Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
		เรื่องราวน่าอ่าน => เรื่องเล่าจากความทรงจำที่หาฟังยาก => Topic started by: ppsan on 06  December  2021, 15:37:59 
		
			
			- 
				ฮิโระชิมะวิปโยค โลกไม่ลืม
 
 
 SILA
 หนุมาน
 ********
 เมื่อ 19 ส.ค. 14, 10:12
 
 
 ฮิโระชิมะวิปโยค โลกไม่ลืม
 
 เช้าวันหนึ่งในเดือนสิงหาคม เมื่อ 69 ปีที่แล้ว (76 ปีที่แล้ว -ปีนี้ ค.ศ.2021 = พ.ศ.2564 -ppsan ผู้โพสต์)
 
 เหตุการณ์สำคัญที่ต้องจารึกลงบันทึกประวัติศาสตร์โลกไม่ลืมอุบัติขึ้นที่
 
 ฮิโรชิมาหน้าร้อนวันนั้น วันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ.1945 ท้องฟ้าสดใส ชาวเมืองดำเนินชีวิต
 ช่วงสงครามตามปกติในเมืองนี้ที่มีระบบป้องกันการโจมตีทางอากาศที่ไม่อาจมีผู้ใดกล้ำกรายได้
 จะมีใครคาดคิดว่าชีวิตจะปลิดปลิวหรือเปลี่ยนแปลงไปไม่มีวันเหมือนเดิมอีกจนวันตายภายหลัง
 เวลา 8.15 น. หลังจากที่
 
 ยมกุมารน้อย(Little Boy) ถูกปล่อยลงจาก(โพ)ยมยานที่ชื่อว่า
 
 Enola Gay
 
 
 
 คลิปรายงานข่าวจากสำนักข่าว PATHE
 
 Hiroshima Atomic Bomb (1945) | A Day That Shook the World
 
 https://www.youtube.com/watch?v=t19kvUiHvAE
 
 https://youtu.be/t19kvUiHvAE
 
 
 
 เครื่องบินบรรทุกระเบิดปรมาณูซึ่งมีชื่อน่ารักว่า Little Boy นี้ มีชื่อว่า Enola Gay
 ตั้งตามชื่อมารดาของนักบินเที่ยวบินมฤตยูนั้น - Colonel Paul Warfield Tibbets, Jr. (1915 - 2007)
 
 โบกมือให้สัญญาณผู้สื่อข่าวหลบเลี่ยงใบพัดก่อนที่จะติดเครื่องนำ(โพ)ยมยานทะยานออกปฏิบัติการ
 ปฏิบัติการครั้งนั้นยังมีเครื่องบิน B29 ร่วมขบวนด้วยอีกสองลำ ลำหนึ่งบรรทุกเครื่องมือบันทึกตรวจวัด
 ผลงานและอีกลำบันทึกภาพ
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50212;image)
 
 
 
 เรื่องราวของแม่ผู้เป็นแรงใจให้ลูกผู้เป็นนักบินนี้ไม่ค่อยมีบันทึกให้อ่านนัก
 
 แม่ได้ชื่อนี้มาจากตัวละครในนิยายที่ตาอ่านช่วงก่อนแม่เกิด แม่เติบโตในไร่ที่ Iowa
 แต่งงานกับพ่อที่เป็นเซลส์แมนธุรกิจขายของชำของครอบครัว ต่อมาครอบครัวได้ย้ายไปอยู่
 ที่ Miami
 
 แม่และพ่อ Paul Warfield Tibbets, Sr.
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50213;image)
 
 
 ที่นั่นเมื่อพอลอายุได้ 12 ปี หนูน้อยได้มีโอกาส(ผ่านทางธุรกิจของพ่อ) ขึ้นไปกับเครื่องบิน
 เพื่อโปรยลูกกวาดผูกติดกับร่มชูชีพลงมายังสนามแข่งรถและชายหาดเบื้องล่างในกิจกรรมโปรโมท
 สินค้าของบริษัทผลิตลูกกวาด ประสบการณ์บนอากาศยานครั้งนั้นคงจะประทับใจจำจนทำให้พอลน้อย
 ฝันใฝ่อยากเป็นนักบินในตอนโต
 
 แม้ว่าพ่อจะพยายามสนับสนุนให้เขาเป็นหมอ แต่พอลกลับพบว่าตัวเองชอบที่จะไปสนามบิน
 เพื่อเช่าเครื่องบินขับไปในอากาศกว้าง
 
 ตอนที่เขาเลือกชื่อเพื่อที่จะนำมาตั้งให้เครื่องบินลำนี้ พอลเล่าว่า เขานึกถึงแม่ซึ่งมีผมสีแดง
 แม่ผู้เข้มแข็งกล้าหาญ มีความมั่นใจอย่างเงียบๆ และคอยให้กำลังใจแก่เขามาแต่เยาว์วัย โดยเฉพาะ
 ในช่วงที่เขาค้นหาและพบตัวตนที่แท้จริงแล้วตัดสินใจที่จะเบนเข็มเป็นนักบิน แม่อยู่ข้างเขา และบอก
 กับเขาว่า "I know you will be all right son."
 
 พอลน้อยวัย 8 ขวบ
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50214;image)
 
 
 หลังเหตุการณ์ผ่านไป สงครามโลกสิ้นสุดยุติลงด้วยความสูญเสียอย่างมหาศาลของทุกฝ่าย
 พอลได้รับจดหมายหลายร้อยฉบับจากทั่วโลก บางคนเรียกเขาว่า อาชญากรสงคราม บางคนให้สมญา
 ว่า the world’s greatest killer
 แต่ส่วนมากขอบคุณเขา สำหรับสิ่งที่ได้กระทำไป สิ่งที่เขารู้สึกว่าเป็นงานในหน้าที่ พอลบอกว่า
 เราอยู่ในภาวะสงคราม หน้าที่ของเราคือการเอาชนะ
 
 คุณปู่พอลเซ็นชื่อลงบนปีกเครื่องบินจำลอง Enola Gay
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50215;image)
 
 I didn’t bomb Pearl Harbor. I didn’t start the war, but I was going
 to finish it.
 I have been convinced that we saved more lives than we took.
 It would have been morally wrong if we’d have had that weapon
 and not used it and let a million more people die.
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50217;image)
 
 
 เครื่องบิน Enola Gay ลำนี้เป็น Boeing B-29 Superfortress กล่าวคือ
 เครื่องบินทิ้งระเบิดสี่ใบพัดขนาดใหญ่ ออกแบบพัฒนาโดยบริษัท Boeing ที่กองทัพสหรัฐ
 ใช้รบในสงครามโลกครั้งที่สองและสงครามเกาหลี ลำตัวยาว 30 ม. ปีกกว้าง 43 ม. และ
 สูง 9 ม.
 
 Enola Gay มาถึงเกาะ Tinian* แล้วออกบิน(ฝึก)ทิ้งระเบิดโจมตีญี่ปุ่นในเดือนกรกฎาคม
 ก่อนออกงานยักษ์ในเดือนสิงหาคม
 
 *เกาะ Tinian อยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิคทางตะวันออกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น ถูกยึดครองโดย
 จักรวรรดิ์ญี่ปุ่นตอนสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง และถูกฝ่ายสัมพันธมิตรยึดได้ในปี 1944
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50218;image)
 
 
 ส่วนตัวระเบิดปรมาณูซึ่งก่อมหันตภัยมหาพินาศนี้มีชื่อรหัสน่ารักว่า  Little Boy
 มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 28 นิ้ว และยาว 120 นิ้ว  น้ำหนักรวม 9,000 ปอนด์ เป็นน้ำหนัก
 ของยูเรเนียมแค่ 141 ปอนด์ แต่ให้พลังผลาญมหาศาลเทียบเท่าระเบิดระดับรุนแรงถึง
 15,000 ตัน(ตัวเลขระหว่าง 13,000 - 18,000) จากขบวนการแตกตัวของนิวเคลียส
 (nuclear fission) ของ uranium 235
 ผลงานสร้างสรรค์(เพื่อทำลาย) ชิ้นที่สองของโครงการ Manhattan Project
 ลูกแรกเป็นระเบิดปรมาณูของ Trinity test ในทะเลทรายรัฐ New Mexico ที่เพิ่งเสร็จสิ้น
 การทดลองไปไม่ถึงเดือนเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม
 
 โหลดลูกชายน้อยเข้าสู่อุทรแม่
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50219;image)
 
 
 
 ข้อความอธิบาย Nuclear Fission โดยสมาคมนิวเคลียร์แห่งประเทศไทย
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50224;image)
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50225;image)
 
 
 
 เมืองเป้าหมาย - ฮิโรชิมา เมืองท่าสำคัญและเป็นที่ตั้งของกองบัญชาการทหารอันดับสอง
 รองจากโตเกียว มีระบบป้องกันการโจมตีทางอากาศเป็นเลิศในญี่ปุ่น
 ประชากรอาศัยอยู่ 310,000 คน รวมกับทหาร 40,000 นาย และคนงานจากชานเมือง
 เข้ามาทำงานรายวัน 20,000 คน รวมเป็น 370,000 ชีวิตในยามกลางวัน
 
 ภาพตัวเมืองถ่ายไว้ไม่นานก่อนถูกถล่ม
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50227;image)
 
 
 สาเหตุที่ฮิโรชิมาถูกเลือกเป็นเป้าหมายการทำลายล้างและการทดสอบตรวจวัดผลของระเบิด
 ปรมาณูลูกแรกที่จะใช้งานจริงนั้นเป็นเพราะ ชัยภูมิเป็นที่ราบ มีประชากรหนาแน่น เป็นที่ตั้งของฐานทัพ
 อันดับสอง บ้านเมืองก็ยังคงสภาพเดิมไม่เคยถูกโจมตีทางอากาศทำให้สามารถวัดผลการทำลายล้าง
 จากระเบิดได้แน่ชัด และสำคัญที่สุดก็คือที่นี่ไม่มีเชลยสงครามชาวตะวันตก
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50228;image)
 
 
 Little Boy โหลดแล้ว, เครื่องบิน Enola Gay พร้อม, ทีม"ยุติมหาสงคราม" ทั้ง 12 ก็พร้อม
 (นักบินพอลยืนอยู่แถวหน้าคนที่สองจากขวามือ)
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50229;image)
 
 
 
 6 สิงหาคม 1945 Enola Gay take off เวลา 0235 ฟ้ามืดมิด
 เมื่อบินไปจนถึงเวลา 0500 จึงเริ่มเห็นแสงแรกของรุ่งสาง
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50230;image)
 
 
 เส้นทางบินจากฐานทัพบนเกาะ Tinian สู่ฮิโรชิมา
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50231;image)
 
 
 พิกัดกำหนดจุดทิ้งระเบิดคือสะพานรูปตัว T - Aioi Bridge
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50232;image)
 
 
 ที่ระดับความสูงราว 9,400 ม. ยานแม่ Enola Gay คลอดลูกชายน้อย Little Boy
 หย่อนออกมาเมื่อเวลา 8.15 น. กระแสลมได้พัดพาระเบิดออกห่างจากพิกัดไป 240 ม. ตรง
 ตำแหน่งที่เป็นโรงพยาบาล Shima ในย่าน Saiku-machi
 
 พอลซึ่งผ่านการฝึกบินท่านี้จนชำนาญบังคับ Enola Gay ตีโค้งหันหลังกลับทันที
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50233;image)
 
 
 เขาเล่าถึงภาพเหตุการณ์ระเบิดในวันนั้นว่า
 
 แสงแรงจ้าสาดเข้ามาเต็มเครื่องบิน คลื่นกระแทกลูกแรกซัดมาถึงเราซึ่งอยู่ในพิสัยลาดเอียง
 ห่างออกมา 11 ไมล์ครึ่งจากตำแหน่งระเบิด ตัวเครื่องบินทั้งลำถูกแรงระเบิดกระแทกทุบจนย่นยับ เราหัน
 กลับไปมองฮิโรชิมาที่บัดนี้ถูกปกคลุมด้วยเมฆควันน่าพรั่นพรึง..พวยพุ่งสูงอย่างไม่น่าเชื่อสู่ฟากฟ้าเป็น
 รูปต้นเห็ด
 
 ภาพพร้อมลายเซ็นของทีมงาน 5 จาก 12 นาย ได้แก่ Paul Tibbetts(Pilot and Aircraft commander)
 - Theodore 'Dutch' Van Kirk(Navigator)- Tom Ferebee(Bombardier)- Richard 'Dick' Nelson
 (Radio Operator) และ Morris Jeppson (weapon test officer).
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50234;image)
 
 
 ส่วน Capt. Robert A Lewis ผู้เป็น co-pilot ในเช้าวันนั้นได้บรรยายความรู้สึก
 นึกคิดในปูมบันทึกการบิน(logbook) ของปฏิบัติการครั้งนี้(แบบดรามา) ไว้ว่า
 
 วันที่ 6 สิงหาคม  0815 นาฬิกา คือเวลาหย่อนระเบิดลงฮิโรชิมา ระเบิดแตกตูม
 ในเวลาหนึ่งนาทีต่อมา
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50235;image)
 
 
 นาทีต่อจากนี้ไปจะเกิดอะไร ไม่มีใครคาดคิดได้.. แสงแวบจ้าน่าหวั่น สิบห้าวินาที
 หลังจากนั้น เกิดความป่วนปั่นสั่นสะเทือน(air turbulence) อย่างชัดเจนขึ้นสองครั้ง นี่คือ
 ผลทางด้านกายภาพทั้งหมดของระเบิดที่มาถึงเราให้รับรู้ได้
 
 ส่วนผลทางด้าน(ความรู้สึกนึกคิด) จิตใจนั้น เขาเล่าต่อไปว่า
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50236;image)
 
 
 เราหันตัวเครื่องบินเพื่อมองผลงาน เบื้องหน้าสองตาเราคือภาพการระเบิดที่รุนแรงที่สุดเท่าที่
 มนุษย์เคยทัศนา ครึ่งหนึ่งของตัวเมืองถูกปกคลุมด้วยกลุ่มควัน แท่งเมฆสีขาวพวยพุ่งสูง 30,000 ฟุต
 ภายในเวลาไม่ถึง 3 นาที จากนั้นทะยานต่อสู่ความสูง 50,000
 
 ผมแน่ใจว่า ลูกเรือทุกคนต่างรู้สึกว่าประสบการณ์ครั้งนี้มันมากล้นเกินจินตนาการของมนุษย์
 คนไหนจะไปถึง เกินความสามารถจะเข้าใจ พวกเราได้ฆ่าคนไปมากเท่าไรกันนี่ โดยความสัตย์ ผมเกิด
 ความรู้สึกหรือความคิดที่จะค้นหาคำอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น หรือ
 
 I might say my God, what have we done?
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50237;image)
 
 
 หากผมมีอายุยืนถึงหนึ่งร้อยปี ผมก็จะไม่มีวันสามารถลบภาพช่วงเวลาสามนาทีนี้ไปจากใจได้
 
 เมฆมหึมามวลนั้นยังคงมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ แม้เมื่อบินออกจากเป้าหมายมาได้หนึ่งชั่วโมงครึ่งแล้ว
 ที่ระยะห่างไกล 400 ไมล์
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50238;image)
 
 
 
 
- 
				
 หลังจากปฏิบัติภารกิจสำเร็จแล้วพอลพา Enola Gay บินกลับฐานโดยสวัสดิภาพ
 ส่วนที่ฮิโรชิมา, บันทึกบางส่วนของประวัติศาสตร์โลกต้องจารึกเล่าว่า
 
 40 วินาทีหลังคลอด ลูกน้อยก็ปลดปล่อยพลังงานระเบิดเทียบเท่า TNT ขนาด 15,000 ตัน
 ที่ระดับความสูง 600 ม.เหนือพื้นดิน เกิดเป็นลูกไฟขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 28 ม. แทบจะในทันที
 ระดับนี้คือตำแหน่งที่จะก่อให้เกิดการทำลายล้างอย่างสูงสุด ต่ำลงไปพลังระเบิดจะเสียเปล่า
 ไปในการกระแทกขุดหลุมบนพื้นดิน
 
 พลังงานมหาศาลที่เจ้าหนูปรมาณูยูเรเนียมปลดปล่อยออกมา 15% เป็นกัมมันตรังสี
 (5% เป็นการแผ่รังสีช่วงแรก 10% เป็นส่วนที่เหลือ) 35% เป็นคลื่นความร้อน และที่เหลือ
 50% เป็นแรงระเบิด
 
 ภาพแบบจำลองจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ Hiroshima Peace Memorial Museum(HPMM)
 ลูกกลมสีแดงคือตำแหน่งลูกน้อยระเบิดเหนือฮิโรชิมา
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50239;image)
 
 
 การจุดระเบิดกำเนิดประกายแสงแรงจ้าขนาดตาบอดและลูกไฟยักษ์ที่ร้อนเร่าเกือบเทียบ
 เท่าอุณหภูมิผิวดวงอาทิตย์(5,600 องศา) ด้วยอุณหภูมิ 4000 องศา รังสีและความร้อนแผ่กระจาย
 ออกทุกทิศทางระเหิดระเหยชีวิตและแผดเผาหลอมละลายอาคารสถานบ้านเรือน พร้อมแรงระเบิด
 กระแทก ผลาญทำลายเมืองเก่าแก่ 400 ปีให้ราพณาสูร
 กองบัญชาการทหารอันดับสองถูกทำลายล้าง รวมทั้งอาคารในระยะรัศมี 4 กม.
 
 ซากบริเวณสะพาน Aioi เป้าหมาย
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50240;image)
 
 
 ground zero(hypocenter) บริเวณพื้นผิวโลกตรง(ด้านใต้) ตำแหน่งระเบิด
 ถ่ายในฤดูใบไม้ร่วงปีเดียวกัน
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50241;image)
 
 
 เงามรณะ(Shadow of Death)
 
 ร่างของเหยื่อที่เหลือเพียงรอยเงาบนบันไดหินตรงทางเข้าธนาคารซูมิโตโมสาขาฮิโรชิมา
 ซึ่งอยู่ห่างจากตำแหน่งใต้การระเบิด(hypocenter) 260 เมตร ผลงานรังสีความร้อนมหาศาล
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50242;image)
 
 
 ปัจจุบันติดตั้งแสดงที่พิพิธภัณฑ์ HPMM
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50243;image)
 
 
 ความกดดันขนาดสูงลิบลิ่วจากตำแหน่งระเบิดส่งคลื่นกระแทก(shock wave) ที่ทำให้
 กระจกหน้าต่างแตกได้ไกลถึง 9 ไมล์ ตามด้วยลมระเบิดรุนแรงที่ล้มอาคารต่างๆ ให้พังพาบพินาศ
 
 แผลผนังอาคารจากกระจกบิน ตั้งแสดงใน HPMM เช่นกัน
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50244;image)
 
 
 บาทวิถีริมถนนและท่อระบายน้ำขยับยกสูงขึ้น เป็นอีกหนึ่งผลจากแรงระเบิดทำให้เกิด
 ภาวะสูญญากาศดูดสองสิ่งนี้ขึ้นมา
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50245;image)
 
 
 ผู้คนตามริมถนนในฮิโรชิมา
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50246;image)
 
 
 อันตรายทางกายภาพโดยตรง(ต่อผู้คน) จากระเบิดปรมาณูเป็นผลจากการเผาไหม้ด้วย
 รังสีความร้อนและไฟที่กระจายลุกลามไปทั่วเมือง รวมทั้งแรงระเบิดทำให้เกิดการบาดเจ็บ, กระดูกหัก
 นอกจากนี้ยังมีอันตรายทางอ้อมที่เป็นผลจากความเสียหายของอาคารบ้านเรือนที่พังครืนและเศษกระจก
 แตกกระจาย
 ประมาณผู้คนล้มหายตายไปเป็นจำนวนราว 66,000 ชีวิต ส่วนที่ได้รับบาดเจ็บอีกราว 70,000 คน
 
 ภาพถ่ายวันรุ่งขึ้นหลังระเบิดถล่ม(วันที่ 7 สิงหาคม) ภายในกระโจมของศูนย์บรรเทาภัย
 ของโรงพยาบาลทหาร
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50247;image)
 
 
 ในขณะที่รังสีแกมม่าจากปฏิกิริยาลูกโซ่ของธาตุยูเรเนียมนั้นทำอันตรายต่อผิวหนัง
 และลงลึกถึงอวัยวะภายใน  ผลของการแผ่รังสีในระยะเฉียบพลันทำให้เกิดอาการที่เริ่มด้วย
 คลื่นไส้อาเจียน อ่อนเพลียอย่างรุนแรง มีไข้และท้องเสีย ตามมาด้วยผมร่วง อาการเลือดออกง่าย
 และโรคเลือดในระยะหลัง
 
 ภาพถ่ายเหยื่อที่รอดชีวิตในเดือนกันยายนปีเดียวกัน
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50248;image)
 
 
 ส่วนโรคที่เป็นผลจากรังสีในระยะยาวซึ่งเกิดกับผู้รอดชีวิตจากระยะเฉียบพลันที่แลดู
 เหมือนสุขภาพดีแล้วก็คือมะเร็งเม็ดเลือดและมะเร็งอวัยวะอื่น ได้แก่ ต่อมธัยรอยด์
 ลักษณะเฉพาะอย่างหนึ่งของเหยื่อระเบิดปรมาณูคือ แผลเป็นนูนหนา keloid scar
 ที่เจ็บปวดมากและแม้ว่าจะได้รับการผ่าตัดออกแล้วแต่แผลเป็นนี้ก็จะกลับขึ้นมาใหม่อีก
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50249;image)
 
 
 ประชาชนหลายหมื่นสิ้นชีวิตไป(ในจำนวนนี้ที่ไม่น้อยเป็นเพียงหนูเล็กเด็กชายหญิงไม่เดียงสา)
 ไม่ก็ได้รับบาดเจ็บปางตายแล้วตามมาด้วยสภาพพิการ นับจำนวนประชากรที่ถูกลูกชายน้อยทำร้ายเป็น
 พลเรือนราว 320,000 คน, ทหาร 40,000 นาย ยอดรวมผู้เสียชีวิตเมื่อตอนปลายธันวาคมปีนั้นอยู่ที่
 140,000 ชีวิต ส่วนใหญ่จะเสียชีวิตตั้งแต่สองสัปดาห์แรกหลังระเบิดลง
 
 พื้นที่ประมาณ 13 ตร.กม. ของเมืองถูกทำลายย่อยยับเป็นซากสงคราม ทางการญี่ปุ่นประมาณ
 การว่าอาคารบ้านเรือนถูกทำลายราว 69%
 
 แบบจำลองเมืองใน HPMM - ก่อนระเบิด
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50250;image)
 
 
 หลังระเบิด
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50251;image)
 
 
 ภายในรัศมีราว 2 กม. อาคารแทบทั้งหมดล้มพังและถูกเผามอด เมืองท่าที่เคยรุ่งเรือง
 กลายเป็นผืนดินที่ถูกแผดเผาแห้งเกรียม ซากอาคารสถานปกคลุมด้วยวัตถุที่ถูกความร้อนประลัย
 หลอมละลายคล้ายถูกฝังอยู่ใต้ลาวา
 
 แผนผังแสดงพื้นที่ถูกทำลายล้างใน HPMM
 
 สีแดง Totally collapse and burned
 สีชมพู Totally collapsed
 สีเหลือง Half collapse and burned and irreplacably damage
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50252;image)
 
 
 ความร้อนแรงระอุบิดเบี้ยวโครงโลหะของอาคาร
 (ภาพถ่ายในเดือนต่อมา - กันยายน)
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50253;image)
 
 
 สารพัดสิ่งของและ"กองลาวา"
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50254;image)
 
 
 พระพุทธรูป
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50255;image)
 
 
 ฮิโรชิมาเดือนถัดมา(กันยายน)
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50257;image)
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50258;image)
 
 
 ฮิโรชิมาปีต่อมา เดือนมีนาคม 1946
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50259;image)
 
 
 ซากอาคารสำคัญ, ปัจจุบันคือ Hiroshima Genbaku(atomic bomb) Dome
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50260;image)
 
 
 อาคารนี้ออกแบบโดยสถาปนิกชาวเชคนามว่า Jan Letzel เป็นอาคารสไตล์ผสม
 neo-Baroque และ Art Deco โดดเด่นด้วยหลังคาโดมสีเขียว(ทองแดง) สร้างเสร็จในปี
 1915 ใช้เป็นอาคาร Hiroshima Prefectural Commercial Exhibition ต่อมาเปลี่ยน
 ชื่อเป็น Prefectural Industrial Promotion Hall
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50261;image)
 
 
 อาคารตั้งอยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางการระเบิดราว 160 ม. ตัวอาคารบางส่วนและ
 โครงหลังคาโดม(ทองแดง) สามารถทนทานการทำลายล้าง หลังจากนั้นมา (ซาก) อาคาร
 หลังนี้จึงเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า Atomic Bomb Dome(A-Bomb Dome) ที่ทางการ
 ได้อนุรักษ์ไว้เป็นอนุสรณ์เตือนใจและได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50262;image)
 
 
 คนละฟากฝั่งตรงกันข้ามกับโดมนี้(A) เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ Hiroshima Peace Memorial Museum
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50263;image)
 
 
 ตัวอาคารพิพิธภัณฑ์รูปทรงสี่เหลี่ยมแบนยาวยกสูง เบื้องหน้าคือโค้งไฟไม่รู้มอดตลอดกาล
 (Eternal Flame) ตราบที่อาวุธนิวเคลียร์ยังไม่หมดไปจากโลก
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50264;image)
 
 
 จากด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ มองลอดโค้งไฟผ่านอนุสาวรีย์รำลึกถึงผู้เสียชีวิต(memorial cenotaph)
 ตรงไปสุดสายตาที่โดมระเบิดปรมาณู
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50265;image)
 
 
 
 ..........
 เพ็ญชมพู
 หนุมาน
 ********
 ความคิดเห็นที่ 54  เมื่อ 19 ส.ค. 14, 13:31
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5984.0;attach=50206;image)
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50267;image)
 
 
 ผู้ลงนามอนุมติการทิ้งระเบิดปรมาณูที่ฮิโระชิมะ คือ ประธานาธิบดีทรูแมน เขาได้พูดออกอากาศถึงประชาชนชาวอเมริกันในวันที่ ๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๘๘ ตอนหนึ่งว่า
 
 The world will note that the first atomic bomb was dropped on Hiroshima, a military base. That was because we wished in this first attack to avoid, insofar as possible, the killing of civilians. But that attack is only a warning of things to come. If Japan does not surrender, bombs will have to be dropped on her war industries and, unfortunately, thousands of civilian lives will be lost. I urge Japanese civilians to leave industrial cities immediately, and save themselves from destruction.
 
 โลกจะต้องบันทึกไว้ว่าระเบิดปรมาณูลูกแรกที่ทิ้งลงฐานทัพทหารที่ฮิโระชิมะ นั่นเป็นเพราะว่าเราหวังที่จะหลีกเลี่ยงการฆ่าพลเรือนในการโจมตีครั้งแรกนี้อย่างที่สุด การโจมตีนี้เป็นเพียงการเตือนถึงสิ่งที่จะตามมา ถ้าญี่ปุ่นยังไม่ยอมแพ้ ระเบิดจำเป็นต้องถูกทิ้งลงอีกในย่านอุตสาหกรรมสงคราม ซึ่งน่าเสียดายที่ชีวิตพลเรือนนับพันจะต้องสูญสิ้นไป ข้าพเจ้าอยากแนะนำให้พลเรือนชาวญี่ปุ่นหนีออกจากเมืองอุตสาหกรรมโดยทันทีเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้จากการทำลายล้าง
 
 ข้อมูลจาก ห้องสมุดทรูแมน
 
 ทรูแมนโกหกประชาชนว่า จะหลีกเลี่ยงการฆ่าพลเรือนและหากจำเป็นคนญี่ปุ่นเพียงจำนวนพันเท่านั้นที่จะต้องสูญสิ้นเพราะการทิ้งระเบิดปรมาณู
 
 
 ในวันเดียวกัน ทรูแมนส่งโทรเลขตอบวุฒิสมาชิกริชาร์ด บี รัสเซล แห่งรัฐจอร์เจีย ที่ต่อต้านการฆ่าประชาชนของทรูแมน  ทรูแมนบอกว่าจำเป็นจะต้องกวาดล้างประชาชนทั้งหมด
 
 เอกสารเกี่ยวกับการตัดสินใจทิ้งระเบิดปรมาณูของอเมริกาหาอ่านได้ที่ ห้องสมุดทรูแมน
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50268;image)
 
 
 .........
 SILA
 หนุมาน
 ********
 ความคิดเห็นที่ 56  เมื่อ 20 ส.ค. 14, 10:03
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50286;image)
 
 
 
 
- 
				
 ช่วงต่อไปนี้ ขอพากันย้อนอดีตกลับไปฮิโรชิมาวันนั้น
 
 เวลานาทีชีวิตวิกฤต  8 โมง 15 นาที เช้าวันที่ 6 สิงหาคม 1945
 
 แมลงปอโผบินผ่านหน้าฉันไปหยุดเกาะอยู่บนรั้ว
 ฉันลุกขึ้นยืน มือคว้าหมวกเก็ป เตรียมจะจับแมลงปอ เมื่อ
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50287;image)
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50288;image)
 
 
 รูปข้างบนนั้นคือ
 ภาพประวัติศาสตร์วันที่ 6 สิงหาคม 1945 บันทึกโดยช่างภาพวารสาร
 Yoshito Matsushige ถ่ายจากหน้าต่างบ้านซึ่งอยู่ห่างจากตำแหน่งระเบิดไปทางใต้ 2.7 กม.
 คุณปู่จึงไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรง
 
 คุณปู่ออกจากบ้านเดินเข้าไปยังใจกลางเมืองแล้วบันทึกภาพไว้ได้  7 ภาพ
 เป็นภาพถ่ายของฮิโรชิมาในวันมหาวินาศนั้นเท่าที่มีให้ได้เห็นและเป็นที่รับรู้กัน
 
 ที่สะพาน Miyuki ห่างจากจุดใต้ระเบิด(hypocenter) 2.3 กม. เวลา 1100 - 1130 น.
 ตำรวจทาแผลไฟไหม้ด้วยน้ำมันปรุงอาหารให้เด็กนักเรียน
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50289;image)
 
 
 ขยับใกล้เข้าไปอีก
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50290;image)
 
 
 มองจากหน้าต่างร้านตัดผมซึ่งเป็นกิจการของครอบครัว อาคารสถานีดับเพลิงสร้างด้วยไม้สี่ชั้น
 พังพาบพินาศลง บันทึกเมื่อเวลาราวบ่ายสอง, 2.7 กม. จาก hypocenter
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50291;image)
 
 
 ตำรวจโพกผ้าพันแผลที่ศีรษะออกใบปันส่วนข้าวสารให้ผู้รอดชีวิตที่ป้ายรถรางใกล้
 สะพาน Miyuki ห่างจาก hypocenter 2.4 กม. เมื่อเวลาราว 5 โมงเย็น
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50292;image)
 
 
 ภาพเงามรณะ ที่ได้กล่าวถึงไปแล้ว
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50293;image)
 
 
 คุณปู่ใช้เวลาทำใจอยู่ 20 วัน ก่อนที่จะดำเนินการล้างอัดรูป และกว่าภาพจะออก
 เผยแพร่ได้ก็ต้องใช้เวลาอีก 7 ปี หลังจากที่การครอบครองญี่ปุ่นโดยอเมริกาสิ้นสุดลงในปี 1952
 (น่าอัศจรรย์) คุณปู่มีชีวิตยืนยาวถึง 92 ปี เพิ่งเสียชีวิตไปในปี 2005
 
 คุณปู่กับคุณย่าในปี 1955 คุณย่าชี้ไปที่ภาพถ่ายชิ้นที่ 7 ตรงตัวคุณย่าในภาพกำลังตรวจดูสภาพ
 ร้านตัดผมที่ถล่มทลาย
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50294;image)
 
 
 ^
 ร้านตัดผมของครอบครัว เวลาราวบ่ายสองโมง  ๒.๗ กิโลเมตร จาก hypocenter
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50295;image)
 
 
 หนึ่งในเหยื่อของสงคราม ที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์สันติภาพฮิโระชิมะ (Hiroshima Peace Memorial Museum)
 
 เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งนี้เป็นของสาวน้อยวัย ๑๖ ปี นามว่า อิมิโกะ ซะวะโมะโตะ (澤本笑美子) เธออยู่ห่างจากจุดใต้ระเบิด (hypocenter) เพียง ๘๐๐ เมตร ญาติของเธอเล่าว่าอิมิโกะจังทรมานแสนสาหัสจากแผลไฟไหม้ทั้งร่างกาย จนเมื่อเธอกระเสือกกระสนกลับมาถึงบ้าน ไม่มีใครจำเธอได้เลย เธอเสียชีวิตในวันรุ่งขึ้น ตลอดเวลาเธอร้องขอแต่น้ำดื่มเพื่อดับพิษร้อนของรังสีที่เผาอวัยวะภายในของเธอจนหมดสิ้น
 
 เสื้อผ้าชุดที่นำมาแสดงนี้ถูกเก็บเพื่อเป็นที่ระลึกถึงอิมิโกะจังไว้หลายปี  พิพิธภัณฑ์เพิ่งได้รับบริจาคเพื่อมาจัดแสดงเมื่อพ.ศ. ๒๕๕๑  นี้เอง
 
 ข้อมูลจาก  a-bombdb.pcf.city.hiroshima.jp
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50303;image)
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
 
 
 .....
 เพ็ญชมพู
 หนุมาน
 ********
 ความคิดเห็นที่ 67  เมื่อ 21 ส.ค. 14, 14:43
 
 ความร้อนจากระเบิดปรมาณูสูงมาก สามารถที่จะเผาร่างกายให้กลายเป็นเถ้าธุลีได้อย่างใน ๒ ตัวอย่างนี้
 
 ทางซ้ายคือ นาฬิกาข้อมือ ชิโยะโกะ  นะกะตะ (中田千代子) ซึ่งขณะนั้นอายุ ๒๙ ปี เป็นสิ่งเดียวที่คงหลงเหลืออยู่ข้างร่างกายซึ่งถูกเผาผลาญด้วยความร้อนจากผลของระเบิดปรมาณูจนเป็นเถ้าธุลี พบในบริเวณซึ่งเคยเป็นบ้านของเธอเองซึ่งอยู่ห่างจากจุด hypocenter เพียง ๖๐๐ เมตร
 
 ส่วนทางขวาคือ นาฬิกาพกและมีดโกน ของ ชิเกะรุ   โยะโกะยะมะ (横山繁) อายุ ๓๙ ปี พบข้างร่างกายซึ่งกลายสภาพเป็นผงธุลีเช่นเดียวกัน ณ บริเวณซึ่งเคยเป็นห้องประชุมของโรงเรียนประถมโอเตะมะชิ (大手町国民学校) ซึ่งอยู่ห่างจุด hypocenter ๑ กิโลเมตร
 
 คิดในด้านบวก ทั้ง ชิโยะโกะซัง และ ชิเกะรุซัง อาจจะถือว่าโชคดีกว่าอิมิโกะจังก็ได้ ที่ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสข้ามคืนก่อนที่จะเสียชีวิต
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50337;image)
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
 
 
 ..........
 
 SILA
 หนุมาน
 ********
 ความคิดเห็นที่ 68  เมื่อ 22 ส.ค. 14, 09:21
 
 จากภาพถ่ายวันนั้นที่มีอยู่เพียง 7 ภาพ ต่อไปนี้คือ หลากหลายรูปวาดและถ้อยคำ รำลึก
 เหตุการณ์ ร้อยเรียงจากบรรดาผู้รอดชีวิตจากวันฮิโระชิมะวิปโยค
 
 จากแถวศูนย์กลางระเบิด
 
 "ดูนั่น ร่มชูชีพ" ฉันแหงนมองตามเสียงนั้น ทันใดท้องฟ้าก็ระเบิดเกิดแสงจ้าเกินบรรยาย
 รู้สึกคล้ายกับไฟเผาลูกตาฉันจากนั้นก็เกิดเสียงดังสนั่นจนหูดับ ตามมาด้วยแรงกระแทกที่แรงราว
 กับจะฉีกร่างฉันให้แหลกเป็นชิ้นๆ เสียงระเบิดตูมนั้นไม่เหมือนเสียงระเบิดที่ตกลงบนพื้นหรือเสียง
 แบบสายฝนของระเบิดเพลิง หากเป็นเสียงโลหะที่บาดหู
 แสงนั้นแรงกล้าจนฉันต้องยกมือปิดตา สว่างจ้าจนฉันสามารถมองเห็นกระดูกมือตัวเอง
 เหมือนในภาพเอ็กซเรย์
 
 ภาพวาด เช้าวันนั้นอากาศดี บรรยากาศปลอดโปร่ง
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50360;image)
 
 
 จากหมู่บ้านใกล้เคียง
 
 เช้าวันนั้นอากาศดี ทันใดนั้นฉันรู้สึกร้อนวูบที่แก้มซ้าย แล้วก็มีแสงสว่างจ้าเหมือนแสง
 สะท้อนจากกระจกเงา ตามด้วยเสียงคำรามที่สั่นสะเทือนไปทั้งหมู่บ้าน ในขณะที่ฉันสงสัยว่าเกิดอะไร
 มวลเมฆก็ได้ก่อตัวขึ้นเหนือยอดเขาทางใต้แลเห็นเป็นสีชมพูเพลิง รูปร่างของมันค่อยๆ กลายเป็นคล้าย
 ต้นเห็ดงอกสูงสู่ฟ้า สว่างจ้าจุความร้อนมากมายและเปล่งประกายแสงเจ็ดสีสายรุ้ง
 เมื่อนึกย้อนกลับไปก็ให้แปลกใจ แต่ฉันบอกได้ว่าภาพที่เห็นนั้นแลดูงดงาม
 
 ภาพ แค่เสี้ยววินาทีวงแหวนหลากสีกระจายอยู่เหนือศีรษะของฉัน
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50361;image)
 
 
 ภาพวาดโดยนายแพทย์ทหารในกองเสนารักษ์ที่อยู่ห่างจากจุดระเบิด 4 กม.
 เช้าวันนั้นหลังจากที่ผมมาถึงที่ทำงานแล้วกำลังเดินไปที่โต๊ะ เกิดเหตุปรากฏการณ์แสงแดง
 จ้าฉายฉานทางด้านนอก แล้วก็รู้สึกร้อนระอุที่แก้ม ผมตะโกนบอกลูกน้องให้อพยพออกจากอาคาร แต่
 ทันใดนั้น ผมก็รู้สึกเหมือนอยู่ในสภาวะไร้น้ำหนักแล้วหมดสติไปราวครึ่งนาที
 เมื่อรู้สึกตัวก็ได้พบว่าทุกคนในห้องต่างลงไปกองที่พื้น ข้าวของกระจัดกระจาย กระจกหน้าต่าง
 ไม่เหลือ มองออกไปเบื้องหน้า คือ เมฆรูปเห็ด และ
 เมื่อก้มลงดูเสื้อตัวเองกลับเห็นเป็นสีแดงด้วยเลือดสาดมาจากร่างของเจ้าหน้าที่หญิงที่บาดเจ็บ
 ด้วยถูกชิ้นส่วนกระจกทิ่มแทงทั่วร่าง...
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50362;image)
 
 
 บ้านที่อยู่ไกลออกไปกระเพื่อมยกสูงขึ้นเล็กน้อยแล้วถล่มล้มลงสู่พื้นเหมือนชิ้นโดมิโน
 พายุแรงที่สะท้อนกลับเมื่อปะทะภูเขาพัดพาบ้านชายเขาล้มลงเสียหายจนสุดสายตา
 ระเบิดปล่อยพลังงานขนาดเทียบเท่า TNT ราว 13 - 18 kilotons จุดระเบิดอยู่กลาง
 เมืองฮิโรชิมาคร่าผลาญสรรพสิ่งที่อยู่ในรัศมี 1 ไมล์ แม้อยู่ห่างออกไป 2 ไมล์ก็ยังเผาไหม้ผิวหนัง
 ได้อย่างรุนแรง พายุที่เกิดโหมแรงด้วยความเร็ว 1,000 ไมล์/ชม. เหวี่ยงร่างผู้คนนับพันลอยขึ้น
 และล้มอาคารลงทับผู้คนบนพื้นดิน เมื่อพายุเพลิงมอดดับลงฮิโรชิมาคงเหลือเป็นพื้นที่ราพณาสูร
 ไหม้เกรียม
 ฝนสีดำนำฝุ่นกัมมันตรังสีลงสู่พื้นดิน
 บางร่างระเหิดระเหยหาย หลายร่างนอนตายคาที่
 
 ภาพวาดฝนดำที่ตกลงบริเวณซึ่งห่างจาก hypocenter 1.3 กม. ในขณะที่ไฟกำลัง
 เผาผลาญเมืองที่อยู่อีกฟากแม่น้ำ
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50363;image)
 
 
 ปรากฏการณ์ฝนดำเกิดจาก
 
 เมฆร้อนรูปเห็ดยักษ์ที่งอกทะยานสู่ท้องฟ้านำพาฝุ่นละอองเศษซากธุลีขึ้นไป อากาศจาก
 รอบด้านเคลื่อนเข้ามาแทนที่พร้อมเขม่าธุลีจากมหาอัคคีถูกพัดขึ้นสูง ฝุ่นละอองและเขม่าเหล่านี้จับ
 กับอนุภาคกัมมันตรังสีแล้วเมื่อมาจับกับละอองไอน้ำจึงตกลงมาเป็นฝนดำ
 
 ผนังอาคารถูกวาดด้วยหยาดฝนดำ
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50364;image)
 
 
 แสงนั้นแรงจ้าจนทำให้ตาเราพร่าบอด ฉันรู้สึกเหมือนว่าถูกสายฟ้าฟาดนับพัน
 ความมืดมิดปกคลุมก่อนที่เราจะกลับมามองเห็นอีกครั้งว่า มีร่างที่เลือดท่วมตัวก่ายกองอยู่
 บนตัวน้องชายและฉัน
 
 เสียงนั้นเงียบลง ฉันค่อยๆ คลานออกมาจากที่หลบภัยแล้วมองไปรอบตัว เสาเพลิง
 สีแดง(ที่ฉันได้รู้ในเวลาต่อมาว่ามีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 200 ม. และสูง 10,000 ม.) ขยาย
 ขนาดขึ้นนาทีต่อนาทียามที่พุ่งสูงสู่ฟ้า
 ไฟลามหน้าต่างแล้วลุกเข้าตัวอาคารบ้านเรือน อาคาร Industrial Promotion Hall
 และอาคารอื่น ไฟโหมแรงร้อนเร่าเผาเรา
 
 ภาพ ทะเลเพลิงท่วมเมืองเหมือนนรกบนดิน ร่างที่ถูกไฟเผาเสื้อผ้าสูญหายนอนตายเกลื่อนกล่น
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50365;image)
 
 
 ระดับน้ำในแม่น้ำค่อยๆ เปลี่ยนจากน้ำขึ้นเป็นน้ำลง ควันดำหมุนเวียนสูงวน บางคราวควันนั้น
 ก็เคลื่อนวูบลงมาที่ศีรษะเรา แผ่นดีบุกและกระดานเกรียมร่วงหล่นลงรอบตัว ต้องคอยระวังวัตถุที่จะ
 หล่นลงมา ควันและน้ำตาเต็มสองตาเกินทน ลมหายใจที่สูดเข้ามาทำให้เราสำลัก
 
 ฉันเดินไปสะพาน Miyuki เพื่อหาน้ำดื่ม ต้องผลักร่างที่ลอยอยู่เพื่อที่จะดื่มน้ำซึ่งขุ่นเป็นโคลน
 ลมหมุนหอบน้ำขึ้นสูงเห็นเป็นรูปกรวย ไฟจากอีกฟากฝั่งส่งควันและประกายข้ามมาหาเรา จากนั้น
 ลูกเห็บขนาดใหญ่ก็ร่วงลงมาถูกใบหน้าระบม ตามด้วยน้ำวนหมุนรอบตัวแล้วฉันก็คิดได้ว่านี่คือ ทอร์เนโด
 
 ภาพฝูงชนนับพันวิ่งหนีพายุเพลิงแล้วกระโจนลงไปในแม่น้ำ ที่สะพาน Sumiyoshi
 ห่างจาก hypocenter 1.45 กม.
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50368;image)
 
 
 ภาพ ผู้คนวิ่งหนีไฟโหมมุ่งไปยังริมฝั่งน้ำแล้วหมดแรงทรุดลงบนพื้นดิน บางร่างด่าวดิ้นตายด้วย
 ความเจ็บปวดทรมาน ที่เหลือมุ่งหน้าสู่แม่น้ำแล้วโจนลง หลายรายจมหาย บางรายถูกสายน้ำ
 พัดไป แต่ไม่มีทางเลือกอื่นพวกเขาคงมุ่งสู่ผืนน้ำเพื่อหนีทะเลเพลิง
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50369;image)
 
 
 ทะเลเพลิงโอบล้อมทั้งเมือง เราร้อนและหายใจไม่ออก ไฟหมุนคล้ายพายุทอร์เนโด
 ครอบคลุมเต็มความกว้างของถนนเคลื่อนมาทางทิศใต้ เหมือนกับว่ากำลังตกอยู่ในนรกหมกไม้
 
 รูปนี้มองแล้วรู้สึกร้อนเป็นที่สุด
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50386;image)
 
 
 ร่างที่ถูกเผาไหม้เกรียมมองเห็นเป็นคล้ายถ่าน แลแข็งคล้ายก้อนหิน
 หนึ่งร่างเกรียมดำคือทารกน้อยในอ้อมกอดแม่ซึ่งถูกไฟไหม้จนผิวหนังมีสีแดง ดำ
 แต่บริเวณเต้านมนั้นขาวซีด ทารกน้อยคงจะดูดนมจากอกแม่จนสิ้นใจ
 
 ภาพวาด แม่พยายามพาลูกน้อยสองคนหนีไฟที่โหมล้อมรุม เธอล้มลงบนพื้นและดึงร่าง
 ลูกทั้งสองให้เข้ามาอยู่ใต้ร่างของเธอก่อนที่จะสิ้นใจไปทั้งสามคน นิ้วมือของลูกน้อยกด
 ลึกลงไปในผิวหนังแม่
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50387;image)
 
 
 สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นฉันเห็นคล้ายเป็นลิง เมื่อฉันเข้าไปมองดูใกล้ๆ จึงได้เห็น
 ดวงตาที่ทะลักออกมา ลิ้นและหลอดอาหารห้อยแกว่งออกจากปาก บางร่างพยายาม
 จับอวัยวะส่วนนั้นยัดกลับคืนลงไปในกระเพาะตน
 
 ฉันมารู้ว่าพวกเขาเป็นคนก็เมื่อเขาพยายามพูดออกมาว่า ขอน้ำ, น้ำ
 
 ภาพวาด ไฟท่วมรถรางทั้งคัน ร่างผู้โดยสารที่ไหม้เกรียมห้อยอยู่บนขอบหน้าต่าง บ้างแน่นิ่ง
 อยู่บนถนน ทุกคนตายในทันที ผู้ชายมองละม้ายรูปสลักผู้พิทักษ์หน้าวิหารเดินลากขามาทางฉัน
 เสื้อผ้าถูกเผากลายเป็นริ้วเหลือผ้าเตี่ยวและรองเท้าหุ้มข้อ ดวงตาข้างหนึ่งปะทุออกมาจากใบหน้า
 สีแดงสดที่บวมเปล่ง
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50388;image)
 
 
 ผิวหนังของฉันที่แขนและมือหลุกลอกออกห้อย
 ขณะที่ฉันกำลังวิ่งไปก็ได้มีมือมายึดข้อเท้าฉันไว้และขอให้ฉันพาเขาไปด้วย
 ฉันยังเป็นแค่เด็กน้อยที่บาดเจ็บ มือทั้งหลายที่พยายามยื่นมาช่างน่ากลัว เท่าที่ฉันทำได้
 จึงเป็นการปัดป้องมือเหล่านั้นออกไป
 
 คำบรรยายภาพ เมื่อแสงกล้าสาดส่องมา, ทุกคนต่างยกมือขึ้นปิดตา ความร้อนและเปลวไฟ
 ที่ตามมาเผาไหม้แขนและมือทำให้ผิวหนังพองหลุดลอกเหมือนถุงมือติดอยู่ที่เล็บ ด้วยความ
 เจ็บปวดจากแผลไฟไหม้และเพื่อไม่ให้เนื้อที่ถูกเปิดออกเสียดสีติดลำตัว ทุกคนต่างก้าวเดิน
 โดยยกแขนทั้งสองข้างยื่นออกไปข้างหน้า(แลดูคล้ายภูตผีปีศาจเดินเรียงแถว)
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50389;image)
 
 
 บางร่างที่ยังเดินไหวมีเพียงเศษเสื้อผ้าปกปิดร่าง ผิวกายที่เปลือยเปล่าปรากฏรอยไหม้
 เป็นรูปรอยเสื้อที่ร่างนั้นเคยสวมทับ บางร่างเห็นเป็นรูปดอกไม้จากลายของกิโมโน
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50390;image)
 
 
 เราไปถึงเนินเขาโดบาชิ จากที่นั่นฉันเห็นเมืองถูกถล่มราบคาบ ควันคลุ้งหนาแน่นปกคลุม
 ทั่วทั้งเมือง 5 นาทีต่อมา ไฟไหม้ปะทุขึ้นที่นั่น, ที่นี่ เพลิงลุกโชนโหมเมฆควันสูงลิบแลเหมือนฉากกั้น
 แบ่งเมืองเป็นสองส่วน ส่วนนี้ที่สว่างด้วยแสงตะวันจ้ากลางหน้าร้อนส่องถึง ส่วนหลังเมฆควันนั้นมืดมิด
 
 ภาพวาดจากเนินเขาฮิจิยามา มองลงไปยังนรกบนดิน
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50413;image)
 
 
 ผู้คนที่อยู่ใกล้แรงระเบิดหรืออยู่ในท่ามกลางพายุไฟรุมนั้น เนื้อหนังของเขาปะทุ
 เหมือนป๊อปคอร์น
 ฝนดำนั้นเหนอะหนะ ตกต้องเกาะติดทุกสิ่งแล้วกลายเปลี่ยนเป็นสีดำที่ล้างไม่ออก
 เม็ดฝนมีขนาดใหญ่จนเจ็บเนื้อ ไฟที่ลุกโชนไม่มอดเมื่อโดนฝนดำ
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50414;image)
 
 
 คนเจ็บตายไปอย่างเงียบๆ ฉันได้ยินมาว่าเมื่อคนเราถูกไฟเผาขนาดฟ้าผ่า เขาจะไม่รู้สึก
 เจ็บปวดด้วยว่าเส้นประสาทถูกทำลายจนชา
 เพลิงลุกโหมบนแม่น้ำไฟท่วมร่างที่พลัดตกลงไป
 
 ร่างที่ถุกเผาไหม้สาหัสเดินยกมือขึ้นมาหาเรา แลดูเหมือนปีศาจ ตุ่มน้ำขนาดใหญ่บนผิวหนัง
 ที่พองแตกออกเป็นแผ่นห้อยคล้ายเศษผ้าขี้ริ้ว ของเหลวจากดวงตาละลายไหลลงตามร่องแก้ม ริมฝีปาก
 บวมเต่งเป็นแผลมีหนอง
 
 เด็กนักเรียนหญิงวิ่งหนีทะเลเพลิง
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50415;image)
 
 
 เด็กก็ยังคงเป็นเด็กไม่เดียงสา ทั้งๆ ที่เจ็บหนัก ยังไม่วายสนอกสนใจสิ่งรอบตัว พวกเขา
 ตื่นเต้นดีใจเมื่อได้เห็นเปลวไฟโหมลุกไหม้ท่วมแทงก์เก็บแก๊สของเมือง ด.ช.โตชิโอตะโกนบอก
 เพื่อนๆ ให้ดูเงาเพลิงที่สะท้อนอยู่บนผิวแม่น้ำ
 
 ภาพจากห้องเรียนของโรงเรียนประถมศึกษา ห่างไกลไปเบื้องหน้าคือไฟท่วมเมือง
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50416;image)
 
 
 ในห้องนั้นอวลไปด้วยกลิ่นเหมือนกลิ่นปลาหมึกแห้งที่นำมาย่าง กลิ่นนั้นฉุนแรง
 
 ภาพร่างของเหยื่อนอนเรียงราย บางร่างก็ไม่หายใจแล้ว ร่างที่ยังคงมีชีวิตอยู่ร้องขอ "น้ำ, น้ำ"
 ฉันรินน้ำเข้าปากของร่างที่อยู่ทางขวามือซึ่งลืมตาอยู่ แต่เธอไม่กลืนน้ำนั้นลงไป เธอตายแล้ว
 ตัวหนอนชอนไชในบาดแผลตามร่างของเธอ ร่างต่างๆ ที่นอนอยู่นี้แทบไม่มีลมหายใจ ไม่ได้รับ
 การรักษาใดๆ ฉันสงสัยว่าแล้วพวกเขาจะรอดหรือ, ฉันประนมมือสวดมนต์
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50417;image)
 
 
 หลังความสูญเสียจากการทำลายล้างอย่างมหาวินาศ ทางการทหารได้ส่งหน่วยบรรเทาทุกข์
 เข้าไปในพื้นที่โดยทันที พวกเขาจัดการขนย้ายร่างผู้ตายจำนวนเกินนับในช่วง 4 - 5 วันแรก จัดการ
 เคลียร์ถนนเพื่อให้รถบรรทุกเข้าถึง สร้างที่พักอาศัยและให้การรักษาผู้บาดเจ็บที่ยังมีชีวิตอยู่ หลายราย
 สิ้นใจในเวลาต่อมา
 เมื่อสงครามสิ้นสุด กองทัพถูกยุบ เทศบาลเมืองก็ย่อยยับไม่เหลือ งานก่อสร้างฟื้นฟูจึงชะงักงัน
 เท่านั้นไม่พอ หนึ่งเดือนต่อมาในวันที่ 17 กันยายน ไต้ฝุ่นยังเข้าโจมตีเมืองจนจมน้ำ ที่พักพิงผู้รอดชีวิต
 ถูกทำลาย
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50418;image)
 
 
 พักคั่นอารมณ์ชมภาพ
 
 ฮิโรชิมาย่านสะพาน Aioi ในวันนี้
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50437;image)
 
 
 ฮิโรชิมายามราตรี
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50438;image)
 
 
 ภาพถ่ายดาวเทียมยามค่ำคืน แสงสว่างจ้าเรียงรายจากขวาไปซ้าย
 โตเกียว > นาโงย่า > โอซากา, โกเบ > โอกายามา > ฮิโรชิมา
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50439;image)
 
 
 และ ภาพภัยพิบัติดินถล่มหลังฝนตกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50440;image)
 
 
 ต่อภาพสะเทือนใจ
 
 "ฉันจะเผาศพลูกฉันได้ที่ไหน" หนอนชอนไชใบหน้าของเด็กน้อยที่ผู้เป็นแม่
 สะพายไว้อยู่ด้านหลัง ในมือคือหมวกกันกระสุนที่เธอเก็บได้แล้วจะนำมาใช้เก็บกระดูกลูกน้อย
 วันนั้นเธอต้องเดินไปอีกไกลกว่าจะได้เชื้อติดไฟเพื่อเผาศพลูก
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50441;image)
 
 
 ย้อนเวลาฮิโระชิมะวิปโยคด้วยภาพวาดกันต่อ ครับ
 
 รูปเด็กหญิงริมฝั่งน้ำ
 
 วันนั้นหนูอยู่ที่โรงเรียน หลังเกิดเหตุก็รีบวิ่งกลับไปบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำตรงสะพานข้าม
 แล้วก็ได้พบว่าสะพานถูกไฟไหม้พังลง ส่วนบ้านทั้งหลังหายไปมองไม่เห็น หนูก็รู้ได้ในทันทีว่า
 พ่อ, แม่และน้องสาวทั้งสองได้จากหนูไปแล้ว หนูทรุดนั่งตรงริมฝั่ง ซบหน้าลงบนฝ่ามือแล้วร้องไห้
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50457;image)
 
 
 รูปวาดเหยื่อปรมาณู
 
 เด็กนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากไฟไหม้, ผู้คนที่ตายรายรอบบ่อน้ำ,
 แม่กับลูก และ ม้าที่ร้องครวญครางอย่างเจ็บปวดทรมาน
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50458;image)
 
 
 ส่วนรูปวาดนี้เป็นรูปเดียวที่เล่าเรื่องเหยื่อสงครามซึ่งแตกต่างไปจากรูปอื่นๆ นั่นคือ
 
 รูปร่างไร้ลมหายใจของชายหนุ่มชาวตะวันตกที่ถูกจับมัดอยู่กับเสาโทรศัพท์ใกล้
 กับซากอาคารศาลาว่าการเมือง
 ภาพนี้บอกเล่าเหตุการ์วันที่ 7 สิงหาคม ซึ่งไม่ค่อยมีใครได้รู้หรือบันทึกไว้
 นั่นคือ ในฮิโระชิมะวันวิปโยคนั้นมีเชลยชาวอเมริกันราว 24 คนถูกคุมขังอยู่
 (จากเดิมเข้าใจว่าไม่มีเชลยอเมริกันอยู่เลย) เชลยเหล่านี้ส่วนใหญ่รอดตายจากระเบิด
 เพื่อที่ต่อมาจะถูกชาวเมืองผู้โกรธแค้นลากออกมาแล้วถูกทุบตีจนตายแถวสะพาน Aioi
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50459;image)
 
 
 
 
- 
				
 ----------- กาลเวลาแสนลำบากยากไร้ผ่านไป ชีวิต(ที่เหลืออยู่) ต้องก้าวต่อ
 
 ปกคลุมเหนือสรรพสิ่ง ซากปรักหักพัง ท่อระบาย ชายฝั่งแม่น้ำ กองกระเบื้อง, หลังคาดีบุก
 และลำต้นไม้ที่ไหม้เกรียม คือ ผ้าห่มใบไม้เขียวสดขจี แซมด้วยดอกกุหลาบแย้มบานจากฐานรากบ้านพัง
 ระเบิดปรมาณูทำร้ายต้นไม้ถึงโคนแต่เว้นรากไว้ และยังได้กระตุ้นมันให้เจริญงอกงาม
 
 ฮิโรชิมาปี 1946 พุ่มไม้เล็กเติบโตท่ามกลางซากสงคราม
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50460;image)
 
 
 ฮิโรชิมาเดือนเมษายน ปี 1946 แลเห็นต้นไม้ใกล้ฝั่ง
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50461;image)
 
 
 ยี่โถคือดอกไม้ประจำเมือง เนื่องจาก(เขาว่า) เป็นไม้ดอกแรกแย้มบานหลังระเบิดปรมาณู
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50462;image)
 
 
 ส่วนภาพนี้ที่แสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์บรรยายว่า
 
 ฤดูใบไม้ร่วงปีนั้น ในฮิโรชิมานี้ที่เขาว่า ช่วงเวลา 75 ปี ที่นี่ปลูกต้นอะไรก็ไม่ขึ้น
 ท่ามกลางซากสถานอาคารไหม้เกรียม ปรากฏกิ่งก้านชูช่อผลิดอกงอกงามในความเขียวขจี
 กลับมีชีวิตชีวา ในขณะที่ชาวเมืองก็กลับฟื้นคืนความหวังและความเข้มแข็ง
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50463;image)
 
 
 หลังจากเหตุการณ์วันนั้น เครื่องบิน B29 ของกองทัพอเมริกายังคงบินเหนือ
 ฮิโรชิมาอีกหลายสัปดาห์เพื่อศึกษาผลจากระเบิดปรมาณู, ตรวจวัดระดับกัมมันตรังสี
 และบันทึกแผนที่การทำลายล้างเมือง
 
 ชาวเมืองที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่กลับเข้าไปใกล้จุดศูนย์กลางระเบิดเพื่อค้นหา
 ลูกหลานล้มป่วยลงด้วยอาการไข้สูง มีผื่นสีม่วงขึ้นทั่วตัว มีอาการทางจิต และตายลงที
 ละคนในช่วงเวลาหกเดือนต่อมา
 
 สภาพภายในโรงพยาบาลชั่วคราว
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50464;image)
 
 
 โลกไม่หยุดหมุน กาลเวลาไม่หยุดนิ่ง ในที่สุดปีวิปโยค 1945 ก็ผ่านไป
 
 Hiroshima, 1946, โดย Alfred Eisenstaedt เขาเล่าว่า
 ผมไปโตเกียวเก็บภาพจอมพล MacArthur แล้วบินไปฮิโรชิมากับนางาซากิ
 ที่นั่นเหน็บหนาว หดหู่ ทุกสิ่งถูกผลาญทำลายสิ้น
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50472;image)
 
 
 ภาพวาดงดงาม(แต่เนื้อหาใจความชวนสลด)
 ประตู Torii (gate) ทางเข้าศาลเจ้าที่เหลือรอดจากภัยปรมาณู
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50473;image)
 
 
 ภาพถ่ายในปี 1946
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50474;image)
 
 
 ผ่านไปหลายปีพี่ชายของฉันป่วยด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวและจากไป บางคนที่
 ได้รับบาดเจ็บจากระเบิดโดยตรงกลับคงอยู่รอดได้
 ส่วนตัวฉันนั้นถึงกับช็อคเมื่อได้พบว่า
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50476;image)
 
 
 ตัวเองอยู่ในสภาพคล้ายปีศาจ ฉันไม่เคยคิดเลยว่าจะมีใบหน้าเหมือนผีเช่นนี้
 
 ภาพประกอบรูปนี้ที่เว็บไซต์บรรยายว่า
 
 จระเข้เดินแบบมด(ant-walking alligators) เขาเหล่านี้เคยเป็นคนจนกระทั่ง
 ถึงวันที่ท้องฟ้าระเบิดแล้วพวกเขาโชคร้ายที่รอดตาย โดยมีบาดแผลเป็นเนื้อหนังที่ไหม้
 เกรียมแห้งกรังติดกระโหลก ไม่เหลือเค้าเครื่องหน้าต่างๆ นอกจากช่องเปิดสีแดงตรงตำแน่ง
 ที่เคยเป็นปาก พวกเขาเดินโซซัดโซเซอยู่แถบชานเมืองโดยที่ไม่มีใครอยากเฉียดใกล้
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50477;image)
 
 
 ชีวิตไม่สิ้นต้องก้าวเดินกันต่อไป ฮิโรชิมาได้รับการฟื้นฟูบูรณะขึ้นมาใหม่
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50478;image)
 
 
 ภาพถ่ายในปี 1949 เป็นมุมมองไปยังตำแหน่ง hypocenter เบื้องหน้า
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50479;image)
 
 
 สะพาน Aioi ได้รับการซ่อมแซมบูรณะ
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50480;image)
 
 
 กอบกู้ฟื้นคืนชีพย่านกินซ่าของฮิโรชิมา จากที่ร้างราวทะเลทรายกลับกลายมาเหมือนเดิม
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50481;image)
 
 
 ภาพนี้ไม่ใช่ที่ฮิโรชิมา - จีไอหนุ่มโอบสาวญี่ปุ่นในสวน ฮิบิยะ ใกล้พระราชวังในกรุงโตเกียว
 บันทึกเมื่อมกราคม 1946
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50596;image)
 
 
 ภาพคล้ายกันที่ฮิโรชิมา ปี 1947 - สองชีวิตที่รอดนั่งมองเมืองเบื้องหน้า
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50597;image)
 
 
 อาคารพิพิธภัณฑ์สันติภาพ ปี 1955
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50598;image)
 
 
 โดมรำลึก ในทศวรรษ 1970s
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50599;image)
 
 
 ยังมีบางภาพถ่ายในตัวเมืองที่ระบุว่าเป็นภาพของวันที่ 6 สิงหาคม นอกเหนือจากภาพประวัติศาสตร์
 ของคุณปู่ ได้แก่
 
 ภาพจากรอยเตอร์
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50600;image)
 
 
 ภาพจากสำนักข่าว AP (Associated Press)
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50601;image)
 
 
 รวมภาพเมฆควันรูปเห็ด
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50602;image)
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50603;image)
 
 
 ภาพจากฮิโรชิมาที่สะเทือนใจที่สุด
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50604;image)
 
 
 เทาชมพู
 เจ้าเรือน
 หนุมาน
 *****
 ความคิดเห็นที่ 125  เมื่อ 02 ก.ย. 14, 20:17
 
 เรื่องนี้เป็นโศกนาฎกรรมระดัยของโลก  นอกเหนือจากการสังหารยิวหกล้านคนด้วยฝีมือทหารของฮิตเลอร์     ถ้าพิจารณาจากสาเหตุและผลแล้ว    ชะตากรรมของชาวฮิโระชิมะเป็นผลสุดท้ายของเหตุอันยาวนานเกิน 10 ปีก่อนหน้านี้  อันได้แก่นโยบายการเมืองของญี่ปุ่น ที่ตั้งใจจะขยายแสนยานุภาพเป็นเจ้าแห่งเอเชีย
 สงครามไม่ว่าทำกับจีน หรือเกาหลี   ล้วนแล้วแต่ก่อผลตามมาที่เจ็บปวดแสนสาหัสแก่พลเมืองที่พ่ายแพ้ญี่ปุ่น   เช่นสงครามในนานกิง
 สุดท้ายคือการเหยียบจมูกเสือ  ที่เกิด ณ เพิร์ล ฮาเบอร์  ทำให้อเมริกากระโจนเข้ามาเป็นคู่แค้นของญี่ปุ่นอย่างเต็มตัว     การชิงชัยด้วยระเบิดปรมาณูจึงเป็นบทสุดท้ายที่น่าเศร้าสลดที่สุด
 
 ดิฉันเคยเรียนบทกวีว่าด้วยการทิ้งระเบิดลงเมืองนี้    แต่เสียดายว่ามันนานเต็มทีเลยจำชื่อจำเรื่องไม่ได้ จำได้แต่ผู้แต่งบอกว่า นักบินคนหนึ่งในจำนวนที่บินไปทิ้งระเบิด ฝันร้ายและพร่ำร้องแต่สัญญาณการทิ้งระเบิด     แต่ไม่ใช่ตัวนักบินที่อยู่มาจนชรา เพิ่งตายไปไม่นานมานี้
 
 ..........
 เพ็ญชมพู
 หนุมาน
 ********
 ความคิดเห็นที่ 126  เมื่อ 02 ก.ย. 14, 21:39
 
 แอนดี แอนเดอร์ ทหารผ่านศึกอเมริกัน รำลึกถึงเหตุการณ์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองว่า
 
 ในวันที่ ๖ เมษายน พ.ศ. ๒๔๘๘ เขาเป็นพนักงานประจำเครื่องรับส่งวิทยุในเรือรบยูเอสเอส มอร์ริส และในวันนั้น เรือรบยูเอสเอส มอร์ริสถูกโจมตีด้วยเครื่องบินญี่ปุ่นปฏิบัติการฆ่าตัวตาย หรือกามิกาเซ อันลือเลื่องของญี่ปุ่น
 
 แอนดี เล่าว่า ในวันนั้นมีทหารเรือ และพลประจำการเสียชีวิตหรือบาดเจ็บจำนวน ๖๘ นาย
 
 สามเดือนต่อมา ในวันที่ ๖ และ ๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๘๘ อเมริกาก็ถล่มฮิโรชิมาและนางาซากิด้วยระเบิดนิวเคลียร์ ทำให้ประเทศญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้ในวันที่ ๑๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๘๘
 
 แอนดี กล่าวว่า ในทันทีที่สงครามยุติลง หลังการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ เขาก็รู้สึกยินดีและสะใจกับการใช้ระเบิดนิวเคลียร์
 
 ทว่าต่อมาหลังปี ๒๔๘๘ ความรู้สึกของเขาต่อการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ถล่มญี่ปุ่น ก็เปลี่ยน
 
 ปัจจุบัน แอนดี เป็นสมาชิกของกลุ่มทหารผ่านศึกเพื่อสันติภาพ (Veterans for Peace) เขากล่าวถึงสงครามว่า “สงครามเป็นความบ้าคลั่งไม่ว่าจะมองในแนวใด”
 
 วันที่ ๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๑๑ แอนดี เป็นผู้อ่านประกาศของนายกเทศมนตรีเมืองดูลูท คือ ดอน เนสส์ ให้วันที่ ๖-๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๑๑ เป็นวันร่วมรำลึกถึงการทิ้งระเบิดใส่ฮิโรชิมาและนางาซากิ
 
 แอนดี กล่าวถึงการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ถล่มฮิโรชิมาและนางาซากิว่า “อย่างแน่นอน เราจำเป็นต้องทดลองมัน แต่เราต้องทดลองเพื่อดูว่ามันจะฆ่าคนได้มากแค่ไหนหรือ?” และกล่าวถึงการทิ้งระเบิดที่ญี่ปุ่นว่า “ถ้าจำเป็นจะต้องทำ ก็น่าจะเป็นการแสดงฤทธิ์เดชของระเบิดนิวเคลียร์ก็พอ โดยการไปทิ้งใส่เกาะที่ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ใกล้ญี่ปุ่น”
 
 การตัดสินใจทิ้งระเบิดใส่ฮิโรชิมาและนางาซากิ ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา เกิดจากฝ่ายวางแผนยุทธศาสตร์สงครามของสหรัฐอเมริกา หลังการยกพลขึ้นยึดเกาะอิโวจิมา และโอกินาวา ของกองทัพสหรัฐ ซึ่งมีการสูญเสียอย่างรุนแรงของทั้งสองฝ่าย อีกทั้งการประกาศสู้ตายของคนญี่ปุ่นทั้งประเทศ ที่จะต่อต้านกองทัพสหรัฐ จนกระทั่งถึงคนสุดท้าย ทำให้ฝ่ายวางแผนยุทธศาสตร์สหรัฐบอกอดีตประธานาธิบดีสหรัฐขณะนั้น คือ แฮร์รี ทรูแมน ว่าจะต้องสูญเสียกำลังฝ่ายสหรัฐเอง เป็นจำนวนหลายแสนคน ถ้าจะยกพลบุกยึดญี่ปุ่นให้ได้
 
 แต่สำหรับ แอนดี เขาเชื่อว่าการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ถล่มญี่ปุ่นเป็นเรื่องของยุทธศาสตร์การเมือง ที่สหรัฐอเมริกาต้องการแสดงเพื่อข่มสหภาพโซเวียตมากกว่า  เพราะสหภาพโซเวียตขณะนั้น กำลังก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจคู่แข่งของสหรัฐอเมริกาอย่างเด่นชัด!
 
 จาก ๖๓ ปีรำลึกฮิโรชิมาและนางาซากิ โดย ชัยวัฒน์ คุประตกุล
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50625;image)
 
 
 .....
 เพ็ญชมพู
 หนุมาน
 ********
 ความคิดเห็นที่ 127  เมื่อ 03 ก.ย. 14, 09:51
 
 สันติสุขจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อเราศึกษาประวัติศาสตร์เพื่อเป็นบทเรียนและแก้ไขมิให้เกิดขึ้นอีก มิใช่ศึกษาแล้วเกิดการแค้นเคืองจ้องตอบโต้กันไม่รู้จบอย่างหนังสือพิมพ์เกาหลีใต้ฉบับนี้
 
 บทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ จุงอัง อิลโบ ฉบับภาษาเกาหลีและภาษาอังกฤษเมื่อวันจันทร์ที่ ๒๐ พฤษภาคม ปีที่แล้ว (พ.ศ. ๒๕๕๖) ชี้ว่า ระเบิดปรมาณู ๒ ลูกซึ่งเครื่องบินสหรัฐฯทิ้งลงสู่ฮิโรชิมาและนางาซากิ เมื่อปี ๑๙๔๕ และสังหารพลเมืองญี่ปุ่นไปกว่า ๒๐๐,๐๐๐ คนนั้น “สมควรแล้ว”
 
 “บ่อยครั้งที่พระเจ้าทรงยืมมือมนุษย์ให้สนองตอบความชั่วร้ายของมนุษย์ด้วยกัน” สื่อฉบับนี้บอก โดยแจกแจงถึงกิจกรรมอันเหี้ยมโหดต่าง ๆ ของ “หน่วย ๗๓๑” (Unit 731) ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยลับที่ญี่ปุ่นนำเชลยสงครามจำนวนมากมาย มาเป็นหนูทดลองอาวุธเคมีและอาวุธชีวภาพ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒
 
 “เสียงกรีดร้อง (ของเชลยในห้องทดลอง) ดังก้องไปถึงสวรรค์ หลังจากนั้น ลูกระเบิดจึงร่วงพรูลงจากฟ้าสู่กรุงโตเกียว ส่วนฮิโรชิมาและนางาซากิก็ถูกทำลายด้วยระเบิดปรมาณู” จุงอัง อิลโบ ระบุ
 
 บทบรรณาธิการดังกล่าวชี้ด้วยว่า ระเบิดกว่า ๓,๙๐๐ ตันที่เครื่องบินของกองทัพสหรัฐฯและอังกฤษทิ้งปูพรมใส่เมืองเดรสเดน ของเยอรมนี และระเบิดปรมาณู ๒ ลูกที่ใช้ถล่มเมืองฮิโรชิมากับนางาซากิ คือ “บทลงโทษจากสวรรค์ และการแก้แค้นของมนุษย์” ทั้งนี้กรณีของเดรสเดนเป็นการตอบแทนความชั่วร้ายของกองทัพนาซีที่ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว ส่วนที่ญี่ปุ่นก็คือการแก้แค้นให้แก่ชาวเอเชียที่ต้องตกเป็นเหยื่อลัทธิชาตินิยมทหาร
 
 ทางด้าน โยชิฮิเดะ สุกะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีและหัวหน้าโฆษกรัฐบาลญี่ปุ่น ได้ตำหนิข้อคิดเห็นดังกล่าวนี้ในสื่อเมืองโสมว่า “น่าอัปยศอดสู”
 
 “เราขอประท้วงคณะเจ้าหน้าที่ของ จุงอัง อิลโบ อย่างรุนแรง... ญี่ปุ่นเป็นชาติเดียวในโลกที่เคยสัมผัสความโหดร้ายของระเบิดปรมาณู และเราจะไม่ให้อภัยต่อคำพูดเช่นนี้เป็นอันขาด” สุกะ แถลงต่อผู้สื่อข่าวที่กรุงโตเกียว วันนี้ (๒๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๖)
 
 จุงอัง อิลโบ ยังกล่าวหาว่า รัฐบาลญี่ปุ่นและนายกรัฐมนตรี ชินโสะ อาเบะ ไม่เคยยอมรับว่ากองทัพจักรวรรดินิยมญี่ปุ่นเคยล่วงละเมิดพลเมืองชาติอื่นอย่างโหดร้ายที่สุด และเตือนทิ้งท้ายว่า “พระเจ้าอาจเห็นว่าบทลงโทษที่ญี่ปุ่นได้รับยังไม่สาสมพอ”
 
 บทบรรณาธิการชิ้นนี้ถูกเผยแพร่ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างโตเกียวกับโซลกำลังตึงเครียด จากคำพูดของ โทรุ ฮาชิโตะ นายกเทศมนตรีเมืองโอซากา ซึ่งออกมาแก้ต่างแทนประเทศของตัวเองว่า การเกณฑ์สตรีเป็นทาสบำเรอกามแก่ทหารญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒ นั้นคือสิ่งจำเป็นสำหรับกองทัพ
 
 นักประวัติศาสตร์กระแสหลักระบุตรงกันว่า มีสตรีราว ๒๐๐,๐๐๐ คนจากเกาหลี, จีน, ฟิลิปปินส์ และประเทศอื่น ๆในเอเชีย ถูกญี่ปุ่นเกณฑ์มาเป็น “สตรีเพื่อการผ่อนคลาย” (comfort women) ในช่วงสงครามมหาเอเชียบูรพา
 
 จีนและเกาหลีใต้ยังขุ่นเคืองพฤติกรรมของ ส.ส.ญี่ปุ่นที่แห่ไปสักการะศาลเจ้ายาสุกุนิในกรุงโตเกียวเป็นประจำทุกปี โดยศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อบูชาดวงวิญญาณชาวญี่ปุ่น ๒.๕ ล้านคนที่เสียชีวิตในสงครามครั้งต่าง ๆ รวมถึงอดีตผู้นำเมืองปลาดิบ ๑๔ คนในยุคสงครามโลกครั้งที่ ๒ ที่ถูกศาลฝ่ายสัมพันธมิตรตัดสินให้เป็นอาชญากรสงคราม
 
 ข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์
 
 ข่าวภาษาอังกฤษจาก Korea JoongAng Daily
 
 อเมริกาในสายตาของหนังสือพิมพ์เกาหลีใต้ฉบับนี้เป็นดั่งตัวแทนของพระเจ้า ในขณะที่ในสายตาของแอนดี แอนเดอร์ ทหารผ่านศึกอเมริกัน คงเป็นในทางตรงกันข้าม
 
 
 ..........
 SILA
 หนุมาน
 ความคิดเห็นที่ 128  เมื่อ 03 ก.ย. 14, 10:15
 
 ขอเปลี่ยนอารมณ์ด้วยภาพสวยๆ จากการ์ตูนมังงะ, อะนิเมะ  อิงเหตุการณ์ฮิโระชิมะวิปโยค
 เรื่อง Barefoot Gen ที่เพิ่งฉลองครบ 40 ปีไปเมื่อปีที่แล้ว
 เป็นภาพตอนจบอย่างมีความหวังแม้ว่าฉากหลังจะเป็นยามอาทิตย์อัสดง(ไม่ใช่แดนอาทิตย์อุทัย
 rising sun)
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50638;image)
 
 
 เงาอดีตอันโหดร้ายจางลงตามกาลเวลาแต่ยังไม่ลบเลือนเหมือนแผลเป็น เหลือไว้เพื่อ
 เตือนความหลังครั้งนั้นให้จดจำไว้เป็นบทเรียน
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50630;image)
 
 
 เหตุแห่งการตัดสินใจใช้ระเบิดปรมาณูเป็นประเด็นให้วิพากษ์วิเคราะห์ยืดยาวนาน(อ่านไม่ไหว)
 
 อ้างถึง
 “ถ้าจำเป็นจะต้องทำ ก็น่าจะเป็นการแสดงฤทธิ์เดชของระเบิดนิวเคลียร์ก็พอ
 โดยการไปทิ้งใส่เกาะที่ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ใกล้ญี่ปุ่น”
 
 (ไม่เห็นด้วยกับการเข่นฆ่าประชาชน แต่เห็นว่า) ญี่ปุ่นซึ่งเหลิงหลงอำนาจในตอนนั้นคงไม่หวั่นไหว
 ขนาดฮิโรชิมาราบไปแล้วญี่ปุ่นก็ยังไม่ประกาศยอมแพ้
 
 3 วันต่อมา ในวันที่ 9 สิงหาคม 1945 ระเบิดปรมาณูลูกที่สองนามว่า ชายอ้วน Fat Man
 ก็ได้ถูกหย่อนลงที่นางาซากิ เป็นการปิดมหากรรมสงครามโลกลงในที่สุด
 
 (บางคนบอกว่า ถ้าญี่ปุ่นรู้ว่านี่คือระเบิดปรมาณูลูกสุดท้าย คงจะสู้ต่อไปไม่ยอมแพ้)
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50631;image)
 
 
 ส่งท้ายด้วยภาพติดตาประทับใจจากนางาซากิ
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50632;image)
 
 
 .....
 ปล. ขอแก้คำ(พิมพ์)ผิด ครับ
 
 ในคห. 64 ของกระทู้นี้
 
 รูปของคุณปู่ช่างภาพกับคุณย่านั้นเป็นปี 1995 (พิมพ์ผิดเป็น 1955)
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50634;image)
 
 
 .....
 เพ็ญชมพู
 หนุมาน
 ********
 ความคิดเห็นที่ 134  เมื่อ 03 ก.ย. 14, 11:35
 
 เรื่องของการทิ้งระเบิดปรมาณูที่ฮิโระชิมะ หากจะไม่กล่าวถึงเรื่องของ ซะดะโกะ ซะซะกิ และ นกกระเรียนพันตัว ก็คงจะจบลงอย่างไม่สมบูรณ์
 
 “นกกระดาษนั่นจะทำให้ฉันหายป่วยได้ ยังไง” ซะดะโกะถาม ชิซุโกะเพื่อนสนิทซึ่งมาเยี่ยมเธอที่โรงพยาบาลพร้อมด้วยนกกระเรียนที่พับขึ้นจากกระดาษสีทอง
 
 “เธอจำตำนานเก่าแก่เกี่ยวกับเรื่องนกกระเรียนไม่ได้หรือว่าเขาเชื่อกันว่า .. นกกระเรียนนั้นมีอายุถึงพันปี ถ้าหากว่าคนที่ป่วยสามารถพับนกกระเรียนได้ถึงพันตัว สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทำให้คนนั้นกลับมามีสุขภาพแข็งแรงอีกครั้งหนึ่ง”
 
 ชิซุโกะยื่นนกกระเรียนให้ซะดะโกะแล้วบอกว่า
 
 “นี้คือนกกระเรียนตัวแรกของเธอ”
 
 เด็กน้อยซาบซึ้งใจกับความปรารถนาดีของเพื่อน หลังจากนั้นซะดะโกะก็เริ่มต้นพับนกกระเรียนของเธอ พร้อม ๆ กับอธิษฐานว่า “ขอให้ฉันหายป่วย” แต่ซะดะโกะไม่หายจากอาการป่วยและไม่สามารถพับนกกระเรียนกระดาษได้ครบหนึ่งพันตัวนั่นคือ เรื่องราวของซะดะโกะกับนกกระเรียนพันตัวซึ่งเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเมื่อกว่า ๖๐ ปีมาแล้ว แต่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานเพียงไร เรื่องของเด็กผู้หญิงคนนี้กับสิ่งที่เธอทำก็ยังไม่เคยเลือนหายจากความทรงจำของผู้คนทั่วโลก
 
 
 ซะดะโกะ ซะซะกิ เกิดเมื่อวันที่ ๗ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๖ ที่เมืองฮิโระชิมะ ประเทศญี่ปุ่น ต่อมาวันที่ ๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๘๘ ขณะที่ซะดะโกะได้ ๒ ขวบ เครื่องบินของกองทัพสหรัฐอเมริกาก็ทิ้งระเบิดปรมาณูลงมาที่เมืองฮิโระชิมะ อีก ๑๐ ปีให้หลัง ซะดะโกะก็กลายมาเป็นอีกคนหนึ่งที่เจ็บป่วยด้วยอาการโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวหรือลูคีเมีย ซึ่งเป็นพิษภัยจากระเบิดนิวเคลียร์นั่นเอง หลังจากที่ต้องต่อสู่กับโรคร้ายนี้อยู่นาน ๘ เดือนเด็กหญิงซะดะโกะก็เสียชีวิตลงในวันที่ ๒๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๙๘ ขณะอายุได้ ๑๒ ปี
 
 เมื่อเด็กน้อยผู้ร่าเริงคนที่ตั้งความหวังว่าจะเป็นนักวิ่งที่เก่งกาจต้องมาใช้ชีวิตอยู่บนเตียงโรงพยาบาล ซะดะโกะต่อสู่กับโรคร้ายด้วยความเข้มแข็ง ในจิตใจของเธอเปี่ยมด้วยความหวังว่าตัวเองจะต้องหายจากอาการป่วย เธอมุ่งมั่นที่จะพับนกกระเรียนกระดาษให้ครบหนึ่งพันตัวตามความเชื่อของคนญี่ปุ่นโบราณที่เล่าขานต่อ ๆ มา
 
 เด็กหญิงซะดะโกะเสียชีวิตขณะที่เธอพับนกกระเรียนได้ ๕๔๔ ตัว ในวันประกอบพิธีศพ เพื่อน ๆ ของเธอร่วมกันพับอีก ๓๖๕ ตัว ให้ครบหนึ่งพันแล้วจะนำไปฝังพร้อมกับร่างของซะดะโกะ
 
 อาจจะด้วยสิ่งที่เพื่อน ๆ ช่วยกันทำนั่นเอง จึงช่วยให้คำอธิษฐานของเธอเป็นจริงได้ เพราะจนถึงวันนี้ซะดะโกะก็ยังคงมีชีวิตอยู่ในหัวใจของผู้คนทั่วโลกเสมอมา ในปี ๒๕๐๑ อนุสาวรีย์ของซะดะโกะ ก็สร้างสำเร็จและนำไปตั้งไว้ที่สวนสันติภาพของเมืองฮิโระชิมะ รูปปั้นที่สร้างจากหินแกรนิตเป็นรูปของเด็กหญิงซะดะโกะยืนอยู่บนสวรรค์ ในมือที่เหยียดชูขึ้นสูงเป็นรูปนกกระเรียนสีทอง อนุสาวรีย์ของซะดะโกะนี้ไม่เพียงเพื่อซะดะโกะ แต่เพื่อเธอเป็นอนุสรณ์ให้ชาวโลกตระหนักถึงพิษภัยของสงครามทุกปี เมื่อถึงวันที่ ๖ สิงหาคม ซึ่งนับเป็นวันสันติภาพผู้คนจากทั่วทุกสารทิศจะเดินทางมาพร้อมกับนกกระเรียนกระดาษมาวางไว้หน้ารูปปั้นของซะดะโกะเพื่อระลึกถึงเธอ และเพื่อภาวนาให้สันติภาพเกิดขึ้นในโลก
 
 เรื่องราวของซะดะโกะถูกนำเสนอผ่านหนังสือ และสื่ออื่น ๆ แต่ที่เป็นที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักมากที่สุด คือหนังสือเรื่องซะดะโกะกับนกกระเรียนพันตัว หรือ Sadako and the Thousand paper Cranes ของ อีลวีนอร์ โคเออร์ สตรีชาวแคนนาดา ผู้ลุ่มหลงวัฒนธรรมของญี่ปุนอย่างยิ่ง โคเออร์เขียนเรื่องราวของซะดะโกะขึ้นจากหนังสือชื่อ โคเออร์ ซึ่งเพื่อนนักเรียนของซะดะโกะนำจดหมายและบันทึกของเธอมารวมเป็นเล่มชื่อหนังสือว่า ซะดะโกะกับนกกระเรียนพันตัว ตีพิมพ์ครั้งแรกที่สหรัฐอเมริกาในปี ๒๕๒๐ ปัจจุบันถูกตีพิมพ์เป็นภาษาต่าง ๆ มากมาย
 
 วรรณกรรมเรื่องซะดะโกะกับนกกระเรียนพันตัวกลายมาเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนตระหนักถึงพิษภัยของสงครามและทำให้การพับนกกระเรียนกระดาษ ซึ่งเป็นความเชื่อของชาวญี่ปุ่นเป็นการอธิฐานเพื่อให้ผู้คนหายจากอาการเจ็บป่วยรวมทั้งเป็นสัญลักษณ์แห่งการเรียกร้องหาสันติภาพอีกนัยหนึ่งด้วย
 
 สำหรับผู้ที่มีโอกาสได้ไปเยือนอนุสาวรีย์ของซะดะโกะที่สวนสันติภาพของเมืองฮิโระชิมะ ก็จะได้พบว่า มีถ้อยจำกินใจจารึกไว้ที่ฐานของรูปปั้นเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า
 
 これはぼくらの叫びです これは私たちの祈りです 世界に平和をきずくための
 
 “นี่คือคำร้องขอของเรา นี่คือคำภาวนาของเรา สันติภาพจงบังเกิดขึ้นบนโลก”
 
 จาก เว็บโรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=50639;image)
 
 
 .....
 เพ็ญชมพู
 หนุมาน
 ความคิดเห็นที่ 135  เมื่อ 03 ก.ย. 14, 11:47
 
 อ้างจาก: เพ็ญชมพู ที่  07 ส.ค. 14, 15:24
 เรื่องของ ซะดะโกะ ซะซะกิ กับผลของการทิ้งระเบิดปรมาณูครั้งนี้
 
 เศร้าใจพอ ๆ กับเรื่องของ แอนน์ แฟรงค์ ที่เสียชีวิตในค่ายกักกันของนาซี
 
 ถ้าคิดถึงความโหดร้ายของนาซี ก็อย่าลืมความโหดร้ายของลุงแซมด้วย
 
 ..........
 https://www.youtube.com/watch?v=fPlAzO0mGT4
 
 Sadako Story "INORI"
 
 https://youtu.be/fPlAzO0mGT4
 
 ..........
 
 
 เพ็ญชมพู
 หนุมาน
 ********
 ความคิดเห็นที่ 142  เมื่อ 06 ส.ค. 20, 15:08
 
 อ้างจาก: SILA ที่  27 ส.ค. 14, 15:19
 ฤดูใบไม้ร่วงปีนั้น ในฮิโรชิมานี้ที่เขาว่า ช่วงเวลา ๗๕ ปี ที่นี่ปลูกต้นอะไรก็ไม่ขึ้น
 ท่ามกลางซากสถานอาคารไหม้เกรียม ปรากฏกิ่งก้านชูช่อผลิดอกงอกงามในความเขียวขจี กลับมีชีวิตชีวา
 ในขณะที่ชาวเมืองก็กลับฟื้นคืนความหวังและความเข้มแข็ง
 
 วันนี้ (๖ สิงหาคม) และ ถัดต่อไปอีก ๓ วัน (๙ สิงหาคม) เป็นวาระครบรอบ ๗๕ ปี นับแต่สหรัฐอเมริกาทิ้งระเบิดปรมาณูถล่มเมืองฮิโระชิมะ และเมืองนะงะซะกิ ทำให้ญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงคราม จนนำไปสู่การยุติสงครามโลกครั้งที่ ๒ อย่างเป็นทางการ
 
 มหันตภัยครั้งนั้นได้ทิ้งบาดแผลไว้ให้คนญี่ปุ่นอย่างแสนสาหัส ผู้ที่รอดชีวิตจากระเบิดปรมาณู หรือ "ฮิบะคุชะ" (被爆者) ต่างต้องเผชิญกับสภาพอันเลวร้ายที่เกิดขึ้นจากผลของอาวุธที่ทรงอานุภาพนี้ เช่น การเจ็บป่วยจากสารกัมมันตรังสี และบาดแผลทางจิตใจ
 
 เทรุโกะ อุเอโนะ อายุ ๑๕ ปี ตอนที่เธอรอดชีวิตจากการทิ้งระเบิดปรมาณูโจมตีเมืองฮิโระชิมะ ในวันที่ ๖ สิงหาคม ๒๔๘๘
 
 ในขณะนั้น เทรุโกะ กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ ๒ ของโรงเรียนพยาบาลที่โรงพยาบาลกาชาดฮิโระชิมะ หลังจากกองทัพสหรัฐฯ ทิ้งระเบิดที่มีชื่อรหัสว่า "ลิตเติลบอย" (Little Boy) ลงมา ก็ทำให้หอพักนักศึกษาที่เทรุโกะพักอยู่เกิดไฟไหม้ ซึ่งเธอได้ช่วยในการดับเพลิง แต่เพื่อนนักศึกษาหลายคนของเธอต้องสังเวยชีวิตไปในกองไฟ
 
 เทรุโกะ จำช่วงสัปดาห์หลังจากการทิ้งระเบิดได้เพียงว่า เธอต้องทำงานทั้งวันทั้งคืนเพื่อช่วยรักษาเหยื่อผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงจากระเบิด ในขณะที่ตัวเธอและคนอื่น ๆ ที่รอดชีวิตมาได้ต่างประทังชีพด้วยอาหารและน้ำดื่มที่มีอยู่เพียงเล็กน้อย
 
 หลังสำเร็จการศึกษา เทรุโกะ ยังทำงานที่โรงพยาบาลกาชาดฮิโระชิมะต่อไป โดยที่เธอมีหน้าที่เป็นผู้ช่วยในการผ่าตัดที่เกี่ยวข้องกับการปลูกถ่ายผิวหนังให้แก่บรรดาเหยื่อระเบิดปรมาณู แพทย์จะผ่าตัดนำเอาผิวหนังจากบริเวณต้นขาของคนไข้ไปปลูกถ่ายไว้ในจุดที่เกิดแผลเป็นคีลอยด์ (keloid scar) ซึ่งเป็นแผลเป็นที่มีลักษณะนูนแดงจากการถูกเผาไหม้
 
 ในเวลาต่อมา เทรุโกะ ได้แต่งงานกับ ทัตสึยูกิ ซึ่งเป็นผู้รอดชีวิตจากระเบิดปรมาณูอีกคน ตอนที่เทรุโกะตั้งท้องลูกคนแรกของพวกเขา เธอรู้สึกกังวลว่าเด็กจะเกิดมาโดยมีสุขภาพแข็งแรง หรือจะมีชีวิตรอดหรือไม่
 
 โทโมโกะ ลูกสาวของเทรุโกะ เกิดมาโดยมีสุขภาพแข็งแรงและเติบโตเป็นอย่างดี ช่วยให้เธอมีกำลังใจในการเลี้ยงดูลูกและดูแลครอบครัวเล็ก ๆ นี้ต่อไป
 
 เมื่อย้อนรำลึกถึงเหตุการณ์เมื่อ ๗๕ ปีก่อน
 
 "ดิฉันยังไม่เคยไปเยือนนรก จึงไม่รู้ว่ามันเป็นอย่างไร แต่นรกก็อาจคล้ายกับสิ่งที่พวกเราได้ประสบมา เราต้องไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นอีกครั้ง" เทรุโกะกล่าว
 
 "อนาคตอยู่ในมือของพวกเรา สันติภาพจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเรามีจินตนาการ คิดถึงผู้อื่น ค้นหาว่าเราสามารถทำอะไรได้บ้าง ลงมือทำ และดำเนินความพยายามในแต่ละวันอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยเพื่อสร้างเสริมสันติภาพ" โทโมโกะ ลูกสาวของเทรุโกะกล่าว
 
 คูนิโกะ หลานสาวของเทรุโกะ กล่าวเสริมว่า
 
 "ดิฉันไม่เคยต้องเผชิญกับสงครามหรือระเบิดปรมาณู ดิฉันรู้จักแต่ฮิโระชิมะในยุคหลังจากที่เมืองได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาแล้ว ดิฉันจึงได้แต่จินตนาการ ฟังสิ่งที่ฮิบะคุชะแต่ละคนบอกเล่า และศึกษาข้อเท็จจริงเรื่องระเบิดปรมาณูจากหลักฐานที่มีอยู่"
 
 เก็บความจากบทสัมภาษณ์ โดย ลี คาเรน สโตว์ ช่างภาพข่าวชาวอังกฤษ
 
 https://www.bbc.com/thai/international-53640561
 
 ฮิโระชิมะฟื้นคืนชีพขึ้นมาเป็นเมืองที่มีต้นไม้ แม่น้ำ และผู้คนอันงดงาม
 
 สามสาวสามวัย เทรุโกะ กับ โทโมโกะ ลูกสาว และ คูนิโกะ หลานสาว
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=74418;image)
 
 
 ..........
 
 SILA
 หนุมาน
 ********
 ความคิดเห็นที่ 143  เมื่อ 07 ส.ค. 20, 11:19
 
 จาก cnn.com
 
 เหยื่อระเบิดปรมาณูล่วงลับจากไปแทบไม่เหลือ แต่ เครื่องบินเพชฌฆาต Enola Gay คงจอดอยู่ที่ Smithsonian Air and Space Museum, Virginia
 
 (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6057.0;attach=74424;image)
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
 
 
 ..........
 เรื่องและภาพจาก.....
 http://www.reurnthai.com/index.php?topic=6057.0
 
 ฮิโระชิมะวิปโยค โลกไม่ลืม