| ppsan | 
								|  | «  on: 31  August  2022, 20:56:06  » |  | 
 
 ณ น่าน [2] วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร, โฮงเจ้าฟองคำ โดย สายหมอกและก้อนเมฆ
 https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=morkmek&month=21-11-2020&group=19&gblog=248
 
 ณ น่าน ~~~~ วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร, โฮงเจ้าฟองคำ
 
 น่าน 10 - 15 ตุลาคม 2563
 
 เช้าวันที่ 11 ตุลาคม 2563 ระหว่างรอเวลารถรางออก (09.30 น.) เราข้ามฝั่งมาวัดพระธาตุช้างค้ำก่อนค่ะ
 
 
 
  
 พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน อยู่เยื้อง ๆ กัน
 
  
 อีกฝั่ง คือ วัดภูมินทร์ ใกล้ ๆ กันหมด ใครเอารถมาก็จอดไว้ เดินเที่ยวได้เลย ใครพักแถวนี้ก็สบายค่ะ
 
  
 ใครอยากใช้บริการรถสามล้อก็มีนะคะ
 
  
 
 ซ้ายมือ - พระวิหารหลวง, ขวามือ - วิหารพระนันทบุรีศรีศากยมุนี
 
  
 วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร (วัดหลวงกลางเวียง)
 
 อยู่ตรงข้ามพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน เดิมชื่อ วัดหลวงกลางเวียง เจ้าผู้ครองนครน่าน พญาภูเข่ง เป็นผู้สร้างขึ้น เมื่อปี พ.ศ. 1949 พระวิหารหลวงวัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร เป็นวิหารขนาดใหญ่ รูปทรงสร้างตามสถาปัตยกรรมทางภาคเหนือ ลักษณะภายในโอ่โถง ด้านหน้ามีสิงห์คู่ ยืนตรงเชิงบันได ด้านละตัว มีทางเข้า 3 ทาง ประตูกลาง ทำเป็นประตูใหญ่ และประตูเล็ก อยู่ด้านซ้ายและด้านขวา มีทางขึ้นเป็นประตูเล็กๆ ตรงข้ามพระประธาน ด้านทิศตะวันออกและตะวันตกอีก 2 ข้าง ทำหลังคาซ้อนกัน 2 ชั้น มุขลดด้านหน้า และด้านหลัง หน้าบันตีด้วยแผ่นกระดานเรียงต่อกัน แล้วประดับที่ขอบเสาด้านหน้าทุกต้น ตามลักษณะสถาปัตยกรรมล้านนาไทย ภายในพระวิหารกว้างขวาง มีเสาปูนกลมขนาดใหญ่ ขนาด 2 คนโอบรอบ จำหลักลวดลายปูนปั้นนูนสูงไว้ เหนือจากระดับพื้นพระวิหาร 1.50 เมตร เป็นลวดลายกนกระย้าย้อย เหมือนลวดลายที่เสาในวิหารวัดภูมินทร์
 
 
 พระวิหารหลวง
 
  
 พระประธานภายในวัดพระธาตุช้างค้ำ คือ พระเจ้าหลวง ประดิษฐานภายในพระวิหาร
 
  
 
  
 
  
 
  
 
 ประวัติวัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร
 
  
 
 วิหารพระนันทบุรีศรีศากยมุนี
 
  
 พญาครุฑพ่าห์ ประดับที่หน้าบันพระวิหาร รูปครุฑพ่าห์ เป็นสัญลักษณ์แห่งราชวงศ์จักรี
 
  
 
  
 
 
  
 พระพุทธรูปทองคำปางลีลา คือ พระพุทธนันทบุรีศรีศากยมุนี ซึ่งเป็นทองคำ 65 % สูง 145 เซ็นติเมตร ยอดพระโมฬีทำเสริมเมื่อ พ.ศ. 2442 หนัก 69 บาท เจ้างั่วฬารผาสุม เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 14 แห่งราชวงค์ภูคา เป็นผู้สร้าง เมื่อวันพุธ เดือน 6 เหนือ พ.ศ. 1969 เป็นศิลปะสุโขทัย ประดิษฐานอยู่ที่หอพระไตรปิฎก ใหญ่ที่สุดในประเทศ
 
 
  
 
  
 
  
 
  
 
  
 เจดีย์บรรจุพระอัฐิ เจ้าผู้ครองนครน่าน
 
  
 
  
 
  
 
 พระเจ้าทันใจ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ พงศาวดารเมืองน่านบันทึกไว้ว่า เจ้าฟ้าอัตถวรปัญโญ ทรงสร้างขึ้นหลังจากเดินทางไปเฝ้าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก เมื่อพุทธศักราช 2331 พระพุทธรูปพระเจ้าทันใจ หมายถึง พระพุทธรูปที่สร้างสำเร็จโดยรวดเร็วทันใจภายในวันเดียว ถือว่ามีอานิสงส์มาก โดยมีความเชื่อว่าต้องเริ่มสร้างตั้งแต่รุ่งเช้าเมื่อพระอาทิตย์แรกขึ้น ทั้งการปั้นหล่อตกแต่งให้ได้พุทธลักษณะที่งดงาม จนถึงพระอาทิตย์ตกดินเป็นเวลาสิ้นสุดการสร้าง
 
  
 
  
 
 เจดีย์ช้างค้ำ ซึ่งเป็นศิลปสมัยสุโขทัย อายุประมาณพุทธศตวรรษที่ 20 รอบเจดีย์ มีรูปปั้นช้างปูนปั้น เพียงครึ่งตัวประดับอยู่โดยรอบ ได้รับอิทธิพลทางด้านศิลปสุโขทัย จากเจดีย์ทรงลังกา คือเจดีย์วัดช้างล้อมนั่นเอง
 
 พระธาตุเจดีย์ สร้างด้วยอิฐถือปูน มีสัณฐานเป็นรูปสี่เหลื่ยมจัตุรัส ซ้อนกัน 3 ชั้น กว้างด้านละ 9 วา ฐานจากชั้นแรกสูงถึงชั้นสอง มีรูปช้างค้ำอยู่ในลักษณะ เหมือนฐานรองรับไว้ด้านละ 6 เชือก รวมทั้งหมด 24 เชือก ช้างแต่ละตัว โผล่ส่วนหัว ลอยออกมาครึ่งตัว ขาหน้าทั้งคู่ ยื่นพ้นออกมาจากเหลี่ยมฐาน เหนือขึ้นไปเป็นฐานปัทม์ (ฐานบัว) ซ้อนกัน 3 ชัน และเป็นองค์ระฆังแบบลังกา ต่อจากองค์ระฆัง ทำเป็นฐานเขียง รองรับมาลัยลูกแก้ว ลดหลั่นกันไป เป็นส่วนยอด ปัจจุบันพระธาตุเจดีย์ช้างค้ำ ได้รับการบูรณะซ่อมแซม และหุ้นด้วยแผ่นทองเหลืองทั้งองค์ มีความสวยงามมาก
 
  
 
  
 
  
 
  
 
 
 
  
 
  
 
  
 
 เดินกลับไปจุดรอรถรางออก - ขายข้าวหลามเยอะมาก จนแล้วจนรอดยังไม่ได้ชิมเลยค่ะ
 
  
 วัดภูมินทร์
 
  
 สาวงามกางจ้อง
 
  
 นั่งรถรางผ่าน พระธาตุเจดีย์ช้างค้ำ
 
  
 
  
 นั่งรถราง ผ่านสวนสาธารณะ
 
  
 
 09.43 น. ถึงจุดหมายแรก โฮงเจ้าฟองคำ
 
  
 มีค่าบำรุงสถานที่คนละ 20 บาทค่ะ
 
  
 โฮงเจ้าฟองคำ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2468 และยังคงรูปแบบดั้งเดิมเหมือนเมื่อร้อยกว่าปีก่อน ชาวเมืองน่านเรียกบ้านหลังใหญ่ว่า "โฮง" ลักษณะเป็นเรือนไม้ 3 หลังติดต่อกัน มีระเบียงหรือลาน เพื่อให้สามารถเดินหากันได้อย่างสะดวก
 
 โฮงหลังนี้เป็นบ้านพักของเจ้าศรีตุมมากับเจ้ามะโน เจ้าศรีตุมมาเป็นหลานของเจ้ามหาวงศ์ เจ้าผู้ครองนครน่านองค์ที่ 11 ส่วนเจ้ามะโนเป็นน้องของพระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช ต่อมาเมื่อต้องยกที่ดินให้กับทางการไทยเพื่อสร้างค่ายทหาร เจ้าบุญยืน ซึ่งเป็นธิดาของเจ้าศรีตุมมากับเจ้ามะโน จึงได้รื้อตัวโฮงมาสร้างใหม่ในที่ปัจจุบัน กระทั่งตกทอดมาถึงเจ้าฟองคำ ธิดาของเจ้าบุญยืนกับเจ้าอินต๊ะ
 
 
  
 
  
 
  
 เจ้าฟองคำเกิดและใช้ชีวิตบั้นปลาย ณ เรือนไม้หลังนี้ เจ้าฟองคำในวัยสาวถูกส่งไปอยู่ที่คุ้มราชบุตร ในรัชสมัยพระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช เพื่อเป็นช่างทอ ด้วยพรสวรรค์และความเก่งกาจ เจ้าฟองคำจึงได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าช่างทอ ดูแลงานปัก งานถัก และงานทอทุกชนิดในราชสำนัก เจ้าฟองคำเป็นหญิงสาวที่ไม่เหมือนหญิงคนใดในเมืองน่าน กล่าวคือ ท่านแต่งงานกับข้าราชการครูเมื่ออายุล่วงเลยไปถึง 29 ปี ขณะที่ในสมัยนั้น หญิงสาวจะแต่งงานตั้งแต่อายุ 14 ปี
 
 เมื่อออกเรือนแล้ว เจ้าฟองคำต้องออกจากราชสำนัก และกลับมาอยู่ ณ โฮงเจ้าฟองคำ ใช้ชีวิตเรียบง่ายและเป็นสุขกับครอบครัว เจ้าฟองคำย้ำนักกับลูกหลานว่า ไม่ต้องการเปลี่ยนรูปแบบโฮงไปเป็นอย่างอื่น
 
 
  
 
  
 
  
 
  
 
  
 
  
 
  
 โฮงเจ้าฟองคำได้รับรางวัลอนุรักษ์สถาปัตยกรรมดีเด่น ประเภทบ้านพักอาศัย (คุ้มเจ้า) ประจำปี 2555 จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ (ปี 2555-2557)
 
 
  
 
  
 
 
  
 
 สาแหรกตระกูลของเจ้าฟองคำ
 
  
 
 
  
 
  
 
  
 
  
 เดี๋ยวลงเรือนแล้วค่ะ
 
  
 
  
 ด้านหน้าทางเข้า มีขายของที่ระลึก ของฝากด้วยค่ะ
 
  
 
  
 
 อาคารเรียนลินกัล์นอะคาเดมี่ โรงเรียนชายล้วนแห่งแรก ตึกรังษีเกษมเป็นโรงเรียนหญิงล้วน สร้างอยู่ติดกัน
 ทั้งสองอาคารนี้ถือเป็นต้นแบบอาคารสไตล์ตะวันตกยุคแรกของเมืองน่านที่มีอายุกว่าร้อยปี (ไกด์บรรยาย เลยรีบยิงภาพระยะไกล)
 
  
 
 ..........
 ความเดิม
 ณ น่าน ~~~~ วัดภูมินทร์
 
 
 Create Date : 21 พฤศจิกายน 2563
 Last Update : 21 พฤศจิกายน 2563 19:22:24 น.
 Counter : 1297 Pageviews.
 
 
 ..........
 ขอขอบคุณ เรื่องและภาพจาก...
 https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=morkmek&month=21-11-2020&group=19&gblog=248
 ณ น่าน ~~~~ วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร, โฮงเจ้าฟองคำ
 
 
 
 
 |