหารลิงของพระรามก่อน จึงจะสามารถประเมินกำลังความสามารถได้...

พระรามจึงตรัสสั่งให้สุครีพ พาพิเภกไปดูศักยภาพการสำแดงเดช อิทธิฤทธิ์ของกองทัพวานรให้พิเภกดู ด้วยวิธีการต่างๆ...

จะสังเกตว่าภาพจำหลักมีร่องรอยสีน้ำมันสีแดงเลอะเปรอะเปื้อนอยู่บนภาพเป็นส่วนๆ ซึ่งยังมิได้มีผู้ใดหาเอาใจใส่ มาลบออกไม่(คงมาจากครั้งทาสีพระอุโบสถเมื่อเร็วๆนี้)

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 60 ตอน รับสนองพระราชโองการ

      สุครีพรับสั่งแล้ว         กราบกราน
พาพิเภกถอยคลาน         เคลื่อนคล้อย
มายังน่าพระลาน         โดยด่วน
ดูฤทธิลิงใหญ่น้อย         ต่างอ้างอวดแสดง ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศใต้ ช่องที่ 7 แผ่นที่ 4 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 60 ตอน รับสนองพระราชโองการ : ในภาพ สุครีพ หนุมาน พิเภก นิลพัท นิลนนท์ รับพระราชโองการ  พระรามตรัสสั่งให้สุครีพพาพิเภกไปชมเหล่าวานรประลองกำลังเมื่อรับคำสั่งแล้ว ถวายบังคมคลานออกจากที่ประทับไปยังหน้าพระลาน ดูลิงใหญ่น้อยต่างอวดอ้างฤทธี

.




-ภาพลอกลาย-
สุครีพรับคำสั่งแล้วจูงมือพิเภกออกไปด้านนอกกองทัพ พร้อมกับนัดแนะบรรดาแม่ทัพนายกอง ให้มาร่วมกันแสดงแสนยานุภาพให้พิเภกได้เห็นเป็นประจักษ์หน่อยว่า กองทัพวานร ไม่ได้ด้อยไปกว่า กองทัพยักษาของลงกาเลย

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.



Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,503


View Profile
« Reply #7 on: 19 June 2023, 20:20:19 »

[14] ภาพศิลาจำหลักเรื่องรามเกียรติ์ วัดโพธิ์ ชุดที่ 14


ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ ชุดที่ 14 (แผ่นที่ 61-64 เรียงจากขวามาซ้าย)
ช่องที่ 8 แผ่นที่ 61-64




.



.

ศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 61 ตอน พิเภกประทับใจ

      พิเภกเหนฤทธิพ้อง      พานรินทร์
สั่นเกศเกรงเดชยิน         ยิ่งอ้าง
เพียงเทพบริสัทอิน         ศวรเศก สาปฤๅ
สามารถอาจองมล้าง         ไล่ล้าวดัษกร ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศใต้ ช่องที่ 8 แผ่นที่ 1 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 61 ตอน พิเภกประทับใจ : ในภาพ พิเภก สุครีพ และหนุมาน ดูการประลองกำลังของทหารวานร พิเภกชมเชยว่าทหารแต่ละนาย มีความสามารถมาก สู้กับฝ่ายลงกาได้

.




-ภาพลอกลาย-
พิเภกได้ดูการโชว์พลังแล้วก็ ออกปากชมว่า...สุดยอด ฝีมือแม่ทัพนายกอง ทหารเอกของพระรามเหนือกว่าฝั่งลงกามาก ดังนั้นแม้จำนวนทัพจะน้อยกว่า ทางฝั่งเราสามารถชดเชยด้วยความสามารถของแม่ทัพนายกอง ทำให้ศึกครั้งนี้สูสีเป็นยิ่งนัก...

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 62 ตอน องคตแสดงอภินิหาร

      นานาพานเรศอ้าง      อวดฤทธิ์
บ้างปิดจันทราทิตย์         มืดคล้ำ
บ้างเหาะหักเขาคิช         ฌกูฎคว่าง กันแฮ
บ้างแทรกดินเดิรน้ำ         เนื่องหล้าสากล ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศใต้ ช่องที่ 8 แผ่นที่ 2 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 62 ตอน องคตแสดงอภินิหาร : ในภาพ องคต และหนุมาน กำลังแสดงอิทธิฤทธิ์ องคตเอามือปิดดวงอาทิตย์และดวงจันทร์จนมืดมิด หนุมานก็ไปแบกเขาคิชกูฏมาขว้างเล่น

.




-ภาพลอกลาย-
องคต แปลงร่างสูงใหญ่ เอามือปิดดวงอาทิตย์และดวงจันทร์จนมืดมิด หนุมาน เหาะไปแบกเอาเขาคิชกูฏ มาขว้างเล่น

บรรดาวานรสิบแปดมงกุฏ...ก็แสดงท่าทางจับสัตว์ในนิยายต่างๆด้วยความสนุกสนาน ทั้งครุฑ พญานาค กิเลน เสือ กวาง โดนกันถ้วนหน้า บางตัวลงไปในทะเลลึกจับปลาอานนท์มาขี่เล่น (ปลาอานนท์ตัวมหึมาอยู่ใต้บาดาลชั้นลึกมาก เวลาพลิกตัวจะทำให้แผ่นดินไหว)

ส่วนพวกบรรดานายกองลิ่วล้อ ก็ช่วยกันโยกภูเขา ทำลายภูเขา แล้วโชว์พลังช้างสารโดยการแบกก้อนหินก้อนเบ้อเริ่ม มาโยนเล่นกันอย่างเพลิดเพลินจนเสียงดังวินาศสันตะโรไปทั่วบริเวณ...

เฮ้อ...ทั้งพญานาค ครุฑ และปลาอานนท์...อะไรที่ดูศักดิ์สิทธิ์ยิ่งใหญ่นักหนา...โดนลิงพวกนี้จับมาเป็นของเล่นหมด...เรียกว่าซ้อมรบกันที...เดือดร้อนไปทั้งจักรวาล...

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 63 ตอน สุกรสารมาสอดแนม

      สุครีพทราบเหตุแล้ว      ฤๅเมิน ตานา
เรียกเหล่าพานรเดิร         ตรวจหน้า
ลิงกองนิลเอกเกิน         ลิงหนึ่ง
ที่ตื่นทำล่าล้า            เล่ห์เลี้ยวหลีกหนี ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศใต้ ช่องที่ 8 แผ่นที่ 3 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 63 ตอน สุกรสารมาสอดแนม : ในภาพ หนุมานและสุครีพ ล้อมดักจับสุกรสาร ลิงแปลกปลอมได้ เพราะธรรมดายักษ์นั้นไม่มีเงาตัว และตาไม่กระพริบเหมือนสัตว์ทั้งหลาย

.




-ภาพลอกลาย-
ข้างฝ่ายเมืองลงกา ทศกัณฐ์ออกว่าราชการ ได้ยินเสียงกึกก้อง ท้องฟ้ามืดมิด มีฟ้าแลบ ฟ้าร้อง...หินเล็ก หินน้อย หินใหญ่ ร่วงหล่น ตกที่กลางปราสาทราชวัง ทะลุหลังคาลงมาเป็นที่น่าแปลกใจยิ่งนัก บรรดาอำมาตย์ เสนาบดี ที่กำลังประชุมสภากับทศกัณฐ์ถึงกับแตกตื่น วิ่งหลบก้อนหินที่พวกวานรโยนทุ่มลงมาอย่างไร้ทิศไร้ทาง

ทศกัณฐ์ไม่รู้ว่าเกิดอะไร จึงสั่งให้ สุกรสาร เสนาบดีใหญ่ ไปดูเหตุการณ์ ...ว่ามันเกิดอาเพศเหตุร้ายอันใดขึ้น...

สุกรสาร ได้เหาะออกไปดูเหตุการณ์ ก็ถึงกับตื่นตะลึง เมื่อพบกองทัพวานร มาตั้งท่ารอริมฝั่งมหานทีแล้ว...จึงรีบกลับไปรายงานทศกัณฐ์...ทศกัณฐ์ก็ถึงกับตกใจเหมือนกัน ที่รู้ว่า พระรามยกทัพมาแล้ว แต่โชคยังดีที่ พระราม ยังไม่รู้ว่าจะยกทัพข้ามมหาสมุทรมายังไง

ทศกัณฐ์ จึงมอบหมายให้ สุกรสาร ลอบเข้าไปในทัพพระรามและล้วงความลับ พร้อมรายละเอียดของทัพพระราม มารายงานให้ได้มากที่สุด และเร็วที่สุดด้วย...

สุกรสารรับทราบ แล้วจึงแปลงร่างเป็นเหยี่ยว บินไปดู...เห็นลิงน้อยใหญ่ผาดแผลงฤทธิ์ ด้วยอาการต่างๆ...และด้วยความอยากรู้อยากเห็น เลยบินโฉบลงไปดูใกล้ๆ

บรรดาลิงเฝ้ายามเห็นเหยี่ยวบินโฉบไปโฉบมา ผิดสังเกต จึงรีบไปแจ้งข่าวให้พิเภกทราบ เมื่อพิเภกออกมาดู จึงรู้ได้ทันทีว่า...เป็นพวกยักษ์ที่แปลงร่างเป็นเหยี่ยว ลอบเข้ามาสอดแนม...จึงสั่งให้พลลิง ช่วยกันขว้างก้อนหินใส่ ถูกเข้าที่ปีกเหยี่ยว จนเสียการทรงตัว ตกลงสู่พื้นดิน

สุกรสาร หนีเข้าไปในป่า พร้อมแปลงร่างจากเหยี่ยวให้กลายเป็นลิง ปะปนไปกับทหารลิง แต่...พิเภกเห็นผิดสังเกต พินิจดูจึงรู้ว่า ได้มียักษ์ปลอมปนมากับทหารลิง.

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 64 ตอน ไล่จับสุกรสาร

      วายุบุตรวางวิ่งก้าว      กันสกัด
โจมจับสุกระสารรัด         รวบไว้
ลิงเลวช่วยกันมัด         เปนหมู่
เอาเชือกผูกคอให้         ลากหล้ามพามา ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศใต้ ช่องที่ 8 แผ่นที่ 4 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 64 ตอน ไล่จับสุกรสาร : ในภาพ สุกรสาร ถูกหนุมานจับได้ว่าเป็นจารชน ปลอมตัวมาเป็นลิง จึงตะโกนให้พลทหารลิงช่วยกันจับตัวไว้ ไปให้สุครีพตัดสินคดีความ

.
 



-ภาพลอกลาย-
หนุมานสังเกตเห็นลิงตัวหนึ่ง ท่าทางมีพิรุธ และที่สำคัญ...มันไม่มีเงา และตาก็ไม่กระพริบดังที่ พิเภกว่า...จึงจิกศีรษะสุกรสารไว้ แล้วลิงปลอมก็กลายร่างเป็นยักษ์ (ตัวเป็นลิง แต่หน้าเป็นยักษ์)

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.



Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,503


View Profile
« Reply #8 on: 19 June 2023, 20:21:48 »

[15] ภาพศิลาจำหลักเรื่องรามเกียรติ์ วัดโพธิ์ ชุดที่ 15


ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ ชุดที่ 15 (แผ่นที่ 65-68 เรียงจากขวามาซ้าย)
ด้านทิศใต้มี 11 ช่อง - ช่องที่ 9 แผ่นที่ 65-68




.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 65 ตอน พระรามออกว่าราชการ

      จักรกฤษณ์พิศณุไท้      ทิวา วงศ์เฮย
สถิตย์อาศน์คันธกาลา      เมื่อเช้า
ชมพูขีดขินพา            นรนบ บาทแฮ
คอยราชดำริเฝ้า            นับร้อยคอยฟัง ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศใต้ ช่องที่ 9 แผ่นที่ 1 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 65 ตอน พระรามออกว่าราชการ : ในภาพ พระราม พระลักษมณ์ ทรงออกว่าราชการ พิจารณาโทษสุกรสาร ที่ลอบเข้ามาเป็นจารชนล้วงความลับในกองทัพ

.




-ภาพลอกลาย-
สุครีพนำตัวสุกรสารไปให้พระรามชำระความ สุกรสารกลัวตาย ก็สารภาพแต่โดยดีว่า...ทศกัณฐ์ ใช้งานมา ล้วงความลับ

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 66 ตอน พิเภกบอกเหตุ

      พิเภกไตรเพทแจ้ง      เจนยาม
เหนเหตุสุกระสารลาม      ลอบไคล้
ปลอมลิงเที่ยวฟังความ      ในค่าย
ทูลยุบลเหตุให้            ตรวจหน้าพลากร ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศใต้ ช่องที่ 9 แผ่นที่ 2 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 66 ตอน พิเภกบอกเหตุ : ในภาพ พิเภก สุครีพ และหนุมาน เข้าเฝ้าพระราม เพื่อแจ้งเหตุให้ทราบว่า มีจารชนเข้ามาสืบความลับในกองทัพของเรา

.




-ภาพลอกลาย-
พิเภกกล่าวทูลรายงานต่อพระรามว่า สุกรสารเป็นเสนายักษ์ ปลอมเป็นเหยี่ยวและพลลิง เพื่อมาสืบความลับในกองทัพให้แก่ทศกัณฐ์

เมื่อพระรามซักไซ้ไล่เรียงสุกรสารเรียบร้อยแล้ว จึงปรึกษาโทษว่าจะทำอย่างไร เหล่าเสนาวานรน้อยใหญ่ ก็ปรึกษากัน สรุปว่า ฆ่ามันก็ตายเปล่า จึงขอให้งดเว้นโทษตาย เพียงแต่ให้เฆี่ยนสองร้อยทีและสักหน้าประจาน แล้วปล่อยให้กลับไปรายงานนายของมัน จะดีกว่า...พระรามเห็นดีด้วย จึงให้ทำตามนั้น.

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 67 ตอน สุกรสารถูกลงโทษ

     ตำรวจวานเรศร้าย      ปักหลัก
คาใส่คอยักษ์ชัก            เชือกยื้อ
ลงหวายเฆี่ยนพลางซัก      หาเหตุ
ไยจึ่งมึงมาดื้อ            บอกไส้ใจจริง ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศใต้ ช่องที่ 9 แผ่นที่ 3 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 67 ตอน สุกรสารถูกลงโทษ : ในภาพ สุกรสารถูกผูกมัดจองจำขื่อคา แล้วเฆี่ยนด้วยหวาย ถูกสักหน้า แล้วปล่อยกลับกรุงลงกา

.




-ภาพลอกลาย-
สุครีพสั่งให้ราชมัลตอกหลักพาดคายาว นำตัวสุกรสารไปผูกมือผูกเท้า แล้วจับตัวเอาหัวใส่คาไว้ ราชมัลใช้หวายแช่เยี่ยวตีไปทั่วร่างยักษ์ เจ็บปวดแทบขาดใจ ดิ้นสุดแรงก็ไม่หลุด พอตีด้วยหวายเสร็จก็จับมาสักหน้า ด้วยถ้อยคำสารพัดคำด่า และดูถูกทศกัณฐ์ ลงบนหน้าสุกรสาร กะว่า พอทศกัณฐ์ได้อ่านแล้ว เอาให้อกแตกตายกันไปเลย จากนั้นนำตัวไปแห่ประจาน ก่อนถีบตูดส่งกลับไปที่ลงกา

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 68 ตอน สุกรสารเหาะกลับกรุงลงกา

      สุกระสารสารภาพพร้อง         รับผิด
แจ้งเหตุตามจริงจิตร            ถี่ถ้อย
ขอโทษแต่ชีวิต               คงรอด
ต้องสักหน้าคลาคล้อย         คลาดเข้าเมืองมาร ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศใต้ ช่องที่ 9 แผ่นที่ 4 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 68 ตอน สุกรสารเหาะกลับกรุงลงกา : ในภาพ สุกรสาร เหาะกลับกรุงลงกา ด้วยความบอบช้ำ และถูกสักคำด่าเยาะเย้ยทศกัณฐ์ไว้ที่ใบหน้า

.
 



-ภาพลอกลาย-
สุกรสารรับสารภาพว่าทศกัณฐ์ใช้ให้มาล้วงความลับ จึงไม่ถูกประหารชีวิต เพียงถูกเฆี่ยนด้วยหวาย และถูกสักหน้า แห่ประจาน แล้วจึงปล่อยให้กลับไปยังลงกา

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.



Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,503


View Profile
« Reply #9 on: 19 June 2023, 20:23:03 »

[16] ภาพศิลาจำหลักเรื่องรามเกียรติ์ วัดโพธิ์ ชุดที่ 16


ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ ชุดที่ 16 (แผ่นที่ 69-72 เรียงจากขวามาซ้าย)
ด้านทิศใต้มี 11 ช่อง - ช่องที่ 10 แผ่นที่ 69-72




.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 69 ตอน เบญกายแปลงเป็นนางสีดา

      ทศเศียรหาเลศได้      อุบาย หนึ่งเอย
ตรัสเรียกเบญกาย         สั่งใช้
แปลงเปนสีดาตาย         ลวงล่อ พระนา
เบญกายรับคำไท้         ธิราชด้วยจำจน ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศใต้ ช่องที่ 10 แผ่นที่ 1 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 69 ตอน เบญกายแปลงเป็นนางสีดา : ในภาพ ทศกัณฐ์ออกอุบายให้นางเบญกายแปลงเป็นสีดา แสร้งทำเป็นตายลอยน้ำไปให้พระรามเห็น ก็จะหมดกำลังใจ ยกทัพกลับไปเอง

.




-ภาพลอกลาย-
ทศกัณฐ์คิดจะดับศึก โดยแก้ที่ต้นเหตุคือ ถ้านางสีดาตายซะคนเดียว เรื่องก็จบ พระรามก็จะหมดอาลัยตายอยาก ยอมถอดใจ ยอมยกทัพกลับไป...แต่นางสีดานั้นเป็นสุดยอดดวงใจ ครั้นจะฆ่าทิ้งก็เสียดาย จึงออกอุบายให้นางเบญกายหลานสาวแท้ๆ ของตน ที่เป็นลูกของ พิเภก กับ นางตรีชฎา แปลงเป็นสีดา แสร้งทำเป็นตายลอยน้ำไปให้พระรามเห็น ก็จะนึกว่านางสีดาตายแล้ว ก็จะพาลโศกเศร้า ไม่มีใจนำทัพมารุกรานลงกา ก็จะเลิกทัพกลับเมืองมนุษย์ไปเอง

แต่นางเบญกายไม่เคยเห็นพระนางสีดามาก่อน จึงไม่รู้ว่าจะต้องแปลงกายอย่างไร...นางเบญจกายจึงขออนุญาตไปสังเกตนางสีดา ว่าหน้าตาเป็นยังไง สวยขนาดไหน จะได้แปลงกายให้เหมือน

ทศกัณฐ์จึงสั่งเสนากรมวัง ให้จัดพระวอและขบวนเสด็จ พานางเบญกายไปสวนขวัญทันที

.
 



-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 70 ตอน เบญกาย(กับสนม)ไปหานางสีดา

      เบญกายลีลาศขึ้น      ทรงรถ
พร้อมพรั่งอิสสริยยศ         รอบล้อม
สนมกรมนั่งประณต         นำเสด็จ
เฒ่าแก่กำนัลพร้อม         แทรกหน้ามาตาม ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศใต้ ช่องที่ 10 แผ่นที่ 2 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 70 ตอน เบญกายไปหานางสีดา : ในภาพ นางเบญกายพร้อมด้วยนางสนมกำนัล นั่งรถทรงเป็นขบวนเสด็จไปหานางสีดาที่สวนขวัญ

.




-ภาพลอกลาย-
จริงๆแล้ว นางเบญกาย ก็ไม่ได้อยากจะรับทำภารกิจนี้ เพราะใจนึงก็แอบเกลียดทศกัณฐ์อยู่ในที เพราะขับไล่บิดาของตนออกจากเมือง อีกใจนึงก็คิดว่า การส่งตัวเองซึ่งเป็นหญิงตัวเล็กๆ ไปในมือข้าศึกที่มีแต่ผู้ชายและลิง มันก็เหมือนกับส่งตัวเองให้ไปตายชัดๆ

แต่ใครจะกล้าขัดคำสั่งทศกัณฐ์ สู้ยอมทำตามไปก่อน ยังพอจะมีโอกาสรอดชีวิต จึงขึ้นรถทรงพร้อมด้วยนางสนม เดินทางไปยังสวนขวัญ

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 71 ตอน เบญกายพบแม่

      ถึงสวนโดยด่วนเฝ้า      ชนนี ถามนา
ไยยอดเยาวลักษณ์ลี         ลาศได้
เบญกายทอดตนตี         ทรวงเทวษ
แจ้งเหตุทศกัณฐ์ใช้         เสร็จแล้วทูลลา ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศใต้ ช่องที่ 10 แผ่นที่ 3 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 71 ตอน เบญกายพบแม่ : ในภาพ นางเบญกาย ยกมือไหว้นางตรีชฎาผู้เป็นแม่ และนางตรีชฎาชี้บอกทางไปเข้าเฝ้านางสีดา

.
 



-ภาพลอกลาย-
นางเบญกายไปถึงสวนขวัญ รีบเข้ากราบเท้านางตรีชฎาผู้เป็นแม่ทันที และเล่าว่า...ทศกัณฐ์ให้แปลงกายเป็นนางสีดาไปหลอกพระราม จึงขอให้แม่พาไปเข้าเฝ้านางสีดา

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 72 ตอน เบญกายพบนางสีดา

      ขึ้นเฝ้าเยาวเรศสร้อย      สีดา
ทำโศกพลางชายตา         ม่ายเมี้ยน
จำจบพระลักษณ์ลา         ลีลาศ
สู่ท่าวารีเพี้ยน            รูปแล้วลอยไป ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศใต้ ช่องที่ 10 แผ่นที่ 4 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 72 ตอน เบญกายพบนางสีดา : ในภาพ นางเบญกายยกมือไหว้นางสีดาที่ประทับอยู่บนแท่น แล้วลอบจดจำรูปร่างหน้าตาและท่วงท่าของนางสีดา แล้วจึงทูลลากลับ

.




-ภาพลอกลาย-
เบญกายเข้าสู่ตำหนักสวนขวัญ เห็นนางสีดาประทับอยู่บนแท่น จึงหมอบกราบไม่พูดอะไร รอให้นางสีดาขยับตัว ขยับปากมากกว่านี้ เพื่อศึกษาท่าทาง ลักษณะของสีดา แล้วจึงแนะนำตัวว่า...ชื่อว่าเบญกาย เป็นลูกของพญาพิเภกผู้ที่สนองงานพระรามอยู่ตอนนี้ และแม่คือนางตรีชฎานั่นเอง วันนี้ขอมาเยี่ยมแม่ และชมพระบารมีพระแม่สีดา

นางเบญกายก็จดจำรูปร่างหน้าตาของสีดาครบทุกมุม ทุกท่วงท่า จนคิดว่าตัวเองน่าจะแปลงกายได้เหมือนแน่ๆแล้ว เบญกายจึงทูลลากลับ...เมื่อถึงท่าน้ำจึงแปลงกายเป็นนางสีดาตายลอยน้ำไป

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.



Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,503


View Profile
« Reply #10 on: 19 June 2023, 20:24:22 »

[17] ภาพศิลาจำหลักเรื่องรามเกียรติ์ วัดโพธิ์ ชุดที่ 17


ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ ชุดที่ 17 (แผ่นที่ 73-76 เรียงจากขวามาซ้าย)
ด้านทิศใต้มี 11 ช่อง - ช่องที่ 11 แผ่นที่ 73-76

.




.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 73 ตอน สีดาตายลอยน้ำมา (นางลอย)

      แถลงความรามราชได้      สรงสาย สินธุ์เฮย
เหนรูปเบญกายหมาย      แม่นน้อง
ช้อนเกศใส่ตักฟาย         ชลเนตร
ทั้งพระลักษณ์พลอยซร้อง      โศกซั้นกรรแสง ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศใต้ ช่องที่ 11 แผ่นที่ 1 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 73 ตอน สีดาตายลอยน้ำมา (นางลอย) : ในภาพ ครั้นรุ่งเช้า พระรามตื่นบรรทม จึงชวนพระลักษมณ์ลงสรงน้ำ...พอมาถึงที่ท่าน้ำ เห็นศพนางสีดาลอยมา พระรามแทบจะขาดใจตายตาม...ทรงลงน้ำ ช้อนร่างสีดาแปลงขึ้นวางที่ตัก องค์รามลักษมณ์สองพี่น้องทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ร้องไห้

.




-ภาพลอกลาย-
นางเบญกายกราบลาทศกัณฐ์ เหาะข้ามมหาสมุทร แล้วลดลงที่เขาเหมติรัน เดินมายังริมฝั่งแม่น้ำใกล้ๆค่ายของพระราม แล้วถือจิตอธิษฐาน...นิมิตร่างเป็นนางสีดา ทำเป็นตายลอยไปใกล้บริเวณที่พระรามลงสรงน้ำ...

ครั้นรุ่งเช้า พระรามตื่นบรรทม จึงชวนพระลักษมณ์ลงสรงน้ำ...พอมาถึงที่ท่าน้ำ เห็นศพนางสีดาลอยมา พระรามแทบจะขาดใจตายตาม...แล้วรวบรวมสติ ลงน้ำ ช้อนร่างสีดาแปลงขึ้นวางที่ตัก ยิ่งเมื่อสัมผัสร่างกายและมองดูหน้านางอย่างใกล้ชิด พระรามและพระลักษมณ์ยิ่งแน่ใจว่านี่คือ นางสีดา แน่ๆ พระรามร้องไห้คร่ำครวญ จนสลบไป...

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 74 ตอน โศกสลดทั้งกองทัพ

     บรรดาพานเรศเฝ้า      บทมาลย์
ต่างโศกแสนสงสาร         อยู่เกล้า
แต่ศรีหณุมานชาญ         ฤๅเชื่อ ใจเลย
ขอศพชันสูตรเข้า         ใส่ไว้เชิงตะกอน ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศใต้ ช่องที่ 11 แผ่นที่ 2 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 74 ตอน โศกสลดทั้งกองทัพ : ในภาพ บรรดาเสนาวานรที่เข้าเฝ้า ทั้งหนุมาน สุครีพ พิเภก และนิลพัท ต่างโศกเศร้า สงสารพระราม แต่หนุมานไม่เชื่อว่าเป็นพระแม่สีดา จึงขอพิสูจน์ด้วยการเผาศพนางสีดาแปลง

.




-ภาพลอกลาย-
หลังจากพระรามฟื้นขึ้นมา พอครองสติได้ จึงหันไปมองหนุมาน จนตาขวาง...สบัดหน้าเชิด ค้อนขวั๊บ! แล้วดุหนุมาน

...เจ้าหนุมาน วานรโง่ นี่ไง ผลงานเจ้า...ทำงานเกินคำสั่ง ดันไปเผาลงกาซะวอดวาย ทำให้ทศกัณฐ์โกรธแค้นจนแม่สีดาถูกประหาร แล้วเอาศพมาโยนทิ้งน้ำนี่ สาแกใจเจ้าแล้วใช่ไหม อ้ายลิงเผือก เจ้าจะให้เราลงโทษอย่างไร...

หนุมานที่อยู่ดีๆ ก็ตกเป็นจำเลยโดยไม่รู้ตัว นึกในใจ..อ้าว ซวยแล้วกรู...ไหงอยู่ดีๆ มาลงตรงกรูฟร่ะเนี่ย...?!? (จากเป็นลิงแท้ๆ ไหงกลายมาเป็น "แพะ" ได้หวา...) หนุมานหยุดคิดนิดหนึ่ง เพราะไม่เชื่ออยู่ก่อนแล้วว่าศพนี้คือศพนางสีดา จึงกราบทูลพระรามไปว่า...

...ข้าบาทยินดีรับโทษที่ได้ก่อตามพระวินิจฉัย แต่ข้าบาทไม่เชื่อว่าร่างนี้คือศพของพระแม่สีดาองค์รัศมีอวตาร... 

...ศพนางสีดานี่ดูแปลกๆ ถ้าศพลอยมาจากกรุงลงกาจริงๆ ซึ่งอยู่ไกลจากค่ายทัพของเรามาก ศพลอยมาหลายวัน ก็น่าจะเน่าเปื่อยบ้างแล้ว แต่นี่ศพยังดูเหมือนกันคนนอนหลับมากกว่า...

...และที่สำคัญ ค่ายทัพของเราตั้งอยู่ในบริเวณเหนือน้ำ เหนือกรุงลงกาขึ้นมาตั้งเยอะ ศพจะอยู่ดีๆ ลอยทวนน้ำมาได้ยังไง พระองค์ลองคิดดูให้ถี่ถ้วนด้วยเทอญ...หนุมานปากพูดไป ใจก็ตุ้มๆต่อมๆ ..

พระรามพอได้ฟังคำอธิบายของหนุมาน แล้วลองใคร่ครวญดู ก็เห็นว่าพอจะมีเค้าลางความเป็นไปได้

ยิ่งบรรดาเสนาธิการลิงทั้งหลายให้ความเห็นพ้องตรงกันว่า...สงสัยจะเป็นกลลวงของทศกัณฐ์อีกเป็นแน่แท้ เพราะช่วงนี้ทศกัณฐ์เกรงว่าพระรามจะตั้งทัพ ข้ามมาลงกาได้ เลยต้องรีบออกอุบายมาสกัดกั้นไว้ก่อน และครั้งนี้ก็น่าจะเป็นอุบายของทศกัณฐ์อีกเป็นแน่...

หนุมานเห็นพระรามเริ่มคล้อยตาม จึงเสนอให้พระรามเอาศพนี่ไปเผาไฟ ถ้าเป็นศพนางสีดาจริง ก็คงไหม้ไปกับกองไฟ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้น พระองค์ตัดศีรษะของข้าน้อยโยนเข้ากองไฟตามไปเลยก็ได้ แต่ถ้าไม่ใช่ศพนางสีดาจริง เป็นสปายฝั่งทศกัณฐ์แปลงร่างมา เราคงได้เห็นอะไรดีๆแน่...

พระรามพยักหน้า เพราะไม่มีอะไรจะเสีย

นางเบญกายที่ทำเป็นแกล้งตายอยู่ ได้ยินดังนั้น ก็คิดในใจ..

..อั๊ยหย่ะ!! ไอ้ลิงเวร เมิงคิดได้ไงเนี่ย..แล้วชั้นจะทำยังไงดีวะเนี่ย??!??

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 75 ตอน สีดาบนกองไฟ

      ปางบุตรมารุตร้าย      รายพล รอบแฮ
กองก่ออัคคีลน            รุ่มเร้า
เบญกายสุดแรงทน         เพลิงเหาะ หนีนา
วายุบุตรโจมจิกเกล้า         จับได้มาถวาย ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศใต้ ช่องที่ 11 แผ่นที่ 3 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

ด้านทิศใต้มี 11 ช่อง - ช่องที่ 11 (ชุดที่ 17) แผ่นที่ 75

.




แผ่นที่ 75 ตอน สีดาบนกองไฟ : ในภาพ ศพสีดาแปลงถูกนำไปเผาไฟ นางเบญกายทนความร้อนไม่ไหว จึงสลัดร่างเหาะหนีไปบนอากาศ หนุมานที่เตรียมพร้อมอยู่ก่อนแล้ว เหาะตามจับนางยักษ์แปลงกลางอากาศ...

.




-ภาพลอกลาย-
พระรามอนุญาตให้นำเอาศพสีดาตัวปลอมไปเผา ตามที่หนุมานเสนอแนะ...สุครีพจึงสั่งไพร่พล นำกองฟืน ซีกไม้มาสุมเป็นเชื้อไฟ นำศพขึ้นวาง แล้วจุดไฟเผาทั่วร่าง

นางเบญกายไม่รู้จะทำยังไง หลังจากโดนไฟเผาไปได้ไม่กี่อึดใจ ไม่สามารถทนความร้อนได้ ก็ร้องลั่น แล้วสลัดร่างเหาะหนีไปบนอากาศ เพื่อหนีความร้อนแห่งพระเพลิง

หนุมานที่เตรียมพร้อมอยู่ก่อนแล้ว เหาะตามจับนางยักษ์แปลงกลางอากาศ...

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.

ภาพศิลาจำหลัก เรื่องรามเกียรติ์ แผ่นที่ 76 ตอน สุครีพสอบสวนเบญกาย

      สุครีพเคืองขู่คั้น         ฮึดฮัด
เรียกเหล่าราชมันมัด         ซักไซ้
เบญกายรับเปนสัตย์         สารภาพ
สุครีพเหนจริงได้         เสร็จแล้วทูลฉลอง ฯ

โคลงภาพจำหลักรามเกียรติ์ : สถานที่ตั้ง พนักพระอุโบสถ ทิศใต้ ช่องที่ 11 แผ่นที่ 4 (เรียงตามทักษิณาวัตร)

.




แผ่นที่ 76 ตอน สุครีพสอบสวนเบญกาย : ในภาพ สุครีพได้รับบัญชาจากพระรามให้สอบสวนนาง สุครีพจึงให้ตำรวจลิงจับนางมัดแล้วลงหวายที่หลังเพื่อเค้นเอาความจริง นางเบญกายถูกโบยทนเจ็บไม่ไหว ก็ยอมรับว่า...ท้าวทศกัณฐ์ผู้เป็นลุง ใช้มาให้ลวงพระรามว่านางสีดาได้ตายแล้ว พระรามจะได้ถอนกองทัพกลับไป...

.




-ภาพลอกลาย-
หนุมานจับตัวนางได้ พร้อมกับนำตัวไปให้พระรามซักไซ้ไล่เลียง แต่พระรามอยู่ในอารมณ์ บ่ จอยสุดๆ เพราะเหมือนเสียฟอร์มที่ดันไปร้องห่มร้องไห้จนสลบไสลกับสีดาตัวปลอม เลยให้สุครีพรับหน้าที่ไปสอบสวนหาความว่าเป็นมาอย่างไร

ครั้งแรกนางเบญกายให้การว่า...นางเป็นลูกสาวของพิเภก ได้ข่าวว่าพ่อของตนถูกพระรามฆ่าตาย จึงอยากจะมาดูว่าจริงหรือไม่ แต่ครั้นจะมาในรูปของนางยักษ์ก็กลัวจะถูงลิงจับไปฆ่าเอา จึงจำบังอาจแปลงเป็นพระแม่สีดา...โดยนางเบญกายไม่ได้เอ่ยอะไรถึงภารกิจที่ทศกัณฐ์มอบหมายมาให้ทำเลย

ฝ่ายสุครีพ เมื่อรู้ว่านางเป็นลูกพิเภก ก็เกิดความเอ็นดู ไม่ติดใจสงสัยถามให้มากความ แล้วหันมาทูลพระรามตามที่นางเบญกายว่าไว้

พระรามทรงกริ้วมาก ว่าสุครีพเห็นแก่เพื่อนพ้อง ไม่ซักถามให้ละเอียดว่าใครบงการอยู่เบื้องหลัง สุครีพจึงพานางเบญกายไปสอบปากคำใหม่..คราวนี้จึงให้ตำรวจลิงลงหวายที่หลังเพื่อเค้นเอาความจริง สาวชาววังอย่างเบญกายทนเจ็บไม่ไหว ถูกโบยไม่ถึงห้าที ก็ยอมรับอย่างหมดเปลือกว่า...ท้าวทศกัณฐ์ผู้เป็นลุง ใช้มาให้ลวงพระรามว่านางสีดาได้ตายแล้ว พระรามจะได้ถอนกองทัพกลับอโยธยา... 

.




-ภาพวาด-
บัณฑิต พวงมาลัย – วาดภาพ,  พระมหากิตติศักดิ์ ไมตรีจิต – แต่งสีภาพ

.



.



Logged
Pages: [1] Go Up Print 
« previous next »
 

SMF 2.0.4 | SMF © 2013, Simple Machines | Theme by nesianstyles | Buttons by Andrea
Page created in 0.129 seconds with 18 queries.