ppsan
|
 |
« on: 14 June 2025, 09:11:35 » |
|
บึงบอระเพ็ด : นกช้อนหอยขาว (นกกุลา)

ระหว่างที่มองหาเจ้า Baikal teal อย่างตั้งใจ มีใครคนหนึ่งพูดว่า นกกุลา บนคันนาทางซ้าย ท่ามกลางกลุ่มนกยาง นกสีขาวคอสีดำ ยืนกันอยู่ 2 ตัว เป็นนกน้ำขนาดปานกลาง สูงราว 65-75 ซ.ม. นกช้อนหอยขาว นั่นเอง มีชื่อภาษาอังกฤษว่า black-head ibis ในอดีตเป็นนกประจำถิ่นของไทย แต่หายไปเมื่อราว 50 ปีก่อน ปัจจุบันมีสถานะเป็นนกอพยพที่หายาก สำหรับคนดูนกในเมือง พบบ่อยๆ เช่น สถานีวิจัยข้าวปทุมธานี และบางปู ในต่างจังหวัด มีรายงานการพบตามท้องนา บ่อน้ำกระจายอยู่ทั่วประเทศ บางทีเราก็สับสนกับพวก spoonbill หรือนกปากช้อน สรุปไว้ตรงนี้ว่า นกช้อนหอยจะมีปากยาวตรง ในขณะที่นกปากช้อนปลายจะบาน นกช้อนหอย จะหากินในดินเลนโดยการจิกหา ในขณะที่นกปากช้อน จะใช้การส่ายปากไปมาในแหล่งน้ำตื้นๆ นกช้อนหอย มักจะหากินเดี่ยวๆ แต่นกปากช้อน จะมีพฤติกรรมรวมฝูงช่วยกันต้อนเหยื่อ ในขณะบิน คอของนกช้อนหอยจะตรงเหมือนนกกระสา ในขณะที่คอของนกปากช้อน จะหดเป็น S เหมือกลุ่มนกยาง ตาม bird guide of Thailand มีนกช้อนหอยหรือ ibis อยู่ 4 ชนิด นกช้อนหอยดำเหลือบ ที่เป็นนกประจำถิ่นไปแล้ว นกช้อนหอยขาวหรือนกกุลา นกช้อนหอยดำ (white shouldered ibis) และนกช้อนหอยใหญ่ (giant ibis) สองชนิดหลัง มีสถานะสูญพันธุ์จากประเทศไทย แต่ยังมีอยู่ในประเทศกัมพูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งนกช้อนหอยใหญ่ ที่ถูกใช้เป็นนกประจำชาติ

มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Threskiornis melanocephalus แบ่งเป็นสองกลุ่ม คือกลุ่มที่ถิ่นอาศัยอยู่ในอนุทวีปอินเดีย พม่า กัมพูชา เกาะสุมาตรา ชวา มีการโยกย้ายถิ่นฐานสั้นๆ ไปตามสภาพของพื้นที่หากิน และกลุ่มที่อาศัยอยู่ในประเทศจีนแถบติดทะเล ตั้งแต่มณฑลเจ้อเจียง ฟูเจี้ยน ไต้หวัน กวางตุ้ง ซึ่งอาศัยอยู่ตามแหล่งน้ำต่างๆ ตลอดปี ในขณะที่ในฤดูหนาว บางส่วนอาจมีการอพยพลงมายังเวียดนาม ลาว กัมพูชา พม่าและไทย หรือกระทั่งที่ เกาะลูซอน ของฟิลิปปินส์ นกที่พบในประเทศไทย ยังไม่มีการศึกษาอย่างชัดเจนว่า ว่านกที่พบทางภาคกลาง เป็นประชากรที่อพยพสั้นๆ มาจากประเทศใกล้เคียงคือ พม่า กัมพูชา หรือเป็นนกที่อพยพมา ในช่วงหน้าหนาวจากประเทศจีนกันแน่ ไม่ว่าจะอย่างไร ก็น่าสนใจทั้งสองอย่าง เพราะอย่างที่เคยเล่าไป ถึงการกลับมาของนกน้ำที่เคยหายไปอย่างกรณีของ นกช้อนหอยดำเหลือบ ที่เชื่อว่าเป็นกลุ่มที่อพยพมาจากประเทศจีนในฤดูหนาวแล้วไม่บินกลับไป หรืออย่างกรณีของนกอ้ายงั่ว ที่เกิดจากประชากรที่ล้นมาจากฝั่งกัมพูชา เราหวังว่าความอุดมสมบูรณ์ของบึงบอระเพ็ด จะดึงดูดให้นกช้อนหอยขาวเหล่านี้ อาศัยอยู่ที่นี่ตลอดไป แต่ยังมีเรื่องสำคัญอีกประการหนึ่ง นั่นก็คือรายงานการพบเห็น นกช้อนหอยขาวที่มีขนบริเวณก้นสีดำ และขณะบินเห็นขนปลายปีกสีดำ หากินกระจายอยู่ทั่วกรุงเทพและปริมณฑล มันคือนกช้อนหอยแอฟริกา คำถามสำคัญก็คือ พวกมันทำรังวางไข่ได้หรือหรือเปล่า หากคำตอบคือใช่ นั่นคือหายนะ เพราะวันหนึ่งอาจกระจายตัวไปทั่วประเทศ มีการอพยพไปผสมพันธุ์ กับนกช้อนหอยขาวตามธรรมชาติ ทำลายประชากรที่มีสายเลือดบริสุทธิ์ ในประเทศข้างเคียง จนกลายเป็นประชากรลูกผสม ที่ไม่อาจจะฟื้นฟูให้กลับคืนมาได้อีก
ประเมินว่ามีประชากรอยู่ราว 250,000 - 500,000 ตัว และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น IUCN จึงประเมินว่ามีความเสี่ยงในระดับ less concern
. ที่มา : ขอขอบคุณเรื่องและภาพจาก ผู้ชายในสายลมหนาว https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=nontree&month=03-2025&date=24&group=22&gblog=142 .
|