Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
User Info
Welcome, Guest. Please login or register.
19 May 2024, 05:07:32

Login with username, password and session length
Search:     Advanced search
News
ท่านสมาชิกสามารถเปลี่ยนรูปแบบ (Theme) ได้อีกหลายแบบ
เชิญทดลองโดยคลิกที่ลิงค์ข้างล่าง ได้เลยครับ

http://www.smilesiam.net/index.php/topic,3170.msg4713.html
Forum Stats
25,701 Posts in 12,500 Topics by 70 Members
Latest Member: KAN
Home Help Search Calendar Login Register
Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...  |  ภาพประทับใจ  |  ผนังเก่าเล่าเรื่อง (Moderator: ผนังเก่าเล่าเรื่อง)  |  [33] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน กำเนิดมัจฉานุ โดย กลม บางบาน
0 Members and 1 Guest are viewing this topic. « previous next »
Pages: [1] Go Down Print
Author Topic: [33] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน กำเนิดมัจฉานุ โดย กลม บางบาน  (Read 51 times)
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,554


View Profile
« on: 03 May 2023, 10:25:35 »

[33] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน กำเนิดมัจฉานุ โดย กลม บางบาน


3 พฤษภาคม 2022  ·

เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน กำเนิดมัจฉานุ (1)

-กำเนิดมัจฉานุ-1-

เมื่อเสร็จสรรพเรียบร้อย ได้เสียเป็นเมียผัวกันไปแระ...สุพรรณมัจฉาก็กราบหนุมานที่ตักในฐานะภรรยา...น้องขอฝากชีวิตกับพี่ตลอดชาติ อย่าได้ทำให้น้องเสียชื่อ เสียเกียรติอีกเลย...

หนุมานบรรจงจูบที่มือ แล้วว่า...ที่รักของพี่อย่ากังวลไปเลย หากงานเสร็จแล้ว พี่จะรีบกลับมาหาเจ้าคนดี...

จากนั้น หนุมานก็ขอให้นางสุพรรณมัจฉาเห็นใจว่าตัวเองเนี่ย..รับโองการมาจองถนนให้แล้วเสร็จในเจ็ดวัน ม่ายงั้นจะโดนลงอาญา และขอให้ฝูงปลานำหินไปไว้ที่เดิมด้วยนะ
(ผู้ชายก็เห็นแก่ตัวอย่างงี้แหละ เอาแต่ได้ฝ่ายตนข้างเดียว ได้ตัวแล้วยังได้งาน...ทีตัวเองกลัวโดนลงทัณฑ์...แล้วนางสุพรรณมัจฉาล่ะ...ไม่ห่วงเรอะ ว่าทำงานไม่สำเร็จ..จะโดนคุณพ่อสิบหัว โยงขื่อเฆี่ยนเอารึป่าว...)

นางเงือกสาวได้แต่ร้องไห้ ซบที่ตักหนุมาน...กรรมของสุพรรณมัจฉา มีผัวไม่ทันข้ามวันก็ต้องจากลา...แล้วนางสุพรรณมัจฉาก็สั่งพหลพลปลา คาบก้อนศิลาไปคืนที่ดังเดิม 

ฝ่ายหนุมาน เมื่อเสร็จสมอารมณ์หมายแล้ว ก็ร่ำลานางเงือก...หนุมานประคองหน้านาง ปาดน้ำตา พยักหน้าแล้วเหาะจากน้ำ ขึ้นฝั่ง ไปในบัดดล...

จากนั้น หนุมานได้ไปรายงานให้สุครีพฟังว่า...ลงไปไล่ฆ่าปลาน้อยใหญ่ที่มาขโมยหิน จนสามารถบังคับให้เอาก้อนหินมาคืนได้... 

ต่อจากนั้น ถนน Tollway expressway เริ่มเป็นรูปร่าง พาดกลางมหาสมุทรจนจบที่ชายฝั่งลงกา สุครีพสั่งให้ทหารวานรนำทรายละเอียดมาโรย ปรับให้พื้นถนนเรียบ เพื่อเชิญพระรามเสด็จสู่ลงกา ต่อไป

...
หลังจากนางสุพรรณมัจฉา ได้สร้างปรากฏการณ์มหัศจรรย์กับหนุมานเรียบร้อยแล้ว นางก็ตั้งครรภ์ในบัดดล!!! เฮ้ยยย...จิงดิ!!! เชื้อหนุมานนี่เจ๋งเป้งไปเล้ยยย
อารามตอนที่นางตั้งครรภ์ คงไม่แตกต่างอะไรจากเด็กสก๊อยส์ใจแตก เมื่อรู้ว่าท้อง ครั้นจะไปบอกพ่อ คงโดนพ่อเอ็ดตะโร บ้านแตกแน่ๆ เพราะพ่อใช้มาทำงาน...นอกจากจะไม่ได้งานแล้ว ยังไปเสียตัวให้ศัตรู แถมป่องกลับมาอีก โดนโยงขื่อโบยด้วยแส้หลังขาดแน่...

นางสุพรรณมัจฉาก็เลยเลือกที่จะหลบหน้าทศกัณฐ์ผู้เป็นพ่อ เมื่อครบกำหนดคลอด จึงว่ายน้ำไปที่ชายฝั่ง แอบไปคลอดลูกเอง

ด้วยความที่เป็นเงือกสาวด้อยประสบการณ์ กลัวว่าลูกจะคลอดยาก กลัวเจ็บ จึงอธิษฐานขอให้เทวดาช่วยให้ตัวเองสำรอกลูกออกได้โดยง่ายเถิด (นางเงือกจะคลอดลูกโดยการสำรอกลูกออกทางปาก) 

เทวดาบนสวรรค์รู้ได้โดยญาณวิเศษว่า เด็กที่กำลังจะคลอด เป็นเด็กวิเศษ ที่จะกลายเป็นกำลังสำคัญให้กับพระราม นารายณ์อวตารในอนาคต จึงรีบแห่กันลงมาทั้งเทวดาและนางฟ้า มาช่วยกันทำคลอดให้นาง

นางสุพรรณมัจฉาคลอดลูกออกมาเป็นวานรเผือก เหมือนหนุมานเป๊ะ! ต่างกันตรงที่มีหางเป็นปลาให้พอรู้ว่ามีแม่เป็นนางเงือก ที่สำคัญวานรน้อยตัวหอมเหมือนแม่ มีขนเป็นเพชรเหมือนพ่อ รูปหล่อเป็นที่สุด (ถ้ามีตัวเป็นปลา แต่ขาเป็นลิง คงน่าเกลียดน่าดู) วานรน้อยคลอดออกมาปุ๊บ.ก็เหมือนเด็กอายุ 16 ปั๊บ! (จะได้ไม่เสียเวลาเลี้ยงดู) เทวดาที่บินลงมาทำคลอดให้ เห็นแล้วก็ปลื้มปิติ พร้อมช่วยกันตั้งชื่อว่า มัจฉานุ (มัจฉา ตามชื่อแม่ และ นุ มาจากชื่อพ่อ)

.


มัจฉานุ ตัวเป็นลิงเผือก มีหางเป็นปลา


.

เทวดาและนางฟ้าจากสวรรค์ เหาะลงมาช่วยกันทำคลอดให้นางสุพรรณมัจฉา บีบคลึงท้องให้สำรอกคลอดลูกออกมาทางปาก


.




« Last Edit: 04 May 2024, 22:17:46 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,554


View Profile
« Reply #1 on: 03 May 2023, 10:26:15 »


3 พฤษภาคม 2022  ·

เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน กำเนิดมัจฉานุ (2)

-กำเนิดมัจฉานุ-2-

นางเงือกสาวให้นมลูกจนอิ่ม หอมแก้มซ้ายขวา พลิกดูขาแขนว่าสมบูรณ์ดี ดูเหมือนทารกน้อยจะโตเกินกว่าทารกทั่วไป สามารถเข้าใจคำที่แม่พูดอย่างรู้ภาษา ต้องเป็นผู้วิเศษดั่งพ่อแน่ๆ แต่ทันใดนั้น ความหนาวเย็นวูบก็เข้ามาในหัวใจบุตรีแห่งทศกัณฐ์

...หากเสด็จพ่อรู้ว่าเราได้เสียกับหนุมานผู้เผาลงกา เราต้องรับโทษอย่างหนัก ลูกของเราคงต้องถูกประหารเป็นแน่ เพราะเจ้าแห่งอสูรอย่างทศกัณฐ์ คงไม่ยอมเสียเกียรติยอมรับลูกศัตรูเป็นหลานอย่างแน่นอน...แล้วเราจะทำอย่างไรดี...

นางสุพรรณมัจฉากอดลูกทั้งน้ำตา...ทูลหัวของแม่ เจ้าดื่มนมแรกจากแม่ยังมิทันอิ่ม เราก็ต้องลาจากเพื่อหนีอาญาแล้วนะลูก แม่ขออธิษฐานต่อเทวาให้เจ้าเจอผู้มีบุญญาธิการคอยดูแล ปกป้องเลี้ยงดูเจ้าเยี่ยงลูกพญา

...จงจำไว้ว่า พ่อของเจ้าชื่อหนุมาน ตอนนี้พ่อของเจ้าต้องจากแม่ไปทำงานซาอุ เอ๊ย! ไปเป็นทหารเอกให้พระราม พ่อเจ้ามีกุนฑล ขนเพชร เขี้ยวแก้ว เหาะเหินเดินอากาศได้ ที่สำคัญสามารถหาวเป็นดาวเป็นเดือนได้

...แล้วในภายภาคหน้า สักวันนึงดวงชะตาจะพาเจ้าและพ่อให้มาพบกัน ถ้าเจ้าสงกะสัยว่าวานรตนนั้นเป็นพ่อเจ้าหรือไม่ ให้ร้องขอให้วานรตนนั้นแสดงอภินิหาร เหาะเหินเดินอากาศ และหาวเป็นดาวเป็นเดือนให้ดู ถ้าวานรตนนั้นทำได้...นั่นแหละพ่อของเจ้า ให้เจ้ารีบเข้าไปกราบโดยพลัน...

...จำไว้นะลูก ความรักของแม่จะอยู่กับเจ้าตลอดไป...พอกล่าวจบ นางสุพรรณมัจฉาก็ปาดน้ำตา วางลูกที่ชายหาด อธิษฐานให้เจ้าสมุทร เจ้าเขา เทพแห่งป่า คุ้มครองลูกตน แล้วว่ายน้ำออกสู่มหาสมุทร อย่างไม่หันหลังกลับ...(เศร้าใจจัง...สงสารทั้งแม่และลูกที่ต้องพลัดพรากจากกัน เด๋วขอราม-ลักษมณ์..แอบสะอื้นหน่อย...)

จากนั้นนางสุพรรณมัจฉาก็หมดบทบาท ปลีกตัวหายแว่บไปจากท้องเรื่องรามเกียรติ์…โดยพลัน

ในภาพนี้ นอกจาก มัจฉานุ ที่ปรากฏตัวครั้งแรกแล้ว ยังมีพญายักษ์ชื่อว่า ไมยราพ ปกครองเมืองบาดาล ปรากฏโฉมให้เห็นกันด้วยครับ...

.




.





« Last Edit: 04 May 2024, 22:18:57 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,554


View Profile
« Reply #2 on: 03 May 2023, 10:26:51 »


3 พฤษภาคม 2022  ·

เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน กำเนิดมัจฉานุ (3)

-มัจฉานุเฝ้าด่าน

ณ เมืองบาดาล ของพญายักษ์ ไมยราพ...

ปู่ของไมยราพชื่อ ท้าวสหมลิวัน เป็นเพื่อนซี้กับปู่ของทศกัณฐ์ที่ชื่อ ท้าวจตุรพักตร์ ในสมัยที่ท้าวจตุรพักตร์ก่อร่างสร้างเมืองลงกาใหม่ๆ ท้าวสหมลิวัน ที่แต่เดิมก็เคยปกครองลงกาอยู่ แต่โดนพิษการเมือง เอ๊ย.โดนพระนารายณ์กำราบ จนต้องหนีหัวซุกหัวซุนไปกบดานอยู่ที่ดูไบ เอ้ย.เมืองบาดาล อยู่หลายปีนั้น เคยมอบของขวัญแก่ท้าวจตุรพักตร์เป็นบุษบกแก้ว ที่ทศกัณฐ์ใช้ขี่ไปชิงตัวนางสีดา มานั่นแหละครับ (ถ้าอ้างอิงจากรามายณะ ท้าวสหมลิวัน และ ท้าวจตุรพักตร์ นั้นก็เกี่ยวดองเป็นญาติกันด้วย ฉะนั้น ไมยราพ กับ ทศกัณฐ์ ก็ถือได้ว่าเป็นญาติกันเหมือนกัน แต่อาจจะห่างๆ กันสักหน่อย)

ไมยราพเป็นลูกของ ท้าวมหายมยักษ์และนางจัทรประภา มีพี่สาวร่วมท้องชื่อนางพิรากวน (ผู้มีลูกชื่อไวยวิก) ท้าวมหายมยักษ์ก็ดันเกลียดชัง ทศกัณฐ์ เข้าไส้ กำชับลูกๆของตัวเอง ซึ่งก็รวมถึง ไมยราพด้วยว่า อย่าไปยุ่งเกี่ยวข้องแวะกับ ทศกัณฐ์ เด็ดขาด มิฉะนั้นจะนำความฉิบหายมาสู่เมืองบาดาล...

วันนึง ในขณะที่ ไมยราพ ปกครองเมืองบาดาลอย่างผาสุข ก็ฝันประหลาดว่า...มีเทวดาเหาะลงมา เอาดวงแก้วสว่างไสวมาวางไว้ตรงหน้า...พอรุ่งเช้า ไมยราพ จึงให้โหรทำนายว่า...ฝันนี้มีความหมายว่ากะไร?

โหรทำนายทายทักว่า...ท่านกำลังจะได้บุตรบุญธรรมที่มีบุญญาธิการและอิทธิฤทธิ์มากมายในไม่ช้า ซึ่งก็ประจวบเหมาะเจาะพอดีที่วันนึง ไมยราพขึ้นมาบนโลกเหนือเมืองบาดาลไปเดินเล่นริมฝั่งทะเล แล้วก็ได้พบกับ มัจฉานุ กำลังว่ายน้ำไปมาอยู่ รูปร่างทะมัดทะแมง ดูมีฤทธิ์เก่งกล้าเกินหน้ายักษ์ในเมืองบาดาล...หรือว่านี่คือ บุตรบุญธรรมตามที่โหรทำนายไว้?

ไมยราพณ์เห็นวานรน้อย ณ ริมฝั่งทะเล ก็รีบเข้าไปสนทนาจนรู้สึกถูกคอ ถูกชะตาในความน่ารักของลิงมีหาง

...นี่เจ้าลิงน้อยหางปลา เจ้าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ถึงมาเล่นแต่ผู้เดียวบนชายหาดนี้...

ด้วยความที่เป็นเด็กเฉลียวฉลาด เห็นว่าพญาไมยราพคือผู้เป็นที่พึ่งของตน ลิงน้อยพนมมือก้มลงกราบ

...หนูชื่อมัจฉานุ แม่คือนางสุพรรณมัจฉา หนูขอฝากตัวเป็นข้าบาทพระองค์ พระราชาผู้ใจดี...ไมยราพยิ้มร่าอย่างเอ็นดู

...ดูดู๋ เจ้าลิงน้อย ช่างพูดวาจาฉลาดแหลมคมนัก พ่อว่าเราต้องเคยเป็นพ่อลูกกันมาในชาติก่อนแน่ๆ ตัวพ่อก็ไม่ลูก มามะ มาเป็นลูกพ่อเพื่อสืบราชสมบัติแห่งเมืองบาดาลต่อไปเถิด...แล้วพญาไมยราพก็อุ้มมัจฉานุเข้าเอวอย่างเอ็นดู พากลับเมืองบาดาลทันที และคิดว่า...นี่แหละฝันเป็นจริงแล้ววว...

ไมยราพจึงรับมัจฉานุเป็นบุตรบุญธรรม และเห็นว่ามัจฉานุ มีชาติเป็นปลา อยู่ในเมืองคงไม่สุขใจ จึงสั่งให้ทหารขุดสระใหญ่ขึ้นที่ด่านชั้นในของเมืองบาดาล ปลูกบัวนานาพันธุ์ให้เต็มสระ เพื่อที่มัจฉานุจะได้แหวกว่ายเล่นได้อย่างเต็มอารมณ์ โดยไมยราพณ์ได้ร้องขอให้ มัจฉานุ เฝ้าด่านแห่งนี้ ป้องกันไม่ให้ศัตรูบุกเข้าเขตชั้นในของเมืองบาดาลได้ 

มัจฉานุก็เฝ้าด่านเมืองบาดาลอย่างแข็งขัน ป้องกันศัตรูที่จะเข้ามาโจมตีเมืองบาดาลตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา.....รอวันที่จะได้พบศัตรูตัวฉกาจในวันข้างหน้า

.




.



.



.




« Last Edit: 04 May 2024, 22:20:43 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,554


View Profile
« Reply #3 on: 04 May 2024, 22:21:34 »


ปรับปรุงภาพใหม่










Logged
Pages: [1] Go Up Print 
« previous next »
 

SMF 2.0.4 | SMF © 2013, Simple Machines | Theme by nesianstyles | Buttons by Andrea
Page created in 0.047 seconds with 16 queries.