Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
User Info
Welcome, Guest. Please login or register.
14 May 2024, 09:45:15

Login with username, password and session length
Search:     Advanced search
News
ท่านสมาชิกสามารถเปลี่ยนรูปแบบ (Theme) ได้อีกหลายแบบ
เชิญทดลองโดยคลิกที่ลิงค์ข้างล่าง ได้เลยครับ

http://www.smilesiam.net/index.php/topic,3170.msg4713.html
Forum Stats
25,682 Posts in 12,490 Topics by 70 Members
Latest Member: KAN
Home Help Search Calendar Login Register
Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...  |  ภาพประทับใจ  |  ผนังเก่าเล่าเรื่อง (Moderator: ผนังเก่าเล่าเรื่อง)  |  [38.3] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ศึกกุมภกรรณ โดย กลม บางบาน ตอนที่
0 Members and 1 Guest are viewing this topic. « previous next »
Pages: [1] Go Down Print
Author Topic: [38.3] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ศึกกุมภกรรณ โดย กลม บางบาน ตอนที่  (Read 64 times)
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,535


View Profile
« on: 26 May 2023, 09:59:19 »

[38.3] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ศึกกุมภกรรณ โดย กลม บางบาน ตอนที่ 21-25


26 พฤษภาคม 2022  ·

เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกกุมภกรรณ (21)

-ลางร้ายบอกเหตุ

พระมหาอุปราชแห่งลงกาวุ่นวายใจยิ่งนัก จะข่มตาหลับก็หลับไม่ลง พลิกตัวไปมาซ้ายขวาทั้งคืน พอพระอาทิตย์เปล่งแสงแรกสู่ขอบฟ้า พญามารรีบลุกขึ้นอาบน้ำชำระร่างกาย แต่งตัวออกศึก
.

สุหร่ายแก้วโปรยปรายเป็นสายฝน       ทรงสุคนธ์เฟื่องฟุ้งด้วยบุปผา
สอดใส่สนับเพลาอลงกรณ์                 ภูษารูปกินรีรำ
ฉลององค์ทรงประพาสพระกรน้อย       เกราะพลอยมรกตเขียวขำ
รัดอกรายบุษราคัม                             ประจำยามตาบทิศสังวาลวัลย์
เฟื่องห้อยพลอยแก้งมุกดาหาร           ทับทรวงดวงประพาฬทับทิมคั่น
พาหุรัดทองกรมังกรพัน                     ธำรงค์เรือนสุบรรณกางกร
ทรงกุณฑลเกล็ดเพชรรัตน์                 กรรเจียกแก้วจำรัสประภัสสร
จับมหาธนูฤทธิรอน                           บทจรขึ้นรถสุรกานต์   
.

ถึงกุมภกรรณจะเป็นยักษ์ไม่มีชฎาสูงแสดงความสูงศักดิ์ เพียงมีกระบังหน้าแบบเรียบๆ แต่สังเกตได้ว่านิยมของหอม ชอบแต่งตัวให้ดูดี แม้จะเป็นการออกศึก ลองสังเกตนะครับว่า คราวนี้ใช้อาวุธเป็นธนูเยี่ยงชาววรรณะกษัตริย์ จัดขบวนอย่างทัพหลวงเพราะถือเป็นการศึกที่ต้องทุ่มหมดตัว ลงหมดหน้าตัก ชนิดหากไม่ได้เลือดหัวศัตรูมาล้างพื้นท้องพระโรงลงกา ก็ขอตายซะดีกว่า 

พอยกพลออกมาจากปราสาท กลับเกิดอาเพศวิปริตเป็นลางร้ายต่างๆ

ช้างม้าตื่นตระหนกพยศกันวุ่นวาย ล้อรถทรงก็ไม่หมุน พอพลขับดึงราชสีห์เทียมรถทั้งพันตัว กลับหันหน้ากลับมาแต่เป็นหน้าลาหมดทุกตัว  จากนั้นเห็นเหล่าภูติผีเดินตัดหน้ารถ แร้งกามาจากไหนไม่ทราบ บินว่อนลงโฉบที่ธงชัยนำทัพ 

พอจะบรรเลงเป่าปี่ พิณพาทย์เพื่อเดินพล เครื่องดนตรีเหล่านั้นก็ดันไม่มีเสียง ทหารโห่ร้องขณะจะเคลื่อนทัพ กลับฟังเหมือนเป็นเสียงร้องไห้ ธงทิวก็ไม่ปลิวสะบัดอย่างเคย ผีสางประจำเมืองพากันร้องบอกลาง
.

ครั้นมานอกราชนิเวศน์         ให้เกิดเหตุวิปริตลางใหญ่
ช้างม้าตื่นเต้นวุ่นไป                บันดาลให้เห็นอัศจรรย์
ทั้งรถที่พญามารทรง                กำกงไม่สะเทือนเลื่อนลั่น
ราชสีห์ซึ่งเทียมมาทั้งพัน         หน้านั้นก็กลับเป็นหน้าลา
ผีภูตทั้งสี่สำแดงกาย                เดินกรายผ่านทางขวางหน้า
กาแร้งบินว่อนร่อนมา            ถาบถาโฉบลงที่ธงชัย
พิณพาทย์เภรีไม่มีเสียง            สำเนียงพลโห่ดั่งร้องไห้
ธงทิวก็ไม่ปลิวสะบัดใบ            โขมดไพรกู่ร้องเยือกเย็น
พญามารหวาดหวั่นพรั่นจิต       ด้วยนิมิตประหลาดไม่เคยเห็น
สารพัดอุบัติมิได้เว้น               จำเป็นรีบรถบทจร
.

กุมภกรรณตกใจกับเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นพร้อมๆกัน แต่ต้องตัดใจรีบสั่งให้เดินทัพตามฤกษ์ยาม

เป็นเราๆท่านๆ...เจอลางบอกเหตุขนาดนี้ ก็นอนคลุมโปงอยู่บ้านล่ะฮะ ไม่ร้งไม่รบมันแล้ว คงจะชนะหรอกมั้ง...แต่กุมภกรรณ แกยังแข็งใจไป...

.


หัวโขนกุมภกรรณ


.

พญามารหวาดหวั่นพรั่นจิต
ด้วยนิมิตประหลาดไม่เคยเห็น
สารพัดอุบัติมิได้เว้น
จำเป็นรีบรถบทจร


.

โอม...เพี้ยง!!! ให้ร้ายกลายดีด้วยเถิด...


.





« Last Edit: 13 May 2024, 19:56:55 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,535


View Profile
« Reply #1 on: 27 May 2023, 09:02:38 »


27 พฤษภาคม 2022  ·

เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกกุมภกรรณ (22)

-พระรามออกศึก -1-

พระรามก็นอนไม่หลับเฉกเช่นกุมภกรรณ พอเริ่มจะสว่างก็ลงสรง แต่งองค์ออกมา ได้ยินเสียงโกลาหลอยู่หน้าค่าย จึงถามพิเภกว่าเกิดอะไรขึ้น พิเภกทูลว่า...

...อันเสียงอึกทึกคือเสียงไพร่พลอันฮึกเหิมของกุมภกรรณ แต่พระองค์อย่าได้กลัวเพราะหลังจากที่หม่อมฉันจับยามดูแล้ว วันนี้จะเป็นวันชะตาขาดของพญามาร ขอพระองค์จงจัดทัพใหญ่ออกสังหารเหล่ามารซะเถิดพะยะค่ะ...   

ต้องบอกว่าครั้งนี้เป็นครั้งที่พิเภกแสดงตนออกอย่างชัดเจนว่าเลือกอยู่ฝั่งพระรามอย่างหมดใจแล้ว เพราะที่ผ่านๆมา จะแนะนำตำราแก้พิษ แก้กฎศึกต่างๆ แต่ครั้งนี้ชี้ตัว บอกเวลาให้นายจัดทัพออกมาสังหารพี่ของตนเอง 
.

               บัดนั้น           พญาพิเภกยักษี
ได้ฟังพระราชวาที             ชุลีกรสนองพระบัญชา
อันทัพที่ยกออกมานั้น       คือพญากุมภกรรณยักษา
วันนี้นั้นจะสิ้นชีวา              ด้วยชะตาถึงฆาตลัคน์จันทร์
ขอเชิญเสด็จพระสี่กร        ยกพวกพานรพลขันธ์
ออกสังหารกุมภัณฑ์         ให้มันสิ้นชีพชีวี
.

จากนั้นพระรามรับสั่งให้สุครีพเร่งจัดทัพ เพื่อรับมือกับกองกำลังของกุมภกรรณ บุตรพระอาทิตย์จัดขบวนศึกเป็นรูปนกอินทรี โดยมอบหมายให้ขุนกระบี่แต่ละนายประจำตำแหน่งรบต่างๆ
.

จัดเป็นอินทรีพยุหบาตร      นิลราชเป็นเศียรปักษา
นิลเอกนิลขันเป็นสองตา     ปากนั้นปิงคลาวานร
คอคือกระบี่ชมพูพาน          คำแหงหนุมานเป็นหงอน
ปีกขวาองคตฤทธิรอน         ปีกซ้ายเกสรทมาลา
เท้าซ้ายจัดนิลปาสัน           ฝ่ายนิลปานันเป็นเท้าขวา
กายนั้นคือจอมโยธา           หางคือพญานิลนนท์
จังเกียงเป็นเล็บสกุณี          โยธีทั้งหลายเป็นลายขน
ล้วนถืออาวุธกันทุกตน        ร่านรนลำพองคะนองฮึก
นายไพร่ล้วนมีศักดา           แกล้วกล้าเหี้ยมหาญทะยานศึก
ฤทธิแรงแข็งขันพันลึก        คึกคึกคอยเสด็จพระสี่กรฯ 
.


พระรามออกศึก


.

ทรงราชรถออกศึก รบกับกุมภกรรณ


.

ไชยยามพวานถือธงรบนำขบวน


.




« Last Edit: 13 May 2024, 19:59:25 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,535


View Profile
« Reply #2 on: 27 May 2023, 09:03:33 »


27 พฤษภาคม 2022  ·

เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกกุมภกรรณ (23)

-พระรามออกศึก -2-

พระราม พระลักษณ์ขึ้นรถทรง เทียมโดยมาตุลีสารถีที่องค์อินทร์ส่งมาช่วยรบ กงล้อแห่งราชรถเคลื่อนนำทัพ ล้อหมุนลิ่วบดถนนจนฝุ่นกระจาย เสียงกลองเสียงปี่ดังสนั่นคึกคัก

การจัดทัพฝ่ายยักษ์จะเน้นอาวุธหนัก พลรบแต่ละเหล่าจะเชี่ยวชาญไม่เหมือนกัน พลช้างกุมง้าว พลม้ากุมหอก มีพลขับประจำรถศึก แต่ละนายตัวโตแข็งแรง แต่ฝ่ายลิงจะใช้กุลยุทธ์การจัดทัพ ใช้กำลังใจให้แต่ละตัวมีความฮึกเหิมไม่กลัวยักษ์

กองทัพพระรามมาถึงสนามรบ กุมกรรณรู้สึกหมั่นเขี้ยวทันทีเมื่อแลเห็นสองมนุษย์พี่น้องผู้ทรงรถแล่นมาแต่ไกล ไม่จำเป็นต้องมีการเสวนาหรือการทำเนียบศึกใดๆทั้งสิ้น พญามารสั่งให้เหล่าไพร่พลเข้าบดขยี้ศัตรูทันที

นนทกาลสูรนำทัพหน้าออกตะลุยไล่ฆ่าทหารลิงตายเกลื่อนสนาม แต่พอเหล่าวานรตั้งหลักได้ก็กลับมารุกฝ่ายยักษ์ดูบ้าง ทั้งกัดทั้งถีบ สร้างความเสียหายให้ทหารอสูรพอสมควร

นนทกาลเห็นลูกน้องตนต้องถอยร่นจากการโจมตีของลิงป่า นายหมู่มารโมโหเพราะทั้งเสียเกียรติ ทั้งเสียเชิงราษสแห่งนครพรหม จึงนำไพร่พลอีกชุดระดมซัดหอก ยิงธนูสกัดการรุกรานของลิงป่า

หนุมานเห็นว่าลูกน้องของตนแตกกระจายไม่เป็นขบวนอินทรีอย่างที่จัดไว้ จึงจำเป็นต้องกระโจนนำทัพตีโต้เหล่าอสูรด้วยตรีเพชร จนล้มตายทับถมกันเกลื่อน
เมื่อนนทกาลเห็นพลมารตายเพราะลิงเผือกตัวเดียว ก็ยิ่งเดือดดาลเข้าไปใหญ่ ขุนมาร นนทกาลกระโจนจับหนุมาน ต่างผลัดกันแทง ผลัดกันตี พอถึงจังหวะเหมาะหนุมานเสียบตรีเพชรกลางอกขุนยักษ์นนทกาล จนล้มลงตายกลางสนามรบ ยังมิหนำใจหนุมานคว้าร่างไร้วิญญาณของนนทกาลโยนไปตกตรงหน้ารถทรงของกุมภกรรณ ตะโกนว่า...

...กุมภกรรณ วันนี้จะเป็นวันตายของมึง อย่ามัวแต่อวดดี เพราะอีกไม่ช้ามึงก็จะตายด้วยพิษศรของนายกู... 
.

เหวยเหวยกุมภกรรณขุนยักษ์       ตัวเองฮึกฮักอวดหาญ
วันนี้เศียรมึงจะแหลกลาญ            วายปราณด้วยศรพระจักรี
.

กุมภกรรณได้ยินสำนวนท้าทายจากลิงไม่มีหัวนอนปลายเท้า โกรธดั่งไฟไหม้ทุ่ง กระทืบเท้า ชี้หน้าหนุมาน

...ไอ้ลิงกระจอก มึงอย่ามาทำพูดจาโอหังจนเกินหน้า ตัวกูนี้สืบวงศ์วานมาจากองค์พรหม ไม่มีวันจะตกต่ำเพราะพวกมึงหรอก มึงนั้นแหละที่หัวจะหลุดด้วยมือกู...

ยังพูดไม่จบคำ พญามารแผลงศรแหวกอากาศ จนฟ้าดินสะเทือนไหว ฟ้ามืดมิดดั่งราตรี แล้วเกิดเปลวไฟไหม้ล้อมรอบกองทัพวานร
.

เสียงสนั่นครั่นครื้นอากาศ        พสุธากัมปนาทหวาดไหว
มืดมิดปิดแสงอโณทัย               เกิดเป็นเปลวไฟไหม้มา

...


พระรามออกศึก

รถเอยราชรถทิพย์          แอกงอนอ่อนลิบงามระหง
กำแก้วประกับประกอบกง       ดุมวงแสงวามอร่ามพลอย

ภาพล้อมบัลลังก์กระจังลวด      พนักอิงบังอวดกระหนกห้อย
จตุรมุขงามแม้นพิมานลอย       บันช้อยห้อยฉัตรอรชร

เทียมด้วยสินธพเทพบุตร       เริงร้อนฤทธิรุทรดั่งไกรสร
พระลักษมณ์นั่งหน้าประนมกร       เครื่องสูงสลอนสลับกัน

มาตุลีสารถีเทวา          ขับอาชาเผ่นดั่งจักรผัน
ผงคลีมืดคลุ้มชอุ่มควัน       ปี่กลองสนั่นครั่นครึก

เสียงรถเสียงม้ากุลาหล       เสียงพลโห่ร้องก้องกึก
ล้วนเหล่าลำพองคะนองฮึก       ขับกันคึกคึกรีบจร


.

ครั้นมาถึงที่สนามรบ       พระตรีภพสุริย์วงศ์ทรงศร
ให้หยุดโยธาพลากร          ดูกำลังฤทธิรอนอสุรี


.

พระรามแผลงศร


.




« Last Edit: 13 May 2024, 20:02:32 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,535


View Profile
« Reply #3 on: 28 May 2023, 09:27:30 »


28 พฤษภาคม 2022  ·

เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกกุมภกรรณ (24)

-พระรามสังหารกุมภกรรณ

พระรามเห็นว่าพญาอสูรเริ่มใช้ศาสตราศรชั้นสูง จึงคว้าศรพาลจันทร์ มาขึ้นสายแล้วยิงเสียดอากาศ เกิดเสียงสนั่นฟ้าฟาด ปรากฎเป็นห่าฝนตกลงมาดับไฟ มิหนำซ้ำห่าศรขององค์รามยังสังหารเหล่าม้าศึก ช้างศึก แทงทะลุร่างทหารยักษ์ บ้างหัวหลุด ตีนขาด นอนตายกันเกลื่อน 

กุมภกรรณเห็นว่าพระรามสามารถแก้ศรของตนได้ และยังมาฆ่าเหล่าทหารของตนอีก พญามารโมโหยิ่งนัก จึงบังคับรถมุ่งโจมตีเหล่าพลลิงอย่างประชิดตัว ฆ่าทุกหน้าอย่างไม่ยั้ง 

พระรามเห็นท่าไม่ดี จึงสั่งให้มาตุลีเทียมรถทรงเข้าประจันหน้ากับกุมภกรรณ 

ขณะนี้ดูเหมือนว่าทุกชีวิตในสนามรบหยุดรบ เสียงกระทบของอาวุธเงียบลงทันที เพราะเหล่าพลยักษ์และพลวานร ต่างตายทั่วทั้งสนามรบ ทุกชีวิตที่รอดต่างเฝ้าดูการดวลวิชาธนูของราชาแห่งมนุษย์ องค์รามจันทร์แห่งอโยธยา และพระมหาอุปราชกุมภกรรณแห่งนครลงกา 

กุมภกรรณเริ่มก่อน พาดสายศรสิทธิ์ลงคาถา แล้วแผลงไปเป็นห่าลูกธนูตกสังหารเหล่าทหารลิง จนล้มตายกันอย่างมากมาย   

จากนั้นพระรามตอบโต้ด้วยการขึ้นศรอัคนิวาต ออกแรงน้าวอย่างสุดตัว แผลงเล็งที่รถศึกของกุมภกรรณ ศรสิทธิ์แหวกอากาศเข้าหักรถชัยของพญามารจนแตกเป็นเสี่ยง แถมยังสังหารราชสีห์ทั้งพันและสารถีเทียมรถล้มตายลงทันที 

ขณะนี้กุมภกรรณทั้งเสียรถ เสียพล เหลือตัวคนเดียวในสนามรบ แต่ก็ยังกัดฟัน ทำตามพันธสัญญาของตนเองที่มีไว้แก่พี่ชายพญาทศกัณฐ์ ว่าหากตนไม่ได้หัวพระราม ตนจะไม่กลับเข้าลงกาอีก 

กุมภกรรณรวบรวมแรงกระชับคันศรโดดขึ้นราชรถศัตรู หมายตีสองพี่น้องมนุษย์ให้แหลกคามือ องค์รามลักษมณ์ปัดป้องอย่างสามารถ และช่วยกันกระหน่ำตีอสูรด้วยคันศร จนกุมภกรรณตกลงมาจากรถทรง แต่จอมมารก็ยังยันกายขึ้นต่อตีสองมนุษย์อย่างไม่คิดชีวิต

พระรามได้โอกาส หวดพญายักษ์ด้วยศรจนตัวเซไปมา พอสบจังหวะองค์รามพาดศรพรหมมาสตร์ขึ้นสายธนู น้าวอย่างสุดแรง แผลงไปถูกกลางอกพญากุมภกรรณ ร่างอันใหญ่โตของพญามารล้มคะมำกองกับพื้น พญามารแทบขาดใจ

กุมภกรรณพยายามยันกายไม่ให้ล้มจนเสียเชิง นั่งพิงก้อนหินเพื่อดูภาพของโลกใบนี้เป็นครั้งสุดท้าย ขณะนี้ร่างพญามารสุดแสนเจ็บปวดจากฤทธิ์ศรพระราม และปวดใจเพราะเสียทีแก่มนุษย์ที่เชื่อว่าอ่อนแอกว่าเผ่าอสูร 

...เอาหละเวลานี้ขอดูหน้าศัตรูให้เต็มตา...กุมภกรรณหายใจถี่ขึ้นๆ ดั่งใกล้จะหมดแรง ในสายตาพร่ามัวคู่นั้น เห็นมนุษย์ทั้งสองร่างงดงามยิ่ง งดงามเหลือเกิน เห็นผิวหน้าองค์ลักษมณ์ผ่องแผ้วดั่งทองทา เห็นองค์รามกายเขียวขำดั่งนิล

แววตาก็ช่างเปี่ยมด้วยความเมตตา ปกติหากศัตรูล้ม เหล่านักรบจะต้องโจมตีซ้ำให้ราบคาบ แต่สองมนุษย์ร่างน้อยมองมาที่เรา มองอย่างปราณี สายตาที่อ่อนโยนดั่งมิตร...โอ้นั้นรัศมีจ้าจากตัวของราม...

บัดนี้กุมภกรรณเห็นรัศมีที่ออกจากตัวองค์ราม สว่างวาบดั่งพระนารายณ์ เห็นองค์สี่กรทรงจักร สังข์ ตรี คทา อันเป็นเทพอาวุธอันคู่แก่องค์

...รามคืออวตารแห่งนารายณ์จริงๆ พิเภกผู้ไม่ผิดที่เชื่อในพระองค์...

...


เมื่อกองทัพทั้งสองประจัญบาน หนุมานสู้กับนนทกาลแม่ทัพยักษ์แล้วฆ่าตาย โยนศพไปหน้ารถพญากุมภกรรณ
กุมภกรรณแผลงศรเป็นไฟร้อนแรงไหม้ทหารลิง พระรามแผลงศรพาลจันทร์เป็นห่าฝนดับไฟไล่ฆ่าทหารยักษ์ตายยับ
กุมภกรรณแผลงศรเป็นอาวุธถูกทหารลิงล้มตาย พระรามแผลงศรอัคนิวาต เป็นเพลิงล้างอาวุธปัจจามิตรแล้วศรก็ไปต้องรถกุมภกรรณ ราชสีห์สารถีตายหมด

พระรามแผลงศรพรหมาสตร์ถูกอกพญากุมภกรรณ กุมภกรรณจึงแลเห็นพระรามผิวพรรณสีเขียว มีสี่กร ทรงเทพอาวุธ มีจักร สังข์ ตรี คฑา จึงรู้แน่ชัดว่าเป็นพระนารายณ์อวตาร ตกใจทูลกราบขอโทษ ที่ผิดพลั้งในครั้งนี้ เหตุด้วยพี่ผู้อาธรรม และขอให้ช่วยส่งวิญญาณของตนไปสวรรค์ชั้นฟ้า พระรามรับปากทุกประการ

พญากุมภกรรณสอนน้องก่อนตาย
พญาพิเภกกอดบาทศพพระเชษฐาร่ำไห้รำพัน


.

บัดนี้กุมภกรรณเห็นรัศมีที่ออกจากตัวองค์ราม สว่างวาบดั่งพระนารายณ์ เห็นองค์สี่กรทรงจักร สังข์ ตรี คทา อันเป็นเทพอาวุธอันคู่แก่องค์


.

พระรามพาดศรพรหมมาสตร์ขึ้นสายธนู น้าวอย่างสุดแรง แผลงไปถูกกลางอกพญากุมภกรรณ ร่างอันใหญ่โตของพญามารล้มคะมำกองกับพื้น พญามารแทบขาดใจ


.

ศรพรหมมาสตร์ ของพระราม พุ่งปักอกกุมภกรรณ


.





« Last Edit: 13 May 2024, 20:06:16 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,535


View Profile
« Reply #4 on: 28 May 2023, 09:28:32 »


28 พฤษภาคม 2022  ·

เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกกุมภกรรณ (25-จบตอน)

-กุมภกรรณสั่งลา

กุมภกรรณฝืนเปิดตาให้เบิกกว้างเพื่อสัมผัสรัศมีแห่งความเมตตาแห่งพระนารายณ์ พร้อมยกสองมือประนมเหนือหัว

...ข้าไม่คิดเลยว่าจะมีโอกาสได้เฝ้านารายณ์ผู้ครองเกษียรสมุทรอันไกลโพ้น บัดนี้ท่านได้เสด็จมาอยู่ตรงหน้าข้า ข้ารู้สึกเป็นเกียรติเหลือเกิน แต่ข้าได้ทำอะไรลงไปนี่ ข้าบังอาจต่อสู้กับพระองค์ บังอาจคิดจะเอาชนะผู้ปราบอธรรมของทั้งสามโลก องค์นารายณ์จงล้างบาปของข้าด้วยสายตาอันปราณีของพระองค์ด้วย...

...พิเภก น้องพี่ไม่ใช่ผู้ผิด เจ้ารู้มากกว่าใคร เหตุใดพี่ถึงไม่เชื่อเจ้า พี่มัวแต่จมปรักอยู่ในความเชื่อโง่ๆ พี่มัวแต่มุ่งเน้นที่จะปกป้องอสุรวงศ์ จนลืม..ลืมว่าเราทำความมัวหมองอะไรไว้ให้โลกใบนี้ ข้าขอสมาด้วยใจที่ซื่อตรง ขอพระองค์วิษณุจงรับวิญญาณของข้าสู่สวรรค์ด้วยเถิด สุดท้ายนี้ข้าขอฝากพิเภกที่ข้ารักอย่างน้องและเฝ้าถนอมเช่นลูก ขอให้ท่านจงปกป้องพิเภกต่อจากข้า... 

ขณะนี้พระรามใบหน้านิ่งดั่งพระเจ้า ทุกชีวิตในบริเวณนั้นแทบจะหยุดหายใจ คอยวาจาสิทธิ์จากพระอวตาร

...เราไม่เคยคิดโกรธท่าน แม้ท่านคือศัตรู...กุมภกรรณ ท่านอย่าได้กังวลใจไปเลย เราจะดูแลพิเภกอนุชาท่าน เยี่ยงสหายรัก จะถนอมน้องของท่านเยี่ยงบุตรของเรา บัดนี้ได้ฤกษ์งามยามดี ขอให้ท่านดำเนินสู่ชั้นฟ้าด้วยความสวัสดีเทอญ... 

เมื่อกุมภกรรณได้ฟังพระดำรัสจากองค์อวตาร พญามารรู้สึกสบายใจ สบายตัว ลืมความเจ็บปวดอันกระจายทั่วร่างกายอย่างฉับพลัน จอมอสูรแห่งลงกา กวักมือเรียกพิเภกเข้ามาใกล้ โอบที่ต้นคอน้อง กระซิบที่ข้างหู นี่คือคำพูดจากพี่ถึงน้องครั้งสุดท้าย
.

จึงเรียกพิเภกเข้ามา                     อสุราสั่งพลางแล้วร้องไห้
ตัวพี่จะม้วยบรรลัย                     ดวงใจค่อยอยู่สถาวร
ซึ่งเจ้าจะทำราชการ                   ใต้เบื้องบทมาลย์พระทรงศร
สิ่งใดอย่าได้อนาทร                     ผ่อนตามฤทัยพระทรงฤทธิ์
จงอุตส่าห์แสวงหาความชอบ        ให้รอบรู้หน้าหลังระวังผิด
จึ่งจะว่าดีมีความคิด                    ญาติมิตรจะได้พึ่งอนุชา
สั่งพลางผ่าวจิตด้วยพิษศร            เร่าร้อนฤทัยยักษา
สิ้นเสียงก็สิ้นชีวา                      ไปเกิดฟากฟ้าดุษฎีฯ   
.

พอสิ้นเสียงสั่ง พระมหาอุปราชกุมภกรรณแห่งลงกา ก็สิ้นใจ พิเภกไม่สามารถครองสติได้ ถลากอดร่างพี่ รำพันอย่างไม่เป็นภาษา 

สารัณทูต ผู้เป็นทหารคอยส่งข่าวแก่ราชสำนักลงกา เห็นว่าไม่มีชีวิตใดรอดจากสนามรบแม้แต่ชีวิตม้าตัวเดียว จึงรีบเข้าวังเพื่อรายงานเจ้าเหนือหัวทศกัณฐ์...
แม้บัดนี้ศึกกุมภกรรณจะเสร็จสิ้นลง แต่มหาสงครามเพียงแค่เริ่มขึ้นเท่านั้น....

...


พระรามยิงศรพรหมมาสตร์ สังหารกุมภกรรณ
กุมภกรรณจึงแลเห็นรูปองค์นารายณ์อวตาร


.

กุมภกรรณสั่งลา กวักมือเรียกพิเภกเข้ามาใกล้ โอบที่ต้นคอน้อง กระซิบที่ข้างหู...กุมภกรรณสอนน้อง...


.

พิเภกไม่สามารถครองสติได้ ถลากอดร่างพี่ รำพันอย่างไม่เป็นภาษา


.





« Last Edit: 13 May 2024, 20:09:37 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,535


View Profile
« Reply #5 on: 13 May 2024, 20:10:26 »


ปรับปรุงภาพใหม่





Logged
Pages: [1] Go Up Print 
« previous next »
 

SMF 2.0.4 | SMF © 2013, Simple Machines | Theme by nesianstyles | Buttons by Andrea
Page created in 0.088 seconds with 18 queries.