Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
User Info
Welcome, Guest. Please login or register.
03 May 2024, 15:54:49

Login with username, password and session length
Search:     Advanced search
News
ท่านสมาชิกสามารถเปลี่ยนรูปแบบ (Theme) ได้อีกหลายแบบ
เชิญทดลองโดยคลิกที่ลิงค์ข้างล่าง ได้เลยครับ

http://www.smilesiam.net/index.php/topic,3170.msg4713.html
Forum Stats
25,628 Posts in 12,450 Topics by 70 Members
Latest Member: KAN
Home Help Search Calendar Login Register
Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...  |  วิถีสู่ชีวิตแห่งความพอเพียง  |  ความสุขทางเลือก (Moderator: SATORI)  |  เรื่องเล่าเด็กบ้านนอก : 16 ทัศนศึกษา : ประสบการณ์ใหม่ของเด็กบ้านนอก
0 Members and 1 Guest are viewing this topic. « previous next »
Pages: [1] Go Down Print
Author Topic: เรื่องเล่าเด็กบ้านนอก : 16 ทัศนศึกษา : ประสบการณ์ใหม่ของเด็กบ้านนอก  (Read 247 times)
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,481


View Profile
« on: 21 November 2021, 22:10:31 »

เรื่องเล่าเด็กบ้านนอก : 16  ทัศนศึกษา : ประสบการณ์ใหม่ของเด็กบ้านนอก


เรื่องเล่าเด็กบ้านนอก : 16
ทัศนศึกษา : ประสบการณ์ใหม่ของเด็กบ้านนอก


ช่วงปลายปี 2528 ทางโรงเรียนของ'น้อย'ได้มีการจัดทัศนศึกษา พาเด็กๆออกไปท่องเที่ยวพบประสบการณ์ใหม่ๆ สำหรับเด็กที่อยู่ตามบ้านนอกแล้วเป็นอะไรที่ตื่นเต้นกันมาก

ครูได้เรียกประชุมผู้ปกครองนักเรียนสองระดับชั้นป.5-ป.6 เพื่อชี้แจงการเดินทางในครั้งนี้ และสอบถามความต้องการว่าใครที่อยากจะร่วมเดินทางในครั้งนี้บ้าง เพราะไม่ได้บังคับว่าทุกคนต้องไป

ตามโปรแกรมที่ครูได้วางไว้และได้แจ้งทางผู้ปกครอง แค่เห็นรายชื่อสถานที่แต่ละที่แล้วแม้แต่คนเป็นพ่อแม่เองก็ยังอยากไปด้วยเลย

บางแสนทะเลแสนงาม สวนสัตว์เขาเขียว พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ และสวนสยาม แค่นี้ก็ทำให้เด็กๆที่เข้าร่วมฟังครูอธิบายถึงการเดินทางก็รู้สึกตื่นเต้นกันใหญ่

เมื่อสอบถามความสมัครใจพร้อมกับอธิบายค่าใช้จ่ายในการเดินทางแล้ว มีนักเรียนเกือบ 60 คนที่ผู้ปกครองอนุญาตพร้อมกับมีค่าโดยสารจ่ายให้กับทางโรงเรียนเป็นเงิน  80 บาทสำหรับการเดินทางครั้งนี้

พอถึงวันเดินทาง หลังจากที่เลิกเรียน เด็กๆที่จะต้องเดินทางต่างรีบกลับบ้านเพื่อเตรียมเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัว

น้อยเอง พอกลับถึงบ้านรีบจัดกระเป๋าเสื้อผ้าด้วยความรวดเร็วราวกับว่ากลัวจะไม่ทันรถแล้วรีบวิ่งไปที่บ้านเพื่อนรักของเขา

" หม่าว หม่าว" น้อยส่งเสียงเรียกจากหน้าบ้าน

" หม่าวไม่อยู่ มันออกไปทุ่งนาเอาควายกลับบ้าน" เสียงตอบมาจากหลังบ้านพอได้ยิน

น้อยรีบวิ่งออกไปที่ทุ่งนา  และได้เจอกับหม่าวที่กำลังต้อนควายกลับบ้านด้วยความรีบเร่ง

"หม่าว เก็บเสื้อผ้าหรือยัง " น้อยถาม

" ยังเลย นี่รีบเอาพวกมันกลับจะได้จัดเสื้อผ้าลงกระเป๋า" หม่าวตอบพร้อมกับชี้ไปที่ฝูงควายที่กำลังเดินและเล็มหญ้าอย่างสบายใจ

"เออรีบเลย เดี๋ยวไม่ทันรถ" น้อยบอก

"เห้ย ครูนัดตอนทุ่มนึง และก็รถออกตั้งสองทุ่มไม่ใช่เหรอ นี่มันยังไม่ห้าโมงเลย" หม่าวถามแบบสงสัยในความเร่งรีบของเพื่อน

"เออนั่นแหละ  จะได้มีเวลาเตรียมของจะได้ไม่ลืมอะไร" น้อยตอบแบบผู้มีประสบการณ์

หลังจากเตรียมตัวเสร็จหม่าวเดินมารอน้อยที่หน้าบ้านเพื่อจะไปที่โรงเรียนพร้อมกัน  แม่ของน้อยเรียกให้น้อยมาที่ตรงบันไดหน้าบ้าน พร้อมกับก้มหยิบดินที่พื้น แล้วเอาขึ้นมาสวดอธิฐานให้พระแม่ธรณีคอยคุ้มครองลูกชายที่ต้องเดินทางโดยไม่มีคนในครอบครัวไปด้วยเป็นครั้งแรกพร้อมโรยดินที่สวดเสร็จลงบนหัวของน้อย ตามความเชื่อของคนบ้านนอก

หลังจากที่นักเรียนมาพร้อมกันที่โรงเรียนแล้วครูที่จะร่วมเดินทางได้จัดกลุ่มว่าใครอยู่กลุ่มไหน มีครูคนไหนเป็นคนคอยดูแลเรื่องความปลอดภัยในการเดินทาง



พอรถออกซึ่งเป็นเวลาสองทุ่มกว่าแล้ว เด็กจะได้รับยาแก้เมารถกันทุกคนพร้อมกับ'ถุงกันอ้วก'คนละหนึ่งใบพกติดตัวไว้สำหรับเหตุฉุกเฉิน

พอเดินทางมาได้ไม่นานเด็กก็เริ่มที่จะหลับกับเพราะเวลาปกติที่อยู่บ้านสามทุ่มก็จะหลับกันหมดแล้ว

พอเช้ารถก็เข้ามาจอดในลานจอด ครูส่งเสียงบอกให้เด็กๆเตรียมตัวลงเพราะถึงจุดหมายแล้ว

'บางแสน'เป็นจุดหมายแรกเด็กๆที่ไม่เคยเห็นทะเลมาก่อนต่างตื่นเต้นกันใหญ่ ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวจนครูต้องดุให้อยู่ในความสงบแล้วแบ่งกลุ่มตามที่ได้จัดไว้แล้ว







พอมาถึงสวนสยามครูพาเด็กๆไปล้างหน้าล้างตาแล้วเปลี่ยนชุดสำหรับคนที่จะลงเล่นน้ำ

น้อยกับเพื่อนๆผู้ชายหลายคนพากันไปลองสไลเดอร์ที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อนว่าจะสูงขนาดนี้ เพราะเคยเล่นแต่' สไลเดอรดิน 'ที่ทำเองตามริมแม่น้ำเวลาไปเล่นกับเพื่อนๆ

ของเล่นหลายชิ้นที่เด็กๆได้ลองเล่นกันจนเกือบหกโมงเย็น'ไวกิ้ง'คือของเล่นสุดท้ายที่เด็กๆขึ้นเล่นกันพร้อมเสียงแหกปากดังลั่นเพราะความเสียวของมัน

รถออกเดินทางจากกรุงเทพฯเกือบทุ่มมาถึงโรงเรียนเกือบตีสองเด็กๆมีอาการอ่อนเพลียหลับมาตั้งแต่รถออก มีผู้ปกครองหลายคนมารอรับลูกที่โรงเรียน ส่วนน้อยกับหม่าวและเพื่อนที่อยู่หลังโรงเรียนก็เกาะกลุ่มเพื่อนๆที่มีพ่อแม่มารับกลับพร้อมกัน


เช้าวันเปิดเรียนเด็กๆ มาเรียนแต่เช้าพร้อมกับเอาของที่บางคนซื้อมาจากที่กรุงเทพฯมาอวดกัน

" ของพวกมึงแค่ของเล่นธรรมดาสู้ของกูไม่ได้ " เพื่อนในกลุ่มคนนึงโม้ขึ้นมา

"อะไรของมึงที่ไม่ธรรมดาวะ" อีกคนในกลุ่มถาม

" กูเอาของเป็นๆมาด้วยจากทะเลเลย" ขี้โม้คนเดิมโม้ต่อ

"ไหนมึงเอามาโชว์หน่อย" น้อยอดไม่ไหว

"พวกมึงรออยู่นี่ก่อน เดี๋ยวกูมา" พูดเสร็จจอมโม้ก็วิ่งกลับไปเอาของที่จะมาอวดเพื่อน

สักพักมันมาพร้อมกับถังพลาสติกที่มีน้ำอยู่ครึ่งถัง

" นี่ไง ของกู"จอมโม้คุยต่อ

มันพูดเสร็จพร้อมกับเปิดถัง เพื่อนๆทุกคนที่จับกลุ่มกันดูอยู่ถึงกับเอามืออุดจมูกเพราะกลิ่นที่โชยออกมามันเป็นกลิ่นของสัตว์ที่ตายแล้วเริ่มเน่า

ในถังเต็มไปด้วยพวก หอย ปูเสฉวน ที่มันเก็บเอามาจากชายหาดบางแสน กะจะเอามาเลี้ยง

แต่ด้วยความไม่รู้ว่ามันเป็นสัตว์น้ำเค็มแล้วก็มันต้องอยู่ตามธรรมชาติ เพื่อนจอมโม้เลยเอาน้ำฝนในตุ่มมาแทนน้ำทะเล

ทั้งหอยทั้งปูเลยตายส่งกลิ่นเหม็น แถมยังเอามาอวดเพื่อนๆอีก

เพื่อนๆที่ล้อมวงดูอยู่พากันหัวเราะ กับสิ่งที่เพื่อนจอมโม้รายนี้ทำโดยไม่รู้เรื่อง

จนครูเดินมาเห็นเพราะเสียงที่ดัง จึงทำการอบรมกลุ่มเด็กๆด้วยเรื่องการห้ามเอาสิ่งของสัตว์มาจากที่ที่มันอยู่มาเลี้ยงเป็นอันขาด อาจจะผิดกฎหมายได้ แล้วยังเป็นบาปที่ทำให้มันตายอีก

หลังจากนั้นเด็กๆแยกย้ายกันเข้าเรียนในช่วงบ่ายพร้อมกับยังอดหัวเราะเพื่อนจอมโม้คนนั้นไม่ได้



Logged
Pages: [1] Go Up Print 
« previous next »
 

SMF 2.0.4 | SMF © 2013, Simple Machines | Theme by nesianstyles | Buttons by Andrea
Page created in 0.085 seconds with 18 queries.