Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
User Info
Welcome, Guest. Please login or register.
01 August 2025, 12:13:34

Login with username, password and session length
Search:     Advanced search
News
ท่านสมาชิกสามารถเปลี่ยนรูปแบบ (Theme) ได้อีกหลายแบบ
เชิญทดลองโดยคลิกที่ลิงค์ข้างล่าง ได้เลยครับ

http://www.smilesiam.net/index.php/topic,3170.msg4713.html
Forum Stats
27,390 Posts in 13,360 Topics by 70 Members
Latest Member: KAN
Home Help Search Calendar Login Register
Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...  |  Recent Posts

Recent Posts

Pages: [1] 2 3 ... 10
1
ลิ้นอสูร...พูดจาบิดเบือนให้ "ดำเป็นขาว หรือ ขาวเป็นดำ" ก็ได้


17 กค.68 โทนี่แม้ว กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” ตอนหนึ่งว่า

"เรื่องที่เกิดขึ้นกับกัมพูชา ผมก็แปลกใจผู้นำเขมรมันไร้จริยธรรมจะตาย แต่เรากลับไปเข้าข้างมัน ผมก็งงว่าวันนี้ทำไมคนไทยไม่รักกัน ทั้งที่สิ่งนี้ไม่น่าเกิด ไม่มีผู้นำคนไหนในโลกเขาทำกัน แต่เรากลับทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคที่เพิ่งหลุดจากพรรคร่วมรัฐบาล ก็กลับมามองว่าเป็นการขายชาติ เลยไม่รู้ว่าตกลงว่าเขาเป็นเขมรหรือเป็นไทย"

ฟังแล้ว..เหมือนกับว่า "ภท.นั้น กายเป็นไทย แต่ใจเป็นเขมร" คนไทยทั้งประเทศควรเป็นพวกเดียวกับตน ทั้งๆ ที่ "ฮุน-ชิน" เป็นเพื่อนกันมากว่า 30 ปี และ"เอ็งเอ๋ง" ก็พูดว่า...."อังเคิลกับหลาน" เป็นพวกเดียวกัน ต่างกับแม่ทัพภาค 2 ที่เป็น "ฝ่ายตรงข้าม"

มัน ตรรกะวิบัติ หรือเปล่าวะ?

.








.





2

สมัยเด็กๆ เคยร้องและเล่น "ขี้ตู่กลางนา"

"ขี้ตู่กลางนา ขี้ตาตุ๊กแก ขี้มูกยายแก่ อรแร้อรชร ชรติ้งชร ติ้งชร ติ้งชร.."












3

โบราณนานมา

["ปราสาทตาเมือนธม" ขึ้นทะเบียนก่อนที่ "ประเทศกัมพูชา" จะเป็นเอกราชเสียอีก]

“ปราสาทตาเมือนธม” ขึ้นบัญชีเป็นโบราณสถาน ของไทยตั้งแต่ปี ๒๔๗๘ (1935)

"ปราสาทตาเมือนธม" อยู่ฝั่งไทย โดยกรมศิลปากรทำการสำรวจพบ และขึ้นบัญชีเป็น โบราณสถานของไทย" ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๗๘ (ค.ศ. 1935) หรือเมื่อ ๙๐ ปีที่แล้ว

และปัจจุบัน อยู่ในความดูแลของสำนักศิลปากรที่ ๕ ปราจีนบุรี

ที่ผ่านมา “กรมศิลปากร” ได้บูรณะโดยทางการกัมพูชารับรู้มาตลอด อีกทั้ง “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” ยังได้สร้างเส้นทางเที่ยวชมสำหรับนักท่องเที่ยวด้วย

อย่างไรก็ตาม หาก “กัมพูชาอ้างสิทธิ” การถือครองพื้นที่ปราสาทตาเมือนธมจริง

ไทยต้องยืนยันว่า “พื้นที่ชายแดนจุดนี้เป็นของเรา" โดยใช้แผนที่ตามหลักสากล ซึ่งแบ่งพื้นที่ตามหลัก “สันปันน้ำ”

ดังนั้น กัมพูชารับรู้มาตลอด......

แต่ตีเนียน คิดแต่จะสร้างสถานการณ์ ปลุกระดมคนกัมพูชา ที่ชักจูงได้ง่ายโดยไม่ใช้สติและปัญญาไตร่ตรองถึงข้อเท็จจริงก่อน ให้ดำเนินไปเหมือนกรณี “ปราสาทพระวิหาร”

“ประเทศกัมพูชา” ได้รับเอกราชจากฝรั่งเศส ในปี พ.ศ. ๒๔๙๖ (ค.ศ. 1953)

ภายหลังจากเป็นอาณานิคมมานานหลายสิบปี และได้รับการยอมรับให้เป็นประเทศเอกราชอย่างเป็นทางการจากองค์การสหประชาชาติในปี พ.ศ. ๒๔๙๘ (ค.ศ. 1955)

ซึ่งนับว่าเป็นช่วงเวลาหลังจากที่ “ปราสาทตาเมือนธม” ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของไทยไปแล้วกว่า ๒๐ ปี

จึงเห็นได้ว่า การขึ้นทะเบียน “ปราสาทตาเมือนธม”เป็นโบราณสถานของไทย

เกิดขึ้นก่อนที่ “ประเทศกัมพูชา” จะมีสถานะเป็นรัฐเอกราชในปัจจุบัน

และสะท้อนถึงความต่อเนื่องของการดูแลรักษามรดกทางวัฒนธรรมในพื้นที่ดังกล่าวภายใต้การปกครองของไทยมาอย่างยาวนาน

..................................

ขี้ตู่กลางนา ขี้ตาตุ๊กแก ปราสาทตาเมือนธมของไทยแท้ๆ แต่ขแมร์จะมาขโมยเอาไป

กิ๊วๆ หน้าด้าน เดี๋ยวก็ไล่ให้ไปนอนกระดานแผ่นเดียวซะหรอก!

-เปลว สีเงิน

๑๗ กรกฎาคม ๒๕๖๘

 

คนปลายซอย

.

ขอขอบคุณ เรื่องจาก เปลวสีเงิน : 'เขมรขี้ตู่' รู้กันรึยัง?
https://www.thaipost.net/columnist-people/825292/

'เขมรขี้ตู่' รู้กันรึยัง?

..

https://www.youtube.com/watch?v=KwbwhV1EE2A&t=15s

เปลวสีเงิน : 'เขมรขี้ตู่' รู้กันรึยัง?
thaipost

https://youtu.be/KwbwhV1EE2A?si=rFuPF_b0sHpUrFKi

.




4
'เขมรขี้ตู่' รู้กันรึยัง? เปลว สีเงิน คนปลายซอย


'เขมรขี้ตู่' รู้กันรึยัง?
17 กรกฎาคม 2568 เวลา 0:01 น.

ก็จริงอย่างที่ท่าน “ภูมิธรรม” พูดนะ ว่า

“อย่าไปฟังฮุน เซน มาก......

เพราะฮุน เซน เป็นเพียงแค่คนคนหนึ่ง ที่มีตำแหน่งประธานวุฒิสภา แล้วก็ไม่ได้มีอำนาจในการเจรจาพูดคุย”

เออ...เนอะ ก็ไม่ต่างกับทักษิณ

เป็นเพียงอดีตนักโทษคนหนึ่ง ที่มีฐานะเป็นพ่อนายกฯ และเป็นเจ้าของคอกหมา แล้วก็ไม่ได้มีอำนาจในการเจรจาพูดคุย

ฉะนั้น ไม่มีราคาอะไรที่ต้องไปฟัง

แต่...เอ ทำไมท่านภูมิธรรมถึงฟังและเชื่อทักษิณชนิดหัวปักหัวปำไปทุกเรื่องล่ะ!?

ทางที่ดีนะ ถ้าจะให้คนเลิกเชื่อฮุน เซน หันมาเชื่อทักษิณ ท่านภูมิธรรมต้องไปบอกเจ้านายของท่านให้แถลงออกมา.....

 ว่าที่ฮุน เซน กล่าวหาวันก่อน นั้น

-ทักษิณดูหมิ่นกษัตริย์ไทยทั้งอดีตและปัจจุบัน

-ทักษิณให้ข้อมูลและมาขอคำปรึกษาแทบทุกวัน ทุกสัปดาห์ หรือทุกเดือน

-ทักษิณแอบส่งเอกสารของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้ฮุน เซน ในปี ๒๕๕๓ เกี่ยวกับโครงการให้ทุนแก่กัมพูชาเพื่อก่อสร้างทางหลวงหมายเลข ๖๘ ตามแนวชายแดนกัมพูชา

ทั้งหมดนี้....ไม่จริง!

และที่ว่าเป็น “กบฏต่อชาติไทย” นั่นก็เป็นการใส่ร้าย

ทักษิณต้องท้าฮุน เซน กลับไปเลยว่า.......

แน่จริง มีหลักฐานอะไรเอาออกมายันให้เห็นกันจะจะ ถ้าไม่มี เป็นลูกหมาห้าร้อยชาติ!

ทักษิณต้องสวนเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดออกไปอย่างนี้ คนไทยจะได้ถือหางทักษิณ ด้วยเชื่อและเชียร์ว่า “อังเคิลฮุน” ใส่ร้ายจริง

ทั้งจะสมเหตุ-สมผลในด้านว่า เมื่อผลประโยชน์ขัดกัน ฮุน เซน ก็ป้ายสีหวังทำลายชื่อเสียงและความซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อชาติบ้านเมืองของทักษิณ

แต่นี่...โทนี่แม้วเงียบฉี่ ไม่กล้าโต้อังเคิลเลยซักแอะ!

การหลบหน้า ไม่พูด ไม่โต้ ในทางกฎหมาย อาจสันนิษฐานได้ว่าเป็นการ “ยอมรับ”

ฉะนั้น ทักษิณต้องไปให้สุด อย่าหยุดความซ่านะ

ทีกับคนอื่นละก็ แหม...คุยเป็นเสือ แต่กับอังเคิลฮุน ไหงเป็นแมวไปซะล่ะ?

ปัญหาพิพาทเขมรกับไทยตรงชายแดน ความอดทน-อดกลั้นต่อการยั่วยุจากทางเขมร นับวันจะเปราะบางลงไปเรื่อยๆ

เขมรใช้ทั้งเล่ห์ทั้งกลในการเดินเกม

ทางเล่ห์ ใช้ดาวยั่วมาแหย่ทางปราสาทตาเมือนธม หวังให้ทหารไทยหลุด แล้วเขาคอยบันทึกภาพในแง่มุมทหารไทยลงมือก่อน

แล้วอังเคิล “สองพ่อลูก” ก็จะโพนทะนาฟ้องโลก ทั้งที่ฝ่ายตัวเองเข้าทำนอง “ตีหัวเพื่อน” แล้วรีบไปแจ้งความตำรวจก่อนว่าตัวเองถูกกระทืบ

คนตีหัวกลับกลายเป็นโจทก์ไป!

ส่วนไอ้คนที่ถูกตี มัวเซ่อซ่า ไปแจ้งทีหลัง เลยกลายเป็นจำเลย ซวยไป

ไทยกับเขมร ก็ประมาณนี้ ต้องบอกว่า ทั้งรัฐบาล ทั้งหน่วยความมั่นคงและกระทรวงต่างประเทศ ด้าน "ยุทธศาสตร์การข่าว" สู้เขมร "กะล่อนโลก" ไม่ได้

อย่างที่เราคุยกันไปวันวาน ในเมื่อ “ปราสาทตาเมือนธม” เป็นของไทย อยู่ในเขตดินแดนไทย

แล้วใครไปตกลงให้ทหารเขมรมาลาดตระเวนร่วมกับทหารไทยหาวิมานอะไรล่ะ?

อีกอย่าง เพื่อตัดปัญหาดาวยั่ว ก็ “ล้อมรั้ว” ปราสาทตาเมือนธมซะเลย เพราะเดิมก็มีอยู่แล้ว แต่ไม่รู้ใคร สมัยไหน ที่เสือกไปรื้อออก?

ชนชาวโซเชียลเขาหยั่งเสียงจนมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า “ให้ล้อม”

วันก่อน อ่านที่ Bangkok I Love You เขาโพสต์ ทุกอย่างก็มีความกระจ่างออกมา

Bangkok I Love You

ไม่มีรั้วตาเมือนธมไม่มีวันสงบ

คอมเมนต์เป็นเอกฉันท์! เสียงประชาชนเรียกร้อง “กั้นรั้วปราสาทตาเมือนธม” กำหนดพรมแดนให้ชัดเจนเหมือนเดิม

ท่ามกลางกระแสสังคมที่ร้อนแรง หลังการเปิดเผยข้อมูลสำคัญโดย “พลโท กนก เนตระคะเวสนะ” อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2568 ว่า

 “ปราสาทตาเมือนธมอยู่ในเขตไทย” และเคยมีรั้วเหล็กแนวชายแดนที่สร้างไว้ชัดเจนเมื่อปี 2551 นั้น

ล่าสุด เสียงจากประชาชนบนโลกออนไลน์ได้แสดงออกอย่างเป็นเอกฉันท์ ว่า ถึงเวลาแล้ว ที่ประเทศไทย ควรนำรั้วกั้นกลับคืนมา เพื่อปกป้องอธิปไตย และยืนยันความชอบธรรมตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์

“ทำใหม่ค่ะ”

“กั้นใหม่เลย อย่าไปสนใจ”

“สร้างขึ้นมาใหม่เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเก็บเงินค่าบำรุงจากคนเขมรค่ะ”

นี่คือตัวอย่างความคิดเห็นจำนวนมากที่แห่กันสนับสนุนให้ประเทศไทยฟื้นโครงสร้างรั้วเหล็กบริเวณปราสาทตาเมือนธม ที่เคยมีการควบคุมการเข้า-ออกอย่างมีระบบ

และเคยเปิดให้ชาวกัมพูชาเข้ามาเยี่ยมชมได้อย่างสงบเรียบร้อย ผ่านกระบวนการขออนุญาตและบัตรคิวที่จุดตรวจ

ย้อนกลับไปในปี 2551 ทหารไทยได้สร้างรั้วแนวชายแดนในพื้นที่ดังกล่าว

และมีภาพถ่ายประวัติศาสตร์ที่แสดงให้เห็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงทั้งสองประเทศยืนถ่ายรูปร่วมกันหน้ารั้วเหล็ก

 ซึ่งสะท้อนถึงการยอมรับสถานะพรมแดน ณ ขณะนั้นอย่างเป็นรูปธรรม

แต่หลังเหตุปะทะชายแดนปี 2554 ในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รั้วดังกล่าวกลับถูก “รื้อถอน” ภายใต้นโยบายลดความตึงเครียดและส่งเสริมการท่องเที่ยว

ซึ่งวันนี้ ได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ประชาชนจำนวนมากรู้สึกว่า พรมแดนไทยเริ่มถูกละเลย

เสียงสะท้อนจากประชาชนในครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่กระแสอารมณ์ชั่ววูบ

แต่คือ การส่งสัญญาณไปยังรัฐบาลและหน่วยงานความมั่นคง ว่าประชาชนยังต้องการความชัดเจนในเขตแดน

และต้องการความมั่นใจว่า “ผืนแผ่นดินของชาติจะไม่ถูกรุกล้ำ”

“เราสร้างรั้วไม่ใช่เพื่อตัดขาดเพื่อนบ้าน แต่เพื่อรักษาสิทธิของเราให้มั่นคง”

และนี่คืออีกหนึ่งบทพิสูจน์ว่า “รั้วชายแดน ไม่ใช่สัญลักษณ์ของสงคราม แต่คือสันติภาพที่ตั้งอยู่บนความชัดเจน”

เสียงประชาชนพูดพร้อมกันแล้ว…

ถึงเวลา “กั้นรั้วตาเมือนธม” ให้ชัดเจนเหมือนเดิม!

................................................................

จนได้.......

คน “ตระกูลชินวัตร” อีกนั่นแหละ ที่รื้อรั้วปราสาทตาเมือนธม ออกไปในสมัยสาวสองพันปี “นางสาวยิ่งลักษณ์”เป็นนายกฯ

พอมีปฏิกิริยาเรื่องรั้วจากคนไทยเท่านั้นแหละ “อังเคิลฮุน” แบะท่านักเลงทันที

เว็บไซต์ Khmer Times รายงาน เมื่อ ๑๕ ก.ค.ว่า ฮุน  เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ระบุว่า

“กัมพูชาเตรียมพร้อมรับมือกับความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น”

โดยกล่าวหาว่าไทยกำลังยกระดับความตึงเครียดใกล้กับปราสาทตาเมือนธมที่เป็นข้อพิพาท

ฮุน เซน กล่าวว่า “ไทยเพิ่งแสดงเจตนาที่จะสร้างรั้วรอบปราสาท” และเตือนว่า อาจก่อให้เกิดผลกระทบร้ายแรง

“ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา พวกเขาต้องการสร้างรั้วรอบปราสาทตาเมือนธม ลองดูสิ!” เขากล่าว

“พวกเขายังขู่ที่จะโจมตีพระตะบอง เสียมเรียบ และพนมเปญ ลองดูสิ!

ผมไม่ได้ขู่ว่าจะก่อสงคราม แต่เรากำลังเตรียมพร้อมสำหรับสงครามที่อาจเกิดขึ้น”

ฮุน เซน กล่าวเสริมว่า แม้กัมพูชาจะไม่ได้ต้องการความขัดแย้ง แต่จะไม่นิ่งเฉย หากอำนาจอธิปไตยถูกท้าทาย”

อ้าว...ก็ขู่อยู่เหยงๆ กลับบอกว่าไม่ได้ขู่ อย่าปอดนักซี...ลุ้ง!

จะล้อมแล้วจะทำไม?

ในเมื่อ “ปราสาทตาเมือนธม” เป็นของไทย อยู่ในเขตดินแดนไทย ใช่ว่าไปล้อมบนหัวกระบาลเขมรซะที่ไหน     หน็อย...อย่ามาทำเก๋ากับไทยนะ เดี๋ยวก็ลู่ซึกหรอก!

ทั้งสากลโลก เขารู้ว่าปราสาทตาเมือนธมอยู่ในประเทศไทย ตั้งแต่เขมรยังเป็นข้าทาสบริวารฝรั่งเศสโน่นแน่ะ

ทั้งฝรั่งเศสเองก็ยอมรับดินแดนตรงนี้เป็นของไทย!

มีแต่ทาสตะวันตกนี่เท่านั้น ละเมอว่าเป็นของเขมร เพื่อให้หายเคลือบแคลงสงสัย อ่านให้รู้กันไว้ตรงนี้เลยก็ได้

................................................


5
ไปบ้านหมี่มาครับ  โดย ลวดหนาม (siamfishing.com)


ลวดหนาม ตั้งกระทู้: 25 ต.ค. 54, 13:24 1




เมื่อวานกลุ่มนักตกปลาชาวโคราชได้มีโอกาสร่วมเดินทาง
ไปแจกของช่วยเหลือผู้ประสพอุทกภัยน้ำท่วมที่อำเภอบ้านหมี่ จ.ลพบุรีกับคณะศาลแรงงานภาค 3
โดยมีท่านอภิธรรม อรัมภวิโรจน์ ท่านนพดล ลัญฉเวโรจน์ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะแรงงานภาค 3
ท่านวิฑูร วิมลเศษฐ ( ท่านต้น ) ผู้พิพากษาแรงงานภาพ 3 พร้อมด้วยคณะได้เดินทางไปพร้อมกับเราตั้งแต่เวลา 5.00น


ตลอดเส้นทางจากโคราชจนถึงปลายทางเราได้รับความร่วมมือจากตำรวจทางหลวงนำทางให้คณะเป็นอย่างดีครับ


คณะของเราแวะทำธุระก่อนที่ outlet ก่อนที่จะเดินทางกันต่อ


ท่านต้นนำเรือส่วนตัวมาด้วย ปกติเรือลำนี้มีไว้ล่ากระสูบ
แต่วันนี้ทำหน้าที่ล่อเป้าให้น้าหม่ำ


ทีมงานรับแจกข้าวกล่องไว้รองท้อง ก่อนที่จะปฏิบัติหน้าที่กันอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย


ผมนั่งรถมากับน้าหม่ำโดยมีน้องแบงค์ลูกชายน้าหม่ำมากับเราด้วยเช่นกัน


น้าหม่ำเองก็ขนของแจกมาเต็มลำเรือเหมือนกัน


บรรทุกเกินอัตราแบบนี้นี่เองถึงเบรคไม่อยู่ ฟาดท้ายท่านต้นดังโครมเลย


เพิ่มน้ำและพลังงานให้กับร่างกายก่อนครับ เช้านี้แดดแรงเอาเรื่องเหมือนกัน


เรือตกปลาจากโคราชมากันหลายลำ และยังมีเรือจากโรงพยาบาลเมืองยางด้วย


ท่านต้นเองกับอาจารย์ตู่สนทนาไปด้วยและก็กินอาหารไปพร้อมๆกันด้วย


หลังเสร็จธุระเราก็เดินทางกันต่อครับ


ตลอดเส้นทางเราขับรถตามท่านต้นตลอดครับ


คณะของเราจะแวะที่ศาลากลางจังหวัดลพบุรีกันก่อนครับ


เส้นทางการจราจรก็อย่างที่เห็นนี่แหละครับ
รถบรรทุกและรถเล็กหลายคันต้องหนีน้ำมาใช้เส้นทางเดียวกันทุกคัน


เรามาถึงศาลากลางจังหวัดลพบุรี ซึ่งมีหลายๆท่านรอเดินทางสมทบกับคณะเราด้วย


ทุกคนในคณะต่างมีจุดหมายเดียวกัน คือไปช่วยเหลือพี่น้องร่วมชาติ


แม้แดดจะร้อนเพียงใดก็ไม่ได้ทำให้คณะของเราย่อท้อ


เรารอคณะสมทบประมาณครึ่งชั่วโมงก็ออกเดินทางกันต่อ
ซึ่งคณะของเราจะแบ่งเป็นสองกลุ่ม
กลุ่มของเราจะมุ่งหน้าสู่วัดกริ่นกฐิน


วัดกริ่นกฐินเมื่อเดือนที่ผ่านมาน้ำไหลบ่าเข้ามาแรงมาก
แต่เวลานี้หลายหน่วยงานได้อาศัยวัดแห่งนี้เป็นศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสพอุทกภัยด้วย


เรือทุกลำต่างเตรียมความพร้อมก่อนที่จะทะยอยกันลงน้ำทีละลำๆ


โชคดีหน่อยครับ ที่วัดมีทางให้เรานำเทรลเลอร์ลงเรือได้ด้วย


น้าโต้งนำเรือมาด้วยหนึ่งลำ โดยมีน้ามิตรนั่งมาเป็นเพื่อน


ท่านต้นเองก็กำลังจัดแจงปลดเชือกผูกเครื่องเรือ
ก่อนถอยเทรลเลอร์ลงน้ำ


เรือของอาจารย์ตู่ มากับโปรปื๊ดครับ


ใกล้เที่ยงพอดี แดดทวีความแรงตลอดเวลา
แต่พวกเราก็ยังคงไม่สะทกสะท้านเช่นเคย


เรือท่านต้นลงน้ำได้อย่างสบายๆครับ


จุดหมายปลายทางของเราอยู่ที่บ้านบางขาม โดยเราจะขับเรือตามเรือของทหารนำทาง
ส่วนผมกับน้าหม่ำเกาะหลังเรือหางยาวของชาวบ้านครับ


น้ำหม่ำกำลังถอยเทรลเลอร์ลงน้ำครับ


น้ำและอาหารแห้งต่างถูกลำเลียงลงจากรถเพื่อนำไปแจกจ่ายผู้ประสพอุทกภัย


เรือหางยาวลำนี้อัดสามครับ แต่ขากลับหายไปหนึ่ง


เรือของเราวิ่งไม่ออกเลย เป็นเพราะสัมภาระที่บรรทุกหนักนั่นเอง


ไม่กล้าขับเร็ว เพราะไม่รู้ว่ามีตออยู่ตรงไหนบ้าง


ระหว่างทางเราเจอกลุ่มชาวบ้าน พายเรือออกมายิงหนูไปเป็นอาหาร


เรือของน้าโต้งเองก็วิ่งไม่ออกเช่นกัน จึงยกหางเพื่อเช็คความบกพร่อง




พอเข้าหมู่บ้านก็รู้ว่าน้ำยังไหลเชี่ยวมาก การบังคับเรือก็เพิ่มความลำบากไปด้วย


โรงงานที่อยู่ริมน้ำมีแต่ความเงียบสงัด


แม้แต่บ้านที่อยู่ริมน้ำ ก็กลายเป็นบ้านร้างกันทุกหลังครับ


ตอนที่วิ่งไล่ตามฉลามแถวลำตะคอง นึกว่าเรืออลูลำนี้จะตามขบวนไม่ทันเสียอีก
ที่ไหนได้ แคริเบียนวิ่งฉิวเลยครับ


น้าคิดตอนนี้ใบพัดอยู่ครบสามใบ
แต่ขากลับ หักหมดทั้งสามใบเหมือนกันครับ โดนสันถนนยางมะตอยนั่นเอง


น้ามิตรนั่งกุมเสบียงอย่างไม่คลาดสายตา
ในถังน้ำแข็งมีของเย็นๆแช่ไว้เพรียบ


จุดหมายของเราอยู่ที่วัดวาสนวรามครับ


แม้น้ำจะท่วมเพียงไรก็ตาม แต่ที่นี่ก็ยังเป็นที่รวมยึดเหนี่ยวจิตใจ
รวมทั้งใช้เป็นศูนย์กลางบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้านด้วย


กลุ่มชาวบ้านที่มารอรับของแจก เพราะเจ้าหน้าที่ อบต.ประชาสัมพันธ์ไว้ล่วงหน้า


หากมองเผินๆ นึกว่าตลาดน้ำเสียอีก


คณะของเราเริ่มทะยอยกันมาถึงทีละลำสองลำ เราจะทำการแจกของให้กับชาวบ้านหมู่ที่ 1 ก่อน


กลุ่มของชาวบ้านมารับรับของอย่างเป็นระเบียบครับ


ป้าคนนี้มีรายชื่อเป็นคิวแรกๆในการรับของ จึงนำเรือเข้ามาก่อนลำอื่น


คณะของเราทะยอยกันเข้ามาเรื่อยๆครับ


ทั้งผู้ให้และผู้รับต่างไม่มีใครกลัวแดดกันเลยครับ


เรือท่านต้นเองก็เพิ่งเดินทางมาถึงเหมือนกัน


คณะของเราได้รับการกล่าวต้อนรับและกล่าวขอบคุณจากตัวแทนของชาวบ้าน
หลังจากนั้นท่านอิทธิธรรมก็กล่าวแสดงความห่วงใยกับพี่น้อง


แม้น้ำจะท่วมสักเพียงไร  แต่น้ำใจของคนไทยไม่เคยทอดทิ้งกันจริงๆครับ


หลายๆท่านที่มาพร้อมคณะ ต่างมีความสุขที่เป็นผู้ให้


คณะของเราหาที่เทียบเรือตามร่มไม้ ชาวบ้านหลายคนแสดงความเป็นห่วง
โดยเรียกให้ขึ้นแพ แต่หลายๆคนต่างขอพักตามอัธยาศัย


ท่านต้นกำลังกล่าวปลอบขวัญและแสดงความเป็นห่วงต่อชาวบ้านที่มารับรับของ


เราตื่นนอนกันตั้งแต่ตีสามตีสี่
เมื่อมาเจอสภาพแบบนี้.หายเหนื่อยกันเลยครับ
ชาวบ้านที่นี่ลำบากกว่าพวกเราเยอะ


ถุงยังชีพและของแจกถูกลำเลียงแจกจ่ายให้ชาวบ้าน  ตามรายชื่อที่ผู้นำชาวบ้านเรียกมารับตามลำดับ


เป็นอีกครั้งที่ผมได้เข้ามาแจกจ่ายของกินของใช้ให้กับพี่น้องชาวบ้าน
ปีนี้หนักจริงๆครับ


ท่านต้นนำถุงยังชีพมาแจกจ่ายให้กับชาวบ้านด้วยเช่นกัน


ชาวบ้านที่ยังไม่ได้รับของ ก็ทะยอยเข้ามาตามเสียงเรียกของผู้นำ


บางคนที่ไม่มีเรือ ก็อาศัยเรือของเพื่อนบ้านมารับของแจก


ชาวบ้านบอกกับผมว่า น้ำท่วมสูงเช่นนี้ 36 วันแล้ว


คุณยายคนนี้ขอแลกกุงเกงของผมกับผ้าถุงที่แกนุ่งมาวันนี้


น้าโต้ง วันนี้งดตกปลา แต่มาเอาบุญแทน


เรือน้าหม่ำหลังจากของข้าวของลงหมดแล้ว


ชาวบ้านกลุ่มนี้คงมีรายชื่ออยู่ท้ายๆกลุ่ม จึงหาที่หลบแดดรอเรียกชื่อตามลำดับ


เราใช้เรือเดินทางเข้าไปแจกของที่หมู่ 2 กันต่อ
ที่นี่ถูกน้ำท่วมสูงเช่นกัน
ทาง อบต.จึงยกสุขาเคลื่อนที่มาตั้งให้บริการ


ทุกคนที่มา  ต่างร่วมกันแจกของกันอย่างทั่วถึงครับ


น้าโต้งยกมือรับไหว้  เมื่อเห็นว่าชาวบ้านยกมือไหว้ขอบคุณ


นอกจากจะชอบตกปลาแล้วยังชอบทำบุญควบคู่กันไปครับสำหรับน้าหม่ำ


ผมก็แจกเหมือนกันครับ จะได้เอาบุญไปฝากคนที่บ้าน


น้ามิตรก็ร่วมแจกด้วยครับ


สภาพบ้านชั้นเดียวเกือบมิดหลังคา


ส่วนบ้านสองชั้นหายไปหนึ่งชั้นครับ


กลุ่มสุดท้ายที่เราเข้ามาแจกของ น้าหม่ำนำเรือตามผู้นำชุมชนก่อนเรา
ที่นี่มีคนอาศัยอยู่ไม่กี่ครัวเรือน เนื่องจากคนส่วนใหญ่ อพยพครอบครัวไปอยู่กันที่ศูนย์กันหมด


แต่ก็ยังมีคนสูงอายุหลายคนที่ไม่ยอมทิ้งบ้านของตนไปไหน
ได้แต่นั่งภวนาว่าขอให้น้ำลดเร็ววันเร็วคืนเถิด


คุณตาพาหลานน้อยมารับของแจก พร้อมด้วยเจ้าตูบหมาคู่ใจของหลาน


หากน้ำไม่ท่วมเช่นนี้ ป่านนี้เจ้าตูบคงวิ่งเล่นตาประสา


คุณยายได้ของแจก แล้วก็จ้ำเรือพายเข้าไปเก็บที่บ้าน


สังเกตเห็นว่ามีแต่คนสูงอายุ


คุณตาผู้นี้เล่าให้เราฟังว่า คนหนุ่มคนสาวย้ายไปกันหมดแล้ว
ส่วนคนแก่อย่างเรา ขอตายกันที่นี่


น้าคิดหาที่หลบแดดใต้ร่มไม้ เพราะแดดแรงจริงๆ


พี่สาวคนนี้ปิดหน้าปิดตาบังแดดมารับของ
แกบอกว่าอายความสวยของแก


เราแจกเรือลำนี้เป็นลำสุด หลังจากนั้นก็พากันเดินทางกลับ


ได้บุญมากันทุกคนครับ


ระหว่างทางเราพยายามขับเรือช้าๆ  เพื่อไม่ให้คลื่นไปรบกวนบ้านเรือนของชาวบ้าน


น้าโต้งขับเรือตามท่านต้น
เนื่องจากเจ้า 15 แรงที่น้าหม่ำเสยท้ายเมื่อเช้าทำท่างอแงตลอดเวลา


เราเดินทางกลับถึงวัดกริ่งกฐินอีกทีในเวลาสี่โมงกว่าๆ


เรือหลายๆลำทะยอยกันขึ้นฝั่งก่อนหน้าเรา และก็ปลอดภัยกันทุกลำครับ


ท่านต้นกับผู้พันหมู รอให้เรือลำอื่นขึ้นเทรลเลอร์ก่อน


วันนี้ก็เหมือนกับการตกปลา
เราออกจากบ้านกันตั้งแต่เช้ามืด และกลับเข้าบ้านตอนตะวันลับขอบฟ้าเช่นเดิม


วัดก็คือสถานที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ
แม้ประสบอุทกภัย แหล่งรวมจิตใจก็ยังสงบนิ่งเสมอ


ผู้พันหมูกำลังเดินไกด์ไปส่งท่านต้น


เรือของเราเป็นเรือลำสุดท้ายที่จะขึ้นเทรลเลอร์
ผมจึงเก็บภาพไปพลางๆ


พวกเราก็ได้แต่ภาวนาว่า ขอให้น้ำลดไวๆ
พี่น้องชาวบ้านจะได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง


เมื่อส่งท่านต้นขึ้นฝั่ง ผู้พันหมูก็ออกมารอให้เรือลำอื่นๆขึ้นเทรลเลอร์กันก่อน


เพื่อนๆต่างช่วยกันคนละไม้คนละมือ


ก่อนกลับ น้าหม่ำขอให้ผมถ่ายภาพให้หนึ่งใบ


หวังว่าอีกไม่กี่วันน้ำคงลดลงไปบ้าง


เรานำเรือขึ้นเทรลเลอร์กันครับทุกลำ และเราก็ปลอดภันกันทุกคนครับ


ขอปิดใบนี้เป็นใบสุดท้ายครับ
และขอนำบุญที่เราได้ มาฝากเพื่อนๆทุกๆคนด้วย
ขอบคุณเวปสยามฟิชชิ่งที่ให้ใช้พื้นที่ในการแบ่งปันด้วยครับ

.
.

คิด ความเห็นที่ 142: 26 ต.ค. 54, 10:18


แง  ฟันหลอ     
แต่ได้บุญ  ได้คำอวยพร

.


ขอขอบคุณ ภาพจาก... ไปบ้านหมี่มาครับ
https://www.siamfishing.com/board/view.php?tid=638530

.




6
แอบเมียไปหาน้องแพนเค้ก  โดย ลวดหนาม (siamfishing.com)


ลวดหนาม ตั้งกระทู้: 22 ต.ค. 54, 22:07




สองสามวันก่อนผมโทรหาอาจารย์เล็กเพื่อขอคำปรึกษาในการถ่ายภาพ
และก็เช่นเคยครับ ทุกอย่างอาจารย์ไม่มีปิดพวกเรา
หลังวางสายจากอาจารย์ผมก็นึกคอนเซ็บทันที
วันนี้อากาศร้อนอบอ้าว ซึ่งต่างจากเมื่อสามสี่วันที่ผ่านมา
เริ่มมีแดดสาดส่องจากฟ้าลงมาบ้าง ปูปลาก็ไม่ได้ตก
โทรนัดน้องแพนเค้กดีกว่า
เมียด่าก็ยอม.เหว่ย
ชุดนี้ลองถ่ายให้อาจารย์ดูครับ ชุดต่อๆจะพยายามพัฒนาให้ดีกว่านี้ครับ
ชุดนี้ผมใช้ เลนส์ TAMRON 17-50 โนสั่นทั้งชุดขอรับ แต่เข้าใกล้นางแบบทีไร เป็นสั่นทุกที ..กรรม

ขอบคุณน้าหนอน เจ้าของอู่สยามเซอร์วิสที่ให้ใช้สถานที่ในการถ่ายภาพชุดนี้ครับ


คอนเซ็บวันนี้อยากถ่ายในอู่ จึงบากหน้าไปหาน้าหนอนเพื่อขอใช้สถานที่
และก็ได้รับความกรุณาจากเฒ่าแก่อู่อย่างดี
แพนเค้กรีบกระโดดขึ้นไปควบเบนซ์เป็นใบแรกขอรับ


ไม่มีอะไรดีเท่ารถลูกค้าที่เอามาซ่อมนี้แหละ
เมื่อเจ้าของอู่เป็นใจ มีหรือที่เราจะรอช้า


ถ่ายในอู่ไม่มีไฟช่วย อุปกรณ์ก็พื้นๆ เอาเท่าที่เราทำได้ก่อนขอรับ


ผมดูสีของภาพไม่ออก เพราะตาดันมาบอดสีตั้งแต่เกิด
จึงต้องให้น้องแพนเค้กเป็นคนเลือกพิกเจอร์สไตล์เสียเอง


ลองใช้แฟลชแยกดูบ้างครับ แต่ก็แรงเกินไป


ลองลดกำลังแฟลชดู 1สต๊อปครับ


ผมคุยกับอาจาย์เล็กทางสายเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ว่าผมอยากถ่ายภาพด้วยแฟลชแยก
อาจารย์ก็สอนทุกอย่าง เพื่อไม่เป็นการลืม ผมจึงรีบถ่ายซะเลย






ระหว่างที่ถ่ายก็มีน้องอาร์ทลูกชายของน้าหนอนและน้องอาร์มหลานชายของน้าหนอน มาคอยช่วยถือไฟให้
ถ้าไม่มีหนุ่มสองคนนี้ ลำบากผมแน่เลย


เรามาถึงอู่ของน้าหนอนก็เกือบสิบเอ็ดโมงแล้ว
ผมเป็นคนไม่กินข้าวเช้า แต่วันนี้เริ่มรูสึกหิว
เนื่องจากได้กลิ่นก๋วยเตี๋ยวหอมๆมาจากห้องครัวของซ้อไก่ แต่อีกใจก็อยากจะถ่ายภาพ


อากาศในอู่วันนี้ไม่เหมือนเมื่อสี่ห้าวันที่ผมเข้ามาหาน้าหนอน
วันนี้ร้อนอบอ้าวพอดู เจ้าของอู่ก็ใจดี๋ดี ยกพัดลมมาเปิดให้นางแบบ
ส่วนผม น้าหนอนบอกว่า ร้อนก็ช่างมัน..เฮ้อ ให้มันได้จังซี่..




เราพักเบรคกันครึ่งชั่วโมงเพื่อให้น้องเขาไปทานอาหาร
หลังจากเปลี่ยนชุดผมก็ชวนถ่ายต่อทันที

.


ลองปรับกล้องให้เป็นภาพซีเปียร์ดูบ้างครับ


อาจารย์เล็กเคยบอกกับพวกเราว่า ภาพถ่ายที่เราถ่ายๆกัน ไม่มีภาพเสีย
มีแต่จะสวยหรือไม่สวยเท่านั้นเอง ดังนั้นผมจึงไม่ค่อยกดดัน สีจะสวยหรือไม่สวยผมดูบ่ออก
เพราะตาผมบอดสี ผมเล่นซีเปียร์จังซี่แหละ


รถทุกคันที่เข้ามาซ่อมที่นี่ ส่วนใหญ่เป็นรถที่เกิดอุบัติเหตุหนัก
ถ้านางแบบรู้ว่ารถที่เข้าฉากด้วย  คว่ำตายหลายศพจะกล้าถ่ายหรือเปล่าหนอ


ระหว่างที่เราถ่ายภาพกัน เสียงเคาะตัวถังรถ จากช่างเคาะก็บรรเลงเพลงเคาะกันดังสนั่น
ผมจึงยืมฆ้อนให้นางแบบของเราลองเคาะดูบ้าง เสียงเบ๊าเบา..เหว่ย


เคาะได้ไม่กี่ที นางแบบก็หันมาถามผมว่า รถเขาจะบุบไหมพี่..แล้วกัน..


ไม่ต้องกลัวตัวถังบุบหรอกนู๋
เดี๋ยวน้าหนอนก็คงมาเก็บงานให้เอง เคาะแรงๆไปเลย


แพนเค้กบอกว่าไม่ไหวครับ เคาะจนเจ็บมือไม่เห็นมีอะไรเลย
ให้นู๋ทำอย่างอื่นเหอะ..แนะว่าซั่น


ภาพหลายๆใบที่คนถ่ายพยายามสื่อออกมาทั้งๆที่ไม่เหมาะ
ใบนี้ผมเห็นว่ากุงเกงของน้องสั้นเกินไป
จึงให้น้องดึงเสื้อลงมาข้างล่างแทนที่จะปล่อยไว้ข้างบนขอรับ




ลองเข้ามาถ่ายในห้องอบสีดูบ้างครับ
สปอร์ทไลท์ดวงละ 500วัตต์ 6 ดวง เท่ากับ 3000 วัตต์
ไม่มีอะไรมาซอร์ฟ ให้มันได้จังซี่
แร๊ง..แรง


เราได้มอเตอร์ไชค์ของน้องอาร์ท ลูกชายของน้าหนอนให้ผมยืมมาถ่าย
เล่นกับไฟอยู่ตั้งนานครับ โดยเริ่มจากเปิดทุกดวง แล้วค่อยๆไล่ปิดทีละดวง
ปิดตัวเองนะครับ..หลอดขาดดังโพล๊ะ


ยิ้ววว แบบนี้ผมก็ชิงฝันก่อนนะดิ


เราถ่ายใบนี้เป็นใบสุดท้ายก่อนที่จะไล่ปิดไฟทีละดวงๆ
จนเหลือดวงเดียว เพราะนางแบบหน้าด่าง


ว่านอน สอนก็ง๊ายง่าย
ทั้งๆที่ร้อนจากไฟสปอร์ทไลท์
ผมบอกให้นอนทับถังน้ำมันรถ น้องเขาก็ยังทนได้


แพนเค้กคงบ่นผมในใจว่า ออกทริปถ่ายภาพกับพี่ลวดไม่เคยสบายเลย
ไม่จูงเข้าป่าก็ให้นู๋คลุกฝุ่น


เราไล่ปิดไฟจนเหลือสปอร์ทไลท์หนึ่งดวง
จากนั้นก็ให้น้องอาร์มใช้แผ่นรีเฟลคช่วยบังแสงให้


ฝุ่นสีที่พื้นเยอะมากครับแต่แพนเค้กนั่งอย่างสบาย เฉิบ


พอนั่งนานๆก็ไม่อยากจะลุกเสียนี่


โชคดีครับที่มีสองหนุ่มมาช่วยจับโน้นจับนี่
วันนี้ผมจึงเบาแรงไปเยอะเลย




น้องเขาคงร้อน เพราะห้องอบสี เป็นห้องที่สร้างมาเพื่อทำความร้อน
จึงแก้เชือกรองเท้าเพื่อระบายอากาศ


หลังจากคลายเชือกให้หลวมแล้ว ผมก็ชวนน้องเขาถ่ายกันต่อครับ


นางแบบที่ออกทริปถ่ายภาพกับผม
ผมมักจะให้เกียรติน้องๆเสมอ การถูกเนื้อถูกตัวเป็นสิ่งที่ไม่ควรอย่างยิ่ง
หากจำเป็นต้องถูกตัว ผมจะกล่าวขอโทษก่อนทุกครั้ง


เราถ่ายกันจนถึงสี่โมงเย็น ซึ่งผมต้องรีบไปส่งน้องเขากลับเวลาห้าโมง
ดูเหมือนแปร๊บเดียว ทำไมเวลามันเดินเร็วจัง..หว่า




ถ่ายไปถ่ายมาน้องเขาก็อ่อนแรงครับ คงร้อนนั่นเอง


งานเลี้ยงย่อมมีเลิกลาครับ
ขอบคุณน้องอาร์ท น้าหนอน ซ้อไก่ด้วยสำหรับสถานที่และก๋วยเตี๋ยวอร่อยๆ


ขอบคุณน้องอาร์ม หนุ่มที่ถือแผ่นรีเฟลคให้ด้วยครับ


และที่ขาดไม่ได้คือน้องแพนเค้กครับ
ขอบคุณที่ให้พี่แอบเมียไปหา โดนเมียด่าเมื่อไหร่พี่จะไปหาอีกนะ


ลาด้วยใบนี้ครับ ขอบคุณเพื่อนๆที่แวะทักทาย
ขอบคุณสยามฟิชชิ่งที่ให้ใช้พื้นที่ครับ
ลาก่อนเด้อ

.
.

The_Oishi ความเห็นที่ 134: 23 ต.ค. 54, 20:53


สวัสดีครับน้าๆทุกคนผมชื่ออาทครับเป็นลูกน้าหนอน พอดีได้มีโอกาสได้ร่วมการถ่ายภาพในครั้งนี้ด้วยก็เลยอยากจะแชร์ภาพเบื้องหลังที่ไปถ่ายมาครับพร้อมทั้งภาพที่ผมถ่ายด้วย^ ^

ก่อนอื่นเป็นภาพลุงป๋อง กับ อาบูล ที่มาร่วมชมการถ่ายภาพครับ ^ ^


"น้องแพนทำท่าตามพี่ป๋องแบบนี้น่ะ....แบบนี้น่ะ "




ภาพการทำงานในมุมสูงของลุงป๋องครับ^ ^


ต่อไปเป็นภาพที่ผมเริ่มหัดถ่ายภาพนะครับ ติชมมาได้เลยนะครับน้าๆ ผมเป็นมือใหม่ครับ จะได้เอาคำติชมเหล่านั้นไปปรับปรุงแก้ไขครับ


เห็นลุงป๋องถ่ายภาพเป็นซีเปีย ผมเลยลองเป็นขาวดำดูบ้างครับ^ ^


ส่วนตัวชอบภาพนี้มากครับ ^ ^


ภาพจากมุมสูงอีกภาพครับ 555+ กว่าลุงป๋องจะได้มาแต่ละภาพ ^ ^


ว้าวๆ ที่ลุงป๋องข้อศอกด้านเพราะแบบนี้นี่เอง ^ ^


"ภาพนี้OKไหมจ๊ะน้องแพน"






555+ ลุงป๋องถ่ายก้น ผมก็ขอถ่ายมาบ้างละน้า


ขอปิดท้ายด้วยภาพนี้ก็แล้วกันนะครับ  พร้อมรับคำติชม เพื่อนนำไปปรับปรุงแก้ไขครับ

การถ่านภาพครั้งนี้เป็นการถ่ายภาพครั้งที่2ของผมนะครับ

ขอบคุณลุงป๋อง ที่แนะนำวิธีการถ่ายภาพให้ผมเสมอ
ขอบคุณอาป็อกกี้ ที่ให้ยืมกล้องในการถ่ายภาพครั้งนี้
ขอบคุณแพนเค้ก ที่มาเป็นแบบให้ครับ

(ภาพที่ถ่ายไม่ได้ผ่านโปรแกรมแต่งภาพแต่อย่างใด(แต่งไม่เป็นครับ555+)

.


ขอขอบคุณ ภาพจาก... แอบเมียไปหาน้องแพนเค้ก
https://www.siamfishing.com/board/view.php?tid=638413

.




7
Money expo 2011 และน้องDream  โดย ลวดหนาม (siamfishing.com)


ลวดหนาม ตั้งกระทู้: 22 ส.ค. 54, 10:53




ปลายอาทิตย์ที่ผ่านมา น้าไข่นุ้ยโทรหาผมว่ามาจัดบูท
ในงานMoney expo 2011 ที่เดอะมอลล์โคราช
เสียงตามสายบอกว่าสาวๆเยอะซะด้วยซิ ผมจึงแว๊บไปชั่วโมงกว่าๆ
ก่อนที่จะมาถ่ายภาพให้กับน้องดรีมต่อในวันรุ่งขึ้น
เมื่อวานก็ไปตกปลาแต่ไม่ได้เก็บภาพมาฝาก
งั้นฝากภาพสาวๆก่อนเน๊าะ


มาดูงาน money expo 2011 เดอะมอลล์
สาวๆเยอะดีครับ ผมเดินถ่ายรูปอย่างเดียว
เรื่องเงินไม่มีปัญญา


บูทของนู๋อ้อม นู๋รักเมืองไทย


SCB เจ้าหนี้ผม


คนนี้ก็เจ้าหนี้ผมคือกัน


ลูกโป่งนู๋อ้อมบอกว่ามีไว้แจกครับ
แต่ไม่มีลูกค้ากล้าขอเลย สงสัยกลัวนู๋


มุมของแบงค์กรุงเทพครับ


พอเห็นกล้องน้องเขาก็หันมายิ้มทันที สนุกอีกแบบครับ


ไม่มีมุมให้ถ่ายครับ เพราะระหว่างน้องๆขึ้นเวที คนมุงดูเยอะมาก ผมจึงเลี่ยงมาเก็บภาพด้านข้าง


สาวสวยบูทธนาคารอิสลาม


น้าไข่นุ้ยชวนผมมาถ่ายสาวชุดเขียว
ผมบอกว่าชุดแดงสองคนนี้ใช่ไหม ผมถ่ายแล้ว
ช่วยไม่ได้..ตาบอดสีตั้งแต่เกิด


อาหมวยที่บูทธนาคารไทยอิสลาม




ดอกเบี้ย 0 % ครับ


เห็นน้องเขายืนแจกโบชัวร์ แค่ผมพยักหน้าน้องเขาก็หันมาหาทันที


น้องฐิติรัตน์ นอกจากจะน่ารักแล้วนิสัยดีมากครับ


บูทนี้สาวเยอะมากครับ คุยสนุกทุกคน


แวะมาที่มุมของSCB ก็เพลินตาดีครับ




น้องฐิติรัตน์ชอบถ่ายภาพมาก เล่นกับกล้องเก่งอีกด้วย


นู๋อ้อมที่บูทเมืองไทยประกันชีวิต


สาวสวยคนนี้ก็คุยสนุกครับ
นู๋อ้อม เดินทางจาก กทม.มาออกบูทถึงโคราชเชียว


เสียดายที่ผมมีเวลาถ่ายแค่วันเดียว ทั้งๆที่งานมีตั้งสามวัน

..


เอาท์ดอร์กับน้องดรีมบ้างขอรับ
ไม่มีตัวช่วยเหมือนถ่ายพริตตี้ นอกจากรีเฟลค


ถ่ายกันที่สวนรุกชาติ ไม่มีแดด แต่ก็ร้อนอบอ้าวน่าดู เพราะเราถ่ายกันตอนสายๆ


เคยพาเจ้าเปโซมาถ่ายที่นี่ตอนที่เป็นยุวบัณฑิต
แต่ตอนนั้นป็นหน้าหนาว ต้นไม้ใบหญ้าไม่ได้เขียวแบบนี้


ดีหน่อยที่น้องดรีมมาคนเดียว ความกดดันในการถ่ายภาพจึงมีน้อย
ถ้านางแบบมาหลายคน ผมคนเดียวเอาไม่อยู่


กว่าจะได้ใบนี้ ทั้งมดแดงทั้งยุงกัดนางแบบจนขึ้นผื่น




วันนี้มีส้มโอ ซึ่งเป็นน้องสาวของผมทำหน้าที่ถือแผ่นรีเฟลคให้
และชวนนางแบบคุยระหว่างถ่ายด้วย


สนามเด็กเล่นเป็นไม้ล้วนๆ วันนี้ถูกปลวกทำลายไปเกือบหมดแล้ว


เดินมาอีกหน่อยก็เป็นป่า มีคนมาเดินเก็บเห็ดกันหลายคน
ผมให้น้องดรีมเดินเข้าไปหาเห็ดดูบ้าง แต่ก็ไม่ได้เห็ดมาเลยสักดอก
จึงให้น้องเขานั่งลงแล้วลองถ่ายใบนี้ดู


ที่นี่คนไม่พลุกพล่านเหมือนไปถ่ายกันที่บุ่งตาหลัว จึงเหมาะสำหรับคนที่ชอบสันโดดเช่นเรา


นางแบบทายากันยุงมาเรียบร้อยครับ แต่ผมนะดิ ยุงบินเต็มหัวเลย


น้องดรีมบอกว่า ถ้ารู้ว่ายุงเยอะแบบนี้ เอามุ้งมาด้วยแหล่ะ


ที่จริงแล้วเราตั้งใจจะไปถ่ายกันที่สวนสัตว์
แต่มาคิดดูอีกที ถ่ายที่นี่เหนื่อยน้อยกว่า  แถนยังใกล้บ้านอีกด้วย


ต้นไม้ที่นางแบบพิงอยู่มีมดแดงเยอะมาก แต่น้องดรีมทนทายาทจริงๆ


เงาดำที่ขานางแบบเกิดจากเงาของเหล็กที่อยู่ด้านบนครับ
ส่วนที่สว่างเกิดจากรีเฟลคของเรา


สนามเด็กเล่นที่เป็นเหล็กก็ชำรุดไปหลายชิ้น
แต่ก็ดีอีกแบบครับ จะได้ไม่ต้องมีเด็กมารบกวนเรา


เวลาก็ใกล้เที่ยงแล้ว ตะวันยังถูกบดบังด้วยกลีบเมฆ
ถ้าแดดแรงๆส่องลงมา เราจบแน่


มุมนี้มีม้านั่งอัลลอย ถ้าเป็นม้านั่งไม้ คงเสร็จปลวกไปตั้งนานแล้ว


ข้างหลังน้องดรีมมีกองขยะและมอเตอร์ไซร์จอดอยู่หนึ่งคัน
ผมจึงเลือกใช้มุมเฉียงๆเพื่อหลบภาพที่ไม่ต้องการ


ถ้านู๋จะใส่ชุดนี้ไปช่วยยายเก็บเห็ดในป่า
คงได้เห็ดเต็มตะกร้าแน่เลย


น่าฝนแบบนี้ ดอกไม้นานาชนิดแข่งกันผลิดอก


ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาเรียกดอกอะไร
เห็นเป็นดอกไม้ผมก็เก็บมาให้น้องดรีม


เราทนยุงกัดกันไม่ไหวจึงย้ายมาที่บ้านผม


ถ่ายกันสบายๆหน้าบ้านเราเอง


บ่ายแก่ๆก็จริง แต่ก็ยังไม่มีแดดอยู่ดี


เปลี่ยนให้บอยมาช่วยถือรีเฟลคบ้าง


พอรีเฟลคถอยห่างผมก็เก็บภาพเต็มตัวให้น้องดรีม


ถ่ายไปก็เหม็นเยี่ยวหมาไป ข้างๆบ้านเลี้ยงหมาหลายตัว
เช้าและเย็นมันชอบวิ่งมาเยี่ยวใส่มุมนี้  เสร็จก็วิ่งกลับเข้าบ้าน


จึ๋ยย ร้อนแบบนี้ต้องถือคันเบ็ด ถึงจะหายร้อน


นึกว่าที่บ้านจะไม่มียุงเสียอีก ที่ไหนได้บินมากันเป็นฝูงๆเลย


เก็บภาพกันหลังออฟฟิต ก่อนที่จะเดินเข้าร้านชบา


อาเหลียงเจ้าของร้านอาหารชบาเห็นเราถ่านภาพ
ก็ตะโกนข้ามฟากเชิญให้เราเข้าไปถ่ายในร้านบ้าง


ชบากำลังซ่อมแซมเวทีนักร้อง ผมจึงหลบมุมพาน้องดรีมมาถ่ายมุมนี้แทน


ถ่ายคู่กับส้มโอ สีผิวโทนเดียวกันเดี๊ยะเลย


ออกอาการเหนื่อยทั้งนางแบบและคนถ่ายแล้วขอรับ
เพราะเราถ่ายกันค่อนวันเข้าไปแล้ว


ฮั่น..แน่ะ เป็นหมอยาก็ไม่ยักบอกเน๊าะน้าแขก


หยิบเอาร่มเจ้าของร้านนี่และมาถือเล่นซะเลย


ปิดท้ายด้วยใบนี้ขอรับ
ขอบคุณเวปสยามฟิชชิ่งที่ให้ใช้พื้นที่ในการแบ่งปัน
ขอบคุณเพื่อนๆที่แวะเข้าชม
ขอบคุณน้องดรีมมากๆที่ยอมมาเป็นแบบให้ยุงและมดแดงกัดเล่น
ลาก่อนขอรับ

.


ขอขอบคุณ ภาพจาก... Money expo 2011 และน้องDream
https://www.siamfishing.com/board/view.php?tid=635868

.




8
เพลงไทยเดิมอมตะ อันแสนไพเราะ "ลาวดวงเดือน"


เพลง ลาวดวงเดือน (ลาวดำเนินเกวียน)

เพลงลาวดวงเดือน เป็นเพลงไทยเดิมเพลงหนึ่งที่รู้จักกันดีในหมู่ชาวไทย ทรงพระนิพนธ์โดยพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นพิไชยมหินทโรดม (พระนามเดิม พระองค์เจ้าชายเพ็ญพัฒนพงศ์) พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับเจ้าจอมมารดามรกฎ และทรงประสูติเมื่อวันที่ ๑๓ กันยายน พ.ศ. ๒๔๒๕

เดิมเพลงนี้กรมหมื่นพิไชยมหินทโรดมทรงตั้งชื่อว่า เพลงลาวดำเนินเกวียน เพราะทรงโปรด “เพลงลาวดำเนินทราย” ของ พระยาประสานดุริยศัพท์ จึงตั้งพระทัยประพันธ์เพลงสำเนียงลาวที่มีลักษณะคล้ายๆ กัน แต่เนื่องจากเนื้อร้องที่ขึ้นต้นว่า โอ้ละหนอ…ดวงเดือนเอย…. ทำให้ผู้ฟังนิยมเรียกกันว่า ลาวดวงเดือน เป็นชื่อที่นิยมเรียกสืบมาจนหลงลืมชื่อเดิมที่ผู้ประพันธ์ทรงตั้งไว้

ประวัติของเพลงลาวดวงเดือน มีอยู่ว่า เมื่อกรมหมื่นพิไชยมหินทโรดมได้เสด็จไปนครเชียงใหม่ และเกิดชอบพอกับเจ้าหญิงชมชื่น พระธิดาองค์โตของเจ้าราชสัมพันธวงศ์และเจ้าหญิงคำย่น ณ ลำพูน ทรงโปรดให้ข้าหลวงใหญ่มณฑลพายัพเป็นเถ้าแก่เจรจาสู่ขอ แต่ได้รับการทัดทาน ไม่มีโอกาสที่จะได้สมรสกัน ทำให้พระองค์โศกเศร้ามาก เป็นเหตุให้พระองค์ทรงโปรดเพลง “ลาวเจริญศรี” (บทร้องจากวรรณคดีเรื่องพระลอ) นำมาสู่แรงบันดาลใจการนิพนธ์ เพลงลาวดวงเดือน ในที่สุด

และเมื่อใดที่ทรงระลึกถึงเจ้าหญิงชมชื่น ก็จะทรงดนตรีเพลงลาวดำเนินเกวียน (ลาวดวงเดือน) เพลงนี้ หรือให้มหาดเล็กเล่นให้ฟัง มาตลอดพระชนมชีพ ซึ่งพระองค์ทรงสิ้นพระชนม์ในพุทธศักราช ๒๔๕๒ เมื่อพระชนมายุได้เพียง ๒๘ พรรษา ด้วยโรคปอดเรื้อรัง ซึ่งบ้างก็ว่าทรงตรอมพระทัยเพราะความอาลัยรัก

.

ลาวดวงเดือน

    โอ้ละหนอ... ดวงเดือนเอย ข้อยมาเว้า รักเจ้าสาวคำดวง
    โอ้ดึกแล้วหนอ ข้อยขอลาล่วง อกพี่เป็นห่วง รักเจ้าดวงเดือนเอย
    ขอลาแล้ว เจ้าแก้วโกสุมภ์ ข้อยนี้รักเจ้าหนอขวัญตาเรียม
    จะหาไหนมาเทียม เจ้าดวงเดือนเอย
    หอมกลิ่นเกสร เกสรดอกไม้ หอมกลิ่นคล้ายคล้ายเจ้าสูของเรียมเอย
    หอมกลิ่นกรุ่นครัน หอมนั้นยังบ่เลย เนื้อหอมทรามเชย....เอ๋ย..เราละหนอ

    โอ้ละหนอ นวลตาเอย ข้อยนี้รัก แสนรักดังดวงใจ
    โอ้เป็นกรรมต้องจำจากไป อกอาลัยเจ้าดวงเดือนเอย
    เห็นเดือนแรม เริดร้างเวหา ข้อยเบิ่งดูฟ้า (ละหนอ) เห็นมืดมน
    พี่จะทนทุกข์...ทุกข์ทน เจ้าดวงเดือนเอย
    เสียงไก่ขันขาน มันหวานเจื้อยแจ้ว ช่างหวานสุดแล้ว หวานแจ้วเจื้อยเอย
    ถึงจะหวาน เสนาะ หวานเพราะกระไรเลย บ่เหมือนทรามเชย...เราละหนอ...

.


https://www.youtube.com/watch?v=ISl5c6DheBY

ลาวดวงเดือน | คุณพระช่วย | ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๖

https://youtu.be/ISl5c6DheBY?si=e6WodfKz3Z9HYF9v

.




9

https://www.facebook.com/watch/?v=599270458241570

เพลง : ลาวเจริญศรี - โก๊ะตุลย์ , โบ๊ต | เพลงเอกนอกรอบ

https://www.facebook.com/share/v/1BNAayVre2/

.





10
เพลงไทยเดิมอมตะ อันแสนไพเราะ "ลาวเจริญศรี"


เพลง ลาวเจริญศรี

"ลาวเจริญศรี" เป็นเพลงอมตะอันไพเราะที่ถูกนำมาเรียบเรียงเสียงประสานในลีลาเพลงไทยสากล มีประวัติมาจากเพลงตับลาวเจริญศรี เป็นเพลงตับเรื่องพระลอ (เพลง ตับเรื่อง คือเพลงหลาย ๆ เพลงที่ร้องต่อเนื่องกัน และเปนเรื่องราวเดียวกัน) โดยคำร้องตอนต้น ปรับปรุงมาจากบทละครของเจ้าพระยาเทเวศฯวงศ์วิวัฒน์ (ม.ร.ว.หลาน กุญชร ณ อยุธยา) ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากวรรณคดี เรื่อง "ลิลิตพระลอ" สันนิษฐานว่าอาจแต่งในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถหรือสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นตอนที่พระเพื่อนพระแพงส่งนับขับซอชมความงามของตนให้พระลอฟัง และคำร้องตอนท้ายปรับปรุงจากบทละครของ พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์

เพลงตับนี้ประกอบด้วยเพลงสำเนียงลาวที่ไพเราะ ถึง ๘ เพลง คือ เพลงลาวเล็กตัดสร้อย ลาวเล่นน้ำ ลาวกระตุกกี่ ลาวกระแตเล็ก ลาวดอกไม้เหนือ ลาวเฉียง ลาวครวญ และลาวกระแซ (และที่เรียกว่า เพลง ตับลาวเจริญศรี นั้น เนื่องจากเพลงลาวเล็กตัดสร้อย บทร้องที่ว่า "เจริญศรี" เสียงสูงเด่นกว่าคำอื่น จึงนำมาเรียกเป็นชื่อเพลงตับนี้)

เพลงลาวเจริญศรี(ไทยสากล) ที่นิยมขับร้องกัน มีเนื้อร้องของเพลงลาวเล็กตัดสร้อย และลาวเล่นน้ำ ดังนี้

เกริ่นลาว
       ครานั้นยังมีสองกัลยา            ลักษณาเลิศล้ำในต่ำใต้
       ทรงโฉมประโลมละลานใจ           บุตรีไท้องค์วิษณุกรรม

ลาวเล็กตัดสร้อย
       อายุเยาวเรศรุ่นเจริญศรี             พระเพื่อนพี่แพงน้องสองสมร
       งามทรงงามองค์อ่อนซ้อน             ดังอัปสรหยาดฟ้าลงมาเอย

ลาวเล่นน้ำ
       แม่คุณเอ๋ย ข้อยบ่เคยพบเจ้า        สองนางลำเพาสูเจ้างามตา
       สาวใดบ่เหมือนสองเพื่อนแพงนา  แต่ข้อยดูมาลักษณาบ่ปาน


.

ขอขอบคุณ ที่มาของเรื่อง
ดนตรีไทย Thai Classical Music
6 พฤศจิกายน 2018
https://www.facebook.com/100064531398686/posts/1919974864751933/
..

https://www.youtube.com/watch?v=K0So_P4dVWA

ลาวเจริญศรี ♪ สวี ทองโปร่ง
arissa suwannarat

https://youtu.be/K0So_P4dVWA?si=SByRKEMF2RQ2d-T0

.




Pages: [1] 2 3 ... 10
SMF 2.0.4 | SMF © 2013, Simple Machines | Theme by nesianstyles | Buttons by Andrea
Page created in 0.121 seconds with 12 queries.