Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...

วิถีสู่ชีวิตแห่งความพอเพียง => ความสุขทางเลือก => Topic started by: ppsan on 21 November 2021, 22:04:52

Title: เรื่องเล่าเด็กบ้านนอก : 14 ไฟฟ้า : แสงสว่างที่มาแทนตะเกียง กับบิลค่าไฟ
Post by: ppsan on 21 November 2021, 22:04:52
เรื่องเล่าเด็กบ้านนอก : 14  ไฟฟ้า : แสงสว่างที่มาแทนตะเกียง กับบิลค่าไฟ


เรื่องเล่าเด็กบ้านนอก : 14
ไฟฟ้า : แสงสว่างที่มาแทนตะเกียง กับบิลค่าไฟ


"เย้เย้.... บ้านกูมีไฟฟ้าใช้แล้วเว้ยยยย..." เสียงตะโกนด้วยความดีใจ ของเพื่อนในชั้นเรียนคนหนึ่ง ที่บ้านได้รับการติดตั้งจากการไฟฟ้าก่อนคนอื่นๆ

" บ้านมึงมีรึยัง " เสียงร้องถามกันเรื่องไฟฟ้าของเพื่อนๆในห้องเรียน

หลายคนตื่นเต้นที่จะมีไฟฟ้าใช้แทนตะเกียง จึงทำให้พักกลางวันของวันนี้ เด็กๆ ที่ต้องกลับไปกินข้าวที่บ้านต่างรีบวิ่งแจ้น กลับทันที เพื่อจะไปดูที่บ้านของตัวเอง

เพราะการติดตั้งเสาไฟฟ้า และการเดินสายไฟ ต้องค่อยๆไล่ทำตามจุดที่สำรวจไว้ ดังนั้นจึงไม่สามรถมีไฟฟ้าใช้ได้พร้อมกันทีเดียว บ้านไหน ที่อยู่ในซอย หรือ อยู่ลึกเข้าไปมากหน่อย ก็อาจได้รับการติดตั้งทีหลัง บ้านไหนที่ติดถนนใหญ่ก็อาจได้ใช้ไฟฟ้าก่อนบ้านอื่นๆ

(https://t1.blockdit.com/photos/2020/06/5ef18b1c15d0e00c790f354c.jpg)

.................

หลังจากที่ทางการไฟฟ้าได้นำเสาไฟมากองไว้ตามข้างทาง ริมถนนลูกรัง ตามจุดต่างๆ ที่ได้มาสำรวจไว้

หลังจากนั้นอีกหลายเดือนก็เริ่มทำการฝังเสาไฟ ตามจุดที่ได้ขุดหลุมไว้แล้ว

ซึ่งจุดที่ขุดไว้ก็อยู่ตามริมถนน บางจุดก็อยู่ในที่นาของชาวบ้าน เป็นแนวยาวไป

ที่นาของ น้อย ก็มีหลุมที่การไฟฟ้ามาขุดทิ้งไว้อยู่หลายจุด พอถึงช่วงทำนา น้ำจากน้ำฝนก็ท่วมขังที่นาทำให้มองไม่เห็นจุดที่การไฟฟ้ามาขุดเป็นหลุมเสาไฟไว้

ครั้งหนึ่งเคยเกิดเหตุการณ์ บริเวณที่นาของน้อย หลังจากที่ช่วงหน้าทำนามาถึง

................

"หึย หึย หึย " พ่อส่งเสียงกระตุ้นให้ควายที่กำลังไถนา ให้ออกเดินนำพร้อมกับประคองคันไถให้พรวนดิน เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับทำนา หลังจากที่ฝนเริ่มมาเยือน

พอควายที่เดินนำไปได้สักครู่ขาด้านหลังของมันตกลงไปในหลุมที่การไฟฟ้าได้ขุดเอาไว้ ด้วยที่น้ำมันขัง พ่อก็ไม่ได้สังเกตุ เลยทำให้ขามันต้องตกลงไป

กว่าจะเอามันขึ้นมาได้ พ่อต้องให้น้อยไปจูงลูกมันมาช่วยเป็นแรง กระตุ้นให้มันฮึดขึ้นจากหลุม เพราะด้วยน้ำหนักตัว หลุมที่ลึก บวกกับดินโคลนด้วยแล้วมันไม่สามารถขึ้นมาเองได้

จนสุดท้าย พ่อต้องไปตามเพื่อนบ้านหลายคน มาช่วยกันพยุง ทั้งฉุด ทั้งดึง ทั้งดัน อยู่กันนานเป็นชั่วโมง น้อย กับพ่อมองมันด้วยความสงสาร ยิ่งเห็นมันส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด ที่น้ำหนักตัวกดทับขาที่ตกลงไปแบบนั้น

พอมันขึ้นมาได้ มันเดินทิ้งน้ำหนักลงขาแทบไม่ได้เลย พ่อต้องพยาบาล รักษาขาให้มันอีกเป็นเดือน

จนพ่อต้องออกปากขอยืม' ควาย ' จากพรรคพวก มาไถนาแทน เพื่อจะได้ไม่เสียเวลา ในขณะที่ฟ้าฝนกำลังเป็นใจ ตกลงมาไม่ขาดสายจนทำให้ชุ่มช่ำ มีน้ำได้ทำนาอย่างทั่วถึงทุกครัวเรือน

(https://t1.blockdit.com/photos/2020/06/5ef18af47aa1bb0cae3970ab.jpg)

.................

หลังจากที่พักกลางวัน น้อยวิ่งกลับมาที่บ้านแล้วเห็น พ่อ กำลังลอง ' ปิด-เปิด ' สวิทช์ไฟ น้อยยืนมองด้วยความตื่นเต้น ที่เห็นแสงสว่างจากหลอดไฟฟ้า ในบ้านของตัวเองเป็นครั้งแรก

ก่อนหน้านั้น แสงสว่างจากตะเกียง คือสิ่งจำเป็นสำหรับ บ้านนอก หรือคนต่างจังหวัดที่ไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึง

เวลาทำการบ้าน น้อย ต้องใช้ตะเกียงจากน้ำมันก๊าด ขยับเข้ามาใกล้กับสมุด หนังสือที่ต้องอ่านหรือเขียน เพราะแสงไฟจากตะเกียงมันไม่นิ่ง เวลามีลมพัดเปลวไฟก็อาจจะวูบ ไปมาตามแรงลม หรือบางทีอาจดับได้ ต้องคอยเอามือประคองเอาไว้ตลอดหากลมแรง

เตารีด ที่ต้องใช้ถ่านไฟแบบโบราณ แล้วเอาใบตองมารองไว้ เพื่อเช็คว่าไฟแรงเกินไปหรือเปล่าหากแรงต้อง ใช้ที่คีบเอาถ่านออกก่อน หรือหากเสื้อผ้าตัวไหนที่หนาก็จำเป็นต้องใช้ไฟแรงก็ต้องเติมถ่านเข้าไป

แม้แต่ทีวี ที่ใช้แบตเตอรีแทนไฟฟ้า ต่อไปก็คงไม่ต้องไปชาร์ทบ่อยอีกแล้ว เพราะด้วยไฟฟ้าที่กำลังเข้าถึงทุกๆบ้าน

(https://t1.blockdit.com/photos/2020/06/5ef18b087662d70cb6b60438.jpg)
(https://t1.blockdit.com/photos/2020/06/5ef18b087aa1bb0cae398a38.jpg)

.................

" บ้านกูมีก็ไฟฟ้าใช้แล้วเหมือนกันเว้ย " น้อยส่งเสียงดังคุยกับเพื่อนด้วยความดีใจ หลังจากที่กลับมาเรียนต่อช่วงบ่าย

" ต่อไปนี้พวกเราก็ไม่ต้องเดินมืดๆเวลากลางคืนแล้วเนาะ " เพื่อนในกลุ่มพูดแทรกมา

ทุกคนหันไปมองที่มาของเสียง พร้อมกับยิ้มให้แล้วพยักหน้าตอบพร้อมๆกัน

.................

ความมืดคือสิ่งที่อยู่คู่กับบ้านนอกมานานแสนนาน เวลาเดินทางช่วงกลางคืนจะต้องมีไฟจากคบไม้ หรืออย่างน้อยก็ไฟจากตะเกียงเจ้าพายุ เพื่อเป็นแสงนำทาง เพราะทุกสิ่งอย่างรอบตัว หลังจากเวลาเย็น ความมืดจะปกคลุมทันที

.................

" แม่มึง เนี่ยมันมีบิลค่าไฟมาแล้ว " พ่อยื่นบิลค่าไฟให้แม่ดู พร้อมบ่นอะไรนิดหน่อย หลังจากมีพนักงานไฟฟ้ามาส่งบิลให้

"เอ้าทำไม มันหลายบาทเรอะ ถึงได้บ่นอยู่ได้ "  แม่ถามพ่อกลับ

" ไม่รู้ ดูเอาเอง สงสัยเปิดไฟไว้นาน หรือดูโทรทัศน์มากไปหรือเปล่า เห็นดูแต่ละครดูหนังตลอด " พ่อเริ่มโยนมาทางแม่

" อ้าวว อ้าว  ทีพ่อดูข่าว ดูมวยตลอดเลย นี่ยังไม่เห็นบ่น " แม่ออกรูปเถียง

แต่พ่อได้เดินห่างออกไปไกลแล้ว แม่เรียกน้อยให้มาอ่าน บิลค่าไฟให้ฟัง เพราะตัวหนังสือมันเล็ก

" ค่าไฟยี่สิบบาทเองแม่ " น้อยบอกแม่หลังจากที่ดูค่าไฟแล้ว

" หึ ตั้งยี่สิบบาทเลยเรอะ " แม่สงสัย

" ใช่ครับแม่ยี่สิบบาท " น้อยย้ำอีกครั้ง

แม่ทำท่านั่งคิดแล้วบ่นพึมพัมกับตัวเอง

" มันก็เท่าๆกับค่าน้ำมันก๊าดนี่นา อาจจะแพงกว่านิดหน่อย เราก็ต้องปิดไฟทุกครั้งถ้าไม่ได้ใช้ คงประหยัดได้แล้วเนาะ "

................

' บิลค่าไฟฟ้า ' คือสิ่งใหม่สำหรับคนบ้านนอก ที่มาคู่กับแสงสว่าง เพราะจากที่เคยใช้แต่ตะเกียง ก็จะมีค่าน้ำมันก๊าด ที่ใช้เป็นเชื้อเพลิง ตกขวดละ แปดถึงเก้าบาท เดือนหนึ่งใช้ประมาณสองขวด บ้านไหนประหยัดก็อาจใช้ไม่ถึงก็ได้

เวลาจ่ายค่าน้ำมันก๊าดก็เป็นเงินสด บางครั้งอาจขอซื้อแบบแบ่งขาย  ทีละครึ่งขวดก็ได้ พอมาเจอกับค่าไฟฟ้าที่สิ้นเดือนที ต้องจ่ายเลย ทำให้ชาวบ้านต้องเริ่มปรับตัวให้เข้ากับวิถีชีวิตใหม่ที่มี' ไฟฟ้า ' เป็นตัวเปลี่ยนแปลง