| ppsan | 
								|  | «  on: 20  January  2023, 21:52:02  » |  | 
 
 วัดหน้าพระเมรุ จ.พระนครศรีอยุธยา โดย สายหมอกและก้อนเมฆ
 เที่ยววัดในอยุธยา ไปกับ สายหมอกและก้อนเมฆ
 
 วัดหน้าพระเมรุ
 
 15.56 น. วันที่ 4 กันยายน 2563 / วัดหน้าพระเมรุ
 
 วัดหน้าพระเมรุ ตั้งอยู่ที่อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตามตำนานกล่าวไว้ว่า วัดหน้าพระเมรุราชิการาม สร้างขึ้นโดยพระองค์อินทร์ ในปี พ.ศ. 2047 ซึ่งตรงกับรัชกาลของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 แห่งกรุงศรีอยุธยา สันนิษฐานว่าที่มาของชื่อวัดหน้าพระเมรุราชิการาม หรือที่เรียกว่าวัดหน้าพระเมรุนั้น มาจากทำเลที่ตั้งของวัดซึ่งได้สร้างขึ้นตรงที่ถวายพระเพลิงพระบรมศพกษัตริย์ พระอุโบสถของวัดหน้าพระเมรุนั้นมีขนาดใหญ่ถึงเก้าห้อง เป็นสถาปัตยกรรมอยุธยาตอนกลาง ที่มีหน้าบันจำหลักไม้รูปพระนารายณ์ทรงครุฑที่งามวิจิตร ภายในพระอุโบสถแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐาน "พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ" ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะอยุธยา ถือเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องอย่างกษัตราธิราชที่มีความสมบูรณ์ และมีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่มีปรากฎในปัจจุบัน องค์พระเป็นเนื้อสำริดปิดทองขนาดใหญ่ตามคติการสร้างในสมัยอยุธยาตอนต้น แต่สันนิษฐานว่ามีการบูรณะครั้งใหญ่สมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง เนื่องจากพบว่าศิลปะแห่งเครื่องทรงและพระพุทธลักษณะที่คล้ายคลึงกับพระพุทธรูปปูนก่ออิฐภายในพระระเบียงวัดไชยวัฒนาราม อันเป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าปราสาททอง
 
 ในสงครามเมื่อครั้งเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 นั้น ข้าศึกได้ใช้วัดหน้าพระเมรุเป็นที่ตั้งกองบัญชาการรบ จึงทำให้วัดแห่งนี้สามารถรอดพ้นจากการถูกทำลายและอยู่ในสภาพสมบูรณ์ โดยภายในวัดยังมีสิ่งที่ทรงคุณค่าอื่น ๆ อีก ทั้งพระวิหารที่ประดิษฐานพระคันธารราฐ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสมัยทวาราวดี ปางปฐมเทศนา
 
 ข้อมูลจาก หนังสือ 108 เส้นทางออมบุญ ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
 
 
  
 
  
 
  
 
 
 ภายในพระอุโบสถ มีองค์จำลองของพระพุทธรูปทรงเครื่องใหญ่ และพระคันธารราฐ
 
 
  
 
  
 
  
 พระประธานเป็นพระพุทธรูปหล่อด้วยทองสำริด ภายนอกฉาบด้วยปูน ลงรักปิดทอง ทรงเครื่องพระมหากษัตริย์ ปางมารวิชัย
 คือเป็นตอนที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสำเร็จพระอรหันต์ นิ้วจรดลงไปที่พื้น เพื่อให้พระแม่ธรณีเป็นพยานว่า พระองค์ตรัสรู้แล้ว
 
 
  
 พระพุทธรูปองค์นี้มีหน้าตักกว้าง 9 ศอกเศษ สูง 6 เมตรเศษ พระนามว่า "พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ"
 หรือ พระพุทธนิมิตฯ เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องใหญ่ที่สุดและยังเป็นหนึ่งใน Unseen Thailand อีกด้วย
 
 
  
 
  
 
  
 
  
 
 หน้าบันนารายณ์ทรงครุฑยุดนาคประทับราหูแวดล้อมด้วยเหล่าเทวดา (26 องค์)
 คติดังกล่าวเป็นที่นิยมในสมัยโบราณที่ถือว่าพระมหากษัตริย์ทรงเป็นสมมติเทพ
 
  
 
 
  
 
  
 
  
 
 พระคันธารราฐ พระพุทธรูปสมัยทวารวดีขนาดใหญ่อัญเชิญมาจากวัดมหาธาตุ อยุธยา
 เชื่อกันว่าพระพุทธรูปองค์นี้แต่เดิมคงประดิษฐานอยู่ที่จังหวัดนครปฐมมาก่อน
 และได้ย้ายมายังวัดมหาธาตุ อยุธยา ราวรัชกาลสมเด็จพระมหาจักรพรรดิก็เป็นได้
 
  
 
  
 
  
 
 ภาพจิตรกรรมแทบมองไม่เห็น
 
  
 ภาพจิตรกรรมเล่าเรื่องการค้าสำเภาและพุทธชาดกต่าง  ๆ
 
  
 
 วิหารน้อยสร้างขึ้นโดยพระยาชัยวิชิต (เผือก) ในสมัยรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
 ลอกเลียนรูปแบบมาจากพระอุโบสถ แต่ลดขนาดให้เล็กลงกับทั้งเปลี่ยนหน้าบันให้เป็นลายพรรณษาตามความนิยมของศิลปะในช่วงนั้น
 
  
 ถ่ายจากหน้าประตูเข้าไป
 
  
 
 พระพุทธรูปศิลาเขียวประทับนั่งห้อยพระบาทที่ใหญ่และสมบูรณ์ที่สุดในปัจจุบัน ซึ่งมีอยู่ไม่กี่องค์ในเมืองไทยเวลานี้
 ความเก่าแก่นั้นกล่าวได้ว่าเก่าแก่ก่อนสมัยสุโขทัย ไล่เลี่ยกับยุคสมัยของโบโรบูดูร์ หรือบรมพุทโธ บนเกาะชวาในอินโดนีเซียเมื่อกว่า 1,000 ปีมาแล้ว
 นับเป็น 1 ใน 6 พระพุทธรูปที่สร้างจากศิลาที่มีอยู่ในโลก เป็น 1 ใน 5 องค์ที่มีอยู่ในประเทศไทย จึงนับเป็นสิ่งที่มีค่ามาก
 
  
 พระวิหารหลวง
 
  
 พระพุทธลีลา อายุ 800 กว่าปี สมัยลพบุรี
 
  
 
  
 
 
  
 
 เจดีย์ราย 3 องค์ ที่มีรากไทรแผ่เข้าครอบคลุม ที่อยู่ด้านหลังพระอุโบสถของวัดหน้าพระเมรุ
 ได้ปรากฏในภาพวาดกรุงศรีอยุธยาในหนังสือของอ็องรี มูโอ นักสำรวจชาวฝรั่งเศส ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยสมัยรัชกาลที่ 5
 
  
 
  
 
  
 
  
 
 หลวงพ่อขาว พระพุทธรูปปางชนะมารหุ้มด้วยเงินสีขาวบริสุทธิ์
 
  
 
  
 
 ด้านหลังพระอุโบสถ
 
  
 ด้านหน้าพระอุโบสถมีเทวดาแวดล้อม 26 องค์ ด้านหลังพระอุโบสถมีเทวดาแวดล้อม 22 องค์ รวมเทวดา 48 องค์
 
  
 
  
 
 พระปรางค์เหลือแค่นี้
 
  
 
 
  
 
 ..........
 ขอขอบคุณ ภาพและเรื่องจาก
 https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=morkmek&group=3
 เที่ยววัด 1  โดย สายหมอกและก้อนเมฆ
 Create Date : 02 พฤศจิกายน 2563
 Last Update : 2 พฤศจิกายน 2563 19:10:14 น.
 
 
 
 
 |