Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
User Info
Welcome, Guest. Please login or register.
20 May 2024, 12:58:21

Login with username, password and session length
Search:     Advanced search
News
ท่านสมาชิกสามารถเปลี่ยนรูปแบบ (Theme) ได้อีกหลายแบบ
เชิญทดลองโดยคลิกที่ลิงค์ข้างล่าง ได้เลยครับ

http://www.smilesiam.net/index.php/topic,3170.msg4713.html
Forum Stats
25,703 Posts in 12,501 Topics by 70 Members
Latest Member: KAN
Home Help Search Calendar Login Register
Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...  |  Profile of p_san@  |  Show Posts  |  Messages

Show Posts

* Messages | Topics | Attachments

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Messages - p_san@

Pages: 1 ... 28 29 [30] 31
436
รอดตายเพราะผายลม
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 อยู่มาวันนึงทางโรงพยาบาลบ้า ได้ให้คนไข้ที่อาการดีขึ้นมากๆ
 แบบเริ่มจะหายบ้า
 สามารถลากลับไปเยี่ยมญาติได้หนึ่งวัน ทำให้
 คนบ้าที่มีอาการดีขึ้นทั้งหลายรวมทั้งนายหิด
 ต่างก็ดีใจที่จะได้กลับบ้าน แต่ว่า ถ้าเราจะตามไปดูพฤติกรรมฮาๆ
 ของคนไข้ทุกราย ก็คงไม่ไหว
 ฮาฮาฮาาาา…. ดังนั้นขอตามไปดูนายหิด คนเดียว
 
 ขณะที่นายหิดกำลังจะถึงบ้าน เขากำลังข้ามถนน
 แต่นายหิดไม่ทันได้มองดูรถเลย
 เพราะความรีบร้อนที่อยากจะกลับบ้านไวไว ได้มีรถเบนซ์ E-กลม
 ขับมาด้วยความเร็วสูง
 ชนเข้าที่นายหิดอย่างจัง และรถ ก็ได้เสียหลักไปชนกะเสาไฟฟ้า
 รถคันนั้นมีคนนั่งมา 2 คน
 คนหนึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์ อีกคนเป็นนักปรัชญา แต่ทว่าทั้ง 3
 คนรวมนายหิดด้วยอาการสาหัส
 ยมฑูตจึงมารับตัวไป แต่เมื่อ ไปถึงยังนรก ท่านยมบาลบอกว่าเจ้า 3
 คนมีสิทธิ์ที่จะรอดหรือตาย
 เพียงแต่ว่าเจ้าต้องทายคำถามข้า แล้วคำถามนั้นถ้าข้าตอบไม่ได้
 เจ้าก็จะรอด
 แต่ถ้าข้าตอบได้ เจ้าก็ต้องตายอยู่ในนรกนี่แหละ 55555…..
 
 นักวิทยาศาสตร์เป็นคนถามคนแรกก็ถามเกี่ยวกะ สมการ
 สารเคมีที่สลับซับซ้อน
 แต่ท่านยมก็ตอบได้ ไอ้นี่ตาย…….
 คนที่สองนักปรัชญา ได้ถามเกี่ยวกะปรัชญาของขงจื๊อที่เข้าใจย๊ากยาก
 แต่ท่านยมก็ตอบได้ ไอ้นี่ตาย…… 555555
 ในที่สุดก็มาถึงคนสุดท้าย นายหิด ไอ้บ้าแห่งศรีธัญญา
 
 ยมบาล : คนที่มากะเจ้าตายหมดแล้ว และข้าดูประวัติเจ้าแล้ว
 ข้าว่าเจ้าไม่รอดแน่ๆๆ ตายเลยดีกว่ามั้ง ฮาฮาาาาา….
 นายหิด : เดี๋ยวก่อน! ไหนๆ ข้าก็ต้องตายอยู่แล้ว ขอถามหน่อยละกัน
 แต่ก่อนอื่นข้าขอเก้าอี้ที่มีรูเก้ารูมาให้ข้านั่งได้มั้ย
 ยมบาล : ได้
 
 หลังจากที่นายหิดนั่งเก้าอี้ที่มีรูถึงเก้ารู นายหิด
 ก็ตดออกมาอย่างจังงงงง…… ปู้ด ป้าด ปี๊ด
 …… ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว นรก ทำให้ยมฑูตหลายท่าน อ๊วกแตก อ๊วกแตน
 กันเป็นแถว
 
 ยมบาล : เจ้าคนบ้า เจ้าทำแสบมาก รีบทายมาเลย
 อย่างเจ้านี้ต้องเอาให้หนัก
 นายหิด : ท่านยม ท่านรู้มั้ย ข้านั่งอยู่บนเก้าอี้เก้ารูเนียะ
 แล้วตดของข้าออกมาจากรูไหน
 ยมบาล : รูที่ 1
 นายหิด : ผิด
 ยมบาล : ฮาฮาาา ข้ารู้แล้วรูที่ 5 แน่เลย
 นายหิด : ผิด
 ยมบาล : ถ้างั้นข้ายอมแล้ว ไหนบอกมาสิ ตดของเจ้าออกมาจากรูไหน
 นายหิด : รูตูด………..
 ยมบาล : ?!!?!
 
 ผลสุดท้ายยมบาลก็เลยต้องส่งวิญญาณของนายหิดกลับไปมีชีวิตต่อไป

------------------------------


437
ศาลาพักใจ / มาจากญี่ปุ่น…
« on: 17 January 2013, 15:13:07  »
มาจากญี่ปุ่น…
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นเดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทย วันสุดท้ายของการเดินทาง
 หนุ่มชาวอาทิตย์อุทัยได้เรียกแท๊กซี่ไปส่งที่สนามบินดอนเมือง
 ระหว่างทางมีรถฮอนด้า ขับผ่านไป หนุ่มยุ่นรีบโผล่หน้าออกมาทางหน้าต่างแท๊กซี่
 และ ตะโกนว่า รถฮอนด้า วิ่งเร็วมาก มาจากญี่ปุ่น
 หลังจากนั้นก็กลับเข้ามา นั่งในรถด้วยใจรักชาติ
 ขณะนั้น ได้มีรถโตโยต้า แล่นแซงแท๊กซี่ไปอย่างเร็วชายคนนั้นทำเช่นเคย
 “รถโตโยต้า วิ่งเร็วมาก มาจากญี่ปุ่นยังไม่ทันไร รถมิตซูบิชิ
 ก็แล่นผ่านไปอีกคัน เขาก็รีบตะโกนทัก
 รถมิตซู วิ่งเร็วมาก มาจากญี่ปุ่น”
 คนขับแท๊กซี่รู้สึกขุ่นเคืองอยู่ในใจ แต่ก็ได้แต่เก็บไว้โดยที่ไม่พูดอะไร
 แม้จะต้องทนฟังเสียง แบบเดิมอีกหลายครั้ง พอมาถึงที่สนามบิน
 มิเตอร์บอกราคาค่าโดยสาร 300 กว่าบาท หนุ่มญี่ปุ่นถึงกับใจหาย
 “โอโนว ! ทามมายมันแพงยังงี้”
 คนขับแท๊กซี่ได้ใจ หันกลับไปบอกว่า
 “มิเตอร์นี้วิ่งเร็วมาก มาจากญี่ปุ่น”

------------------------------------------


438
ลูกฝรั่ง ช่างคิด
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

  ในห้องเรียนครูสาวสวยคนหนึ่งกำลังพยายามสอนนักเรียนในวิชาคณิตศาสตร์
 เธอยกตัวอย่างโจทย์ให้นักเรียนว่า
 “มีนก 3 ตัว เกาะอยู่บนสายไฟ นายพรานเอาปืนยิงโดนนกตัวหนึ่งตกลงมา
 จะเหลือนกกี่ตัวบนสายไฟ ?”
 “ไม่เหลือเลยครับ” เด็กชายบ๊อบ ตอบด้วยแววตาเด็กมีความคิดอ่าน
 “ไม่ใช่ ไม่ใช่ เอ้า เธอลองคำนวณดูอีกทีสิ”
 ครูสาวตอบด้วยความอดทน พร้อมทั้งชูนิ้วขึ้นสามนิ้วประกอบการอธิบาย
 “มีนกสามตัวเกาะบนสายไฟ นายพรานยิงไปหนึ่ง”
 ครูสาวพูดจบพร้อมทั้งลดนิ้วลงหนึ่งนิ้ว
 “จะมีนกเหลืออยู่บนสายไฟกี่ตัวเอ่ย ?”
 “ไม่เหลือเลยครับ” เด็กชายบ๊อบตอบย้ำอีกอย่างขึงขัง
 ครูสาวชักสงสัยในความมั่นใจของลูกศิษย์
 “ง่ายมากครับ” เด็กชายบ๊อบตอบ
 “เมื่อนายพรานยิงปืนหนึ่งนัดโดนนกหนึ่งตัว
 นกที่เหลือจะตกใจบินหนีไปหมด”
 “อืม ดี ถึงแม้ว่าไม่ถูกต้องตามโจทย์และหลักคณิตศาสตร์
 แต่ครูชอบวิธีคิดของเธอนะ” ครูสาวตอบ
 “เอาอย่างนี้ดีกว่าครับครู ให้ผมถามมั่ง” เด็กชายบ๊อบเริ่มบ้าง
 “มีผู้หญิงสามคนนั่งบนม้านั่ง กำลังกินไอติมดุ้นยาวอยู่
 ผู้หญิงคนแรกเลียแท่งไอติม
 ผู้หญิงคนที่สองกัดแท่งไอติม ส่วนผู้หญิงคนที่สามดูดแท่งไอติม
 ผมถามครูว่า ผู้หญิงคนไหนแต่งงานแล้ว”
 ครูสาวมองหน้าเด็กชายบ๊อบ ถึงทำหน้าไม่ถูก
 แต่หน้าครูสาวก็แดงระเรื่อขึ้นแล้วอึ้งไป
 “ครู ครู ผมถามอีกทีก็ได้นะ มีผู้หญิงสามคนนั่งบนม้านั่ง
 กำลังกินไอติมดุ้นยาวอยู่ ผู้หญิงคนแรกเลียแท่งไอติม
 ผู้หญิงคนที่สองกัดแท่งไอติม ส่วนคนที่สามดูดแท่งไอติม ผมถามครูว่า
 ผู้หญิงคนไหนแต่งงานแล้ว”
 “เอาอย่างนี้แล้วกันนะเธอ” ครูเริ่มกระซิบที่ข้างหูเด็กชายบ๊อบ
 “ครูว่าผู้หญิงคนที่ดูดไอติมแท่งน่ะ เป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว”
 “ไม่ใช่ครับครู คนที่แต่งงานแล้ว
 คือคนที่มีแหวนแต่งงานสวมอยู่ที่นิ้วมือไงครับ”
 เด็กชายบ๊อบอมยิ้ม พร้อมกับพูดตบท้าย
 “ถึงครูจะตอบไม่ถูก แต่ผมก็ชอบวิธีคิดของครูนะ”

-----------------------------------------


439
คู่ทุกข์ คู่ยาก
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

แมน โดนรถชนอาการสาหัส แต่โชคดีที่ สมรเมียสาวไม่เป็นอะไร
 
แมนอยู่ในอ้อมแขนของสมรเมียรักระหว่างส่งโรงพยาบาล
 
แมน: สมร ผม กำ ลัง จะ ตาย…..
 
สมร: ไม่ค่ะแมน คุณต้องไม่เป็นไรนะค่ะ
 
ทั้งคู่ ฟูมฟายเหมือนหนัง ละครทั่วๆ ไป
 
แมน:เมื่อสองปีก่อน ธุรกิจผมพังพินาศ ก็มีคุณอยู่ใกล้ๆ
 
สมร: ก็ฉันเป็นเมียคุณนี่ค่ะแมน
 
แมน: เมื่อปีที่แล้วศาลฟ้องผม ให้ล้มละลาย ก็มีคุณอยู่ไม่ห่าง
 
สมร: โธ่ แมนอย่าพูดแบบนั้นสิคะที่รัก
 
แมน: ปลายปีที่แล้ว จำได้ไหมผมโดนยิงเกือบตาย ก็มีคุณอยู่ใกล้ๆ อีก
 
สมร: อย่าพูดเลยค่ะ ยังไงสมรก็ไม่ทิ้งคุณหรอกค่ะ แมน
 
แมนสำลักเลือดที่ไหลออกทางปาก กำลังจะตาย
 
แมน: สมร เข้ามาใกล้ๆ ผมสิ
 
สมรเอียงหูเข้าไปใกล้ให้แมนสั่งเสียเป็นครั้งสุดท้าย
 
แมน: จำไว้นะ…….อี หมอน………….มึง นะ มัน ตัว ซวย………

------------------------------------------


440
ศาลาพักใจ / แม่กูสอน?
« on: 17 January 2013, 15:05:53  »
แม่กูสอน?
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

>เพื่อน ๆ บอกผมว่า
 ทำไมมึงดูหน้าตาไม่ค่อยฉลาด แต่เรียนเก่งจังวะ
 >ผมบอกเพื่อนผมว่า
 แม่กูสอน ให้ขยันแล้วก็ตั้งใจเรียน
 >เพื่อน ๆ ผมบอกว่า
 ทำไมพอมึงมีตังค์ มึงชอบเอาไปทำบุญ แจกเด็ก เลี้ยงพระวะ
 >ผมบอกเพื่อนผมว่า
 แม่กูสอน ให้รู้จักแบ่งปันคนอื่น ถึงเราจะมีตังค์น้อย แต่ก็มีคนอื่นที่เขาลำบากกว่าเรา
 >เพื่อน ๆ ผมบอกว่า
 ทำไมมึงชอบเล่นกีฬา เล่นเป็นหลายอย่าง แล้วไม่เคยเห็นมึงป่วยนอนโรงพยาบาลเลยวะ
 >ผมบอกเพื่อนผมว่า
 แม่กูสอน ให้กูออกกำลังกาย จะได้แข็งแรง ไม่เจ็บ ไม่ป่วยง่าย ๆ เพราะเรามีตังค์น้อย เจ็บป่วยจะลำบาก
 >เพื่อน ๆ ผมบอกว่า
 ทำไมมึงอารมณ์ดี ไม่เครียด ไม่โกรธใครบ้างเลยหรือไงวะ
 >ผมบอกเพื่อนผมว่า
 แม่กูสอน ให้เป็นคนอารมณ์ดี ทำให้คนที่อยู่ใกล้เรามีความสุข แล้วจะสบายใจกันทุกคน
 >เพื่อน ๆ ผมบอกว่า
 ทำไมมึงพูดกับคนอื่น ดูสุภาพ อ่อนน้อม ทั้ง ๆ ที่เขาเป็นลุงแก่ ๆ เป็นเด็กเสริฟอาหาร
 หรือแม้แต่ขอทานที่มึงให้เศษตังค์แล้วเขาอวยพรให้มึง ทำไมมึงต้องขอบคุณขอทานวะ
 >ผมบอกเพื่อนผมว่า
 แม่กูสอน ให้พูดดี ๆ กับทุกคน ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร เราพูดดี ๆ กับเขา เขาก็จะได้พูดดี ๆ กับเรา
 
 >เพื่อน ๆ ผมบอกว่า
 ทำไมพี่ ๆ น้อง ๆ มึงตั้งหลายคน ทำไมรักใคร่กันดี ไม่เคยทะเลาะกันเลยวะ
 >ผมบอกเพื่อนผมว่า
 แม่กูสอน ให้พี่น้องรักกันทุกคน เพราะหมากับแมวที่อยู่บ้านเดียวกัน มันยังรักกันได้ ทำไมพี่น้องกัน จะรักกันไม่ได้
 
 >เพื่อน ๆ ผมบอกว่า
 ทำไมมึงถึงรักชาติ รักแผ่นดิน รักในหลวง มากมายนักวะ
 >ผมบอกเพื่อนว่า
 แม่กูสอน ให้กูสำนึกถึงบุญคุณของแผ่นดิน บุญคุณของพระมหากษัติรย์ ทุกพระองค์
 แม่กูสอน ให้กูรู้จักคำว่า จงรักภักดี ตั้งแต่กูยังไม่รู้ความหมาย จนทุกวันนี้ กูรู้แล้วว่า
 คำว่า จงรักภักดี นั้น ยิ่งใหญ่เพียงใด
 
 >เพื่อน ๆ ผมบอกว่า
 ทำไมแม่มึงถึงสอนอะไรมึงมากมายจังเลยวะ
 >ผมบอกเพื่อนว่า
 ที่กูเป็นกูอยู่จนทุกวันนี้ ก็เพราะ ” แม่กูสอน”
 แม่กูสอนอะไร กูทำตามแม่กูสอนทุกอย่าง
 มีอย่างเดียวที่แม่กูไม่ได้สอน แต่กูทำ แล้วกูทำมาตั้งแต่เด็กแล้ว
 แม่กูไม่ได้สอนให้รักแม่ แต่……กูรักแม่ว่ะ
 
 ใครไม่รัก………………กูรัก

-----------------------------


441
ก่อนแต่ง – หลังแต่ง
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 ก่อนแต่งงาน
 
 ชาย : “ใช่เลย! ในที่สุดก็ถึงเวลาสักที ผมรอไม่ไหวแล้ว”
 หญิง : “เธอคิดจะเลิกกับฉันมั้ย”
 ชาย : “ไม่แน่นอน อย่าแม้แต่เพียงแค่คิด”
 หญิง : “เธอยังรักฉันอยู่หรือเปล่า”
 ชาย : “แน่นอน!”
 หญิง : “เธอเคยคิดจะเอาเปรียบฉันบ้างหรือเปล่า”
 ชาย : “ไม่มีทาง ทำไมเธอถึงถามอย่างนั้น”
 หญิง : “เธอจะจูบฉันมั้ย”
 ชาย : “ได้สิ”
 หญิง : “เธอจะทำร้ายฉันมั้ย”
 ชาย : “ไม่มีทางฉันไม่ใช่คนแบบนั้น”
 หญิง : “ฉันไว้ใจคุณได้”
 
 หลังจากแต่งงาน
 
 อ่านจากบรรทัดล่างสุด ขึ้นบน

------------------------------------


442
ความผิดซ้ำซ้อน
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 นายฉลาดรับเงินเดือนจากบริษัท ขาดไป 100 บาท???? จึงรีบกลับไปแจ้งสมุห์บัญชี
 สมุห์บัญชีชี้แจงเชิงต่อว่า ว่า
 “เมื่อเดือนที่แล้ว ผมจ่ายเงินเดือนผิด ให้คุณเกินไป 100 บาท ทำไมคุณถึงเฉย ไม่ทักท้วง”
 
นายฉลาดก็นึกขึ้นได้ว่า เป็นอย่างที่สมุห์บัญว่าจริงๆ? แต่ด้วยไหวพริบ ก็สำทับไปว่า
 
“ผมก็เป็นคนอย่างนี้แหละ ใครทำผิดครั้งหนึ่ง ผมพออภัยให้ได้ แต่ถ้ายังผิดซ้ำสองอีก ผมให้อภัยไม่ได้เป็นอันขาด"

------------------------------------



443
การผายลมบอกนิสัย
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 ตามตำราโหงวเฮ้งโบราณ พิจารณานิสัยใจคอคนจากการผายลมได้ดังนี้

 คนใจเย็น คนที่กลั้นผายลมจนถึงจุดระเบิด
 คนไม่จริงใจ คนที่ผายลมแล้วหันไปจ้องหน้าเด็กคนข้างๆ
 คนงก คนที่ชอบยืนดมกลิ่นผายลมของตัวเอง
 คนขี้โอ่ คนที่ผายลมเสียงดังสนั่น แล้วยืนหัวเราะชอบใจ
 คนโชคร้าย คนที่พยายามผายลมขณะเอามือตบโต๊ะไปด้วย แต่พลาดจังหวะ
 นักวิทยาศาสตร์ คนที่สามารถวิเคราะห์ได้ หลังจากสูดกลิ่นผายลมเข้าไปว่าอาหารก่อน
 หน้านั้นประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรตโปรตีนไขมันอย่างละกี่เปอร์เซ็นต์
 คนซาดิสต์ คนที่ผายลมในผ้าห่มแล้วกดคู่นอนให้เข้าไปดม
 คนเจ้าเล่ห์ คนที่ผายลมพร้อมกับไอกระแอมเบาๆ
 คนสุภาพ คนที่กล่าวขอโทษก่อนและหลังการผายลม แม้จะอยู่เพียงคนเดียว
 ผู้ดี คนที่กลั้นผายลมไว้หลายชั่วโมงจนท้องอืด เพื่อเก็บไว้กลับไปผายลมที่บ้าน
 คนมั่นคง คนที่ผายลมเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ต่อเนื่องและยาวนาน
 คนอำมหิต คนที่ผายลมไร้เสียง แต่กลิ่นเหม็นร้ายกาจ
 คนดีแต่พูด คนที่ผายลมดังปัง แต่ไร้กลิ่น
 คนหลายใจ คนที่ผายลม ปัสสาวะ และอุจจาระในเวลาเดียวกัน
 แพทย์ คนที่ล้างมือก่อนผายลม
 คนใจบุญ คนที่ยืนผายลมเหนือลม ให้ทุกคนได้รับอานิสงส์โดยทั่วกัน
 คนตาย คนที่ไม่เคยผายลมในปัจจุบัน แต่เคยผายลมในอดีต

 ————————————–
 

444
ทำไมกล้วยจึงเรียก Banana
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 Long time ago…. ประมาณว่านานมากแล้ว
 มีฝรั่ง มาเที่ยวตลาดน้ำเมืองไทย
 และเห็นผลไม้มากมาย ฝรั่งก็มาดูที่กล้วย ก่อนอื่น
 
 แล้วฝรั่งถามแม่ค้าว่า “What is this?”
 แม่ค้าไม่รู้ภาษาอังกฤษจึงไม่ได้ตอบอะไร ฝรั่งเห็นดังนั้นจึงลองบีบดู
 บังเอิญฝรั่งมือหนักจึงบีบกล้วยเละ แม่ค้าเห็นจึงร้องโวยวายว่า “แบนแน่ๆ”
 
 ฝรั่งได้ฟังจีงร้องอ๋อแล้วก็บอกว่า “Oh! Banana”
 หลังจากนั้นฝรั่งก็มาชี้ที่มังคุด และถามว่า “Is this mango?”
 แม่ค้าชาวไทยกำลังโกรธที่ฝรั่งทำกล้วยเละ
 เลยตอบไปว่า “แมงโกส้น teen นะสิ”
 
 ฝรั่งก็ร้องอ๋อแล้วบอกว่า “Oh Mangosteen!”
 แล้วฝรั่งก็เหลือบไปเห็นมะละกอ ก็เอามือที่เลอะกล้วยไปจับ
 แล้วถามว่า “What is this?”
 แม่ค้าเห็นดังนั้นก็ยัวะมากที่มะละกอเลอะเทอะ จึงคว้าเอาสากขึ้นมาจะตีฝรั่ง
 แต่มีคนตะโกนห้ามแม่ค้าว่า “ป้าๆ อย่า”
 
 ฝรั่งได้ยินดังนั้นจึงนึกว่ามีคนบอกชื่อมะละกอ จึงร้องว่า “OH! papaya“

------------------------------------------


445
แม้น้ำจะเลิกท่วมแล้ว ก็ยังมีคนที่เดือดร้อนหลังน้ำท่วม ต้องการความช่วยเหลือจากเราอยู่นะครับ


กล่องนมหรือกล่องเครื่องดื่มแบบ UHT ทุกชนิด สามารถนำไปทำหลังคาบ้านให้ผู้ที่เดือดร้อนจากภัยธรรมชาติได้อีกมากมาย

     โครงการ "หลังคาเขียวเพื่อมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก" จะจุดประกายให้ทุกๆ คนได้รู้ว่าทุกส่วนใน "กล่องเครื่องดื่ม" ทั้งที่เป็นกระดาษ พลาสติก และอะลูมิเนียมฟอยล์ สามารถนำกลับมา "รีไซเคิล" ได้ทุกส่วน และในวันนี้การรีไซเคิล "กล่องเครื่องดื่ม" ไม่ได้เป็นแค่การช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อน แต่ยังมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติและผู้ที่ขาดโอกาสในรูปแบบต่างๆ ได้

    จำนวนกล่องเครื่องดื่มใช้แล้วที่รวบรวมได้ การดำเนินโครงการฯ ในปี พ.ศ. 2553 ได้ตั้งเป้าเก็บรวบรวมกล่องเครื่องดื่มประมาณ 40 ตัน หรือคิดเป็นสี่ล้านกล่อง สามารถนำไปผลิตเป็นแผ่นหลังคาได้ประมาณ 2,000 แผ่น
    ลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จากจำนวนกล่องเครื่องดื่มใช้แล้วที่ตั้งเป้าไว้ว่าจะสามารถรวบรวมได้ 4 ล้านกล่อง สามารถช่วยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศได้กว่า 36 ตัน
    สร้างเครือข่ายพันธมิตรในการดำเนินโครงการ โครงการฯ สามารถขยายเครือข่าย และการมีส่วนร่วมในการดำเนินโครงการจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งในกลุ่มลูกค้าของเต็ดตรา แพ้ค และหน่วยงานภาคเอกชนอื่นๆ ที่สนใจ โดยครอบคลุมทั้งกิจกรรมการให้ความรู้ความเข้าใจการรีไซเคิลกล่องเครื่องดื่ม กระบวนการจัดเก็บรวบรวม และความร่วมมือของภาคสังคม เพื่อสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และขยายผลเป็นความร่วมมือร่วมใจเพื่อประโยชน์ต่อสังคมโดยรวม



     โครงการหลังคาเขียวเพื่อมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก ในพระดำริของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัยแก่ผู้ประสบภัยธรรมชาติในพื้นที่ต่างๆ โดยมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย


      บริษัทเต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทชั้นนำด้านกระบวนการผลิตและบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารและเครื่องดื่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรจุภัณฑ์ระบบปลอดเชื้อหรือยูเอชที ตระหนักถึงปัญหาและความมีส่วนร่วมในการลดปัญหาภาวะโลกร้อน ได้ทำการรณรงค์อย่างต่อเนื่องและครบวงจร โดยสนับสนุนเทคโนโลยีที่เหมาะสมและสอดคล้องกับการดำเนินกิจกรรม ตลอดจนการรณรงค์ให้เกิดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการคัดแยกกล่องเครื่องดื่มมาเป็นระยะเวลาเกือบ 10 ปีแล้ว โดยได้ให้การสนับสนุนหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และริเริ่มโครงการต่างๆ เช่น โครงการเด็กไทยหัวใจรีไซเคิล (2549-2550) โครงการแจ๋วรักษ์โลก (2551) โครงการร่วมรักษ์โลกกับบิ๊กซีและเต็ดตรา แพ้ค (2552)

     จากผลสำเร็จของโครงการต่างๆ ดังกล่าวที่ได้รับการตอบรับจากประชาชนทั่วประเทศมาโดยตลอด บริษัทเต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด จึงมุ่งมั่นในการดำเนินโครงการรณรงค์เพื่อการสนับสนุนการคัดแยกจัดเก็บและรีไซเคิลกล่องเครื่องดื่มใช้แล้วอย่างยั่งยืน และเล็งเห็นถึงโอกาสในการดำเนินโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นที่มาของโครงการ "หลังคาเขียวเพื่อมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก" ที่มีแนวคิดการทำงานด้านสิ่งแวดล้อมโดยการสร้างเครือข่ายอาสาสมัครตั้งจุดรับกล่องเครื่องดื่ม จัดเก็บกล่องเครื่องดื่มผ่านทางมูลนิธิฯ และอาสาหลังคาเขียว ที่จะช่วยสร้างโลกสีเขียวให้กับส่วนรวม โดยการช่วยจัดเก็บกล่องและนำกล่องเครื่องดื่มที่บริโภคแล้วกลับมารีไซเคิลเป็น แผ่นหลังคา ซึ่งจะผลิตจากกล่องเครื่องดื่มรีไซเคิลเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อมอบให้กับมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อสังคมโดยรวม

     โครงการฯดังกล่าว บริษัทเต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ บริษัทบิ๊กซี ซุเปอร์เซ็นเตอร์ จะเป็นผู้ดำเนินโครงการฯ โดยร่วมทำกิจกรรมต่างๆ ผ่านทางเครือข่ายชุมชนของมูลนิธิฯ และผู้สนับสนุนโครงการ คือ บริษัทบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ศูนย์รีไซเคิลกล่องเครื่องดื่ม โดย บริษัท ไฟเบอร์พัฒน์ จำกัด และกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม


<a href="http://www.youtube.com/v/P-bKKI46UcE?version" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/P-bKKI46UcE?version</a>

ข้อความจากอนันดาถึงอาสาฯ

<a href="http://www.youtube.com/v/02_GLaraoXg?version" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/02_GLaraoXg?version</a>

อนันดาและหลุยส์ สาธิตวิธีพับเล็ก

<a href="http://www.youtube.com/v/YuiUy8xywyY?version" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/YuiUy8xywyY?version</a>

อนันดา&หลุยส์ สาธิตวิธีแกะ-ล้าง-เก็บ

<a href="http://www.youtube.com/v/zuzMl8JXGXM?version" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/zuzMl8JXGXM?version</a>

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมจากลิงค์ข้างล่างนะครับ
http://www.greenroof.in.th/
http://www.youtube.com/Thaigreenroof


446
เหี้ย,เหี้ยลายดอก
       สัตว์เลื้อยคลานที่ชื่อของมันถูกคนไทยใช้มาเป็นคำด่ายอดนิยมอย่าง “เหี้ย” (หรือที่แก้เคล็ดเรียกมันว่าตัวเงินตัวทอง และพยายามเรียกให้มันดูสุภาพตามชื่อวิทยาศาสตร์ว่า“วรนุส”-Varanus salvator ) ปัจจุบันถือเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่ขายได้ทั้งหนังทั้งเนื้อ คนที่ชอบกินเนื้อเหี้ยหลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเนื้อเหี้ยตรงส่วนหางที่เรียกว่า“บ้องตัน”นั้นอร่อยนัก
       
       ขณะที่ในทางระบบนิเวศตามธรรมชาตินั้น เหี้ยสัตว์ที่คนไทยตั้งแง่รังเกียจ ถือเป็นนักกำจัดซากตัวยงมันช่วยกำจัดสิ่งปฏิกูลกำจัดซากจากสิ่งแวดล้อม แต่เหี้ยก็มีพฤติกรรมไม่ดีตรงที่มันชอบไปขโมยกินไก่ กินไข่ กินเป็ด ของชาวบ้าน ทำให้คนไทยไม่ชอบมันมาตั้งแต่สมัยโบราณ และยังนำพฤติกรรมไม่ดีของมันรวมรูปร่างลักษณะที่ดูไม่เจริญตา(น่าเกลียดในสายตาคนส่วนใหญ่)มาใช้เป็นคำด่าที่นับจากอดีตถึงปัจจุบันยังคงได้รับความนิยมอยู่ไม่สร่างซา
       
       สำหรับ “เหี้ย” (อังกฤษ: Water monitor, ชื่อวิทยาศาสตร์: Varanus salvator) เป็นสัตว์เลื้อยคลานในสกุล Varanus ที่มีความยาวใหญ่เป็นอันดับสองรองจากมังกรโคโมโด (Komodo dragon; Varanus komodoensis) ที่พบบนเกาะโคโมโด ประเทศอินโดนีเซีย
       
       เหี้ย มีลักษณะลำตัวเป็นเกล็ดหนังสีดำ มีลายเป็นดอก(วงรี)สีเหลืองพาดขวางทางยาวตามลำตัวเป็นช่วงๆ มีลิ้นแยกเป็นสองแฉกคล้ายงูใช้สำหรับรับกลิ่น
       
       พูดถึงเหี้ยแล้วอาจมีหลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเหี้ยคือตะกวด ซึ่งอันที่จริงสัตว์ตระกูลเหี้ยที่พบเห็นกันในบ้านเรา มันไม่ใช่เหี้ยอย่างเดียวแต่มันเป็นสัตว์วงศ์เดียวกัน มีอยู่ทั้งหมด 6 ชนิดด้วยกัน ได้แก่

ตะกวด,แลน
       1. เหี้ย เหี้ยดอก มังกรดอก ตัวเงินตัวทอง (Water Monitor ; Varanus salvator) มีขนาดใหญ่ที่สุดในวงศาคณาเหี้ยเมืองไทย ตัวมีสีดำมีลายดอกสีขาวหรือเหลืองอ่อน พาดขวางลำตัว หางมีสีดำหรือลายปล้องดำสลับเหลืองอ่อน บางตัวมีจุดแดงเล็กๆที่หาง ชอบอาศัยตามที่ลุ่มใกล้แหล่งน้ำ พบทั่วทุกภาคในเมืองไทย
       
       2.ตะกวด แลน (Bengal monitor ; Varanus bengalensis)พบทุกภาคทั่วไทย มีสีรวมๆทั้งตัวเป็นสีเหลืองอ่อน เหลืองหม่น สีน้ำตาลเป็นจุดเล็กๆ ส่วนหัวมักมีสีอ่อนกว่าตัว มีหางเรียวยาวเป็นพิเศษ ขึ้นต้นไม้เก่ง ชอบอยู่ตามป่าโปร่งมากกว่าป่าทึบ

เห่าช้าง
       3.เห่าช้าง (Roughneck monitor lizard ; Varanus rudicollis) มีขนาดใหญ่เป็นที่สองรองจากเหี้ย ตัวและหางมีวีดำ มีลานสีจางๆ เป็นปื้น เป็นดอก เป็นปล้อง ตามลำตัว หัวมีสีเทาคล้ำ พบทางภาคใต้และภาคตะวันตก เมื่อจวนตัวจะพองคอขู่ฟ่อๆจึงถูกเรียกว่า "เห่าช้าง" ซึ่งเชื่อกันว่าน้ำลายของมันมีพิษ หากถูกกัดจะเป็นอันตรายถึงตายได้ แต่ความจริงแล้วเป็นความเชื่อที่ผิด

เหี้ยดำ
       4.เหี้ยดำหรือมังกรดำ (Black water monitor, Black dragon ; Varanus salvator komaini ) มีรูปลักษณะคล้ายเหี้ย แต่ตัวเล็กกว่า ลำตัวมีสีดำ(ด้าน)ทั้งตัว ท้องมีสีเทาเข้ม ลิ้นสีเทาม่วง พบทางภาคใต้ ชายทะเล และเกาะเล็กๆ

แลนดอน
       5.แลนดอน (Yellow monitor ; Varanus flavescens) มีสีคล้ายตะกวด แต่หัวมีสีเหลืองสดหรือสีส้มเรื่อๆ ชอบอยู่บนที่ดอนจึงถูกเรียกว่าแลนดอน พบตามจังหวัดชายแดนที่ติดกับพม่า

ตุ๊ดตู่
       6.ตุ๊ดตู่ (Red-headed Monitor(Harlequin Monitor) ; Varanus dumerilii) มีขนาดเล็กที่สุดในวงศาคณาเหี้ยไทย ลำตัวมีสีน้ำตาลเทามีลายเป็นปล้องเป็นวงแหวนสีอ่อน หัวมีสีเทาอ่อนหรือน้ำตาลอ่อน ข้างใต้คอมีสีอ่อนจนเกือบขาว พบว่าอาศัยอยู่ทางภาคใต้เป็นหลัก
       
       และนั่นก็คือเรื่องราวคร่าวๆของเหี้ยกับสัตว์ในตระกูลเหี้ยในเมืองไทย ที่แม้ใครๆหลายๆคนจะไม่ชอบมัน แต่มันก็เป็นสัตว์ที่อยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน โดยสามารถพบเห็นเหี้ยได้ทั่วไปตามแหล่งน้ำ ห้วยหนอง คลองบึง ป่าชายเลน ปากแม่น้ำ รวมถึงที่ลำคลองและท่อระบายน้ำ หรือแม้กระทั่งที่ทำเนียบและรัฐสภาก็มักจะปรากฏข่าวการพบเห็นเหี้ยเดินเพ่นพ่านแถวๆนั้นอยู่บ่อยครั้ง


________________________________________________________________________________________________
หวัดดีครับ...ป๋าแลม.ผม ตุ๊ดตู่...มารายงานตัว คร๊าาาาบบบ....


ตุ๊ดตู่ในรูกระบอก

ตุ๊ดเอ๋ย ตุ๊ดตู่
ในเรี่ยว ในรู ช่างอยู่ได้
ขี้เกียจ นักหนา ระอาใจ

มาเรียกให้ กินหมาก ไม่อยากคบ
ชาติขี้เกียจ เบียดเบียน แต่เพื่อนบ้าน

การงาน สักนิด ก็คิดหลบ
ตื่นเช้า เราจักหมั่น ประชันพลบ
ไม่ขอพบ ขี้เกียจ เกลียดนักเอย....

(ร้องลำวิลันดาโอด)
สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงนิพนธ์



อันนี้...ก็เรียกว่า ตุ๊ดตู่...ครับ. สำหรับตอกเจาะหนัง ตอกเจาะผ้า เจาะรูตาไก่
 




นี่ก็...ตุ๊ดตู่...เหมียยนนนนน กาน..............


สะ หวัก ดี คัก....


-----------------------------------------


447
*ตำรวจเตือนมามีผู้เคราะห์ร้ายแล้ว*

* *
 *ลองนึกภาพดู** ท่านกำลังเดินมาในลานจอดรถ เปิดประตุรถและเข้าไปในรถ*
 *ท่านล็อคประตู** แล้วสตาร์ท รถยนต์ และเข้าเกียร์ เพื่อถอยรถ**
** ขณะนั้นท่าน**มองที่กระจกส่องหลังที่อยู่หน้าคนขับเพื่อมองทางที่จะถอย*
* ทันใดก็เห็นว่ามี*
 *กระดาษแผ่นหนึ่งติดอยู่กลางกระจกรถด้านหลัง*
 *ท่านก็ต้องเปลี่ยนเกียร์มาที่ตำแหน่งเพื่อจอดรถ*
* เปิดประตู*
 *ออกจากรถเพื่อจะลงไปเอากระดาษที่ติดอยู่ออก** เพราะทำให้การมองเห็นไม่ดี*
 *ขณะที่เดินถึงด้านหลังของรถ**
**จู่ๆ**ก็มีชายคนหนึ่งโผล่มาจากที่ไหนก็ไม่รู้กระโดดเข้าไปในรถและขับรถออกไป*
 *เครื่องยนต์กำลังติดอยู่ (**เจ้าของรถที่เป็นผู้หญิงจะมีกระเป๋าถือวางอยู่ในรถด้วย)*
 *รถที่ออกก็จะพุ่งออกไปท่านต้องหลีก** เพราะกลัวถูกชน*
 * *
 *โปรดระวัง** โจรรถยนต์ บางรายเริ่มใช้วิธีนี้แล้ว วิธีที่ดีและปลอดภัย คือ ขอให้**ท่าน*
 *ขับรถออกเลยไป ปล่อยให้กระดาษติดอยู่ที่กระจก** แบบนั้นแหละ *
 *นึกไว้เลยว่า **เราโดนโจรเล่นงานแล้ว** และ ค่อยไปเอากระดาษออกทีหลัง*
 *หลังจากที่ออกรถไปจากลานจอดรถที่น่าสงสัยนั้นแล้ว*
 * *
 *ขอให้ทุกคนส่งต่อด่วน** ไปให้ญาติมิตร เพื่อน ๆ ทุกคนได้ระวังกันไว้*
 *โดยเฉพาะที่เป็นผู้หญิง*



448
ดาราสาวที่สวยที่สุดในประเทศไทย  Advertisements !!!!

ผ่านไปพบมา...เลยนำมาฝากกัน แต่เรื่องใครสวย น่ารัก อย่างไรนั้น
มันก็ขึ้นกับความพอใจ ถูกใจ และชื่นชอบในตัวดาราของแต่ละท่าน
ถ้าท่านอยากจัดอันดับใหม่ เพราะดาราในดวงใจที่นิยมของท่านนั้น
ไม่ติดอันดับ 1-10 เลย ก็แสดงความคิดเห็น และปรับอันดับใหม่ได้
ตามที่ท่านเห็นสมควร อย่างเช่น ขวัญ อุษามณี, ปู ไปรยา, เชอรี่ เข็มอัปษร เป็นต้น


อันดับที่ 1 อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ



อันดับที่ 2 แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ



อันดับที่ 3 นุ่น วรนุช (วงษ์สวรรค์) ภิรมย์ภักดี



อันดับที่ 4 ชมพู่ อารยา เอ. ฮาร์เก็ต



อันดับที่ 5 แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์



อันดับที่ 6 แอน ทองประสงค์



อันดับที่ 7 พิงกี้ สาวิกา ไชยเดช



อันดับที่ 8 พลอย เฌอมาลย์ บุญศักดิ์



อันดับที่ 9 จุ๋ย วรัทยา นิลคูหา



อันดับที่ 10 ธัญญา ธัญญาเรศ (รามณรงค์) เองตระกูล



----------------------------------------------------------------

ทำไม...สาวอั้ม...จึงขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ขวัญใจของชายทั้งประเทศ ชมดูครับท่าน...














-----------------------------------------------------------------------------------

แถมท้าย...ด้วยสาวประเภทสองของคนไทย ที่สวยที่สุดในโลก
ลองเปรียบ...ความสวยงาม ตลอดจนความ perfect ในสรีระของเธอ กับหญิงแท้ ว่าต่างกันอย่างไร
ปอย ตรีชฎา เพชรรัตน์






------------------------------------------------------------------------

โอวววว...อุ๊ แม่ เจ้า.....ก็ มา ล่วยยยยยย..............................



----------------------------------------------------------------------------


449
น้อง stop. สดใส น่ารัก.













----------------------------------------------------















==============================================================


450
น้องโยโกะ สาวสวย ลูกครึ่งญี่ปุ่น
















-----------------------------------------------------------








--------------------------------------------------------













=======================================================


Pages: 1 ... 28 29 [30] 31
SMF 2.0.4 | SMF © 2013, Simple Machines | Theme by nesianstyles | Buttons by Andrea
Page created in 0.068 seconds with 16 queries.