Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
User Info
Welcome, Guest. Please login or register.
19 May 2024, 22:00:43

Login with username, password and session length
Search:     Advanced search
News
ท่านสมาชิกสามารถเปลี่ยนรูปแบบ (Theme) ได้อีกหลายแบบ
เชิญทดลองโดยคลิกที่ลิงค์ข้างล่าง ได้เลยครับ

http://www.smilesiam.net/index.php/topic,3170.msg4713.html
Forum Stats
25,703 Posts in 12,501 Topics by 70 Members
Latest Member: KAN
Home Help Search Calendar Login Register
Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...  |  ภาพประทับใจ  |  ผนังเก่าเล่าเรื่อง (Moderator: ผนังเก่าเล่าเรื่อง)  |  [35] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน องคตสื่อสาร โดย กลม บางบาน
0 Members and 1 Guest are viewing this topic. « previous next »
Pages: [1] Go Down Print
Author Topic: [35] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน องคตสื่อสาร โดย กลม บางบาน  (Read 65 times)
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,556


View Profile
« on: 06 May 2023, 09:58:44 »

[35] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน องคตสื่อสาร โดย กลม บางบาน


6 พฤษภาคม 2022  ·

เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน องคตสื่อสาร (1)

-ทูตองคต -1-

ณ เวลานี้ทัพของพระรามเคลื่อนที่ประชิดติดกรุงลงกา ภายในกรุงลงกาก็เตรียมระดมทัพยักษ์พร้อมรบเต็มอัตราศึก...

พระรามเรียกประชุมแม่ทัพนายกอง และเสนาธิการ ว่า เราจะบุกกรุงลงกายังไงดี เพราะตอนนี้ฝั่งทัพยักษ์เตรียมรบเต็มที่ ถ้ายกทัพไปตีเมืองกันแบบดื้อๆ มีหวังได้ล้มตายกันระนาว นอกจากนั้นทัพวานรฝั่งเรามีจำนวนน้อยกว่าทัพยักษ์หลายเท่า และอีกฝั่งก็ตั้งรับ ยิ่งรบกันไปมีหวังทัพของฝั่งเราแพ้หลุดลุ่ยแน่ๆ

ที่ประชุมสรุปกันว่า ทัพเราเพิ่งจะยกทัพมาถึง ยังต้องให้เวลาทัพวานรพักเอาแรง และจัดตั้งทัพให้เรียบร้อยก่อนสัก 2-3 วัน ในช่วงนี้ เราควรส่งทูตทหารไปเจรจากับฝั่งลงกา เพื่อหาทางออกครั้งสุดท้าย โดยหวังว่าทศกัณฐ์จะคืนนางสีดาให้ทัพพระราม เพื่อที่จะได้หลีกเหตุนองเลือด (ผมคิดในใจ..ถ้าทศกัณฐ์ยอมคืนนางสีดาให้ตอนนี้ และเรื่องรามเกียรติ์ตัดจบง่ายๆแบบนี้ แฟนๆก็เซ็งเป็ดอ่ะดิ...)

ที่ประชุมเห็นตรงกันว่า ควรจะส่งทูตทหารไปเจรจาก่อน แต่ปัญหาคือใครจะไปเป็นทูต เพราะการจะไปเป็นทูตในเมืองศัตรู ที่ล้อมรอบไปด้วยยักษ์ที่เจ้าเล่ห์เพทุบาย โหดเหี้ยมอำมหิต มันเหมือนกับการซื้อตั๋วเดินทางไป แต่ไปหาตั๋วขากลับเอาดาบหน้าเอาเอง

งานนี้แม้จะมีเหล่าแม่ทัพวานรเสนอตัวกันมากมาย เพราะแย่งกันแสดงผลงาน แต่พระรามได้ตรึกตรองดูแล้ว เห็นว่า องคต นี่แหละน่าจะเหมาะสมที่สุด นี่ถือเป็นทักษะการใช้คนของพระรามที่สุดยอดนะครับ เลือกใช้คนให้ถูกกับงาน

สาเหตุที่พระรามเลือกองคต แทนที่จะเป็นแม่ทัพวานรตนอื่น เพราะ องคตอุปราชแห่งขีดขิน ดูสุขุม ไม่บ้าบิ่นแบบหนุมาน ตัดสินใจแก้ปัญหาได้รวดเร็ว มีวาทะศิลป์ในการเจรจา และที่สำคัญความสามารถในการรบ ไม่แพ้แม่ทัพวานรตนอื่นๆเลย


.....แทรก.....
เหตุผลที่ต้องใช้องคต...เพราะองคตคือหนามยอกอกทศกัณฐ์ องคตเกิดจากพาลีและนางมณโฑ แล้วภายหลังทศกัณฐ์ได้นางมณโฑคืนโดยที่พาลียอมทำ เพราะฤาษีอังคตขอเอาไว้ว่า...ควรคืนเมียคนอื่นเพื่อความถูกต้อง...

องคตตอนนั้นอยู่ในท้องแม่ ยังต้องผ่าออกตั้งแต่ยังไม่ครบกำหนดคลอดเลย พาลียังยอมเพราะเพื่อรักษาศีลธรรมอันดี ทศกัณฐ์เคยอ้างความถูกต้อง แต่ขณะนี้ทำผิดซะเอง 

ต่อมาทศกัณฐ์แปลงร่างเป็นปูยักษ์ หมายจะฆ่ากุมารน้อย องคต เพื่อขจัดเสี้ยนหนามยอกอก แต่ก็ถูกพาลีจับได้ มัดประจานให้องคตลากเล่น หยดน้ำและข้าวที่เหลือเดนจากนางสนมกำนัลให้เพื่อประทังชีวิต 

องคตคือลูกคนโตของนางมณโฑ ถึงพญายักษ์จะเจ้าชู้อย่างไร ทศกัณฐ์ก็ยังยกนางมณโฑเป็นที่หนึ่งในราชสำนักฝ่ายใน บ้างว่าขนาดโปรดนางสีดาขนาดไหน ยังไม่กล้าเอาเข้าวังเพราะเกรงใจนางมณโฑ องคตจะทำการรุนแรง หมิ่นเกียรติอย่างไร ทศกัณฐ์จะไม่ฆ่าองคตแน่ๆ เพราะเกรงใจนางมณโฑผู้ภริยาอย่างมาก 
อีกอย่าง องคตเป็นองค์ชายอยู่ในรั้วในวังตั้งแต่เด็ก ได้รับการอบรมทางมารยาท จารีต การเจรจาทางการทูตมาอย่างดี จึงเป็นผู้ที่เหมาะสมที่สุดที่จะเป็นทูตถือสาส์นในองค์รามไปส่งให้ทศกัณฐ์
.....แทรก.....

.




.




.



.



.




« Last Edit: 06 May 2024, 08:39:26 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,556


View Profile
« Reply #1 on: 06 May 2023, 10:00:04 »


6 พฤษภาคม 2022  ·

เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน องคตสื่อสาร (2)

-ทูตองคต -2-

รุ่งเช้า องคต ถือพระราชสาส์นทูนเหนือหัว เหาะมุ่งตรงสู่เมืองลงกา เมื่อถึงประตูเมือง พวกยักษ์เฝ้าประตูเมืองรีบปิดประตูลงกลอน เตรียมซัดหอก ธนู ใส่เต็มที่ แล้วนายประตู ก็ร้องถาม...

...นี่เจ้าลิงตัวเขียว เจ้าเป็นใคร มีธุระอะไรจงบอกมา...

องคตเนรมิตกายให้ใหญ่โตกว่าประตูเมือง จนสามารถบังแสงอาทิตย์ไว้มิด จนทำให้กรุงลงกา บัดนี้อยู่ในความมืด กระทืบบาทจนพื้นสะเทือนไปทั่วลงกา แล้วคำรามตอบยักษ์ประจำประตูลงกาว่า...

...ข้าชื่อองคต เป็นทูตนำสาส์นจากพระรามมาให้เจ้าลงกานายมรึง จงรีบเปิดประตูซะดีๆ แล้วนี่พวกเอ็งเล่นจะมาฆ่าแกงกันตั้งแต่หน้าประตูเมืองเชียวรึ??!...
แล้วนายทวารยักษ์เวรเฝ้าประตู ก็รีบส่งข่าวเข้าไปยังพระราชวังว่า...องคต ลิงเขียว นำสาส์น ของพระรามมาถวาย...

เมื่อทศกัณฐ์ทราบเรื่อง ก็หนวดกระดิก เพราะรู้ว่า องคตคือลูกของพาลี(ผัวเก่า)นางมณโฑ ที่ตอนเป็นเด็กพาลีเคยจับปูยักษ์(ปู-ทศกัณฐ์แปลง ไม่ใช่ปู-โลกเบี้ยว)ให้องคตลากเล่นหนุกหนานๆมาแล้ว...

จึงสั่งให้ เปาวนาสูร เสนาธิการยักษ์คู่ใจ ไปเจรจาดูสิว่า ลิงตัวนี้มันจะมาไม้ไหนกันแน่?
(ทศกัณฐ์มีเสนาธิการคู่หูคู่ใจ 2 ตนคือ เปาวนาสูร กะ มโหทร...แม๊..นึกว่าเป็น 2 ป.ซะอีก...ป้อม กะ ป๊อก น่ะ)

เปาวนาสูร ออกไปยืนบนป้อม(ป้อมอีกแย้ววว)และเจรจากับองคตว่า...มาทำอีหยัง?

องคตหลังจากยืนรอมาแล้วสิบนาที ก็เริ่มเมื่อย ร้องตะโกนไปว่า...

...ข้าเป็นทูต (ตะโกนครั้งที่สองแล้วนะเฟร้ย..) จะมาเจรจาการศึกกับทศกัณฐ์ รีบๆเปิดประตูให้ข้าเข้าไปพบทศกัณฐ์โดยเร็ว...

เปาวนาสูร แทนที่จะเปิดประตู กลับซักไซ้ ถามนู้นนี่นั่น จนองคตเริ่มหงุดหงิด เพราะต้องตอบคำถาม วกไปวกมาอยู่นั่นแหละ และพอจะเจรจาอะไรลงรายละเอียด เปาวนาสูร ก็เอาแต่บอกว่า..ไม่รุ..ไม่รุ...เหมือนลุงป้อม ไม่มีผิด...ฮาาาา...

...ไม่รู้ มันเป็นเรื่องของสภา...ไม่รู้ มันเป็นเรื่องของคณะกรรมาธิการ...ไม่รู้ มันเป็นเรื่องของมติ ครม...ไม่รู้ เพราะมันเป็นนาฬิกายืมเพื่อนมา...ไม่รู้ เพราะไม่ใช่เรื่องของกรู...

องคต เลยแทบจะอดรนทนไม่ไหว เพราะในเมื่อเมริงไม่รู้เรื่องอะไรเลย แล้วจะมาเสียเวลาเจรจากับตรูทำมายเนี่ย...ว่าแล้ว องคต ก็เนรมิตตัวเองให้ใหญ่จนบังแสงอาทิตย์จนมิด กรุงลงกาจึงตกอยู่ในสภาพ black out มืดมิดไปทั้งเมือง เปาวนาสูร เห็นดังนั้น ก็เริ่มกลัว จึงเลิกทำตัวเวิ้นเว่อ รีบแจ้นกลับไปแจ้งข่าวทศกัณฐ์

ทศกัณฐ์แปลกใจมากที่อยู่ดีๆ ลงกาไฟดับทั้งเมือง...เมื่อได้รับทราบเรื่องจากเปาวนาสูร แล้วยิ่งหนวดกระดิกไปกันใหญ่ อยากจะส่งแม่ทัพยักษ์ออกไปสั่งสอนไอ้ลิงตัวนี้เสีย แต่ที่ประชุมทหารยักษ์ ห้ามไว้ก่อน เพราะเป็นธรรมเนียมการศึก เราจะไม่ควรเข่นฆ่าคณะทูต เดี๋ยวจะเสื่อมเสียพระเกียรติอภิมหายักษ์เปล่าๆ
ที่ประชุมทหารเสนอว่า...ในเมื่อทูตที่มาเจรจาคือ องคต ซึ่งเป็นวานรที่มีฤทธิ์เยอะ เลื่องลือระบือไกลไปทั่ว เหตุใดเราไม่ส่งนางมณโฑที่เป็นแม่แท้ๆขององคตออกไปเกลี้ยกล่อมให้องคตมาอยู่กับฝั่งลงกาเสียเลย...


.....แทรก.....
ถ้ายังจำกันได้ องคต นั้นเป็นบุตรของ พาลี และ นางมณโฑ ในสมัยที่พาลียังมีชีวิต เห็นนางมณโฑครั้งแรกแล้วปิ๊ง จึงไปแย่งมาจากทศกัณฐ์ดื้อๆ ทศกัณฐ์สู้พาลีไม่ได้ จนต้องไปขอร้องให้ฤๅษีอังคต อาจารย์ของพาลี ไปทวงขอนางมณโฑคืน ซึ่งพาลีก็ยอม เพราะเห็นแก่หน้าฤๅษีอังคต แต่ติดตรงที่ว่า
 นางมณโฑ ท้องโย้ เสียแล้ว ฤๅษีอังคตเลยต้องทำพิธีแหวะท้อง เอาบุตรซึ่งก็คือ องคต นั่นแหละ ไปใส่ในท้องแพะ เพื่อให้ครบกำหนดตั้งครรภ์ ก่อนจะส่งตัวนางมณโฑ คืนให้ทศกัณฐ์ และชื่อของ องคต ก็มาจากฤๅษีอังคตนั่นแหละครับ ฉะนั้นตั้งแต่ องคต เกิด มาจนบัดนี้ ยังไม่เคยเจอหน้าแม่บังเกิดเกล้าสักกะที นี่จึงเป็นโอกาสอันดีที่แม่ลูกจะได้พบหน้ากัน
.....แทรก.....


.



องคตถือพระราชสาส์นของพระรามไปกรุงลงกา


.

องคตเนรมิตกายให้ใหญ่โตกว่าประตูเมือง จนสามารถบังแสงอาทิตย์ไว้มิด
ในภาพนางสนมกำนัลที่เอาอาหารมาให้องคต ตกใจกลัว หนีกันจ้าละหวั่น


.



.

เปาวนาสูร กะ มโหทร


.





« Last Edit: 06 May 2024, 08:42:02 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,556


View Profile
« Reply #2 on: 06 May 2023, 10:01:09 »


6 พฤษภาคม 2022  ·

เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน องคตสื่อสาร (3)

-ทูตองคต -3 สาม-

ทศกัณฐ์ได้ฟังดังนั้น ก็รู้สึกกระอักกระอ่วน กลืนไม่เข้าคายไม่ออก หายใจติดขัด สมองมึนชาไปหมด หน้าร้อน หูแดง ไม่รู้จะทำอย่างไรดี

...องคต ลูกของพาลีกะนาง..... เออ...ไอ้องคตนำสาส์นมาทวงแม่สีดาแน่ๆ ทหารอย่าให้มันเข้ามา ให้รออยู่ที่หน้าประตูเมืองนั่นแหละ...

ทศกัณฐ์จึงสั่งให้นางสนมกำนัลไปตามตัวนางมณโฑ มาเข้าเฝ้า...นางสนมรับบัญชา พากันวิ่งจนผ้าซิ่นปลิว เข้าตำหนักฝ่ายใน เพื่อทูลเชิญให้พระแม่มณโฑให้รีบไปชะลอ มิให้องคตเข้าเมืองลงกา และโน้มน้าวให้เลิกทัพกลับไปซะเถิด...

พอได้ยินชื่อ...องคต...นางมณโฑรู้สึกชาไปทั้งร่าง แล้วรำพึงรำพันอยู่ในใจว่า...นางเคยถูกแก่งแย่งจากชาย และส่งคืนกัน ดั่งสิ่งของก็มิปาน...

...องคตลูกแม่ แม่ทิ้งเจ้ามาเพราะความเป็นหญิง แม่ไม่เคยทำหน้าที่แม่ของเจ้าเลย แล้วข้าจะบากหน้าไปพบลูกชายที่ข้าเคยทิ้งเขามาได้อย่างไร ข้าไม่เคยนึกฝันว่าความทรงจำอันเลวร้ายจะตามมาหลอกหลอนถึงหน้าประตูเมืองเยี่ยงนี้ หากผู้ที่มาเยือนคือศัตรู ข้าผู้เป็นราชินีแห่งลงกาคงจะสั่งเหล่าขุนพลมารออกไปกำจัดมันเสีย แต่นี่คือลูกของข้า ลูกคนแรกของข้า... 

นางมณโฑเผลอยิ้มทั้งน้ำตา มันช่างเป็นความยินดีที่ขมขื่นซะจริงๆ

ในระหว่างนี้ องคต ยืนรอหน้าประตูมาจะสามชั่วโมงแล้ว จุดเดือดกำลังใกล้จะแตก...มันจะให้กรูยืนรอไปอีกนานขนาดไหนฟร่ะ ร้อนนะเฟร้ยยยย...

นางมณโฑเมื่อได้รับฟังแผนของทศกัณฐ์ ก็ตกใจ เพราะแม้ตัวเองจะเป็นแม่ขององคต แต่ก็แค่อุ้มครรภ์ไม่กี่เดือน แถมไม่ได้คลอด ไม่ได้เลี้ยงองคตเลย ความผูกพันแม้จะมีแต่ก็ไม่มากเท่าไหร่ เกรงว่า องคต จะไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นแม่ (จริงๆแล้วคนที่องคตนับถือว่าเป็นแม่ คือ นางดารา เมียพาลี ที่เลี้ยงดูองคตมาตั้งแต่อ้อนแต่ออกครับ) จะออกไปเจอพบหน้ากันตรงๆ ก็กลัวว่า องคต อาจจะทำร้ายได้ นางจึงสั่งให้ นางกำนัล จัดแต่งเครื่องกับข้าว คาวหวานไปต้อนรับองคตที่หน้าประตูเมืองก่อน คอยสังเกตอารมณ์ ถ้าองคตอารมณ์ดี ยิ้มแย้มเมื่อไหร่ ค่อยส่งซิกให้นางออกไปเจรจา

นางกำนัลก็รีบจัดการแต่งองค์ทรงเครื่อง แต่งหน้าแต่งตา จัดเครื่องคาวหวาน ใช้เวลาในการนี้อีกเป็นชั่วโมงๆๆ องคตที่ยืนตากแดดมาแล้วครึ่งวัน เริ่มตะโกน ออกมา...

...กรูทนไม่ไหวแล้วนาว้อย ถ้ายังไม่เปิดประตูเมือง เดี๋ยวพ่อจะพังเข้าไป ณ บัดนาว...

พอดีขบวนนางกำนัลก็รีบวิ่งแจ้นออกมาพอดี พร้อมกับ รีบเอาเครื่องคาวหวาน น้ำดื่มเย็นๆมามอบให้องคต เพื่อให้อารมณ์เย็นๆหน่อย องคตในเวลานั้นไม่สนใจอาหารบ้าๆบอๆนี่แล้ว ตะโกนกลับไปว่า...

...ไม่มีอารมณ์จะกินอะไรทั้งนั้น ยืนรอตากแดดมาครึ่งวันแล้ว ทศกัณฐ์จะเอายังไงก็ให้ว่ามา...

นางกำนัลได้ยินลิงยักษ์ตะโกน ก็กลัวกันจนหัวหด ร้องห่มร้องไห้ซิกๆๆๆๆ กันเป็นแถว

องคต เห็นดังนั้นก็ยิ่งเดือด เพราะบอกให้รีบไปแจ้งทศกัณฐ์ให้เปิดประตู นี่ดันมาร้องห่มร้องไห้อาไรกันอีกเนี่ย...

นางกำนัลก็บอกว่า...ถ้าท่านไม่รับประทานอาหารที่พวกนางจัดมา นางจะต้องถูกลงโทษแน่ๆ นางเสียใจ นางเฮิร์ท นางระทมขมขืน นางอ่อนไหว นาง...
องคตได้ยินนางกำนัลเวิ้นเว่อไปเรื่อยเปื่อยแบบนั้น ก็ฟิวส์ขาด...

...โธ่ว้อย ไอ้ยักษ์เมืองนี้มันพันธุ์เดียวกันหมด เรื่อยเปื่อยกันทั้งเมือง...ว่าแล้วองคตก็เอาส้นเท้าถีบเข้าที่ประตูเมือง ถีบอยู่ไม่กี่ที กำแพงเมืองก็พังเป็นแถบ พวกยักษ์เวรยามและนางกำนัลต่างวิ่งหนีกันไปคนละทิศคนละทาง

ถ้าประตูเมืองมันห่วยขนาดให้องคตถีบไม่กี่ทีก็พัง แล้วมันจะสร้างไว้ป้องกันอะไรได้เนี่ย??? สงสัยมันจะมีการคอร์รัปชั่นในการก่อสร้างประตูเมือง เหมือนโครงการ บ้านเอื้ออาทร เป็นแน่แท้...

.


นางมณโฑ แม่ขององคต(ลูกคนแรกที่เกิดกับพาลี)


.

ความเป็นมาขององคต เด็กชายอุ้มบุญ คนแรกของโลก


.

ฤๅษีอังคตเลยต้องทำพิธีแหวะท้อง เอาบุตรซึ่งก็คือ องคต นั่นแหละ ไปใส่ในท้องแพะ


.

ฤๅษีอังคตเลยต้อง เอาองคต ไปใส่ในท้องแพะ เพื่อให้ครบกำหนดตั้งครรภ์ ก่อนจะส่งตัวนางมณโฑ คืนให้ทศกัณฐ์ และชื่อของ องคต ก็มาจากฤๅษีอังคตนั่นแหละครับ


.





« Last Edit: 06 May 2024, 08:44:53 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,556


View Profile
« Reply #3 on: 07 May 2023, 09:41:25 »


7 พฤษภาคม 2022  ·

เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน องคตสื่อสาร (4)

-องคตเจรจา -1-

หลังจากองคตถีบประตูเมืองพังกระจัดกระจาย ก็เดินอาดๆเข้าไปยังท้องพระโรง นับได้ว่าระบบการรักษาความปลอดภัยของลงกาห่วยแตกมาก...
ที่ท้องพระโรง องคตเห็นทศกัณฐ์นั่งอยู่บนบัลลังก์สูง ทศกัณฐ์กำลังนั่งรออยู่พอดี

องคตเห็นดังนั้น จึงมิรอช้า เดินข้ามหัวเหล่าเชื้อพระวงศ์เสนาอำมาตย์ที่หมอบเฝ้าแล้วหยุดลงตรงหน้าทศกัณฐ์ แล้วจึงทดขนดม้วนหางทำเป็นที่นั่งส่วนตัว
ให้ตัวเองสูงเสมออยู่ในระดับเดียวกับทศกัณฐ์ องคตไม่หลบตาพญายักษ์อย่างผู้อื่น กลับจ้องตาอย่างมาดมั่น

ทศกัณฐ์เห็นแบบนั้น ก็หนวดกระดิก ร้อนรุ่มดุจไฟรน...

...อุเหม่...มันเป็นทูตภาษาอะไรฟร่ะ มาทำตัวสูงเสมอเจ้าลงกาอย่างข้า...แต่ก็ทำอะไรมากไม่ได้ เพราะที่นั่งขององคตมันเป็นที่นั่งส่วนตัว แบบสะดวกพกพาติดตัวมาเอง

องคตเจรจาว่าความ โดยขอร้องให้ทศกัณฐ์คืนนางสีดามาเต๊อะ...สงครามจะได้ไม่เกิด ทศกัณฐ์จะได้ไม่ต้องอับอาย พ่ายแพ้พระราม และยังพาลให้ลูกเต้า ญาติสนิท มิตรสหายต้องล้มตายเป็นเบือในสงคราม เพราะพระรามหน่ะ เป็นพระนารายณ์อวตาร ทศกัณฐ์จะไปเอาอะไรมาสู้ สู้ไปก็มีแต่ตายตกไปตามกัน ซะมากกว่า...

ตกลง องคต มันมาเป็นฑูต หรือมากระตุ้นต่อมสงครามให้ทศกัณฐ์ กันหล่ะนี่??

ทศกัณฐ์ทนนั่งฟังอยู่นาน เดือดดาลเป็นอันมาก จนอดรนทนไม่ไหว เพราะเหมือนนั่งให้องคตมันด่าเอาๆๆๆ

...นี่เจ้าองคต กรูไม่รู้ว่ามรึงโง่หรือโดนหลอกจนหมดใจ พญาพาลีพ่อของมรึงถูกพระรามฆ่าอย่างไร้เหตุผล เหตุใดมรึงยังแสดงความจงรักภักดีแก่พวกมนุษย์ยากจนได้ลงคอ มันชอบอ้างว่าตัวมันเป็นพระนารายณ์ เจ้าเชื่อข้ออ้างโง่ๆด้วยหรือ?!?

...มรึงก็เป็นบุตรแห่งมณโฑชายาเรา กรูไม่อยากให้เราสองนครต้องนองเลือดกันด้วยลมปากมนุษย์ องคตเจ้าจงนำพลวานรของเจ้ากลับขีดขินซะเถิด...

หากมีคนสังเกต จะได้ยินเสียงถอนใจเป็นพักๆจากหลังม่าน เสียงสะอื้นอย่างท้อใจ ใช่ของใครอื่น ผู้นั้นคือ นางมณโฑ นั่นเอง

ด้วยความเป็นสตรี นางไม่สามารถปรากฎกายในระหว่างกิจทางการทูตได้ แต่ด้วยความเป็นแม่ นางยอมฝืนจารีตที่ได้รับการปลูกฝังมา เฝ้าดูการเติบโตของโอรสคนแรกของนาง

...พ่อทูลหัวของแม่ ลักษณะท่าทางของเจ้าเหมือนพ่อยิ่งนัก ดูแววตาอันเด็ดเดี่ยวคู่นั้นสิ นั่นมันพาลีชัดๆ ข้ากลัวเหลือเกิน กลัวว่าองคตจะเหมือนพ่อเกินไป เพราะหากพาลีภักดีกับใครแล้วแม้ชีวิตยังถวายได้...ข้าไม่อยากเห็นภัสดาของข้าและลูกในไส้ต้องฆ่าฟันกันเอง...

.


องคต ขนดหางทดเป็นบัลลังก์สูงเท่าทศกัณฐ์


.

ทูตองคต อ่านพระราชสาส์นของพระราม


.

ภาพจาก หนังอินเดียเรื่อง รามเกียรติ์ ช่อง 8


.




« Last Edit: 06 May 2024, 08:47:14 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,556


View Profile
« Reply #4 on: 07 May 2023, 09:45:53 »


7 พฤษภาคม 2022  ·

เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน องคตสื่อสาร (5)

-องคตเจรจา -2-

องคตสีหน้านิ่ง มิไหวติงตามคำยั่วยุของทศกัณฐ์...

...ท่านอย่ามาเฉไฉเอาเรื่องพ่อเรามาอ้างเลย พาลีพ่อเราไม่เคยเสื่อมเกียรติ เสียสัตย์ พาลีพ่อเราไม่เคยถูกใครฆ่า พระรามเมตตาพ่อเราให้เพียงแค่ปลายศรได้สะกิดเลือดให้ซึมพอเป็นสัญลักษณ์ แต่ด้วยความเป็นลูกผู้ชายที่ถือสัจจะเป็นใหญ่กว่าชีวิต พาลีจ้าวแห่งวานรยืดอกรับในสิ่งที่ตนก่อว่าไม่ถูกต้อง ไม่กล้าสู้หน้าชาวโลก ไม่เหมือนท่านที่อ้างตัวเป็นเจ้าแห่งอสูร แต่กลับทำตนผิดศีลธรรม ใช้เล่ห์กลแย่งภรรยาคนอื่นมาครอบครอง...นี่หรือจอมกษัตริย์... 

ทศกัณฐ์โกรธจัด...เหม่ เหม่..ไอ้ลิงน้อยปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ข้านี้ก็ถือเป็นผู้ใหญ่ที่เจ้าควรให้ความเคารพ อย่างน้อยก็เป็นภัสดาแห่งมารดาเจ้า ด้วยความอ่อนโลกทำให้เจ้าถูกมนุษย์ล้างสมอง...หากเราไม่เห็นแก่นางมณโฑ ป่านนี้เจ้าคงไม่มีหน้ามาต่อคำให้เราเสื่อมเสียอย่างนี้หรอก...คิดซะว่าข้าทำบุญไว้ชีวิตเจ้าละกัน...ไปๆ กลับไปคบค้ากับพวกมนุษย์ซะ... 

องคตก็ยังไม่ไหวติง กลับยิ้มที่มุมปากอย่างได้ที...ข้าอาจจะเป็นเด็กอ่อนแก่โลก แต่พอจำได้ว่า ครั้งตอนข้ายังเยาว์นัก มีปูยักษ์แปลงหมายลอบทำร้ายข้า แต่ด้วยความเก่งกล้าของบิดาพญาพาลี จับปูแปลงมัดซะอยู่หมัด ยังโยงสายจูงให้ข้าลากเล่น ข้ายังจำได้ว่าเคยทำบุญเอาข้าวเหลือเดนจากนางสนมกำนัล หยอดเลี้ยงชีวิตปูตัวนั้นตลอดเจ็ดวัน...ข้าว่าข้าได้ทำบุญมากกว่าท่านตั้งแต่กาลก่อนแล้วนะ ลุงปูจ๋าของหลาน...
ดังบทกลอน...
.
เมื่อบิดากูยังอยู่นั้น              จับได้กุมภัณฑ์ตนหนึ่งไป
มันนั้นสิบเศียรสิบหน้า         กายาเหมือนเอ็งยังจำได้
ผูกมัดทรมานประจานไว้      ให้กูลากเล่นต่างปู
หากว่าเอาข้าวเดนกำนัล      ให้กินวันละปั้นจึ่งรอดอยู่
เอ็งอย่าจองหองสู่รู้             ต่อสู้ด้วยองค์พระกาล
ถึงลัสเตียนพ่อมึง                ซึ่งมีฤทธากล้าหาญ
มาช่วยก็จะม้วยวายปราณ     ไอ้สาธารณ์อย่าพักอหังการ์ ฯ
.

ทศกัณฐ์เสียหน้าต่อธารกำนัล แต่ก็เถียงไม่ออกเพราะทุกเรื่องที่องคตกล่าวถึง เป็นความจริง จึงหงุดหงิด รีบตัดบท ตบมือเรียก สี่เสนาซ้ายขวา แล้วสั่งการว่า...

...หวังเฉา หม่าฮั่น...ว้ายย ผิดเรื่อง... องครักษ์ทั้งสี่...เจ้าจงนำลิงสามหาวตัวนี้ไปสังหารซะ ข้าปล่อยให้มันโอหังมานานแล้ว...จัดการมัน...

ทศกัณฐ์สั่งให้เสนายักษ์ 4 นาย จับตัวองคตไปเจี๋ยนเสีย...แต่ลูกสมุนของทศกัณฐ์ก็โหล่ยโท่ยเกินกว่าจะไปสะกิดผิวขององคตได้ เจอองคตลากเอาทั้ง 4 ไปเหวี่ยงเล่นสนุกสนาน คอหักตายกันเรียบทั้ง 4 นาย...สมแล้วที่องคตบอกว่า...ทัพทศกัณฐ์ จะเอาอะไรมาสู้ ทัพพระราม...

องคตเห็นแล้วว่า เจรจาไปก็ไลฟ์บอย (ก็แหงหล่ะ พี่เล่นหลอกด่าเค้าอย่างเดียวนิ) องคตจึงชี้หน้าจอมอสูรพร้อมแอบเยาะเย้ยทศกัณฐ์ก่อนลาว่า...

...ทศกัณฐ์ การทูตแบบผู้มีอารยะ คงไม่สามารถปลุกความผิดชอบชั่วดีในตัวเจ้าได้ ถ้าไม่ติดว่าทำเกินหน้าที่ ที่พระรามมอบหมายมาให้เป็นทูต ข้าจะฆ่าเจ้าเสียให้รู้แล้วรู้รอดไปเบยย...

ทศกัณฐ์นั้นยืนตัวแข็ง...ไม่รู้ว่าเพราะกลัวองคต หรือว่าเพราะกำลังเซ็งเป็ดเซ็งห่านที่ทำไมลูกน้องตรูมันถึงได้โหล่ยโท่ย โดนองคตหักคอตายภายในพริบตา

(แล้วตรูจะเอาอะไรไปสู้พระรามเนี่ย??)

องคตเดินอาดๆกลับทัพพระรามแบบสะดวกโยธิน...พระรามตรัสชมองคตว่า...ยอดเยี่ยมจุงเบยยย... (ตกลงส่งองคตมันไปทำหน้าที่อะไรเนี่ย!!???)

.


ทศกัณฐ์


.

ทศกัณฐ์โกรธ


.

องคตเยาะเย้ยทศกัณฐ์


.

พาลีจับปูยักษ์ทศกัณฐ์ ที่ลอบมาจะฆ่าองคตตอนเด็ก แล้วผูกเชือกล่ามปู ให้องคตลากเล่นสนุกสนานๆ


.




« Last Edit: 06 May 2024, 08:49:45 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,556


View Profile
« Reply #5 on: 07 May 2023, 09:47:30 »


7 พฤษภาคม 2022  ·

เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน องคตสื่อสาร (6)

-องคตเจรจา -3สาม-- (บทกลอน) ตอนพิเศษ  แถมให้สำหรับแฟนๆ

https://vajirayana.org/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B9%8C/%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-%E0%B9%94%E0%B9%93

https://vajirayana.org/บทละครเรื่องรามเกียรติ์/สมุดไทยเล่มที่-๔๓
วัชรญาณ สมุดไทยเล่มที่ ๔๓ บทละครเรื่องรามเกียรติ์
.

             ๏ เมื่อนั้น              ทศกัณฐ์ฤทธิไกรใจหาญ
ได้ฟังจึ่งตอบด้วยคำพาล        เหวยไอ้เดียรัจฉานอัปรีย์
ไม่มีความอัปยศอดอาย          ช่างนับหน้าว่านารายณ์เรืองศรี
ชั่วช้าทรลักษณ์กาลี               ทั้งกระบี่สุครีพผู้เป็นอา
จะใคร่ได้สมบัติของพี่ตน        จึ่งคบคนอาธรรม์มาเข่นฆ่า
ตัวมึงก็ลูกในอุรา                  ไม่รู้คุณบิดาด้วยอันใด
กูเป็นผู้อื่นยังคิดแค้น              แน่นอกปิ้มเลือดตาไหล
ชาติไอ้เดียรัจฉานจังไร           คือใครจะนับว่าดี ฯ

            ๏ เมื่อนั้น                องคตผู้ชาญชัยศรี
ได้ฟังจึ่งตอบอสุรี                   อันองค์พระตรีภูวไนย
ใช่จะประสงค์จำนงมา             ฆ่าบิดากูก็หาไม่
เหตุด้วยทำผิดติดตัวไว้           โทษใหญ่แต่ดึกดำบรรพ์
สาบานว่าให้ต้องศร                พระสี่กรธิราชรังสรรค์
พระองค์จะประทานชีวัน          แต่ให้มีสำคัญในกายา
หากบิตุเรศกูสู้ตาย                 มิให้แผลพานกายเท่าเกศา
จึ่งถวายกูไว้กับพระอา            ในเบื้องบาทาพระทรงธรรม์
เหตุไฉนจึ่งเอามาว่าขาน         แกล้งกล่าวประจานเสกสรร
เมื่อบิดากูยังอยู่นั้น                 จับได้กุมภัณฑ์ตนหนึ่งไป
มันนั้นสิบเศียรสิบหน้า            กายาเหมือนเอ็งยังจำได้
ผูกมัดทรมานประจานไว้         ให้กูลากเล่นต่างปู
หากว่าเอาข้าวเดนกำนัล        ให้กินวันละปั้นจึ่งรอดอยู่
เอ็งอย่าจองหองสู่รู้                ต่อสู้ด้วยองค์พระกาล
ถึงลัสเตียนพ่อมึง                   ซึ่งมีฤทธากล้าหาญ
มาช่วยก็จะม้วยวายปราณ       ไอ้สาธารณ์อย่าพักอหังการ์ ฯ

           ๏ เมื่อนั้น               ทศเศียรสุริย์วงศ์ยักษา
ได้ฟังกริ้วโกรธโกรธา            อสุราเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน
ลุกขึ้นชี้นิ้วกระทืบบาท           สั่งสี่อำมาตย์แข็งขัน
จับไอ้องคตใจฉกรรจ์             ที่มันองอาจอหังการ์
ผ่าปากลากลิ้นวานร               ตัดกรตัดเกล้าเกศา
เสียบไว้ที่นอกทวารา             ให้สมนํ้าหน้าไอ้อัปรีย์ ฯ

.


วันหนึ่งทศกัณฐ์รู้ข่าวการทำพิธีสรงน้ำขององคต ด้วยความแค้นจึงเดินทางไปยังโรงพิธีริมฝั่งแม่น้ำยมุนา


.

ที่โรงพิธีริมฝั่งแม่น้ำยมุนา


.



.

ทศกัณฐ์จึงแปลงกายเป็นปูยักษ์คอยอยู่ใต้น้ำเพื่อรอฆ่าองคตขณะทำพิธีสรง


.

แต่พาลีรู้ทันจึงจับตัวมาได้และผูกมัดจนแน่น แล้วให้องคตลากเล่นนานอยู่ 7 วันจึงค่อยปล่อยตัวไป สร้างความบอบช้ำและอับอายแก่ทศกัณฐ์เป็นอย่างมาก


.

แต่พาลีรู้ทันจึงจับตัวมาได้และผูกมัดจนแน่น แล้วให้องคตลากเล่นนานอยู่ 7 วันจึงค่อยปล่อยตัวไป สร้างความบอบช้ำและอับอายแก่ทศกัณฐ์เป็นอย่างมาก


.

ฉากหน้าประตูเมือง
องคตได้รับบัญชาจากพระรามให้มาเป็นทูตเจรจาความเมืองกับทศกัณฐ์
เมื่อเดินทางมาถึงประตูเมืองลงกา องคตจะเข้าเมืองแต่ถูกห้ามไม่ให้เข้า องคตจึงพังประตูเมืองเข้าไป


.

ฉากท้องพระโรงกรุงลงกา ทศกัณฐ์ประทับว่าราชการอยู่


.

องคตเข้ามายังท้องพระโรง แล้วแผงฤทธิ์ขนดหางเป็นแท่นที่นั่งเท่าทศกัณฐ์


.

องคตเข้ามายังท้องพระโรง แล้วแผงฤทธิ์ขนดหางเป็นแท่นที่นั่งเท่าทศกัณฐ์
แล้วอ่านราชสารซึ่งมีข้อความให้ทศกณฐ์ส่งนางสีดาคืน ไม่เช่นนั้นจะยกทัพมาสังหารพวกยักษ์


.

ทศกณฐ์ได้ยินก็โกรธแกล้งพูดเฉไฉไปมาและไม่ยอมส่งนางสีดาคืน กล่าวตอบโต้ไปมา
จนทศกัณฐ์โกรธสั่งสี่เสนาเข้าจับตัวองคต ทั้งสองฝ่ายเข้ารบกัน องคตสังหารสี่เสนาตาย


.

แล้วเยาะเย้ยทศกัณฐ์ จากนั้นก็กลับมาเฝ้าพระราม


.





« Last Edit: 06 May 2024, 08:55:43 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,556


View Profile
« Reply #6 on: 06 May 2024, 08:57:01 »


ปรับปรุงภาพใหม่



Logged
Pages: [1] Go Up Print 
« previous next »
 

SMF 2.0.4 | SMF © 2013, Simple Machines | Theme by nesianstyles | Buttons by Andrea
Page created in 0.076 seconds with 16 queries.