| ppsan | 
								|  | «  on: 18  July  2025, 17:10:36  » |  | 
 
 ไปบ้านหมี่มาครับ  โดย ลวดหนาม (siamfishing.com)
 ลวดหนาม ตั้งกระทู้: 25 ต.ค. 54, 13:24 1
 
 
 
  
 เมื่อวานกลุ่มนักตกปลาชาวโคราชได้มีโอกาสร่วมเดินทาง
 ไปแจกของช่วยเหลือผู้ประสพอุทกภัยน้ำท่วมที่อำเภอบ้านหมี่ จ.ลพบุรีกับคณะศาลแรงงานภาค 3
 โดยมีท่านอภิธรรม อรัมภวิโรจน์ ท่านนพดล ลัญฉเวโรจน์ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะแรงงานภาค 3
 ท่านวิฑูร วิมลเศษฐ ( ท่านต้น ) ผู้พิพากษาแรงงานภาพ 3 พร้อมด้วยคณะได้เดินทางไปพร้อมกับเราตั้งแต่เวลา 5.00น
 
 
  ตลอดเส้นทางจากโคราชจนถึงปลายทางเราได้รับความร่วมมือจากตำรวจทางหลวงนำทางให้คณะเป็นอย่างดีครับ
 
 
  คณะของเราแวะทำธุระก่อนที่ outlet ก่อนที่จะเดินทางกันต่อ
 
 
  ท่านต้นนำเรือส่วนตัวมาด้วย ปกติเรือลำนี้มีไว้ล่ากระสูบ
 แต่วันนี้ทำหน้าที่ล่อเป้าให้น้าหม่ำ
 
 
  ทีมงานรับแจกข้าวกล่องไว้รองท้อง ก่อนที่จะปฏิบัติหน้าที่กันอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย
 
 
  ผมนั่งรถมากับน้าหม่ำโดยมีน้องแบงค์ลูกชายน้าหม่ำมากับเราด้วยเช่นกัน
 
 
  น้าหม่ำเองก็ขนของแจกมาเต็มลำเรือเหมือนกัน
 
 
  บรรทุกเกินอัตราแบบนี้นี่เองถึงเบรคไม่อยู่ ฟาดท้ายท่านต้นดังโครมเลย
 
 
  เพิ่มน้ำและพลังงานให้กับร่างกายก่อนครับ เช้านี้แดดแรงเอาเรื่องเหมือนกัน
 
 
  เรือตกปลาจากโคราชมากันหลายลำ และยังมีเรือจากโรงพยาบาลเมืองยางด้วย
 
 
  ท่านต้นเองกับอาจารย์ตู่สนทนาไปด้วยและก็กินอาหารไปพร้อมๆกันด้วย
 
 
  หลังเสร็จธุระเราก็เดินทางกันต่อครับ
 
 
  ตลอดเส้นทางเราขับรถตามท่านต้นตลอดครับ
 
 
  คณะของเราจะแวะที่ศาลากลางจังหวัดลพบุรีกันก่อนครับ
 
 
  เส้นทางการจราจรก็อย่างที่เห็นนี่แหละครับ
 รถบรรทุกและรถเล็กหลายคันต้องหนีน้ำมาใช้เส้นทางเดียวกันทุกคัน
 
 
  เรามาถึงศาลากลางจังหวัดลพบุรี ซึ่งมีหลายๆท่านรอเดินทางสมทบกับคณะเราด้วย
 
 
  ทุกคนในคณะต่างมีจุดหมายเดียวกัน คือไปช่วยเหลือพี่น้องร่วมชาติ
 
 
  แม้แดดจะร้อนเพียงใดก็ไม่ได้ทำให้คณะของเราย่อท้อ
 
 
  เรารอคณะสมทบประมาณครึ่งชั่วโมงก็ออกเดินทางกันต่อ
 ซึ่งคณะของเราจะแบ่งเป็นสองกลุ่ม
 กลุ่มของเราจะมุ่งหน้าสู่วัดกริ่นกฐิน
 
 
  วัดกริ่นกฐินเมื่อเดือนที่ผ่านมาน้ำไหลบ่าเข้ามาแรงมาก
 แต่เวลานี้หลายหน่วยงานได้อาศัยวัดแห่งนี้เป็นศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสพอุทกภัยด้วย
 
 
  เรือทุกลำต่างเตรียมความพร้อมก่อนที่จะทะยอยกันลงน้ำทีละลำๆ
 
 
  โชคดีหน่อยครับ ที่วัดมีทางให้เรานำเทรลเลอร์ลงเรือได้ด้วย
 
 
  น้าโต้งนำเรือมาด้วยหนึ่งลำ โดยมีน้ามิตรนั่งมาเป็นเพื่อน
 
 
  ท่านต้นเองก็กำลังจัดแจงปลดเชือกผูกเครื่องเรือ
 ก่อนถอยเทรลเลอร์ลงน้ำ
 
 
  เรือของอาจารย์ตู่ มากับโปรปื๊ดครับ
 
 
  ใกล้เที่ยงพอดี แดดทวีความแรงตลอดเวลา
 แต่พวกเราก็ยังคงไม่สะทกสะท้านเช่นเคย
 
 
  เรือท่านต้นลงน้ำได้อย่างสบายๆครับ
 
 
  จุดหมายปลายทางของเราอยู่ที่บ้านบางขาม โดยเราจะขับเรือตามเรือของทหารนำทาง
 ส่วนผมกับน้าหม่ำเกาะหลังเรือหางยาวของชาวบ้านครับ
 
 
  น้ำหม่ำกำลังถอยเทรลเลอร์ลงน้ำครับ
 
 
  น้ำและอาหารแห้งต่างถูกลำเลียงลงจากรถเพื่อนำไปแจกจ่ายผู้ประสพอุทกภัย
 
 
  เรือหางยาวลำนี้อัดสามครับ แต่ขากลับหายไปหนึ่ง
 
 
  เรือของเราวิ่งไม่ออกเลย เป็นเพราะสัมภาระที่บรรทุกหนักนั่นเอง
 
 
  ไม่กล้าขับเร็ว เพราะไม่รู้ว่ามีตออยู่ตรงไหนบ้าง
 
 
  ระหว่างทางเราเจอกลุ่มชาวบ้าน พายเรือออกมายิงหนูไปเป็นอาหาร
 
 
  เรือของน้าโต้งเองก็วิ่งไม่ออกเช่นกัน จึงยกหางเพื่อเช็คความบกพร่อง
 
 
  
 
  พอเข้าหมู่บ้านก็รู้ว่าน้ำยังไหลเชี่ยวมาก การบังคับเรือก็เพิ่มความลำบากไปด้วย
 
 
  โรงงานที่อยู่ริมน้ำมีแต่ความเงียบสงัด
 
 
  แม้แต่บ้านที่อยู่ริมน้ำ ก็กลายเป็นบ้านร้างกันทุกหลังครับ
 
 
  ตอนที่วิ่งไล่ตามฉลามแถวลำตะคอง นึกว่าเรืออลูลำนี้จะตามขบวนไม่ทันเสียอีก
 ที่ไหนได้ แคริเบียนวิ่งฉิวเลยครับ
 
 
  น้าคิดตอนนี้ใบพัดอยู่ครบสามใบ
 แต่ขากลับ หักหมดทั้งสามใบเหมือนกันครับ โดนสันถนนยางมะตอยนั่นเอง
 
 
  น้ามิตรนั่งกุมเสบียงอย่างไม่คลาดสายตา
 ในถังน้ำแข็งมีของเย็นๆแช่ไว้เพรียบ
 
 
  จุดหมายของเราอยู่ที่วัดวาสนวรามครับ
 
 
  แม้น้ำจะท่วมเพียงไรก็ตาม แต่ที่นี่ก็ยังเป็นที่รวมยึดเหนี่ยวจิตใจ
 รวมทั้งใช้เป็นศูนย์กลางบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้านด้วย
 
 
  กลุ่มชาวบ้านที่มารอรับของแจก เพราะเจ้าหน้าที่ อบต.ประชาสัมพันธ์ไว้ล่วงหน้า
 
 
  หากมองเผินๆ นึกว่าตลาดน้ำเสียอีก
 
 
  คณะของเราเริ่มทะยอยกันมาถึงทีละลำสองลำ เราจะทำการแจกของให้กับชาวบ้านหมู่ที่ 1 ก่อน
 
 
  กลุ่มของชาวบ้านมารับรับของอย่างเป็นระเบียบครับ
 
 
  ป้าคนนี้มีรายชื่อเป็นคิวแรกๆในการรับของ จึงนำเรือเข้ามาก่อนลำอื่น
 
 
  คณะของเราทะยอยกันเข้ามาเรื่อยๆครับ
 
 
  ทั้งผู้ให้และผู้รับต่างไม่มีใครกลัวแดดกันเลยครับ
 
 
  เรือท่านต้นเองก็เพิ่งเดินทางมาถึงเหมือนกัน
 
 
  คณะของเราได้รับการกล่าวต้อนรับและกล่าวขอบคุณจากตัวแทนของชาวบ้าน
 หลังจากนั้นท่านอิทธิธรรมก็กล่าวแสดงความห่วงใยกับพี่น้อง
 
 
  แม้น้ำจะท่วมสักเพียงไร  แต่น้ำใจของคนไทยไม่เคยทอดทิ้งกันจริงๆครับ
 
 
  หลายๆท่านที่มาพร้อมคณะ ต่างมีความสุขที่เป็นผู้ให้
 
 
  คณะของเราหาที่เทียบเรือตามร่มไม้ ชาวบ้านหลายคนแสดงความเป็นห่วง
 โดยเรียกให้ขึ้นแพ แต่หลายๆคนต่างขอพักตามอัธยาศัย
 
 
  ท่านต้นกำลังกล่าวปลอบขวัญและแสดงความเป็นห่วงต่อชาวบ้านที่มารับรับของ
 
 
  เราตื่นนอนกันตั้งแต่ตีสามตีสี่
 เมื่อมาเจอสภาพแบบนี้.หายเหนื่อยกันเลยครับ
 ชาวบ้านที่นี่ลำบากกว่าพวกเราเยอะ
 
 
  ถุงยังชีพและของแจกถูกลำเลียงแจกจ่ายให้ชาวบ้าน  ตามรายชื่อที่ผู้นำชาวบ้านเรียกมารับตามลำดับ
 
 
  เป็นอีกครั้งที่ผมได้เข้ามาแจกจ่ายของกินของใช้ให้กับพี่น้องชาวบ้าน
 ปีนี้หนักจริงๆครับ
 
 
  ท่านต้นนำถุงยังชีพมาแจกจ่ายให้กับชาวบ้านด้วยเช่นกัน
 
 
  ชาวบ้านที่ยังไม่ได้รับของ ก็ทะยอยเข้ามาตามเสียงเรียกของผู้นำ
 
 
  บางคนที่ไม่มีเรือ ก็อาศัยเรือของเพื่อนบ้านมารับของแจก
 
 
  ชาวบ้านบอกกับผมว่า น้ำท่วมสูงเช่นนี้ 36 วันแล้ว
 
 
  คุณยายคนนี้ขอแลกกุงเกงของผมกับผ้าถุงที่แกนุ่งมาวันนี้
 
 
  น้าโต้ง วันนี้งดตกปลา แต่มาเอาบุญแทน
 
 
  เรือน้าหม่ำหลังจากของข้าวของลงหมดแล้ว
 
 
  ชาวบ้านกลุ่มนี้คงมีรายชื่ออยู่ท้ายๆกลุ่ม จึงหาที่หลบแดดรอเรียกชื่อตามลำดับ
 
 
  เราใช้เรือเดินทางเข้าไปแจกของที่หมู่ 2 กันต่อ
 ที่นี่ถูกน้ำท่วมสูงเช่นกัน
 ทาง อบต.จึงยกสุขาเคลื่อนที่มาตั้งให้บริการ
 
 
  ทุกคนที่มา  ต่างร่วมกันแจกของกันอย่างทั่วถึงครับ
 
 
  น้าโต้งยกมือรับไหว้  เมื่อเห็นว่าชาวบ้านยกมือไหว้ขอบคุณ
 
 
  นอกจากจะชอบตกปลาแล้วยังชอบทำบุญควบคู่กันไปครับสำหรับน้าหม่ำ
 
 
  ผมก็แจกเหมือนกันครับ จะได้เอาบุญไปฝากคนที่บ้าน
 
 
  น้ามิตรก็ร่วมแจกด้วยครับ
 
 
  สภาพบ้านชั้นเดียวเกือบมิดหลังคา
 
 
  ส่วนบ้านสองชั้นหายไปหนึ่งชั้นครับ
 
 
  กลุ่มสุดท้ายที่เราเข้ามาแจกของ น้าหม่ำนำเรือตามผู้นำชุมชนก่อนเรา
 ที่นี่มีคนอาศัยอยู่ไม่กี่ครัวเรือน เนื่องจากคนส่วนใหญ่ อพยพครอบครัวไปอยู่กันที่ศูนย์กันหมด
 
 
  แต่ก็ยังมีคนสูงอายุหลายคนที่ไม่ยอมทิ้งบ้านของตนไปไหน
 ได้แต่นั่งภวนาว่าขอให้น้ำลดเร็ววันเร็วคืนเถิด
 
 
  คุณตาพาหลานน้อยมารับของแจก พร้อมด้วยเจ้าตูบหมาคู่ใจของหลาน
 
 
  หากน้ำไม่ท่วมเช่นนี้ ป่านนี้เจ้าตูบคงวิ่งเล่นตาประสา
 
 
  คุณยายได้ของแจก แล้วก็จ้ำเรือพายเข้าไปเก็บที่บ้าน
 
 
  สังเกตเห็นว่ามีแต่คนสูงอายุ
 
 
  คุณตาผู้นี้เล่าให้เราฟังว่า คนหนุ่มคนสาวย้ายไปกันหมดแล้ว
 ส่วนคนแก่อย่างเรา ขอตายกันที่นี่
 
 
  น้าคิดหาที่หลบแดดใต้ร่มไม้ เพราะแดดแรงจริงๆ
 
 
  พี่สาวคนนี้ปิดหน้าปิดตาบังแดดมารับของ
 แกบอกว่าอายความสวยของแก
 
 
  เราแจกเรือลำนี้เป็นลำสุด หลังจากนั้นก็พากันเดินทางกลับ
 
 
  ได้บุญมากันทุกคนครับ
 
 
  ระหว่างทางเราพยายามขับเรือช้าๆ  เพื่อไม่ให้คลื่นไปรบกวนบ้านเรือนของชาวบ้าน
 
 
  น้าโต้งขับเรือตามท่านต้น
 เนื่องจากเจ้า 15 แรงที่น้าหม่ำเสยท้ายเมื่อเช้าทำท่างอแงตลอดเวลา
 
 
  เราเดินทางกลับถึงวัดกริ่งกฐินอีกทีในเวลาสี่โมงกว่าๆ
 
 
  เรือหลายๆลำทะยอยกันขึ้นฝั่งก่อนหน้าเรา และก็ปลอดภัยกันทุกลำครับ
 
 
  ท่านต้นกับผู้พันหมู รอให้เรือลำอื่นขึ้นเทรลเลอร์ก่อน
 
 
  วันนี้ก็เหมือนกับการตกปลา
 เราออกจากบ้านกันตั้งแต่เช้ามืด และกลับเข้าบ้านตอนตะวันลับขอบฟ้าเช่นเดิม
 
 
  วัดก็คือสถานที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ
 แม้ประสบอุทกภัย แหล่งรวมจิตใจก็ยังสงบนิ่งเสมอ
 
 
  ผู้พันหมูกำลังเดินไกด์ไปส่งท่านต้น
 
 
  เรือของเราเป็นเรือลำสุดท้ายที่จะขึ้นเทรลเลอร์
 ผมจึงเก็บภาพไปพลางๆ
 
 
  พวกเราก็ได้แต่ภาวนาว่า ขอให้น้ำลดไวๆ
 พี่น้องชาวบ้านจะได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง
 
 
  เมื่อส่งท่านต้นขึ้นฝั่ง ผู้พันหมูก็ออกมารอให้เรือลำอื่นๆขึ้นเทรลเลอร์กันก่อน
 
 
  เพื่อนๆต่างช่วยกันคนละไม้คนละมือ
 
 
  ก่อนกลับ น้าหม่ำขอให้ผมถ่ายภาพให้หนึ่งใบ
 
 
  หวังว่าอีกไม่กี่วันน้ำคงลดลงไปบ้าง
 
 
  เรานำเรือขึ้นเทรลเลอร์กันครับทุกลำ และเราก็ปลอดภันกันทุกคนครับ
 
 
  ขอปิดใบนี้เป็นใบสุดท้ายครับ
 และขอนำบุญที่เราได้ มาฝากเพื่อนๆทุกๆคนด้วย
 ขอบคุณเวปสยามฟิชชิ่งที่ให้ใช้พื้นที่ในการแบ่งปันด้วยครับ
 
 .
 .
 
 คิด ความเห็นที่ 142: 26 ต.ค. 54, 10:18
 
 
  แง  ฟันหลอ
 แต่ได้บุญ  ได้คำอวยพร
 
 .
 
 
 ขอขอบคุณ ภาพจาก... ไปบ้านหมี่มาครับ
 https://www.siamfishing.com/board/view.php?tid=638530
 
 .
 
 
 
 
 
 |