| ppsan | 
								|  | «  on: 18  June  2024, 09:31:49  » |  | 
 
 การเดินทางออกตามหาภาพในดวงใจ “รอยยิ้มของพ่อ”
 การเดินทางออกตามหาภาพในดวงใจ “รอยยิ้มของพ่อ”
 Image • October 12, 2018
 
 
  
 ตุลาคม ๒๕๕๙
 
 ภาพถ่ายใบหนึ่งถูกแชร์ทางโซเชียลผ่านสายตาหลายครั้ง  หลังการสูญเสียครั้งสำคัญที่ทำให้หัวใจคนไทยทั้งประเทศต้องร้องไห้ ในวันที่ ๑๓ ตุลาคม
 
 เป็นภาพที่มีรอยยิ้ม ไม่ใช่รอยยิ้มองอาจแบบพระราชาที่น่าเกรงขาม  แต่เป็นร้อยยิ้มเรียบๆ ที่เปี่ยมไปด้วยความสุขของผู้ชายในวัยทำงานคนหนึ่งที่ได้ไปเที่ยวกับครอบครัวและลูกๆ ….ในสถานที่ที่พ่อเคยเติบโตมา
 
 “ยิ้มของพ่อกับครอบครัว”…..มีรอยยิ้มแบบนี้สักกี่ครั้งกันที่พวกเรามีโอกาสได้เห็น
 
 ภาพถ่ายใบนั้นเป็นโอกาสครั้งสุดท้าย ที่พ่อได้พาครอบครัวไปเที่ยวในสถานที่ไกลๆอย่างพร้อมหน้า (ในปี ๒๕๐๓ การเสด็จเยือนประเทศ Switzerland ครั้งนี้เป็นการเสด็จฯเยือนครั้งสุดท้าย เนื่องจากอีกสองสามปีต่อมา ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงตัดสินพระทัยที่จะทุ่มเทพระวรกายเพื่อการพัฒนาประเทศอย่างเต็มที่และจะไม่เสด็จฯออกนอกประเทศอีก)
 
 โคมไฟดวงนั้นจะยังอยู่ในสภาพเดิมหรือไม่ ในเมื่อเวลาผ่านไปถึงห้าสิบกว่าปี นับจากปี ๒๕๐๓
 
 พฤษภาคม ๒๕๖๐
 
 ลุงหมอวางแผนการเดินทางไปยังที่แห่งนั้นซึ่งคิดว่าเป็นสถานที่ที่อยู่ในภาพถ่าย โดยดูจากในแผนที่ มีภูเขาอยู่ลูกหนึ่ง ที่สามารถมองลงมาเห็นเมือง Gataad ได้อย่างงดงามในมุมสูง แต่ ภูเขาลูกนี้ไม่ได้เปิดเส้นทางให้ขึ้นไปได้ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงรอยต่อฤดู
 
 
  
 
  
 การเดินทางถูกกำหนดไว้แล้ว อย่างไรก็ต้องลองไปดู
 
 แต่ดูเหมือนว่าสภาพพื้นดินบนทางเดินขึ้นไปยังยอดเขาในเดือนพฤษภาคมจะยังไม่เอื้ออำนวยให้กับการเดินเท้าขึ้นไป
 
 
  
 Skilift หรือ Chairlift ที่ขึ้นไปบนนั้นก็เพิ่งจะปิดพักหลังจากพ้นช่วงฤดูหนาว ภูเขาแห่งนี้คือลานสกีที่มีชื่อเสียงของ Gstaad
 
 
  
 ลานสกีด้านบนยังคงเต็มไปด้วยหิมะที่ยังละลายไม่หมด
 
 
  
 
  
 เมื่อดูจากแผนที่มา ลุงหมอคิดว่า ถ้าหิมะละลายก็อาจจะค่อยๆเดินขึ้นไปตามทางจนถึงยอดเขาได้
 
 
  
 แต่แล้วการเดินเท้าขึ้นไป ก็ต้องจบลงด้วยความผิดหวัง ลุงหมอไม่สามารถเดินฝ่าหิมะที่ปกคลุมในช่วงที่อยู่สูงขึ้นไปได้ …… ทำได้แค่สัญญากับตัวเองว่ายังไงก็จะกลับมาที่นี่ใหม่ แต่ต้องใช้เวลากลับไปเตรียมพร้อมร่างกายด้วยการออกกำลังเป็นอย่างดีจะได้มีแรงเดินขึ้นไปให้ถึง
 
 
  
 
  
 กันยายน ๒๕๖๐
 
 เมื่อฤดูร้อนผ่านพ้นไป ลุงหมอได้มีโอกาสกลับมาใหม่ ครั้งนี้ ใบไม้บนต้น กลับกลายเป็นสีเขียว หิมะบนยอดเขาไม่มีแล้ว แต่ skilift  ที่จะขึ้นไปบนนั้น ก็เพิ่งปิดบริการทำให้ต้องเดินเท้าขึ้นไปอีกครั้ง
 
 
  
 
  
 ครั้งนี้ลุงหมอพยายามเดินขึ้นไปใหม่ โดยไม่แบกอุปกรณ์สัมภาระใดๆที่ไม่จำเป็นขึ้นไปทั้งสิ้น
 
 
  
 ถนนเล็กๆ ไม่มีหิมะปกคลุมให้เป็นอุปสรรคอีกต่อไป เหลือแต่ใจที่ต้องแบกร่างอันหนักอึ้ง เดินขึ้นไปตามทาง ช้าๆ ช้าๆ
 
 
  
 ฝนที่เพิ่งตกลงมาทำให้ถนนแฉะเป็นบางช่วง
 
 เมื่อมองย้อนกลับไป ครั้งนี้ถือว่าเดินขึ้นมาได้ไกลกว่าครั้งก่อน……. แต่พอขึ้นไปใกล้ยอดเขาจริงๆ กลับหาทางที่จะไปตรงจุดหมายนั้นไม่เจอ
 
 
  
 เป็นอีกครั้งที่ต้องแบกความผิดหวังกลับลงมาจากเขา
 
 สิงหาคม ๒๕๖๑
 
 ฤดูร้อนในปีถัดมา ลุงหมอจึงวางแผนเดินทางกลับไปที่นั่น เป็นครั้งที่สาม
 
 ( Skilift/Chairlift Wasserngrat เปิด แค่ไม่กี่วันในช่วงฤดูร้อน ระหว่างเดือน สิงหาคม ถึง เดือน กันยายน แล้วก็ปิดพักจะเปิดอีกครั้งในช่วงฤดูหนาว)
 
 
  
 รถบัสสีเหลืองคันเล็ก สาย 182 วิ่งออกจากหน้าสถานีรถไฟ Gstaad ตั้งแต่เช้า
 
 
  
 
  
 ผ่านหมู่บ้านลัดเลาะตามภูเขาของ Gstaad มาไม่นานก็จะถึงป้ายรถบัส ที่ชื่อว่า Gstaad , Wasserngratbahn
 
 
  
 
  
 บรรยากาศเดิมๆ ที่เพิ่มเติมและแตกต่างคือความเขียวชอุ่ม ของต้นไม้ใบหญ้า ยอดเขาที่มองเห็นสุดลูกหูลูกตา ไม่ได้สวมหมวกสีขาวอีกต่อไป
 
 ถ้าหมวก มีหลายใบเปรียบได้กับการทำหน้าที่พ่อและหัวหน้าครอบครัว กับหมวกอีกใบที่ต้องรับผิดชอบในภาระอันหนักอึ้งไปโดยไม่มีที่สิ้นสุด.. เหตุใด ผู้ชายคนหนึ่งจึงเลือกสวมใส่หมวกใบที่นำมาซึ่งความยากลำบากตลอดทั้งชีวิต แทนที่จะสวมหมวกอันแสนสวยงาม และเต็มไปด้วยความสุขกับครอบครัว ภูเขาลูกนี้จะตอบคำถามได้หรือไม่
 
 
  
 และนี่คือการเดินทางไปยังสวิตเซอร์แลนด์และเมือง Gstaad เป็นครั้งที่สาม ในวันที่ยานพาหนะทุ่นแรง เปิดทำการเป็นวันแรกของฤดูร้อน ๒สิงหาคม หลังวันชาติ Switzerland หนึ่งวัน
 
 
  
 ถ้าไม่นับพนักงานของร้านอาหาร ที่ขึ้นไปเตรียมเปิดร้าน ลุงเป็นคนแรกที่ได้นั่งสกีลิฟท์ขึ้นไปยังยอดเขา Wasserngrat ในฤดูร้อนของปี
 
 
  
 ดอกไม้สีม่วงที่อยู่ตามเขาและป่าสน พากันผลิบานไปทั่วภูเขา
 
 
  
 
  
 ร้านอาหารที่ตั้งอยู่อย่างโดดเด่นของยอดเขาแห่งนี้ คือ Wasserngrat restaurant
 
 
  
 เจ้าของร้านอาหาร เข้ามาทักทายชายแปลกหน้า ที่ดั้นด้นมาตั้งแต่ร้านยังไม่เปิด
 
 เมื่อรู้ว่าเป็นคนไทย เขารีบเรียกเด็กชายตัวน้อยซึ่งเป็นลูกของเจ้าของร้านออกมาทักทาย ด้วยคำว่า “สวัสดีครับ”  เจ้าของร้านยิ่งประหลาดใจ เมื่อรู้ว่าสถานที่ตรงนี้มีความหมายบางอย่าง และได้ขอภาพถ่ายสำคัญในโทรศัพท์ที่ลุงหมอยื่นให้เขาดู เก็บเอาไว้
 
 
  
 
  
 
  
 โคมไฟเก่าๆดวงนั้น ยังอยู่เหมือนเดิม ตรงจุดชมวิว ปัจจุบันเป็นระเบียงของร้านอาหาร Wassengrat restaurant
 
 
  
 
  
 
  
 แล้วก็ได้มาเห็นด้วยตา กับที่มาของ “รอยยิ้มของพ่อ” ในภาพนั้น
 
 ความสงสัยในรอยยิ้มนั้น ไม่มีอีกต่อไป เพราะเบื้องล่างคือภาพที่งามจับใจของเมือง ในหุบเขาที่ชื่อว่า Gstaad
 
 
  
 
  
 การเดินทางตามรอยแผ่นดินวัยเยาว์ ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เป็นอันสิ้นสุดลงในตอนนี้
 
 จากการเดินทางทั้งหมด3ครั้ง ไปยังสถานที่ต่างๆทั่วประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มากกว่ายี่สิบสถานที่ในภาพถ่าย
 
 การเดินทางทั้งหมดนี้ช่วยคลายสงสัย ให้คำตอบได้ว่า เหตุใด ในหลวงเก่งกีฬา เหตุใดท่านเดินบุกป่าฝ่าเขาได้อย่างสบาย เหตุใดท่านเข้าใจน้ำ ดิน ป่า เหตุใดท่านโปรดดอกไม้ และความสุนทรีย์
 
 แต่กลับมีคำถามใหม่ผุดขึ้นมาในใจ ท่านจากสถานที่ดีๆ ที่น่าจะเรียกได้เต็มปากว่าเป็น “บ้าน” มาเหนื่อยยากลำบาก เพื่ออะไร
 
 การเดินทาง
 
 นั่งรถบัส สาย 182 จากหน้าสถานี Gstaad มาลงป้าย Gstaad , Wasserngratbahn
 
 ถ้าต้องการนั่งกระเช้าสกีลิฟท์ขึ้นไปในช่วงฤดูร้อน ต้องมาในช่วงเดือนสิงหาคมถึงต้นเดือนกันยายนเท่านั้น
 
 แต่สำหรับเพื่อนที่ต้องการมา Trekking หรือมาในช่วงที่ Chairlift ปิดทำการ ก็สามารถเดินเท้า ขึ้นบนยอดเขา ในเส้นทางที่ชื่อว่า Tiger trail
 
 
  
 
 .....
 ขอขอบคุณ เรื่องและภาพจาก...
 https://uncledoctorvacation.com/2018/10/12/%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%80%e0%b8%94%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%ad%e0%b8%ad%e0%b8%81%e0%b8%95%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b8%a0%e0%b8%b2%e0%b8%9e%e0%b9%83/
 
 การเดินทางออกตามหาภาพในดวงใจ “รอยยิ้มของพ่อ”
 
 .
 
 
 
 
 
 |