| ppsan | 
								|  | «  on: 27  October  2021, 00:39:51  » |  | 
 
 “เป่าหัวให้ข้อยหน่อย”ที่สุดจากพระราชหฤทัย..เมื่อเด็กน้อยร้องขอ “เป่าหัวให้ข้อยหน่อย”
 
 
  **หมายเหตุ ภาพทั้งหมดนี้ เป็นภาพประกอบข่าว (ไม่ทราบว่าภาพใดคือเหตุการณ์จริง) ..ขออภัยท่านผู้อ่าน ณ ที่นี้ด้วย **
 
 “เป่าหัวให้ข้อยหน่อย” ที่สุดของน้ำพระทัย...จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ เมื่อเด็กน้อยร้องขอ
 เป็นที่ทราบกันว่า เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ เสด็จพระราชดำเนินไปที่ใด พระองค์ท่านจะพาคณะแพทย์ติดตามไปด้วยเพื่อที่จะไปรักษาพสกนิกร
 
 ของท่านในพื้นที่ห่างไกล
 
 ทั้งนี้ ประชาชนไม่ว่าจะสบายดีหรือเจ็บไข้ได้ป่วยก็ต่างพร้อมใจหอบลูกจูงหลานพากันมารับเสด็จพระองค์ท่านอย่างเนืองแน่นเสมอ
 “เป่าหัวให้ข้อยหน่อย”ที่สุดของน้ำพระทัย...จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ เมื่อเด็กน้อยร้องขอ
 
 เป็นที่ทราบกันว่า เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ เสด็จพระราชดำเนินไปที่ใด พระองค์ท่านจะพาคณะแพทย์ติดตามไปด้วยเพื่อที่จะไปรักษาพสกนิกร
 
 ของท่านในพื้นที่ห่างไกล ทั้งนี้ ประชาชนไม่ว่าจะสบายดีหรือเจ็บไข้ได้ป่วยก็ต่างพร้อมใจหอบลูกจูงหลานพากันมารับเสด็จพระองค์ท่านอย่างเนืองแน่นเสมอ
 
 
  
 วันหนึ่ง…ในหลวง รัชกาลที่ ๙ เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
 
 เด็กผู้ชายคนหนึ่งกำลังป่วยอยู่ แต่ก็มารอเฝ้ารับเสด็จด้วยใจจดใจจ่อด้วยเช่นกัน ครั้นพระองค์พระราชดำเนินผ่านมา เด็กน้อยก็รวบรวมความกล้ากราบบังคมทูลขอ
 
 พระกรุณาอย่างซื่อๆ ว่า“เป่าหัวให้ข้อยหน่อย”
 
 เมื่อในหลวง รัชกาลที่ ๙ ได้ยินที่เด็กน้อยพูด ก็ทรงหยุดลงตรงหน้าเด็กน้อยผู้นั้น โน้มพระวรกายและก้มลงเป่าหัวให้เด็กน้อยอย่างแผ่วเบาด้วยพระเมตตาถึงแม้เด็ก
 
 น้อยผู้นั้นจะทูลขอถึง ๓ ครั้ง พระองค์ท่านก็ทรงพระกรุณาทั้ง ๓ ครั้ง ก่อนที่จะให้แพทย์ที่ตามเสด็จช่วยตรวจดูอาการในภายหลัง
 เรื่องนี้จากสำนักข่าวทีนิวส์
 
 ข่าวโดย : กิตติทีนิวส์ / สำนักพิมพ์ กรีนปัญญาญาณ/ ทีมข่าวปัญญาญาณ
 http://www.tnews.co.th/contents/215604
 
 
  
 พระเจ้าแผ่นดินผู้ทรงบัลลังก์อยู่ในใจคน ด้วยพระองค์ทรงมีพระอัจฉริยภาพแทบทุกด้าน แต่ที่งดงามตราตรึงประทับอยู่ในใจของลูกไทยทั้งผองก็คือ ทรงให้เกียรติ
 
 กับทุกคน
 
 “ความอ่อนน้อมถ่อมตน” คือคุณสมบัติที่เราทุกคนควรดูในหลวงเป็นแบบอย่าง พระองค์ท่านชื่อว่า เป็นพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวสยาม ก็เพราะ
 
 ความเป็นผู้อ่อนน้อมถ่อมตน
 
 ครั้งหนึ่งพ่อหลวงได้เสด็จพระราชดำเนินไปต่างจังหวัด โดยที่ไม่มีอยู่ในหมายกำหนดการ มีประชาชนเรือนแสนเฝ้ารับเสด็จ จู่ๆ ก็มีเด็กตัวกะเปี๊ยกเข้ามานั่งอยู่หน้า
 
 พระบาทบนพรมสีแดง
 
 เมื่อพระองค์ท่านทรงพระดำเนินไปถึง เด็กคนนี้ก็ขยับมานั่งขวางไว้ พนมมือกราบพระองค์ แล้วบอกว่า
 “ขอเดชะ ผมป่วยมานานแล้ว อยากให้พระองค์ทรงเป่ากระหม่อมให้หน่อยครับ”
 ...ไม่มีอยู่ในหมาย ถามกันว่าเด็กคนนี้โผล่มานั่งขวางในหลวงตรงนี้ได้อย่างไร
 
 ขณะที่ในหลวงทรงก้มลงเป่ากระหม่อมให้เด็กคนนั้นตามที่เขาขอ
 พร้อมกับตรัสว่า “ขอให้หายนะลูก”
 เสร็จแล้วชักพระบาทจะดำเนินต่อ
 เจ้าหนูคนนี้บอกว่า “ขออีกสักครั้งเถอะครับ”
 
 พระองค์ก็ทรงก้มลงไปเป่ากระหม่อมให้อีกครั้งตามคำร้องขอ หลังจากนั้นก็ทรงชักพระบาทเตรียมพระดำเนินต่อ เจ้าหนูคนนี้ก็เอ่ยขึ้นอีกว่า
 “ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ขอให้ครบสามครั้งเถิดนะครับ”
 
 พระองค์ทรงแย้มพระสรวล แล้วก็ทรงก้มลงมาเป่าให้อีกเป็นครั้งที่สาม หนูน้อยก้มลงกราบแทบพระบาทด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น
 
 
  
 เหตุการณ์นี้ไม่อยู่ในจดหมายเหตุราชกิจรายวัน แต่ยังอยู่ในใจของเด็กน้อยตลอดมา แม้ว่าเวลาล่วงเลยไป 50-60 ปีแล้ว
 เพราะเมื่อปี 2556 เจ้าหนูคนนั้นบัดนี้มีอายุ 70 กว่าปี ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์บอกว่า
 
 “ผมรักในหลวงมาก ในหลวงให้ไปตายผมก็ไป ในหลวงจะเอาชีวิตผมก็ยอม เพราะอะไร ก็เพราะว่าตอนที่ผมยังเด็ก ในหลวงทรงให้เกียรติผมมาก ผมขอให้เป่า
 
 กระหม่อม พระองค์ก็ทรงเสียเวลากับเด็กเล็กๆอย่างผม นั่นเป็นครั้งเดียวที่ทรงเป่ากระหม่อมผม แต่ทรงเข้าไปอยู่ในใจผมจากวันนั้นจวบจนถึงวันนี้”
 นี่คือคำตอบที่ว่า ทำไมคนไทยทั้งชาติจึงรักพระเจ้าแผ่นดินรัชกาลที่ 9 เหลือเกิน นั่นก็เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าแผ่นดินที่มีบัลลังก์อยู่ในหัวใจคนนั่นเอง
 
 (จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 168 ธันวาคม 2557 โดย พระเจนสมุทร)
 ที่มา : บางส่วนจาก http://www.manager.co.th/Dhamma/viewnews.aspx?NewsID=9570000137440
 
 
  
 
  
 และ ขอบคุณข้อมูลจากหนังสือ เย็นศิระเพราะพระบริบาล (ใกล้เบื้องพระยุคลบาท)
 
 “ใกล้เบื้องพระยุคลบาท” เป็นต้นฉบับคลาสสิคดั้งเดิม ที่เพื่อนนักอ่านเรียกร้องให้นำกลับมาตีพิมพ์อีกครั้งในรูปแบบปกแข็ง โดยสำนักพิมพ์กรีนปัญญาญาณ ซึ่งทาง
 
 สนพ. ได้กล่าวถึงเจตนาในการตีพิมพ์เป็นปกแข็งครั้งนี้ ครั้งนี้ว่า
 
 “อยากให้นักอ่านได้ถือเสมือนของสะสมที่มีมูลค่าทางจิตใจ เก็บรักษาได้นานเพื่อส่งต่อความทรงจำล้ำค่าไปถึงรุ่นลูกหลาน”
 และฉบับปกอ่อน จัดพิมพ์ในชื่อ “เย็นศิระเพราะพระบริบาล” เป็นต้นฉบับที่เนื้อหาบางส่วนได้มีการปรับปรุงเพิ่มเติม เพื่อให้ทันสมัยขึ้น (พศ.2553) เพื่อให้นักอ่าน
 
 ได้อ่านกันอย่างกว้างขวาง ในราคาย่อมเยาว์
 สนใจสั่งซื้อหนังสือทั้งสองเล่ม ติดต่อได้ที่ Line ID : @gppbook
 โทร 0-25254242 ต่อ 201-202
 (Edit จาก ''๓ 'พ่อเจ้า' ผู้ยิ่งใหญ่ ทรงอิทธิพลเหนือยุคสมัย'' เขียนโดยพระเจนสมุทร จากนิตยสารธรรมลีลา ในบทความผู้เขียนกล่าวถึงพ่อเจ้าพระองค์แรกคือ พระ
 
 เจ้าสุทโธทนะ ..พ่อเจ้าพระองค์ที่สองคือ พระบรมศาสดา พระบิดาแห่งพุทธธรรม ..และพ่อเจ้าพระองค์ที่สามคือ พ่อหลวงของแผ่นดินไทย)
 
 
  
 
  
 ข่าวโดย : กิตติทีนิวส์ / สำนักพิมพ์ กรีนปัญญาญาณ/ ทีมข่าวปัญญาญาณ –เรียบเรียงโดย เจนจิรา เจริญชีพ : สำนักข่าวทีนิวส์
 http://www.tnews.co.th/contents/215604
 http://www.tnews.co.th/contents/322963
 
 
 
 
 |