Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
User Info
Welcome, Guest. Please login or register.
12 May 2024, 09:17:10

Login with username, password and session length
Search:     Advanced search
News
ท่านสมาชิกสามารถเปลี่ยนรูปแบบ (Theme) ได้อีกหลายแบบ
เชิญทดลองโดยคลิกที่ลิงค์ข้างล่าง ได้เลยครับ

http://www.smilesiam.net/index.php/topic,3170.msg4713.html
Forum Stats
25,678 Posts in 12,490 Topics by 70 Members
Latest Member: KAN
Home Help Search Calendar Login Register
Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...  |  ภาพประทับใจ  |  ผนังเก่าเล่าเรื่อง (Moderator: ผนังเก่าเล่าเรื่อง)  |  [42] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ศึกแสงอาทิตย์ โดย กลม บางบาน
0 Members and 1 Guest are viewing this topic. « previous next »
Pages: [1] Go Down Print
Author Topic: [42] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ศึกแสงอาทิตย์ โดย กลม บางบาน  (Read 59 times)
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,531


View Profile
« on: 06 July 2023, 10:12:39 »

[42] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ศึกแสงอาทิตย์ โดย กลม บางบาน


6 กรกฎาคม 2022  ·

เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกแสงอาทิตย์ (1)

-ทศกัณฐ์สั่งให้แสงอาทิตย์เข้าเฝ้า

สารัณทูตผู้มีหน้าที่รายงานทุกการศึก เห็นสองจอมมารตายคาตา จึงขึ้นม้าควบเข้าลงกา กราบทูลทศกัณฐ์ ผู้ชะเง้อรอฟังข่าวดีว่าสหัสเดชะฆ่าพี่น้องรามลักษมณ์ได้สำเร็จ

...เอ้า เจ้าม้าเร็วรีบว่ามา ข้าต้องเตรียมตัวไปรับเสด็จ องค์สหัสเดชะแล้วใช่ไม๊ หรือมูลพลัมสหายข้า มาถึงก่อนแล้ว... 

สารัณทูตไม่กล้าสบตานาย กลั้นใจกราบทูลตามที่เห็น

...อันองค์สหัสเดชะและพญามูลพลัม ได้พลีชีพเพื่อพระองค์แล้วในสนามยุทธ... 

ทศกัณฐ์ถึงกับตัวชา อึ้งนิ่งคิด คิดกลับไปกลับมาว่า เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ลิงป่ามีเล่ห์เหลี่ยมขนาดทำให้สองจอมอสูรต้องตายตามกันไปเลยหรือ
ตลอดทั้งวัน ไม่มีเสียงใดๆจากองค์ราชาแห่งลงกา ยักษ์ชราได้แต่นั่งนิ่งมิไหวติง ดั่งขาดความรู้สึก

...หมดแล้วสินะ หนทางที่จะต่อกรกับพวกศัตรู ลงกาคงถึงกาลสิ้น ณ รัชสมัยของข้า... เสนาอำมาตย์ พวกเจ้าคิดการอย่างไรจงบอกข้าที...คำพูดของราชา บัดนี้ช่างไร้น้ำหนักดั่งผู้ท้อถอย

แต่อยู่ดีๆ ก็มีเสียงหนึ่งมาจากเหล่าเสนาอสูรที่หมอบกราบคอยงาน

...ข้าบาทเห็นว่ายังมีสุริยวงศ์กษัตริย์ อีกพระองค์หนึ่ง ซึ่งมีความสามารถยิ่ง ท่านผู้นั้นคือพระเจ้าหลานเธอ แสงอาทิตย์ บุตรของพญาขร อนุชาของพญามังกรกัณฑ์ บัดนี้ท่านครองเมืองโรมคัล ราชาหนุ่มผู้นี้มีความสามารถมิแพ้พระเชษฐาผู้เสียทีแก่ศรพระรามเมื่อครั้งก่อน ข้าบาทคิดว่าน่าจะเชิญพระเจ้าหลานเธอพระองค์นี้มาช่วยการศึกแห่งลงกา...

ทศกัณฐ์กลับนั่งตรงอย่างมีความหวังอีกครั้ง

...เอาหละนนทการ เจ้าจงไปเชิญแสงอาทิตย์ หลานเรามาโดยด่วน... 

นนทการน้อมรับพระเสาวณี (ในฉบับของ ร. 2 ทศกัณฐ์ใช้ให้มโหทรไปเชิญแสงอาทิตย์) นนทการเหาะข้ามทะเลสู่แผ่นดินใหญ่ จนมาถึงเมืองโรมคัล ตรงเข้ากราบทูลพระเสาวนีของท้าวทศกัณฐ์ต่อพญาแสงอาทิตย์
.

น้อมเศียรประณตบทบงสุ์              องค์แสงอาทิตย์ยักษา             
บัดนี้สมเด็จพระบิตุลา                ให้ข้ามาเฝ้าบทมาลย์

ด้วยศึกทั้งสองมนุษย์นั้น               ยังติดพันรบหนักหักหาญ             
ผู้ใดออกไปต้านทาน                 ก็วายปราณด้วยมือไพรี

ทั้งองค์อินทรชิตเชษฐา                พญามังกรกัณฐ์ยักษี             
ยกพลโยธาออกต่อตี                    ก็สุดสิ้นชีวีลงด้วยกัน

เชิญเสด็จพระองค์ไปเฝ้า              พระปิ่นเกล้าจอมภพรังสรรค์             
จะปรึกษาสงครามล้างมัน              ให้ทันรุ่งเช้าเวลาฯ                               
.

หากวิเคราะห์กันลึกๆแล้ว ราชสารจากลงกาที่เชิญแสงอาทิตย์ฉบับนี้ เต็มไปด้วยคำพูดบีบคั้นทุกประโยค คราวนี้ทศกัณฐ์จั่วหัวอย่างพระญาติที่ศักดิ์ใหญ่และในฐานะราชาประเทศที่มีอำนาจเหนือกว่า

ประโยคต่อมาคือการตอกย้ำว่า ศึกกับพวกสองมนุษย์ยังไม่เสร็จ ญาติโยมตายกันตั้งมากมาย รวมถึงอินทรชิตผู้เป็นญาติผู้พี่ และมังกรกัณฐ์ผู้เป็นพี่ชายแท้ๆของแสงอาทิตย์ก็ต้องมาตายเพราะสองมนุษย์รามลักษมณ์ ทศกัณฐ์ไม่ได้กล่าวถึงกุมภกรรณหรือยักษ์ต่างเมืองที่ตายไปก่อนหน้านี้ เพราะไม่มีประโยชน์ จะไล่รายชื่อความพ่ายแพ้ให้ยืดยาว เอาแบบเน้นๆ คือแค่คนใกล้ตัวกับแสงอาทิตย์เช่น พี่ชายมังกรกัณฐ์ และพี่ใหญ่ในหมู่ยักษ์รุ่นใหม่อย่างอินทรชิต

ทศกัณฐ์ต้องการจะสื่อว่า ราชาอสูรที่เก่งๆในรุ่นของตนกำลังจะหมดไป ภัยคุกคามกำลังมาถึงเหล่ายักษ์หนุ่มอย่างแสงอาทิตย์ผู้เป็นอนาคตของสุริยวงศ์ จะมัวแต่อยู่เฝ้าเมืองโรมคัลโดยที่ไม่คิดขยับตัวร่วมศึกเลยหรือ

หลังจากที่พี่ชายตาย แสงอาทิตย์ก็ขึ้นครองเมืองโรมคัลแทนมังกรกัณฐ์ และคงไม่คิดที่จะตามล้างแค้นเท่าไหร่ เพราะปล่อยให้เวลาล่วงเลยมาชั่วขณะหนึ่งแล้ว จนทศกัณฐ์ต้องส่งนนทการ มาตามถึงที่ และแจ้งข่าวอย่างเป็นทางการว่า อินทรชิตกับมังกรกัณฐ์ตายด้วยศรพระราม จึงต้องมาเชิญให้แสงอาทิตย์ออกไปล้างแค้นให้แก่พี่ทั้งสองของตน

.


ทศกัณฐ์สั่งให้แสงอาทิตย์เข้าเฝ้า


.

แสงอาทิตย์ บุตรของพญาขร อนุชาของพญามังกรกัณฑ์ (หลานของทศกัณฐ์) เจ้าเมืองโรมคัล


.



Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,531


View Profile
« Reply #1 on: 06 July 2023, 10:13:30 »


6 กรกฎาคม 2022  ·

เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกแสงอาทิตย์ (2)

-แสงอาทิตย์ออกศึก

แสงอาทิตย์น้ำตานองหน้า เสียดายชีวิตพี่ยิ่งนัก ร้องก้อง สั่งจิตรไพรีพระพี่เลี้ยงที่ควบตำแหน่งมหาเสนาแห่งโรมคัล สั่งให้เตรียมทัพเพื่อเดินทางไปลงกาในยามเช้าวันรุ่งขึ้น ไพร่พลอสูรโรมคัลมีพร้อมทั้งปืนไฟ ดาบ ทวน พาหนะทั้งช้าง ม้า รถศึกครบครัน เมื่อรุ่งสางได้เวลาอันเป็นมงคล องค์แสงอาทิตย์ก็เคลื่อนพลมุ่งตรงสู่ลงการาชธานี

เมื่อถึงราชมนเทียรของพญาทศกัณฐ์ กษัตริย์หนุ่มเข้าท้องพระโรง นั่งรวมกับหมู่เสนาที่รอเฝ้าพญาราพณาสูร เพียงอึดใจพญาทศกัณฐ์เสด็จลงสภาอสูร เมื่อเห็นแสงอาทิตย์หลานรักก็ยินดี ลงจากราชบัลลังก์เข้าประคองแขนหลานลุงให้ลุกขึ้น กอดหลานผู้ที่ไม่ได้พบกันมานาน

...บัดนี้ศัตรูเหิมเกริมนัก ฆ่าญาติมิตรของเราชาวสุริยวงศ์ตายรายวัน นี่ลุงเห็นว่าหลานเป็นผู้ปรีชา ผู้จะสามารถฆ่าเจ้าสองมนุษย์และเหล่าวานรโอหัง อย่างมิยากนัก...

แสงอาทิตย์รู้สึกทราบซึ้งที่ลุงเห็นความสำคัญของตน ผู้เป็นเพียงกษัตริย์ประเทศราชเล็กๆ

...หลานขอปวารณาตน ช่วยขจัดเสี้ยนหนามของโคตรยักษ์ของเราให้หมดไปจากแผ่นดินลงกา เพื่อล้างอายเราผู้ครองศักดิ์แห่งองค์พรหม...
บัดนี้ทศกัณฐ์กลับมามีสีหน้าผ่องใสยิ้มแย้มอีกครั้ง

...หลานเป็นที่พึ่งของตระกูลได้จริงๆ เอ้า มหาเสนา จงแต่งเครื่องเสวยคาวหวาน เมรัยมาถวายแก่หลานเรา และพลโยธาแห่งโรมคัลให้ทั่วกัน... 

ตามราชธรรมเนียมแห่งลงกา เมื่อมีทัพใดมาช่วยรบก็ต้องเลี้ยงดู ปูเสื่อ อย่างเต็มที่เพื่อซื้อใจ บำรุงร่างกายทหารต่างเมืองอย่างเอิกเกริก

ราชสำนักลงกาจัดนางรำ นักขับ มาถวายงานฟ้อนรำถวาย แสงอาทิตย์เพลิดเพลินจนแทบจะลืมวัตถุประสงค์ของการมาลงกาในครั้งนี้ ทศกัณฐ์ออกปากเตือนสติ

...นี่หลานลุง หากเสร็จศึกนี้ ลุงว่าจะให้เจ้าดูแลอากร เงินภาษี รายได้ของประเทศราชในอาณาจักรแห่งลงกาทั้งหมด แล้วนี่แหวนเพชรเม็ดงาม ของเก่าที่ลุงใส่ติดนิ้วมานาน ลุงให้หลานรักไว้...มามะ มาให้ลุงใส่ให้... 

ทศกัณฐ์ถอดแหวนจากหัตถ์ข้างขวา มอบให้แสงอาทิตย์เพื่อซื้อใจ แสงอาทิตย์รับประทานของมีค่าจากลุง น้ำตาคลอด้วยความซึ้งใจ

...หลานจะขอสู้ศึกอย่างถวายชีวิต บัดนี้หลานขอลาไปจัดทัพเพื่อกำจัดศัตรูให้หมดไปภายในรุ่งพรุ่งนี้... 

พญาแสงอาทิตย์ออกจากพระที่นั่งแล้วตรงลงพระลาน สั่งให้จิตรไพรีพระพี่เลี้ยงจัดทัพให้พร้อม ราชาแห่งโรมคัลเข้าสรงน้ำ แต่งองค์อย่างหรูหรา แต่งกายด้วยผ้าพื้นดำ ใส่แหวนครบสิบนิ้ว ใส่เครื่องประดับทับทิมสีแดงดีทั่วกาย (แต่ในการแสดง แสงอาทิตย์มักแต่งกายด้วยผ้าสีแดง) ขึ้นราชรถเทียมด้วยสิงห์คู่ สารถีถือปืนไฟ ธงปลิวเป็นทิวแถว ขุนศึกต่างพร้อมด้วยกำลังและความคะนอง 

เมื่อทัพแห่งโรมคัลเคลื่อนมาถึงชายป่าขอบเมืองลงกา กลิ่นซากศพที่ทับถมกันของเหล่าทหารหาญแห่งปางตาล ได้โชยตลบมาแต่ไกล จนแสงอาทิตย์แน่ใจว่าอยู่ใกล้สนามรบแล้ว จึงสั่งให้หยุดทัพ คอยท่าศัตรูอยู่ที่เชิงเขา คอยท่าทัพวานร

.


ศึกแสงอาทิตย์


.

แสงอาทิตย์


.



Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,531


View Profile
« Reply #2 on: 06 July 2023, 10:14:14 »


6 กรกฎาคม 2022  ·

เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกแสงอาทิตย์ (3)

-องคตแปลงเป็นยักษ์ ไปขอแว่นแก้วสุรกานต์จากพระพรหม

พระรามตื่นตั้งแต่ยังไม่สว่างดี อารมณ์เบิกบานจากกลิ่นหอมของไม้ดอกนานาพรรณที่พระพายหอบมาต้องพระนาสิก เสียงนกร้องเพลงดั่งจงใจถวายแก่องค์อวตาร พระเสด็จลงสรงน้ำ รัดองค์เป็นที่เรียบร้อย แล้วลงสู่มหาสภาวานรเช่นเคย

พลันได้ยินเสียงเอ็ดตะโลของเหล่าไพร่พลยักษ์ อันเป็นภาษาที่เริ่มจะคุ้นเคย จึงถามพิเภกผู้รู้

...พญาพิเภก นายทัพมารคราวนี้คือใคร ท่านลองตรวจดูกำลังของมันดูสิ...

พิเภกจับยามหลับตาอย่างมิไหวติง แน่ใจว่ามิพลาด จึงกราบทูล

...อันนายทัพนี้มิใช่ชาวเผ่าลงกา แต่เป็นกษัตริย์แห่งโรมคัล ชื่อว่าพญาแสงอาทิตย์ เป็นบุตรพญาขร เป็นน้องมังกรกัณฐ์ ทั้งสองถูกพระอวตารสังหารตายตกตามกันไปแล้วนั้น บัดนี้แสงอาทิตย์ได้นำทัพมาแก้แค้นแทนบิดาและพี่ชายตน

ที่สำคัญอสูรหนุ่มตนนี้มีอาวุธวิเศษคือ แว่นแก้ว ที่พระพรหมประทานให้ อันสามารถรวมแสงอาทิตย์ส่องทำลายทุกชีวิตที่ขวางหน้า แสงอาทิตย์ได้ฝากแว่นแก้วไว้กับองค์พรหม เมื่อมีการศึกคราใด แสงอาทิตย์จะใช้ให้พระพี่เลี้ยงนาม จิตรไพรี ขึ้นไปขออาวุธนี้จากองค์พรหม...ข้าบาทเกรงว่าหากเข้าแลกกันตรงๆ กลัวว่าฝ่ายเราจะบรรลัย...

พระรามเริ่มขยับองค์ แล้วถอนหายใจ

...แล้วท่านเห็นควรว่าเราจะทำอย่างไรหละ ท่านพิเภก... 

โหรเอกทำท่าครุ่นคิดเพียงชั่วครู่ เหมือนซื้อเวลาให้ตนได้หายใจ

...ข้าบาทเห็นว่าผู้สามารถทำการนี้คือองคต บุตรแห่งพาลี โปรดให้วานรมรกตผู้แกร่งกล้า แปลงกายเป็นจิตรไพรีขุนยักษ์ แล้วขึ้นไปลวงขอแว่นแก้วจากท้าวธาดาพรหม จากนั้นจึงค่อยเสด็จเคลื่อนพลเข้าชิงชัยกับแสงอาทิตย์ยังสมรภูมิ...

พระอวตารมิต้องคิด เอ่ยตรัสสั่งให้องคตรับหมายภารกิจนี้ แล้วทูลขอให้พญาพิเภกแปลงกายเป็นร่างจิตรไพรี เพื่อให้องคตดูเป็นแบบอย่าง 

พิเภกแปลงกายเป็นยักษ์หน้าเขียว หัวโล้น ล่ำสัน กายสีเขียว หน้าเขียว เขี้ยวโง้ง จากนั้นลูกพญาพาลีแปลงตาม จนลักษณะเหมือนกันอย่างไร้ที่ติ

แต่พิเภกยังไม่ลืมสอนกริยาท่าทางของยักษ์ ห้ามมิให้องคตเกาตัว อย่าหลุกหลิกอย่างลิงอันเป็นกริยาที่คุ้นเคย   

เจ้าชายลิงอย่างองคต ใช้เวลาไม่นานในการเรียนรู้ท่าทางของอสูร จากนั้นองคตเข้ากราบลานาย แล้วรีบเหาะขึ้นสวรรค์ เพื่อเข้าเฝ้าองค์พรหม

องคตในร่างจิตรไพรี ถวายบังคมแด่พระธาดาพรหม แล้วทูลอย่างฉะฉาน

...บัดนี้พญาแสงอาทิตย์ใช้ให้ข้าบาทมาขอแว่นแก้วที่ฝากไว้กับพระองค์ เพื่อจะได้นำเทพอาวุธนี้ไปขจัดมนุษย์และวานรให้สิ้นจากลงกา... 

ท้าวธาดาพรหมมิรู้กลวานรจึงประทาน แว่นแก้วให้ เมื่อจิตรไพรีแปลงได้รับกับมือแล้ว รีบถวายบังคมลา แล้วเหาะกลับลงสู่แผ่นดินลงกา 

เมื่อองคตร่อนลงสู่หน้าพลับพลา แปลงกายกลับมาเป็นมหาวานร กายสีเขียวตามเดิม พระรามมีความยินดียิ่ง มือหนึ่งรับแว่นแก้วจากองคต อีกมือลูบหลังชมเชยองค์ชายแห่งขีดขิน

...องคตผู้มีปัญญา สมแล้วที่เป็นหลานพระอินทร์ ในอนาคตท่านจะเป็นราชาแห่งวานรผู้ยิ่งใหญ่... 

จากนั้น องค์รามสั่งให้สุครีพเตรียมจัดทัพทันที

.


ท้าวมหาพรหม


.

องคตแปลงเป็นยักษ์จิตรไพรี ไปขอแว่นแก้วสุรกานต์จากพระพรหม


.



Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,531


View Profile
« Reply #3 on: 06 July 2023, 10:15:10 »


6 กรกฎาคม 2022  ·

เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกแสงอาทิตย์ (4)

-วาระสุดท้ายของแสงอาทิตย์

ทัพสองมนุษย์และวานรเคลื่อนมาถึงสนามรบ ประจัญหน้ากับทัพมารแห่งโรมคัล เพียงอึดใจพระรามสั่งให้องคตผู้เป็นนายทัพหน้า นำทหารวานรเข้าโจมตีทัพมารทันที ทั้งยักษ์ลิงสู้กันอย่างดุเดือด แต่สุดท้าย พลยักษ์เสียที ถูกทหารลิงฆ่าตายเกลื่อนสนาม

แสงอาทิตย์เห็นพลทหารตนพ่ายแพ้อย่างหมดท่า ราชาแห่งโรมคัลฉวยศรศาสตร์แล้วท่องมนต์แห่งอสูร ขึ้นพาดสาย แผลงออกต้องร่างเหล่าลิงป่าร่วงล้มทั้งยืน 
พระรามเห็นว่าทัพตนเสียท่า จึงพาดศรอัคนิวาต ขึ้นสายแล้วยิงเข้าทำลายรถทรงของแสงอาทิตย์แหลกยับ สิงโตคู่เทียมรถตายด้วยพิษศร สารถีถูกแรงธนูตัดคอขาดตายอย่างอนาถ แล้วเหล่าวานรที่นอนแน่นิ่งก่อนหน้านี้ กลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง 

แสงอาทิตย์โดดลงจากซากรถ แล้วขว้างตรีจักร หมายสังหารสองมนุษย์แบบประชิดตัว พระรามพาดศรพลายวาต ยิงเข้าทำลายจักรแก้วจนแหลกเป็นผง แล้วศรสิทธิ์ได้แตกตัวออกเป็นลูกธนูนับพันเล่ม เข้าปักร่างพญาแสงอาทิตย์ ลูกพญาขรนึกถึงคุณองค์พรหม กลั้นใจร่ายเวทย์จนศรทั่วร่างหลุดออกอย่างง่ายดาย
ราชาแห่งโรมคัล เรียกพระพี่เลี้ยงจิตรไพรี ให้เข้ามา

...จิตรไพรี พี่จงขึ้นไปขอแว่นแก้ววิเศษจากองค์พรหม ข้าจะนำมาล้างมนุษย์และลิงป่าให้บรรลัย...   

พี่เลี้ยงคนสนิทเหาะขึ้นฟ้าทันทีอย่างรู้ใจนาย เข้ากราบบาทองค์พรหม แล้วทูลขออย่างรีบเร่ง

...พญาแสงอาทิตย์ได้ใช้ให้กระหม่อมมาเฝ้าองค์พรหม เนื่องจากบัดนี้สองมนุษย์กับเหล่าวานรได้เข้ารุกรานเมืองลงกา พญาทศกัณฐ์ได้ใช้ให้นายข้าออกต่อยุทธ์กับมนุษย์ บัดนี้จึงสั่งให้ข้ามาขอแว่นแก้วจากองค์พรหม เพื่อนำไปล้างศัตรู...

พระพรหมนิ่งคิดชั่วครู่

...ก็เมื่อกี้เอ็งก็พึ่งมาขอแว่นแก้วจากข้าไป ข้าก็ส่งให้แล้ว ตอนนี้จะมาเอาอะไรอีก... 

จิตรไพรีตกใจ ตัวเย็นวูบ หน้าซีดเหงื่อแตก ตัวสั่น รู้ว่าพระพรหมธาดาถูกวานรลวงเอาอาวุธไปซะแล้ว

...องค์พรหม ทำไมท่านไม่ดูให้ดีก่อนว่าใครปลอมมาเอาอาวุธสำคัญชิ้นนี้ไป ขนาดพระพรหมผู้เป็นเจ้ายังไม่รู้ทันลิงเลย ข้าหละน้อยใจจริงๆ...พลางกราบลา แล้วรีบลงไปหานาย

จิตรไพรี รีบถลาลงเข้ากราบแทบบาทนายตน

...ข้าศึกได้แปลงกายเป็นบ่าว เข้าลวงขอแว่นแก้วจากท้าวธาดาพรหมไปก่อนเราแล้วพระเจ้าค่ะ...

พญาแสงอาทิตย์หน้ามืด ตัวหวิวแทบจะทรงกายไม่อยู่

...นี่เป็นเพราะพิเภกลุงของข้าเป็นแน่ บอกให้ศัตรูรู้ความลับของเราซะหมด ไอ้ยักษ์เลวคิดจะล้างเผ่าพันธุ์ตัวเองให้สิ้น...มา พี่จิตรไพรี เราจะรบด้วยกันเพื่อไว้ชื่อวงศ์อสูร ถึงต้องตายข้าก็ไม่เสียดายชีวิต...

สองอสูรแห่งโรมคัล เข้าหักหาญชีวิตวานรอย่างไม่เลือกหน้า ฆ่าฟัน ตัดแขนขาทหารแห่งองค์รามอย่างเลือดเย็น จนไม่มีวานรหน้าไหนกล้าดาหน้าเข้าโจมตีสองมารอีกต่อไป จนยักษ์ทั้งสองสามารถหักด่านมาถึงหน้าราชรถแห่งสองกษัตริย์มนุษย์

สองพี่น้องรามลักษมณ์กระโดดออกจากรถ เข้าต่อตีกับราชาและขุนมารแห่งโรมคัล พระรามต่อตีกับแสงอาทิตย์ พระลักษมณ์รับมือกับจิตรไพรี สองมนุษย์ขึ้นเหยียบบ่าคู่ต่อสู้ในเวลาไล่เลี่ยกัน กระหน่ำตีด้วยคันศร จนยักษ์ทั้งสองตนเจ็บกายแทบขาดใจ

ทหารลิงพากันส่งเสียงเยาะเย้ยสองมารที่เสียทีต่อนายตน แสงอาทิตย์เห็นท่าจะตั้งรับแรงตีอันหนักหน่วงของมนุษย์ตัวเล็กต่อไปไม่ไหว ดีดตัวออกห่าง แล้วคว้าด้ามศรยิงลูกธนูกระจายออก เข้าปักอกเหล่าพลวานร นอนดิ้นเกลื่อนพื้น

พระรามเห็นไพร่พลดิ้นพล่าน จึงประทับศรพรหมาสตร์ เล็งไปที่แสงอาทิตย์ ส่วนพระลักษมณ์ชักพลายวาต หมายแผลงไปที่จิตรไพรี สองกษัตริย์ปล่อยลูกศรพุ่งแหวกอากาศเข้าชุบชีวิตเหล่าทหารวานรให้กลับฟื้นขึ้นมาดังเดิม 

พรหมาสตร์วิ่งเข้าปักที่กลางอกพญาแสงอาทิตย์ พลายวาตเข้าตรึงร่างพระพี่เลี้ยงจิตรไพรี บัดนี้สองมารสุดแสนทรมานด้วยพิษแห่งศรเทพ เข้าประคองร่างของกันละกันด้วยความห่วงใย

ใครจะคิดว่า...นี่คือวาระสุดท้ายของสองชีวิต ที่เป็นมากกว่ากษัตริย์และเสนาคนสนิท นายและบ่าว น้องรักและพี่เลี้ยง สองชีวิตที่ผูกพันกันจนถึงเวลาตาย...

.


แสงอาทิตย์


.

จิตรไพรี ยักษ์พี่เลี้ยงของแสงอาทิตย์


.

...........

วันนี้ ขอเล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกแสงอาทิตย์ จนจบตอน
ขอหยุดเล่า ไปธุระสัก 4 วันครับ
.

ตอนต่อไป...ศึกทศกัณฐ์ครั้งที่สอง

.



Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,531


View Profile
« Reply #4 on: 06 July 2023, 10:42:57 »


เรียนผู้อ่านเรื่องรามเกียรติ์ทุกท่าน

ช่วงนี้ ผมมีเวลาว่างอยู่บ้าง ได้เข้ามาสำรวจ พบว่าภาพเรื่องรามเกียรติ์ขาดหายไป ภาพไม่ขึ้นหลายภาพ
ผมจะตาม up post ภาพต่างๆเท่าที่จะทำได้ มาให้ท่านชมอีกครั้ง ใครที่สนใจภาพสวยๆ ก็ดาวน์โหลดเก็บภาพไว้ได้เลยครับ
จะเริ่มตั้งแต่ ตอนที่[31] ตอน นางลอย เป็นต้นไป และถ้ามีเวลาเหลือ ก็จะย้อยกลับไปยังโพสต์ตอนต้นๆด้วยครับ

ท่านใดมีข้อเสนอแนะ กดเข้า reply ได้เลยครับ

.


« Last Edit: 07 July 2023, 09:40:32 by ppsan » Logged
Pages: [1] Go Up Print 
« previous next »
 

SMF 2.0.4 | SMF © 2013, Simple Machines | Theme by nesianstyles | Buttons by Andrea
Page created in 0.078 seconds with 19 queries.