Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...
User Info
Welcome, Guest. Please login or register.
01 May 2024, 10:05:14

Login with username, password and session length
Search:     Advanced search
News
ท่านสมาชิกสามารถเปลี่ยนรูปแบบ (Theme) ได้อีกหลายแบบ
เชิญทดลองโดยคลิกที่ลิงค์ข้างล่าง ได้เลยครับ

http://www.smilesiam.net/index.php/topic,3170.msg4713.html
Forum Stats
25,626 Posts in 12,450 Topics by 70 Members
Latest Member: KAN
Home Help Search Calendar Login Register
Smile Siam มาร่วมกันคืน "สยามเมืองยิ้ม" กลับสู่บ้านเรากันนะครับ ...  |  ภาพประทับใจ  |  ผนังเก่าเล่าเรื่อง (Moderator: ผนังเก่าเล่าเรื่อง)  |  [14] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน นางบุษมาลี โดย กลม บางบาน
0 Members and 1 Guest are viewing this topic. « previous next »
Pages: [1] Go Down Print
Author Topic: [14] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน นางบุษมาลี โดย กลม บางบาน  (Read 61 times)
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,479


View Profile
« on: 29 March 2023, 08:32:49 »

[14] เล่าเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับลมเพลมพัด ตอน นางบุษมาลี โดย กลม บางบาน


29 มีนาคม 2022  ·

รามเกียรติ์ ตอน นางบุษมาลี

หนุมาน นี่เป็นต้นแบบให้ชายไทยยุคก่อน ต้องยกให้เป็นไอดอลเลยนะครับ ดูได้จากบรรดาลายสักยันต์ ยันต์ผ้ารูปหนุมาน เพราะนอกจากจะมีกำลังเก่งกล้าแล้วพ่อยอดขมองอิ่มยังโคตรบรมเจ้าชู้ประตูดิน เดี๋ยวลองนับกันเอาเองนะครับ ว่าสาวๆที่หนุมานไปเจ๊าะแจะเรี่ยราดไว้ มีกี่นางกันมั่ง...? (ถ้าไม่ลืมเสียก่อน จะจัดทำเป็นซีรี่ย์ เล่าเรื่อง เมียและลูกๆของหนุมาน...555)
...

จัดการธุระส่วนตัวกันเรียบร้อยแล้ว ก็ออกเดินทางกันต่อ... มาเจอป่าอีกแห่งหนึ่ง มีเมืองอยู่ในป่าด้วย แต่ไม่มีคน... หนุมานเห็นแล้วก็อยากรู้อยากเห็นตามประสาลิง แต่ก็ไม่วายสั่งให้พรรคพวกรออยู่ข้างนอกก่อนเพื่อความปลอดภัย...ว่าแล้วก็ย่องเข้าไปสำรวจด้วยตัวคนเดียว ด้วยความระแวดระวังเต็มที่

...นี่จะเป็นแผนของพวกยักษ์หรือเปล่า? จะมีผีมั๊ย? ซอมบี้ล่ะ? และแล้วหนุมานก็ได้เห็น...นางฟ้านางอัปสรสุดสวยองค์หนึ่ง... หนุมานเห็นปั๊บ.ก็แบบว่ารักเลยอ้ะ แต่จะแสดงออกมากเดี๋ยวจะเสียฟอร์มทหารเอก เลยเข้าไปทำทีสอบถามว่าอะไร ยังไงกันรึ...

นางอัปสรนั้นจึงบอกว่า...ตนชื่อบุษมาลี เป็นอัปสรสวรรค์คอยถวายรับใช้แก่พระอินทร์ เมืองนี้ชื่อเมืองมายัน เจ้าเมืองคือท้าวตาวัน เมื่อครั้งที่ท้าวตาวันเข้าเฝ้าพระอินทร์ เกิดหลงรักนางอัปสรอีกองค์หนึ่ง หลังจากนั้นเมื่อท่านท้าวมาเข้าเฝ้าพระอินทร์ครั้งใด ก็มารบเร้าให้นางบุษมาลีเป็นแม่สื่อแม่ชักให้ทุกครั้งไป ครั้นความทราบถึงพระอินทร์ก็ทรงพิโรธจัด จึงสาปให้ท้าวตาวันตลอดจนชาวเมืองมายันหายไปจนหมดสิ้น รวมทั้งสาปให้นางบุษมาลีต้องลงมาเฝ้าเมืองร้างแห่งนี้แต่เพียงผู้เดียว เป็นเวลาถึงสามหมื่นปี จะกลับขึ้นสู่สวรรค์ได้อีกที เมื่อมีทหารเอกขององค์นารายณ์ที่ชื่อหนุมาน มาอุ้มโยนขึ้นท้องฟ้าเท่านั้น...(โห...นึกว่าจะมีเฉพาะพระอิศวรเท่านั้นที่ชอบสาปแบบระบุรายละเอียดเวิ่นเว้อ พระอินทร์ก็เอากะเค้าด้วย สงสัยกลัวคนอ่านจะไม่สนุก...)

หนุมานได้ยินนางกล่าวเช่นนั้น ก็ตาเยิ้มขึ้นมาทันที เข้าทางตรูซะแล้ว...ก็เผลอพลั้งปากไปว่า...

...พี่เองนี่แหละทหารเอกแห่งองค์นารายณ์ ผู้ที่บัดนี้อวตารมาเป็นพระรามเพื่อปราบยักษ์ทศกัณฐ์แห่งกรุงลงกา...มาม่ะ มาให้พี่อุ้มเจ้าเพื่อส่งเจ้ากลับสู่สวรรค์...พูดเสร็จก็นึกได้ว่าตัวเองแอบชอบเขาอยู่แท้ๆ แทนที่จะได้อยู่ครองคู่กัน ดันไปบอกว่าเป็นคนที่จะช่วยให้กลับสวรรค์ได้ เวรกรรม...คิดแล้วหนุมานก็พลันสลดลง...

ฝ่ายนางบุษมาลีก็อึ้งไป 3.794685 วินาที...

...โถววว์!!! รอมาสามหมื่นปี นึกว่าทหารเอกจะเป็นชายหนุ่มรูปงาม กลายเป็นลิงเผือกท่าทางซนๆ ซะงั้น เอ๊ะ! เดี๋ยวก่อน! หรือไอ้ลิงนี่จะมามั่วนิ่มหลอกเรา...

จึงออกปากถามว่า...หากเป็นหนุมานตัวจริง จะมีเครื่องหมายการค้าอยู่นะจ๊ะ เจ้าลิงน้อยรู้อะป่าวว่ามันคืออะไร...

หนุมานได้ฟังก็นึกขัน ทำไมทุกคนถึงไม่เคยเชื่อข้ากันบ้างเล้ยยย... ว่าแล้วหนุมานชาญสมรก็สำแดงฤทธิ์ เหาะขึ้นไปกลางอากาศ หาวออกมาเป็นดาวเป็นเดือน...เสร็จแล้วก็เหาะกลับลงมาตรงหน้านางบุษมาลี

...นี่ใช่ไหมเครื่องหมายการค้าที่เจ้าอยากเห็น ทีนี้เชื่อข้าหรือยัง...

จากเดิมที่นางบุษมาลีนึกเพียงจะให้เป็นเพื่อนคุยคลายเหงา กลายเป็นว่าตอนนี้ต้องอาศัยหนุมานคลายคำสาป ก็กระอักกระอ่วนใจพอสมควร ด้านหนุมานก็ลำบากใจไม่แพ้กัน รักแรกพบ กลับต้องจากพรากกันรวดเร็วเหลือเกิน...ต่างคนต่างพูดไม่ออก ได้แต่มองตาเท่านั้น...

.




.




« Last Edit: 03 April 2024, 20:25:36 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,479


View Profile
« Reply #1 on: 29 March 2023, 08:33:32 »


29 มีนาคม 2022  ·

รามเกียรติ์ ตอน นางบุษมาลี (ต่อ)

ตอนนี้นางบุษมาลีพร้อมให้หนุมานอุ้มนางพาไปสู่สวรรค์แล้ว...สุดท้ายขอรวบรัดตัดความไปที่บทประพันธ์เลยแล้วกัน เรท ฉ.18+ นะฮะ อึ๋ยย...จึกกะดึ๋ยย...(ฉากนี้ไม่เหมาะสำหรับเด็กและสตรีมีครรภ์...555)

บังเกิดเป็นคลื่นคลั่งฝั่งสมุทร     
กุมภาผุดฝ่าละลอกกลอกกลิ้ง
ฟ้าลั่นครั่นครื้นดังปืนยิง     
พายุยิ่งฮือฮือกระพือพัด

ประเดี๋ยวรดฝนตกลงซู่ซู่     
ท่วมคูขอบวังทั้งจังหวัด
ถ้อยทีภิรมย์โสมนัส     
ตามกำหนัดเสน่หาอาวรณ์....

และแล้วทั้งคู่ก็มีฟามสุขกันดูดดื่ม ปล่อยให้ผองเพื่อนนั่งรอตบยุงอยู่นอกเมือง....

หลังจากทั้งคู่ใช้เวลาท่องไปในสวรรค์บนดินเรียบร้อย ก็ได้เวลาทำตามที่ได้รับปากไว้...ก่อนจากนางบุษมาลีได้บอกว่า หนทางสู่ลงกา ให้ท่านมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ อีกเก้าโยชน์ (หนุมานคงนึกในใจ ตรูรู้แล้ว!! ทุกคนบอกแบบเดียวกันหมดเลย...) แล้วจะเจอแม่น้ำใหญ่ ที่นั้นจะมีนางฟ้าสถิตย์อยู่ ให้ถามทางต่อไปจากนางฟ้าองค์นั้น...แต่ท่านต้องหาทางข้ามไปให้ได้ก่อนนะ แล้วจะเจอเป้าหมายคนต่อไป...

จากนั้น หนุมาน ก็อุ้มนางไว้ในอ้อมแขนด้วยความละมุ่นละม่อม เหาะขึ้นสูงเทียมเมฆ...สายตาประสานกันเหมือนไม่อยากจะจากลา ทั้งคู่ได้แต่ถอนหายใจในโชคชะตาและสัญญาไว้ว่าชาติหน้าจะต้องเกิดมาคู่กันใหม่...ว่าแล้ว หนุมาน ก็โยนนางบุษมาลีออกจากอ้อมกอดขึ้นท้องฟ้า เพื่อส่งนางกลับสู่สวรรค์...นางอัปสรก็พ้นคำสาป โบยบินกลับสวรรค์ทั้งน้ำตา ทิ้งภาพความสุขกับลิงเผือกไว้เบื้องหลัง.....(หนุมานใจร้ายกับน้องบุษอ่ะ...)

เสร็จภารกิจแล้ว....หนุมาน ก็เดินอาดๆๆตัวหอม ไปหาพรรคพวกที่นั่งหาวอยู่ที่นอกเมือง...

ลิงทุกตัวเป็นห่วงหนุมานว่าจะเจอซอมบี้จับกินไปแล้วหรือเปล่า แต่หนุมานบอกว่า นอกจากจะไม่ได้เจอซอมบี้แล้ว ยังเจอนางฟ้าอีกตะหาก...พร้อมกับเล่าฉากอัศจรรย์ให้ผองเพื่อนฟังไปน้ำลายหกไป พร้อมกับคิดว่า...ทำไมตอนแรกตรูปล่อยให้เจ้าลิงเผือกนี่มันเข้าไปฟร่ะ ทำไมตรูไม่เสนอตัวเองหล่ะ เฮ้อ...
ว่าแล้วทัพลิงก็เดินทางผ่านเมือง มายัน ไปจนถึงริมมหานที...ตามคำบอกของนางบุษมาลี และได้พบกับนางฟ้าชื่อสุวรรณมาลี ได้บอกว่าตนเองเป็นข้ารับใช้ในพระอิศวร ทรงสั่งให้นางมาแจ้งแก่เหล่าทหารของพระรามว่า...อีกฟากหนึ่งของแม่น้ำ จะมีฤๅษีตนหนึ่งชื่อ “ชฎิล” เป็นผู้ที่รู้ทางไปกรุงลงกา... เมื่อกล่าวจบก็กลับสวรรค์ไป...

ทีนี้ด้วยความที่มหานทีนี้กว้างมาก น้ำก็ไหลเชี่ยว แม้จะไม่มีปัญหากับวานรตัวเก๋าทั้งสาม แต่กับลูกกระจ๊อกอีกห้าร้อยตัวนี่ มีปัญหาแน่ๆ คิดกันไปคิดกันมา ก็เป็นหนุมานอีกแล้วที่แก้เควสท์ นี้ได้ โดยการเนรมิตร่างกายให้ใหญ่โต กระโดดข้ามมหานทีไป แล้วตวัดหางกลับมาพันโขดหินใหญ่ริมน้ำ กลายเป็นสะพานให้กองทัพวานรได้เดินข้ามไป...

จากอีกฝั่งของมหานที เดินทางมาอีกไม่ไกล ก็ถึงอาศรมของชฎิลฤๅษี ซึ่งทราบล่วงหน้าด้วยญาณ จึงตระเตรียมอาหารและน้ำไว้รอต้อนรับ จากนั้นก็บอกทางว่า...สุดชายภารตวรรษ มีภูเขาที่เรียกว่าเขาเหมติวัน ถัดจากนั้นจะเป็นมหาสมุทรกว้างใหญ่ ข้ามมหาสมุทรนั้นไปก็จะพบกับเมืองลงกา แต่จะข้ามมหาสมุทรนั้นด้วยวิธีการใด ท่านฤๅษีเองก็ไม่ทราบเช่นกัน...

.




หนุมานเกี้ยวนางบุษมาลี (ดูมือซ้ายของหนุมาน)

.




หนุมานเกี้ยวนางบุษมาลี (ดูมือขวาของหนุมาน)

.




หนุมานโยนนางบุษมาลีขึ้นสวรรค์

.





« Last Edit: 03 April 2024, 20:27:15 by ppsan » Logged
ppsan
Administrator
สยามราษฎร์
*****
Offline Offline

Posts: 8,479


View Profile
« Reply #2 on: 07 April 2024, 22:43:15 »


ปรับปรุงภาพใหม่





Logged
Pages: [1] Go Up Print 
« previous next »
 

SMF 2.0.4 | SMF © 2013, Simple Machines | Theme by nesianstyles | Buttons by Andrea
Page created in 0.038 seconds with 17 queries.