Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
User Info
Welcome, Guest. Please login or register.
20 May 2024, 12:42:32

Login with username, password and session length
Search:     Advanced search
News
ท่านสมาชิกสามารถเปลี่ยนรูปแบบ (Theme) ได้อีกหลายแบบ
เชิญทดลองโดยคลิกที่ลิงค์ข้างล่าง ได้เลยครับ

http://www.smilesiam.net/index.php/topic,3170.msg4713.html
Forum Stats
25,703 Posts in 12,501 Topics by 70 Members
Latest Member: KAN
Home Help Search Calendar Login Register
Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...  |  ภาพประทับใจ  |  ผนังเก่าเล่าเรื่อง (Moderator: ผนังเก่าเล่าเรื่อง)  |  [36] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน สุครีพหักฉัตร โดย กลม บางบาน
0 Members and 1 Guest are viewing this topic. « previous next »
Pages: [1] Go Down Print
Author Topic: [36] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน สุครีพหักฉัตร โดย กลม บางบาน  (Read 46 times)
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,556


View Profile
« on: 08 May 2023, 09:31:13 »

[36] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน สุครีพหักฉัตร โดย กลม บางบาน


8 พฤษภาคม 2022  ·

เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน สุครีพหักฉัตร (1)

-ฉัตรแก้วบังสุริยา

ทศกัณฐ์ตอนนี้โกรธจนไม่รู้จะโกรธยังไงแล้ว...เพราะเมื่อไม่นานมานี้ เจอลิงเผือกเผาลงกาเสียวอดวายไปที เมื่อวานดันมาเจอลิงเขียว บุกลงกาเข้ามาหยามเกียรติ จัดการเจี๋ยนทหารเอกของตัวเองตายไปต่อหน้าต่อตาอีก

โกรธไปโกรธมา ก็นึกขึ้นมาได้ว่า กรุงลงกา ยังมีของดีอยู่ นั่นคือ ฉัตรแก้วพิชัยโมลี ซึ่งเป็นของวิเศษที่ท้าวสหบดีพรหมได้ประทานให้กับ ท้าวธาดาพรหม หรือท้าวจตุรพักตร์ หรือท้าวมหาอัชดา (หลายชื่อจังวุ้ย...) เป็นของขวัญตั้งแต่สมัย Grand openning กรุงลงกา (ฉลองกรุงลงกา รอบปฐมทัศน์) โดยท้าวธาดาพรหม เป็นพ่อท้าวลัสเตียน หรือเป็นปู่ทศกัณฐ์นั่นแหละครับ

ฉัตรแก้วนี่เป็นของวิเศษ เป็นฉัตรขนาดมหึมาใหญ่มาก กางขึ้นมาแต่ละทีสามารถบังแสงอาทิตย์ไม่ให้ส่องไปยังที่ใดที่นึงรอบๆกรุงลงกาได้ และบริเวณนั้นจะมืดมิดราวกับกลางคืนไปในบัดดล ใช้สำหรับพลางตาศัตรูผู้มารุกรานเมืองลงกา

เมื่อใดมีข้าศึกประชิดเมือง ให้กางฉัตรแก้วขึ้นกลางกรุงลงกา ฉัตรนี้จะบดบังแสงพระอาทิตย์ ท้องฟ้ามืดมิดเหล่าบรรดาข้าศึกจะมองไม่เห็นกรุงลงกา แต่ฝ่ายผู้ที่อยู่ในกรุงลงกาจะมองเห็นข้าศึกทั้งหมดสิ้น...

ว่าแล้ว ทศกัณฐ์ ก็จัดการสั่งให้ไพร่พลนำฉัตรแก้ว ยกขึ้นไปปักบนยอดเขานิลกาลา พอได้ฤกษ์ดี ทศกัณฐ์ก็เป็นผู้กางฉัตรออกด้วยตัวเอง บังแดดที่ส่องไปยังทัพพระรามเสียมืดมิด พร้อมกันนั้นก็พานางมณโฑ นางอัคคี และนางสนมกำนัลทั้งหลายขึ้นไปชมเมืองบนยอดฉัตร เพื่อไปสังเกตการณ์ทัพพระราม...จากนั้นก็ชี้จุดที่ตั้งของค่ายพระรามให้นางมณโฑดู แล้วยิ้มเยาะอย่างลำพองว่า...

...กองทัพของเราอยู่ในที่สว่าง แต่กองทหารของศัตรูอยู่ในที่มืด เรามีความได้เปรียบยิ่งนัก จะโจมตีเมื่อไหร่ได้ตามใจชอบ...(แปลกจังฮู้...คนอยู่ในที่สว่างดันมองเห็นคนอยู่ในที่มืด แต่คนในที่มืดกลับมองไม่เห็นคนในที่สว่าง มันผิดธรรมชาติของมนุษย์มนาเค้าน๊าา...เฮียทศ. อ้อ..ลืมไป มันเป็นเรื่อง'ของวิเศษ'ของยักษ์เขานี่นา)

ณ ทัพพระราม...อยู่ดีๆท้องฟ้าก็มืดมิดผิดปรกติ ยังไม่ถึงเวลาค่ำซะหน่อย...หลังจากโทรเรียกการไฟฟ้าหลายรอบแล้ว ช่างไฟก็ยังไม่มาซะที...พระรามจึงเรียกพิเภกมาไต่ถาม...พิเภกจับยามสามตา พินิจดูแล้วนี่ไม่ใช่เวลาสุริยคราส อยู่ดีๆท้องฟ้ามันจะมืดได้ยังไง ฉะนั้น...มันต้องเป็นเพราะฉัตรแก้วประจำกรุงลงกาแน่ๆ

พิเภกจึงกราบทูลว่า...นี่มิใช่สุริยุปราคา หรือปรากฎการณ์ธรรมชาติ แต่ท้าวทศกัณฐ์ได้ยกฉัตรแก้วประจำตระกูลเพื่อบังแสงอาทิตย์ ไม่ให้ส่องมาทางค่ายของพระองค์ แล้วจะได้บุกโจมตีกองทัพของเราอย่างไม่รู้ตัว อีกไม่นานทศกัณฐ์จะส่งมือสังหารมาเข่นฆ่าทุกชีวิตในค่ายอย่างแน่นอน...

พิเภกแจ้งให้พระรามทราบว่า...จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องส่งแม่ทัพของพระองค์ไปหักฉัตรทิ้งเสีย มิฉะนั้นทศกัณฐ์อาจจะลอบเข้ามาตีทัพของเราตอนฟ้ามืดๆก็เป็นได้...

พระรามจึงหันไปถามบรรดาลิงๆทั้งหลายว่า...มีใครจะอาสาเข้าไปในลงกาเพื่อทำลายฉัตรแก้วบ้าง...

หนุมานเผาลงกาไปแล้ว องคตก็รับหน้าที่ทูตไปแล้ว...สุครีพเห็นที ยังไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน เลยต้องรีบเสนอตัว...และด้วยความที่เป็นเจ้าเมืองขีดขิน วานรตัวอื่นเลยไม่กล้าขัดแข้งขัดขา...พระรามจึงรับสั่งให้สุครีพ รีบมุ่งหน้าไปลงกา แล้วหักฉัตรแก้วทิ้งลงโดยเร็ว

.


ท้องพระโรง กรุงพิชัยลงกา มหานคร ทศกัณฐ์ออกว่าราชการ


.

ทศกัณฐ์ กางฉัตรแก้วโมลี


.

สุครีพ


.




« Last Edit: 11 May 2024, 16:30:45 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,556


View Profile
« Reply #1 on: 08 May 2023, 09:32:07 »


8 พฤษภาคม 2022  ·

เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน สุครีพหักฉัตร (2)

-สุครีพหักฉัตร

สุครีพรีบบินปร๋อไปกรุงลงกา อาศัยที่ท้องฟ้ามันมืดมิด เลยเนรมิตตัวให้ดำๆๆ พรางตัวไปกับความมืด เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกับหมู่ยักษ์

เผลอแพล็บเดียวก็เหาะไปจนถึงฉัตรแก้ว แล้วเกาะห้อยโหนอยู่บนฉัตร (ชักไม่แน่ใจว่า นี่มันฉัตรแก้วของท่านท้าวธาดา หรือม้าหมุนท่านท้าวดิสนี่ย์กันแน่วะ)
เห็นทศกัณฐ์กับบรรดาภรรเมียกำลังเฮฮาปาร์ตี้บนฉัตรแก้ว เฝ้ามองทัพพระรามกำลังปั่นป่วนอยู่

สุครีพเห็นดังนั้น จึงเนรมิตตัวเองอีกที ให้ร่างกายใหญ่โตมโหฬาร ขนาดพอๆกับฉัตรแก้ว แล้วก็ยืนจังก้ามองหน้าทศกัณฐ์ขมึงทึง

...จ๊ะเอ๋ เฮียทศฯ คราวนี้มึงตายแน่...

ทศกัณฐ์ที่กำลังสรวลเสเฮฮากับสาวๆ ก็ต้องตื่นตะลึงที่อยู่ดีๆก็มีลิงยักษ์มายืนอยู่ตรงหน้าเฉยเลย...มันมายังไงเนี่ย...

ทศกัณฐ์มองไปมองมาก็จำได้ว่า นี่มันสุครีพ น้องพาลี คู่แค้นเก่าตรูนี่หว่า...ทศกัณฐ์จึงเหน็บแนมสุครีพไปดังๆว่า...

...ตัวเป็นเจ้าเมืองขีดขินซะเปล่า ดันไปลดตัวเป็นขี้ข้ามนุษย์ตัวเล็กเท่ามด ไอ้ลิงไม่รักดี...

สุครีพได้ยินดังนั้นก็เดือดขึ้นมาทันที พร้อมตะโกนกลับไปว่า...

...ไอ้ยักษ์หน้าหม้อ กลัวพระรามจนขี้ขึ้นสมอง ถึงกับต้องแอบเอาฉัตรแก้วมาบังแสงส่องไปยังทัพพระราม ไม่กล้าสู้กันตัวต่อตัว เพราะกลัวพระรามจะเจี๋ยนเอาหล่ะเซ่....

ทศกัณฐ์โดนสุครีพดูถูก พลังความโกรธก็เดือดขึ้นมาเช่นกัน...ลิงเผือกเผาเมืองตรูไปแล้ว ลิงเขียวก็ฆ่าลูกน้องตรูตายไปต่อหน้า คราวนี้ไอ้ลิงแดงมันเล่นโผล่มากลางเมืองเลย ถ้าขืนปล่อยไว้แบบนี้ ปล่อยให้ลิงสามสีมันหยามขนาดนี้ ทศกัณฐ์จะเอาหน้าไปไหว้ที่ไหน...

...ไอ้ลิงสุครีพ ที่กรูไม่ออกรบเพราะกลัวไพร่ฟ้าประชาชีจะเดือดร้อน ดีหละที่มรึงหาเรื่องมาถึงที่ กรูจะได้ตัดหัวเสียบประจานที่หน้าพระลานไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง... 

สุครีพโกรธยิ่งนัก ชี้หน้าด่าราชาแห่งอสูร...

...ไอ้อสูรพาล วันนี้กรูอาสานายมาเด็ดหัวมรึงต่างหาก...

สุครีพเห็นทศกัณฐ์เตรียมจะกระโดดมาฟัดด้วย จึงรีบปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายมาก่อนนั่นคือ หักฉัตร...

สุครีพกระโจนขึ้นไปบนฉัตร จนฉัตรเอนไปเอนมา บรรดานางสนมกำนัลที่อยู่บนฉัตร ยืนโงนไปเงนมา จนตกมาตายหลายต่อหลายตน เสียงวิ้ดว้ายยิ่งดังระงมไปใหญ่ ทศกัณฐ์เป็นห่วงบรรดาเมียๆทั้งหลาย เลยแปลงร่าง งอกมือมาให้ครบข้างละ 10 โดยมือข้างนึงก็กอดไว้คนนึง กอดไว้จนเต็มอกไปหมด...แทนที่จะได้สู้กับสุครีพ เลยต้องมามัวสาละวันอยู่กับบรรดาเมียๆๆๆ ดังบทกลอน...
.

           เมื่อนั้น                 ทศเศียรสุริย์วงศ์ยักษา
ไม่รู้ที่จะต่อฤทธา                 ผู้เดียวพะว้าพะวังใจ
เวียนวงไปตามกงฉัตร           หลีกลัดมิให้เข้าใกล้
กรหนึ่งกอดนางมณโฑไว้      กรสองคว้าได้นางอัคคี
สิบเจ็ดกรอุ้มฝูงกำนัล            กรหนึ่งแกว่งพระขรรค์ชัยศรี
ขัดขวางทางที่จะต่อตี            อสุรีถอยรับวานร

(โถๆๆ เวรแท้ๆ กรรมไม่แบเลยเนี่ย...เฮียทศฯ สู้อุตส่าห์มีตั้งยี่สิบมือ อุ้มเมียซะสิบเก้ามือ เหลือใช้สู้เพียงมือเดียว...)

สุครีพเห็นทศกัณฐ์มัวแต่ยุ่งอยู่กับเมียทั้งหลาย เลยจัดการหักยอดฉัตรแก้วซะ จนแสงแดดกลับมาส่องทัพพระรามอีกครั้งนึง จากนั้นก็ลอยขึ้นไปบนอากาศ...

ทศกัณฐ์เป็นห่วงเหล่านางสนมอย่างยิ่ง แต่ก็ต้องแข็งใจเหาะขึ้นไปรบกับสุครีพกลางอากาศ ทศกัณฐ์ถูกสุครีพทั้งตีด้วยท่อนฉัตร ทั้งถีบด้วยสองเท้าจนตกจากยอดฉัตรเกลือกกลิ้งอยู่บนพื้น แต่ยังไม่ฆ่าทศกัณฐ์...เพราะเดี๋ยวทำเกินคำสั่ง...ขอแค่หยามไว้ก่อนคือ สุครีพใช้ตีนคีบมงกุฎทศกัณฐ์ออกจากหัว และเยาะเย้ยว่า...

..ดู ดู๋..นี่หัวใครเนี่ย พระรามนายกูสั่งมาให้เพียงแค่หักฉัตร มิฉะนั้นหัวมรึงขาดแล้ว ดีหละกรูจะเอาราชมงกุฎนี้ไปถวายเพื่อเสริมพระเกียรติแด่พระราม...

แล้วตะโกนสัมทับบอกทศกัณฐ์อีกว่า...

...เฮ้ย ไอ้ยักษ์หน้าหม้อ นี่แค่สั่งสอนเบาะๆนะ ถ้าไม่ติดว่าเป็นการทำเกินหน้าที่ พ่อจะตัดหัวเจ้าเอาไปถวายพระรามเสียโดยพลัน ฮ่า ฮ่า ฮ่า...
ว่าแล้วสุครีพก็บินจากไปโดยพลัน...

ทศกัณฐ์ต้องมองดูสุครีพบินจากไปด้วยความอัปยศอดสูถึงขีดสุด.....
(เอ..เล่ามาถึงตอนนี้ ก็ชักจะลังเลแล้วว่า ทศกัณฐ์นี่ เค้าเก่งจริงรึเปล่าหว่า...แพ้พาลี แพ้สุครีพ...เจอหนุมาน เจอองคต...ก็ทำอะไรลิงพวกนี้ไม่ได้...ซักกะติ๊ด)

.



สุครีพหักฉัตร


.



.



.



.




« Last Edit: 11 May 2024, 16:33:03 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,556


View Profile
« Reply #2 on: 08 May 2023, 09:32:59 »


8 พฤษภาคม 2022  ·

ภาพสุครีพหักฉัตร...
(ยังจำกันได้ไหมครับ เมื่อครั้งเรียนอยู่ชั้น ป.5)

.




.



.



.




« Last Edit: 11 May 2024, 16:34:07 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,556


View Profile
« Reply #3 on: 11 May 2024, 16:34:48 »


ปรับปรุงภาพใหม่




Logged
Pages: [1] Go Up Print 
« previous next »
 

SMF 2.0.4 | SMF © 2013, Simple Machines | Theme by nesianstyles | Buttons by Andrea
Page created in 0.062 seconds with 16 queries.