Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
หมวดหมู่ทั่วไป => ศาลาพักใจ => รายการโทรทัศน์ที่น่าดูมาก => Topic started by: ppsan on 19 October 2025, 14:06:03
-
ละคร ปริศนา เดอะซีรีส์ : รัตนาวดี ตอนที่ 17
https://mgronline.com/drama/detail/9580000131903
รัตนาวดี ตอนที่ 17
เผยแพร่: 28 พ.ย. 2558 20:45 โดย: MGR Online
(https://mpics.mgronline.com/pics/Images/558000013655401.JPEG)
รัตนาวดี ตอนที่ 17
อีกมุมสวยของทะเลสาบ ท่านหญิงรัตนาวดี กับท่านดนัยสนิทมากขึ้นกว่าเดิม
"นายเล็กเคยบอกหญิงว่าจะส่งข่าวแผนการท่องเที่ยวของพวกเราให้ท่านดนัยทรงทราบตลอดเวลาไม่ใช่หรือ"
ท่านดนัยอึกอัก
"กระหม่อม"
"แต่ก็ยังไม่ได้พบกัน....ท่านคงยุ่งมากสินะ"
"แต่ท่านก็ได้แนะนำสถานที่ต่างๆให้กระหม่อมพาท่านหญิงกับคุณสร้อยเที่ยว"
รัตนาวดีถอนหายใจ
"ท่านดนัยมาอยู่เมืองนอกนาน...คงจะทรงรู้จักคนเยอะสินะ"
"กระหม่อม..ทำงานสถานทูตก็ต้องติดต่อกับคนหลายอาชีพ...ก็เลยทำให้ทรงรู้จักคนเยอะ"
รัตนาวดีพูดยิ้มๆ
"ก็เลยคบหาเพลิดเพลินกับเพื่อนๆ จนลืมไปว่าฉันจะมา... ท่านอาจจะทรงคิดว่าฉันมาทำให้ท่านเสียเวลาก็ได้"
ท่านดนัยรีบแก้ตัว
"ไม่จริงเลยกระหม่อม...ท่านดนัยไม่ได้ทรงคิดอย่างนั้น แม้แต่น้อย."
"เธอจะรู้ได้ยังไง จิตใจคนเรายากแท้หยั่งถึง เธอสนิทกับท่านดนัยก็จริง แต่เธอก็คงไม่ได้รู้ทัยท่านทั้งหมดหรอก จริงไหม"
รัตนาวดีหันมาถาม ท่านดนัยสีหน้าเป็นทุกข์
"กระหม่อมแน่ใจว่าท่านดนัยไม่ได้ทรงคิดอย่างนั้น...เพราะ...เพราะ"
รัตนาวดีมองหน้าท่านดนัย
"เพราะอะไร"
ท่านดนัยก้าวเข้ามาใกล้รัตนาวดี
"กระหม่อมมีบางอย่างอยากจะทูลท่านหญิง"
"เรื่องอะไร"
ท่านดนัยท่าทางเกรงๆ เพราะกลัวรัตนาวดีจะโกรธ รัตนาวดีเห็นท่าทางท่านดนัยเช่นนั้นก็ยิ่งอยากรู้
"เธอจะบอกอะไรฉัน"
ท่านดนัยตัดสินใจที่จะบอกความจริง
"คือ...กระหม่อม"
เสียงป้าสร้อยดังแทรกมาขัดจังหวะอีกแล้ว
"ท่านหญิง"
ป้าสร้อยเดินเข้ามาหารัตนาวดี วิมลเดินตามมาทำท่าหมดแรง
ณ วังเสด็จพระองค์หญิง
อาของท่านพจน์นั่งอยู่บนเก้าอี้ หรือ ตั่งสวยๆ เสด็จพระองค์สุทธา กับ เสด็จพระองค์หญิงหวาน พ่อแม่ของท่านดนัย นั่งอยู่ที่เก้าอี้รับแขกใกล้ๆ ท่านพจน์ กับ ปริศนา นั่งอยู่
ที่พื้นใกล้ๆเสด็จอา ท่านพจน์ กับ ปริศนา ก้มกราบเสด็จอา
"กราบเสด็จอาค่ะ"
ท่านชายพจน์หันไปไหว้พ่อกับแม่ท่านดนัย ปริศนาก้มกราบด้วย
"กราบสวัสดีเสด็จอาทั่งสององค์กระหม่อม"
ผู้ใหญ่ทั้งหมดยิ้มแย้ม
เสด็จสุทธาบอก "ไม่ได้พบกันเสียนานเลยนะท่านพจน์"
เสด็จหวานบอก"ก็ตั้งแต่งานแต่งงานไงคะ...วันนี้ไม่ได้พาคุณชายคุณหญิงมาด้วยเหรอปริศนา"
"เป็นหวัดกันนิดหน่อยเพคะ...พอหายดีปริศนาจะพามากราบบังคมเพคะ"
"อีกหน่อยขี้คร้านจะได้พบกันบ่อยๆ ละคุณหวาน... ท่านพจน์..ที่อาให้มาวันนี้คงพอจะรู้แล้วใช่ไหมว่าเรื่องอะไร" เสด็จพระองค์หญิงว่า
"เรื่องท่านดนัย กับ หญิงรัตน์ใช่ไหมคะ"
ผู้ใหญ่ทุกคนพากันยิ้มสดชื่น
"ดนัยเร่งให้อามาสู่ขอหญิงรัตนาวดี...เขียนจดหมายมาเร่งทุกวัน ดนัยไม่เคยพอใจผู้หญิงคนไหนอย่างนี้เลย" เสด็จสุทธาบอก
เสด็จอายิ้มพอใจ
"หญิงรัตน์ไปเที่ยว กลับไปเจอพระเอกเสียนี่ ท่านพจน์จะว่าอย่างไรล่ะ...อาน่ะดีใจจริงๆ ที่ท่านดนัย กับ หญิงรัตน์มาชอบพอกัน สองคนนี่เหมาะสมกันนะ"
ท่านพจน์ยิ้มใจเย็น
"ถ้าเสด็จอาเห็นด้วย...หลานก็ตามพระทัยค่ะ"
"จะมาตามใจอาได้อย่างไรท่านพจน์...น้องสาวคนเดียวของเรา คู่ทุกข์คู่ยากกันมา....พ่อแม่ก็ไม่มี"
"หลานก็รู้สึกใจหายเหมือนกันค่ะ...ถ้าน้องจะแต่งงานออกไป..แต่หลานแน่ใจว่าท่านดนัยจะทรงดูแลหญิงรัตน์ได้ดี"
พ่อกับแม่ท่านดนัยดีใจ
"ขอบใจมากนะท่านพจน์ที่ให้เกียรติดนัย"
"กระหม่อมก็ขอฝากน้องหญิงไว้กับเสด็จอาทั้งสองด้วยกระหม่อม"
"เรื่องนั้นท่านพจน์ไม่ต้องเป็นกังวล...พอพวกเรารู่ว่าชายดนัยอยากจะแต่งงานกับหญิงรัตนาวดี เราก็ดีใจกันมาก ชายดนัยอยู่เมืองนอกมานานแล้ว ไม่เคยที่จะบอกพ่อแม่ว่าสนใจผู้หญิงคนไหนเลย จนอานึกกลัวจะคว้าแหม่มกลับมา"
เสด็จอาบอก
"เรื่องหมั้นหมายตบแต่ง...ค่อยหาฤกษ์กันเมื่อหญิงรัตน์กลับมา เออ..ท่านพจน์ หญิงรัตน์รู้ตัวหรือยัง"
(https://mpics.mgronline.com/pics/Images/558000013655402.JPEG)
ท่านพจน์มองหน้ากับปริศนายิ้มๆ
"หญิงรัตน์คงยังไม่รู้ตัวหรอกค่ะ"
"ถ้าอย่างนั้น...อาขอเขียนจดหมายไปบอกหญิงรัตน์เอง ท่านน้องทั้งสองจะว่าอย่างไรถ้าพี่จะเอาหน้ากับหลานสักหน่อย"
เสด็จสุทธาหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
"กระหม่อมก็ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ท่านพี่ทรงจัดการแทนกระหม่อม...สุภาพสตรีปรึกษากันเองต้องดีเป็นแน่กระหม่อม จริงไหมท่านพจน์"
ท่านพจน์ยิ้ม
"กระหม่อม"
ท่านพจน์หันไปมองหน้ากับปริศนา
ที่ Riffelap Station ระหว่างทางไป Riffealp Resort ป้าสร้อย กับ รัตนาวดี เดินนำหน้า ท่านดนัยกับวิมลเดินตามมาข้างหลังห่างๆ
"นี่วิมล...คุณต้องตั้งสติหน่อยนะ"
วิมลหน้าเศร้า
"ขอประทานอภัยเพคะฝ่าบาท...หม่อมฉันสับสนในสมองจนจำผิดจำถูก"
"ฉันไม่อยากให้ความแตกก่อนที่ฉันจะสารภาพกับน้องหญิงเองก่อนนะ"
วิมลพยายามรวบรวมสติ
"หม่อมฉันจะต้องระวังให้ดีเพคะ"
"ท่าทางของเธอด้วย...ตอนแรกๆ เวลาที่เธอเห็นฉัน เธอคอยแต่จะจ้องหาเรื่องฉัน"
วิมลยิ้มอายๆ
"แหม...ก็ตอนนั้นหม่อมฉันไม่รู้"
ท่านดนัยยิ้ม
"แต่ตอนนี้พอเธอเห็นฉันก็ทำเรียบร้อยเกินเหตุ เธอต้องระวังให้มากโดยเฉพาะต่อหน้าคุณสร้อย"
วิมลพยักหน้า
"นั่นละค่ะ คนที่ต้องระวังที่สุด"
ป้าสร้อยหยุดคอยรัตนาวดีเดินไปมองวิวอีกด้านหนึ่ง...ป้าสร้อยจ้องมองวิมลอย่างสงสัย
"เดินคุยอะไรกัน...แม่หนูอาดไป..แม่วิมลจะมาแทนหรือไง นายเล็ก"
วิมลหันไปดุท่านดนัย
"เห็นไหมนายเล็ก...ถ้านายพูดให้ฉันรู้เรื่อง...ฉันก็คงตามมาเดินกับป้าสร้อยแล้ว"
"ขอโทษครับ"
วิมลวางโตกับท่านดนัย
"ทำตัวให้ดีๆ หน่อยนะ...ไม่อย่างนั้นฉันจะฟ้องท่านดนัย ว่านายนะไม่ได้เรื่อง"
ป้าสร้อยดึงวิมลเดินไป วิมลหันหน้ามายิ้มกับท่านดนัยที่พยักหน้ายิ้มๆ
บริเวณ Riffealp Resort ตรงล็อบบี้ ป้าสร้อยยืนอยู่กับวิมล...มองหน้า
"แม่วิมล...เธอว่านายเล็กเค้าดูดีมั้ย"
วิมลหันมาหาป้าสร้อย
"ค่ะ คุณป้าสร้อย ว่าอะไรค่ะ"
"ขอถามอะไรหน่อย...เธอว่านายเล็กนี่เค้าดูดีไหม"
วิมลรีบสนันสนุน
"ดูดีมากค่ะ"
"นั่นน่ะสิ...ป้าก็ว่าเค้าดูดี...เออ...จะว่าไงดี...แล้วเราล่ะ กับพ่อนพเป็นยังไง...ตกลงว่าคบหากันหรือเปล่า"
วิมลอาย
"หนูก็นับถือคุณนพว่าเป็นรุ่นพี่ค่ะ"
"แค่นั้นเหรอ...ป้ารู้ว่าเราสองคนเป็นเด็กดี...แต่ถ้าวิมลยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะชอบใคร..ป้าก็อยากให้พิจารณา นายเล็ก"
วิมลตกใจ
"อะไรนะคะ"
"ลองเอาไปคิดดูนะ...ผู้ชายดีๆ อย่างนายเล็กน่ะหาไม่ได้ง่ายๆ ขนาดแม่สะอาดศรียังหลงซะแทบแย่"
วิมลจ้องหน้าป้าสร้อย ฝ่ายรัตนาวดียืนมองบรรยากาศสวยงามของโรงแรม...
(https://mpics.mgronline.com/pics/Images/558000013655403.JPEG)
เวลาต่อมา ท่านดนัยเดินมาส่งที่ห้อง เห็นจดหมายสอดอยู่ใต้ประตู ท่านดนัยเก็บมาส่งให้รัตนาวดี
"มีจดหมายของฝ่าบาทกระหม่อม"
รัตนาวดีรับจดหมายมาดู สีหน้าดีใจ
"จดหมายเสด็จอา"
ป้าสร้อยยิ้มดีใจ
"สงสัยเสด็จคงทรงคิดถึงท่านหญิงนะเพคะ"
รัตนาวดียิ้ม
"หรือไม่ก็อาจจะมีรับสั่งให้ซื้อของที่ทรงประสงค์." รัตนาวดีว่า
รัตนาวดีกับป้าสร้อยเดินเข้าไปในห้อง เปิดจดหมายอ่าน วิมลกับท่านดนัยยังอยู่ที่หน้าห้อง
"เอ้อ...นายเล็กแจ้งโรงแรมที่โลซานน์ว่าเราอยู่ที่นี่เหรอ"
"ครับ...ทุกครั้งที่เราย้ายโรงแรม ผมต้องรีบแจ้งให้โรงแรมที่โลซานน์รู้ว่าเราอยู่ที่ไหน...เพราะจะมีจดหมายจากเมืองไทยมาถึงท่านหญิง"
"กว่าโลซานน์จะส่งจดหมายมาที่นี่ก็หลายวันน่ะซิคะ"
"ไปรษณีย์ที่นี่อาจจะช้าหน่อย เพราะต้องส่งต่อมา แต่ถ้าเราอยู่ในเมืองก็ไม่นานหรอกครับ...แต่ถ้ามีธุระด่วนก็ส่งโทรเลขที่นี่ได้"
วิมลยิ้ม
"ที่นี่ส่งโทรเลขได้เหรอคะ...แหม..ก็ยังดี."
รัตนาวดีที่อ่านจดหมายแล้วตกใจ เปลี่ยนเป็นหน้าบึ้งมากขึ้นๆ ป้าสร้อยมองอย่างผิดสังเกตุ รัตนาวดีลุกขึ้นยืนพรวดพราดด้วยท่าทางไม่พอใจ ป้าสร้อยตกใจ
"มีอะไรเพคะ"
รัตนาวดีเม้มปากแน่น สีหน้าไม่พอใจมาก
"ฮึ..."
รัตนาวดีสะบัดหน้าเดินเข้าไปในห้องนอนตัวเอง จดหมายวางอยู่แถวๆ นั้นไม่ได้หยิบเอาไปด้วย ป้าสร้อยหยิบจดหมายมาอ่าน วิมลมองหน้ากับท่านดนัยอย่างงงๆ ป้าสร้อยอ่านจดหมายได้สักหน่อยก็ยิ้มร่าดีใจ ยกมือท่วมหัว
"สาธุ....ขอให้เป็นไปตามพระประสงค์ด้วยเถิด"
วิมลงง
"เรื่องอะไรคะป้า"
ป้าสร้อยมองหน้าท่านดนัยแวบหนึ่ง แล้วบอกวิมลด้วยสีหน้าดีใจมาก
"ท่านดนัยทรงให้ผู้ใหญ่มาสู่ขอท่านหญิง...วิเศษ...วิเศษแท้ๆ"
วิมลอ้าปากดีใจอย่างนึกไม่ถึง หันไปมองหน้าท่านดนัย ที่พยายามทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ป้าสร้อยหัวเราะเสียงดังจนรัตนาวดีต้องเดินออกมามองด้วยท่าทางไม่พอใจ
"แหม...ป้าหัวเราะเสียงใสเชียวนะคะ"
ป้าสร้อยยิ้มร่า
"ไม่ต้องดีใจสักนิดค่ะ...หญิงจะเขียนจดหมายไปทูลเสด็จอาเดี๋ยวนี้ว่าหญิงขอปฏิเสธ"
ท่านหญิงรัตนาวดีเดินมาหยิบจดหมายไปจากป้าสร้อย ทุกคนตกใจโดยเฉพาะท่านดนัย ทำท่าจะเดินออกไป ในห้องวิมลร้องเสียงหลง พร้อมๆ กับ ป้าสร้อย
"ท่านหญิงเพคะ"
"ฝ่าบาท....ทูนหัว...อย่าทรงตอบอย่างนั้นนะเพคะ"
วิมลรีบอ้อนวอน
"หม่อมฉันว่าเรื่องนี้ต้องทรงคิดให้ดีก่อนเพคะ"
รัตนาวดีชะงัก หันมามองหน้าทั้งคู่
"นี่ป้ากับวิมล เห็นด้วยกับเสด็จอาเหรอ"
"เห็นด้วยอย่างที่สุดเพคะ...ไม่มีใครจะเหมาะสมกับทูนหัวเท่าท่านพี่ดนัย"
วิมลรีบเออออ
"หม่อมฉันก็เห็นด้วยกับคุณป้าสร้อยเพคะ"
รัตนาวดีมองหน้าท่านดนัยที่ยิ้มอย่างให้กำลังใจ แต่คิดว่าท่านดนัยยิ้มเห็นด้วยก็ยิ่งโมโห
"ไม่คิดเลยว่าทุกคนจะใจร้ายกับหญิง"
รัตนาวดีสะบัดหน้าเดินออกจากห้อง ท่านดนัยมองหน้ากับป้าสร้อย และ วิมล
สวนสาธารณะในลอนดอน นพนั่งอ่านโทรเลขของวิมล
"ตอนนี้เราพักอยู่โรงแรมที่ Zermatt ที่นี่สวยเหลือเกิน ฉันอยากให้คุณนพได้มาเห็นด้วยกัน...แต่ฉันมีเรื่องที่ต้องการความช่วยเหลือจากคุณนพมากที่สุด...แต่จะเป็นเรื่องอะไรฉันไม่อยากจะเล่าในจดหมาย...เรื่องมันยาว แล้วก็วุ่นวายชวนปวดหัวเป็นที่สุด ทำให้ฉันต้องวิ่งวุ่นใช้สมองอันแสนน้อยนิดจนสับสนอลหม่านไปหมด หลังจากเที่ยวที่ Zermatt แล้ว ท่านหญิงจะไปเที่ยวชมธารน้ำแข็ง แล้วจึงเสด็จกลับอินเตอร์ลาเคน เมื่อนั้นฉันจะรีบแจ้งให้คุณนพรีบบินมาพบเพื่อร่วมกันแก้ปัญหาด้วยกันนะ"
นพอ่านจดหมายจบสีหน้าครุ่นคิด ...
(https://mpics.mgronline.com/pics/Images/558000013655404.JPEG)
วันใหม่ รัตนาวดียืนหน้าบึ้งมองดูวิวสวยๆ ที่หน้าต่างห้องนอน แต่ก็ไม่ทำให้รัตนาวดีใจเย็นลงได้ รัตนาวดีเดินไปนั่งที่โต๊ะเขียนหนังสือที่อยู่มุมห้องนอน หยิบจดหมายเสด็จอาขึ้นมาอ่านอีก
"ชายดนัยมีประสงค์อยากแต่งงานกับหญิง ให้ท่านพ่อท่านแม่มาสู่ขอกับอา อาได้ตามชายพจน์มาคุยกันแล้ว ทุกคนต่างเห็นดีเห็นงาม และยังว่าชายดนัยเหมาะสมกับหลานเป็นที่สุด อารู้สึกยินดีเหลือเกิน ที่หลานรักของอาจะได้เป็นฝั่งเป็นฝากับผู้ที่เหมาะสมด้วยศักดิ์ตระกูลกัน..หลานจะมีความสุขเพราะชายดนัยเป็นคนดี ดูจะติดใจรักใคร่หญิงมาก อายังไม่ได้ตกลงกับเขาโดยแท้ เพราะอยากฟังความเห็นของหลานก่อน แต่อาค่อนข้างแน่ใจว่า หลานคงไม่ปฏิเสธท่านดนัย"
อ่านมาถึงตรงนี้ ท่านหญิงรัตนาวดีก็ขมวดคิ้วไม่พอใจ
"ไม่ปฎิเสธ...ฮึ...เสด็จอาหนอเสด็จอา"
ป้าสร้อยค่อยๆ เปิดประตู เดินกระเผลกเข้ามาด้วยสีหน้าดีใจ
"ทูนหัว"
รัตนาวดีนั่งหน้าบึ้ง ป้าสร้อยค่อยๆ เดินมาหาด้วยสีหน้าดีใจ พยายามพูดดีหว่านล้อม
"อย่าเพิ่งทรงปฏิเสธเลยเพคะ...ทรงคิดให้ดีๆ ก่อน"
รัตนาวดีหันมาตาวาวด้วยความโมโห
"ไม่ต้องคิดอะไรเลยค่ะ...หญิงไม่ยอมแต่งงานกับท่านดนัยเด็ดขาด...ตั้งแต่มายุโรปจะสามเดือนแล้ว ยังไม่เคยเห็นพักตร์ท่านสักครั้ง...จะไปแต่งกับท่านได้ยังไง"
ป้าสร้อยสีหน้าไม่ดี
"ป้าจำไม่ได้เหรอคะว่าท่านดนัยน่ะ...ทิ้งเราไว้ที่สนามบินยังไง ไม่ดูดำดูดีเราสักนิด...ปล่อยให้เราสองคนนั่งหง่าวอยู่ที่สนามบิน...ข้าวก็ไม่ได้กิน...หญิงจะยอมแต่งงานกับคนที่ไม่สนใจ ไม่รับผิดชอบเราอย่างนี้ได้ยังไงคะ"
ป้าสร้อยพยายามหาทางแก้ตัวให้
"ท่านอาจจะมีเรื่องสุดวิสัยก็ได้เพคะ....แล้ว..ถ้าฝ่าบาททรงตอบปฏิเสธเสด็จ....อาจจะทรงกริ้วก็ได้นะเพคะ...เพราะทรงตรัสมาในจดหมายว่า....ทุกองค์ต่างเห็นงาม...แม้แต่ท่านพจน์"
รัตนาวดีหันขวับมาจ้องป้าสร้อยตาเขียว..
"ท่านเห็นหญิงเป็นอะไรไปคะ...ถึงจะต้องยอมตามที่ทุกคนต้องการ ท่านจะมาข่มเขาวัวให้กินหญ้าเช่นนี้ไม่ได้แล้วละ สมัยนี้ไม่ใช่สมัยคลุมถุงชน...หญิงไม่ยอมเป็นอันขาด"
รัตนาวดีพูดเน้นอย่างโมโห
"หญิงจะไม่ยอมแต่งงานกับคนที่ไม่เคยพบไม่เคยรู้จักเด็ดขาด จะต่อสู้จนยิบตาทีเดียว ถ้าเสด็จอาจะกริ้วถึงตัดหญิงไม่นับหลาน หญิงก็เห็นจะต้องยอมทน"
ป้าสร้อยร้อนรน
"ทัยเย็นๆ ก่อนเพคะ...อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจอย่างนั้น.. เสด็จทรงทำอย่างนั้นก็เพราะหวังดีเป็นห่วงท่านหญิง อยากให้มีคู่ครองที่มีศักดิ์ตระกูลเสมอกันให้สมเกียรติ."
รัตนาวดีเดินไปมาอย่างหงุดหงิด
"หญิงเป็นผักปลาที่ไม่มีชีวิตจิตใจหรืออย่างไรกันคะ...มีอย่างที่ไหน...เสด็จอาจะมายกหญิงให้คนโน้นคนนี้ตามพระทัย..การแต่งงานน่ะเป็นเรื่องสำคัญ...หญิงไม่ยอมแต่งงานกับคนที่หญิงไม่ได้รักเด็ดขาด"
ป้าสร้อยตัดสินใจพูดอย่างอยากจะปรามหน่อยๆ
"แต่ก็ไม่ได้ทรงรักใครไม่ใช่หรือเพคะ."
รัตนาวดีตกใจหันมามองหน้าป้าสร้อย
"ป้าว่าอะไรนะคะ"
"หม่อมฉันว่าฝ่าบาทน่ะ...ทรงยังไม่ได้รักชอบใครที่ไหนนี่เพคะ"
รัตนาวดีท่าทางพิรุธไม่ยอมมองป้าสร้อย
"หญิงจะไปรักชอบใครที่ไหนกันคะป้า"
"ก็นั่นสิเพคะ...ทูนหัวไม่ได้ทรงรักชอบใครสักหน่อย...ยังไม่ทรงรู้ด้วยซ้ำว่าความรักที่คู่ควรเป็นยังไง...หม่อมฉันถึงอยากให้ทัยเย็นๆ ก่อนนะเพคะ ท่านพี่ดนัยน่ะ...เหมาะสมกับท่านหญิงทุกอย่าง"
รัตนาวดีอัดอั้นจนน้ำตาแทบไหล
"หญิงเบื่อคำว่าเหมาะสมเหลือเกิน...เอาอะไรมาวัดว่าใครเหมาะสม ใครไม่เหมาะสม...คนดีๆ ที่เค้าไม่ได้มียศศักดิ์ เค้าอาจจะเป็นคนดีกว่าท่านดนัยก็ได้"
"อย่าทรงลืมว่าฝ่าบาทไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา...ทรงเป็นราชนิกูล ทรงมีหน้าที่ที่จะต้องทรงรักษาพระเกียรติของบรรพชนซึ่งเป็นที่เคารพ เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเข้าทัย คนธรรมดาทำเรื่องไม่เหมาะสมผิดแค่หนึ่ง แต่ถ้าฝ่าบาททรงทำความผิดเดียวกันจะผิดถึงสิบ"
รัตนาวดีน้ำตาไหล
"แล้วความสุขของหญิงล่ะคะ"
"ความสุขที่แท้จริงจะเกิดได้เพราะเราใช้เหตุผล ยึดถือความถูกต้อง ยึดถือความควรไม่ควร...แรกๆ อาจจะไม่ถูกใจ แต่เมื่อเรายอมรับในความถูกต้องนั้น...เราก็จะรู้สึกได้ว่าชีวิตเราอยู่กับความสุขมังคะ...แต่ถ้าเราตามใจ หลงคิดไปเองว่าสิ่งนั้น เหมาะสมกับเรา...แต่พอมาคิดได้ว่าสิ่งที่เราคิดว่าดี...ไม่ได้เหมาะสมกับเรา...เราต้องยอมเสียสละเปลี่ยนชีวิต มิหนำซ้ำยังทำให้หลายคนผิดหวัง จะเรียกสิ่งนั้นว่าเป็นความสุขได้อีกหรือเพคะ"
รัตนาวดีคิดหนัก...
ที่ล็อบบี้ ท่านดนัยเดินไปมาด้วยสีหน้าใช้ความคิด วิมลเดินเข้ามาหา ท่านดนัยรีบถาม
"น้องหญิงรับสั่งว่าอะไรบ้างวิมล"
"ยังทรงกริ้วอยู่เลยเพคะ...นี่คุณป้าสร้อยก็กำลังพยายามพูดให้เข้าทัย..เย็นนี้เลยรับสั่งว่าจะเสวยอาหารเย็นบนห้องไม่อยากลงมา คุณสร้อยก็เลยจะทานบนห้องเหมือนกัน"
ท่านดนัยสีหน้าเป็นทุกข์
"ฉันไม่สบายใจเลยที่เห็นน้องหญิงทรงกริ้วอย่างนี้...ฉันกลัวท่านจะยิ่งกริ้วท่านดนัยมากกว่าเดิม...ถ้าเป็นอย่างนั้นฉันจะทำอย่างไรดีล่ะวิมล...ฉันไปสารภาพกับน้องหญิงเลยดีไหม"
"หม่อมฉันคิดว่าเวลานี้ไม่เหมาะที่จะทรงทำอย่างนั้นเพคะ"
"แต่ถ้าน้องหญิงตอบปฏิเสธจดหมายของเสด็จจะยิ่งทำให้ผู้ใหญ่ทุกองค์กริ้วไปด้วย...ทีนี้ละ..แย่แน่ๆ"
ท่านดนัย กับ วิมลต่างทุกข์ใจ...
(https://mpics.mgronline.com/pics/Images/558000013655405.JPEG)
ท่านหญิงรัตนาวดีชมวิวแบบเหงาๆ จะเห็นวิมลกับป้าสร้อยเฝ้าดูห่างๆ อย่างเป็นห่วง...พนักงานเดินเอาจดหมายอีกฉบับมาส่งให้ วิมลจะเป็นคนรับและนำไปให้รัตนาวดี
"เค้าลืมเอาจดหมายมาให้ท่านหญิงอีกฉบับ"
รัตนาวดีรับจดหมายนั้นมา เมื่อดูที่หน้าซองจดหมายก็ยิ้มออกมา ป้าสร้อยอยู่แถวๆ นั้นเห็นท่าทางรัตนาวดีก็พลอยยิ้มไปด้วย
"เสด็จทรงมีจดหมายมาอีกหรือเพคะ"
"จดหมายของเจ้าพี่ค่ะ"
"ท่านพจน์ทรงเขียนมาเล่าเรื่องที่ท่านดนัยมาสู่ขอกระมังเพคะ"
รัตนาวดีค้อนป้าสร้อย รัตนาวดีค่อยๆ แกะจดหมายท่านพจน์อ่าน
"หญิงรัตน์น้องรัก...พี่ไม่คิดเลยว่าการที่พี่ส่งน้องมาเที่ยวยุโรปในครั้งนี้...จะมีเหตุการณ์ที่ทำให้หลายๆ อย่างเปลี่ยนไป"
ท่านชายพจน์นั่งเขียนจดหมายถึงรัตนาวดีอยู่ที่โต๊ะทำงาน
"เสด็จอาทรงมีพระประสงค์ จะมีลายหัตถ์มาถึงน้อง ขอให้อ่านด้วยใจเย็น อย่าเพิ่งไม่พอใจ หรือใจร้อนใดๆ ทั้งนั้นและก่อนที่จะให้คำตอบใดๆ ทูลเสด็จอา...ขอให้น้องได้พบกับท่านดนัยเสียก่อน น้องก็จะได้คำตอบทุกอย่าง พี่ก็เพิ่งจะรู้ว่าน้องหญิงองค์น้อยของพี่เป็นสาวแล้ว และสวยมากพอที่จะมีหนุ่มๆ พากันมาติดใจ แต่พี่ก็ยังคิดว่า น้องยังเป็นน้องน้อยของพี่ที่ยังไว้เปียวิ่งมาหาพี่ชาย พี่จึงยังห่วง และหวงน้องของพี่ตราบจนชีวิตหาไม่....ในเวลาที่ต้องตัดสินใจเรื่องสำคัญ ขอให้คำนึงถึงเหตุผล และ หัวใจ อย่าใช้ทิฐิ หรืออารมณ์...อันจะทำให้น้องต้องเสียใจในภายหลัง"
ท่านพจน์เงยหน้า คิด สีหน้าหมดห่วง
ณ ธารน้ำแข็ง Aletsch Arena จุดชมวิว Hohfluh รัตนาวดีอ่านจดหมายท่านพจน์จบ สีหน้าสงบลง ถอนใจเบาๆ ป้าสร้อยอยากรู้อยากเห็นมาก
"เจ้าพี่รับสั่งอย่างไรเพคะ"
รัตนาวดีตอบอย่างไม่ค่อยพอใจ
"เจ้าพี่ทรงเห็นว่าหญิงไม่ควรรีบเขียนตอบเสด็จอา....ทรงต้องการให้หญิงพบกับท่านดนัยก่อน"
ป้าสร้อยดีใจ
"ท่านพจน์รับสั่งได้ถูกต้องแล้วเพคะ"
รัตนาวดีหันมาตาเขียว
"ถึงหญิงจะต้องจำใจทำตามที่เจ้าพี่รับสั่ง แต่หญิงก็จะเขียนจดหมายไปทูลเจ้าพี่ว่า...หญิงไม่ยอมแต่งงานกับคนที่หญิงไม่รักเป็นอันขาด"
ป้าสร้อยทำหน้าผิดหวัง
"ท่านหญิง"
รัตนาวดีเม้มปากอย่างดื้อรั้น
"ถ้าหญิงจะไม่ได้แต่งงานกับคนที่หญิงรัก...เพราะไม่มีความเหมาะสม...หญิงก็จะไม่แต่งงานกับใครอีกเลยตลอดชีวิต..หญิงจะขอให้เจ้าพี่กราบทูลให้เสด็จอาทรงทราบด้วย"
ป้าสร้อยร้อนใจ วิมลก็คันปากอยากบอกมาก
"รอให้ทรงพบกับท่านดนัยก่อนอย่างที่ท่านพี่รับสั่งเพคะ"
"จริงๆ เพคะ...ท่านหญิงต้องพบกับท่านดนัยก่อน"
รัตนาวดีหันมาตาเขียวกับวิมล วิมลเลยจ๋อยรีบเดินไปนั่งข้างๆ ป้าสร้อย
"ถ้าหญิงได้พบกับท่านดนัยโดยเร็วก็จะดีที่สุด จะได้รีบเขียนจดหมายไปทูลปฏิเสธเสด็จอาให้จบเรื่องจบราวเสียที หญิงจะทูลเจ้าพี่ให้ทรงทราบว่า หญิงเกลียดท่านดนัย เกลียดเหลือเกินที่บังอาจมาสู่ขอคนที่ไม่เคยพบกัน หญิงไม่ใช่คนสิ้นคิด...ถึงแม้ท่านดนัยจะเป็นผู้ชายคนเดียวในโลก หญิงก็จะยอมเป็นสาวทึนทึกสักร้อยชาติดีกว่าแต่งงานกับท่าน"
รัตนาวดีเดินไปอีกมุมหนึ่ง วิมลมองหน้ากับป้าสร้อยที่สีหน้าทุกข์ร้อน
"ลงว่าตรัสอย่างนี้คงไม่มีหวังแล้ว"
วิมลยิ้มๆ
"อย่าเพิ่งร้อนใจค่ะคุณป้าสร้อย...หนูว่าทุกอย่างจะต้องจบลงด้วยดี"
ป้าสร้อยหงุดหงิด
"มันจะดียังไงกันเล่า...ท่านหญิงตรัสเป็นตรัสตายอย่างนี้ ถ้าพบกับท่านดนัยท่านคงต่อว่าขนานใหญ่ละไม่ว่า...แต่ก็แปลกนะ...ท่านดนัยน่ะ...ยังไม่เคยทรงพบกับท่านหญิงเลย ทำไมถึงให้ท่านพ่อท่านแม่ไปสู่ขอกับเสด็จได้ก็ไม่รู้"
วิมลยิ้มเจ้าเล่ห์
"ท่านดนัยอาจจะทรงรู้จักท่านหญิงเป็นอย่างดีแล้วก็ได้ค่ะ"
ป้าสร้อยพยักหน้า
"ท่านพจน์อาจจะทรงเคยเล่าถึงท่านหญิงให้ท่านดนัยฟังละมัง แต่แหม...ท่านยังไม่รู้นะว่าท่านหญิงน่ะทรงฤทธิ์เดชขนาดไหน...จะทรงรับมือไหวรื้อ"
วิมลยิ้มเจ้าเล่ห์ และหันมาสบตาท่านดนัย เพราะตลอดเวลารับฟังอยู่ห่างๆ
(https://mpics.mgronline.com/pics/Images/558000013655406.JPEG)
รัตนาวดีกับวิมลเดินนำหน้า ป้าสร้อยเดินด้านหลังพร้อมท่านดนัย
"นายเล็ก....ตกลงว่าเธอติดต่อท่านดนัยแล้วใช่ไหม"
ท่านดนัยยิ้มๆ
"ครับ...คุณสร้อย"
"แล้วท่านจะเสด็จมาถึงเมื่อไหร่ล่ะ"
"ไม่น่าเกินสองสามวันนี้ครับคุณสร้อย"
ป้าสร้อยดีใจ
"ท่านจะเสด็จขึ้นมาบนนี้เลยหรือนายเล็ก"
"ไม่หรอกครับ...ท่านดนัยจะเสด็จไปพบท่านหญิงที่โรงแรมหน้าที่ผมจะพาท่านหญิงกับคุณสร้อยไปพักครับ"
สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ บน Riederalp(โรงงานชีส)
ในร้านอาหาร ท่านหญิงรัตนาวดีไม่มีความสุข ป้าสร้อย กับวิมลเป็นห่วง
ที่พิพิธภัณฑ์ชีส ทุกคน วิมลสนุกสนาน รัตนาวดียังอยู่เหม่อลอย บางครั้งก็ฝืนยิ้มให้กับวิมล
ตอนกลางคืนริมทะเลสาบ สะท้อนแสงจันทร์เป็นสีเงินสวย รัตนาวดี กับ วิมลยืนคุยกันอย่างมีความสุข
"ที่นี่สวยจริงๆ ...วิมลคิดถูกนะที่ชวนหญิงออกมาเดินเล่น"
"หม่อมฉันรู้สึกว่าฝ่าบาทมีเรื่องให้กลุ้มทัย...ก็เลยอยากชวนให้ทรงผ่อนคลายห่างจากคุณป้าสร้อยบ้างเพคะ"
รัตนาวดีหัวเราะ
"ถ้าฉันไม่มีป้าซะคนคงจะแย่แน่ๆ ป้าเป็นทั้งเพื่อน ทั้งพี่เลี้ยงบางทีก็พยายามทำตัวเหมือนจะเป็นแม่ฉัน"
วิมลหัวเราะ
"คุณสร้อยน่ะทั้งรักทั้งหวงฝ่าบาท....ถ้าคุณสร้อยมีลูกของตัวเองก็คงไม่เข้มงวดเท่านี้ด้วยละมังเพคะ...แกคงถือเป็นหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ที่จะดูแลฝ่าบาท....จนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้"
รัตนาวดีหน้าเศร้า
"สงสัยฉันก็คงต้องเป็นสาวแก่เหมือนป้าสร้อยน่ะแหล่ะ"
"ไม่มีทางหรอกเพคะ...หม่อมฉันแน่ใจซะทีเดียวว่าฝ่าบาทจะได้สมหวังในความรัก...จะทรงแต่งงาน..แล้วก็จะได้มาเที่ยวที่สวยๆอย่างนี้กับคนรักของฝ่าบาท"
รัตนาวดียิ้ม แต่ก็มองไปรอบๆ อย่างเศร้าๆ
"คงเป็นไปไม่ได้หรอกวิมล...ความรักของฉัน...มันอาภัพ"
วิมลมองรัตนาวดีอย่างสงสารมาก เห็นท่าทางเศร้าหมองของรัตนาวดีก็แทบทนไม่ได้อยากบอกความจริง รีบเข้ามาจับมือรัตนาวดีไว้
"โธ่...ท่านหญิง"
ผ่านเวลาจากกลางคืน รัตนาวดีนั่งอยู่คนเดียว....เข้าสู่ยามเช้า ท่านดนัยเดินเข้ามาหา
รัตนาวดีหันมามอง และเบือนหน้าหนีไป แต่ท่านดนัยยังยืนอยู่ที่เดิม...รัตนาวดีหันมามองอีกครั้ง จะเห็นน้ำตาคลอ รัตนาวดีรีบเช็ดน้ำตา
"มีอะไรหรือนายเล็ก"
"ท่านหญิง....กระหม่อมขออนุญาตอยู่ตรงนี้ด้วยได้มั้ย"
รัตนาวดีพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต ทั้งสองนั่งกันเงียบๆสักพัก....
"ท่านหญิงพระพักตร์เศร้าเหลือเกิน"
รัตนาวดีเอ่ยปากพูดโดยไม่ได้หันไปมองทางท่านดนัย
"นายเล็กเคยถูกบังคับให้ทำอะไร ที่ตัวเองไม่ต้องการบ้างหรือเปล่า"
"บางครั้งกระหม่อม"
"แล้วนายเล็กทำใจยอมรับมันได้อย่างไร...หรือมันเป็นเรื่องไม่สำคัญ"
"ท่านหญิงถามกระหม่อมเหมือนว่าท่านหญิงถูกบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ"
รัตนาวดีนิ่งเงียบ...หันมามองหน้าท่านดนัย พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
"ใช่....ตอนนี้หญิงต้องเลือก ต้องตัดสินใจในสิ่งที่ทุกคนเห็นว่าถูกต้อง แต่ๆๆ....ไม่ใช่สิ่งที่ใจของหญิงเลือกเลย"
ท่านดนัยเผลอตัวขยับเข้าใกล้ อยากปลอบประโลมอย่างยิ่ง แต่ก็ชักงักตัวเองไว้ทัน....รัตนาวดีหักห้ามใจตัวเองไม่ให้พูดอะไรไปมากกว่านี้
"ท่านหญิงทุกข์ใจเรื่องท่านดนัย....กระหม่อมคิดว่า..."
"อย่าเลยนายเล็ก....หญิงไม่อยากฟังคำพูดแก้ตัวให้ท่านดนัยอีกแล้ว ทั้งป้าสร้อย วิมลหรือคนอื่นๆที่เมืองไทยก็เห็นว่าสิ่งท่านดนัยทำกับหญิงนั้นดีแล้ว ถูกต้องแล้ว นายเล็กก็คงเห็นเหมือนทุกคน"
ท่านดนัยนั่งเงียบ อยากจะสารภาพทุกอย่าง....มองหน้ารัตนาวดี
"แล้วท่านหญิงตัดสินพระทัยว่าจะทรงทำตามคนอื่น หรือทรงทำตามใจตัวเอง กระหม่อม"
ทั้งสองสบสายตากันและกัน
(https://mpics.mgronline.com/pics/Images/558000013655407.JPEG)
ใน Hotel Giessbach ห้องรัตนาวดี ป้าสร้อยกับวิมล รัตนาวดี ยืนชมวิวที่ระเบียง
"โอ้โห...สวยอะไรอย่างนี้"
วิมลมองโรงแรมอย่างดีใจมาก
"นั่นสิคะคุณป้าสร้อย...สวยจริงๆ ดูวิวทางโน้นสิคะ"
รัตนาวดีมองไปรอบๆ อย่างพอใจ
"ฉันจะใช้เวลาทุกนาทีที่อยู่ที่นี่ให้คุ้มค่าที่สุด"
รัตนาวดีพูดแล้วก็ทำหน้าเศร้าๆ วิมลมองอย่างสงสาร จับมืออย่างปลอบใจ
"อย่าทรงวิตกไปเลยเพคะ...ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย"
รัตนาวดีมองหน้าวิมลแล้วถอนใจ ท่านดนัยเดินเข้ามาถาม
"ฝ่าบาทจะเสด็จทอดเนตรรอบๆ ก่อนก็ได้กระหม่อม... วันนี้อากาศดีน่าเดินเล่น"
"ก็ดีเหมือนกัน...ขอบใจนะที่พามาที่สวยๆ อย่างนี้"
ท่านดนัยก้มหัวให้นิดหนึ่งอย่างเท่ ป้าสร้อยมองแล้วก็สะท้อนใจ
"ทำไมเพิ่งพามาที่นี่ล่ะนายเล็ก...น่าจะพามาตั้งนานแล้ว"
"ที่นี่เหมาะสำหรับการพักผ่อนจริงๆ ครับคุณสร้อย ครั้งก่อนๆที่ผมไม่ได้พามาเพราะเรามีคณะตามเสด็จมาด้วยตลอด ถึงมาพักที่นี่ก็คงไม่ได้ใช้เวลาพักผ่อนจริงๆ"
"ป้าคะ..ไปเดินเล่นข้างล่างกันไหมค่ะ"
"ไม่ไหวเพคะ...ขาหม่อมฉันล้าเหลือเกิน แม่วิมลน่ะแหล่ะตามเสด็จท่าน...แต่นายเล็กต้องอยู่เป็นเพื่อนป้านะ คอยท่านหญิงอยู่ที่นี่กับป้านี่แหล่ะ"
ท่านดนัยหันไปยิ้มๆ กับป้าสร้อย
"ครับ...ทางด้านโน้นมีทางเดินไปสวนดอกไม้ อีกด้านก็มีน้ำตก"
วิมลพารัตนาวดีเดินไป ป้าสร้อยมองตามอย่างเป็นห่วงถอนใจอย่างหนักใจ หันมามองหน้าท่านดนัย
"ท่านดนัยจะเสด็จมาที่นี่จริงๆ เหรอนายเล็ก"
ท่านดนัยยิ้มๆ
"จริงครับ"
"ท่านจะมาพบท่านหญิงเรื่องที่ขอแต่งงานใช่ไหม ถ้าท่านมาเร็วกว่านี้ท่านหญิงก็คงไม่ทรงน้อยทัย
อย่างนี้หรอก"
ท่านดนัยสีหน้าเป็นทุกข์
"ผมรับรองว่าท่านดนัยจะอธิบายทุกอย่างให้ท่านหญิงทรงเข้าพระทัย"
"อธิบายเรื่องอะไร"
"เรื่องที่ว่าทำไมท่านถึงไม่แสดงองค์ก่อนหน้านี้ไงครับ"
ป้าสร้อยพยักหน้ารับรู้
รัตนาวดี กับ วิมลเดินเล่นบริเวณน้ำตก
"นายเล็กนี่ช่างรู้จักที่สวยๆ มากมายจริง....เสียดายอย่างเดียว"
"เสียดายอะไรเพคะ"
รัตนาวดีพูดอย่างรำพึงกับตัวเองอย่างเศร้าๆ
"เสียดายว่าเขาเป็นแค่...."
วิมลยิ้ม คันปากมาก..
"แหม"
รัตนาวดีเห็นท่าทางยุกยิกแบบมีพิรุธของวิมลก็ขำๆ
"เป็นอะไรน่ะวิมล...ทำท่าแปลกๆ"
วิมลรีบแก้ตัว
"เปล่านี่เพคะ...เอ้อ..."
วิมลอยากพูดให้รัตนาวดีรู้มาก แต่ก็พูดไม่ได้เพราะท่านดนัยห้ามไว้ รัตนาวดีมองยิ้มๆ
"ทำท่าลับลมคมใน เหมือนมีความลับอะไรหรือเปล่า"
วิมลสะดุ้ง รีบแก้ต้ว
"โธ่..หม่อมฉันเคยมีความลับกับฝ่าบาทซะที่ไหนล่ะเพคะ"
รัตนาวดีหรี่ตามองวิมลถามอย่างคาดคั้น
"แล้วทำไมทำท่าเหมือนมีล่ะ....มีอะไร...บอกมานะ"
วิมลรีบโบกมือปฏิเสธหัวเราะไปเรื่อยก่อนที่จะหลุดปากออกมาเรื่องท่านดนัย
"ไม่มีเพคะ เอ้อ....หม่อมฉัน...หม่อมฉันแค่รู้สึกว่าท่านหญิงทรงมีเรื่องไม่สบายพระทัยใช่ไหมเพคะ"
รัตนาวดีถอนใจ
"เมื่อกี้ทรงตรัสว่าเสียดายที่นายเล็กเป็นแค่...."
วิมลมองหน้ารัตนาวดี
"ช่างเถอะ...ไปดูทางโน้นกันดีกว่า"
รัตนาวดีเดินไปอีกด้านหนึ่ง วิมลมองตามอย่างเป็นทุกข์แล้วรีบตามไป
(https://mpics.mgronline.com/pics/Images/558000013655408.JPEG)
รัตนาวดีเดินเล่นมากับวิมลอีกมุมหนึ่ง รัตนาวดีมองไปรอบๆ อย่างพอใจ
"หญิงตัดสินใจแล้วละวิมล....ชาตินี้..ไม่ขอแต่งงานดีกว่า"
"โธ่...ท่านหญิง...ทรงอย่าคิดอย่างนั้นเลยเพคะ"
รัตนาวดียิ้มแย้ม
"จริงๆ นะ...หญิงตัดสินใจแล้ว...ถ้าต้องแต่งงานกับคนที่หญิงไม่รัก...สู้ไม่แต่งซะดีกว่า"
"แล้วทรงรู้หรือเพคะ...ว่าความรักเป็นยังไง"
รัตนาวดียิ้ม
"ความรักเหรอ...มันเป็นสิ่งที่ทำให้โลกสวยงามที่สุด...ทำให้เราสุขใจ...จนรู้สึกได้ว่าหน้าเราเป็นสีชมพูน่ะ"
รัตนาวดีหันมาหัวเราะสดใสกับวิมลที่พลอยหัวเราะไปด้วย
"ความรักทำให้เราอุ่นใจ....ไม่รู้สึกว่าโดดเดี่ยวอีกต่อไป... ทำให้ชีวิตเรามีเป้าหมาย....รู้สึกว่าตัวเองมีค่า"
วิมลยิ้มล้อๆ
"ตรัสเหมือนกับทรงมีความรักอย่างนั้นนะเพคะ"
รัตนาวดียิ้มมีความสุข แต่สีหน้าค่อยๆ หม่นลง
"ไม่มีหรอก...ถ้าหญิงมีความรัก...มันก็เป็นความรักที่ไม่สมหวัง ความรักที่มีอุปสรรคมาขวางมากมายทำให้มีแต่ความทุกข์"
"แต่ถึงจะทุกข์....เราก็สุขใจได้ว่าเรามีคนที่เรารักใช่ไหมเพคะ"
"ใช่...ไม่รู้สึกว่าว้าเหว่...แต่ก็ทุกข์ใจ"
วิมลจับมือรัตนาวดีอย่างปลอบโยน
"หม่อมฉันสังหรณ์ในว่า....ถ้าท่านหญิงจะทรงมีความรัก ความรักนั้น...จะสมหวังเพคะ"
รัตนาวดียิ้มออกมา แต่ก็กลับเศร้าอีก
"อย่าไปหวังอะไรเลยวิมล"
รัตนาวดีพยายามยิ้มแย้มกับวิมล แต่ก็หน้าเศร้า
ท่านดนัยเห็นป้าสร้อยนอนหลับอยู่บนเก้าอี้ก็เดินไปหยิบผ้าห่มมาห่มให้
รัตนาวดีกับวิมลเดินเข้ามาที่ล็อบบี้ รัตนาวดีมองเห็นเปียโนที่ตั้งอยู่....มองไปรอบๆ ไม่เห็นแขกของโรงแรมอยู่ จึงเดินไปที่เปียโน กรีดนิ้วลงบนคีย์เปียโน เสียงใสที่ออกมาทำให้รัตนาวดียิ้มอย่างมีความสุข รัตนาวดีจึงเริ่มเล่นเพลงรักหวานก้องกังวานไปทั้งล็อบบี้โรงแรม …ในระหว่างที่รัตนาวดีเล่นเปียโน จะเห็นแขกของโรงแรมโผล่หน้ามาฟังด้วยความสนใจ ...รัตนาวดีหันมาสบตากับวิมล วิมลเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาด้วยความตื้นตันด้วยสีหน้ามีความสุข …ท่านดนัยแอบยืนฟังเพลงด้วยความสุข... แล้วรัตนาวดีก็จะหันมาสบตากับท่านดนัย ท่านดนัยยืนพิงกับเสาด้วยท่าทางเท่มากๆ มองรัตนาวดีด้วยสายตารักใคร่ ยิ้มมาให้อย่างรักมาก รัตนาวดียิ้มตอบไปอย่างลืมตัว ตั้งใจเล่นเปียโนเป็นเพลงรักหวาน เพลงจบลง คนที่ยืนฟังพากันตบมือชื่นชม รัตนาวดียืนขึ้น แล้วก้มหัวน้อยๆ อย่างงดงาม
ท่านดนัยยืนตบมือยิ้มอย่างมีความสุข....
.
.