Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
User Info
Welcome, Guest. Please login or register.
16 June 2025, 16:21:41

Login with username, password and session length
Search:     Advanced search
News
ท่านสมาชิกสามารถเปลี่ยนรูปแบบ (Theme) ได้อีกหลายแบบ
เชิญทดลองโดยคลิกที่ลิงค์ข้างล่าง ได้เลยครับ

http://www.smilesiam.net/index.php/topic,3170.msg4713.html
Forum Stats
27,262 Posts in 13,290 Topics by 70 Members
Latest Member: KAN
Home Help Search Calendar Login Register
Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...  |  ภาพประทับใจ  |  ภาพสวยงาม  |  Animals  |  ปากพลี : black kite
0 Members and 1 Guest are viewing this topic. « previous next »
Pages: [1] Go Down Print
Author Topic: ปากพลี : black kite  (Read 40 times)
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 10,092


View Profile
« on: 12 June 2025, 09:26:20 »

ปากพลี : black kite




ทุกปีในราวต้นเดือนธันวาคม จะมีเทศกาลชมเหยี่ยวดำอพยพ
ที่จัดโดยคนในชุมชน ต. ท่าเรือ อ. ปากพลี จ. นครนายก
วันที่ 1 ธ.ค. 2567 ยามเช้าเราก็ไปถึงพื้นที่
มีเพียงนิสิตคณะสัตวแพทย์ ม.เกษตร พานักเรียนมาดูนก
 
เพิ่งมาเป็นครั้งแรก ก็เลยเนียนๆ แฝงตัวเข้าไปในกลุ่ม
เห็นเค้าเล่าว่า มีอินทรีย์ปีกลายในกล้อง เราก็ย่องเข้าไปส่องดู
ปรากฏว่าไม่เห็น น่าจะบินไปแล้ว ผู้นำชมก็เล่าถึงนกอื่นๆ
เรามาดูเหยี่ยวเห็นว่าน่าจะไม่เกี่ยวข้องกัน ก็เลยแยกตัวมา

แต่ก็ยังทันได้ความรู้จากน้องที่ทำหน้าที่เป็นไกด์มาว่า
เหยี่ยวหลักๆ ที่นี่คือ black kite โดยมีอยู่ 2 สายพันธุ์
ประกอบไปด้วยเหยี่ยวหูดำหรือเหยี่ยวดำใหญ่ และเหยี่ยวดำไทย
แต่ผมก็แยกไม่ออกอยู่ดี เอาเป็นว่าที่ถ่ายมาเป็นเหยี่ยวหูดำหมดก็แล้วกัน
 
black kite ถูกบันทึกไว้ครั้งแรกโดย Georges-Louis Leclerc
เคาท์แห่งบูฟอง นักธรรมชาติวิทยาชาวฝรั่งเศส ในหนังสือชื่อ
Histoire Naturelle des Oiseaux ในปี 1770
ปัจจุบันมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Milvus migrans
 
milvus เป็นภาษาละติน หมายถึงเหยี่ยวแดง และ migran หมายถึงการอพยพ
เพราะในยุโรปมีการพบเหยี่ยวแดง และในหน้าหนาวนกนี้มีการอพยพลงใต้
มีความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ต่ำ ประมาณว่ามีประชากรมากกว่า 5 ล้านตัว
กระจายตัวอย่างกว้างขวางตั้งแต่ยุโรป แอฟริกา เอเชีย ไปถึงออสเตรเลีย



แบ่งออกเป็น 5 ชนิดย่อย แต่ที่พบในบ้านเรามี 2 ชนิดย่อย
เหยี่ยวหูดำหรือเหยี่ยวดำใหญ่ black-eared kite (M. m. lineatus)
และเหยี่ยวดำหรือเหยี่ยวดำไทย small Indian kite (M. m. govinda)
ที่ทุ่งปากพลี เหยี่ยวหูดำทั้งหมดเป็นนกอพยพที่พบได้มากกว่า
ส่วนเหยี่ยวดำบางส่วนเป็นนกประจำถิ่น พบจำนวนน้อยกว่า
 
เหยี่ยวหูดำมีถิ่นอาศัยในทางตอนเหนือของเอเชีย ตั้งแต่
ไซบีเรีย ลุ่มแม่น้ำอามูร์ ญี่ปุ่น จีนตอนใต้ ตอนเหนือของอินโดจีน
แถบเทือกเขาหิมาลัย ลงมายังตอนเหนือของอินเดีย เมื่อถึงหน้าหนาว
จะอพยพลงมายังอ่าวเปอร์เซียตะวันออก และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 
โดยเฉพาะอย่างยิ่งไทย มีจำนวนเพียงเล็กน้อยที่ผ่านลงไปถึงมาเลเซีย
 
เหยี่ยวดำมีขนาดตัวที่เพียวบางกว่าเหยี่ยวหูดำ มีแฉกหางที่ตื้นกว่า
เดิมมีชื่อภาษาอังกฤษว่า Pariah kite ซึ่งมาจากภาษาทมิฬ
ที่หมายถึง พวกคนชั้นต่ำ ทำให้ปัจจุบันถูกเลิกใช้ไปแล้ว
มีถิ่นอาศัยอยู่ในตะวันออกของปากีสถาน อินเดียตอนกลาง
ศรีลังกา อินโดจีน และคาบสมุทรมาเลย์

เมื่อถึงหน้าหนาวเหยี่ยวดำบางส่วนที่อาศัยในอนุทวีปอินเดีย พม่า
กระทั่งทางตอนเหนือของอินโดจีน จะพากันอพยพมาไทย
ทั้งที่ในพื้นที่เหล่านี้ก็เป็นฤดูกาลที่ตรงกับบ้านเรา
ซึ่งมีอุณหภูมิความหนาวที่ไม่แตกต่างกันนัก

อะไรที่ทำให้เหยี่ยวดำบางตัวต้องเดินทางไกลมาหลายพันกิโลเมตร



พื้นที่ใน อ.ปากพลีและ อ. บ้านสร้าง เป็นทุ่งกว้างรับน้ำจากเขาใหญ่
ทำหน้าที่เป็นแก้มลิงตามธรรมชาติ ราษฎรก็ยังมีอาชีพทำนา
จึงเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่สำคัญของภาคกลางด้านทิศตะวันออก
เป็นบ้านหลังสุดท้ายของปลาพื้นบ้านที่หายากหลายสายพันธุ์
 
เฉพาะพื้นที่ป่ายูคาตรงจุดดูเหยี่ยวทุ่งปากพลี มีพื้นที่ราวพันกว่าไร่
เนื่องจากเป็นที่ดินสาธารณะ ทำให้ตรงนี้รกร้างและไม่มีบ้านคน
ทั้งสองสิ่งนี้ประกอบกัน ทำให้มันเป็นบ้านที่เหมาะสม
ของเหยี่ยวหูดำที่หลบลมหนาว มาจากทางตอนเหนือ
และเหยี่ยวดำที่อาศัยอยู่ในอินเดีย พากันอพยพมาที่นี่
 
ตรงกับช่วงเวลาที่เกษตรกรไทย อยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวข้าวในนา
การฟาดข้าวให้แยกออกจากรวง ทิ้งให้เมล็ดบางส่วนตกหล่นบนผืนดิน
หนูพุกหรือหนูนา จึงใช้เวลาในช่วงนี้ออกมาหากินอาหารที่อุดมสมบูรณ์
เหยี่ยวอพยพเองก็ออกล่าหนูเหล่านี้ เกิดเป็นวงรอบของชีวิตอันสัมพันธ์กัน
 
แตกต่างกันที่เหยี่ยวหูดำนั้นอพยพลงมาเพียงเพื่อหนีหนาว
เมื่อผ่านพ้นไปพวกมันก็จะไปบินกลับไปทำรังวางไข่ในเอเชียตอนเหนือ
เป็นนกอพยพที่มีสถานะเป็น winter resident
ในขณะที่เหยี่ยวดำจะอาศัยช่วงเวลาที่มีอาหารอุดมสมบูรณ์นี้ทำรังวางไข่
 เป็นสถานะที่หาได้ยาก เราอาจจะนิยามขึ้นมาใหม่ว่า winter breeding



ในการสำรวจประชากร black kite ในไทย
พบว่ามีแหล่งอาศัยหลายที่ ตั้งแต่ลำพูน นครสวรรค์ ลพบุรี โคราช
ปากพลี รวมถึงเพชรบุรี แต่สถานที่เหล่านี้ มีจำนวนหลักสิบถึงหลักร้อย

ในขณะที่ทุ่งปากพลี มีจำนวนพบมากที่สุดถึง 1,500 ถึง 2,000 ตัว
ส่วนมากเป็นเหยี่ยวหูดำ และมีเหยี่ยวดำปะปนอยู่ในราวหลักร้อย
 รวมกันแต่ละปีจะมีเหยี่ยวสองชนิดนี้ ในประเทศไทยราว 5,000 ตัว

และนั่นก็เป็นครั้งแรกของเรา ในการได้เห็นเหยี่ยวดำ
นอกจากทุ่งปากพลี ยังมีสถานที่ยอดนิยม
ในการดูเหยี่ยวและนกอินทรีย์อีก 2 แห่ง

หนึ่งคือ ต หนองปลาไหล จ. เพชรบุรี
สองคือ เขาดินสอที่ชุมพร ซึ่งเป็นช่องแคบเส้นทางอพยพของนกนักล่า
มีข่าวว่าจะมีการสร้างกังหันลมเพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้าในบริเวณใกล้เคียง
เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะรบกวนการเดินทางของนกอพยพ

ประเทศไทยมีภูมิศาสตร์ที่เป็นศูนย์กลางของการสัญจรในย่านนี้
การสร้างสิ่งก่อสร้างสมัยใหม่ก็ดี การทำลายพื้นที่ชุ่มน้ำก็ดี
ล้วนส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศของนกอพยพในระดับสากลอย่างแน่นอน
น่าเสียดายที่เสียงของนักอนุรักษ์นั้นคงจะเบาเกินกว่าที่ผู้มีอำนาจจะได้ยิน


.
ที่มา : ขอขอบคุณเรื่องและภาพจาก
ผู้ชายในสายลมหนาว
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=nontree&month=12-2024&date=03&group=22&gblog=94
.




Logged
Pages: [1] Go Up Print 
« previous next »
 

SMF 2.0.4 | SMF © 2013, Simple Machines | Theme by nesianstyles | Buttons by Andrea
Page created in 0.046 seconds with 20 queries.