Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
User Info
Welcome, Guest. Please login or register.
15 May 2024, 02:15:24

Login with username, password and session length
Search:     Advanced search
News
ท่านสมาชิกสามารถเปลี่ยนรูปแบบ (Theme) ได้อีกหลายแบบ
เชิญทดลองโดยคลิกที่ลิงค์ข้างล่าง ได้เลยครับ

http://www.smilesiam.net/index.php/topic,3170.msg4713.html
Forum Stats
25,682 Posts in 12,490 Topics by 70 Members
Latest Member: KAN
Home Help Search Calendar Login Register
Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...  |  ภาพประทับใจ  |  ผนังเก่าเล่าเรื่อง (Moderator: ผนังเก่าเล่าเรื่อง)  |  [38.1] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ศึกกุมภกรรณ โดย กลม บางบาน ตอนที่
0 Members and 1 Guest are viewing this topic. « previous next »
Pages: [1] Go Down Print
Author Topic: [38.1] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ศึกกุมภกรรณ โดย กลม บางบาน ตอนที่  (Read 157 times)
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,535


View Profile
« on: 16 May 2023, 09:30:30 »

[38.1] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน ศึกกุมภกรรณ โดย กลม บางบาน ตอนที่1-10


16 พฤษภาคม 2022  ·

เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกกุมภกรรณ (1)

-กุมภกรรณเข้าเฝ้า

เมื่อทศกัณฐ์ทราบข่าวการตายของไมยราพ หัวใจสลาย แทบจะครองสติไม่อยู่

เจ้าแห่งลงกาน้ำตานองหน้า ถอนใจยาว เพราะยังหาทางออกต่อการศึกนี้มิได้ จึงสั่งนางกำนัลให้ไปตามกุมภกรรณ น้องชายคนโปรดมาหารือข้อราชการนี้...ด้วยกุมภกรรณมีหอกโมกขศักดิ์เป็นอาวุธสำคัญ ทั้งได้พรจากองค์พระพรหม และมีฤทธิ์เดช และกล้าหาญ

เมื่อกุมภกรรณมาเข้าเฝ้า ทศกัณฐ์ยินดียิ่งนักเมื่อเห็นน้องผู้จะเป็นทางออกยามคับขันอย่างนี้ จึงตรัสว่า...

...น้องพี่ มามะ มานั่งข้างพี่มา เจ้ารู้หรือไม่ว่าไอ้ลิงไพร่ขี้ข้ามนุษย์ มันฆ่าไมยราพ ตายเสียแล้ว พี่นี้แสนแค้นยิ่งนัก เห็นว่าเจ้าเป็นผู้ที่จะล้างอายเราชนเผ่าอสูรวงศ์ จะชนะสองพี่น้องรามลักษมณ์อย่างมิยากเย็นนัก... 

กุมภกรรณเอง นอกจากจะมีฤทธิ์มีเดชน่าเกรงขามแล้ว ยังถือว่าเป็นยักษ์มีคุณธรรมอีกตนนึง...พอพี่ชายขอให้ไปรบกับพระราม กุมภกรรณจึงบอกว่า...

...ไอ้ที่ยุ่งวุ่นวายกันเนี่ย เพราะเฮียไปลักเมียเขามานะพี่ทศฯ เพียงแต่ท่านพี่ส่งสีดาคืน การศึกก็จะสงบลง และสองเผ่าพันธุ์ยักษ์กับมนุษย์ก็จะได้เป็นมิตรต่อกัน...

(น่าสังเกตนะครับ...คราวก่อน พิเภกก็เตือนแบบนี้ ถึงกับถูกขับออกจากเมือง แต่ก็อย่างว่าแหละฮะ พิเภกแกเป็นยักษ์ไม่มีฤทธิ์ เก่งแต่ดูดวง เรียกว่าสายบุ๋น ทศกัณฐ์เลยไม่เกรงใจ...คราวนี้กุมภกรรณเตือนแบบเดียวกันบ้าง ทศกัณฐ์ไม่กล้าหักกับน้องคนนี้แฮะ ก็ได้แต่ด่าโขมงโฉงเฉง...)

ทศกัณฐ์เบือนหน้าหนี แอบลอบค้อนน้องชายคนโปรดอย่างไม่พอใจ

...เหม่ๆ ไอ้กุมภกรรณอุปราชแห่งลงกา ดูเหมือนเจ้าจะเข้าใจมนุษย์มาก หรือจะนิยมพวกมันเหมือนไอ้พิเภกจอมอกตัญญูู รามลักษมณ์ทำร้ายน้องสาวเราสำมนักขา ฆ่า ทูต ขร และตรีเศียร จนพี่แค้นใจยิ่ง จึงไปลักนางสีดามาเป็นเชลยเพื่อให้มนุษยฺรู้รสความเจ็บปวด แต่มันก็ยังทำการข่มเหงลงกาโดยส่งลิงป่าหนุมานมาทำลายสวนขวัญ ฆ่าเสนายักษ์ทั้งสิบ ฆ่าหลานเจ้าทั้งหนึ่งพันตน แถมยังเผาเมืองเราอีก ยังไม่หนำใจมันส่งไอ้มารหัวขนองคตมาเล่นลิ้นประกาศสงครามกับกองทัพมารของเรา แล้วยังส่งสุครีพผู้น้องพาลีมาหักฉัตรประจำตระกูลพรหมของเรา ล่าสุดไมยราพผู้คิดดี ยังตายอย่างโหดเหี้ยมเพราะพวกมนุษย์ใจหยาบ กุมภกรรณเจ้าไปอยู่ที่ไหนมา พอรู้ความ จงบอกข้าหน่อยเถิดว่าใครถูกผิดกันแน่... 

กุมภกรรณยักษ์ผู้ถือตรง ก็อธิบายความว่า...

...ข้ารู้สึกเจ็บปวดมาตลอดถึงการสูญเสียครั้งแล้วครั้งเล่าของชาวเราเผ่ายักษา เมื่อมีลูกหลานบริวารตาย ข้าหรือจะไม่รู้สึกเจ็บ แต่หากมองด้วยหัวใจของข้า หากไม่ใช่สำมนักขาหญิงหน้าด้านไปเกี้ยวพารามลักษมณ์ ฤาษีทั้งสองคงไม่ทำร้ายเอาหรอก อีกอย่างน้องเรา ทูต ขร ตรีเศียร ต้องมาตายเพราะฟังความจากสัมนักขาฝ่ายเดียว ส่วนหนุมาน องคต สุครีพเหล่าวานร พวกมันก็ต้องทำผลงานเสนอนายเอาหน้า จะไปโกรธพวกมันซะทีเดียวก็ไม่ได้ สิ่งที่ข้าทูลมาจากความยุติธรรมทุกอย่าง เจ้าเหนือหัวอย่าโกรธข้าเลย...

ทศกัณฐ์กระทืบเท้า ชี้หน้าด่า

...ไปเลยไอ้กุมภกรรณ เมื่อนิยมมนุษย์นัก มรึงก็ไปอยู่กะไอ้พิเภกเลยไป ทีแรกกูนึกว่ามรึงจะกล้าหาญ ข้าศึกมาถึงบ้านจะให้กรูจัดพานออกไปรับใช่ไหม มึงไสหัวออกไปจากเมืองกรูเลย ไป๊!...

สุดท้ายกุมภกรรณคงรำคาญ...เออๆๆๆ กรูไปรบให้ก็ได้วะ...

.


ศึกกุมภกรรณ


.

กุมภกรรณ


.

กุมภกรรณขอให้ทศกัณฐ์ส่งนางสีดาคืนแก่พระราม เรื่องก็จะยุติ ไม่ต้องทำสงครามกัน


.

ทศกัณฐ์เบือนหน้าหนี แอบลอบค้อนน้องชายคนโปรดอย่างไม่พอใจ


.



« Last Edit: 12 May 2024, 12:50:39 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,535


View Profile
« Reply #1 on: 16 May 2023, 09:31:23 »


16 พฤษภาคม 2022  ·

เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกกุมภกรรณ (2)

-กุมภกรรณออกศึก

ทศกัณฐ์ยันกายลงจากพระแท่น เข้าประคองกุมภกรรณผู้หมอบกราบอย่างมิไหวติง 

...โถ น้องพี่ มามะคนดี มานั่งข้างๆพี่มา พี่ตวาดเพราะร้อนใจจากการศึกที่ใกล้ตัวเข้ามาทุกที...มาเถิดน้องรัก มาช่วยพี่ขจัดเสี้ยนหนามแห่งลงกาซะเถิด เจ้าก็รู้ว่าพี่เชิดชูอธิปไตยแห่งลงกาเป็นที่ตั้ง ไม่เค๊ยไม่เคยจะสนใจอิสตรี โชคดีจงมีแก่เจ้า ชื่อของน้องข้าจะจารึกในประวัติศาตร์แห่งอสูรพงศ์...

กุมภกรรณกราบพี่ที่ตัก แล้วลุกยืนอย่างทรนง หัวใจของกุมภกรรณได้ถวายแด่เจ้าเหนือหัวของมัน...ข้าจะปกป้องทุกชีวิตในลงกา ตราบลมหายใจสุดท้าย... 
ทศกัณฐ์โผเข้าโอบไหล่น้อง...

...นี่สิน้องรักของพี่ ข้าจะคอยเชยชมชัยชนะที่เจ้าจะนำกลับมาในเร็ววัน...

...มโหทร เจ้าไปตระเตรียมทหารให้พร้อม จัดทัพหลวงเยี่ยงกษัตริย์ให้แก่อุปราชกุมภกรรณ ให้ยิ่งใหญ่สมเกียรติแห่งท่าน...

จากนั้นกุมภกรรณขอลาไปอาบน้ำ บูชาทวยเทพเอาฤกษ์เอาชัย แต่งตัวด้วยผ้าใหม่ ใส่เครื่องประดับเยี่ยงราชา ทรงคทาทองคู่ใจ ตรวจตรากระบวนทัพตั้งแต่เสนายันทหารเลวเป็นที่พอใจแล้วจึงตรงไปที่รถศึก เรียกหาทุกศาสตราวุธ มิให้ห่างจากกายยามต้องการ

พอได้เวลาอันพอใจ ก็ให้ทหารโห่สามลา... พลม้า พลช้าง ต่างคึกคะนองโห่ร้องกันอึกทึก เดินทัพกันคึกคักจนมาถึงหน้าค่ายของพระราม...จึงให้ทหารตัวเอ้ ออกร้องท้าให้สองมนุษย์ออกมาสู้กัน
.....

พระรามอยู่ในพลับพลาได้ยินเสียงโห่ร้องจากทัพอสูร นึกแปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้น จึงถามพิเภกที่ปรึกษา พิเภกจับยามดูแล้วทูลว่า...

...บัดนี้ทศกัณฐ์ใช้ให้พญาอสูรกุมภกรรณผู้เป็นอุปราชแห่งลงกาและยังเป็นพี่ของข้าบาท เดินทัพมาเพื่อทำศึกกับพระองค์ หากการศึกล่วงเลยไปไกลถึงชีวิต ข้าน้อยขอพระองค์โปรดละชีวิตขุนมารเป็นการล่วงหน้าด้วยเถิด... 

พระรามได้แต่ถอนใจส่ายหน้า...หากตัวพี่ของท่านตนนี้มีความเที่ยงธรรมอย่างที่ท่านว่า เหตุใดจึงทำตามคำสั่งทศกัณฐ์ แถมยังไม่ห้ามปราบเจ้ายักษ์พาล ข้าจะเห็นแก่ท่านพิเภก เชิญท่านออกไปเจรจาให้กุมภากรรณเลิกทัพกลับนครเสียเถิด...

.


ศึกกุมภกรรณ


.

กุมภกรรณ


.

กุมภกรรณออกศึก


.




« Last Edit: 12 May 2024, 12:52:52 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,535


View Profile
« Reply #2 on: 17 May 2023, 15:24:51 »


17 พฤษภาคม 2022  ·

เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกกุมภกรรณ (3)

-พิเภกเจรจา

พิเภกถวายบังคม เดินออกนอกค่ายไป จนมาถึงหน้ารถศึกของพี่ชาย พิเภกก้มลงกราบที่พื้นทั้งน้ำตา ร้องเพราะคิดถึง ร้องเพราะบัดนี้สองพี่น้องต้องเป็นบ่าวคนละนาย 

แต่เมื่อกุมภกรรณเห็นหน้าน้องชัดๆ กลับโกรธเป็นฟืนไฟ...ไอ้พิเภกเนรคุณ เข้าไปประจบสอพลอพี่น้องรามลักษมณ์ จนลืมเผ่าวงศ์ยักษ์แล้วสิท่า แล้วที่เจ้ามาหาเรานี่ มาไม้ไหนว่ามา...

พิเภกมารซื่อ บรรจงกราบพี่...ที่จริงแล้วพระรามคือพระนารายณ์ อวตารลงมาปราบเหล่ายักษ์ร้ายจอมพาล แต่ท่านพี่เป็นยักษ์ที่นิยมในศีลธรรม พระรามท่านจึงให้มาเจรจาเพื่อท่านจะได้เลิกทัพกลับนคร จะได้ไม่เสียเลือดเนื้อของไพร่พลทั้งสองฝ่าย หากการศึกเสร็จแล้วพระรามเป็นผู้ชนะ ท่านจะมอบสมบัติทั้งกรุงลงกาให้แก่ท่าน...

กุมภกรรณยิ่งฟังก็ยิ่งขำ จึงเหน็บแนมกลับไปว่า...

...ฟังดูมึงนิยมชมชอบสองพี่น้องมนุษย์อย่างมาก ไม่ทันไรมึงก็ยกพระรามผู้เป็นนายให้เป็นเจ้าลงกาซะแล้ว แหม..มากระแดะจะยกเมืองให้กูอีก เจ้ารามลักษมณ์มันจะชนะเหล่าอสูรได้อย่างไร เพราะขนาดเมียคนเดียวมันยังรักษาไว้ไม่ได้ แทนที่จะออกตามหาดีๆ ดันไปยุ่งเรื่องชาวบ้าน ฆ่าพญาพาลีตาย สำมนักขาที่ว่าหน้าด้านแล้วก็ยังสู้มึงไม่ได้นะไอ้พิเภก ขายความในของวงศ์ตระกูลซะหมด บอกเค้าซะทุกเรื่อง ถึงตัวกูจะต้องตาย แต่กูก็ยังภูมิใจที่จะได้ทดแทนคุณพญาทศกัณฐ์เจ้าแห่งลงกา ไอ้อกตัญญูไปบอกนารายณ์นายมึงนะว่า เตรียมตัวตายด้วยน้ำมือของกุมภกรรณได้แล้ว...
(ดังบทกลอน)
.
            เมื่อนั้น                    กุมภกรรณสิทธิศักดิ์ยักษา
ได้ฟังถ้อยคำอนุชา                 ตบมือสรวลร่าแล้วตอบไป
ตัวมึงเป็นไส้สงคราม              พระรามก็จะยกเมืองให้
ฝ่ายกูผู้ออกมาชิงชัย               ก็ซ้ำจะให้ซึ่งราชธานี
ลงกาเป็นสองเมืองหรือ           ให้น้องแล้วจะรื้อให้พี่
ลวงได้แต่มึงไอ้อัปรีย์             กูนี้มิได้เชื่อฟัง
อันนารายณ์นั้นสี่หัตถา            ทรงตรีคทาจักรสังข์
ภุชงค์เป็นอาสน์บัลลังก์            เสด็จยังเกษียรสาคร
นี่เป็นมนุษย์สองมือ                ถือแต่ธนูศิลป์ศร
เที่ยวอยู่ในป่าพนาดร              เอาวานรมาเป็นโยธา
แม้นจริงเหมือนมึงมายอยก      ก็จะแจ้งในข้อปริศนา
คือชีโฉดหญิงโหดมารยา         ช้างงารีชายทรชน
ถ้าว่าเป็นองค์พระจักรกฤษณ์    ก็จะคิดแก้ได้ไม่ขัดสน
ตัวกูผู้มีฤทธิรณ                      จะเลิกพลคืนเข้าไปธานี
.

พิเภกได้ฟังดังนั้นก็ผวาจากความกลัวว่าพี่จะฆ่า จึงรีบกลับไปยังค่ายเล่าให้พระรามฟังคำต่อคำว่ากุมภกรรณด่ามาว่าอย่างไร รวมทั้งข้อปริศนาด้วย
.

.....แทรก.....
จะเห็นว่ากุมภกรรณมีถ้อยคำที่เชือดเฉือน ฉลาด อย่างยิ่ง ในบทละครนี้มีสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่สามเหตุการณ์ ที่แสดงให้เห็นว่ากุมภกรรณไม่ใช่ยักษ์ธรรมดาหรือรบเก่งอย่างเดียว สติปัญญาหลักแหลมเกินกว่าใครจะเทียบได้

-หนึ่ง-กุมภกรรณหยามข้อเสนอของพระราม ที่ว่าหากเลิกทัพกลับไป หลังจากเสร็จศึกแล้วจะให้ครองลงกา...ลงกาเป็นสองเมืองหรือ ให้น้องแล้วจะรื้อให้พี่...ลงกามีอยู่แค่เมืองเดียว พระรามสัญญาจะยกให้พิเภกหากชนะศึก แต่ตอนนี้กลับนำมาเสนอให้กุมภกรรณด้วย แล้วจะน่าเชื่อถือได้อย่างไร

-สอง-กุมภกรรณไม่เชื่อว่าพระรามคือพระนารายณ์ เพราะนารายณ์ต้องมีสี่กร บรรทมบนบัลลังก์นาค อยู่ที่เกษียรสมุทร แต่สภาพของพระรามตอนนี้เป็นเพียงแค่ฤๅษีอ่อนแอไร้ราศรี ถือธนู อาศัยอยู่ในป่าดง มีเพียงกองทัพลิงติดตามเท่านั้น ดูไม่สมจริงกับที่กล่าวอ้างซะเลย

-สาม-กุภกรรณฝากข้อปริศนาให้พระรามแก้ หากแก้ได้ก็จะเลิกทัพกลับไป แล้วจะไม่ยุ่งกะการศึกนี้อีก จึงถามว่าใครคือ...ชีโฉด หญิงโหด ช้างงารี ชายทรชน...
.....แทรก.....

.


พิเภก


.




.



.





« Last Edit: 12 May 2024, 12:54:32 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,535


View Profile
« Reply #3 on: 17 May 2023, 15:26:04 »


17 พฤษภาคม 2022  ·

รามเกียรติ์(พิเศษ) ตอน พิเภกกับกุมภกรรณ

ไปเห็นมา จึงเอามาเล่า...

ในความเห็นของผม ผู้เล่าเรื่องรามเกียรติ์...
พิเภก เป็นตัวละครที่น่าเห็นใจและน่าสงสาร ตัวละครต่างๆเหล่านี้ เมื่อไปอยู่ในมือคนเขียนคนไหน ก็จะออกมาตามความต้องการของนักเขียนคนนั้น

ในรามเกียรติ์ฉบับนักบริหาร เขาบอกว่า...
พิเภกเป็นพวกกระสันอยากได้อำนาจ...พระรามจึงใช้พิเภกกับสุครีพเป็นเครื่องมือ   เพราะสองคนนี้เป็นพวกเบี้ยรองบ่อน สู้พี่ไม่ได้...พระรามก็จัดการให้พี่น้องแตกกัน  เอาคนที่อยากได้อำนาจมาเป็นเครื่องมือ...

เขามีสิทธิ์คิดแบบนั้น และเป็นไปได้ด้วย แต่ในเมื่อมันเป็นมหากาพย์เข้าแล้ว ตัวละครก็มักจะตีความได้หลากหลาย...ดังนั้นเราเลยตีความแบบของเราบ้าง...


...........

กุมภกรรณ...ออกศึก

...เขามองมาจากรถศึก...มีคนเดินมา ไกลแสนไกล...

เขากุมกระบองไว้ในมือ เพ่งสายตาออกไป ไม่ใช่มนุษย์ และไม่ใช่ลิง เมื่อเพ่งสายตามากขึ้นอีก ก็เห็นว่าร่างนั้นใหญ่กว่า ไม่ใหญ่มากนัก ไม่ใหญ่เลยสำหรับยักษ์ ที่จริงแล้ว ถ้าหากคิดว่าเป็นยักษ์ ร่างนั้นก็ออกจะผอมเกินไป ผอมและดูอ่อนแอ

"พิเภก.." กุมภกรรณเอ่ยแผ่วเบา...

เมื่อพิเภกเดินเข้ามาใกล้อีก...ผอม อ่อนแอ ใบหน้าเคร่งเครียดจนดูแก่เกินอายุจริง ไม่ผิดอะไรกับเมื่อครั้งเป็นเด็กน้อย...พญายักษ์กุมภกรรณค้นลึกลงในความทรงจำ นึกถึงน้องชายคนต่อจากตน น้องชายที่สุภาพเรียบร้อย และมักตกเป็นลูกไล่ของพี่ๆ เสมอ

พิเภกมาถึงหน้ารถแล้ว เขาหยุดยืนอยู่ กระพุ่มมือไหว้พี่ชาย พิเภกยังคงนอบน้อม ไม่ว่าอยู่ที่ไหน หรือเป็นอะไร

"เฮอะ!.." กุมภกรรณออกเสียงเป็นเชิงเย้ยหยัน แม้ว่าจะมีความทรงจำผุดพรายขึ้นมาราวฟองอากาศจากน้ำลึกเท่าใด เขาก็ยังคงเป็นเขา เป็นคนซื่อสัตย์แข็งแกร่ง ชิงชังการทรยศคดโกง เป็นทหารที่ดี และเป็นข้าแผ่นดินที่ดี

พิเภกเคยเป็นน้องคนโปรดของเขา แต่เวลานี้ มันไม่ใช่อีกแล้ว...

"เจ้าคนทรยศ มาที่นี่ทำไม"
"มาพูดกับพี่" พิเภกบอก น้ำเสียงของเขาเบา ไม่มีอำนาจ

พิเภกเป็นคนฉลาดช่างคิด แต่ไม่เคยมีอำนาจอะไรเลย ไม่เคยมีความมั่นใจ ไม่รู้จักแก่งแย่ง ไม่เป็นทหาร บางครั้งแทบดูราวไม่มีศักดิ์ศรี

"มีอะไรต้องพูดกันหรือ ท่านเจ้ากรุงลงกา" กุมภกรรณเสียดสี

ทศกัณฐ์บอกเขาแล้ว พิเภกไปเข้ากับราม รามตั้งให้เขาเป็นเจ้าเมืองลงกา...รามซึ่งไม่มีอะไรเลย เอาตำแหน่งซึ่งไม่มีแก่นสารและไม่ได้เป็นของตนให้พิเภก ตลกยิ่งนัก ทว่าพิเภกเอง...พิเภกที่อ่อนแอ บางทีคงจะอยากได้อำนาจบ้าง บางทีคงอยากจะได้ศักดิ์ศรี อยากจะเป็นใหญ่ดูสักครั้ง ดังนั้นจึงน้อมศีรษะลงกราบ เรียกรามเป็นนาย

"มีอยู่ ถ้าหากสามารถพูดกันเพียงสองคนได้ก็จะดี" น้องชายของเขาบอก
"ข้าไม่มีอะไรจะพูดกับเจ้า ไปเสีย.." กุมภกรรณโบกมือ
"ไปเกาะตีนราม วันนี้ข้าจะยกไปรบกับเขาแล้ว เจ้ามาเป็นทูต ข้าจะทำตามธรรมเนียมไม่ฆ่าทูต แต่หากข้าเห็นเจ้าในสนามรบ จะทุบเจ้าให้ตาย"
"ถ้าหากพี่เป็นคนถือธรรมเนียมจริง พี่ก็ควรจะฟังสิ่งที่ทูตนำมาบอก" พิเภกเอ่ยแผ่วเบา "ข้าจะทำอะไรพี่ได้ แรงจะถืออาวุธยังไม่มี"
"แต่กูชังน้ำหน้าคนทรยศ" พญายักษ์เข่นเขี้ยว
"ไอ้พิเภก มีงอย่ามาพูดจามากความอีก หากกูทนไม่ได้ จะผ่าอกแล่งแขนขา ตัดตีนสินมือมีง เสียบให้ตายอยู่ที่นี่เดี๋ยวนี้ มึงชอบใจเป็นเจ้ากรุงลงกาปลอมก็เป็นไป กูไม่ฟังมึงพูด"

"ข้าไม่ต้องการเป็นเจ้ากรุงลงกา" พิเภกบอก "ไม่ต้องการเลย หากพี่ต้องการ ข้าก็ยกให้พี่ได้"
"ไอ้zzz......" กุมกกรรณตวาดทันที ยกกระบองขึ้นชี้หน้า
"ลงกามีสองเมืองหรืออย่างไร มึงจึงมาพูดว่าตัดแบ่ง ไปให้พ้นหน้ากู ไม่งั้นกูจะสับมึงไม่ให้แค้นคอกา"

พิเภกนิ่งอยู่ นิ่งอยู่...

กุมภกรรณเป็นผู้มีหลักการ เขาเคารพความถูกต้อง ประพฤติตนตามประเพณีเสมอ เกลียดชังความอยุติธรรม แม้ไม่ชอบรุกรานใครก่อน แต่ยามเป็นทหารทำศึก ก็ฮึกห้าวยิ่งใหญ่ ทศกัณฐ์พี่ชายของเขา รักกุมภกรรณยิ่งนัก บอกว่าเหมือนท่อนแขนตน

หากเปรียบกันแล้ว พิเภกก็เหมือนคนไม่มีอะไรเลย พิเภกที่ไม่รู้อะไร เว้นแต่ทางโหร วงศ์ยักษ์นับถือคนเก่งทางการรบ ทว่าพิเภกแทบไม่มีฝีมืออะไร นอกจากนั่งอ่านหนังสือเขียนกระดานชนวนแล้ว ก็แทบเหมือนบุคคลที่อยู่ในมุมมืดของราชวงศ์

...ยามเด็กเรากดเจ้าไว้มากไปหรือ...กุมภกรรณนึกเงียบๆ ...พวกเรารังแกเจ้ามากไป เหยียดหยามเจ้ามากไปหรือ เพราะว่าเจ้าไม่มีเกียรติ จึงแสวงหาด้วยวิธีนี้หรือ...

ทว่าเสียใจไปมีประโยชน์อะไร ทุกอย่างผ่านไปแล้ว เวลานี้พิเภกเป็นคนทรยศ ที่จริงต่อให้ถูกทำร้ายมากเท่าไร ญาติก็ยังคงเป็นญาติ พิเภกกระสันอำนาจจนสาวไส้ให้กากิน ถึงอย่างไรก็ผิดมหันต์อยู่นั่นเอง

"...เพราะว่าข้าเห็น..." ในที่สุดน้องชายของเขาก็เอ่ยแผ่วเบา

กุมภกรรณเบือนหน้าไป คิดสั่งให้ออกทัพต่อ

"เพราะว่าข้าเห็นทุกอย่างพินาศย่อยยับ" พิเภกยังคงพูด นัยน์ตาของเขาตกลงพื้นดิน "เพราะว่าข้าเห็นไฟ เห็นศพ เพราะข้าได้ยินเสียงร้องไห้และเห็นเมืองของเราร้างว่างเปล่า"

พิเภกยกมือขึ้นปาดน้ำตาตนเอง พวกพลยักษ์พึมพำกันเป็นสำเนียงเยาะเย้ย ปรกติแล้ววงศ์ยักษ์ไม่ร้องไห้ให้ใครเห็นน้ำตา มีแต่พิเภกคนขี้ขลาดผู้เดียวจึงอ่อนแอ

"เพราะว่าข้าเห็นพี่ตาย ข้าเห็นพี่ทศกัณฐ์ อินทรชิต มังกรกัณฐ์...พี่ทุกคน น้องทุกคน หลานทุกคน เพื่อนทุกคน ข้าเห็นเขาตาย" เขาเอ่ยต่อไป น้ำเสียงราวบีบออกจากลำคอ เจ็บปวดเหลือประมาณ

"คนขี้ขลาดก็ชอบแต่จะบ่นพร่ำแช่งชักไป" กุมภกรรณเปรย
"เคลื่อนทัพ!"
"ขี้ขลาดสิ และก็เป็นคนบ้าด้วย!" พิเภกตวาดราวฟ้าร้อง เขาเงยหน้าขึ้นมองพี่ชาย ดวงตายังคงรื้นน้ำ ทว่าเต็มไปด้วยความรู้สึกอะไรบางอย่างที่แม้แต่กุมภกรรณยังต้องชะงัก

"เพราะว่าพี่มีความสุขราวอยู่ในเมืองสวรรค์ ดังนั้นหากมีคนว่าพี่จะตายวันพรุ่งนี้ พี่ย่อมหัวเราะเยาะว่าเขาบ้า เพราะว่าหากข้าบอกว่าปีหน้าเดือนหน้า อสุนีบาตจะตกจากฟ้ามาผ่าลงกา พี่จะว่าข้าฟุ้งไปเพราะเดือนดาว เพราะว่าคนทั้งหลายชอบฟังแต่เรื่องดี ทว่าเกลียดเรื่องร้ายไม่อยากได้ยิน"

พิเภกร้องต่อไป เสียงของเขาดังขึ้นทุกที

"ข้าเกลียดชังลงกาหรือ ไม่เลย ข้ารักลงกายิ่งนัก ถึงอย่างไรข้าก็ยังเป็นยักษ์ ไม่ใช่ลิงไม่ใช่มนุษย์ พี่คิดว่าข้าชอบแช่งชักหักเมืองและเผ่าพงศ์ของตัวเองหรืออย่างไร"

"ข้าไม่สนใจว่าเจ้าจะเป็นอย่างไร แต่ถ้าหากเจ้าคิดจะช่วยเมืองตนจริง ก็ไม่ควรชักศึกเข้าบ้าน"

พิเภกแย้มริมฝีปาก ใบหน้าของเขาเศร้าเสมอ รอยยิ้มก็เศร้าตลอดมา

"ใครชักศึกเข้าบ้านหรือ พี่กุมภกรรณ"
"เจ้าเป็นข้าแผ่นดิน ชอบแต่จะเชื่อฟังพระมหากษัตริย์" พี่ของเขาบอก...ทราบดีว่าน้องชายหมายถึงอะไร "แม้นพระเจ้าแผ่นดินให้ดื่มน้ำล้างพระบาทก็ต้องดื่ม"

"หากพระเจ้าแผ่นดินให้ดื่มน้ำล้างพระบาท ข้าก็จะดื่ม" พิเภกบอก
"แต่หากพระเจ้าแผ่นดินจะนำแผ่นดินไปฉิบหายเป็นเมืองร้าง ก็เป็นหน้าที่ข้าแผ่นดินจะทัดทาน หรือไม่ใช่"
"ถ้าเช่นนั้น ทำไมเจ้าไม่ทัดทานให้เต็มกำลัง เหตุใดจึงทรยศสาวไส้ให้กากิน"
"ผู้มีทรัพย์มาก ยามมีคนเตือนว่าอาจยากจน ก็จะว่าเขาอิจฉา" น้องชายเขาตอบ

"ทศกัณฐ์เป็นคนอย่างไร พี่ยังไม่แจ้งใจอีกหรือ ข้าจะบอกให้พี่ฟัง เหมือนที่บอกให้เขาฟัง หากที่นี่ยังมีสงครามต่อไป ทุกอย่างจะพินาศ ลงกาที่ยิ่งใหญ่จะล่มจม วงศ์ยักษ์จะย่อยยับ วันเวลาจะกลายเป็นของมนุษย์และลิง ไม่ใช่ของเราอีกต่อไป"

คำเหล่านั้นแทรกลงในอกของกุมภกรรณ ทำให้เขาเจ็บแปลบประหลาด...ความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นคือมิอาจเชื่อได้

กุมภกรรณเติบโตมาในยุคสมัยที่ยักษ์เป็นใหญ่ในแผ่นดิน ในเวลาที่ลงการุ่งเรืองดังเมืองทอง เขาอยากเชื่อว่าทุกอย่างจะดำเนินต่อไป เป็นนิรันดรกาล ...เรามีอำนาจตั้งมากมายเท่านี้ สงครามกับรามจะเท่าไร ก็แค่สงครามเล็กน้อยเท่านั้น ใหญ่กว่านี้ยังเคยเข้ามาแล้ว ไอ้พิเภกมันพูดจาเพ้อเจ้อหลอกลวง

"ไอ้พิเภกมันเพ้อเจ้อหลอกลวง" พิเภกเอ่ย ตรงกับหัวใจของกุมภกรรณราวเห็นด้วยตา
"คิดอยู่เช่นนี้หรือมิใช่ ข้ารู้...ทุกคนก็คิดอยู่เช่นนี้ ดังนั้นจึงไม่อยากเชื่อข้า ดังนั้นเมื่อข้าบอก จึงยิ่งกระเหี้ยนกระหือรือจะฆ่าราม ยิ่งไม่คิดคืนสีดา ทุกคนอยากพิสูจน์ว่าข้าโกหก และทุกอย่างจะยาวยืนต่อไปชั่วกัลปาวสาน"

เขานิ่งไปชั่วขณะ

"ข้ารู้ว่า บางทีไม่พูดเสียอาจจะดีกว่า แต่ก็รู้อีกว่าถ้าไม่พูด นิสัยอย่างทศกัณฐ์ก็คงไม่คืนสีดาอยู่นั่นเอง ทศกัณฐ์เก่งเหลือเกิน ดังนั้นจึงเหยียดหยามทุกคนที่เหลือในโลกเป็นมดแมลง ข้ารู้ว่าเป็นเช่นนั้น จึงจำต้องเสี่ยงพูด...หวังว่าจะมีผลอะไรบ้าง แต่ในที่สุดทุกอย่างเป็นอย่างที่ข้าคาดไว้แล้วอยู่นั่นเอง"

ครั้นแล้ว น้ำเสียงของพิเภกก็เปลี่ยนไป สงบลง ทว่าก็ร้อนอย่างประหลาด

"พี่คงหวังให้ดาวสักดวงเคลื่อนผิด ให้สิ่งที่ข้าผูกบนกระดานโหรเป็นเรื่องหลอกลวง แต่ข้าผูกมาหลายร้อยครั้งแล้ว ทุกครั้งผลก็ยังคงเหมือนเดิม ดังนั้นข้าจึงตัดสินใจทำสิ่งที่ตนเชื่อ พี่กุมภกรรณ ทุก ๆ ชีวิตที่รั้งคืนมาได้ ข้าจะรั้งคืนมาไว้ ทุกลมหายใจของลงกา ข้าจะรักษาไว้ ทุกตึก ทุกอาคาร ทุกวัง ผู้หญิงทุกคนที่ม่าย เด็กทุกคนที่ต้องเป็นกำพร้า ข้าจะพยายามเปลี่ยนมัน พี่กุมภกรรณ ท่านเองก็ด้วย ข้ามาที่นี่เพื่อรักษาชีวิตของท่าน"

กุมภกรรณไม่ได้ตอบเขาทันที แต่ก็ลดกระบองลงบนพื้น และมองน้องชายอยู่ชั่วขณะ

"พี่กุมภกรรณของเจ้าก็มีความเชื่อของตัวเอง พิเภก" ในที่สุดเขาก็เอ่ยขึ้น
"พี่กุมภกรรณของเจ้าไม่อาจผิดต่อเจ้าแผ่นดิน จะไม่ทรยศคดโกง ไม่มีวันสาวไส้ให้กากิน ดังนั้นไม่ว่าที่เจ้าพูดจะเป็นความจริงหรือไม่ ข้าก็ยังจะไปรบ และถ้าหากต้องตายเพราะการณ์นั้น ข้าก็พอใจ"

เขาเขม้นสายตา คิ้วตกลง มุมปากดุร้าย

"และถ้าเห็นเจ้าในสมรภูมิ ข้าก็ยังจะฆ่าเจ้าอยู่นั่นเอง"

ร่างกายของพิเภกสั่นเทา เขาก้มหน้าลงดูดิน

"ต่อไปภายหน้า เหตุการณ์ทั้งปวงจะพิสูจน์ว่าข้าหรือเจ้ากันแน่ที่ถูกต้อง แต่ในเมื่อข้าไม่เสียใจ เจ้าเองก็อย่าเสียใจ ถ้าหากคิดทำสิ่งใดแล้ว ต้องทำไปให้สุดกำลังปัญญา"

กุมภกรรณเอ่ยแผ่วเบา "พิเภก ข้าไม่มีพรจะอวยให้เจ้า เพราะข้าไม่ชอบสิ่งที่เจ้าทำ แต่ถ้าหากวันนี้ข้ากลับไปลงกาได้ ข้าจะพูดกับทศกัณฐ์อีกครั้ง พูดจนกว่าเขาจะยอมรับฟัง ข้าเองก็ไม่ชอบรบโดยเปล่าประโยชน์"

ครั้นแล้วพญายักษ์ก็ออกคำสั่งให้เคลื่อนพล ขับรถศึกผ่านร่างของน้องชายไป
น้ำตาหลั่งไหลจากดวงตาของพิเภก เขาหลับตาลง
เบื้องหลังดวงตานั้น มีเพียงภาพความตายของพี่ชาย...

.....................

สิ่งที่ต้องการสื่อให้เห็น คือการตีความตัวละคร เพราะถ้าเราอ่านรามเกียรติ์ (หรือเรื่องอื่นๆ บางเรื่อง) เราจะรู้แต่เพียงว่า ตัวละครทำอะไร แต่ไม่รู้ว่า ข้างในเขาคิดอะไรอยู่

ด้วยเพราะเหตุนี้ จึงมีคนตีความว่า พิเภกเป็น "คนขี้ขลาด อยากได้อำนาจ" ก็ได้...   
หรือ "พิเภกพยายามรักษาเมืองไว้ด้วยวิธีการของตัวเอง" ก็ได้...

จะว่าไปแล้ว เรื่องนี้เป็นเพียง "ฉาก" ฉากหนึ่งเท่านั้น จึงไม่สามารถสร้างธีมที่ชัดเจนออกมาได้  และเรื่องนี้ก็ไม่ใช่การเล่าเรื่อง แต่เน้นไปทางแสดงอารมณ์มากกว่า

ก็หวังว่า ผู้อ่านจะได้เห็นการปะทะกันของตัวละครที่มีความคิดแตกต่างกัน และเห็นทั้งข้างนอกข้างในของตัวละคร ตามการตีความของเรา...
อ่านแล้ว...มีความคิดเห็นเป็นอย่างไร บอกกล่าวกันบ้างนะครับ...

.....
หมายเหตุ : ปรับแต่งจากเรื่องพิเภกกับกุมภกรรณ ของคุณ : ลวิตร์  -pantip.com

.


พิเภก


.

พิเภก


.





« Last Edit: 12 May 2024, 12:56:36 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,535


View Profile
« Reply #4 on: 18 May 2023, 09:49:19 »


18 พฤษภาคม 2022  ·

เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกกุมภกรรณ (4)

-ข้อปริศนาของกุมภกรรณ

พระรามพระลักษมณ์ บรรดาวานรน้อยใหญ่ หรือแม้แต่พิเภกเอง ก็ไม่สามารถแก้ปริศนานี้ได้ พระรามจึงให้องคตออกไปเจรจา ใช้วาทะศิลป์ในการพูดหลอกล่อให้กุมภกรรณเฉลยหรือบอกใบ้อะไรบ้างก็ยังดี เพราะหากพระรามออกไป ยอมรับตรงๆว่าตอบไม่ได้ ก็จะเสียพระเกียรติ

องคต ออกสู่สนามรบประจันหน้าพญายักษ์ ขดหางเป็นบัลลังก์ใช้นั่งให้สูงระดับเดียวกับกุมภกรรณ 

...นี่กุมภกรรณ พระรามนายเราผู้รู้ทุกศาสตร์ ใช้ให้ข้ามาแจ้งท่านว่า ปริศนาของท่านนี้เป็นการนำสำนวนมาเรียงอย่างมั่วๆ สุดท้ายไม่มีเฉลยหรอก หรือว่าท่านจะมีอะไรแก้ตัว... 

กุมภกรรณรู้ทัน ได้ฟังก็หัวเราะร่า...องคตเอ๊ย ข้ามิใช่เด็กเมื่อวานซืนเช่นเจ้านะ อย่ามาหลอกข้าเลย ที่จริงนายมึงไม่สามารถแก้ปริศนาของกูได้...อ้ะ จะเฉลยให้เอาบุญ...(ที่จริงหาเรื่องหลอกด่าพระรามมากกว่า...มีคนบอกว่า เด๋วนี้คำว่า กู-มึง ไม่หยาบคายแล้ว วัยรุ่นสมัยนี้ใช้กันเกร่อ ออกถมไป แถมเท่อีกต่างหาก...เอาก็เอาวะ กูก็ชอบ ถนัดอยู่แล้ว...)
.

(บทกลอน)
เหวยเหวยดูก่อนองคต             มาเลี้ยวลดเคลือบแคลงแต่งว่า
เราไม่ใช่เด็กน้อยพาลา            จะหลงด้วยมายาลิงไพร
ที่ไหนเจ้าเอ็งจะล่วงรู้               แต่ถามแล้วกูจะบอกให้
อันเจ้าลงกากรุงไกร                นั้นได้แค่ช้างงารี
มารษาอาธรรม์พ้นนัก             ไปลอบลักมาเมียเขาหนี
แต่องค์พระรามสามี                คือชีโฉดชั่วสามานย์
เมียรักของตัวแต่ผู้เดียว           ทิ้งไว้เปล่าเปลี่ยวในไพรสาณฑ์
ครั้นหายเที่ยวพาไม่พบพาน     จนต้องรอนราญวุ่นไป
หญิงโหดคือนางสำมนักขา      ชั่วช้าไม่มีที่เปรียบได้
ไปเที่ยวเกี้ยวชายไม่อายใคร    จนต้องทุกข์ภัยพันทวี
อันชายทรชนคนชั่ว                คือตัวพิเภกยักษี
ไปเข้าด้วยพวกไพรี               มิได้รู้คุณญาติกา
.

เฉลยปริศนา
ช้างงารี พี่ชายกู เมียใหญ่เมียน้อยก็มีอยู่ในวังบานตะไท แต่ยังมักมาก ไปลักเมียชาวบ้าน ทำให้เดือดร้อนกันไปถึงพี่ๆน้องๆ (ช้างงารี -ช้างตัวผู้ที่งากางออก ซึ่งต่อมาเป็นสำนวนหมายถึง คนเกะกะเกเร ชอบหาเรื่องเดือดร้อนให้ผู้อื่น คือทศกัณฐ์)

ชีโฉด จะใครที่ไหนล่ะ ก็พระรามนายของมึง ทำตัวเป็นมุนีมีศีล แต่กลับทำเรื่องโฉดชั่วซะเอง เมียคนเดียวก็ดูแลไม่ได้ ทิ้งไว้กลางป่า เปิดช่องให้ทศกัณฐ์ มาลักตัวเอาไป เป็นชนวนสงครามใหญ่ ทำให้คนบริสุทธิ์มากมายเดือดร้อน

หญิงโหด ก็นางสำมนักขา น้องสาวกูที่เป็นหญิงแท้ แต่หน้าไม่อายหลงไปเกี้ยวชาย ที่ปิ๊งพระรามจับใจ จะเข้าไปปล้ำเอามาทำผัว ถูกพระลักษมณ์จับเชือดจมูกหู ตัดแข้งขา เป็นต้นเหตุที่ทศกัณฐ์แค้นพระราม

ชายทรชน คือพิเภกผู้ทรยศพี่ทศกัณฐ์ สมคบศัตรูมาฆ่าญาติวงศ์พงศาตัวเอง

...เอ็งไปบอกพระรามซะ มา..อย่ามัวมุดหัวอยู่แต่ในค่าย ถ้าเก่งจริงออกมารบกับกูนี่...

องคตหน้าชาเพราะรู้ซึ้งว่าไม่สามารถเทียบสติปัญญากับอุปราชลงกาได้ ก็ต้องทำแก้เกี้ยวไปก่อน

...นี่เจ้ายักษ์เจ้าเล่ห์ อย่ามาทำเป็นฉลาดสร้างปัญหาให้ทายกันนักเลย เจ้ายังมีหน้าจะมาท้ารบกับพระอวตาร แล้วมึงจะตายโดยไม่รู้ตัว... 

แล้วองคตก็รีบกลับไปทูลพระราม เฉลยปริศนา และแจ้งว่ากุมภกรรณร้องท้ารบ

.


ข้อปริศนาของกุมภกรรณ


.

องคต ออกสู่สนามรบประจันหน้าพญายักษ์ ขดหางเป็นบัลลังก์ใช้นั่งให้สูงระดับเดียวกับรถศึกของกุมภกรรณ


.

กุมภกรรณรู้ทัน ได้ฟังก็หัวเราะร่า...องคตเอ๊ย ข้ามิใช่เด็กเมื่อวานซืนเช่นเจ้านะ อย่ามาหลอกข้าเลย ที่จริงนายมึงไม่สามารถแก้ปริศนาของกูได้...อ้ะ จะเฉลยให้เอาบุญ...


.

หน้ากากผ้า ลายยักษ์กุมภกรรณ


.

.........................

หน้ากากยักษ์


.



« Last Edit: 12 May 2024, 13:02:07 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,535


View Profile
« Reply #5 on: 19 May 2023, 09:00:34 »


19 พฤษภาคม 2022  ·

เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกกุมภกรรณ (5)

-สุครีพหลงกลของกุมภกรรณ

พระรามกริ้วยิ่งนัก...นี่พิเภก ข้าเห็นว่าท่านอ้างถึงกุมภกรรณว่าเป็นยักษ์ดี เราหมายจะไว้ชีวิต ให้ความเมตตาแก่มัน เอาหละ เห็นทีเราจะต้องออกไปสั่งสอนมันซะแล้ว...

พระรามขยับตัว ก้าวจากพระแท่น กระชับเครื่องทรงจะออกศึก... 

ทันใดนั้นพิเภกทูลห้าม...ขอพระองค์ อย่าเพิ่งออกไปรบในตอนนี้ จะเป็นการเสียพระเกียรติ ข้าขอทูลเสนอให้ใช้สุครีพผู้มีฤทธิ์ ออกไปรบ ด้วยสรรพกำลังที่สามารถเทียบเคียงกับกุมภรรณอย่างสบายๆ แบบเบิร์ดๆเลยนะท่าน... 

พระรามจึงใช้ให้สุครีพ ออกมารับศึกกับกุมภกรรณ ตามที่พิเภกเสนอ...

เมื่อกุมภกรรณเห็นยอดชฎาของลูกพระอาทิตย์ ก็รู้เลยว่าเป็นสุครีพผู้เคยหักฉัตรประจำลงกามาแล้ว...วานรตัวนี้มีเรี่ยวแรงมากนัก หากจะสู้กัน เราคงจะไม่สามารถต้านทานแรงมันได้ ต้องออกอุบายอะไรซักอย่างเพื่อตัดทอนกำลังของมัน... 

เมื่อสุครีพและกุมภกรรณประจันหน้ากันครั้งแรก ก็ปะทะคารมกันตามธรรมเนียม โดยกุมภกรรณเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยเย้ยหยันและหยามสุครีพว่า...

...ไอ้ตัวแดง...ผลประกอบการแย่ตลอดล่ะซี่มึง ถึงได้ตัวแดงแจ๋ขนาดนี้...
(แถไปเรื่อง "ตลาดหุ้น" ได้ไงวะเนี่ย)

...ป่าวโว้ย กูลูกพระอาทิตย์ ก็ต้องตัวแดงสิวะ ไอ้ฉลาดน้อย...555...

...นี่มึงสุครีพน้องพญาพาลีหรือนี่ ดูดีน่าเกรงขาม เคยได้ยินว่ารักพาลีเหมือนพ่อ แต่ทำไม๊....ทำไม มาพึ่งพามนุษย์ผู้ฆ่าพี่... อ๋อ คงเพื่อหวังจะแย่งชิงขีดขินนี่เอง...ไม่เกรงกลัวเวรกรรมหรือไรวะ ไอ้แดงแจ๋...

สุครีพตบมือแล้วหัวเราะ...โถไอ้ยักษ์โง่ มึงไปอยู่ที่ไหนมา...ไม่รู้เลยหรือว่าพระรามคือองค์นารายณ์อวตารลงมาปราบยุคเข็ญ อันพญาพาลีนั้นเคยสาบานแต่กาลก่อนว่าหากผิดคำสัญญา ขอให้ตายด้วยศรพระนารายณ์ กูไม่ใช่ผู้คิดชั่วอย่างมึงว่าหรอก... แต่มึงพูดไปเถอะ เดี๋ยวหัวมึงก็จะหลุดจากบ่าแล้ว...

กุมภกรรณเจ็บใจที่ถูกพญาลิงต่อคำ แต่ก็ไม่ลืมว่าสุครีพมีกำลังมหาศาล จึงออกอุบายว่า

...ไอ้สุครีพลิงแดง หุบปากซะ ตัวกูกับมึงนั้นเทียบวรรณะกันไม่ได้หรอก ถ้ากูทำอะไรก็จะหาว่ารังแก มึงจะพาลอายไพร่พลเปล่าๆ เอาอย่างนี้ มึงไปที่ป่าหิมพานต์แล้วถอนต้นรังใหญ่มาให้กูดูซักต้นซิ จะได้เห็นว่ามึงมีฤทธิ์พอที่กูจะลดตัวไปสู้รบด้วย... 

สุครีพหลงกล ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันโกรธยิ่งนัก หน้าแดงขึ้นจากเดิมอีก พญาลิงไม่พูดอะไร เหาะข้ามชมพูทวีปไปทางทิศเหนือสู่ป่าหิมพานต์ ภายในเพียงอึดใจก็มาถึง ถลาลงที่เชิงเขากาลจันทร์ รวบรวมสรรพกำลังถอนต้นรังใหญ่ (เชื่อคนง่ายจริงนะน้าสุครีพ เค้าให้ถอน ก็เหาะไปถอน ต้นรังใหญ่ยักษ์น่ะนะ ไม่ใช่ถอนหญ้าแห้วหมูนี่ ก็เลยเสียแรงไปเยอะ จนหมดแรงข้าวต้ม)

จากนั้นสุครีพก็เหาะกลับมายังลานรบ พร้อมควงต้นรังอย่างสนุกมือ

...เจ้ายักษ์กุมภกรรณ ดูซะว่านี่ต้นอะไร... 

เมื่อกุมภกรรณเห็นว่าสุครีพเสียรู้ จึงทะยานออกจากราชรถ ควงคทาทองเข้าต่อตี สุครีพมีต้นรังเป็นอาวุธใช้ฟาดที่ลำตัวพญายักษ์ ต้นรังใหญ่แหลกละเอียดคามือขุนกระบี่

แต่กุมภกรรณก็ยังไม่รู้สึกเจ็บ เรี่ยวแรงยังเหลือเฟือพร้อมง้างตีสุครีพด้วยคทาไปหลายชุด จนลูกพระอาทิตย์ซวนเซจากความเจ็บปวด หมดเรี่ยวแรงที่เสียไป

จากการถอนต้นรังใหญ่ก่อนหน้านี้ สุครีพทั้งเจ็บทั้งมึน ตกลงสู่พื้นดิน มารู้ตัวอีกทีก็ถูกกุมภกรรณหนีบไว้ที่รักแร้ พาเหาะมุ่งหน้าสู่นครลงกา...

(สุครีพถูกกุมภกรรณจับตัวได้ หนีบไว้ที่รักแร้อันชุ่มเหงื่อ กลิ่นกายหอมหวล สุครีพจึงฟื้นคืนสติ...นี่ถ้าเป็นยักษ์ตนอื่นละก็...ท่านเอ๋ย....ไม่อยากจะsaid 555..)

.


สุครีพยกทัพพลวานรประชันหน้ากับพญายักษ์กุมภกรรณ อุปราชแห่งกรุงลงกา


.

สุครีพหลงกลของกุมภกรรณ เหาะไปถอนต้นรังยักษ์ มาให้ดู


.

กุมภกรรณรบกับสุครีพ


.





« Last Edit: 12 May 2024, 13:13:20 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,535


View Profile
« Reply #6 on: 19 May 2023, 09:04:37 »


19 พฤษภาคม 2022  ·

เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกกุมภกรรณ (6)

-หนุมานช่วยสุครีพ

หนุมานทราบเรื่อง ก็เหาะขึ้นฟ้า ตรงดิ่งสู่ตัวนครลงกา ขณะจวนจะถึงประตูเมืองลงกา พลางเหลือบเห็นกุมภกรรณหนีบน้าสุครีพไว้ที่เอว บุตรพระพายจึงกระโจนเข้าถีบที่กลางหลังยักษ์ใหญ่ บีบคอกุมภกรรณจนคอแทบหลุด เป็นจังหวะที่สุครีพสลัดหลุดจากวงแขนจอมอสูร ออกมาได้พอดี

ทั้งน้าหลานเข้ารุมกุมภกรรณผู้ที่ยังตั้งตัวไม่ติด ทั้งกัดหู กัดจมูก วุ่นวายไปหมด จนอุปราชแห่งลงกาเลือดอาบหน้า ได้แต่ปัดป้อง แล้วเหาะหนีเข้าเมืองในที่สุด

 
หนุมานเข้าประคองร่างผู้เป็นน้า พาเหาะกลับสู่พลับพลา กราบทูลทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนหนีรอดมาได้ พระรามกริ้วยิ่งนักที่พ่ายแพ้กลับมา

...เสียแรงที่เป็นถึงลูกพระอาทิตย์ กลศึกตื้นๆ ก็ไม่พิจารณาให้รอบคอบซะก่อน อย่างนี้เราจะไว้ใจให้นำทัพจับศึกใหญ่ต่อไปได้อย่างไร ดีนะที่หนุมานตามไปช่วยทัน ป่านนี้พวกยักษ์เล็กใหญ่คงพากันหัวเราะ ใจลำพองไปตามๆกัน เจ้าทำเสียเกียรติแห่งเราและเสียวงศ์กระบี่ทั้งสองนคร หากไม่มีความชอบแต่ครั้งก่อน โทษของเจ้าคงถึงประหารชีวิต...

สุครีพได้แต่หมอบกราบ เจ็บกายไม่ว่า แต่เจ็บใจที่เสียรู้กุมภกรรณนี่สิ น่าอับอายยิ่งนัก จึงทูลขอพระราชทานอภัยโทษ
 .

            บัดนั้น               พญาสุครีพกระบี่ศรี
ความกลัวเพียงสิ้นชีวี           จึ่งสนองวาทีพระทรงฤทธิ์
ซึ่งข้าทำการด้วยประมาท     ให้ขายเบื้องบาทนั้นโทษผิด
ควรที่ถึงสิ้นชีวิต                  หากพระจักรกฤษณ์เมตตา
พระคุณล้ำลบภพไตร           จะเปรียบสิ่งใดก็เบากว่า
ขอเอาพระเดชเดชา            ปกเกล้าเกศาวานร
.

พระรามยิ้มอย่างสบายใจ ว่าสุครีพยอมรับว่าตนผิดที่เสียรู้กุมภกรรณ จึงรับสั่งชมเชยหนุมานว่า มีความสามารถยิ่ง สมควรแล้วที่ทรงไว้วางใจ

...

ฝ่ายกุมภกรรณมาถึงราชฐานชั้นใน แต่ก็ยังงงๆอยู่ว่าใครจู่โจมจากด้านหลังทั้งไม่รู้ตัว พอตั้งหลักได้ หันกลับไปเห็นหนุมานพาสุครีพเหาะหนีไปซะแล้ว รู้สึกเจ็บใจยิ่งนัก ร้องด่าสารพัด...ไอ้ขี้ขลาด มาปองร้ายข้าจากด้านหลัง...

จึงรีบเข้าเฝ้าทศกัณฐ์เพื่อกราบทูลผลงาน แต่ยังมิทันจะรายงาน ทศกัณฐ์ต้องสะดุ้งแปลกใจว่า เพราะเหตุใดสภาพน้องถึงเป็นอย่างนี้ สายข่าวก็รายงานว่าน้องได้รับชัยชนะ

...นี่กุมภกรรณน้องพี่ เหตุใดเลือดจึงอาบทั้งใบหน้าของเจ้า จงบอกพี่มา...

กุมภกรรณจึงรายงานตามจริงว่า...วันนี้ข้าออกรบ และจับไอ้สุครีพได้ด้วยอุบาย หมายจะหนีบมันมาถวายเฮียซักกะหน่อย แต่พอถึงหน้าประตูเมือง เจ้าหนุมานเข้าช่วยชิงตัวสุครีพไป ข้าสู้เพียงผู้เดียวจึงเสียทีไอ้ลิงทั้งสอง ข้าเจ็บใจยิ่งนัก... 

ทศกัณฐ์ลดตัวจากบัลลังก์แก้ว เข้าสวมกอดน้องที่คลานตามกันมา

...โถ แก้วตาพี่ อย่าเสียใจไปเลย เราเกิดเป็นลูกผู้ชาย มีแพ้ มีพลาด ยิ่งคราวนี้หนุมานมาชิงตัวสุครีพอย่างลอบกัด เจ้าอย่าเอาเรื่องนี้มาเป็นทุกข์ ศึกคราหน้ายังมีอีกและใหญ่หลวงกว่านี้นัก จงเก็บแรงเจ้าไว้ พี่มั่นใจว่าน้องพี่คือผู้ชนะทั้งสิบทิศ...

กุมภกรรณได้ฟังคำปลอบใจก็ยิ่งฮึดสู้ แค้นเคืองเหล่ามนุษย์และวานรมากขึ้น ประกาศทั้งน้ำตาก้องท้องพระโรงว่า...

...ข้าขอประกาศว่า จะล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์และวานรให้สิ้นโลก...
.

.....แทรก.....
-ที่พิเภกไม่ให้พระรามออกรบกับกุมภกรรณเลย เพราะรู้อยู่ว่าความสามารถของกุมภกรรณมากนัก และยังไม่แน่ใจในตัวนายซะเท่าไหร่ เพราะที่ผ่านมายังไม่เคยเห็นฝีมือพระรามในสนามรบเลย พระรามก็เห็นด้วย เพื่อเป็นการหยั่งเชิงดูว่าขุนยักษ์ตนนี้จะเก่งกาจเพียงใด คราวก่อนแค่ยักษ์ต่างเมืองอย่างไมยราพ ยังเล่นงานพระองค์ซะเกือบตาย เที่ยวนี้เป็นมือขวาของทศกัณฐ์ด้วยแล้ว ให้สุครีพไปชลอดูสิว่าจะมีดีแค่ไหน

-จะเห็นว่าทั้งกุมภกรรณและสุครีพล้มเหลวในการงานเหมือนกัน แต่ได้รับการปฏิบัติจากผู้เป็นนายต่างกัน

ทศกัณฐ์รู้ว่าน้องพลาดแต่ก็ปลอบใจ เข้าถึงเนื้อตัว ซับเลือดที่อาบแก้มให้ และให้กำลังใจจนกุมภกรรณมิหยุดพัก ขึ้นฟ้าหาอาวุธชิ้นใหม่ ซึ่งเป็นซูเปอร์ ออพชั่น คือ หอกโมกขศักดิ์

แต่พระรามผู้เคยสาบานกับพญาสุครีพว่าจะเป็นสหายคอยเกื้อหนุนกันและกัน กลับกล่าวโทษว่าสุครีพไม่น่าเสียโง่กุมภกรรณเลย จนทำให้เจ้าชายเร่ร่อนเสียพระเกียรติ

อันนี้คิดว่า พระรามควรต้องเป็นผู้พึ่งพาสุครีพ มากกว่าที่จะตำหนิสารพัด ตอนพระรามกริ้วสุครีพตอนนี้ จึงขัดตาขัดใจเป็นอันมาก...สงสัยพระรามคงไม่ได้เรียนวิชาการจัดการและบริหารงานบุคคลจาก มรภ.แบบที่เฮียทศฯเรียนมาเป็นแน่ ฮาาา...
.....แทรก.....

.


วันนี้ เอารูปภาพหนุมาน สวยๆ มาให้ชมกัน
หนุมานวัยละอ่อน น่ารัก จากหนังอินเดีย


.

หนุมาน ชาญสมร จากหนังอินเดีย


.

หนุมานแหวกอก "...เยสิ ราม..."


.

หน้ากากผ้า ลายหนุมาน


.





« Last Edit: 12 May 2024, 13:16:45 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,535


View Profile
« Reply #7 on: 20 May 2023, 09:17:55 »


20 พฤษภาคม 2022  ·

เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกกุมภกรรณ (7)

-หอกโมกขศักดิ์

จากนั้นกุมภกรรณก็ถีบทะยานเหาะขึ้นสวรรค์ถึงชั้นพรหม ตรงดิ่งเข้าเฝ้าท้าวมหาพรหมอย่างคนสนิท กราบทูลความจำเป็น

...ขณะนี้ลงกา นครแห่งหน่อเนื้อเชื้อพรหม มียุคเข็ญจากการรุกรานของศัตรู ข้าบาทจะมาขอหอกโมกขศักดิ์ที่ฝากไว้ เพื่อไปกำจัดไพรีให้พ้นลงกา... (เปรียบเทียบกับปัจจุบันก็เหมือนที่พวกเศรษฐี จะนำของมีค่า ไปฝากตู้เซฟของธนาคาร เพื่อความอุ่นใจว่า ไม่หายแน่)

พระพรหมเสกเรียกหอกโมกขศักดิ์มาอยู่ในพระหัตถ์ทันที แล้วตรัสอย่างสงสัยว่า...

...เฮ้ย..เจ้าไปทำอะไรนอกลู่นอกทางรึเปล่าท่านกุมฯ ทำไมหอกวิเศษระดับนี้ อยู่เฉยๆมันขึ้นสนิมได้...

กุมภกรรณหมอบลงกราบอีกครั้ง ให้การตามจริง

...อันตัวข้านี้รักษาศีล ถือพิศครองธรรมมิเคยขาด แต่ทศกัณฐ์ ขุนมารได้ไปลักนางสีดามาจากพระรามผู้สวามี ผัวนางจึงตามมาเข่นฆ่าหมายเอาภรรยาคืน ข้าห้ามทศกัณฐ์ผู้เชษฐามิให้ออกรบและคืนนางสีดาแก่ภัสดาซะ ท้าวเธอก็ทรงกริ้วหาว่าข้านี้ขลาดกลัวมนุษย์ ครานี้มาขอโมกขศักดิ์จากองค์เทพคืน ก็ด้วยการนี้...ว่าพลางถอนใจพลาง 

พระพรหมก็ทรงถอนใจ ประทานหอกโมกขศักดิ์แด่กุมภรรณตามคำขอ แต่ก็ทรงตรัสฝากก่อนที่ยักษ์ใหญ่จะลา...

...กุมภกรรณ เจ้าต้องรักษาศีล อยู่แต่ในธรรม อย่าทำตนให้มัวหมองเยี่ยงทศกัณฐ์ ที่นับวันมันจะยิ่งกำเริบขึ้น เจ้าจงตั้งมั่นอยู่ในสัจจะแห่งวงศ์พรหม...

.....
-กุมภกรรณทำพิธีลับหอกโมกขศักดิ์

กุมภกกรรณรับหอกโมกขศักดิ์แล้วกราบลา กวัดแกว่งหอกคู่ใจ จนฟ้าแลบแผ่นดินไหวตลอดทางสู่ลงกา เมื่อถึงนครลงกา ขุนยักษ์มิรอช้า เรียกฤทธิกาสูร ยักษ์คนสนิทให้ตั้งโรงพิธีอันใหญ่โตที่ริมน้ำเชิงเขาพระเมรุ

เมื่อได้ฤกษ์ กุมภกรรณก็อาบน้ำ แต่งองค์ด้วยผ้าใหม่ ใส่เครื่องประดับดั่งราชา ขึ้นรถที่ประดับด้วยนิลพลอยดำ ข้ามเขายุคุนธร จนมาถึงโรงพิธีเชิงเขาพระเมรุ จุดธุปบอกเทวดา เอาเลือดวัวสดมาเสก แล้วท่องคาถาบูชาพระพรหม จากนั้นจึงเริ่มพิธีลับหอกโมกขศักดิ์...
.

ไปลับโมกขศักดิ์อันศักดา       ยังมหาเมรุมาศบรรพต
แม้นเสร็จสี่คมเมื่อใด              จะเรืองฤทธิไกรดั่งไฟกรด
ปราบไปได้ถึงโสฬส              ทั่วทั้งทศทิศไม่ต้านทาน

.


กุมภกรรณ ขอหอกโมกขศักดิ์ที่ฝากไว้กับท้าวมหาพรหม


.

กุมภกรรณ เหาะขึ้นสวรรค์ถึงชั้นพรหม ตรงดิ่งเข้าเฝ้าท้าวมหาพรหม


.

ท้าวมหาพรหม มอบหอกโมกขศักดิ์ ให้กุมภกรรณ


.

กุมภกรรณทำพิธีลับหอกโมกขศักดิ์


.

กุมภกรรณ ลับหอกโมกขศักดิ์ แต่ไม่สำเร็จ


.





« Last Edit: 12 May 2024, 13:21:18 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,535


View Profile
« Reply #8 on: 20 May 2023, 09:20:04 »


20 พฤษภาคม 2022  ·

เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกกุมภกรรณ (8-แปด)

-หนุมานและองคตทำลายพิธีลับหอกโมกขศักดิ์

ฝ่ายพระราม...ก็รอแล้วรอเล่า...เหตุใดกุมภกรรณยังไม่ยกทัพมาแก้แค้นล้างอายซะที จึงถามพิเภกว่า...

...เอ๊ะ ไอ้กุมฯมันโดนหนุมานเล่นงานซะงอม ตอนไปชิงสุครีพ แล้วไหงมันเงียบไม่ยักมาเอาคืน...

พิเภกจึงทูลว่า...ขณะนี้กุมภรรณมันแอบไปทำพิธีลับหอกโมกขศักดิ์อยู่ ณ บริเวณเขาพระเมรุ พะย่ะค่ะ...

...แล้วหอกมันเจ๋งมากหรอ...

...สุดยอดเลยพะย่ะค่ะ ถ้ามันไม่ลับหอก สนิมเขรอะยังงี้ โดนแทงมีหวังบาดทะยักแดก...แต่ถ้ามันลับหอกสำเร็จ สงสัยเรามีเหนื่อย ไม่รู้จะสู้มันยังไงเลยล่ะนั่น...พระองค์ควรที่จะยับยั้ง ล้มพิธีดังกล่าวแต่เนิ่นๆ...

พระรามแสดงสีหน้ากังวลทันที...ท่านพิเภก แล้วเราควรทำอย่างไรดี... 

พิเภกผู้หยั่งรู้ ทูลสวนอย่างมิต้องให้นายรอ

...กุมภกรรณนั้นเป็นยักษ์สำอาง สะอาดสะอ้าน น้ำหอมฟุ้งตลอดเวลา...ไม่ชอบสิ่งปฏิกูล กลิ่นเน่าเหม็น ถ้าเจอก็จะทนไม่ไหวถึงอ้วกแตกทีเดียว ให้พระองค์หาลิงฝีมือดีไปทำลายพิธี โดยแปลงเป็น อีกาและหมาเน่า สร้างความรำคาญจนต้องเลิกพิธี การลับหอกโมกขศักดิ์ก็จะไม่สำเร็จ... 

พระรามยิ้มอย่างพอใจเมื่อได้ทราบทางออก จึงเรียกหนุมานและองคต มารับหน้าที่ไปทำลายพิธียักษ์ ตามที่พิเภกบอก

หนุมานจึงชวนองคต ไปทำลายพิธีด้วยกัน โดยวางแผนว่า...

...ไอ้คต กูจะแปลงเป็นหมาเน่าลอยน้ำไปนะ พอไปถึงที่ๆไอ้กุมฯมันทำพิธี มึงแปลงเป็นอีกา ลากไส้กูออกมา หนงหนอนมึงลากออกมาให้ยั้วเยี้ยเลยน๊า เอาให้ไอ้กุมฯแม่งแดกข้าวไม่ได้เป็นเดือนเลย...

สองพี่น้องพยักหน้ารู้กัน หนุมานกลายร่างเป็นหมาเน่า ขึ้นอืดลอยน้ำไป ส่วนองคตแปลงร่างเป็นอีกา จิกศพหมาเน่าไว้

แล้วก็จริงอย่างที่สองจ๋อเขาเตี๊ยมกัน...
.

             เมื่อนั้น                 พญากุมภกรรณยักษี
ลับหอกอยู่ในพิธี                  อสุรีแลไปในสาคร
เห็นสุนัขเน่าลอยมาวนอยู่      มีหมู่แมลงวันตอมว่อน
กาจิกเหม็นตลบอบขจร         หมู่หนอนคลาคลํ่าทั้งกายา
แค่เห็นก็ให้อาเจียน              คลื่นเหียนเวียนพักตร์ยักษา
ลับหอกไม่ได้ดั่งจินดา          ก็ลุกมายังรถมณี
.

เรียกว่าอ้วกแตกอ้วกแตน ต้องร้องขอยาดมยาหอมกันให้วุ่น...พิธีก็ต้องล้มเลิกไปกลางคัน...

แต่ถึงพิธีลับหอกจะไม่สำเร็จ กุมภกรรณก็ลากหอกโมกขศักดิ์ออกไปรบ

...ใช้แม่งทั้งสนิมเขรอะๆยังงั้นแหละ...ดีซะอีก แทงใครเผื่อมีบาดทะยักแถมด้วย...

ฮาาาา.......

.


กุมภกรรณพิธีลับหอกโมกขศักดิ์ อยู่ๆก็มีหมาเน่าลอยมา เหม็นตลบอบอวลจนทนไม่ไหว ถึงกับกุมขมับปวดเฮด...


.

...ไอ้คต กูจะแปลงเป็นหมาเน่าลอยน้ำไปนะ พอไปถึงที่ๆไอ้กุมฯมันทำพิธี มึงแปลงเป็นอีกา ลากไส้กูออกมา หนงหนอนมึงลากออกมาให้ยั้วเยี้ยเลยน๊า เอาให้ไอ้กุมฯแม่งแดกข้าวไม่ได้เป็นเดือนเลย...

หนุมานกลายร่างเป็นหมาเน่า ขึ้นอืดลอยน้ำไป ส่วนองคตแปลงร่างเป็นอีกา จิกศพหมาเน่าไว้

เฮียกุมฯ กลุ้มใจ จนเลิกพิธี


.





« Last Edit: 12 May 2024, 13:34:44 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,535


View Profile
« Reply #9 on: 21 May 2023, 08:48:44 »


21 พฤษภาคม 2022  ·

เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกกุมภกรรณ (9)

-พระลักษมณ์ออกรบ

วันรุ่งขึ้น กุมภกรรณสั่งเตรียมทัพ เพื่อบดขยี้เหล่าวานร จัดทัพอุปราชแห่งลงกาเป็นรูปครุฑ ตั้งอยู่ที่ชายป่า ส่งเสียงอึกทึก จนพระรามประหลาดใจ ถามพิเภกว่าเกิดอะไรขึ้น พิเภกทูลว่า...

...กุมภกรรณยกทัพใหญ่มาวันนี้ หมายจะทำการเผด็จศึกทัพของพระองค์พระเจ้าค่ะ... 

พระรามจึงถามว่า...ผู้ใดควรออกไปสู้กับภุมภกรรณ

พิเภกจึงทูลว่า...เห็นทีคราวนี้ ทหารวานรชั้นผู้ใหญ่ ก็มิอาจต้านพญายักษ์ได้ เพราะกุมภกรรณได้เตรียมตัวพร้อม ทั้งจัดสรรอาวุธมาอย่างดี ขอให้พระอนุชาออกไปต่อกำลังจะงามที่สุด เพราะอุปราชสู้กับอุปราช แลดูเป็นการสมเกียรติที่สุด... 

พระรามจึงรับสั่ง...ลักษมณ์น้องพี่ จงออกไปสร้างชื่อ สังหารกุมภกรรณและบริวารยักษ์ของมันให้สิ้นซาก... 

พระลักษณ์น้อมรับ พร้อมถวายสัตย์...น้องจะสู้อย่างไม่เสียดายชีวิต... 

พระรามยินดียิ่งนัก ผินหน้าไปสั่งพิเภกให้เตรียมทัพให้พร้อม เพื่อรับศึกใหญ่ในครั้งนี้

จากนั้นพระลักษมณ์นำทัพเสด็จออกประจันหน้าทัพกุมภกรรณ ครั้งนี้ดูเหมือนจะเป็นศึกใหญ่ที่สุดเท่าที่พระหน้าทองเคยเจอ

แต่กุมภกรรณอดประหลาดใจไม่ได้ว่า เพราะเหตุใดแม่ทัพวานรคราวนี้คือมนุษย์เอวบาง ร่างน้อย หน้าตาผ่องแผ้วดั่งพระจันทร์วันเพ็ญ จึงสั่งให้พลมาร รอก่อน อย่าเพิ่งโจมตี พร้อมเคลื่อนรถทรงเข้าไปใกล้รถของพระลักษมณ์ แล้วเย้ยว่า...

...ว่าไงจ๊ะน้องสาว...อ้อนแอ้นอย่างนี้ จะรบกับพี่ไหวหรอ...

พระลักษมณ์ก็โต้กลับทันที...

...แล้วมึงรู้ไม๊ น้องๆมึง ทูษณ์ ขร ตรีเศียรน่ะ ตายเพราะฝีมือใคร...

กุมภกรรณโกรธจัด เคี้ยวฟันพลางกระชับด้ามหอกแน่น ชี้นิ้วด่า

...มา ไอ้มนุษย์ปากดี ตัวเท่าแมลงวัน ทำมาพูดจาโอ่อวด กูจะเอาเลือดมึงมาเซ่นโมกขศักดิ์ของกู...ทหารจงฆ่าพวกมันให้สิ้นไปจากแผ่นดินลงกา...

บัดนั้น เชิด!!! ..

.


พระลักษมณ์ออกรบกับกุมภกรรณ


.

พระราม


.

พระลักษมณ์


.

พระลักษมณ์หน้าทอง สุดหล่ออออ......


.





« Last Edit: 12 May 2024, 13:41:58 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,535


View Profile
« Reply #10 on: 21 May 2023, 08:49:42 »


21 พฤษภาคม 2022  ·

เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ตอน ศึกกุมภกรรณ (10)

-พระลักษมณ์ต้องหอกโมกขศักดิ์

กองกำลังอสูรซัดหอก ยิงธนูเข้าใส่ฝูงลิงไม่ยั้ง กองทัพวานรมิได้กลัว กระโดดเข้ากัดสลับถีบทหารยักษ์วุ่นวายไปหมด จนผลสุดท้ายทหารยักษ์สู้ไม่ได้ ถอยร่นแตกทัพ ตายเกลื่อนมากมาย

เสนาอสูรทั้งสามตนคือ ตรีพลัม ฤทธิกาสูร และพัทกาวี ทนไม่ได้เมื่อเห็นไพร่พลแตกกระจาย สามทหารใหญ่แห่งลงกาจึงบุกเข้าโจมตีเหล่าวานร ฟันแทงกองทัพลิงอย่างไม่ไว้หน้า จนแตกกระจายไปบ้าง 

พญาลิงอย่างสุรเสน สุรกานต์ และนิลขัน เห็นท่าไม่ดี จึงเข้ารบกับสามเสนายักษ์อย่างดุเดือด ผลสุดท้ายยักษ์เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ เสนายักษ์ทั้งสามนายเสียชีวิตในสนามรบด้วยน้ำมือลิงป่า 

ขณะนี้กองทัพวานรได้ใจ ฮึกเหิมอย่างมาก ที่สามารถรบชนะเหล่าทหารยักษ์ได้ แต่กุมภกรรณโกรธตาแดงเป็นไฟ ไม่อยากเชื่อที่เห็นไพร่พลรบแพ้พวกลิงป่า พญายักษ์จึงไสรถศึกเข้าใกล้รถทรงของพระลักษมณ์

พระลักษมณ์เห็นว่ากุมภกรรณบุกมาจะถึงตัว จึงพาดศร แผลงไปถูกร่างพญายักษ์ จนร่วงตกลงมาจากรถทรง แต่ก็ยังสามารถลุกขึ้นยืนได้ พลางคว้าหัวรถทรงของพระลักษมณ์ อีกมือหนึ่งกวัดแกว่งโมกขศักดิ์อย่างคล่องมือ พระลักษณ์เห็นว่ายักษ์บุกมาประชิดตัว จึงขึ้นเหยียบบ่า ใช้ด้ามศรหวดไปทั่วร่างของกุมภกรรณ

พญายักษ์เจ็บปวดจากแรงฟาดของด้ามศรวิเศษ เข่าทรุดจมอยู่กับพื้น แต่ก็ฝืนใจพนมมือเหนือหัว ร่ายเวท แล้วลูบลงที่ตัว จากนั้นความเจ็บปวดก็หายไปทันที กุมภกรรณได้จังหวะซัดหอกโมกขศักดิ์ไปที่ร่างของพระลักษมณ์จนพระหน้าทอง ตกลงมาจมกองเลือดอยู่กลางสมรภูมิ

สุครีพเห็นว่านายตนสิ้นสติ กองตรงหน้า จึงรีบเข้าประคอง ทั้งหนุมานและองคตช่วยกันโจมตีกุมภกรรณผู้สังหารนายอย่างบ้าระห่ำ แต่เวลานี้พระอาทิตย์จวนจะลับขอบฟ้าแล้ว กุมภกรรณจึงอาศัยความมืด ลอบหนีเข้านครลงกา

ชั่วอึดใจ อุปราชก็มาถึงท้องพระโรง เข้าเฝ้าท่านพี่ทันที

...พี่ท่าน วันนี้เราได้เสียเสนายักษ์ไปสามนาย พร้อมด้วยไพร่พลอีกมากมาย แต่เมื่อครู่นี้น้องได้ซัดหอกโมกขศักดิ์ไปต้องอกเจ้าลักษมณ์ มันถึงกับแน่นิ่งไปเลย บังเอิญมืดพอดีน้องเลยสั่งเลิกทัพ กลับเข้ามาก่อน...เดี๋ยวพรุ่งนี้น้องจะกลับไปบดขยี้พวกมันใหม่...แต่ป่านนี้เจ้ารามน่าจะขาดใจตายตามน้องมันไปซะแล้ว... 

ทศกัณฐ์ดีใจยิ่งนักกับข่าวดีที่ได้รับ ตบทั้งยี่สิบมือ อย่างชอบใจ หัวเราะร่า

...ฮ่า ฮ่า ฮ่า มาน้องพี่ มาให้พี่กอดหน่อย พี่ไม่แปลกใจเลยกับข่าวดีนี้ น้องพี่ผู้เก่งกล้าคู่ควรเป็นผู้สืบทอดบัลลังก์ของสุริย์วงศ์พงศ์ยักษ์เป็นที่สุด เมื่อลงกามีกุมภกรรณ ใครหนอจะมารุกรานได้ เจ้าจะเป็นเสาหลักให้ประชาชนพึ่งพาต่อไป...

กุมภกรรณถวายบังคมกราบที่ตักพี่

...ก็เพราะบารมีของทศกัณฐ์ราชาแห่งอสูร เพียงศัตรูได้ยินชื่อท่านก็อ่อนแรงแล้ว น้องแทบจะไม่ต้องออกแรงอะไรมาก...ตอนนี้น้องขอลาไปพักผ่อน เก็บแรงเพื่อการศึกพรุ่งนี้ต่อไป...

บัดนี้มีแต่ความรื่นรมย์ในลงกา เพราะการศึกกับทัพมนุษย์วานร ดูเหมือนว่าใกล้จะจบลงแล้ว

แต่บรรยากาศบริเวณสนามรบ ช่างแตกต่างจากท้องพระโรงลงกาเหลือเกิน เหล่าวานรต่างเข้าประคองร่างที่แน่นิ่งของพระลักษมณ์ บ้างช่วยกันปลุกองค์ให้ฟื้น บ้างพัดวีให้กายพระลักษมณ์คลายร้อน บ้างพยายามฉุดกระชากโมกขศักดิ์ให้ออกจากร่างนาย แต่ก็ไร้ผล กองทัพวานรบัดนี้จมอยู่ในทะเลน้ำตา

สุครีพไม่รู้จะแก้ไขอย่างไรดี จึงใช้ให้นิลนนท์บุตรพระเพลิง ไปทูลเชิญพระรามมา...

.


พระลักษมณ์ ต้องหอกโมกขศักดิ์ ของกุมภกรรณ


.

พระลักษมณ์ ต้องหอกโมกขศักดิ์ ของกุมภกรรณ


.





« Last Edit: 12 May 2024, 13:43:44 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,535


View Profile
« Reply #11 on: 21 May 2023, 08:50:37 »


21 พฤษภาคม 2022  ·

เล่าเรื่องรามเกียรติ์ (ตอนพิเศษ) พระลักษมณ์

พระหน้าทอง หรือ พระลักษมณ์หน้าทอง

คำนี้ เป็นความนิยมในองค์พระลักษมณ์ ของพวกเซียนพระ ว่าเป็นสุดยอดมหาเสน่ห์ เมตตามหานิยมของวิชา " นะหน้าทอง "

พระหน้าทอง ในเรื่องรามเกียรติ์ ได้มีผู้วิพากษ์วิจารณ์พระองค์ไว้มากมายหลายด้าน หลายแง่มุม ทั้งทางดี-ไม่ดี ทั้งทางบวกและทางลบ ก็จะขอหยิบยกมาเล่า พอเป็นกระสายยา...สังกรณี ตรีชวา ฮาาาา.....

.....

เขาบอกว่า...พระลักษมณ์ เป็นกระสอบทรายประจำเรื่องรามเกียรติ์ เป็นตัวละครที่โดนใช้เปลืองที่สุดเมื่อเทียบกับหนุมานหรือพระราม...

และเป็นตัวละครที่หล่อที่สุด หล่อทั้งหน้าตาและนิสัย (พระหน้าทอง) หล่อแบบเพื่อนพระเอก...ป๊าาววว...ไม่ได้มั่วนะ...ใครๆก็รู้ว่าพระลักษมณ์เป็นน้องชายต่างมารดาของพระราม ไม่ใช่เพื่อนแต่อย่างใด...แต่ที่พูดว่าเป็นเพื่อนพระเอกเนี่ย หมายถึงการกระทำต่างหาก...

เช่น ตอนพระรามยกคันธนู ถ้าใครยกได้ ก็จะได้นางสีดาไปเป็นชายา พระลักษมณ์ยกได้ แต่ก็แสร้งทำเป็นยกไม่ได้ เพื่อให้พระรามได้นางสีดาไปครอง (แหม๊..โคตรหล่อเลยขอรับ) 

อีกทั้ง ตอนที่พระรามสั่งให้พระลักษมณ์ฆ่านางสีดา แต่พระลักษมณ์ไม่ฆ่า ปล่อยให้นางสีดาไป Ohh...ใจหล่อออ...สุดๆ
.....

และที่ว่า พระลักษมณ์เป็นกระสอบทรายประจำเรื่องรามเกียรติ์นั้น เพราะออกรบทีไร

พี่แกนี่โดนอาวุธซัดเข้าใส่ตลอด เหมือนในตัวมีแม่เหล็กติดอาวุธยังไงยังงั้น

ที่สำคัญคือ หอกโมกขศักดิ์ ของกุมภกรรณ ที่กุมภกรรณพุ่งออกไปราวกับนักพุ่งแหลนทีมชาติไทย ก็ดั้น..เข้าไปเสียบกลางอกพระลักษมณ์ เต็มๆ จะดึงก็ดึงไม่ออก ต้องวานให้หนุมานไปเอาสมุนไพรมาทาแผล ถึงจะเอาออก

ยัง ยังไม่พอ...ในศึกอินทรชิต ก็โดนศรพรหมาสตร์ ของอินทรชิต ซ้ำเข้าไปอีกครั้ง ลำบากหนุมานไปหาสมุนไพรมารักษาอีก   

สรุป ในระหว่างศึกสงคราม พระลักษมณ์ได้ออกรบจนถูกอาวุธได้รับบาดเจ็บเกือบสิ้นพระชนม์ถึง 5 ครั้ง จากหอกโมกขศักดิ์ของกุมภกรรณ ศรนาคบาศกับศรพรหมาสตร์ของอินทรชิต หอกแก้ววราวุธของมูลพลัม และหอกกบิลพัทของทศกัณฐ์

แต่ฝีมือก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร พระลักษมณ์ได้สังหารกุมภกาศ อินทรชิต มูลพลัม จิตรไพรี ทศคีรีวัน ทศคีรีธร

นี่แหละชีวิตที่น่าสงสารและเจ็บปวด(จากอาวุธ)ของพระลักษมณ์ น่าสงสารเสียนี่กระไร ปิดทองเสียยิ่งกว่าหลังพระ ซะอีก...

...แกเป็นกระสอบทรายที่สู้ไม่ถอย ไม่ว่าจะโดนรุมตีนขนาดไหนพี่แกก็ไม่เข็ด...

และ...ไหนๆพระลักษมณ์ มาทั้งที กลัวจะไม่มีบทเด่น (ก็เป็นพระรองนี่นะ) ก็เลยใช้งานพระองค์เสียให้คุ้ม แต่ก็เป็นพระลักษมณ์ที่...Luck & Lucky Man...เพราะเป็น "ที่รัก" ที่ชื่นชอบของคนเป็นจำนวนมาก...น่าเอ็นดู๊ น่าเอ็นดู...(ห้ามกลับคำกลับที่นะครับ555)
.....

แต่ในความคิดเห็นตรงกันข้าม ก็บอกว่า...

...พระลักษมณ์ คือ หยำฉ่า ในรามเกียรติ์...

...เป็น "ลักษณ์ the ATM" คือเป็นตัวแจกของทีมพระราม ให้กับทีมยักษ์ของทศกัณฐ์ (ตู้ ATM เคลื่อนที่...เออ นี่ก็ใกล้จะถึงวันเลือกตั้งผู้ว่า กทม.แล้ว...จะมีคืนหมาหอนมั้ยเนี่ย)

...แน่ใจหรือว่าเป็นพระลักษมณ์นิสัยหล่อ ตอนกระทำกับนางสำมนักขาล่ะครับ

โหด เลว เถื่อน ปากก็จัด รังแกได้กระทั่งผู้หญิงไม่มีทางสู้...(ลองอ่านดู)
.

พระลักษณ์ผาดโผนโจนมา      ถีบต้องอสุรายักษี
หันเหเซไปทันที                   ล้มลงเหนือที่สุธาธาร
แล้วโจนขึ้นหยียบอกไว้           แกว่งพระขรรค์ชัยฉายฉาน
จึ่งมีสีหนาทบัญชาการ            ว่าเหวยอีมารอัปรีย์
มึงนี้สาธารณ์ทรลักษณ์           ชั่วช้าอัปลักษณ์บัดสี
เหตุใดมาทำเช่นนี้                ไม่กลัวชีวีจะมรณา
ครั้นว่าจะฆ่าให้มึงตาย            โลกจะยินร้ายไปภายหน้า
กูนี้จะไว้ชีวา                        แต่จะทำให้สาน้ำใจ
ว่าพลางตัดกรรอนบาท           ทั้งจมูกหูขาดเลือดไหล
แล้วไล่ตีซ้ำกระหน่ำไป           จนไกลอรัญญกุฎีฯ

.....

แอบเถียงนิสนึง...
(ถ้าไม่มีสำมนักขา เรื่องทั้งหมดก็คงไม่เกิดขึ้น...จบข่าว...ไม่มีเรื่องรามเกียรติ์...แต่เพราะพระรามปฏิเสธรักของนางสำมนักขา พอนางรู้ว่าพระรามมีนางสีดาแล้ว จึงได้ทำร้ายตบตีนางสีดา พระลักษมณ์ จึงเข้าไปปกป้องและลงโทษไป...)
.....

...ก็ลักษมณ์ไง...ขนาดแม่เลี้ยงอย่างนางไกยเกษี ยังขู่อาฆาตไว้กลางวังเลย ตอนที่สั่งให้พระรามออกป่า นี่แค่ยักษ์จะเหลือหรอ ส่วนตัวคิดว่าไม่ได้ทำร้ายสำมนักขาเพราะนางยักษ์ไปทำร้ายสีดาหรอก แต่เราว่าลักษมัณ นางหวงพี่ชายไง นางยอมให้สีดาคนเดียว คนอื่นนางหวง ฮาาาา........
.....

...สู้กันทีไร พระลักษมณ์ แป้ก!ตลอด แต่แม่งกะไม่เคยตายจริงๆ เดี๋ยวกะฟื้นๆ...
.....

...พระลักษมณ์ในรามายณะก็พอกันครับ เป็นกระสอบทรายด้วย แถมตอนท้ายเรื่องยังถูกเนรเทศจากอโยธยาเพราะขัดคำสั่งพี่ชายอีก จนสุดท้ายก็กระโดดน้ำตาย...
.....


เศียร-พระหน้าทอง-เมตตามหานิยม


.

ผ้ายันต์ นะ หน้าทอง


.

ผ้ายันต์นะ "พระลักษมณ์หน้าทอง" สูตรลงภาพใบหน้า เจ้าชะตา


.





« Last Edit: 12 May 2024, 13:46:16 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,535


View Profile
« Reply #12 on: 12 May 2024, 13:47:04 »


ปรับปรุงภาพใหม่







Logged
Pages: [1] Go Up Print 
« previous next »
 

SMF 2.0.4 | SMF © 2013, Simple Machines | Theme by nesianstyles | Buttons by Andrea
Page created in 0.125 seconds with 20 queries.