Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
User Info
Welcome, Guest. Please login or register.
09 May 2024, 12:08:42

Login with username, password and session length
Search:     Advanced search
News
ท่านสมาชิกสามารถเปลี่ยนรูปแบบ (Theme) ได้อีกหลายแบบ
เชิญทดลองโดยคลิกที่ลิงค์ข้างล่าง ได้เลยครับ

http://www.smilesiam.net/index.php/topic,3170.msg4713.html
Forum Stats
25,649 Posts in 12,466 Topics by 70 Members
Latest Member: KAN
Home Help Search Calendar Login Register
Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...  |  ภาพประทับใจ  |  สถานที่สวยงาม (Moderator: ppsan)  |  วัดมหาธาตุ จ.พระนครศรีอยุธยา โดย สายหมอกและก้อนเมฆ
0 Members and 1 Guest are viewing this topic. « previous next »
Pages: [1] Go Down Print
Author Topic: วัดมหาธาตุ จ.พระนครศรีอยุธยา โดย สายหมอกและก้อนเมฆ  (Read 68 times)
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,502


View Profile
« on: 21 January 2023, 23:31:36 »

วัดมหาธาตุ จ.พระนครศรีอยุธยา โดย สายหมอกและก้อนเมฆ


วัดมหาธาตุ จ.พระนครศรีอยุธยา โดย สายหมอกและก้อนเมฆ


ไปไหนก็ต้องผ่านเจดีย์วัดสามปลื้ม


จะไปวัดมหาธาตุ




๑๖.๓๒ น. ถึงแล้วค่ะ






ค่าเข้าชมโบราณสถาน คนไทย ๑๐ บาท / นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ๕๐ บาท




เจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม มีชั้นซ้อนลดหลั่นกัน ๔ ชั้น ชั้นที่ ๑ - ๓ ทำเป็นซุ้ม คาดว่าเดิมแต่ละซุ้มน่าจะประดับปูนปั้นรูปเจดีย์
เนื่องจากมีร่องรอยเหลืออยู่หนึ่งซุ้ม ระหว่างซุ้มประดับด้วยปูนปั้นรูปเทวดา ส่วนชั้นที่ ๔ ทุกด้านมีพระปรางค์จำลองสลับกับพรหม


ส่วนด้านบนสุดเป็นพระปรางค์ขนาดเล็กๆ เจดีย์องค์อาจสื่อถึงสวรรค์ชั้นต่างๆ ก็เป็นได้
ปัจจุบัน ยังไม่ทราบประวัติที่มาของเจดีย์องค์นี้





ไฮไลท์ของวัดมหาธาตุ ที่ใครๆ ก็ต้องมาถ่ายภาพ เป็นอันซีนด้วยค่ะ








.................

วัดมหาธาตุ

หมายถึง วัดอันเป็นที่สถิตของพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า สร้างขึ้นในสมัยขุนหลวงพะงั่ว เมื่อปี พ.ศ. ๑๙๑๗
แต่เข้าใจว่าการก่อสร้างเสร็จสิ้นในรัชสมัยพระราเมศวร

*** จากหนังสือท่องเที่ยวอยุธยาบอกว่า...

วัดมหาธาตุไม่สามารถยืนยันประวัติการสร้างได้อย่างแน่ชัด เนื่องจากหลักฐานทางเอกสารมีความขัดแย้งกัน
โดยวันวลิตบันทึกว่า พระเจ้าอู่ทองโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น ส่วนพงศาวดารกลับระบุว่าสร้างขึ้นในสมัยขุนหลวงพะงั่ว ***

จารีตของการสร้างพระเจดีย์ขนาดใหญ่เอาไว้ในเมือง ซึ่งถือสมมุติว่าพระเจดีย์นั้นเป็นที่สถิตของพระบรมสารีริกธาตุ
และวัดนั้นถือว่าเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ มักจะมีชื่อว่า วัดมหาธาตุ หรือ วัดพระศรีมหาธาตุ หรือ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ปรากฏโดยทั่วไปในทุกภูมิภาค

จารีตดังกล่าวนี้จะเริ่มในสมัยใดนั้นไม่ทราบได้ แต่หากจะพิจารณาเฉพาะอาณาจักรอยุธยา จะเห็นได้ว่าธรรมเนียมดังกล่าวเริ่มตั้งแต่สมัยแรกๆ ทีเดียว
       
วัดมหาธาตุจึงเป็นวัดที่สำคัญที่สุดวัดหนึ่งของอาณาจักร ในฐานะที่เป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า
อีกทั้งหากจะพิจารณาดูสถานที่ตั้งก็จะเห็นว่าอยู่ใกล้ชิดกับพระบรมมหาราชวังเป็นอย่างยิ่ง
ดังนั้นวัดนี้จึงเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช (ฝ่ายคามวาสี) มาตลอดจนสิ้นกรุงศรีอยุธยา
(ส่วนพระสังฆราชฝ่ายอรัญวาสีนั้น ประทับอยู่ที่วัดใหญ่ชัยมงคล หรือ สำนักวัดป่าแก้ว)

วัดมหาธาตุนี้ ได้รับการบูรณะอีกหลายครั้ง เช่นในสมัยเจ้าสามพระยาได้ทรงตกแต่งวัดด้วยบรรดาประติมากรรมสำริด
ที่ขนมาจากพระนครหลวง (นครธม) ในการมีชัยชนะเหนือเขมร อาทิ รูปราชสีห์ หมี หงส์ นกยูง กินนร โค สุนัขป่า กระบือ สุกร และมังกร
โดยเรียงรายอยู่รอบวัดมหาธาตุ

ปรางค์ประธานของวัดได้ทลายลงมาจนถึงชั้นครุฑในสมัยพระเจ้าทรงธรรม ซึ่งได้มีการซ่อมใหญ่ในสมัยพระเจ้าปราสาททอง (พ.ศ. ๒๑๗๖)
โดยปรับองค์ปรางค์ซึ่งมีลักษณะ “ล่ำนัก” ให้เพรียวสูงขึ้นจาก ๑๙ วา กลายเป็น ๑ เส้น ๒ วา และมีนภศูลอีก ๓ วา
รวมความสูงทั้งสิ้น ๑ เส้น ๕ วา หรือ ๕๐ เมตร

เข้าใจว่าคงจะมีการสร้างอาคารและเจดีย์หลายชนิดเพิ่มเติมอีกในสมัยต่างๆ กัน หลังจากเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ ๒
วัดนี้จึงได้ร้างและเสื่อมโทรมเรื่อยมา จนกระทั่งปรางค์ประธานวัดได้พังทลายลงมา

ในสมัยรัชกาลที่ ๖ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ กรมศิลปากรได้ทำการขุดแต่งบูรณะวัดมหาธาตุขึ้น เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๙
โดยให้ความสำคัญที่ตรงกลางพื้นห้องคูหาเรือนธาตุของปรางค์ประธาน ตามรอยที่คนร้ายได้ลักลอบขุดไปก่อนหน้านี้แล้ว
ทำให้ได้พบปล่องภายใน มีสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุอยู่ด้วย

การค้นพบนี้ทำให้เรามีความรู้เกี่ยวกับการบูชาพระบรมสารีริกธาตุในสมัยอยุธยาเพิ่มมากขึ้น กล่าวคือ
พระบรมสารีริกธาตุนั้นบรรจุอยู่ในผอบ ๗ ชั้น จากชั้นในสุดออกมาชั้นนอก ดังนี้

พระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งเป็นผลึกขนาดประมาณ ๑ ใน ๓ ของเมล็ดข้าวสารนั้น บรรจุในตลับทอง
ชั้นที่ ๒ คือ สถูปแก้วผลึก ซึ่งประดับด้วยทองอัญมณี ได้แก่ โกเมน มรกต และทับทิม ชั้นที่ ๓ เป็นสถูปไม้แดง ชั้นที่ ๔ เป็นสถูปไม้ดำ
ชั้นที่ ๕ สถูปนาก ชั้นที่ ๖ สถูปเงิน ชั้นที่ ๗ สถูปชิน สถูปทั้ง ๗ ชั้นบรรจุในเสาหิน สูง ๓.๒๐ เมตร ภายในกลวงมีฝาปิด
เสาหินนี้อยู่ภายในช่องเป็นปล่องยาวจากตรงกลางห้องคูหาเรือนธาตุจนจรดระดับพื้นดิน

ปัจจุบัน สถูปทั้งหมดพร้อมพระบรมสารีริกธาตุนั้นได้เก็บรักษาและจัดแสดงให้ชมและสักการบูชาที่ห้องมหาธาตุ
ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา


การเดินทาง
หากเดินทางมาจากกรุงเทพโดยใช้ถนนสายเอเชีย (ทางหลวงหมายเลข 32) เลี้ยวซ้ายตรงสี่แยกเข้าอยุธยา ตรงเข้ามาผ่านสะพานนเรศวร
ตรงไปจนถึงสี่แยกไฟแดงที่ ๒ เลี้ยวขวาตรงไปไม่ไกลนัก ผ่านบึงพระราม จะเห็นวัดมหาธาตุอยู่ทางซ้ายมือ

ข้อมูลจาก //www.ayutthayastudies.aru.ac.th/content/view/360/116/

................












มองยากเหมือนกันค่ะ  ไม่รู้ภาพไหนก่อน - หลัง






อลังการงานสร้างมาก...








ป้ายสีแดงด้านบนเขียนว่า










เขตกำแพงแก้ววัดมหาธาตุ มีถนนคั่น มองไปฝั่งโน้น










แนวกำแพงแก้ว
















ต่อตอนหน้าค่ะ



.....
ขอขอบคุณ ภาพและเรื่องจาก
วัดมหาธาตุ อยุธยา (๑) โดย สายหมอกและก้อนเมฆ
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=morkmek&month=09-2015&date=11&group=3&gblog=303

Create Date : 11 กันยายน 2558
Last Update : 11 กันยายน 2558 5:12:50 น.      
Counter : 7448 Pageviews.



Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,502


View Profile
« Reply #1 on: 21 January 2023, 23:32:56 »


วัดมหาธาตุ อยุธยา (๒) โดย สายหมอกและก้อนเมฆ

วัดมหาธาตุ
ตั้งอยู่เชิงสะพานป่าถ่าน ทางทิศตะวันออกของวัดพระศรีสรรเพชญ์
เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30  น.

ค่าเข้าชม ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างประเทศ 50 บาท
และตั้งแต่เวลาประมาณ 19.30 น. - 21.00 น. จะมีการส่องไฟชมโบราณสถาน

การเดินทาง
จากกรุงเทพฯ เข้าตัวเมืองอยุธยาแล้วข้ามสะพานสมเด็จพระนเรศวรมหาราชตรงไปจนถึงสี่แยกไฟแดงที่ 2
เลี้ยวขวาตรงไปไม่ไกลนัก ผ่านบึงพระราม จะเห็นวัดมหาธาตุอยู่ทางซ้ายมือ

สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดมหาธาตุ คือ

1. พระปรางค์ขนาดใหญ่
ซึ่งในปัจจุบันพังทลายลงมาหมดแล้ว ที่ฐานของพระปรางค์ มีรูปราชสีห์ หมี หงส์ นกยูง กินนร โค สุนัขป่า กระบือ มังกร เรียงรายอยู่โดยรอบ
รูปเหล่านี้อาจหมายถึงสัตว์ในป่าหิมพานต์ที่รายล้อมอยู่เชิงเขาพระสุเมรุ ซึ่งเป็นแกนกลางของจักรวาล

2. เจดีย์แปดเหลี่ยม
เป็นเจดีย์ลดหลั่นกัน 4 ชั้น 8 เหลี่ยม ชั้นบนสุดประดิษฐานปรางค์ขนาดเล็ก ซึ่งเจดีย์องค์นี้จัดว่าเป็นเจดีย์ที่แปลกตา พบเพียงองค์เดียวในอยุธยา

3. วิหารที่ฐานชุกชีของพระประธานในวิหาร
กรมศิลปากรพบว่ามีผู้ลักลอบขุดลงไปลึกถึง 2 เมตร จึงดำเนินการขุดต่อไปอีก 2 เมตร พบภาชนะดินเผาขนาดเล็ก 5 ใบ บรรจุแผ่นทองเบาๆ รูปต่างๆ

4. พระปรางค์ขนาดกลาง
ภายในพระปรางค์ มีภาพจิตรกรรม เรือนแก้วซึ่งเป็นตอนหนึ่งในพุทธประวัติ

5. ตำหนักพระสังฆราช
บริเวณพื้นที่ว่างทางด้านทิศตะวันตก เป็นสถานที่ ที่เป็นที่ตั้งพระตำหนักพระสังฆราช ราชทูตลังกาได้บอกไว้ว่า
เป็นตำหนักที่สลักลวดลายปิดทอง มีม่านปักทอง พื้นปูพรม มีขวดปักดอกไม้เรียงราย เป็นแถวเพดานแขวนอัจกลับ (โคม) มีบังลังก์ 2 แห่ง

6. เศียรพระพุทธรูปหินทราย ซึ่งมีรากไม้ต้นโพธิ์ปกคลุมอยู่
เป็นพระพุทธรูปหินทรายเหลือแค่ส่วนเศียร สำหรับองค์พระนั้นหายไป และเป็นเศียรพระพุทธรูปศิลปะอยุธยา


ข้อมูลจาก //travel.truelife.com/detail/2804452

.................


แผนที่จากหนังสือ ท่องเที่ยว เรียนรู้ กรุงศรีอยุธยา




ต่อจากตอนที่แล้วเลยนะคะ








ไปโบราณสถานหลายที่ เคยเห็นเค้าเรียงก้อนหินเหมือนกัน แต่เราไม่เคยเรียง ไม่รู้ความหมายด้วย เรียงเพื่อ ?








เหลือแค่นี้








ตอนกลางคืน เปิดไฟ น่าจะสวยไปอีกแบบเนาะ










วันนี้มากันสามคนค่ะ หมอกไม่ได้มา


















ใบเสมา








































เหมือนบ่อน้ำค่ะ






17.02  น.  นักท่องเที่ยว ชาติไหนมา ก็ต้องแวะจุดนี้ เศียรพระพุทธรูปหินทรายในรากไม้








เดินออกมาแล้วค่ะ




เหนื่อยเหมือนกัน... เดินทั้งวัน เหลืออีกวัดจบแล้วค่ะ


ภาพสุดท้าย



.....
ขอขอบคุณ ภาพและเรื่องจาก
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=morkmek&month=09-2015&date=21&group=3&gblog=304
วัดมหาธาตุ อยุธยา โดย สายหมอกและก้อนเมฆ

Create Date : 21 กันยายน 2558
Last Update : 21 กันยายน 2558 5:14:44 น.      
Counter : 3129 Pageviews.



Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,502


View Profile
« Reply #2 on: 22 January 2023, 15:41:11 »

วัดมหาธาตุ พระนครศรีอยุธยา  โดย สายหมอกและก้อนเมฆ [2]


ออกจากวัดราชบูรณะ เราขี่จักรยานมาต่อที่วัดมหาธาตุเลย บางคนก็จอดรถไว้ที่หน้าวัดราชบูรณะแล้วเดินเอาค่ะ
ขี่จักรยานต้องยูเทิร์นก่อน เดินจะใกล้กว่า







สำหรับวัดมหาธาตุนั้นเคยเป็นพระอารามหลวงที่รุ่งเรืองมากในอดีต สร้างขึ้นในช่วงกรุงศรีอยุธยาตอนต้น รัชสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 (ขุนหลวงพะงั่ว) เมื่อ พ.ศ. 1917 แต่ยังไม่แล้วเสร็จดีก็สวรรคตก่อน ต่อมาในรัชสมัยสมเด็จพระราเมศวร ทรงสร้างเพิ่มเติมจนเสร็จบริบูรณ์ โดยโปรดให้สร้างพระมหาธาตุสูง 17 วา ยอดสูง 3 วา ณ บริเวณที่พระองค์ทอดพระเนตรเห็นพระบรมสารีริกธาตุแสดงปาฏิหาริย์ แล้วโปรดให้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาบรรจุใต้ฐานพระปรางค์ประธานของวัด พระราชทานชื่อว่า “วัดพระมหาธาตุ”

พระปรางค์ประธานถือเป็นพระปรางค์ยุคแรกสมัยอยุธยา ที่ได้รับอิทธิพลศิลปะจากปรางค์ของขอม เป็นเจดีย์ทรงปรางค์ก่อด้วยศิลาแลงและอิฐ เคยพังทลายลงจนถึงเรือนธาตุในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม (พ.ศ. 2153-2171) ต่อมารัชสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง (พ.ศ. 2172-2199) ได้โปรดให้บูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ โดยเสริมให้สูงกว่าเดิมเป็น 25 วา และมีระเบียงคดล้อมรอบทั้งสี่ด้าน แต่เมื่อหลังเสียกรุงครั้งที่ 2 ได้ถูกทิ้งร้าง จนกระทั่วถึง พ.ศ. 2454 สมัยรัชกาลที่ 6 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระปรางค์ได้พังทลายลงทั้งองค์ เหลือเพียงส่วนฐานของเรือนธาตุ

ต่อมา พ.ศ. 2499 กรมศิลปากรได้ขุดแต่งพระปรางค์ประธาน ที่ใต้ห้องเรือนธาตุ พบเครื่องทอง และผอบทองคำบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ปัจจุบันเก็บรักษาอยู่ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา

ด้วยเหตุที่ในอดีตนั้น วัดมหาธาตุเป็นพระอารามที่ตั้งอยู่ใจกลางพระนครศรีอยุธยา และเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช ฝ่ายคามวาสี จึงมักเป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีสำคัญ ๆ ของกรุงศรีอยุธยา จนกระทั่งสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถได้สร้างวัดพระศรีสรรเพชญ์ จึงย้ายไปประกอบพระราชพิธีที่พระอารามแห่งนั้นแทน

อีกหนึ่งปูชนียวัตถุที่สำคัญและถือเป็น Unseen ของวัดมหาธาตุ คือ เจดีย์แปดเหลี่ยม เป็นเจดีย์รูปทรงแปดเหลี่ยม ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมย่อมุมไม้ยี่สิบ ชั้นบนเป็นเจดีย์รูปแปดเหลี่ยม ลดหลั่นกันขึ้นไป 4 ชั้น มีซุ้มโดยรอบทั้ง 8 ด้าน ผนังประดับด้วยปูนปั้นรูปเทวดา ชั้นบนสุดเป็นปรางค์ขนาดเล็ก นับเป็นเจดีย์แปดเหลี่ยมที่พบเพียงองค์เดียวในอยุธยา

อดีตอันเคยรุ่งเรืองของวัดมหาธาตุได้จบสิ้นลง เมื่อเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 ใน พ.ศ. 2310 วัดมหาธาตุถูกไฟไหม้เสียหายหนัก และกลายเป็นวัดร้างนับแต่นั้นมาจนปัจจุบัน

(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 198 มิถุนายน 2560 โดย กองบรรณาธิการ)
https://mgronline.com/dhamma/detail/9600000055692







ถึงจะเป็นวัดร้างมานานราว 250 ปีแล้ว แต่ “วัดมหาธาตุ” อยุธยา ซึ่งเป็น 1 ในอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เมื่อ พ.ศ. 2534 ยังคงได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติทั่วโลก มาเยี่ยมชมอยู่มิขาดสาย โดยเฉพาะ “เศียรพระพุทธรูปในรากต้นโพธิ์” ซึ่งเป็นจุดไฮไลท์ ที่ต้องดูเป็นอันดับแรกเมื่อมาเยือนวัดแห่งนี้

เศียรพระพุทธรูปในรากต้นโพธิ์ เป็นเศียรพระพุทธรูปหินทราย ซึ่งสันนิษฐานกันว่า เศียรพระคงหล่นลงมาบริเวณโคนต้นโพธิ์ ที่อยู่ข้างวิหารราย ในช่วงบูรณะครั้งอดีตราว 50 ปีมาแล้ว ส่วนองค์พระนั้นหายไป เมื่อกาลเวลาผ่านไป รากโพธิ์ก็ค่อย ๆ งอกออกมาห่อหุ้มเศียรพระไว้แน่น จนดูคล้ายกับเศียรพระผุดออกมาจากต้นโพธิ์ เป็นที่น่าอัศจรรย์

แม้ว่าเป็นเพียงจุดเล็ก ๆ ของพระอารามสำคัญแห่งนี้ แต่เศียรพระพุทธรูปในรากต้นโพธิ์ ก็เป็น Unseen Thailand ที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก เทียบเท่ากับมรดกโลกของประเทศอื่น ๆ โดยเมื่อ พ.ศ. 2554 ในช่วงการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ณ สำนักงานใหญ่ องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ประเทศฝรั่งเศส ได้คัดเลือกภาพแหล่งมรดกโลกทั้งด้านทางธรรมชาติ และวัฒนธรรม ประมาณ 40-50 ภาพ ขนาด 1x1.5 เมตร จากแหล่งมรดกโลกทั้งหมด 936 แหล่ง มาติดไว้บริเวณรั้วของสำนักงานใหญ่ทั้ง 4 ด้าน พร้อมเขียนบรรยายที่มาของภาพแหล่งมรดกโลกต่าง ๆ ไว้ด้วย โดย 1 ในนั้นคือภาพ “เศียรพระพุทธรูปในรากต้นโพธิ์” นั่นเอง











09.54 น. วันที่ 9 มีนาคม 2565





























เห็นใบเสมา - พระอุโบสถ มีป้ายติดตั้งบอกด้วยล่ะค่ะ






วิหาร
























เงียบสงบดีแท้ เดินไป ก็มองหน้ามองหลังไปด้วยค่ะ


พระปรางค์ประธาน




ที่วัดมหาธาตุ มีห้องน้ำให้บริการ สะอาดมากค่ะ  ค่าบริการ 10 บาท



ด้านหลังของต้นโพธิ์ ที่ด้านหน้ามีเศียรพระพุทธรูปในรากต้นโพธิ์


เรากะว่าออกจากวัดมหาธาตุ จะไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือ ป้าเล็ก ร้านอร่อยหน้าวัดมหาธาตุ - ร้านปิดค่ะ เสียดายมาก



ภาพสุดท้ายของวัดมหาธาตุค่ะ จุดต่อไป...วัดพระราม



ความเดิม
นั่งรถไฟเที่ยวอยุธยา > วัดราชบูรณะ
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=morkmek&month=25-03-2022&group=30&gblog=26


.....
ขอขอบคุณ ภาพและเรื่องจาก
วัดมหาธาตุ พระนครศรีอยุธยา  โดย สายหมอกและก้อนเมฆ
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=morkmek&month=04-2022&date=01&group=30&gblog=27

Create Date : 01 เมษายน 2565
Last Update : 1 เมษายน 2565 12:04:42 น.   
Counter : 548 Pageviews.



Logged
Pages: [1] Go Up Print 
« previous next »
 

SMF 2.0.4 | SMF © 2013, Simple Machines | Theme by nesianstyles | Buttons by Andrea
Page created in 0.086 seconds with 20 queries.