|
ppsan
|
 |
« on: 25 November 2025, 21:21:07 » |
|
"อารยธรรมเมโสโปเตเมีย" ปฐมบทเเห่งอารยธรรมยุคเเรกเริ่ม [1]
คลังความรู้ 27 พ.ค. 2019 เวลา 06:44 • ประวัติศาสตร์
"อารยธรรมเมโสโปเตเมีย" ปฐมบทเเห่งอารยธรรมยุคเเรกเริ่ม
ขอต้อนรับสู่ "เล่าประวัติศาสตร์" ซึ่งเป็นการนำเสนอประวัติศาสตร์ศาตร์เเบบวิเคราะห์ เล่าเเบบเเซ่บๆไม่เหมือนเรียนวิชาประวัติศาสตร์เเน่นอน

ขอเกริ่นนำบิ๊วอารมณ์กันสักนิด หลายคนอาจเคยอ่านประวัติศาสตร์ที่เป็นตำราสารพัด หลายๆตำราก็จะบอกช่วงเวลา เหตุการณ์สำคัญ เเต่ในบทความซีรีย์เล่าประวัติศาสตร์ เป็นการนำ ความรู้ทางประวัติศาสตร์ ซึ่งผมอ่านเเละรวมรวมจากหลายเว็บเเละหลายตำรา มาวิเคราะห์ถึงเหตุเเละผลที่ทำให้หน้าประวัติศาสตร์ ต้องจารึกเเบบนั้น ว่ามันมีที่มาเเละปัจจัยอะไรบ้าง ด้วยความรู้ทางภูมิศาสตร์ ถ้าพร้อมเเล้วติมตามได้เลยครับ...
มีคำกล่าวที่ว่า "ความเป็นอยู่ของมนุษย์ ทั้งความเชื่อ ความมั่งคั่ง การเเต่งกาย อาหารการกิน ภาษา ภูมิฐานความรู้ เเละอื่นๆล้วนเป็นผลมาจากปัจจัยทางภูมิศาสตร์ " หากยังนึกภาพไม่ออก ลองคิดตามเช่นนี้ก่อนครับ
คนที่อยู่บนภูเขา มีความเป็นอยู่เเตกต่างกับคนที่อยู่ใกล้ทะเลหรือไม่...? ใช่เเล้วครับ มันต่างกัน ทั้งความเชื่อ สภาพร่างกาย การเเต่งกาย เป็นต้น
ทีนี้มาดูกันว่า ปัจจัยทางภูมิศาสตร์อะไรบ้างที่ส่งต่อ อารยธรรมเมโสโปเตเมีย ให้กลายเป็นอารยธรรมที่ได้ขึ้นชื่อว่า "เก่าเเก่ที่สุดในโลก"

ภาพด้านบนที่เเสดงเป็นภาพของเเม่น้ำ2สาย คือ ไทกริสเเละยูเฟรทีส ซึ่งการตั้งถิ่นฐานส่วนใหญ่ของมนุษย์นิยมบริเวณที่ราบลุ่มเเม่น้ำอยู่เเล้ว เพื่อใช้ประโยชน์ในด้าน อุปโภค บริโภค การค้า เเละการคมนาคม

เเละหากดูจากเเผนที่เเสดงลักษณะภูมิศาสตร์ จะเห็นว่า ด้านฝั่งตะวันออกจรดเหนือจะเป็นเทือกเขา ด้านใต้เป็นทะเลทราย ซึ่งเเน่นอนสถานที่ลุ่มน้ำนี้เปรียบเสมือน โอเอซิส อันอุดมสมบูรณ์ก็ว่าได้ นักภูมิศาสตร์จึงเรียกบริเวณนี้ว่า
"พระจันทร์เสี้ยวอันอุดมสมบูรณ์"(Fertile crescent)


หากท่านผู้อ่านสังเกตุดีๆจะเห็นอะไรบางอย่างที่สำคัญมากอีกประการ คือ บริเวณที่ราบลุ่มเเม่น้ำไทกริสเเละยูเฟรทีส เป็นจุดเชื่อมทั้ง 3 ทวีปคือ
-ตะวันตกเฉียงเหนือเป็นยุโรป -ตะวันออกเป็นเอเชีย -ตะวันตกเฉียงใต้เป็นเเอฟริกา
สิ่งนี้ส่งผลให้ลุ่มน้ำไทกริส-ยูเฟรทีสเป็นที่หมายปองของเหล่ากลุ่มชนที่จะมาตั้งถิ่นฐานในอดีต
ซึ่งในอารยธรรมของเมโสโปเตเมีย มีความพิเศษนิดนึงตรงที่มีชนหลายกลุ่มพลัดกันมาครอบครอง เเละเสริมสร้างอารยธรรมเมโสโปเตเมีย ซึ่งสามารถเเบ่งเป็นอาณาจักรย่อยได้ดังนี้
-3,500 BC -สุเมเรีย -2,000 BC -บาบิโลน -800 BC -อัสซีเรีย -539 BC -คาลเดีย
เเละชนชาติที่เข้ามาครอบครองสำเร็จเเละสร้างอารยธรรมเมโสโปเตเมียยุคเเรกคือ "ชาวสุเมเรียน" ซึ่งเข้ามามีอิทธิพลต่อชนกลุ่มเดิมเเถบๆนั้น ชาวสุเมเรียน มีวัฒนธรรมเเละความเชื่อดั่งเดิม อย่างการนับถือเทพเจ้า นอกจากนี้ยังเป็นกลุ่มชนที่มีภูมิปัญญามาก ทำให้ชนกลุ่มดั่งเดิม
ยอมรับเเละรับวัฒนธรรมโดยง่าย ทำให้ชาวสุเมเรียนเป็นสามารถขยายวัฒนธรรมของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก...
จำได้ไหมจากปัจจัยทางภูมิศาสตร์ด้านดินเเดน ที่ติดถึง3 ทวีป เป็นผลให้ดินเเดนของชาวสุเมเรียนเป็นทางผ่านของกองคาราวานค้าขาย เเละเป็นเเหล่งตลาดวัตถุดิบจากต่างเเดนอีกด้วย ลองคิดคงดูว่าจะเกิดอะไรต่อ เเน่นอนอีกว่าต้องมีการเก็บภาษีของพ่อค้าเเน่นอน เมื่อการติดต่อค้าขายมั่งคั่งจึงเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งที่สำคัญมากของมนุษย์ ถึงกับทำให้มนุษย์มีวิวัฒนาการรุดหน้าอย่างรวดเร็วกว่าสัตว์อื่น ลองเดาดูสักหน่อยไหมครับว่าเป็นอะไร....? ติ๊ก ต๊อกๆๆ
สิ่งที่ว่านั้นคือ "อักษรเขียน" หรือตัวหนังสือ นั่นเองครับ เป็นอย่างไรบ้างถูกบ้างไหม ซึ่งในตอนเเรกถูกประดิษฐ์ขึ้นมาใช้เพื่อจนบันทึกการเก็บภาษีเเละการค้าขาย (ไม่ได้่เอาไว้สื่อสาร) เรียกได้ว่ามนุษย์เราหัวพ่อค้ามาตั้งเเต่หลายพันปีที่เเล้วเลยนะเนี่ย(555เเอบหัวเราะ) การเขียนทำโดยการนำดินเหนียวมาปั้นให้เป็นเเผ่น เเล้วนำเเท่งเหล็กที่เรียกว่าลิ่มมาถิ่มเป็นลาย อย่างในรูปด้านล่าง จึงเรียกอักษรชนิดเเรกนี้ว่า
"อักษรรูปลิ่ม"(Cuneiform)

การประดิษฐ์อักษรในครั้งนี้ช่วยทำให้การค้ามีประสิทธิภาพมาก ไม่ต้องหลงไม่ต้องลืมเหมือนเเต่ก่อน ทำให้ได้รับความนิยมอย่างเเพร่หลายอย่างรวดเร็ว เเละการสร้างอักษรในครั้งนี้ถูกนำไปใช้ในหลายๆด้าน เช่นศาสนา วรรณกรรม ทำให้มีการประดิษฐ์คำมาใช้มากขึ้น จนสามารถสื่อความหมายที่ใกล้เคียงกับภาษาพูดมากขึ้น เรามาดูความหมายของมันสักนิดนึงดีกว่าครับ

งานวรรณกรรมที่มีชื่อเสียงมากเรื่องหนึ่งของชาวสุเมเรียนคือ มหากาพย์กิลกาเมซ ซึ่งกิลกาเมซเป็นกษัตริย์องค์หนึ่งของชาวสุเมเรียน ในเรื่องเล่าว่าพระองทรงเป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งเทพ เเละในบันทึกกล่าวถึงมหาวิบัติครั้งใหญ่ของโลก (ขอเล่าโดยสังเขปก่อนนะครับ เดี๋ยวมาเล่าต่อในตอนถัดไปนะครับ) ซึ่งนักประวัติศาสตร์เชื่อว่า เป็นการทำให้ผู้คนศรัทธาต่อพระเจ้ามากขึ้นนั่นเอง
 มหากาพย์กิลกาเมซ
ชาวสุเมเรียนนั้นได้ชื่อว่าเป็นกลุ่มชนที่นับถือ พระเจ้าอย่างมาก ทำให้สร้างสถานที่บูชาอย่าง
"ซิกกูเเรต" (Ziggurat) เเละยังเป็นสถานที่ประชุมอีกด้วย โดยซิกกูเเรตจะสร้างในใจกลางเมืองเสมอเพื่อความเข้าถึงของทุกคน
 Ziggurat
เเละไม่เพียงตัวอักษรเท่านั้นครับ อย่างอื่นที่ส่งผลต่อโลกนี้ก็มีอีกคือ คณิตศาสตร์ การชั่ง ตวง วัด เลขฐาน 12 24 60 90 ที่ใช้จนถึงปัจจุบันอย่าง เวลา เเละมุม ปฏิทิน จะสังเกตุได้ว่าสิ่งต่างๆที่ประดิษฐ์ขึ้นมา ล้วนเป็นผลมาจากการค้าทั้งสิ้น
นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของอารยธรรมมนุษย์เท่านั้น ยังมีเรื่องราวอีกมากที่ชาวเมโสโปเตเมียทิ้งไว้ให้เรา เรื่องราวของอารยธรรมเมโสโปเตเมียจะเป็นอย่างไรต่อนั้น ติดตามต่อในตอนที่ 2 นะครับ
. เรียบเรียงโดย@น๊อต
อ้างอิงข้อมูลเเละรูปภาพประกอบ
- หนังสือประวัติศาสตร์สากล ม. 4-6 ค้น (26/5/2562) -พระจันทร์เสี้ยวอันอุดมสมบูรณ์ https://th.m.wikipedia.org/wiki -https://porprasit.wordpress.com -https://mesopota.wordpress.com/2015/07/05/20/ -ซิกกูเเลต https://buntitakootok1234.wordpress.com -อักษรลิ่ม https://board.postjung.com/646904 -เเปลอักษรลิ่ม https://yuttapoomsose.wordpress.com -ลุ่มน้ำ ไทกริส-ยูเฟรติส http://thaigoodview.com/node/12338 -สภาพภูมิศาสตร์ https://sites.google.com/site/mesopotamiabythipakorn/kaneid-me-so-po-te-meiy .
. ที่มา : "อารยธรรมเมโสโปเตเมีย" ปฐมบทเเห่งอารยธรรมยุคเเรกเริ่ม https://www.blockdit.com/posts/5ceaa539e964bd11772ead69?id=5ceaa539e964bd11772ead69&series=5d308910cd13572888e2bafc
.
|