Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
User Info
Welcome, Guest. Please login or register.
03 May 2024, 18:35:44

Login with username, password and session length
Search:     Advanced search
News
ท่านสมาชิกสามารถเปลี่ยนรูปแบบ (Theme) ได้อีกหลายแบบ
เชิญทดลองโดยคลิกที่ลิงค์ข้างล่าง ได้เลยครับ

http://www.smilesiam.net/index.php/topic,3170.msg4713.html
Forum Stats
25,628 Posts in 12,450 Topics by 70 Members
Latest Member: KAN
Home Help Search Calendar Login Register
Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...  |  วิถีสู่ชีวิตแห่งความพอเพียง  |  ความสุขทางเลือก (Moderator: SATORI)  |  นิทาน...จากพรานไพร by charun b
0 Members and 1 Guest are viewing this topic. « previous next »
Pages: [1] Go Down Print
Author Topic: นิทาน...จากพรานไพร by charun b  (Read 269 times)
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,481


View Profile
« on: 01 February 2022, 10:28:31 »

นิทาน...จากพรานไพร  by charun b




                                 ยุทศาสตร์ยุทธวิธีที่ยิ่งใหญ่                                      ฤาจักขานไขเป็นภาษา
                                            ฤาจักจดจารเป็นตำรา                                                  ฤาแผ่นฟ้าแผ่นดินยินยล
                                                    มหาภูตรูปสี่ย่อมแปรเปลี่ยน                                    ไหลวนเวียนซับซ้อนสับสน
                                            ยุทศาสตร์ยุทธวิธีอุบายกล                                            รู้ผลรู้เหตุรู้เลศนัย
                                                    รู้รุกรู้รับรู้ถอย                                                      รู้จักรอคอยไม่เลื่อนไหล
                                            เลอะเทอะเลยเถิดจะเกิดภัย                                            ศึกในหนักหน่วงคือบ่วงมาร
                                                    ก่อตะกร้าสานตะแกรงพลิกแพลงกลับ                          รู้จักจับเข้าขอบมอบประสาน
                                            แผนรุกแผนล่อพอประมาณ                                              ปัญญาญาณหยั่่งลึกรบศึกใน
                                                    รู้เขารู้เราไม่เขลาขลาด                                          ยุทธวิธียุทศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่
                                            ยุทธศิลป์ขุนศึกอันเกรียงไกร                                          จับมือสอนกันไม่ได้ในเชิงชาญ
                                                    ขออย่าดูหมิ่นดินต่ำย่ำใต้ตีน                                      อย่าดูหมิ่นน้ำน้อยน่าสงสาร
                                            อย่าดูหมิ่นลมหวิวที่พัดพาน                                            อย่าดูหมิ่นไฟก้านไม้ขีดไฟ
                                                    รู้โลกรู้ธรรมให้แตกฉาน                                          ห้วงวัฏฏสงสารมันกว้างใหญ่
                                              จะข้ามห้วงมหรรณพภพไตร                                            ย่อมข้ามได้ เมื่อสิ้นสุดพุทธวิธี
                                                                                                                                      ขุนรำยอง      2531

.....



กราบสวัสดีน้าๆป้าๆชาวสยามฟิชชิ่งทุกๆท่านครับ วันนี้ผมมีนิทานชาวบ้านป่ามาเล่าให้น้าๆป้าๆฟังครับ




  หลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการงาน  มานานเดือนกว่าๆ และมีทีท่าว่ายังหาวันหยุดไม่ได้เลย บางครั้งผมทำงานยาวนานกว่าสองหรือสามเดือน กว่าจะได้มีวันหยุดสักวันหนึ่ง อย่าถามผมว่าวันนี้เป็นว้นอะไร เพราะผมไม่เคยตอบใครๆได้สักที  ก็เพราะในทุกๆวันที่ผมมี  คือวันทำงาน  โอทีสามแรงในวันหยุดมันเป็นอะไรที่ฉุดผมให้จมอยู่กับมัน เปรียบเหมือนกับปลาที่ได้เจอเหยื่อที่โอชะ ช่างล่อตาล่อใจทำให้ผมติดกับ(กับดัก) ผมไม่เคยลังเลที่จะรีบวิ่งไปงับมันแบบไม่ยอมปล่อย  และไม่เคยคิดจนติดเป็นนิสัยที่จะไม่ทำเหมือนเช่นปลา ในเวลาที่รู้ว่าต้วเองกำลังติดเบ็ด ที่ดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้นจากการพันธนาการ
    วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่คิดถึงธรรมชาติ  อยากออกไปสูดอากาสดีๆกับเขาบ้าง  ต้ดสินใจ ไปครับ ไปกันน้าๆ

.....



หนังสือที่เคยอ่าน ในนิตยสารจักวาลปืน ตีพิมพ์เป็นตอนๆ เมี่อประมาณ 30 ปีที่แล้วตอนสมัยยังเป็นเด็กวัยรุ่นๆ อายุประมาณ 14 - 15ปี พรุ่งนี้ค่ำๆจะมาต่อให้ใหม่นะครับน้าๆขอลาไปนอนก่อนครับ

.....



แล้วเจอกันนะครับน้าๆ......


..........



ภาษาไทยวันละคำ วันนี้เสนอคำว่า โกรก(โตรก) คือช่องลึกระหว่างเขาที่มีลำธารน้ำเล็กๆไหลผ่าน ตลอดเกือบจะทั้งปี  ซึ่งเป็นที่ที่เราจะเข้าไปครับ  ในสมัยก่อนพื้นที่แบบนี้ล้วนแล้วแต่เป็นพื้นที่ของแหล่งหาอาหารของคนบ้านป่า ไม่ว่าจะเป็น ผัก ปลา และการหาของป่าอื่นๆ  และยังเป็นพื้นที่ที่สัตว์ป่าน้อยใหญ่ได้อาศัยหากิน

.....



น้ำไหลๆปลาส่วนใหญ่จะเป็นพวกปลาก้าง และยังเป็นแหล่งหาปลาไหลด้วยครับ

.....



ต้นชุมเห็ดเทศ สรรพคุณใช้ใบสดขยี้ทาบรรเทาอาการแมลงสัตว์กัดต่อย หรือรักษาการคันจากเชื้อรา กลาก เกลื้อนได้ผลดีครับน้าๆ

.....



ต้นบุก ดัชนีชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า  มีอีกต้นที่คล้ายๆกันแต่ลำต้นจะเล็กกว่าซึ่งเรียกว่า กระแท่ง คนอยู่สวนอยู่ป่านิยมนำไปทำแกงส้ม หลังๆจะไม่ค่อยได้เห็นกันแล้วครับน้าๆ ความเจริญของเขตเมืองมันรุกเข้ามา  จากป่าๆ กลายไปเป็นรีสอร์ทใหญ่ๆกันไปหมดแล้วครับ

.....



คล้า พืชพื้นถิ่น ที่ขึ้นอยู่ตามริมน้ำ  คนโบราณนิยมต้ดเอาไป จักสานทำ กระบุง กระจาด กระด้ง ทุกวันนี้พวกมันได้ห่างหายไป โดยมีวัสดุชนิดใหม่มาแทนที่ คือพลาสติกหรืออีกชื่อคือ พีวีซีครับ ส่วนอีกต้นที่คล้ายๆกันแต่มันขึ้นอยู่ในพื้นที่ที่สูงกว่า  เรียกว่าต้นคลุ้ม

.....



เดินไปเรื่อยครับน้าๆ เหนื่อยก็หยุดพัก ไม่ได้ถือเสียนานหลายปี ปืนนี่มันหนักเหมือนกันนะครับน้าๆ ส่องดูโน่นดูนี่ไปเรื่อย นก กระถิก(กระจ้อน) พังพอน(จอนฟอน) ไก่ป่า น้่งซุ่มเงียบๆสักพักเดี๋ยวก็ออกมาให้เห็นครับ

.....



จัดไปครับน้าชูวิทย์ ไก่ป่าแถบผืนป่าภาคตะวันออก ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นไก่ป่าตุ้มขาวครับน้า (ในภาพประกอบเป็นตุ้มแดงครับน้าๆ) พอเริ่มเข้าหน้าหนาว ลมว่าวพัดโชยมา ก็ถือว่าเข้าสู่ฤดูต่อไก่เถื่อนกันครับ
อุปกรณ์ในการต่อไก่ป่า ก็จะมี กระพ้อใส่ไก่สานจากไม้ไผ่ สะพายบ่า  อีลิง(ครืน)เป็นอุปกรณ์ในการดักไก่ป่า ที่จะเข้ามาตีกับไก่ต่อ(ตัวล่อ) ของเดิมๆเหลาจากโคนไม้ไผ่ เสี้ยมปลายแหลม ก้านทำจากรากไม้ระกำต่อด้วยเชือกด้ายดิบควั่นเป็นเกลียว ด้วยมือกับหน้าขาของคนทำ(ขนหน้าขาหลุดหมดเลย) ห่วงรูดทำจากเส้นใยขุยมะพร้าวที่สอดเป็นวงกลมเล็กๆ ผูกเชือกต่อๆกันหลายๆตัว แล้วย้อมด้วยน้ำฝาด จากเปลือกต้นอินทรีย์ มันเป็นอะไรที่คลาสสิคมากๆครับน้าๆ กับภูมิปัญญาชาวบ้าน เชือกผูกขาไก่ก็ถักอย่างสวยต่อด้วยเขาควายที่ตัดเป็นแผ่นเจาะรูสองรู  พรานต่อไก่สมัยนี้ใช้ลูกหมุนตกปลา ใช้สายเอ็นแทนรากระกำ ใช้ก้านเหล็กแทนการเหลาโคนไม้ไผ่ (พัฒนาไปตามยุคตามสมัยครับน้าๆ)

.....











เมื่อยก็วางครับน้าๆ ชมธรรมชาติหาสูดอากาศดีๆ  แต่เดินป่าหน้านี้ยุงเยอะครับ นั่งนานไม่ได้เลย

.....








กล้วยป่าสุกๆครับน้าๆ มีรอยสัตว์เล็กๆมาแทะกินด้วย

.....


ผักหนามครับน้าๆ

.....


หรือว่าจะระกำดี  ไม้พื้นถิ่นครับมีอยู่ทั่วๆไป

.....


หรือว่าจะทะลายนี้สุกแล้วครับ ได้กลิ่นหอมโชยมาแต่ไกลเลยครับน้าๆ

.....


ส่องอีกแล้วตัวอะไรหว่า

.....


ต้นเต่าร้างครับน้าๆ ชาวบ้านแถบนี้นิยมตัดยอดไปแกงไก่ป่าครับ กินรสคล้ายๆยอดมะพร้าวครับ

.....






ดอกของผักหนามครับน้าๆ

.....



ลักษณะใบของต้นคล้าครับน้าๆ

.....



หนามระกำตำครับ หนามยอกต้องเอาหนามบ่งครับน้าๆ ป่าๆดี

.....



มุดๆ ลอดๆ ด้อมๆ ดอดๆไปเรื่อยๆครับน้าๆ

.....



.....



อยู่แช่น้ำเลยครับ

.....






.....



สมัยก่อนตอนอยู่ที่อำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราดป่าแบบนี้มีเยอะแยะมากครับ ตอนนั้น(30กว่าปีที่แล้ว) ย้ายตามคุณพ่อมาจากเกาะขามใหญ่ จังหวัดชลบุรี มาอยู่ที่จังหว้ดตราดเป็นครั้งที่สอง เรียนป.6วันหยุดเสาร์อาทิตย์ ต้องไปสวนเงาะสวนทุเรียน พอรดน้ำเงาะทุเรียนเสร็จ ก็ออกเทียวป่าเป็นประจำครับ  ได้เรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นมากมายจาก พรานในหมู่บ้าน ที่เป็นเพื่อนๆกับพ่อ เริ่มจากยิงนก ตกปลา ใช้ชีวิตในป่า หาส่องกบ ธงเบ็ดดักสัตว์ ต่อนก ต่อไก่ป่า ดักกระต่าย ส่องสัตว์ในเวลากลางคืน ดำน้ำยิงปลา เป็นชีวิตตามแบบฉบับเด็กบ้านป่าทั่วๆไปครับ บางครั้งหาได้มากจนต้องขาย เป็นรายได้จากน้ำพักน้ำแรงของตนเองครับ ตอนนั้นภูมิใจมากที่สามารถหารายได้ จุนเจือครอบครัวครับน้าๆ(ความคิดเด็กๆที่ยังสนุกอยู่)  ตอนนี้เลิกเกือบหมดแล้วครับ เหลือสองอย่างที่ยังปล่อยวางเลิกไม่ได้ คือตกปลา กับดำน้ำยิงปลา
  เปรียบเทียบกับเด็กสมัยนี้ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายแล้ว ไม่รู้ว่าสิ่งที่เราพยายามสอนลูกๆไปนั้นว่ามันผิดหรือเปล่า เราสอนให้พวกเขาอยู่สบายจนเกินไป จนทำให้เขาทำอะไรไม่เป็นเลย เพราะพ่อแม่ทำให้ทุกอย่างเลย เด็กทุกวันนี้มีอ้อยให้หนึ่งลำ กับมีดอีกหนึ่งเล่ม เค้ายังไม่มีปัญญาที่จะกินมันเลยครับน้าๆ นับวันภูมิปัญญาท้องถิ่น มันก็จะละลายสูญหายไป เพราะไม่มีใครให้ถ่ายทอด

.....






.....












พรุ่งนี้ค่ำๆจะมาต่อให้ใหม่ครับน้าๆ พรุ่งนี้จะกล่าวถึงปืนผูก(จั่นห้าว) มหันต์ภัยร้ายที่ฆ่าคนและสัตว์ป่าไปมากมาย แล้วเจอกันครับน้าๆ

.....

« Last Edit: 01 February 2022, 10:30:07 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,481


View Profile
« Reply #1 on: 01 February 2022, 10:32:04 »


มาแล้วครับน้าๆ



.....



ผืนป่าแบบนี้ในสมัยก่อน เปรียบเหมือนซุปเปอร์มาเก็ตของคนบ้านป่าครับน้าๆ  เพราะว่ามีของกินต่างๆมากมาย ตามฤดูกาล มีทั้งผัก  ผลไม้  และเนื้อสัตว์ต่างๆ ผักและผลไม้ ในผืนป่าภาคตะวันออกตัวอย่างเช่น  ลูกสำรอง  (ที่แช่น้ำแล้วพอง เป็นวุ้นๆครับน้าๆ) ลูก หย่อง(ลักษณะคล้ายลูกสะบ้าย่อขนาดลงมา ประมาณเหรีญสิบบาท)ทานกับน้ำพริกกะปิรสชาดเหมือนลูกเนียง  ลูกคุย ลักษณะเหมือนผลลองกอง แต่มีขนาดใหญ่กว่า เป็นไม้เถาว์สูง ทางอีสานเรียก หมากยางหรือเปล่านะน้าๆผมไม่แน่ใจ  สัตว์ก็เป็นพวก ชะมด(อีเห็น มู่สัง) พังพอน(จอนฟอน) ลิ่น  เม่น ไก่ป่า เก้ง(ฟาน)  หมู่ป่า กวาง หมี

.....



ปืนผูกหรือจั่นห้าว(ตามภาพประกอบ)  กระบอกทำจากท่อแป๊ปน้ำกัลวาไนซ์ ด้ามหรือพานท้ายทำจากไม้อะไรก็ได้ครับน้าๆ ไม่ว่าจะเป็นแบบหน้าสาม หน้าสี่ เป็นท่อนไม้ก็ยังได้เลยครับ ปากกระบอกมีการปิดป้องกันความชื้น  อาจเป็นถุงพลาสติกพันด้วยเทปพันสายไฟ จุดระเบิดด้วยแก๊ป(แบบเดียวกับปืนอีแก๊ปครับ) ภายในกระบอกบรรจุดินปืน ขุยมะพร้าว ลูกปืน และขุยมะพร้าว ตามลำดับ ขนาดบรรจุก็เต็มอัตราเลยครับ(ไม่ได้ยิงเอง) ลูกปืนจะเป็นตะกั่ว ตะปู หรือเหล็กเส้นตัดเอาตามต้องการครับน้า ผูกรัดด้วยยางในรถจักรยาน  ระบบลั่นไกใช้แบบเชือกกระตุก โดยมีคานเหล็กไปขัดกับชุดนกสับ ปืนผูกจะถูกวางขวางทางเดินของสัตว์ป่า ที่จะมาลงหากินตามแหล่งน้ำครับน้าๆ

.....



ทางเดินของสัตว์เป็นแบบไหน สัตว์ป่าทุกชนิดมีทางเดินของมันครับน้าๆ เช่นหนูนา ที่เดินตามทางข้างๆหัวคันนา เดินย่ำกันจนเปรอะเห็นรอยเท้าชัดเจน หมู่ป่าทางเดินก็จะใหญ่ขึ้นมา มีรอยดินโคลนติดหญ้าตามข้างทางที่มันเดิน(ไปลงปลัก แช่โคลนมา) ที่สำคัญคือคนเราดันไปใช้ทางเดินร่วมกับสัตว์เพราะว่ามันเดินง่าย โล่งดี มีคนลุยนำทางไว้ให้ก่อนหน้าแล้ว พรานปืนผูกส่วนใหญ่มักจะทำเครื่องหมายเป็นไม้ ไขว้กากบาทไว้เหนือทางเดิน ในทิศทางที่จะมุ่งตรงไปหาจุดที่ปืนอยู่ครับน้าๆ แต่ว่าคนที่หาของป่า หาปลา ล่าสัตว์จะสังเกตุเห็นหรือไม่ก็เท่านั้นครับน้าๆ  สมัยอยู่ที่ตราดผมเคยเดินไปเจอปืนผูกหลายกระบอกครับน้าๆ
  ตอนนี้พื้นที่หากินของสัตว์ป่าเหลือน้อยลงมากครับ พวกมันจึงออกมาบุกรุกเรือกสวนไร่นา กัดกินทำลายพืชผลทางการเกษตร จนเกิดปัญหาระหว่างคนกับสัตว์ เมื่อวันก่อนมีข่าวคนหาปลาถูกปืนผูกตาย เนื่องจากเจ้าของไร่ข้าวโพดเป็นคนขัดปืนผูกไว้ดักหมูป่าที่เข้ามากินข้าวโพดครับ ปืนผูกมันเริ่มเข้ามาใกล้นักตกปลาขาลุยๆแบบพวกเราแล้วครับน้าๆ

.....



ระคับความสูงของสายเชือกกระตุกของปืนผูก ขัดระดับตาตุ่ม เป้าหมายคือเม่นหรือสัตว์เล็กๆ  ระดับหัวเข่าเป้าหมายคือเก้ง  ระดับเอวเป้าหมายคือหมูป่า และระดับอกเป้าหมายคือกวางครับน้าๆ  สัตว์ป่าก็คล้ายๆกับคนเราครับน้าๆ เวลาเราจะเข้าบ้าน  เราก็เข้าทางประตู คงไม่มีน้าๆท่านใดปีนกำแพงนะครับเวลาเข้าบ้าน(หนีเเที่ยว) การดักสัตว์ก็ต้องทำประตูทำทางให้มันเดินครับน้า ทางไหนที่จะไม่ให้มันไปก็ตัดไม้ปักทำรั้ว

.....



กลับมาที่เดิมครับน้าๆ ไปที่ปืนผูกเสียนาน  ประสพการณ์ในบางครั้งก็ถ่ายทอดให้ออกมาเป็นตัวหนังสือได้ยากครับน้าๆ

.....



เวลาแห่งความสุขมันช่างรวดเร็วเสียเหลือเกินครับน้าๆ (วันที่่ 11 / 6 / 59 ) นกกำลังพากันลงมากินน้ำเลยครับ

.....



บำเหน็จรางวัลสำหรับการมาเดินด้อมๆในวันนี้ครับน้า เท่านี้ก็เพียงพอแล้วครับน้าๆ

.....



ต้องออกไปทำหน้าที่ใส่หัวโขนเป็นมนุษย์เงินเดือน ทำงานงกๆอีกแล้วครับน้าๆ

.....



ะหว่างทางออกมาเจอตาข่ายดักนกครับ ตายเน่าเลยครับ

.....



ช่วยอะไรไม่ได้เลยครับน้าๆ เราก็แค่คนเดินทางครับน้าๆ เดินผ่านมาแล้วก็ผ่านไปครับ

.....



ค้างคาวครับแห้งเลย

.....



มันเป็นวิถีหรือ.......ครับน้าๆ

.....



กลับมาถึงบ้าน เมนูง่ายๆสำหรับคนอยู่บ้านคนเดียวครับน้าๆ ปลากระพงต้มระกำ กับข้าวสวยร้อน ก่อนไปทำงานต่อ ทานข้าวด้วยกันครับน้าๆ ลากันตรงนี้เลยนะครับน้าๆ ทริปหน้า 12/6/59 (วันพระครับหยุดล่า)พากันเที่ยวบ้านสวน อำเภอแกลง จังหวัดระยอง หาเงาะหาทุเรียนกินกันครับ พาเพื่อนๆเที่ยวครับน้าๆไปกันทุกปี ขอบคุุณน้าๆป้าๆทุกๆท่านนะครับ.....สวัสดีครับ


..........
ขอขอบคุณเรื่องและภาพจาก
http://www.siamfishing.com/board/view.php?tid=676921



Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,481


View Profile
« Reply #2 on: 02 February 2022, 15:26:59 »


เรียนท่านผู้เข้าชมทุกท่านครับ

ท่านไม่ได้เป็นสมาชิก ก็สามารถเข้ามาอ่าน มาชมได้นะครับ และสามารถร่วมแสดงความคิดเห็น แนะนำ ติชมได้ครับ โดยกดคลิกที่ REPLY (ข้างล่างโพสต์)







Logged
Pages: [1] Go Up Print 
« previous next »
 

SMF 2.0.4 | SMF © 2013, Simple Machines | Theme by nesianstyles | Buttons by Andrea
Page created in 0.06 seconds with 19 queries.